ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องเล่าจากความฝัน by anajulia (YAOI)

    ลำดับตอนที่ #1 : เรื่องเล่าจากความฝัน:ในค่ำคืนเเห่งความฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 17 ส.ค. 54


    “ในค่ำคืนแห่งความฝัน”



    “พี่ชาย....ช่วยซื้อหน่อยเถอะครับ”



          “พี่ชายใจดี พวงสุดท้ายแล้ว ผมจะได้กลับบ้าน ......ช่วย

    หน่อยนะครับ”




    ใครจะว่าผมบ้าผมก็ไม่สนใจหรอก

    เพราะ.....ผมอาจจะบ้าจริงๆก็ได้.......



    ทุกเย็นหลังเลิกงานผมจะขับรถผ่านแยกอสมท.เข้าไปทางถนน

    พระรามเก้า มุ่งหน้ากลับคอนโด ผมผ่านแยกนี้ทุกวันจันทร์ถึงวัน

    เสาร์ เวลาประมาณหกโมงเย็น ก็เห็นหรอกนะว่ามีเด็กๆทั้งชายทั้ง

    หญิงวิ่งขายพวงมาลัยเยอะแยะ  .....แต่ ก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจ

    จากผมได้เลย



    จนวันหนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ครั้งแรกที่ผมอยู่ทำงานล่วงเวลา

    แล้วเวลาที่ต้องมาผ่านแยกเดิมๆนี้ มันเปลี่ยนไป 20.20 น. โดย

    ประมาณ รถผมมาติดไฟแดงเป็นคันที่สอง...แล้ว เด็กผู้ชายคนนั้น

    ก็เข้ามายกมือไหว้อยู่ข้างกระจก......


    ไม่รู้ว่าเพราะหน้าตาขะมุกขะมอม กระดำกระด่าง  หรือเพราะแวว

    ตาขอร้อง ขอความเห็นใจเหมือนเจ้าด่างที่บ้าน หรืออาจจะเป็น

    เพราะตอนนั้น ผมโล่งใจที่สะสางงานด่วนจนเสร็จไปได้ทันเวลา

    กันแน่ผมก็......ลดหน้าต่างกระจกลง


    “พี่ชาย.....ช่วยซื้อหน่อยเถอะครับ”   “พี่ชายใจดี พวงสุดท้ายแล้ว

    ผมจะได้กลับบ้าน ......ช่วยหน่อยนะครับ”



    “เท่าไหร่ล่ะ?”


    “ยี่สิบครับ ขอบคุณนะครับ พี่ชายใจดีจริงๆ”



    ผมหยิบเหรียญสิบสองเหรียญในช่องข้างประตูยื่นส่งไปให้

    แล้วรับพวงมาลัยที่มีมะลิบานๆอยู่แค่สองสามแถวมาจากมือที่

    ขาวสะอาด 


    อืม......มือเล็กๆนั่น ทำไมถึงได้ขาวและสะอาด ผิดกับใบหน้านัก


    ผมเงยหน้ามองใบหน้าของเจ้าของสุ้มเสียงกระตือรือร้นอีกครั้ง

    ก็ยังคงเห็นว่ามีแต่คราบฝุ่น และยังคงดูสกปรกกระดำกระด่าง

    เหมือนเดิม   ที่เพิ่มมาคงเป็นรอยยิ้มขอบคุณกว้างขวาง

    จนทำให้เห็นรอยกดที่สองข้างแก้ม บุ๋มลงไปโดยไม่ต้องสังเกต


    เสียงเครื่องยนต์ของรถรอบๆพร้อมใจกันดังขึ้น

    พร้อมๆกับเจ้าของลักยิ้มสองข้างแก้มหันซ้ายหันขวา

    แล้ววิ่งพรวดพราดเป็นลิงกลับไปยืนหมิ่นเหม่บนเกาะกลางถนน

    ผมออกรถตามคันหน้าไป.....


    กลับถึงคอนโด อาบน้ำ  หยิบอาหารแช่แข็งในช่องแช่แข็งของตู้

    เย็นขนาดกลาง อุ่นอาหารที่ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเป็นอะไรด้วย

    ไมโครเวฟ จัดการเติมกระเพาะที่ว่างจนเต็ม.......


    .......คืนนั้นผมนอนหลับ


    โดยมีมาลัยมะลิบาน ส่งกลิ่นหอมระรวยมาจากโต๊ะเล็กข้างเตียง

    และคงเพราะกลิ่นหอมนั่นเอง  ผมถึงฝัน...ฝันถึงสถานที่แสนพิเศษ

    แอ่งน้ำสีเขียวเข้มที่มีน้ำใสสะอาดและนิ่งสนิทราวแผ่นกระจก

    รอบสระน้ำนั้นเต็มไปด้วยกอไม้ดอกไม้หลากสี  และแน่นอน ข้าง

    แผ่นหินที่ผมกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่  พุ่มดอกมะลิที่กำลังแย้มบาน

    ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง......ไม่ต่างจากร่างเล็กบาง แววตาพราวหวานที่

    ทอดกายอยู่เคียงข้าง


    เนตรน้องสิแวววาม   ผิว์จะหยามยะเย้ยดาว

    ปรางค์นวลละอองพราว   และก็ฉ่ำละอองสินธุ์

    โอษฐ์เอื้อนวจีรื่น      ดนุชื่นจะยลยิน

    หัตถ์น้อยตระกองบดินทร์   มนมอบมิสร่างซา



            ผมคงบ้าไปแล้วจริงๆ เพราะหลังจากนั้น....ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นที่

    ตื่นขึ้นมาถึงจะไม่มีงานเร่งงานด่วน   ถึงจะไม่จำเป็นต้องอยู่เกิน

    เวลางานผมก็ยังหาเรื่องโต๋เต๋เดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ

    ออฟฟิศได้ทุกวันเฝ้าคอยเวลาให้ได้ขับรถไปติดไฟแดงที่แยกนั้น

    ทุกสองทุ่มยี่สิบนาที



    20.20 น.


    ผมกดเลื่อนกระจกลงโดยไม่ต้องรอให้เด็กผู้ชายคนเดิม

    คนที่อยู่ในความฝันทุกค่ำคืนมาร้องเรียก


    “พี่ชาย....วันนี้มาลัยหมดแล้ว แต่ผมรออยู่.......”


    “................”


    “พี่ชาย พรุ่งนี้ผมไม่ต้องไปเรียน พี่ชายให้ผมไปด้วยได้มั้ย?”

    ....................................
    ....................................


    “ในค่ำคืนแห่งความฝัน”


    เนตรน้องสิแวววาม   ผิว์จะหยามยะเย้ยดาว

    ปรางค์นวลละอองพราว   และก็ฉ่ำละอองสินธุ์

    โอษฐ์เอื้อนวจีรื่น      ดนุชื่นจะยลยิน

    หัตถ์น้อยตระกองบดินทร์   มนมอบมิสร่างซา


    โอ้ใจมิอาจรั้ง   รึจะขังก็ยังกล้า

    โบกโบย ณ เวหา   และจะพัก ณ ที่หมาย

    อ้อมอก ธ ปกป้อง   จะประคองมิเว้นวาย

    น้องนี้จะทอดกาย   รติรักนิรันดร   



    “น้ำจัณฑ์จอกนี้ทั้งหอมทั้งหวานล้ำลึกนัก เจ้าหมักเองจริงหรือศวัตรา”


    “เป็นเช่นนั้น ถูกพระทัยขนาดนี้ หากหม่อมฉันจักทวงถามสินรางวัลคงไม่มากไป

    สินะฝ่าบาท”



    จอกทองคำที่หัตถ์น้อยๆนั้นยกขึ้นป้อนให้ถึงโอษฐ์แห่งมาตลีเทพบุตรถูกรั้งกลับ  แล้ว

    วางลงเหนือแง่หินไกลเกินเอื้อมหัตถ์แห่งองค์เทพบุตรอย่างกะทันหัน  กิริยาถือสนิทและ

    แววตาซุกซนทอประกายหวานจากร่างน้อยที่ยังทอดกายแนบชิดไม่ได้ทำให้สารถีเทพ

    แห่งสวรรค์ขัดเคืองเลยแม้แต่น้อย  ทั้งยังเรียกรอยแย้มสรวลให้ปรากฏบนวงพักตร์ที่มัก

    นิ่งสงบและเคร่งขรึมอยู่เป็นนิจได้อีกด้วย




    “สินรางวัลที่เจ้าว่า หากไม่เกินความสามารถที่พี่จักบันดาล ก็จงเอ่ยมาเถิด.....ศวัตรา”


     ร่างน้อยขยับเข้าจนใกล้กับองค์เทพ แนบปรางค์ลงตรงพระอุระเบื้องซ้าย แล้วถึงเอ่ย

    วาจาขอประทานสินรางวัล



    “หม่อม ฉันเป็นเพียงมนุษย์ ไม่อาจมีชีวิตยืนยาวเป็นอมตะเช่นพระองค์ ทั้งน้ำอมฤตก็

    ถูกราหูเทพใช้ไปจนหมดแล้ว อีกไม่นานจากเพลานี้ หม่อมฉันก็จักถึงอายุขัย หากชีวิต

    ต้องสิ้นไป แม้นได้ไปถือกำเนิดใหม่ หม่อมฉันจักขอพรข้อเดียว......ขอให้ได้พบและได้

    รักกับพระองค์ทุกคราวไปได้ หรือไม่”


    กรใหญ่หนาแห่งมาตลีเทพบุตรโอบร่างน้อยในอ้อมอุระให้แนบแน่นเข้าอีก

    ก่อนจะยันกายขึ้นนั่งเหยียดปฤษฎางค์ห้อยพระชงฆ์ข้างหนึ่งลงในขณะที่อีกข้างยังพับ

    ราบบนแท่นหิน



    “ลงไปนั่งตรงหน้าพี่สิ ศวัตรา....”




    เทพสารถีแห่งสวรรค์ประนมกรระลึกถึงพระคุณแห่งองค์สหัสนัยน์ ส่งกระแสจิตขอรับพลัง

    เพื่อประสาทพรจากพระองค์  เมื่อสำเร็จแล้วจึ่งลืมเนตรทั้งสองขึ้น สบเนตรกับมนุษย์น้อย

    ผู้เดียวอันเป็นที่รัก ก่อนยื่นหัตถ์ลากอักขระประสาทพรลงตรงนลาฏที่เงยขึ้นน้อมรับ



             “ไม่ว่าเจ้าจักเกิดหรือตายอีกกี่คราว เราสองจักได้พบและได้รักกันตามที่เจ้าขอทุก

    ครั้งไป”



    แปลกจริง....ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับความฝันเดิมๆทุกคืน

    ตั้งแต่ได้พบกับพี่ชายใจดีในคืนวันนั้น


    บางครั้งในความฝันก็มีแต่ภาพและการกระทำซึ่งไร้เสียง

    ในบางคืน ความฝันนั้นก็สั่นไหว จนแทบจับภาพใดๆไม่ได้

    แต่ทุกครั้ง.....ผมรู้ แม้หน้าตาหรือรูปลักษณ์จะเปลี่ยนไป

    แต่คนที่กอดคือพี่ชายคนนั้น และ....คนที่ถูกกอด คือผมเอง

    ผม.....จะทำยังไงดี  ทุกวันที่ตื่นขึ้นจากฝัน ผมกลัว กลัวว่าจะไม่ได้

    เจอกับพี่เขาอีกกลัว.....กลัวว่าคืนนี้เมื่อหลับตาลง จะไม่ได้พบกับ

    ความฝันแบบเดิมอีก


    .......แล้วพี่เขา จะพบกับความฝันแบบเดียวกับผมบ้างรึเปล่า.......



    20.20 น.


    นั่นไง รถนิสสันสีดำ เลขทะเบียนที่ผมท่องจำจนขึ้นใจ มาตรงเวลา

    เหมือนที่เป็นมาทุกวันตลอดเดือนที่ผ่านมานี้

    วันนี้แหละ ผมจะหาคำตอบให้กับคำถามของผมเสียที



    “พี่ชาย....วันนี้มาลัยหมดแล้ว แต่ผมรออยู่.......”



    “................”



    “พี่ชาย พรุ่งนี้ผมไม่ต้องไปเรียน พี่ชายให้ผมไปด้วยได้มั้ย?”

    ....................................
    ....................................


    พี่เขามองหน้าผมตาโตเหมือนจะไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่ผมเพิ่งพูด

    ออกไปจะเป็นเรื่องจริง


    “พี่ครับ จะหมดเวลาไฟแดงแล้วนะ”


    ผมรู้ตัวว่าสุ้มเสียงของตัวเองคงจะร้อนรนเต็มที



    ///ครึก แกร๊กกกกก///


    “ขึ้นมาสิ.......ศวัตรา”

    ...........................
    ...........................


    จบ



    สวัสดีค่ะ มาพร้อมกับเรื่องใหม่ อิอิ เอามาฝากให้อ่านกันค่ะ สนุกดี เเละเเนวเเปลกใหม่ดี

    เป็นเรื่องสั้นจบในตอนค่ะ เเต่ทุกตอนจะเกี่ยวข้องกันลองอ่านกันดูนะคะ สงสัยอะไรถาม

    ได้เดี๋ยวเราจะไปถามต่อให้ อิอิ ส่วนเรืองเก่าๆเดี๋ยวจะรีบไปตามคนเเต่งให้นะคะ ตอนนี้

    อ่านเรื่องอื่นๆ  เเก้อาการรอกันไปก่อนเน้อ เจอกันตอนหน้าค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×