คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เปิดบาร์
'เจสซิก้าาา ขอวิกกี้ด้วย'
'ขอเหล้าเบอร์รี่'
'ขอแฮมรมควันด้วย'
เสียงเรียกขอเหล้าเพิ่มจากลูกค้าใหม่และประจำเจสซิก้าช่วยสาวเสริฟด้วยอีกแรงหนึ่ง เพราะดูเหมือนว่าร้านบาร์ของเธอจะได้รับความนิยมมากเกินไปหน่อย
1 ปีที่เจสซิก้าและเจคได้มายังที่โลกนี่ เปิดบาร์โดยใช้ชื่อบาร์ว่าร้าน JJ ด้วยความขี้เกียจตั้งชื่อร้านและจำได้ง่ายจึงใช้ชื่อนี่ไป เจสซิก้าหาเงินทุนจากการแอบไปขโมยทองจากในโบสแล้วดัดแปลงรูปร่างให้ดูแปลกตาแต่สวยงามไปขายที่เมืองใต้ดิน ได้เงินมาเยอะพอสมควร และด้วยความรู้จากการที่เธอเคยเป็นเจ้าของร้านบาร์ในโลกก่อน กับความรู้วิชาการบริหารของเจคทำให้ร้านบาร์JJ เติบโตภายในหนึ่งปีอย่างรวดเร็ว
" เฮ้อ ทำไมลูกค้าถึงเยอะขนาดนี่นะคิดว่าคนในกำแพงจะยากจนกว่านี่ซะอีก"
เจสซิก้าอาศัยเวลาช่วงหัวค่ำมาพักใจ ร้านบาร์ของเธอปิดเที่ยงคืนเปิดตอนบ่าย แต่ลูกค้าที่เรียกหาเหล้า พวกคอทองแดงนั้นต่างก็ยังสรรหาเวลามาซื้อได้
ขายดีจนเอาเงินไปคืนโบสได้แล้วมั้ง
"ก็ตอนนี่กำแพงยังไม่แตกนี่นา รู้สึกว่าจากที่เจอรี่บอกอีกประมาณตั้ง2-3 ปีที่กำแพงจะแตกไม่ใช่หรือไง"
"เรียกเจสซิก้าสิ นั่นก็ใช่แต่การคอรัปชั้นก็รุงแรงอยู่นะ สงสัยประชาชนคงขยันทำงานกันจริงๆนั้นแหละ"
เจสซิก้ามองลูกค้าที่บางตาลง มีบางคนยังดื่มกินอย่าสนุกสนานราวกับคนบ้าปากชมรสชาติเหล้าเบียร์ที่อร่อยไม่เหมือนร้านอื่น
ทั้งคู่ตกลงกันว่าจะอาศัยอยู่ที่กำแพงวอลมาเรียด้วยพื้นที่กว้าง สามารถปลูกพืชสวนตรัวเล็กได้ และจะพยายามไม่ไปยุ่งเกี่ยวพวกทหารโดยเฉพาะสารวัตรทหาร เพราะสารวัตรทหารแท้จริงเป็นสุนัขรับใช้ของราชวงค์ที่แท้จริง
แต่เจสซิก้าก็ยังไปตีสนิทกับทหารรักษาการอย่างฮันเนส เพื่อให้เป็นหนูทดลองเหล้าสูตรใหม่ๆ ซึ่งฮันเนสก็ดูจะชอบใจกับตำแหน่งนี่เพราะได้เหล้าฟรีเสมอ
และเจสซิก้าได้บอกเจคอีกด้วยว่าหากอะไรจะเกิด ก็ไม่มีใครสามารถทำอันตรายทั้งคู่ได้หรอก เกิดปัญหาอะไรขึ้นมาก็ค่อยย้ายไปอยู่นอกกำแพงรอให้เวลาผ่านไปสัก10 ปีแล้วค่อยกลับมาอาศัยก็ยังได้
"เจสซิก้า วันนี่ฉันพาผู้บัญชาการมาด้วยแหละ"
คริสทหารหน่วยสำรวจหน้าใหม่แต่สามารถรอดมาจากการสำรวจนอกกำแพงได้ด้วยความสามารถหรือเพราะดวงดีก็ไม่รู้ แต่ส่วนหนึ่งก็มาการฝึกสุดโหดส่วนตัวของเจสซิก้า และเจสซิก้าเองก็ไม่ได้สอนให้ฟรีๆ แต่ต้องแลกกับการที่คริสต้องพาเพื่อนมาซื้อเหล้าที่ร้านเธอให้ได้20 คน ซึ่งตอนแรกเจสซิก้าก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่คริสพาลูกค้ามาหาเธอได้จริงๆ
วันก่อนก็5 คนวันนี่ 3 คนเหลืออีก12 คนสินะ
เดียวนะผู้บัญชาการ
เอลวิน สมิธ!!!
"แผนธุรกิจเธอพาตัวซวยมาแล้วไง"
เจคกระซิบเสียงเบาให้ได้ยินเพียงแค่สองคน เจสซิก้าอดใจไปเหยียบเท้าน้องขายไม่ได้ก่อนจะยิ้มยินดีต้อนรับ เหล่าหัวกะทิของกองทัพพากันนั่งที่เคาเตอร์ ทำให้สองพี่น้องอดเหงื่อตกไม่ได้ ตัวละครในไททันมาอยู่กันพร้อมหน้าถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่
"รสชาติดีนิ"
รีไวล์ชมวิกกี้ที่เจคเป็นคนทำเจสซิก้ายิ้มรับ ก่อนจะหันไปหยิบไวน์องุ่นแดงมาให้หัวหน้าหมู่ฮันซี่ตามออเดอร์
"ดีใจที่พวกคุณชอบนะ มีกับแกล้มด้วยจะสั่งรึเปล่า"
"ผมขอถั่วแระ"
"คริสเนื้อหมักตากแห้งฉันก็มีนะ เปลี่ยนบ้างเถอะ"
เจสซิก้าอดปากแซวเพื่อนในกำแพงได้ไงเพราะมากี่ครั้งๆตั้งแต่ยังเป็นทหารฝึกหัดคริสก็มักจะสั่งถั่วแระเป็นแกล้มอยู่ตลอด
"ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณชอบอะไร เลยเอาแกล้มหลายๆอย่างมาให้
กับแกล้มหลากหลายวางเรียงบนเคาเตอร์บาร์เหล้า หัวหน้าหน่วยสำรวจสามคนมองกับแกล้มและการบริการของร้านที่ดีเกินราคาจริง เจสซิก้ายิ้มอย่างอ่อนโยนให้นี่คือนโยบายของร้านเธอ
อร่อย เอาใจใส่ ราคาถูก
" คิดซะว่าฉันเลี้ยงก็ได้ แต่ค่าเหล้าพวกคุณจ่ายกันเองนะ"
แค่ค่ากับแกล้มมันไม่ทำให้กระเป๋าฉันแห้งหรอก
"ขอบคุณสำหรับแกล้มนะคุณผู้หญิง"
หัวหน้าเอลวินกล่าวขอบคุณ
"เจสซิก้า เรียกคุณผู้หญิงแล้วรู้สึกแก่ยังไงไม่รู้"
เอลวิน สมิธมองหน้าเหมือนกำลังชั่งใจก่อนจะยิ้มออกมา
"คุณเจสซิก้า"
เสียงหล่อ สุภาพบุรุษโครต!!! นี่ใช่ผู้บังคัญบัญชาการที่พาลูกน้องไปตายจริงดิ!
"เจอรี่หน้าแดงหมดแล้วนะ"
"อย่าเรียกว่าเจอรี่นะ เดียวฉันออกไปข้างนอกแปปหนึ่งดูร้านดีๆละ"
นี่ฉันหน้าแดงเพราะมนุษย์คนหนึ่งเนี่ยนะ อย่าเชียวนะเจสซิก้า หมอนั้นเป็นมนุษย์ไม่เกินร้อยปีก็ต้องตาย
เจสซิก้าหยิบบุหรี่กลิ่นมินต์มาสูบเพื่อสงบอารมณ์สติ บุหรี่กลิ่นมินต์ที่มีแต่เจสซิก้าเท่านั้นที่รู้สูตรทำไม่มีขายที่ไหนทั้งเมืองใต้ดิน ทั้งในเมืองชั้นใน
จนมันกลายกลิ่นเฉพาะตัวของเจสซิก้า
"โย่วเจสซิก้า"
เสียงทักทายดังขึ้นจากความมืดเจสซิก้าไม่ต้องมองก็รู้ว่าเป็นใคร
"สวัสดีตอนยามราตรีเคนนี่จอมเชือด"
เจสซิก้ากล่าวทักทายบุรุษในเสื้อโค๊ตสีดำ ทั้งสองคนได้เจอกันแรกในเมืองใต้ดินตอนที่เจสซิก้ากำลังนำทองคำไปขาย และเคนนี่ดันรู้ว่าเป็นทองคำจากในโบสด้วยตำหนิบนทอง ทำให้เกิดการต่อสู้เล็กน้อย และเจสซิก้าเป็นฝ่ายชนะ
"อย่าเรียกฉายาแบบนั้นสิ"
"เคนนี่ แอกเคอร์แมนก็ได้"
"เธอรู้นามสกุลฉันได้ยังไง"
เจสซิก้าเมินคำถามจอมเชือด หันไปสูบควัาเข้าปอดมองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย ด้วยความคิดที่ว่างเปล่า
พรึบ
"นายคิดว่าคนที่ใช้พลังได้มีแต่ราชาในกำแพงรึไงกัน"
เจสซิก้าจับใบมีดคมที่เคนนี่คิดจะเชือดคอทุกครั้งที่มีโอกาศถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกแต่เจอบ่อยๆเธอก็รำคาญนะ เคนนี่จะต้องเข้ามาบาดคอเธอทุกครั้งที่เจอหน้ากันเพื่อหวังจะฆ่าให้ตายให้ได้
"เธอเป็นคนที่มีพลังนั่น?"
เคนนี่พูดถึงพลังของผู้ที่ถือครองพลังของไททันเจสซิก้ายักคิ้วกับคำพูดก่อนจะเข้าใจว่าเคนนี่หมายถึงอะไร
"ทั้งใช่และไม่ใช่บอกธุระของนายมาแล้วกลับไปซะ"
เคนนี่เก็บมีดคู่ใจก่อนจะยืนจดหมายที่มีตราประทับสีแดง เจสซิก้ารู้ทันทีว่าตระกูลเรสติดต่อมาหาตนเองและเดาได้เลยว่าเนื้อหาในจดหมายเขียนไว้ว่าอะไร
จะเขียนจดหมายตอบกลับไปหรือจะไปหาเลยดีนะ
ไปหาเลยน่าจะดีกว่าพูดให้รู้เรื่องกันไปเลยจะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง
"ฝากบอกด้วยว่าพรุ่งนี่ฉันจะไปหาทำตัวให้ว่างไว้ซะนะ"
"นี่เธอสั่งฉันรึ?"
"นายจะทำหรือไม่ทำก็ตามใจแต่พรุ่งนี่ฉันไปหาแน่ๆ
ฉันดับบุหรี่เดินกลับเข้าไปในร้าน เคนนี่มองตามฉันจนปิดประตู ราชาไททันในตัวของฟรีด้าคงสัมผัสไ้ด้ถึงตัวตนของฉันที่เป็นยักษษาที่อาจจะเป็นสปีชีย์เดียวกัน(เกี่ยวเหรอวะ)
"เจสซิก้าเมื่อกี้นี่ใครกัน"
เจคเข้ามาถามอย่างสงสัยเพราะรู้สึกได้ถึงอารมณ์ของเจสซิก้าที่รู้สึกหงุดหงิดตอนอยู่นอกร้าน ซึ่งแสดงว่าคนที่มาหานั้นทำให้เจสซิก้ารู้หงุดหงิด
ทำให้เจสซิก้าหงุดหงิดไม่ใช่เรื่องฉลาด คนที่กล้าทำคงเป็นคนบ้าไม่ก็ไม่กลัวตาย
"ก็แค่พ่อค้ามาขอพบฉันนะ มีจดหมายแนะนำตัวด้วยนะ"
ฉันจงใจหันด้านหลังจดหมายที่ไม่มีตราให้เจคดู กันพวกหน่วยสำรวจกับแขกในร้านไม่ให้เห็นเจคเข้าใจการกระทำของเจสซิก้าเป็นอย่างดี ก่อนจะส่ายหน้าเป็นนัยว่า พี่จัดการเองเลย
เจสซิก้าอด จิ ในปากไม่ได้ที่มีน้องชายขี้ขลาดหรือไม่อยากมีปัญหาก็ไม่รู้ก่อนจะเข้าไปในส่วนครัวของร้านเปิดจดหมายขึ้นมาอ่าน เนื้อหาของจดหมายเกี่ยวกับการขอพบเจอเป็นการส่วนตัวที่คฤหาร์ตะกูลเรสในอีกสองวัน
เจสซิก้ายกยิ้มมุมปาก มือเสกไฟให้เผาจดหมายกลายเป็นธุลี
แต่ฉันจะไปหาพรุ่งนี่ ไปก่อนนัดยังดีกว่าไปช้านิจริงมั้ย?
ความคิดเห็น