ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Attack on titan เฮฮาไททัน ป่วนหน่วยสำรวจ (เอลวิน x oc)

    ลำดับตอนที่ #17 : โกรธ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.08K
      125
      27 มี.ค. 62


        

          เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งเดือนหลังพิธีการเลือกสังกัดกองทัพ หนึ่งเดือนที่ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ผ่านไปเพียงแค่ไปแค่ไม่นาน แต่มันอาจจะเป็นเวลาที่ยาวนานของใครบางคน เอเลนไปอยู่กับหน่วยสำรวจหลังจากไปขึ้นศาลทหาร 

           พวกเอเลนสามารถเข้ากับหน่วยสำรวจได้เป็นอย่างดี เพราะรู้จักกับเอลวินอยู่แล้วถึงแม้ในเวลางานจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวอะไรแต่หลังเลิกงานก็เอลวินมักจะมาเล่นหมากรุกกับอาร์มิน เข้ามาพูดคุยกับเอเลนมิคาสะอยู่บ่อยๆ

          ไททันสองตัวที่จับมาได้ถูกฆ่าโดยแอนนี่ตามคาด จากนั้นเจสซิก้าจึงรีบเอาอุปกรณ์สามมิติที่เก็บมาได้มาให้แก่แอนนี่เพื่อเป็นเครื่องยืนยันความบริสุทธ์ และนั้นก็ทำให้เกิดความเชื่อใจมากขึ้นจากพวกไรเนอร์ว่าเจสซิก้าอยู่ฝ่ายเดียวกับตนเอง ถึงแม้ว่าเจสซิก้าจะเข้ากองรักษาการณ์ที่ไม่มีประโยชน์อะไรต่อแผนของพวกไรเนอร์ก็ตาม 

         ทหารรุ่น104 ต่างพากันแยกย้ายไปสังกัดกองทัพอื่นๆ ไรเนอร์เบลทรูทเข้ากองสำรวจเพื่อจับตาดูเอเลน มาร์โคเลือกกองสารวัตรทหารเพื่อรับใช้ราชาตามความฝันถึงแม้เจสซิก้าจะพยายามโน้มน้าวมากแค่ไหนก็ตาม แจนตัดสินเลือกหน่วยสำรวจแทนที่จะเลือกกองสารวัตรทหารเพราะไม่อยากเห็นเพื่อนร่วมรุ่นตายไปมากกว่านี่


         เจสซิก้านั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับโลกภายนอกให้เคนนี่ที่ฟรีด้าเคยให้เอาไว้ให้ฟังตรงแม่น้ำที่มีตรอกซอยเคนนี่นั่งฟังอย่างตั้งใจ ผิดกับเคนนี่ที่เจสซิก้ารู้จัก ที่มักจะเข้ามาพูดจากวนประสาท และไม่แตะต้องหนังสือเลยด้วยซ้ำ เมื่ออ่านจนมาถึงตัวอักษรสุดท้ายเคนนี่ก็หยิกวิกกี้ขึ้นมาดื่ม
         "นายดูแปลกๆนะเคนนี่"
         เจสซิก้าถามพลางหยิบหนังสือเล่มใหม่ขึ้นมาอ่านดู
         "เป็นห่วงฉันด้วยรึยัยหนูเจสซิก้า"
         เคนนี่เรียกยัยหนูเพราะร่างกายเจสซิก้าเด็กลง เป็นการเรียกในเชิงล้อเลียนเจสซิก้าไม่สนคำนำหน้าเพราะมีเรื่องอื่นน่าสนมากกว่า
         "คนที่เอาแต่เดินเตร่ไปเตร่มาคิดจะมาอ่านหนังสือมันคือเรื่องที่ไม่ปกติสำหรับขี้เมาอย่างนาย"

         เคนนี่ที่ได้ยินแบบนั้นวางวิกกี้ลงก่อนจะยิ้มออกมาเหมือนสมเพชตัวเอง เจสซิก้าเอียงคอมองคนยิ้มอย่างสงสัย
         "ก่อนที่ยัยหนูฟรีด้านั้นจะตายเธอได้ให้หีบใบหนึ่งพร้อมกับเงินทองจำนวนหนึ่งบอกว่าเป็นค่าตอบแทน ในหีบใบนั้นมีแต่หนังสือที่เขียนด้วยภาษาที่ฉันอ่านไม่ออกพร้อมกับคำสั่งที่ว่าให้พาครอบครัวของเธอออกไปจากโบสในวันที่สวดมนต์ภาวนา "
         
         ".............."
         "ตอนแรกฉันก็แปลกใจว่าให้มาเพื่ออะไรจนกระทั้งฉันกลับไปถึงที่นั้นที่ห้องใต้ดินนั้น ฉันถึงได้เข้าใจทุกอย่างได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องถามใครให้มาก"
         "ฉันเคยบอกฟรีด้าแล้วแต่ฟรีด้าเป็นคนยืนยันเอง เธอเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวของฉันที่มีที่นี่"
         เมื่อพูดจบไม่มีใครพูดอะไรออกมาราวกับต้องการไว้อาลัยให้แก่ฟรีด้าที่ยอมสละชีวิตของตนเอง เพราะการที่จู่ๆตนเองจะมาประกาศว่าจะเปลี่ยนแปลงกำแพงนี่มันเป็นไปไม่ได้ ถึงฟรีด้าจะมีพลังแต่คนที่ประชาชนเชื่อใจคือราชาตัวปลอมที่นั่งอยู่บังลังค์ปลอม ประชาชนคือสิ่งสำคัญสำหรับฟรีด้าและเธอไม่อยากจะทำร้ายประชาชนจึงเลือกเส้นทางนี่ เจสซิก้าไม่คิดอะไรมากเพียงแค่เสียดายฟรีด้าที่เป็นเพื่อนของเธอทีต้องเสียสละตัวเอง
         เคนนี่ดึงปีกหมวกปิดใบหน้าตัวเองเพื่อซ่อนอารมณ์ที่หลากหลายให้พ้นจากสายตาเจสซิก้า

         "นายบอกว่านายเบื่อสินะ"
         "ใช่?"
         "งั้นอีกสามวันหลังจากนี่วันที่หน่วยสำรวจจะออกเดินทางไปยังเขตชิกันชิน่า นายก็มาเป็นผู้ช่วยฉันหน่อยก็แล้วกัน"
         "หา?"

         เพราะกำแพงวอลมาเรียไม่ได้ถูกบุกรุกเข้ามาหน่วยสำรวจจึงสามารถเดินทางไปยังเขตชิกันชิน่าได้เลยเพียงแค่เขตชิกันชิน่านั้นมีไททันอยู่และวอลมาเรียก็เป็นกำแพงที่ใหญ่ที่สุดการเดินทางด้วยม้าจึงต้องใช้เวลาประมาณสองวันถึงจะไปถึงยังจุดหมาย และทางหน่วยสำรวจเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาอะไรมาอุดรูที่กำแพงเพราะไม่ได้มีก้อนหินเหมือนอย่างเหตุการณ์ครั้งที่แล้ว เป้าหมายของภารกิจนี่ห้องใต้ดินที่บ้านของเอเลน สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือการหาวิธีอุดกำแพง
         "ไม่น่าเชื่อเลยว่าฉันต้องมาตามหน่วยสำรวจกำลังออกไปทำภารกิจเกิดเป็นห่วงสามีขึ้นมารึไง"
         "เปล่าหรอก ฉันแค่อยากทุกอย่างมันเป็นไปได้ด้วยดี อย่างน้อยๆหน่วยของรีไวล์ต้องไม่ตาย"
         ถึงจะไม่รู้จักกับหน่วยของรีไวล์แต่เพื่อจำนวนกองกำลังของทหารหน่วยสำรวจนี่คือสิ่งที่ฉันสามารถช่วยนายแล้วนะเอลวิน พิสูจน์ให้คนในกำแพงเห็นสิว่าหน่วยสำรวจคือความหวังของมนุษย์และการตายของฟรีด้าไม่ได้เสียเปล่า
         
         "แล้วจะเอาฉันมาทำซากอะไร ฉันฆ่าแต่มนุษย์นะเว้ยไม่ใช่ไททัน"
         "ฉันรู้ว่านายทำได้เคนนี่ ฉันแค่พานายออกมาเดินเล่นเฝ้าม้าหลังจากนั้นก็กลับไปไม่มีอะไรมากสักหน่อย"
         "นี่นอกจากฉันได้กลายเป็นพ่อคน ยังเป็นคนเลี้ยงม้าไปด้วยเหรอเนี่ยฉันควรขำมั้ย ฮ่าๆๆ"
         
         เจสซิก้าเมินคำประชดของเคนนี่ทันทีที่ประตูของเขตคาราเนสเปิดออกเสียงคำสั่ง เดินหน้าเต็มตัว ดังลั้นชวนให้หวั่นใจเจสซิก้าหยิบฮู้ดที่มีหน้ากากปิดปากมาคลุมพร้อมกับส่งผ้าคลุมของหน่วยสำรวจให้เคนนี่ ที่จริงผู้ช่วยของเธอคือเจคแต่เมื่อเห็นว่าเคนนี่กำลังเบื่อๆ เลยลากมาด้วยซะเลยส่วนเจคจะตามมาทีหลังเพราะอยากจะให้แน่ใจว่าเจสซิก้าจะกลับมาอย่างปลอดภัยโดยที่ความไม่แตก
         เสียงฝีเท้าของม้าชั้นดีดังไปเรื่อยๆพลุสัญญาสีเขียวถูกยิงขึ้นมาเพื่อบอกเส้นทางเจสซิก้ามองพลุที่ถูกยิงการเดินทางเป็นไปอย่างราบลื่นไม่เหมือนในเนื้อเรื่องอีกแล้ว แต่ไม่นานนักเคนนี่ที่หาววอออกมาด้วยความง่วงก็สังเกตเห็นพลุสีดำที่หมายถึงไททันวิปริต
         "เฮ้ยๆ นี่ในกำแพงวอลมาเรียเลยนะเว้ยจะมีไททันเข้ามาเต้นระบำได้ยังไง"
         "นั้นไม่ใช่ไททันวิปริตเคนนี่ เป็นไททันที่เหมือนเอเลน"
         แอนนี่เริ่มแผนการแล้ว เธอคิดจะสู้กับหน่วยสำรวจทั้งๆที่ไม่มีไททันอยู่ในกำแพงรึไง เธอพลาดแล้วแอนนี่พลาดมากด้วย
       
         "หา! แสดงว่าเธอรู้อยู่แล้วใช่มั้ยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี่"
         "นายใส่ใจกับโลกใบนี่ด้วยเหรอเคนนี่ วันนี่นายแค่ออกมาเดินเล่นและเฝ้าม้าของฉันระหว่างที่ฉันไปจัดการธุระของตัวเองนะ"
         เคนนี่เงียบปากลงทันทีแต่ตาก็มองพลุสัญญาญที่ถูกยิงขึ้นเป็นระยะๆ 

         "เป็นห่วงรีไวล์รึไง"
         "ใครบอก"
         "ก็เห็นมองอยู่ได้ ตอนนี่หน่วยของรีไวล์อยู่ทัพหลังตรงกลางจะไปหาก็ไม่ว่านะ"
         เจสซิก้าพูดหยอกเคนนี่ เคนนี่หันหน้าหนีก่อนจะเร่งความเร็วของม้านำหน้าเจสซิก้า
        
          จะว่าไปแอนนี่หนีไปได้เพราะมีไททันอยู่นี่น่าและถ้าอย่างนั้นแอนนี่จะหนียังไงละเวลาที่ถูกเอลวินจับ
         คำพูดของเจคที่บอกเอาไว้เมื่อเจสซิก้าคิดจะเข้าไปยืนมือไปช่วยหน่วยรีไวล์ และเจคก็นึกได้ว่าในกำแพงวอลมาเรียตอนนี่ไม่มีไททันสักหน่อยเพราะฉะนั้นแอนนี่ก็คงถูกจับได้ขึ้นมาจริงๆ
         "เฮ้ยยัยหนูเจสซิก้าดูนั้น!!"
         ร่างไททันเดินเข้ามาหาอย่างอุจอาจเจสซิก้ามองอย่างไม่เข้าใจ  
         ได้ยังไงกันที่นี่มันกำแพงวอลมาเรียนะ ไรเนอร์กับเบลทรูทก็ยังอยู่ที่นี่แอนนี่ก็กำลังวิ่งหาเอเลนอยู่แล้ว ทำไมถึงมีไททันอยู่ในกำแพงได้ใครกันละที่จะสามารถทำเรื่องแบบนี่ได้ เว้นแต่เสียว่ามันจะมาจากทางข้างหน้า
         เขตชิกันชิน่า
         เขตที่อยู่ใกล้กับท่าเรือของมาเลย์มากที่สุด
         มีนักรบขึ้นมาบนเกาะนี่ และบางทีเหตุการณ์ครั้งนี่อาจจะเหมือนกับเหตุการณหมู่บ้านของโคนี่

         ซีค เยเกอร์!!!

         ตึง!!
         ร่างของไททันที่ถูกเคนนี่ฆ่าไปล้มลงก่อนจะระเหยเป็นไอน้ำ เจสซิก้ามองผลงานของเคนนี่
         "ไม่เลวนี่น่าเคนนี่ ไปอยู่หน่วยสำรวจได้สบายๆเลยนะ" เจสซิก้าพูดยิ้มไปแต่สายตาไม่ได้ยิ้มตามเลย
         "อย่ามาเล่นลิ้นเจสซิก้านี่มันหมายความว่ายังไงกัน?"
         "......ฉันไม่รู้ ดูเหมือนว่าเราจะมีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาอยู่ทริปเดินเล่นละนะ เคนนี่เชิญนายสนุกได้ตามอัธยาศัยเลยนะไม่ต้องเกรงใจอะไรทั้งนั้น"
         "หึ ปากบอกไม่รู้แต่หน้าของเธอมันใช้ได้เลยวะ"
         เจสซิก้าแสยะยิ้มเธอยอมรับว่าหน้าของเธอตอนนี่มันคงดูโรคจิตไม่ก็ดูน่ากลัวมากแน่ๆ มันก็น่าตื่นเต้นอยู่หรอกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี่แต่ที่เธอหงุดหงิดคือบ่อเงินบ่อทองของฉันอยู่ในกำแพงวอลมาเรียนะเว้ย ไอสี่ตาซีค!!เองทำอะไรของเอง!
         จบงานนี่เมื่อไรขอไปเตะหน้ามันทีหนึ่งเหอะ!!

         "เคนนี่เร่งความเร็วไปที่ป่าต้นไม้ยักษ์ซะไม่ต้องตามหน่วยสำรวจแล้ว"
         ".....ฉันรอดูเรื่องสนุกๆอยู่นะ ถ้าไม่สนุกเธอต้องเอาเหล้าชั้นดีมาให้ฉันด้วย"
         "ฉันขอยืนยันเลยว่าสนุกกว่าที่นายคิดอย่างแน่นอน"

         เจสซิก้าเร่งความเร็วของม้าไปที่ป่าต้นไม้ยักษ์ที่เป็นสถานที่โด่งดัง ทันทีที่มาถึงเจสซิก้าก็ฝากม้าไว้ที่เคนนี่ไปซ่อนตัวก่อนจะใช้แรงขาของตัวเองกระโดดไปตามต้นไม้เพื่อไปตามดูแผนการของเอลวิน

         เครืองมือการจับไททันกำลังถูกติดตั้งอย่างเร่งรีบเอลวินยืนรอสัญญาจากรีไวล์ที่ทำหน้าที่เป็นเหยื่อล่อแน่นอนว่าเจสซิก้าจะไม่พลาดเหมือนตอนที่ได้ช่วยเอลวิน เจคบอกว่าเป็นเพราะกลิ่นตัวของเธอที่มีเอกลักษณ์เลยทำให้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเจสซิก้าได้จัดการฉีดน้ำหอมโคโลนของผู้ชายที่เป็นกลิ่นธรรมชาติบางทีก็นึกอยากเลิกบุหรี่เพราะจมูกสุนัขของมิเกะก่อนจะสังเกตเห็นว่าเจ้ากระต่ายยักษ์ก็ช่วยขนถังไม้ที่มีปืนฉมวกอยู่ข้างในขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็ว ถังไม้ถูกขนขึ้นไปไว้ทีละอันๆ

         เจสซิก้านั่งยิ้มมองแบล็กที่ตั้งใจทำงานเวลากระโดดก็น่ารักอยู่หรอกแต่ไอสิ่งที่อยู่บนหลังมันให้ความรู้สึกแบบแปลกๆไปอีก แต่หลังจากนั้นแบล็กก็หันมามองเจสซิก้าที่นั่งมองอยู่พร้อมกับหูยาวๆที่ส่ายขึนลงๆอย่างดีใจ
         มองมาทำเพื่อ!! อยู่ไกลขนาดนี่ยังจะเห็นอีกเหรออ แกเป็นกระต่ายจริงดิแบล็กกก

         เจสซิก้าที่เห็นว่าท่าไม่ดีรีบส่งกระแสจิตไปหาแบล็กว่าอย่ามองมาทางนี่ แบล็กรีบทำตามคำสั่งอย่างไวก่อนจะหันไปช่วยคนอื่นทำงานแต่หูยังไม่หยุดส่ายอยู่ดี
         เปี้ยว!!!!

         เสียงแสบแก้วหูดังขึ้น

    ตามด้วยเสียงฝีเท้าที่ฟังก็รู้ว่าเจ้าของเสียงต้องตัวใหญ่มากแน่ๆ

         "ยิงได้!!!"
         เสียงออกคำสั่งดังมาถึงตรงจุดที่เจสซิก้ายืนมองอยู่ เจสซิก้าไม่รู้แล้วว่าควรทำตามแผนเดิมหรือปล่อยให้แอนนี่ถูกไททันกินแล้วแล้วค่อยไปช่วยเอเลนทีหลังร่างไททันของแอนนี่ถูกตรึงเอาไว้ 

        เจสซิก้านึกถึงไททันที่ได้พบเจอในระหว่างทางถ้าหากว่าเธอจะทำสิ่งที่นอกเหนือความคาดหมายให้มากกว่านี้ละไหนๆก็มีไพ่โจ๊กเกอร์ที่ไปขโมยจากสถาบันวิจัยไททันมาทั้งที 

         
         ซีดไม่ใช่แค่นายคนเดียวหรอกนะที่สามารถควบคุมไททันได้

         เคร้ง เคร้ง
         เสียงใบมีดแตกหักดังขึ้นไม่รู้ครั้งที่เท่าไรแบล็กหันมามองเอลวินขอความคิดเห็น มิเกะชูใบมีดให้เห็นว่าใบมีดใช้กับมันไม่ได้ผล เอลวินมองมือของไททันหญิงที่แข็งตัวก่อนจะแตกสลายลงไปเหลือเพียงแค่เนื้อของไททันจริงๆ
         เพราะเอลวินไม่ได้มีเวลาจะมานั่งแข่งความอดทน ไหนจะเรื่องไททันที่ได้พบเจอระหว่างทางอีก ทั้งๆที่ได้พบว่ามีคนที่สามารถแปลงเป็นไททันได้แล้วความจริงของโลกใบนี่ก็ขึ้นอยู่ไททันตัวนี่อีกต่างหาก
         เจสซิก้าคุณเองก็รู้อยู่แล้วสินะว่าวันนี่ต้องมาถึงในสักวัน
         
         ฮัดเชย!!

         เอลวินยกมือขึ้นเพื่อเรียกลูกน้องมาสั่งการบางอย่าง ถ้าหากใบมีดฟันไม่เข้างั้นก็ระเบิดมันซะ
         "ไปเตรียมระเบิดมาระเบิดมือของมันให้กระจุยซะ"
         "ครับ แต่ว่าความรุงแรงของระเบิดอาจจะทำให้ร่างข้างในถูกระเบิดไปด้วยนะสิครับ"
         "งั้นก็กะปริมาณ.."
         "มีไททันกำลังวิ่งเข้ามา!! ระวังตัวด้วย"
         เสียงตะโกนเรียกความสนใจของเอลวินให้หันไปมอง ไททันขนาด 16 เมตรตาสีแดงอมน้ำตาล ร่างกายมีเกราะตามตัวแต่ตัวผอมกว่าไททันเกราะวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับว่ามันคือไททันอีกตัวหนึ่งที่มีคนที่สามารถแปลงร่างเป็นไททันอยู่ข้างใน 
         มิเกะเข้าไปหาเพื่อจัดการแต่ไททันตัวนั้นกลับไม่สนใจมิเกะ ก่อนจะใช้ลูกเตะเตะต้นไม้ที่เอลวินยืนอยู่ด้วยท่าเดียวกับของแอนนี่โดยจงใจให้เหมือนจะฆ่าเอลวิน และหันไปโจมตีถังไม้เพื่อช่วยให้ไททันหญิงหลุดออกจากถูกตรึงก่อนจะวิ่งไปอีกทางหนึ่งซึ่งหน่วยสำรวจทำท่าจะตามไปเพียงแต่ไททันปริศนานั้นกลับเตะต้นไม้ลงขวางทางอีกครั้งเหมือนเป็นสื่อว่าห้ามตามไปเด็ดขาด
         "ไม่ปล่อยให้ตามไปหรอก"
         
         เป็นครั้งแรกสำหรับหน่วยสำรวจกับการได้ยินไททันพูดเป็นครั้งแรกคนที่ตื่นเต้นที่สุดเหมือนจะเป็นฮันซี่

         โชคดีที่เจคมาถึงพอดีตอนที่เจสซิก้ากำลังเตรียมการทดลองเซรุ่มไททันที่ขโมยมาจากศูนย์วิจัยไททันของมาเลย์ เจสซิก้าจึงโยนหน้าที่ปกป้องหน่วยรีไวล์ให้แก่เจคตนเองจึงสามารถมายืนเฝ้าหน่วยสำรวจจนกว่าหน่วยรีไวล์จะปลอดภัย

         "พูดได้!!เธอพูดได้!!"
         ฮันซี่กระโดดมาหาไททันอย่างลืมตัวเพราะลูกน้องประจำตัวไม่ได้อยู่ด้วย เจสซิก้าไม่ได้ปัดฮันซี่ลงไป หน่วยสำรวจต่างเพ่งความสนใจมาที่ไททันปริศนา
         "เธอไม่ฆ่าฉันเหรอ?"
         "ก็อยากอยู่นะ แต่มันไม่ความจำเป็นหน้าที่ของฉันตอนนี่คือถ่วงเวลาพวกนายไม่ให้ตามไททันหญิง"
         เหมือนการเป็นการพูดเตือนสติมิเกะทำท่าจะรีบตามไปทันทีเจสซิก้าใช้พลังจัดการควบคุมดินจากระยะไกลสร้างเป็นกำแพงดินขวางทางมิเกะเอาไว้ เรียกความตื่นเต้นให้แก่เอลวิน และฮันซี่ได้ไม่น้อยไททันสามารถควบคุมดินได้!?
             
         "ฉันมั่นใจฉันกำลังพูดภาษาเดียวกับพวกนายอยู่นะ ทำไมเราไม่มาคุยอย่างสบายๆจนกว่าน้องสาวของฉันจะออกไปจากที่นี่ก่อนซะละ"
         "ใครจะปล่อยให้ทำอย่างนั้น อย่างน้อยก็ต้องฉันก็ต้องเอาตัวแกออกมาจากท้ายทอยให้ได้!!"
         รีไวลพุ่งเข้ามาตวัดมีดอย่างรวดเร็วโดยการตัดเนื้อตรงท้ายทอยที่ไม่มีเกราะหุ้ม ร่างไททันล้มลงไปราวกับเครื่องจักรที่ใช้การไม่ได้แล้วฮันที่กรีดร้องออกมาอย่างโหยห้วนที่ร่างไททันนั้นกำลังระเหยซึ่งนั้นหมายความว่าคนที่อยู่ข้างในนั้นได้ตายไปแล้ว
         รีไวล์มองอย่างตกใจเพราะมั่นใจว่าฟันโดยกะแรงเอาไว้แล้ว ว่าอย่างน้อยคนที่อยู่ข้างในจะไม่ตาย
         "ทำไมใจร้อนกันจังเลย ฉันไม่ได้มาทำร้ายพวกนายสักหน่อย"
         ไททันอีกตัวเดินเข้ามาหาหน่วยสำรวจคราวนี่เป็นไททันตัวเล็กขนาด 5 เมตรตาสีแดงอ่อนทำให้คนที่ฉลาดรู้ว่านี่ไม่ใช่ร่างจริงเป็นเพียงแค่ไททันที่ถูกร่างจริงควบคุมเอาไว้อยู่
         "พูดแบบนี่ แต่น้องสาวของนายมันฆ่าพวกเราไปหลายคนเลยนะ จะมาพูดแบบนี่ไม่ได้หรอกไอขี้ขลาด"
         รีไวล์พูดแขวะไททันร่างเล็ก ก่อนที่จะร่างกายของมันจะขยายใหญ่ขึ้นมาเป็นไททันขนาด15 เมตรสร้างความตื่นตกใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฮันซี่ที่ทั้งตะโกนทั้งกระโดดแต่ไม่สามารถไปหาไททันได้เพราะลูกน้องคนสนิทกลับมาล๊อคแขนเอาไว้อยู่
         "จะถือว่านั้นเป็นชมนะคุณตัวเล็ก มองจากตรงนี่คุณเหมือนตุ๊กตาตัวเล็กๆน่ารักมากเลย"
         ฉับ!!
         จมูกถูกตัดโดยรีไวล์ที่ถูกแซวกลับ รีไวล์มาเกาะหน้าไททันปริศนา มองตาสีแดงที่เรืองแสงอยู่ด้วยความรู้สึกอยากจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายจริงๆ ใบมีดถูกจ่อมาที่ลูกตาหากเป็นคนปกติคงจะกลัวไปแล้ว
         "เธอเป็นใคร"
         คราวนี่เป็นเอลวินที่ถาม 
         "มนุษย์ไงละ"
         ฉึก!
         ใบมีดถูกแทงเข้ามาที่ดวงตาข้างหนึ่งรีไวล์ปล่อยใบมีดให้เสียบคาอยู่ในตาไปยังไงก่อนจะเปล่ยนไปที่ตาอีกข้างหนึ่ง
         "อย่ามาเล่นลิ้น"

         พูดเหมือนเคนนี่เลย สมเป็นลุงหลานกันจริงๆ

         "ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเล้ย แต่น่าเสียดายนะที่ฉันต้องไปแล้วนะ"
         เสียงฝีเท้าของม้าดังเข้ามา ปรากฎร่างของหน่วยรีไวล์ที่อยู่กันครบทุกคน
         เจสซิก้าปลดการควบคุมไททัน ไททันร่าง 15 เมตรกลับมาเป็นไททันปกติเมื่อเห็นว่าตรงหน้ามันมีมนุษย์อยู่มากมายมือรีบคว้ารีไวล์ที่อยู่ตรงหน้าแต่ก็ยังช้ากว่ารีไวล์ที่จัดการฟันเนื้อท้ายทอยทันที
         
         "ไงพวกแก"
         "หัวหน้าพวกเราได้พบกับไททันหญิงแต่มีคนมาช่วยเอาไว้เป็นผู้ชายแก่ๆใส่เสื้อคลุมทีมสำรวจครับ"
         กุนเธอร์รายงานสิ่งที่ได้พบเจอชายแก่คนนั้นมีฝีมือที่สูงมากราวกับว่าเป็นหัวหน้ารีไวล์อีกคนหนึ่ง ถ้าหากไม่มีเสียงหัวเราะแปลกๆนั้นก็คงเชื่อไปแล้วว่าเป็นหัวหน้ารีไวล์จริงๆ เพราะภารกิจการปกป้องเอเลนต้องมาก่อนกุนเธอร์จึงตัดสินใจไปสมทบกับหน่วยสำรวจ
         "แล้วพวกนายรู้จักผู้ชายคนนั้นมั้ย"
         เอลวินถามอีกครั้ง โดยหวังในใจว่าจะรู้จักกุนเธอร์ส่ายหน้าแทนคำตอบทุกคนต่างรู้สึกเหนื่อยและหนักใจเป็นอย่างมากไหนจะเรื่องไททันที่พบเจอในกำแพงไหนจะภารกิจการจับไททันหญิงล้มเหลว ไม่พอยังมีไททันปริศนาที่สามารถควบคุมไททันด้วยกันเองได้อีก
         "งั้นเหรอ..... ทุกคนจัดกระบวนทัพใหม่!! แล้วถอยกลับไปที่เขตคาราเนส แยกหน่วยไปตามหมู่บ้านต่างๆเพื่อแจ้งข่าวและอพยพหากพบเจอไททันก็ให้กำจัดทิ้งซะเพื่อป้องกันไม่ให้มีการควบคุมไททัน!!"



         ตูม!!!
         ราวกับรู้ความคิดของเอลวินลูกไฟปริศนาหลายลูกตกลงมาจากฟ้าก่อนที่มันจะระเบิด หน่วยสำรวจมองปรากฎการณเหนือธรรมชาติอย่างตะลึงเอลวินที่รับรู้ได้ถึงความร้อนจากสร้อยคอรีบหยิบสร้อยคอออกมาดูทันที
         ผลึกโลหิตมีเปลวไฟลุกไหม้เอลวินถอดมันออกมาทันที ก่อนจะกำดูเส้นโลหะที่มีอุณหภูมิร้อนเช่นกันแต่ไม่เท่ากับผลึกโลหิต
         "มันหมายว่ายังไงละเอลวิน ตอนนี่ภรรยานายกำลังถูกไฟคลอกอยู่รึไง"
         "ไม่ใช่ ฉันคิดว่าลูกไฟพวกนั้นเกิดจากเจสซิก้าบางทีเธอกำลังกำจัดไททันที่อยู่ในกำแพงก็เป็นได้"
         เอลวินพูดๆไปมองลูกไฟที่หล่นมาจากฟ้าและเผาไหม้พวกไททันอย่างกับนรกบนดิน
         

         "ถ้าฉันเป็นสามีเธอคงไม่กล้าไปมีเมียน้อยแน่ๆ"
         เคนนี่ที่ไม่รู้เรื่องที่เจสซิก้าเสียคามทรงจำพูดออกมา มองคนใช้พลังอย่างหวาดๆ ตนเองกำลังนอนพักจากการไปช่วยหน่วยสำรวจอยู่ดีๆลูกไฟขนาดใหญ่โผล่ออกมาชวนให้หวั่นใจ พอมองไปรอบก็เจอกับร่างระหงอวบอิ่มที่ชวนให้น่ามองแต่พอได้เห็นหน้าต้องเก็บความคิดนั้นไปทันที ใบหน้าที่คุ้นเคยดูมีเสน่ห์มากกว่าแต่ก่อนและดูน่ากลัวในขณะเดียวกัน ตาสีแดงดำเรืองแสง ผมยาวสลวยมีเขาประดับไว้ราวกับเป็นมงกุฏ ช่างน่าหลงใหลชวนให้มองแต่ก็รู้ว่าไม่ควรมองไปมากกว่านี่หากยังอยากมีตาไว้มองอย่างอื่นอีก
         "เคนนี่นายจะกลับไปก่อนก็ได้นะพอดีฉันคิดว่าควรจะไปต้อนรับแขกที่ไม่ได้รับเชิญให้ยิ่งใหญ่มากกว่านี่"
         "เดียวสิวะ ฉันขอไปด้วยสิอยากเห็นหน้าของแขกที่ว่าด้วย"
         เคนนี่ขึ้นม้าทันทีเมื่อพูดจบเจสซิก้ามองคนพูดก่อนจะถอนหายใจออกมา ไม่นานนักเจคก็ตามมาสมทบด้วยคนเพราะเห็นพลังของพี่สาวตนเองในโลกนี่คนที่จะทำแบบนี่ก็มีแค่พี่คนเดียวนั้นแหละ
         "เจสซิก้าเกิดอะไรขึ้นทำไมเธอถึงใช้พลังละ"
         เจคขึ้นม้ามาถาม คนที่ทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่
         "จำซีคได้ใช่มั้ย หมอนั้นมาที่นี่แล้วแปลงคนในกำแพงให้เป็นไททัน"
         เจสซิก้าอธิบายสั้นๆให้เจคฟัง เจคพอจะนึกว่าเป็นใครและเมื่อพอนึกถึงตอนที่เจสซิก้ากลับมาจากที่มาเลย์ก็ดูจะหงุดหงิดเป็นอย่างมากและต้นเหตุก็คือซีคนี่เอง
         "ออ......แล้วให้ฉันไปไล่แทนมั้ยละ เธอกลับไปที่กำแพงก่อนเถอะ" เดียวตัวประกอบจำเป็นตายก่อนเวลา
         "ไม่ ไปด้วยกันทั้งหมดเนี่นแหละ เคนนี่นายก็อย่ามาเกะกะพวกฉันแล้วกัน"
         เจสซิก้าหันมามองตาเขียวใส่คนที่เป็นมนุษย์ในกลุ่ม เจคเหงื่อตกทันทีเพราะเจสซิก้าเป็นคนใจร้อนยิ่งกว่าใครแน่นอนว่าเธอไม่มีทางให้เคนนี่หรือตนเองไปด้วยตนเองแน่นอน เพราะเจสซิก้าไม่ชอบให้ใครตามมาทีหลังแต่ที่พูดเมื่อกี้มันหมายความว่าไงกัน
         "เฮ้ เจอรี่ไอไปด้วยกันเนี่ยมันหมายความว่าไง"
         "ก็ใช้วิธีนี่ไง"
         
         ไททันตาสีแดงถูกควบคุมอยู่เดินมาหาอย่างไม่มีสติ เจคมองอย่างโล่งอกอย่างน้อยก็ไม่โดนเจสซิก้าหิ้วไปวิ่งไปอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นคนที่ชื่อซีคคงหัวเราะจนท้องแข็งถ้าได้เห็นภาพผู้หญิงแบกผู้ชายสองคนวิ่งมาหา
         พาหนะจำเป็นวิ่งสุดแรงเท่าที่มันจะวิ่งได้ถึงมันอาจช้ากว่าารใช้ม้าแต่มันก็ไม่มีความรู้สึกเหนื่อยเหมือนม้าแน่นอน ที่สำคัญเลยคือไม่รู้ว่าเป้าหมายอยู่ตรงไหนอีกต่างหาก ส่วนม้าเจสซิก้าปล่อยให้มันวิ่งตามมาอยู่ห่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ซีคฆ่าม้าของตนเองเนื่องจากมันแพงพอสมควรและต้องใช้เวลาฝึกฝนอีกต่างหาก
         "นั้นมันคือลิงใช่มั้ย"
         เคนนี่ชี้ไปทางร่างไททันสัตว์ป่าตัวใหญ่ เจคพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะรีบพาเคนนี่ลงไปมาจากตัวไททันเพราะอีกฝ่ายกำลังใช้ก้อนหินโจมตีมาทางนี่!!

         ตูม!!

         ร่างไททันพาหนะถูกขยี้ด้วยก้อนหินโชคดีที่เจสซิก้าสั่งให้ม้าไปหลบซ่อนตัวก่อน ส่วนไททันที่พามาถูกก้อนหินทะลุที่ท้ายทอยอย่างพอดีเคนนี่มองพลังการทำลายล้างที่เหนือมนุษย์ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั้ง
         "วะ ฮ่าๆๆอะไรกันเนี่ยน่าสนใจเป็นบ้า เจสซิก้า!! ฉันขอเจ้านั้นได้มั้ยดูท่าทางจะสนุกใช้ได้เลยนี่หว่า"
         "เออเคนนี่ดูหน้าเจอรี่ด้วย ตอนนี่นางกำลังโกรธแบบขีดสุดเลย"
         เคนนี่สงบปากลงทันทีเมื่อหันมองคนที่ปกติแล้วมักจะพูดโต้ตอบตนเอง ไม่เคยเจอใครที่มีจิตสังหารมากถึงขนาดนี่แค่มองเพียงแปปเดียวก็รู้สึกเหมือนถูกฉีกร่างกายเป็นชิ้นๆ เจคจึงต้องตบหน้าสักทีเพื่อดึงสติกลับมา
         "ตอนนี่เรามานั่งชมดูอยู่เฉยๆไม่ให้ใครยืนมือเข้ามายุ่งจะดีกว่า ฉันเอาเหล้ามาด้วยแต่ไม่มีวิกกี้พอจะแทนได้มั้ย"
         เจคชูขวดเหล้าแบบพกพามาสองขวด เคนนี่ยิ้มเหมือนเห็นด้วยก่อนจะย้ายที่ไปยังบนหลังคาบ้านที่มีร่องรอยการระเบิดจากข้างในเจคมองบ้านที่เหมือนจะอยู่กันเป็นครอบครัวในใจนึกสวดมนต์ที่พอจะรู้จักและจำได้ให้แก่เหล่าคนที่โชคร้ายที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย

         "ไงซีคไม่ได้เจอกันมาสัก 5 ปีแล้วสินะ"
         "ว้าว คุณคนสวยคนนั้นนี่เองเปลี่ยนไปเยอะเลยนะอย่างกับปีศาจยังไงอย่างนั้น"
         ซีคในร่างไททันพูดออกมายืดยาวเจสซิก้าไม่อยากจะเสียเวลาไปมากกว่านี่แล้วด้วยความหมั้นไส้ที่มีอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว เจสซิก้าในร่างยักษ์กระโดดไปที่ท้ายทอยมืออันทรงพลังจับหัวคนที่อยู่ข้างในกระชากออกมาเพื่อให้คนในร่างไททันโผล่ออกมา มืออีกข้างเสกไฟขึ้นมาโยนใส่ร่างมนุษย์เพื่อเผาร่างกายนั้น แต่ซีคกระโดดลงมาทันมือคว้าปืนมาเล็งยิงหัวของเจสซิก้าอย่างแม่นยำ หัวสะบัดไปตามแรงกระสุนที่ยิงเข้ามาเจสซิก้ามองคนยิงอย่างกินเลือดกินเนื้อ 
    ขากระโดดลงไปเตะที่กลางลำตัวอย่างไม่ออมแรงร่างของซีคขาดครึ่งทันที
         "อะไรกัน ต้องทำถึงขนาดนี่เลยรึคุณผู้หญิง อัก!!"
         "ฉันไม่กระชากหัวนายให้ขาดเหมือนร่างไททันก็ดีเท่าไรแล้ว กล้าดีได้ยังไงมาทำให้ไททันมาเดินอยู่ในกำแพงได้หะ รู้มั้ยว่าร้านของฉันมันตั้งอยู่ในกำแพงนี่นะเว้ย"
         เจสซิก้าจัดการกระทืบเท้าลงไปอีกหลายๆครั้ง จนเจคเริ่มคิดแล้วว่าบางทีซีดอาจจะตายเพราะทนความทรมานไม่ไหวหรือไม่ก็อาจจะเสียเลือดจนตาย
         "ต้องการอะไรละ"
         ซีดถามคนกระทำไปกระอักเลือดไป ตอนนี่ตนเองเริ่มจะทนไม่ไหวกับเจ็บปวดที่ได้มาอย่างไม่ทันตั้งตัว
         "ถ้านายต้องการมารับนักรบของนายกลับไปก็รอจนกว่าฉันจะส่งข่าวไปให้ ฉันจะให้ความร่วมมือทุกอย่างจนกว่านักรบจะไปอยู่กับนาย"
         เจสซิก้ายืนข้อเสนอ เธอต้องการให้ต่างฝ่ายต่างไปอยากให้ฮิสโทเรียได้สมหวังไม่ต้องมาทุกข์ทรมานทุกข์ใจ ยูมิร์เองก็คงต้องโน้มน้าวให้ไปอยู่กับฮิสโทเรียเพราะเรื่องข้อกำจัดอายุนั้นไม่มีอีกต่อไปแล้ว
         "แล้วฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่าเธอจะช่วยเราจริง"
         
         "หัวหน้า!!!"
         เสียงแหบเรียกซีคเจสซิก้ารู้ดีว่าเป็นใคร ร่างไททันสี่ขาถูกเจคจัดการแช่แข็งยกเว้นตรงส่วนหัวให้พอมีปากพูด เจสซิก้ามองซีคให้คิดอีกทีเพราะตอนนี่ชีวิตของทั้งคู่ขึ้นอยู่กับเธอจะมาตายตรงนี่ก็คงจะไม่ได้
         ไม่ว่านายจะตอบอะไรตอนนี่ฉันก็มีไพ่ในมือเยอะกว่านาย ไอสี่ตาหัวสาหร่าย
         "หึ ก็ได้แล้วฉันจะรอแต่แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น" ซีคยอมตกลงอย่างช่วยไม่ได้อีกฝ่ายมีพลังที่เหนือกว่า จะเล่นตุกติกอะไรก็ต้องทีหลัง

          อาทิตย์หนึ่งก็พอแล้วล่ะ ถ้านายไม่เล่นอะไรตุกติกก่อนนะ

          "ส่วนสัญญาฉันจะยิงเป็นสัญญาแสงสีแเดงได้ตัวแล้วก็เชิญไสหัวกลับไปที่บ้านนายด้วย"

           เจสซิก้ายกเท้าออกจากบาดแผลตรงท้องของซีค ก่อนจะเตะไปที่หน้าทีหนึ่งเพื่อความสะใจไททันเกวียนมองเจสซิก้าอย่างคาดแค้น เจสซิก้าพุ่งเอามือไปควักลูกตานั้นออกก่อนจะกระชากผมที่มีอยู่น้อยนิดให้หน้าไททันของไพร์มาอยู่ใกล้ๆ หน้าตัวเอง

           "ถ้าจะโกรธก็จงโกรธในความอ่อนแอของตนเองซะ"

           

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×