ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Attack on titan เฮฮาไททัน ป่วนหน่วยสำรวจ (เอลวิน x oc)

    ลำดับตอนที่ #16 : แผนการ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.08K
      107
      27 มี.ค. 62

         
       

         วันเวลาไหลผ่านไปทุกคนต่างเป็นเพื่อนกันในรุ่น 104ต่างสนิทต่างรู้ชื่อ ลิน่าเกือบเป็นคนไร้ตัวตนด้วยเพราะจงใจไม่ให้ตัวเองมีผลงานที่โดดเด่น ถูกรัศมีแอนนี่กลบแทบมิดเวลาทำอาหารทุกคนมักจะคิดอยู่เสมอว่าแอนนี่เป็นคนทำ เพียงแค่ว่าเจสซิก้าได้บอกสูตรอาหารต่างๆและแอนนี่ก็ยอมทำตามเพื่ออาหารอร่อยๆ 

         คนที่เจสซิก้าสนิมด้วยที่สุดคือแอนนี่กับชาช่าที่มักจะชอบเข้ามาขอของกินอยู่เสมอ รองลงมาก็เป็นมิคาสะที่ขอให้ตนเองช่วยวิชากาต่อสู้เพราะหมั่นไส้แอนนี่เป็นการส่วนตัวและเอเลนที่เข้ามาขอร้องให้ช่วยฝึกการใช้เครื่องสามมิติ เพราะเจสซิก้าเป็นคนเดียวที่ยอมสอนและเป็นคนที่คอยบอกแนวทางการฝึกฝนให้นอกจากไรเนอร์

         ช่วงระหว่างที่เจสซิก้าได้เป็นทหารฝึกหัดหน่วยสำรวจก็มักมาที่ค่ายฝึกอยู่เสมอด้วยเหตุผลสารพัดอย่าง และเอเลนอาร์มินก็จะเข้าไปหาเอลวินเมื่อมีโอกาศเพื่อพูดคุยเนื่องจากที่เอลวินเป็นเหมือนวีรบุรุษคนกล้า จนรีไวล์ต้องมองด้วยความหมั้นไส้ในความใสซื่อของเอเลนแต่จะไม่มีการเข้ามาหาเจสซิก้าหรือคุยอะไรด้วยหากไม่จำเป็น ถึงจะมีสายตาที่คอยจับจ้องมองอยู่ก็ตาม และสิ่งที่เจสซิก้ารำคาญเป็นที่สุดเวลาที่หน่วยสำรวจมาคือเจ้าแบล็กที่มักจะเข้ามาเล่นด้วยแต่ตนเองไม่เล่น จนตนเองได้สิทธิพิเศษกับการอยู่ดูแลเจ้าแบล็กจากครูฝึกแบบงงๆ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันรบกวนการฝึกของคนอื่น ทำให้เจสซิก้าหมดความเอ็นดูมันแทบอยากจะถลกหนังมาเป็นทำเป็นเสื้อโค้ดไว้ใช้ในหน้าหนาว เพราะหลังจากที่ดูแลเจ้าแบล็กแล้วตัวเองก็ต้องมาเรียนย้อนหลังเพื่อตามคนอื่นให้ทันอีก

         ในช่วงวันหยุดเจสซิก้าก็จะกลับไปยังที่ร้านบาร์และได้สู้กับเคนนี่แทบจะทุกครั้งจนเจคต้องไปสร้างสนามมวยในชั้นใต้ดิน ซึ่งเคนนี่พูออกมาอยู่คำหนึ่งว่าเหมือนที่นั้นมาก เคนนี่กลายเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อหากมีเรื่องอะไรเกิดกับตัวเองเคนนี่ก็จะเอามาเล่าให้เจคฟังตั้งแต่เรื่องที่ตนเองได้เจอกับคนที่อ้างเป็นลูกสาวตัวเองไปจนถึงปัญหาภายในตะกูลเรสที่เหลือรอดอยู่ และเคนนี่ก็ต้องทำตามคำสั่งในกรสืบหาข้อมูลต่างๆเพื่อจุดยืนของตระกูลเรสต์ที่สูญเสียพลังไป 

         หน่วยสำรวจที่คอยจับตาดูเจคก็ถูกเจคเข้าไปตีสนิทหรือไปเข้าไปทักว่ารู้อยู่แล้วถ้าถูกแอบมองอยู่ เพื่อกันไม่ให้หน่วยสำรวจมาจับตาดูมากกว่านี้เนื่องจากเจสซิก้านั่นยังต้องช่วยงานเรื่องเอกสารกลยุทธ์วิธีการตลาดต่างๆและเรื่องการสนับสนุนหน่วยสำรวจถึงตอนนี่จะไม่อยากสนับสนุนหน่วยสำรวจแล้วก็ตาม

         "ลิน่าอีกเดียวจะถึงเวลาพิธียุบหน่วยแล้วนะ รีบไปกันเถอะ"

         วันนี่เป็นวันยุบหน่วยทหารฝึกหัด แอนนี่มาตามคนติดสูบบุหรี่ให้ไปเข้าแถวในที่ประจำ เจสซิก้าพยักหน้าเป็นพอเข้าใจแอนนี่เดินมาอยู่ข้างคนตัวสูงกว่าไม่เหมือนตามปกติที่เมื่อมาตามแล้วก็จะเดินกลับไป


         "ลิน่าหลังจากนี่เธอจะเข้าหน่วยอะไรเหรอ"

         แอนนี่ถามคนสูบอย่างไม่นึกรังเกียจกลิ่นบุหรี่เจสซิก้าดับบุหรี่ลงเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายสูบควันเข้าปอดไปมากกว่านี่

         "กองกำลังรักษาการณ์นะ"

         แอนนี่มองเจสซิก้าเหมือนอยากจะพูดอะไรบ้างอย่างช่วงวันเวลาที่ได้รู้กับลิน่า ลิน่าเปรียบเหมือนพี่สาวที่คอยดูแลเอาใจใส่เรื่องเล็กน้อยๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าและเสียใจเหมือนกำลังรู้สึกผิด ไม่อยากให้ลิน่าหายไปไหน

         ถึงเจสซิก้าจะไม่ได้เข้าร่วมแผนการหรือได้นั่งฟังว่าพวกไรเนอร์กำลังวางแผนอะไรหรือคุยอะไรกัน แต่ก็พอเดาได้ว่าแอนนี่เป็นห่วงตนเอง

         เพราะเห็นว่าฉันมีคะแนนการใช้เครื่องมือสามมิติในอันดับท้ายๆงั้นเหรอถึงได้เป็นห่วง

         "แอนนี่นี่เป็นความลับนะ อย่าเอาไปบอกพวกไรเนอร์หรือเบลทรูทเชียว"

         เจสซิก้าหยิบมีดพกมาปาดมือตนเอง แอนนี่มองอย่างตกใจรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าที่เจสซิก้าเคยให้มาซับเลือดทันทีแต่บาดแผลที่ว่านั้นกลับสมานตัวกลับไปเป็นเหมือนเดิมเหลือเพียงแต่เลือดสดๆบนมือของเจสซิก้า

         "เธอ!!?"

         "ฉันไม่ใช่ไททันแต่ก็เป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียกว่าไททัน และฉันไม่มีทางตายง่ายอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม"

         แอนนี่มองเจสซิก้าอย่างสับสน เพราะเป้าหมายตนเองคือไททันบรรพบุรุษความคิดของแอนนี่ถูกเจสซิก้าอ่านออกหมดด้วยพลังของมนต์ดวงตาไม่ใช่การรุกรานแต่มันคือมองเข้าไปและดูอยู่เฉยๆ พลังที่เจสซิก้าแอบฝึกตอนที่ตนเองมีเวลาว่างๆ

         

         หากลิน่าเป็นไททันบรรพบุรุษละ ฉันควรทำยังไงดี


         เจสซิก้าลูบหัวแอนนี่อย่างเอ็นดูถึงร่างกายและใบหน้าจะเป็นเด็กอายุ 15 แต่ข้างในก็เลยเลขสามไปแล้วแอนนี่ก็เหมือนเด็กคนหนึ่งที่ทำเพื่อตนเอง และทำเพราะถูกหลายอย่างบีบบังคับแอนนี่ไม่ปัดมือทิ้ง แต่ก้มหน้าลงอย่างคิดหนัก

         "ตั้งสติก่อนสิแอนนี่ถ้าหากฉันเป็นไททันบาดแผลของฉันควรมีควันไอน้ำด้วยสิ แต่ฉันไม่มีเลยนะเพรางั้นฉันไม่ใช่เป้ามายของเธอ"

         แอนนี่เงยหน้ามองเจสซิก้าอย่างโล่งใจในทันทีพร้อมกับคำถามในใจว่าเมื่อไรภารกิจที่ยาวนานนี่จะจบลง

         เจสซิก้ายิ้มปลอบใจให้แอนนี่เธอไม่สามารถจะช่วยแอนนี่ไปมากว่าการปลอบใจและการมอบโอกาสครั้งที่สองในภายหลัง

         


         หลังจบงานเลี้ยงยุบหน่วยทหารฝึกหัดเจสซิก้าที่ไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงแต่เข้าไปทำอาหารเพื่อส่งเลี้ยงหลายๆคนก่อนที่จะตายในวันต่อมาโดยที่ไม่รู้ชะตากรรม 

         "ดีใจสำหรับการจบการศึกษาด้วยนะ"

         เสียงอันน่ารำคาญของเอลวินลอยเข้าโสดประสาทหูเจสซิก้าที่กำลังเตรียมตัวไปอาบน้ำ เจสซิก้ากรอกตาไปมาอย่างรำคาญก่อนจะวางของลงเพื่อทำท่าเคารพ ผู้บัญชาการเอลวิน

         "ตามสบาย ฉันแค่มาแสดงความยินดีด้วย"

         "ขอบคุณคะ"

         "พรุ่งนี่ฉันจะออกไปสำรวจที่เขตชิกันชิน่าเพื่อหาทางการซ่อมประตูเขตชิกันชิน่า"

         "งั้นเหรอคะ"

         คำพูดติดเย็นชาทำให้เอลวินยิ้มหน้าเศร้าที่ไม่มีคำพูดอวยพรอะไรเหมือนเจสซิก้าในเมื่อก่อน เจสซิก้ามองหน้าคนยิ้มเหมือนลูกหมาที่ไม่ได้รับคำชม

         ที่มาที่นี่คือต้องการให้ฉันอวยพรให้หรือให้ชมเหมือนหมาหรือยังไง?

         หน่วยสำรวจสู้ๆนะ!!

         คำพูดที่เคยพูดอวยพรหน่วยสำรวจดังขึ้นมาในหัวเจสซิก้าจับหัวตัวเองอย่างมึนงง  เอลวินรีบถามด้วยความเป็นห่วงทันที

         "เธอโอเครึเปล่า"

         "อย่ามาจับตัวฉันนะ..."

         เจสซิก้าปัดมือของเอลวินทิ้งไปตอนนี่เธอรู้สึกสับสนก่อนจะจับใจความได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่หน่วยสำรวจต้องออกไปข้างนอกแล้วเจคก็ลากเธอออกมาด้ยเหตุผลบางอย่างซึ่งมันคงมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเอลวินไม่มากก็น้อย

         เวลาผ่านไปได้สักพักเจสซิก้าหลับตาสงบจิตใจ ก่อนจะมองตาคนตัวสูงกว่าด้วยแววตานิ่งเฉย และเย็นชาแต่ในใจกลับรู้สึกว่าควรพูดอะไรบางอย่างเพื่อให้เป็นกำลังใจสำหรับการออกสำรวจพรุ่งนี่

         "ขอให้โชคดี..สำหรับพรุ่งนี่"

         ให้ตายสิทำไมฉันต้องอายด้วยกะอีแค่พูดอวยพรส่งๆไปเนี่ยนะ!?

         "เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ"

         เพราะเสียงมันเบาไปและอีกฝ่ายตัวเล็กเกินไปเนื่องจากยังอยู่ในวัยรุ่นเอลวินย่อตัวลง สองมือจับมือเล็กเพื่อไม่ให้หนีไปไหนใบหน้าสวยคมลึกลับขึ้นสีแดงอย่างเขินอายไปทั้งหน้าเอลวินมองอย่างตกใจกับสิ่งที่เห็น

         "ก็บอกว่าขอให้โชคดีไงคะ!! ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ!!!"

         เจสซิก้าที่อยากจะวิ่งออกไปจากตรงนี่รีบตะโกนออกมาอย่างดังก่อนจะวิ่งไปยังโรงอาบน้ำเพื่อเตรียมเข้านอนเอลวินมองคนวิ่งหนีอย่างเอ็นดู

         เจสซิก้าที่ปลีกตัวมาอาบน้ำมาเข้านอนก่อนใครก่อนจะจับสัมผัสได้ว่ามีคนกอดจากด้านหลังซึ่งไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นแอนนี่ เจสซิก้าที่สงบจิตใจที่แตกกระเจิงไปก่อนหน้านี่ได้แล้วหันไปกอดแอนนี่ที่เป็นเหมือนน้องสาวคนหนึ่งก่อนที่จะแยกกับไปเข้าสังกัดหน่วยอื่นๆ

         



         

         วันต่อมาวันแห่งโชคชะตาที่จะเป็นการเปิดม่านที่แท้จริงก็มาถึงเจสซิก้าได้อยู่กลุ่มเดียวกับพวกไรเนอร์ตามเคย และยังมีคนอื่นอีกสามสี่คนเจสซิก้าทำความสะอาดกระบอกปืนใหญ่ไปตามหน้าที่ตาเหลือบไปเห็นเบลทรูทที่กำลังจะใชุ้ปกรณ์สามมิติโดยอ้างว่าจะไปซ่อมกำแพงตรงส่วนที่มันชำรุดท่ามกลางเสียงคัดค้านของเพื่อนๆ 

         "ปล่อยเบลทรูทคนขยันไปเถอะ พวกนายถ้าว่างมากก็มาช่วยฉันล้างกระบอกปืนซะไม่อย่างนั้นฉันไปฟ้องผู้บังคัญว่าพวกนายไม่ทำงานตามหน้าที่"

         เหล่าคนที่เคยพูดห้ามเบลทรูทก็รีบแยกตัวกันไปออกไปเมื่อได้ยินคำว่าผู้บังคับบัญชาไม่มีใครอยากถูกทำโทษเท่าไรหรอกเว้นเสียว่าคนที่ว่านั้นจะจิตไม่ปกติ

         ".....เบลทรูทนายจะทำอะไรก็รีบทำซะ ฉันช่วยได้แค่นี่แหละ"

         เบลทรูทมองเจสซิก้าอย่างระแวงก่อนจะใช้อุปกรณ์สามมิติมุ่งหน้าไปยังกำแพงส่วนที่ยืนออกมาจากกำแพงวอลมาเรีย เพราะตามแผนการแล้วการบุกเข้ากำแพงต้องใช้เหล่าไททันเข้าช่วยจึงต้องไปพื้นที่ที่มีไททัน แอนนี่ที่ปลีกตัวหายไปตั้งแต่ต้นก็คงเพื่อไปใช้เรียกไททันให้ร่วมตัวยังจุดเป้าหมาย ทำให้คนที่ยืนอยู่พื้นที่เดียวกับเจสซิก้าในตอนนี่มีเพียงแค่ไรเนอร์

         "ขอบใจนะที่ช่วยพูดให้ เท่านี่ก็ทำให้ฉันมั่นใจแล้วว่าเธอเป็นพวกเดียวกับพวกเราไม่ใช่เจ้าปีศาจพวกนั้น"

         ไรเนอร์พูดขอบใจแววตากลับไปเป็นไรเนอร์ที่เป็นนักรบคนที่ถูกปลูกฝังว่าชาวเอลเดียที่อยู่ในกำแพงคือปีศาจที่ต้องกำจัดให้หมด

         ช่างน่าตลกไรเนอร์นายรู้ตัวรึเปล่าว่าในสายตาของคนในกำแพงนายก็ไม่ต่างอะไรไปจากปีศาจหรอก แต่ถึงอย่างนั้นเหล่าทหารที่เคยนอนใต้หลังคาเดียวกับนายก็คงไม่ต่างไปปีศาจในสายตาของนายเลยสินะ

          ไรเนอร์อดกลัวไม่ได้เมื่อได้เห็นสีหน้าของลิน่าที่ต้องมองมาที่ตน มันเหมือนกับผู้หญิงคนนั้นทั้งแววตาที่มืดดำนั่น และรอยยิ้มที่เหมือนเยาะเย้ยและยินดีกับอะไรสักอย่างนั่น

         "ไรเนอร์ ฉันจะบอกอะไรดีๆให้อย่างหนึ่งนะพวกเราทุกคนต่างก็เป็นปีศาจกันทั้งนั้น"

         ใช่แล้วไม่ว่าใครต่างก็เป็นปีศาจกันทั้งนั้น

         ตูม!!!!!!


         เสียงระเบิดที่บอกว่าเบลทรูทได้แปลงร่างเป็นไททันมหึมา สร้างความตกใจให้แก่ทหารฝึกหัดคนอื่นๆ ทุกคนต่างตกใจและจ้องมองไปยังร่างใหญ่ยักษ์ของไททันมหึมาที่ปรากฏอยู่ตัวกำแพงที่เป็นส่วนที่ยืนออกมาจากกำแพงวองมาเรีย เจสซิก้าที่สัมผัสได้ถึงความวาดกลัวจากทุกรอบทิศแทบจะดับความกระหายเลือดไม่ทัน เมื่อทหารฝึกหัดต่างตั้งสติกันได้แล้วก็รีบถามหาแอนนี่และเบลทรูทที่หายไปทันที จนกระทั้งเหล่าทหารรักษาการณ์ขึ้นมาตามทหารฝึกหัดให้ไปประจำจุดของตนเอง ก่อนที่มาร์โคที่สังเกตเห็นว่าบอกว่าแอนนี่กับเบลทรูทหายไป

         แย่ละสิ อย่างนี่มันก็จะไม่สนุกนะ

         "ขอโทษนะคะ ช่วยหันมามองทางนี่หน่อยคะ"

         ทุกคนหันไปมองเจสซิก้า เจสซิก้าใช้พลังสะกดจิตต่อหน้าไรเนอร์ทันที ทหารต่างยืนแข็งค้างราวกับว่าถูกแช่แข็งเอาไว้

         "นี่มันอะไรกัน" ไรเนอร์ถาม

         "มันเป็นพลังอย่างหนึ่งของฉัน ถ้านายไม่อยากเจอแบบนี่ก็อย่ามายุ่งกับฉันให้มากแล้วกัน"


         แอนนี่เบลทรูทใช้อุปกรณ์สามมิติขึ้นมาก่อนจะตกใจกับสภาพของทหารที่ถูกสะกดจิต เจสซิก้าคลายการสะกดจิตทำท่าเป็นว่าแอนนี่กับเบลทรูทนั้นยืนอยู่ตรงนี่ตั้งแต่แรกแล้ว ก่อนจะไปรวมตัวกับคนอื่นๆ

         เจสซิก้าปลีกตัวออกห่างก่อนไปมุ่งหน้าไปยังที่อาร์มินกับเอเลนอยู่เพราะไม่นานหลังจากที่ทุกคนไปประจำจุดของตนเองหน่วยของเอเลนก็ถูกไททันกินจนเกือบหมด เธอไม่ต้องการจะไปช่วยคนอื่นแต่แค่อยากจะเห็นร่างไททันของเอเลนที่โผล่ออกมาจากท้องของไททัน และหากช่วยมาร์โคได้ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่จะเป็นมันสมองให้กับทีมสำรวจหากได้เข้าหน่วยสำรจละนะ 

         อย่างน้อยแอนนี่จะได้ไม่รู้สึกผิด จะช่วยมาร์โคก็ต้องหลังจากที่เหตุการณ์เติมเสบียงหลังจากนั้นก็ค่อยดึงตัวมาร์โคให้ไปอยู่กับแจน ส่วนตนเองก็ไปสมทบกับพวกไรเนอร์ แต่ตอนนี่ตัวเองขอดูเอเลนอาละวาดเพื่อความบังเทิงใจเล็กน้อย

         เจสซิก้าตามเอเลนจนกระทั้งไปถึงตรงจุดที่มิคาสะยืนอาลัยอาวรอยู่และอาร์มินก็พามิคาสะขึ้นไปบนหลังคาตามด้วยพ่อหนุ่มญาติครูฝึกที่หัวเหม่งเหมือนกัน ทั้งสามคนโต้เถียงกันบางอย่างจนกระทั้งอาร์มินกำลังแบ่งแก๊สให้มิคาสะ เจสซิก้าจึงใช้อุปกรณ์สามมิติบินขึ้นไปอย่างเนียนๆว่ามาจากที่อื่น

         "นี่มัวทำอะไรกันอยู่ พวกเราควรรีบไปที่ศูนย์บัญชาการเพื่อเติมเสบียงสิ"

         "พอดีเลย!! นี่เธอช่วยแบกอาร์มินไปที่ศูนย์บัญชาการหน่อยสิ"

         โคนี่ชี้ไปทางอาร์มินที่กำลังถือใบมีดที่หักอยู่ เจสซิก้ารู้ดีว่าอาร์มินคิดจะทำอะไรจึงรีบเดินไปหยิบใบมีดออกมาจากมือสองมือจับไหล่แน่น

         "ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี่ฉันอยู่ที่นี่แล้วเพราะฉะนั้นพวกเรารีบไปเติมเสบียงที่ศูนย์บัญชาการได้แล้ว"

         อาร์มินที่จำเจสซิก้าไม่ได้รีบหันหน้าไปทางไททันเอเลน ก่อนจะพูดแผนในหัวของตนเองออกมาเสนอเจสซิก้าทำท่าเป็นเห็นด้วยและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีโดยให้โคนี่เป็นคนแบกอาร์มินไปแทน และเจสซิก้าก็จัดการฆ่าไททันในการฟันครั้งเดียวไม่เหมือนกับผลสอบของเจสซิก้า มิคาสะที่ฆ่าไททันได้แล้วมองเจสซิก้าอย่างจับผิดทำไมคนที่มีผลสอบระดับกลางๆถึงสามารถทำได้ดีในตอนนี่ แถมเหมือนว่าจะดีกว่าตนเองอีกเสียด้วย

         "อย่ามัวแต่มองฉันสิมิคาสะ จุดหมายอยู่ตรงหน้าแล้วนะ!!"

         มิคาสะรีบหันไปทำหน้าที่ของตนเองทันทีคือการหลอกล่อไททันเอเลนไปยังศูนย์บัญชาการ เมื่อถึงจุดหมายเจสซิก้าพุ่งเข้าไปทางหน้าต่างเช่นเดียวกับโคนี่และมิคาสะอาร์มิน

         โคนี่อธิบายพรีเซนต์ไททันที่ฆ่าไททันด้วยกันเองบางคนก็ไม่อยากเชื่อแต่พอมิคาสะยืนยันว่ามันเป็นจริงและต้องใช้ประโยชน์ได้แน่ๆจากมันทุกคนจึงยอมรับฟังแต่โดยดี เจสซิก้าลุกขึ้นมาปัดเศษกระจกตามตัวทิ้งไปก่อนจะไปร่วมกลุ่มกับคนอื่นๆ 

         "ลิน่า"

         ไรเนอร์เรียกหญิงสาวอย่างเสียงเรียบไม่มีความเป็นห่วง ดีใจหรือเสียใจ มีแต่ความสงสัยและระแวงเจสซิก้ามองไรเนอร์ด้วยสายตาทิ่มแทงไรเนอร์ที่รับรู้ได้จึงไม่พูดะไรออกไปมากกว่านี่เพราะยังจำคำขู่ของลิน่าได้ และด้วยใบหน้าของลิน่าที่เหมือนกับผู้หญิงคนๆนั้นผู้หญิงที่พูดบางอย่างแปลกๆที่มีแต่ความน่าขนลุก

         แอนนี่ เบลทรูท ไรเนอร์อยู่จับกลุ่มอย่างชัดเจนเจสซิก้ามองอย่างเฉยๆ ทำตัวแนบเนียบไปกับสถานการณ์ทำตามแผนของอาร์มิน และจนเกือบสุดท้ายเมื่อเห็นว่ามาร์โคเติมแก๊สเสร็จเรียบร้อยและกำลังแยกตัวออกมาจากแจนเพราะต้องไปร่วมหน่วยกับไรเนอร์ เจสซิก้ารีบมาขวางทางทันที

         "เธอมีอะไรรึเปล่า?"

         แทบไม่มีใครจำตัวตนของคนที่ชื่อลิน่าได้ เพราะเจสซิก้าฝึกการใช้พลังสะกดจิตเบาๆทุกๆวันในค่ายฝึกในระยะกว้าง มาร์โคที่จำได้แค่ว่าเป็นคนที่มักจะอยู่กับแอนนี่จึงถามอย่างแปลกใจในขณะที่คนอื่นต่างไปร่วมหน่วยร่วมกลุ่มของตนเองหมดแล้ว

         "ไปรวมกลุ่มกับแจนซะ เดียวฉันไปรวมกลุ่มกับไรเนอร์เอง"

         และอีกครั้งที่เจสซิก้าสะกดจิตมาร์โคให้คิดว่าตนเองกำลังเดินไปหาแจน ก่อนจะไปรวมกลุ่มกับไรเนอร์การกระทำในครั้งนี่จะทำให้แอนนี่ไม่มีอุปกรณ์ของมาร์โคมาทำให้อาร์มินสังเกตเห็นแอนนี่จะได้ไม่รู้สึกเสียใจกับการกระทำของตนเอง และเจสซิก้าก็คิดเอาไว้แล้วเช่นกันว่าจะนำอุปกรณ์ของคนอื่นไปให้แทน 

         เจสซิก้าไปรวมกลุ่มกับไรเนอร์หลังจากที่เอเลนปรากฎตัวออกมาแล้ว โดยอ้างว่ามาร์โคนั้นรู้สึกไม่ดีเท่าที่ควรตนเองจึงมาแทนตำแหน่งจนกว่ามาร์โคจะดีขึ้น

         ทหารรักษาการณ์เรียกรวมพลทหารฝึกหัดหลังจากเอเลนปรากฎตัวออกมาไม่นานนักพร้อมกับสั่งให้ปิดเรื่องนี่เป็นความลับ เจสซิก้าที่ในตอนนี่คิดแต่เรื่องออกไปดูหน้าตาของเอลวินว่าจะทำหน้ายังไงเมื่อรู้ว่ากำแพงถูกบุกอีกครั้งรีบเดินหลบทหารคนอื่นเพื่อไปเฝ้าดูทหารหน่วยสำรวจที่กำลังถูกเรียกตัวกลับมาแต่ก็ถูกแอนนี่จับแขนเอาไว้ไม่ให้ไปไหน

         "ตอนนี่ไม่ใช่เวลาจะไปสูบบุหรี่นะ อีกเดียวพวกเขาก็จะเรียกแล้ว"

         "...ช่างสิเพราะว่ายังไงแค่ทหารฝึกหัดหายไปคนหนึ่งก็ไม่มีสนใจหรอก"

         "ถ้าอย่างนั้นฉันไปฟ้องผู้บัญชาการว่าเธอละเลยหน้าที่ของทหาร"

         ไรเนอร์เข้ามาพูดอีกคน เจสซิก้ารู้ว่าไรเนอร์ทำจริงแน่นอนเพราะไรเนอร์เป็นคนสองบุคลิก และไรเนอร์ที่เป็นทหารคงจะทำอย่างที่พูดจริงๆ ถ้าไม่อยากมีประวัติเสื่อมเสียในการเป็นทหารก็ควรทำตัวตามระเบียบวินัย ทุกคนถูกเรียกไปรวมพลเพื่อฟังแผนการอุดกำแพงจากผู้บัญชาการพิซิค เจสซิก้ากลั้นหัวเราะเมื่อนึกมุขตลกในอินเทอร์เน็ตที่เป็นมุขของผู้บัญชาการพิซิค แอนนี่ไรเนอร์ที่อยู่ข้างๆมองอย่างแปลกใจว่าในสถานการณ์เช่นนี่มันเรืองอะไรให้น่าขำกัน มาร์โคถูกแจนไล่ให้ไปยังห้องพยาบาล เพราะมาร์โคมีอาการแปลกๆ มิคาสะอาร์มินได้ทำหน้าที่คอยปกป้องเอเลน คนอื่นๆถูกมอบหมายให้คอยหลอกล่อไททันไปจากเอเลน แต่คำสั่งที่ว่าไม่ค่อยจะมีผลเท่าไรนักสำหรับเจสซิก้าที่ไล่ฟันไททันอย่างบังเทิญใจไปพร้อมกับการทดสอบพลังของตนเองว่าจะสามารถควบคุมไททันได้หรือไม่


         "ลิน่าทำไมตาของเธอถึงเป็นสีแดงอย่างนั้นละ"

         แอนนี่ถามเจสซิก้าที่นั่งมองไททันอยู่ตัวหนึ่งซึ่งมันไม่ขยับไปไหนผิดกับตัวอื่นๆ ไรเนอร์กับเบลทรูทต่างก็สังเกตเช่นเดียวกัน เจสซิก้าชี้นิ้วไปที่ไททันตัวนั้น

         "ดูให้ดีๆนะแอนนี่"

         ไททันตัวนั้นรีบวิ่งไปหาเอเลนในร่างไททัน ให้เหมือนกับว่าเป็นพวกวิปริตหากสังเกตดีๆตาของไททันตัวนั้นก็เป็นสีแดงเช่นเดียวเพียงแค่มันไม่ชัดเจนเท่ากับของเจสซิก้า แอนนี่มองอย่างตกใจเพราะนั้นแปลว่าเจสซิก้าสามารถควบคุมไททันได้

         "อึก...ดูเหมือนว่าฉันจะสามารถควบคุมได้เพียงแค่ตัวเดียวนะ"

         "ลิน่าเลือด!"

         แอนนี่หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากตาข้างหนึ่ง ไททันตัวนั้นถูกมิคาสะจัดการในทันที ไรเนอร์กับเบลทรูทเข้ามาดูอาการ

         "เธอมีพลังนี่ตั้งแต่เมื่อไร?"

         "....ตั้งแต่เกิดนะ ฉันชอบทดสอบพลังของตัวเองทุกครั้งที่มีโอกาส"

         เจสซิก้าคืนผ้าเช็ดหน้าให้แอนนี่ไปก่อนจะทำการฟื้นฟูสภาพดวงตา เพราะเอะใจตอนที่เจคบอกว่าตนเองสามารถใช้พลังดวงตาสะกดให้คนอื่นทำตามคำสั่งโดยที่ไม่ตั้งใจ ถึงจะเป็นควบคุมส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจอยู่ดีที่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ เจสซิก้าจึงไปทดสอบกับคนในค่ายและตอนนี่เธอก็ได้มีโอกาสมาทดสอบกับไททัน

         "ตาฉันแดงมั้ย"

         "มีคราบเลือดติดอยู่นิดๆนะ"

         แอนนี่บอกตำแหน่งคราบเลือดให้เจสซิก้า บรรยากาศรอบตัวของเจสซิก้าดูผ่อนคลายแบบแปลกๆจนกระทั้งพลุสัญญาภารกิจได้เริ่มต้นขึ้นนั้นถูกยิงขึ้นมา 

         "หลังจากนี่พวกนายยังมีโอกาสที่จะกลับไปนะ กลับไปหาหัวหน้านักรบแล้วคิดแผนการใหม่ก่อนที่จะได้เจอกับนรกของจริง"

         เจสซิก้าพูดเตือนทุกคนเพราะว่าทุกคนในที่นี่เป็นคนดีมีเหตุผลของตัวเอง เพียงแต่ว่าคำตอบนั้นมันก็ถูกล็อคเอาไว้อยู่แล้วว่าทุกคนจะตอบกลับมาว่าอะไร

         "ไม่ลิน่า ขอบใจที่เป็นห่วงนะแต่พวกเราต้องทำภารกิจให้สำเร็จให้ได้"



    (แนะนำให้เปิดเพลงเพื่ออรรถรสในการอ่าน)


         ไรเนอร์พูดปฏิเสธความหวังดี เจสซิก้ายิ้มอย่างนึกตลกกับไรเนอร์ทั้งๆที่มีโอกาสตั้งหลายครั้ง และตนเองก็ยืนโอกาสให้ตั้งสองครั้งแต่ไรเนอร์กลับยึดติดกับสิ่งที่เรียกว่าเป้าหมายมากเกินไป หากใจเย็นคิดพิจารณาถึงนิสัยของซีคสักนิดก็คงรู้อยู่แล้วแท้ๆว่าควรจะทำยังไง 

         "งั้นเหรอ งั้นหลังจากนี่ก็ขอให้พวกนายโชคดีนะ"


         เจสซิก้าลุกขึ้นเพื่อไปสมทบกับหน่วยอื่นๆที่ทำหน้าที่หลอกล่อไททัน ตอนนี่ตนเองก็เล่นมามากแล้วไปช่วยสักนิดหน่อยจะเป็นอะไรไปโดยไม่สนใจเสียงโต้แย้งของไรเนอร์

         "ไรเนอร์ฉันไม่ใช่พวกเดียวกับนาย และฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉันนายน่าจะเห็นแล้วนะว่าแผนการบุกรุกกำแพงมันล้มเหลวแล้ว"

         ไรเนอร์เงียบลงในใจก็ไม่อยากยอมรับ แต่การที่เอเลนเป็นไททันเป็นเรืองที่เกินความคาดหมาย จึงต้องหยุดมือเพียงเท่านี่เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้างเอเลนก็แปลงเป็นไททันแล้วหากแต่ยังคงไม่มีกรเคลื่อนไหว เหล่าทหารกองรักษาการณ์ต่างสละชีวิตโดยการลงไปวิ่งล่อไททันแม้จะกลัวตายมากแค่ไหนก็ตาม

         ฉับ 

         เพราะฉันไม่อยากรับบทเป็นผู้ที่ยอมสละชีวิต เลยรับบทเป็นคนที่คอยจัดการกับไททันที่กำลังกินพวกทหารกองรักษาการณ์

         "นี่เธอนะ ไปคุ้มกันเอเลนที!"

         ทหารคนหนึ่งบอกฉัน ฉันมองพวกเขาทำหน้าที่ทั้งสิ้นหวังและมีความหวังในเวลาเดียว

         ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ถ้าอยากจะปกป้องเอเลนทำไมถึงไม่สู้ แล้วทำไมถึงยังปล่อยให้ตัวเองต้องตายด้วย ฉันกำดาบในมือแน่นอย่างขุ่นเคือง

         ชีวิตของคนเรามันไม่ได้มาอย่างง่ายๆน่ะ 

         "งั้นพวกคุณก็สู้ซะสิ ไททันมันมีสรีระร่างกายเหมือนกับเราตัดเอ็นเท้าแล้วค่อยฆ่าก็น่าจะได้นี่คะ"

         ฉันชี้ดาบไปที่ไททันสองตัวที่กำลังเดินเข้ามาหาเพราะตรงจุดที่พวกเรายืนมันมีคนอยู่ค่อนข้างเยอะ

         "อย่ามัวแต่คิดที่จะสละชีวิต ลุกขึ้นสู้แล้วมีชีวิตรอด!จงเป็นส่วนหนึ่งของชัยชนะไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของการสูญเสีย!!"

         

         พูดเสร็จเจสซิก้าวิ่งไปที่ไททันสองตัวไม่ใช่เอเลนเพราะยังมีหน่วยอื่นๆคุ้มกันอยู่ ไททันสองตัวล้มลงในดาบเดียวเจสซิก้าวิ่งไปตามหลังคาเพื่อตามไล่ฆ่าไททันที่เหลือ ทหารรักษาการณ์ที่ได้เห็นต่างก็ฮึกเหิมพยายามฆ่าไททันที่อยู่รอบๆเอเลน ไม่ใช่ลงไปวิ่งล่อไททันอาร์มินมองทหารรักษาการณ์ที่ไล่ฆ่าไททันทีละตัวๆอย่างไม่เข้าใจ เพราะตามแผนสิ่งที่ต้องทำคือการล่อไททันออกไปจากเอเลนไม่ใช่หรือไง

         ใช่แล้ว ลุกขึ้นสู้ แล้วจงมีชีวิตรอดซะนั่นแหละถึงจะถูกต้อง

         เพราะว่าพวกเราต่างก็เป็นปีศาจกันทั้งนั้น!


         เลือดของไททันสาดกระเด็นโดนหน้าของเจสซิก้าแล้วยังไงล่ะเธอไม่สนหรอก เสียงร้องของคนที่ทรมานเพราะถูกไททันกิน เสียงร้องของคนที่ยังไม่ยอมแพ้แม้จะต้องตายก็ตาม หากจะตายก็ขอตายอย่างสมศักดิ์ศรี

         ไททันขนาด 14 เมตรแบกหินก้อนโตสร้างความหึกเหิมให้กับทหารกองรักษาการณ์เข้าไปอีก เพราะนั่นหมายความสิ่งที่พวกเขาทำอยู่มันไม่ได้สูญเปล่า ใช่แล้วสีหน้าแบบนั้นต่างหากที่ฉันอยากจะเห็น สีหน้าของคนที่ต่อให้ต้องแลกตัวชีวิตก็จะไม่มีวันยอมแพ้และจะไม่ยอมตายเป็นอันขาด

         ลุกขึ้นสู้สิ

         เสียงฝีเท้าหนักดังขึ้นของเอเลนราวกับกลองปลุกใจ

        ลุกขึ้นสู้สิ อย่าเอาแต่วิ่ง!

         ลุกขึ้นสู้แล้วจงกลายเป็นปีศาจให้ยิ่งกว่าพวกไททันซะ!!

         ตึง!!!!

         เสียงของก้อนหินที่อุดรูไปที่กำแพงนั้น ทำให้คนที่เห็นรู้สึกยินดีที่ภารกิจอุดประตูสำเร็จหลายคนอดตะโกนออกมาอย่างดีใจไม่ได้ต่อให้มีไททันกำลังเดินมาหาก็ตาม ริโกะหัวหน้ากองกำลังรักษาการยิงพลุสัญญาสีเขียวทั้งน้ำตาเพื่อส่งสัญญาณว่าภารกิจสำเร็จแล้ว เจสซิก้าแอบรู้สึกเสียดายนิดๆที่ทุกอย่างจบลงอย่างง่ายดาย แต่ก็ช่างเถอะ

         เสียงอุปกรณ์เคลื่อนที่สามมิติดังมาจากทิศทางอื่นที่ไม่ใช่ตรงส่วนประตู เจสซิก้ามองคนที่มุ่งหน้าซึ่งพวกเขาใส่ผ้าคลุมหน่วยสำรวจ

         ตุบ!

         และเป็นเรื่องที่เจสซิก้าตนเองควรจะชินได้แล้ว แบล็กกระโดดใส่จนตัวเองร่วงลงจากหลังคาอย่างแรงหากแต่มันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อร่างกายหน่วยสำรวจต่างช่วยกันกำจัดไททันที่อยู่ในกำแพง หลังจากที่เอเลนอุดประตูได้แล้ว 

         เจสซิก้านอนเหมือนคนหมดแรง ลูบหัวเจ้ากระต่ายยักษ์ตามองท้องฟ้ารำลึกถึงวันเก่าๆถึงจะไม่ใช่ท้องฟ้าเดียวกัน ไม่ใช่สีเดียวกัน แต่ไม่ว่าจะที่ไหนก็ไม่ต่างกันหรอก

         ทุกคนต่างเผ่าพันธ์ต่างสายเลือด ต่างที่มา แต่สิ่งที่เหมือนกันคือความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อบางสิ่งบางอย่าง

         เจสซิก้าหลับตาเพราะเรื่องในวันนี่ได้จบลงแล้ว แผนการบุกกำแพงของไรเนอร์ล้มเหลว เอเลนก็จะกลายเป็นจุดชนวนที่สำคัญหลายอย่าง แบล็กเอาจมูกมาถูหน้าคนหลับเพราะรู้สึกว่าวันนี่เจสซิก้าดูแปลกไปเจสซิก้าเอามือจับหัวเพื่อให้หยุด

         เสียงอุปกรณ์เคลื่อนที่สามมิติของใครบางคนเคลื่อนที่ลงมาหา เจสซิก้าจงใจไม่ลืมตาจมูกได้กลิ่นที่คุ้นเคยตอนนี่เธอเองก็รู้สึกเหนื่อยใจ ร่างกายถูกอุ้มขึ้นอย่างเงียบๆเหมือนกับว่าไม่มีคนอื่นนอกจากเธอและเขาในตอนนี่ ตอนนี่ฉันรู้สึกว่าฉันไม่มีพลังที่จะลืมตามามองสิ่งที่เกิดขึ้นเลย หากเป็นไปได้ก็อยากจะหลับแบบนี่ไปตลอดกาล

         







    ตอนแรกใส่โค้ดเพลงไม่โอเคอะ เลยใส่วิดีโอลงไปซะเลยส่วนตัวชอบเพลงนี่มาก 
    เพราะมันให้ความรู้สึกค่อนตรงกับตัวละครในเรื่องนี่หลายๆคน ถึงขั้นมาโหลดใส่โทรศัพท์เลยค่ะ5555555



         

         

         


        


        

         

         

         






          

        


         

          


        


         


        

        



        




         


        

          

           

            

          

         
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×