คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : อยากเป็นคนที่ทำให้เธอรู้สึกดี (100%)
Chapter 1 : อยากเป็นคนที่ทำให้เธอรู้สึกดี
รอยยิ้มที่จริงใจและไร้เดียงสา
แฝงไว้ด้วยความมั่นใจที่มีเต็มเปี่ยม แถมยังเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นมากกว่าตัวเอง
มักจะดึงใคร ๆ ให้มาหลงรัก สำหรับผมนิสัยนั้นของกัปตัน
เป็นสิ่งที่ผมเกลียดที่สุด...
ความรู้สึกลึก ๆ ภายในใจของนักดาบหนุ่มโรโรโนอา โซโล
เพียงแค่เปิดประตูเข้ามาเท่านั้น กลิ่นอาหารรสเด็ดของเซฟซันจิ ลูกเรือคนที่สามของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ทำให้ร่างเล็กน้ำลายไหล ตาเป็นประกาย ลืมเรื่องที่เขาโกรธนักดาบหนุ่มไปซะสนิทแถมยังถลาวิ่งเข้าไปร่วมวงอย่างสนุกสนาน โกยของกินที่อยู่ตรงหน้าเข้าปากอย่างไม่หยุดยั้ง ซ้ำยังแอบหยิบของคนอื่นมากินอย่างหน้าตาเฉย จนนักดาบหนุ่มอดขำไม่ได้
“ให้ตายสิ ลูฟี่...นายนี่มัน.... อย่ามาแย่งของคนอื่นเขากินอย่างนี้สิ”
เสียงบ่นของต้นหนสาวสุดสวยหุ่นเซ็กซี่นามิซึ่งเมื่อก่อนเธอนั้นแสนจะเกลียดพวกโจรสลัดอย่างเข้าไส้ เธอคิดว่าขึ้นชื่อว่าโจรสลัดมันก็เหมือนกันทุกคน แต่แล้วเมื่อมาพบกับลูฟี่เธอรู้สึกว่าหมอนั่นมีบางอย่างที่แตกต่างออกไป ลูฟี่ได้ช่วยเธอให้พ้นจากเงื้อมือของกลุ่มโจรสลัดมนุษย์เงือกอารองและเขาก็ยังได้ช่วยให้หมู่บ้านของเธอรอดพ้นจากการขมขู่ รีดไถ่เงินเพื่อซื้อชีวิตของตัวเอง นามิถือได้ว่าเป็นลูกเรือคนที่สี่ของกลุ่มและเข้ากลุ่มมาอย่างเต็มตัวหลังจากที่ลูฟี่ช่วยเธอได้สำเร็จ เธอผ่านเวลาสองปีแห่งการฝึกฝนเพื่อที่จะสามารถพากัปตันไปทุกแห่งถ้าหมอนั่นปรารถนาอยากจะไป
“น่า....นามิ หมอนั่นก็เป็นแบบนี้ตลอดแหละ...เธอน่าจะชินได้แล้วนะ”
อุซป ราชาแห่งสุ่มยิงหันไปพูดกับนามิอย่างสีหน้าปลง ๆ ทำไงได้ล่ะสำหรับคนที่โดนแย่งอาหารไปกินแบบเป็นประจำอย่างเขา คงจะชินกับเรื่องพวกนี้ไปนานแล้ว อุซป ถือว่าเป็นลูกเรือคนที่สองของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางและที่อุซปมาเรือลำนี้นั่นก็เพราะว่าลูฟี่ชวนขึ้นมาหลังจากช่วยหมู่บ้านของอุซปให้พ้นจากการโจมตีของกลุ่มโจรสลัดแมวดำ
“ลูฟี่ !!!!! ลูฟี่ !!! อย่าน๊า !!!! นั่นเนื้อของฉานนนนนนน !!”
เสียงโวยวาย โอดครวญตามมาติด ๆ โทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์ กวางเรนเดียร์จมูกน้ำเงินเป็นหมอประจำเรือและลูกเรือคนที่ห้า ผู้มีพลังจากผลฮิโตะ ฮิโตะ หรือผลมนุษย์ ทำให้เขาได้กลายเป็นครึ่งคนครึ่งเรนเดียร์ สัตว์ประหลาดในสายตาผู้คน ซ้ำยังโดนขับออกจากฝูง เขาได้ขึ้นเรือลำนี้เนื่องจากลูฟี่ได้ชวนขึ้นมาหลังจากจัดการกับราชาบ้า ๆ นั่นได้สำเร็จ สำหรับช็อปเปอร์....พวกลูฟี่ถือว่าเป็นเพื่อนกลุ่มแรกในชีวิตของเขา แม้ว่าเขาจะเป็นสัตว์ประหลาด ทานุกิหรืออะไรก็ตาม แต่ลูฟี่ก็ยังต้อนรับเขา เชื่อมั่นในตัวเขาจากใจจริง
“คิก คิก เอาของฉันไปกินสิช็อปเปอร์”
“ฮืออ ! ขอบใจนะ โรบิน”
นิโค โรบิน สาวสวยลึกลับนักโบราณคดีประจำเรือและลูกเรือคนที่หก ผู้ที่มีพลังจากผลฮานะ ฮานะ หรือผลดอกไม้ เธอสามารถผลิชิ้นส่วนของร่างกายออกมาได้ตามที่ต้องการ ก่อนที่เธอจะเข้ากลุ่มลูฟี่ เธอได้ทำงานเป็นรองประธานให้กับองกรณ์บาร็อค เวิร์ค ประธานคือหรือคร็อกโคไดอดีตหนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัด และเมื่อลูฟี่จัดการหมอนั่นได้สำเร็จ เธอก็ได้ขอร่วมเดินทางไปกับลูฟี่ จากนั้นก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย จนกระทั่งเธอถูก CP9 ขมขู่พาตัวไปที่เอนิเอส ล็อบบี้เกาะแห่งการพิพากษา พวกลูฟี่ตามไปช่วยชิงตัวมาและช่วยให้เธอรอดพ้นจากการโจมตีสังหารบัสเตอร์คอล โรบินถือเป็นลูกเรือคนแรกที่ขึ้นเรือมาโดยเคยเป็นศัตรูกันมาก่อน
“โคล่านี่แหละซุปเปอร์ที่สุด”
แฟรงกี้ หรือคัตติ แฟลม มนุษย์ไซบอร์กสุดยอดช่างซ่อมเรือและเป็นลูกเรือคนที่เจ็ดพูดพรางยกมือชูขึ้นทำท่าทางที่เขามักชอบทำเป็นประจำโยกไปมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แฟรงกี้ เขาคือหนึ่งในลูกศิษย์ของคุณทอมช่างต่อเรือที่เก่งที่สุดในโลกและรับช่วงถือแบบแปลนอาวุธโบราณมาจากนายกเทศมนตรีของเมืองแห่งน้ำวอเตอร์เซเว่นซึ่งก็คือคุณไอซ์เบิร์กลูกศิษย์อีกคนของคุณทอม แฟรงกี้เลยตกเป็นเป้าหมายจากการถูกจับตัวไปของ CP9 พร้อมกับโรบิน หลังจากนั้นก็เข้าร่วมกับพวกลูฟี่เพื่อช่วยโรบินออกมา เมื่อกลับมาถึงเมืองวอเตอร์เซเว่นอีกครั้ง...เขาก็ได้ต่อเรือลำใหม่ให้กับลูฟี่แทนโกอิ้ง แมรี่ที่เสียไป และเพื่อจะทำให้เรือที่เขาสร้างได้กลายเป็นสุดยอดเรือแห่งความฝันเขาจึงตอบรับคำชวนของลูฟี่และออกทะเลผจญภัยมาตั้งแต่นั้น
“บรูค ขอเพลงหน่อย”
หลังจากที่ตั้งหน้าตั้งตากินและเงียบหายไปสักพัก เสียงหวานของกัปตันได้เอ่ยปากขอให้บรูคนักดนตรีประจำเรือและลูกเรือคนที่แปดเล่นเพลงให้เขาฟัง
“รับทราบครับ ลูฟี่ซัง”
บรูคตอบพรางลุกไปหยิบไวโอลีนขึ้นมาเล่นอย่างครื้นเครง บรรยากาศในห้องอาหารวันนี้ก็ยังสนุกสนานเหมือนดั่งเช่นเคย บรูค เป็นผู้มีพลังของผลยามิ ยามิ หรือผลคืนชีพ เขาเคยเป็นตัวแทนกัปตันของกลุ่มโจรสลัดรุมบ้าท่องทะเลอยู่ในแกรนไลน์แล้ววันหนึ่งเจอศัตรูโจมตีด้วยพิษทำให้ลูกเรือทุกคนตายหมด รวมถึงตัวเขาอีกด้วย กว่าเขาจะกลับเข้าร่างได้อีกครั้ง ร่างเขาก็เหลือแต่โครงกระดูกกับผมทรงอัฟโฟ ครั้งแรกที่ลูฟี่เจอเขาไม่เคยหวาดกลัว และยังชวนเขามาเป็นพักพวก ตั้งแต่นั้นมาถ้าเพื่อลูฟี่แล้วไม่ว่าอะไรเขาก็สามารถทำให้ได้ทุกอย่าง
“ซันจิ ขออีก ขอเนื้ออีก !”
ทั้งที่มือทั้งสองข้างของเขากำลังถือเนื้อพรางกัดกินเข้าไปอยู่แท้ ๆ แต่ทว่าเนื้อบนโต๊ะอาหารนั้นเริ่มจะหมด แต่เขาเองยังไม่อิ่มไม่แปลกเลยที่กัปตันของเราจะขอเพิ่มอีก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแต่เป็นแบบนี้ทุกครั้ง
“พอเลยลูฟี่ ถ้านายอยากกินอีกก็ไปตกปลาเอาเอง ถ้าตกได้เดี๋ยวฉันจะทำให้....”
ชันจิรู้สึกเอือม ๆ ที่ต้องตอบแบบนี้เกือบทุกมื้อ แต่ลึก ๆ แล้วเขาอาจจะภูมิใจมากกว่าเมื่ออาหารของเขาเป็นที่ต้องการของกัปตันมากมายขนาดนี้ นั่นสิ...รู้สึกว่าจะความต้องการจะเพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่า 2 ปีที่แล้วเสียอีก นี่เป็นข้อพิสูจน์อย่างดีเลยว่าฝีมือการทำอาหารของพัฒนา....หึ ! ความพยายามทั้งหมดก็เพื่อกัปตันของเขาไม่เคยเสียเปล่าเลยจริง ๆ
“บู๊ ๆ...ซันจิใจร้าย แต่ช่างเถอะ...เอางั้นก็ได้”
เมื่อเงียบไปสักพัก....โกยอาหารชุดสุดท้ายเข้าปากจนหมด ร่างเล็กยันตัวเองลุกขึ้น สายตาหันไปมองคู่หูนักตกปลาทั้งสองซึ่งพวกเขามักจะไปตกปลาด้วยกันทุกวัน
“อุซป ช็อปเปอร์ เราไปตกปลากันเถอะ”
แค่ได้รับคำชวนของกัปตันอันเป็นที่รัก แล้วลูกเรือคนไหนจะปฏิเสธได้ล่ะ ทั้งสองพยักหน้าน้อมรับคำชวนอย่างเต็มใจ
“โอเค งั้นรอเดี๋ยวนะ ฉันไปเตรียมเหยื่อก่อน นายกับช็อปเปอร์ออกไปรอที่ดาดฟ้าเรือเลย”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วกัปตันกับเรนเดียร์ตัวน้อยวิ่งออกไปจากห้องอาหารอย่างกระตือรือร้น แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำทุกอย่างของกัปตันได้ถูกจับตามองมาตั้งแต่ต้น เมื่อกัปตันที่เขาต้องการจะอยู่ข้าง ๆ อยากจะอยู่ใกล้ ๆ ไม่อยากห่างแม้เพียงเสี้ยวนาทีได้ออกไปแล้ว และเรื่องอะไรที่เขาจะอยู่ที่นี่อีก
“นั่นนายจะไปไหนน่ะ โซโล”
เสียงร้องทักจากนามิทำให้เขาชะงักฝีเท้าลง นักดาบหนุ่มหันหลังไปเหลือบมองต้นหนสาว แล้วเดินออกไปอย่างไม่พูดอะไรสักคำ
“อะไรของหมอนั่น”
“คิก คิก คงอยากจะออกไปอยู่กับลูฟี่ละมั้ง” นักโบราณคดีเอ่ยออกมาอย่างลอย ๆ เหมือนจะรู้แกว
“หืม อยู่กับลูฟี่ ? โรบินจังหมายความว่ายังไง ? ”
เมื่อคำพูดคลุมเครือของโรบินจัง ทำให้เซฟหนุ่มหยุดล้างจานแล้วเงยหน้าตั้งตารอที่จะฟัง อยากอยู่กับลูฟี่งั้นเหรอ ? หรือว่าเจ้าหัวสาหร่ายนั่นจะรู้สึกแบบเดียวกับเขา
“นั่นสินะ จะหมายความว่ายังไงดีล่ะ ? คิก คิก”
คำตอบและรอยยิ้ม เสียงหัวเราะที่มีเลศนัยของเธอทำให้เขารู้สึกว่ามันต้องเป็นอย่างที่เขาคิดไว้แน่ ๆ ...ก็เจ้าบ้านั่นลูฟี่ดันน่ารักขนาดนี้...อ่า..ให้ตายสิ...เขาจะมีคู่แข่งอีกสักกี่คนกันนะ
“งั้นฉันออกไปอาบแดดบ้างดีกว่า”
คำพูดตัดบทของนามิ เธอลุกขึ้นและเดินตรงดิ่งออกไปจากห้องอาหารทันที ผู้ที่เหลือมองตามหลังต้นหนสาวด้วยสีหน้างง ๆ แต่ภายในใจอาจจะคิดแบบเดียวกันอยู่ก็ได้ เหล่าลูกเรือทุกคนย่อมรู้ดีว่าทุกคนที่อยู่บนเรือลำนี้ต่างก็รักกัปตันกันทั้งนั้น ทำได้ทุกอย่างเพื่อกัปตัน...ฝึกอย่างหนักตลอด 2 ปี ก็เพื่อจะเป็นกำลังเสริมให้กับเขา กัปตันที่พยายามจะปกป้องเหล่าลูกเรือ แต่กลับกันเหล่าลูกเรือก็พยายามที่จะปกป้องเขาเช่นกัน ความรักมักจะนำพาความสุขและความเศร้า แค่เพียงมีความคิดซึ่งอยากจะครอบครองก็เหมือนพาตัวเองจมดิ่งลงไปสู่ความทุกข์ กัปตันที่ไม่สนใจเรื่องความรัก มุ่งไปข้างหน้าเดินตามความฝันของตัวเอง บางครั้งอาจคนรอบข้างเจ็บเจียนตายเพราะเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว
อีกด้านหนึ่งบนดาดฟ้าเรือ
“เฮ้ .... อุซป ทำเบ็ดให้ฉันอันนึงสิ ฉันอยากตกปลา”
คำพูดของนักดาบหนุ่มสร้างความตกใจให้กับช็อปเปอร์และอุซปไม่น้อย พวกเขาอ้างปากค้าง มือของทั้งสองที่กำลังช่วยกันเอาเหยื่อใส่เบ็ดต้องหยุดชะงักลงไปอัตโนมัติ ร้อยวันพันปีตั้งแต่รู้จักกับหมอนี่มาไม่เคยเห็นเขาคิดอยากจะตกปลาบนเรือเลยสักครั้ง เกิดอะไรขึ้นกับหมอนี่ ? ตั้งแต่ขึ้นมาจากเกาะเงือกอุซปรู้สึกได้ว่าโซโลมีบางอย่างที่แตกต่างไปจากเดิม สายตาที่เขาเฝ้ามองลูฟี่ก็ดูแปลก ๆ ไป
"อะ เอ๊ะ งั้นก็เอาของฉันไปตกก่อนเลย"
"อ่า ขอบใจ"
สิ้นคำโซโลเดินไปรับเบ็ดตกปลาจากอุซปและเดินไปนั่งตกปลาข้าง ๆ ลูฟี่ที่นั่งตกรออยู่ก่อนแล้ว
"นี่ ๆ ช็อปเปอร์ เดี๋ยวนี้โซโลแปลก ๆ นะว่าไหม"
"ใช่ ๆ ฉันก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน"
เสียงซุบซิบจากสองหนุ่มดันไปกระทบกับหูของ..
โป๊ก !
"โอ๊ย นามิเธอเขกหัวฉันทำไมเนี่ย !"
"ฉันเจ็บนะ” ช็อปเปอร์เอ่ยเสริม
"แล้วพวกนายมาซุบซิบอะไรกันตรงนี้ย่ะ ขวางทางฉันรู้ไหม..เอ๊ะ ! นั่น...."
คำพูดที่คั่งค้างบวกกับสีหน้าตกใจของนามิทำให้สองหนุ่มหันหลังกลับไปมองตามสายตาของเธอ
"ไอ้บรรยากาศหวานแหววตรงนั้น เอ่อ... มันคืออะไร"
อุซปเอ่ยอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ภาพตรงหน้าทำให้ทั้งสามถึงกับอึ้ง....เมื่อเห็นลูฟี่เผลอหลับนั่งเอนตัวเอนหัวไปมา..ความจริงมันเป็นเรื่องปกติของกัปตันละนะ..แต่มันไม่ใช่แค่นั้นนี่สิ...เมื่อโซโลเริ่มฉวยโอกาสขยับตัวเองเข้าไปใกล้จนร่างกายของทั้งสองแนบชิด...มือก็ค่อย ๆ เอื้อมโน้มหัวลูฟี่เข้ามาซบลงตรงไหล่ และไอ้ที่น่าแปลกนั่นก็คือใบหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ขึ้นสีเล็กน้อย แผ่รังสีมีความสุขจนครอบคลุมไปทั่ว
"นามิซังงงงงงง ผมเอาเครื่องดื่มมาให้ครั-" เซฟหนุ่มยังไม่ทันพูดจบก็ต้องอึ้งกับภาพตรงหน้านั่นไปอีกคน
"หน๊อยย! ไอ้หัวสาหร่ายนั่น"
ซันจิวางเครื่องดื่มลง กำหมัดแน่นสาวเท้าเดินตรงไปที่.......
"เฮ้..ซันจิ นายจะไปไหนน่ะ ?"
ไปไหนเหรอ ? หึ...
"ก็จะไปจัดการกับไอ้หัวส่าหร่ายน่ะสิ...อุซป"
"เดี๋ยว ๆ ซันจิ แล้วทำไมนายต้องโกรธด้วยเหล่า"
ทำไมต้องโกรธ ?
"นายก็เห็นไม่ใช่หรือไงอุซป ว่าไอ้เจ้าบ้านั่นมองลูฟี่ด้วยสายตาแบบไหน"
อุซปหันไปมองสองลูฟี่และโซโลอีกครั้ง สายตาแบบไหน ? ... ในความคิดเขา..
"ก็สายตาปกติดีนี่ ? "
"ปกติเหรอ ? ไอ้เจ้าบ้า สายตาหมอนั่นมันหื่นชัด ๆ"
พูดจบคราวนี้ซันจิไม่รอให้อุซปตั้งคำถามใส่เขาอีก เดินจ้ำอ้าวเข้าหาสองคนนั่นทันที
ผลัก !
"เฮ้ย ! นายจะทำอะไรน่ะ ไอ้เจ้ากุ๊กงี่เง่า"
นักดาบหนุ่มสะดุ้งเฮือก เมื่อแรงผลักของซันจิทำให้ลูฟี่กับเขาแยกออกจากกัน ซันจิดึงตัวลูฟี่มองอยู่ในอ้อมกอดพร้อมกับช้อนตัวลูฟี่อุ้มขึ้นแบบท่าเจ้าหญิง แต่ลูฟี่ไม่มีท่าทีว่าจะตื่น บางทีอาจจะเป็นเพราะเหนื่อยสะสมจากหลาย ๆ อย่าง
"ถามโง่ ๆ น่า ไอ้หัวสาหร่าย ฉันจะพาลูฟี่ไปนอนที่ห้อง นอนตรงนี้เกิดป่วยขึ้นมาจะทำยังไงล่ะห๊า..!"
"แกนั่นแหละที่โง่ไอ้กุ๊กห่วย หมอนี่มันไม่ป่วยง่าย ๆ หรอกน่า เอาตัวลูฟี่มานี่" โซโลกล่าวพรางดึงตัวลูฟี่กลับไป
"เอามือสกปรกออกไปจากตัวลูฟี่นะ ไอ้หัวเขียว"
"ว่าไงนะ ! แกนั่นแหละที่ต้องเอามือออกไป ไอ้คิ้วม้วน"
ศึกปะทะคารมดูท่าจะไม่จบง่าย ๆ เถียงกันไปมาโดยไม่แคร์สิ่งรอบข้าง พวกเขาสองคนไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าลูกเรือทุกคนกำลังจ้องมองพฤติกรรมของพวกเขาอยู่
"ให้ตายสิ เจ้าพวกนั้น...เฮ้อ !" นามิ
"คิก คิก ดูท่าทางโซโลจะโกรธใหญ่เลยนะ" โรบิน
"โยโฮโฮ่โฮ ซันจิซังก็พอกันแหละครับ" บรูค
"ขนาดพวกนั้นทะเลาะกันเสียงดังขนาดนี้ลูฟี่ ก็ยังไม่ตื่นอีกน๊า" ช็อปเปอร์
"ก็คงจะเหนื่อยมามากนั่นแหละ" อุซป
"แล้วจะเอายังไงดีล่ะ ซูปเปอร์" แฟรงกี้
“หึหึ...ฉันคิดออกแล้วล่ะ”
นามิเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเผยความมั่นใจ
“เอ๋...ยังไงล่ะ นามิ” ช็อปเปอร์เอ่ยถาม
“ก็ให้สองคนนั้นเป่ายิ้งฉุบกันยังไงล่ะ”
เหล่าลูกเรือพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิด นามิไม่รอช้าเดินตรงไปหาซันจิ โซโล ทันที ความรักที่พวกเขามีให้กัปตันล้วนมีอยู่กันทุกคน แต่ก็แบ่งออกไปสองประเภทนั่นคือรักแบบเพื่อนและรักแบบคนรัก ดูท่าโซโลและซันจิ จะเป็นแบบหลังเสียมากกว่า ส่วนตัวเธอเองคงจะรักแบบเพื่อนละมั้งนะ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ พวกนายสองคน”
เสียงของนามิทำให้พวกเขาสองคนหันไปมามอง
“ทำไมพวกนายสองคนถึงไม่ลองเป่ายิ้งฉุบกันดูล่ะ ใครชนะก็ได้เป็นฝ่ายพาตัวลูฟี่ไปนอน มั่วทะเลาะกันแบบนี้แล้วเมื่อไหร่มันจะจบล่ะ ฉันไม่อยากจะยืนดูพวกนายทะเลาะกันหรอกนะ”
นามิเอ่ยออกมาอย่างหน่ายใจ จริง ๆ เลยเพราะพวกนี้ทำให้หมดอารมณ์ที่จะนอนอาบแดด ต้องมาคิดวิธีให้พวกนี้เลิกกัดกันอีก
“เป่ายิ้งฉุบเหรอ” โซโล
“เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมมากเลย นามิซัง” ซันจิ
“เอาล่ะ เริ่มเลยนะ ฝ่ายที่แพ้ไม่มีสิทธิ์โวยวายอะไรทั้งนั้น” นามิ
“เป่า” ซันจิ
“ยิ้ง” นามิ
“ฉุบ” โซโล
กรรไกร...โซโล
กระดาษ...ซันจิ
“สรุป...โซโลชนะ ตามที่ตกลงกันไว้”
นามิเอ่ยทิ้งก่อนที่จะเดินออกไปพร้อมกับลูกเรือคนอื่น ๆ ในเมื่อเลิกทะเลาะกันแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องห่วง ส่วนตัวกัปตันก็ให้โซโลดูแลไปก็แล้วกัน
“โธ่เว้ย ! ครั้งหน้าฉันไม่แพ้นายอีกแน่ ไอ้เจ้าบ้าหัวเขียว”
ในเมื่อรับผลที่ออกมาไม่ได้ เซฟหนุ่มสบถออกมาอย่างหัวเสีย ไม่เพียงที่เขาแพ้โซโลเท่านั้น ยังเสียตัวลูฟี่ให้ไอ้เจ้านั่นพาไปนอนอีก จะฉวยโอกาสทำอะไรบ้างก็ไม่รู้
“ไอ้ขี้แพ้...ส่งตัวลูฟี่มาซะดี ๆ”
“ฮึ่ย ! รู้แล้วล่ะน่า”
เซฟหนุ่มผละตัวกัปตันออกจากอ้อมกอด นักดาบหนุ่มไม่รอช้าช้อนตัวกัปตันมาไว้ในอ้อมแขนของตัวเองทันที ในความคิดเขาอยากพาตัวกัปตันไปอาบน้ำให้รู้แล้วรู้รอด ไม่อยากให้กลิ่นอายของชายอื่นติดตัวกัปตันแม้แต่น้อย แต่มันติดตรงที่ว่าทำไม่ได้นี่สิ คราวนี้จะพาตัวกัปตันไปนอนที่ไหน ในห้องรวมคงไม่ค่อยสะดวก ทำอะไรค่อยได้...อืม....หอสังเกตการณ์แล้วกันถ้าไม่มีใครขึ้นมาก็คงไม่เห็นอะไร....เขาจะได้ใช้เวลาอยู่กับลูฟี่สองต่อสองจนกว่าจะถึงเวลาอาหารเย็น.....ชั่งเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากจริง ๆ
................................................................
ตอบคอมเม้น
- ณัฐปัณชญา ชมภูทอง
ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านดีใจมาก ๆ เลย
- ` (sawada.tsunayoshi) -?
ดีใจจังที่เจอคนชอบคู่นี้เหมือนกัน จะพยายามทำให้ดีที่สุดนะคะขอบจริง ๆ ที่เข้ามาอ่านค่ะ
ความคิดเห็น