ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : :: KY :: You are my best thing :: 100%
You are my best thing
"หวังหยวนเร็วๆสิลูกพี่เค้ารอนานแล้วนะ"
"หวังหยวนเร็วเข้า จะไปรร.สายแล้วนะลูก"
"หวังหยวน....."
"แม่หยุดเรียกสักที! ผมรู้แล้วรีบอยู่เห็นมั้ยเนี่ย" ปากแดงๆยู่พลางใส่ถุงเท้าไปด้วย
"เอ้าลูกคนนี้่นี่ก็พี่เค้ารอนานแล้ว"ย้ำอีกทีเผื่อว่าเจ้าลูกชายตัวดียังไม่เข้าใจ
"ปล่อยให้รอไปเหอะ ก็รออยู่ทุกวันน่าจะชินได้แล้วนะ"
"พูดอะไรแบบนี้เดี๋ยวตีตายเลย ไปๆๆ รีบไป"พูดแล้วยกมือขึ้นเหมือนจะตีจริงๆ
"ค้าบๆ หวัดดีครับแม่ ไปล้ะ"เจ้าตัวแสบรีบโบกมือแล้ววิ่งฉิวออกไปก่อนจะโดนตีสักป้าบสองป้าบ
"นานตลอด"เจ้าของนัยตาคมพูดพลางมองเจ้าเด็กตาใสทีวิ่งยิ้มร่าออกมาจากบ้าน
"คนมันหล่อก็ต้องนานหน่อยสิ"พูดพลางยืดอกอย่างภูมิใจ
"เพ้อเจ้อแต่เช้า รีบขึ้นมาจะสายแล้ว"เร่งอีกคนเพราะมันจะสายแล้วจริงๆ
"บ่นแต่เช้าเลย"
"ห๊ะ? ว่าไงนะ"
"ป๊าววว ขี่ไปน่าเร็วๆสิจะสายแล้วนะ" ทำไม้ทำมือโบกให้อีกคนรีบขี่ไปเร็วๆ
"เออ จำไว้ไม่บอกนะ"คาดโทษพลางออกแรงถีบแล้วจักรยาน
"รอนานป้ะ"เสียงใสๆดังขึ้น ยังเช้าอยู่แต่ทำไมแดดร้อนจังนะ
"นาน"
"งั้นก็รอต่อไป ฮิฮิ"
"วันหลังจะไม่รอและ"
"เห็นพูดอย่างงี้ตลอด แต่นายก็รอใช่มั้ยล่ะ"
"ทำเป็นรู้ดี หึหึ"
"ฉันรู้ตลอดแหละ"
......................XXXXX......................
"วันนี้เลิกกี่โมง" หันไปถามคนตาใสที่ยืนจัดกางเกงกับเสื้อนักเรียนให้เข้าที่หลังจากเอาจักรยานไปเก็บ
"วันนี้เลิกเย็นเป็นเวรทำความสะอาดอ้ะ รอป้ะ"
"อืม เดี๋ยวเล่นบาสรอแล้วกัน"รับคำพร้อมกับหยุดอยู่หน้าห้องเรียนฉันม.2/2 พอดี
"ฮิ้วววววว แฟนมาส่งอีกแล้วเหรอหวังหยวนอ่า"เสียงโห่แซวดังมาจากในห้องเรียน ไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าเป็นใคร
"เก็บปากไว้แตกตามธรรมชาติดีกว่ามั้ยจื้อหง" หันไปกัดเพื่อนรักแล้วหันกลับมาสบตาคมที่ยืนยิ้มจนเห็นเขี้ยว
"นี่ก็ปล่อยให้มันแซวตลอด หัดพูดอะไรซะบ้างสิ ไปๆ ไปห้องนายได้แล้ว"โบกมือไล่อีกคนพลางทำปากยู่ใส่
"ฮ่าๆๆ ขำๆน่า ตั้งใจเรียนล่ะ เจอกันตอนเย็น"พูดพลางจับหัวอีกผ่ายโยกไปมาแล้วเดินออกไป
"สวีทแต่เช้า โอ้ย! หวังหยวนอ่า ฉันเจ็บ"พูดพลางลูบตรงที่โดนอีกคนหยิกป้อยๆ
"สม ปากพล่อยดีนัก เลิกสักทีเหอะ ฉันกับพี่จุนไคไม่ได้เป็นอะไรกันเว้ย"
"จ้าาาา เชื่อจ้ะ คนเค้าเชื่อกันทั้งบาง"
"แกพูดอย่างงี้เดี๋ยวสาวๆฉันหายหมด"
"โอ้ยยยยย หนังหน้าอย่างแกเนี่ยยยยนะะะะ"พูดพลางจับแก้มของเพื่อนรักดึงไปมา
"โอยยยยย ปล่อยยยยย!"ร้องพลางสะบัดหน้าตัวเองออกจากมือไอ้เพื่อนรักทันที เจ็บนะเนี่ยดึงมาได้ = =
"ว่าแต่ ยืมการบ้านลอกหน่อยดิ่"พูดแล้วทำท่าอ้อนส่งสายตาปิ้งๆใส่ ผมรี่ตามองแล้วเชิดปากขึ้น
"ไม่! ให้!" สองคำสั้นๆง่ายๆ แต่ทำเอาจื้อหงน้ำตาแทบไหล T_T
"โห่ ไมอ้ะ! ให้เถอะนะๆๆๆ นะหวังหยวนอ่า หวังหยวนคนหล่อ แสนดูดี เท่ด้วยเลยเอ้า!"ขุดคำมาชมพลางเกาะแขนเล็กๆของเพื่อนรักเขย่าอย่างเอาเป็นเอาตาย
"หึหึหึ ให้มันรู้ซะบ้าง อ้ะเอาไป"เอาสันสมุดตีหัวจื้อหงไปหนึ่งทีโทษฐานสงสัยในความหล่อของผมก่อนยื่นให้ อีกคนรับสมุดไปทำท่าดี๊ด๊าแล้วลงมือลอกอย่างรวดเร็ว
......................XXXXX......................
"ฉันกลับก่อนนะหยวน เจอกันพรุ่งนี้"จื่อหงหันมาร่ำลาพร้อมกับสะพายกระเป๋าขึ้นบ่า
"อื้อ เจอกัน"โบกมือลาเพื่อนหยอยๆแล้วเดินเลี้ยวไปอีกทางมุ่งตรงไปยังสนามบาส
"เฮ้ยจุนไคแฟนแกมาแล้วว่ะ ฮ่าๆๆๆ"เจ้าของชื่อหันหน้าไปตามทางที่เพื่อนบอก แล้วก็เห็นคนตัวขาวเดินเข้ามาในสนามบาส
"รอแปปนึงนะ!"ตะโกนบอกพลางส่งบาสคืนให้เพื่อนที่ยังแซวไม่หยุด แต่ก็นะผมไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไร
"ช้าสุดๆ"ปากแดงๆขยับยู่พลางกอดอกมองคนที่เหงื่อเต็มตัว
"ช้าที่ไหน ทีฉันรอนายตั้งนานยังไม่บ่นเลย ไปๆกลับบ้าน"พูดพลางจับแขนอีกคนให้ลุก
"เฮ้ยยยย! จุนไคเบาๆกับน้องหยวนของพวกกูหน่อยดิ่วะ"เพื่อนคนเดิมในกลุ่มบาสของผมตะโกนมาจากกลางสนาม ผมทำปากเป็นคำว่า "ฟาย" แบบไม่มีเสียงคืนไป เรียกเสียงฮาจากเพื่อนได้เป็นอย่างดี
"กินอะไรก่อนป้ะ"คนตัวสูงถามคนที่ซ้อนท้ายระหว่างทางกลับบ้าน
"ไม่อ้ะ อยากกลับบ้าน อยากนอน"ส่ายหัวไปมาพ้อมกับกระชับกระเป๋าที่เหมือนจะตกขึ้นบ่า
"นอนตลอด"
"บ่นตลอด"ว่าพลางยู่ปาก คนตัวสูงหัวเราะในลำคอแต่ก็ไม่ได้เถียงกลับอะไร ก็นะเถียงไปก็ไม่ชนะหรอกเชื่อผมสิ
"แล้วก็อย่านอนดึกล่ะ"
"คร้าบพ่อ เอ้ย! พี่"พูดพลางยิ้มทะเล้นใส่อีกคน
"อย่ามาตลก ไปๆเข้าบ้าน"โบกมือไล่อีกคนพร้อมกับมองคนที่โบกมือบายๆแล้วปิดประตูบ้าน หันมาสนใจจักรยานแล้วปั่นมันกลับบ้าน
......................XXXXX......................
Rrrrrrrrr Rrrrrrr
"ว่าไง"
'หวังหยวนนน ช่วยฉันด้วยยยยย' น้ำเสียงเพื่อนรักโหยหวนมาตามสาย ปากแดงๆยกยิ้มพร้อมกับกรอกเสียงกลับไป
"มีเรื่องอะไรว่ามา เดี๋ยวสุดหล่อจะช่วยเอง ฮ่าๆๆๆๆ"
'ไม่อยากบอกก็ตรงเนี้ย'
"อย่ามาเรื่องมาก เอ้ามีอะไรก็ว่ามาสิ"
'พรุ่งนี้ฉันคงต้องขาดเรียน พอดีมีธุระนิดหน่อย'
"ไอ้ธุระนิดหน่อยที่ว่านี่อะไร"
'เอาน่า ธุระก็คือธุระ นายช่วยบอกอาจารย์ให้ด้วยนะ โอเคขอบใจมาก บาย' แล้วสายก็ตัดไป ผมมองโทรรศัพท์แบบงงๆแล้ววางมันไว้ที่เดิม อะไรของมันฟ่ะ ยังไม่ได้ถามให้รู้เรื่องเลย เดี๋ยวเจอตัวจะซักให้ขาวเชียวหลิวจื้อหง!
Rrrrrrrrrrr Rrrrrrrrr
"ไงงงงงงงงงงง"ลากเสียงยาวแกล้งคนปลายสายที่ป่านนี้คงกำลังยิ้มอยู่
'ไม่ไงหรอกทำอะไรอยู่' เสียงทุ้มดังมาตามสาย ผมคิดหน้าเก๊กๆนั่นแล้วก็ต้องหลุดยิ้ม
"แก้ผ้าอยู่"
'เฮ้ย! จริงอ้ะ ไหนถ่ายมาให้ดูหน่อย'
"ทะลึ่ง อย่ามาตลก ทีอย่างงี้ล่ะทำเป็นเชื่อนะ"
'ฮ่าๆ ก็อยากมาล้อเล่นทำไมล่ะ เอาจริงๆ ทำอะไรอยู่'
"ทำการบ้านจะเสร็จแล้วเนี่ย"
'เหรอ แล้วทำได้มั้ย'
"ทำได้อยู่แล้ว ฮ่าๆ"ทำเสียงสูงพลางหัวเราะปิดท้ายให้ด้วย
'เหรออออ ก็ดีจะได้รีบนอน ' น้ำเสียงตรงคำว่านอนออกจะเน้นหนักนิดนึง
ตลอดดดดดด พี่หรือพ่อผมเองก็ยังสงสัย
"คร้าบๆ แล้วไม่ทราบว่าคุณพ่อ เอ้ย! คุณพี่จุนไคมีอะไรอีกไหมครับ กระผมจะไปนอนแล้ว"
' ตลกกกกก ไปนอนได้แล้ว แค่นี้แหละ'
"คร้าบๆ พรุ่งนี้มารับด้วยนะ"
'รู้แล้ว ฝันดีล่ะ ห่มผ้าด้วย'
"คร้าบผม ห่วงขนาดนี้มานอนนี่เลยมั้ยล่ะ แหม่"
'ก็จะดีนะ ฮ่าๆๆ ไปนอนๆ วางแล้วนะ'
"อื้อ ฝันดี เจอกันพรุ่งนี้"
'อือ วางล่ะนะ'
"อื้อ" แล้วสายก็ตัดไป ร่างบางลุงจากเก้าอี้มาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ดึงผ้าห่มจนถึงคอตามคำบอกของใครบางคน
นี่ผมไม่ได้กลัวเลยนะ อากาศมันหนาวเชื่อผมสิ
......................XXXXX......................
"ฮัดชิ้ว!" ผมจามออกมาพลางเอาหลังมือขยี้จมูกตัวเอง อ่าาาาา จะป่วยงั้นเหรอ
"ไม่สบายเหรอ?" สารถีรับหน้าที่ปั่นจักรยานเอียงหน้ามาถามเล็กน้อย
"ป่าว"
"จามขนาดนั้นยังมาปฏิเสธ บอกแล้วว่าให้ห่มผ้า"
"ห่มแล้วเหอะ แต่ไม่รู้ทำไมจาม สงสัยต้องมีใครว่าแน่ๆ" พูดพลางก้าวลงจากรถจักรยานแล้วยืนรอให้อีกคนเอามันไปเก็บ
"ปวดหัวหรือป่าว ตัวร้อนมั้ย"ร่างสูงวิ่งกลับมา พร้อมกับยกหลังมืออุ่นๆแตะเข้าที่หน้าผากของอีกคน
"ไม่ซะหน่อย ไม่ต้องห่วงหรอก สบายดี"เบี่ยงหน้าหนีเล็กน้อย มองหน้าอีกคนที่ทำหน้าเป็นห่วงเกินความจำเป็น ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย
"แน่นะ ถ้าเป็นอะไรรีบบอก เข้าใจ?"
"คร้าบ เข้าใจคร้าบ จะขึ้นห้องเรียนได้ยังคร้าบ"
"ไม่ต้องมาทำเสียงล้อเลียนเลย ไปๆๆ"กำมือเป็นกำปั้นทุบหัวอีกคนไปเบาๆ พลางยิ้มให้กับความทะเล้น ให้ตายสิ มันน่านัก....
"รุ่นพี่จุนไคคะ"น้ำเสียงที่ดัดจงใจให้หวานกว่าปกติดังขึ้นข้างหลัง เจ้าของชื่อชะงักฝีเท้าแล้วหันกลับไปมอง ทำให้อีกคนที่เดินข้างๆกันต้องหันกลับไปมองด้วย
"มีอะไรครับ"ถามกลับเสียงนิ่ง ตรงหน้าเขาคือผู้หญิงตัวเล็กๆผมยาวคนนึง ในมือเธอถือถุงใส่อะไรบางอย่าง
"เสี่ยวหลิงทำคุกกี้มาฝากค่ะ หวังว่ารุ่นพี่จุนไคจะชอบนะคะ"พูดพลางยื่นถุงคุกกี้ที่ถือมาด้วยให้ผม ผมชั่งใจอยู่สักพักก่อนจะหันไปมองคนข้างๆตัวที่ตอนนี้
ไม่อยู่แล้ว....
"เป็นอะไรหน้าบูดมาเชียว แฟนทิ้งอ่อ"จื้อหงเอ่ยปากแซวเพื่อนอย่างทุกที
"อ้าวเงียบ เฮ้ย เป็นไร"พอได้ความเงียบกลับมาก็เริ่มเป็นห่วงจริงๆ
"ไม่รู้! หงุดหงิด! อย่าถามมากได้ป้ะ"หันมาพูดเสียงไม่เบานักใส่ คิ้วสวยขมวดมุ่น จื้อหงที่โดนเหวี่ยงใส่ทำหน้างงเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจ
"ฉันถามดีๆนะเว้ยหวังหยวน เป็นอะไร"
"ฉัน..... ไม่รู้ว่ะ.."ตอบออกไปแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว นั่นสิ ผมเป็นอะไรไป ทำไมต้องเดินหนีออกมาก่อน ทำไมต้องรู้สึกหงุดหงิด ทำไมต้องรู้สึกแปลกๆแบบนี้ด้วย ไอ้พี่จุนไคจะมีสาวมาให้ดอกไม้ ให้ขนม หรือแม่แต่.....
..สารภาพรัก..
"เฮ้ย! หวังหยวน! หวังหยวน!! อะไรของมันวะ" สะดุ้งสุดตัวแล้วเรียกกชื่อเพื่อนรักที่อยู่ดีๆก็ลุกพรวดพราดวิ่งออกไปจากห้อง บอกตรงๆว่าคนหล่องงเลยครัช = =
"แฮกกๆๆ"
"มายืนหอบอะไรตรงนี้"
"เฮ้ย! มาได้ไง!"
"นายแหละมาได้ไง นี่ตึกเรียนเด็กม.3"
"เอ่อ... คือ....ฉัน...."
"ฮ่าๆๆ หวังหยวนนายนี่นะะะ"พูดแล้วยกมือขึ้นมาขยี้หัวผมแรงๆ
"อะไรเล่า อย่าขยี้สิผมเสียทรงหมด"ก้มหน้าพูดงุบงิบๆพลางดันมือหนาออกจากหัวตัวเอง
"ไม่ได้รับหรอก"คนตัวสูงพูดขึ้นมาลอยๆ แต่ก็ทำให้อีกคนที่ยืนก้มหน้าเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขาได้
"รับอะไร?"
"ขนมไงไม่ได้รับหรอก ไม่ชอบของหวานๆ แล้วก็ไม่ได้ชอบผู้หญิงคนนั้นด้วย"พูดพลางยิ้มจนเห็นเขี้ยวเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กกว่าที่เมื่อกี้ทำท่าหงอยๆกลับดูดี๊ด๊าขึ้นมาทันที
...ไอ้น่ารักเอ้ย...
"แล้วบอกทำไม ไม่ได้มาคุยเรื่องนั้นสักหน่อย" กอดอกพูดพลางยักคิ้วให้อีกคน
"เหรอ ไม่ได้มาเพราะเรื่องนี้จริงอ้ะ"เลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม
"จริงเหอะ นายอ้ะมั่ว"พูดพลางยักคิ้วลิ่วตาใส่
"อ้ะๆๆ ไม่ใช่ๆ แล้วมาทำไม"
"ก็..........................."ลากเสียงยาวพลางทำท่านึก ทำเอาอีกคนอดยิ้มไม่ได้
"อ่อ! จะมาบอกว่าเย็นนี้รอกลับบ้านด้วยกัน ไปล่ะ!"พูดจบก็หันหลังวิ่งกลับไปทางเดิมโดยที่ไม่ทันให้อีกคนได้ทักท้วงอะไร
ก็กลับบ้านด้วยกันทุกวันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอหวังหยวน!
"เฮ้ จื้อหงกลับ....... อ้าว ไปไหนซะแล้ว" หันซ้ายหันขวามองหาเพื่อนรักที่ตอนนี้หายตัวไปแล้ว ให้ตายสิจะไปจะมาไม่บอก เดี๋ยวนี้ทำตัวแปลกๆ
ครืดดด ครืดดด
โทรศัพท์สั่นเบาๆในกระเป๋ากางเกง ผมล้วงมันขึ้นมาเปิดดูก็ต้องเบ้ปากใส่
- จื้อหงคนเอ๋อ -
" วันนี้ฉันมีธุระ กลับก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ "
ให้ตายเถอะหลิวจื้อหง พรุ่งนี้นายต้องโดนซักฟอก!
"กลับกันได้ยัง" เสียงเรียกที่คุ้นเคยดังมาจากประตูหน้าห้อง
"เสร็จแล้วๆ ไปๆกลับๆ รออะไรอยู่" พูดพลางทำหน้าทะเล้นใส่ให้อีกคนหมันไส้เล่นๆ
"ไอ้ตัวแสบ เดี๋ยวเจอดี"พูดพลางยกมือจะทุบหัวอีกคน แต่แค่จะนะ ^^
"กลัวครับ กลัวมากกกกก" คนตัวสูงได้แต่ส่ายหน้าไปมากับความทะเล้นของอีกคน
......................XXXXX......................
" ทำไมวันนี้สาย" พึ่มพัมเป็นรอบที่ร้อย มือบางกำมือถือเขย่ามันไปมา โทรก็แล้ว ส่งข้อความก็แล้วไม่เห็นตอบกลับ นี่มันอะไรกันหวังจุนไค!!
"อ้าวหยวนๆยังไม่ไปโรงเรียนเหรอลูก"
"ก็พี่จุนไคอ่าดิ่ ยังไม่มาเลย โทรไปก็ไม่รับ"
"เค้าเบื่อที่จะมารอรับเด็กดื้ออย่างเราแล้วล่ะสิ" คำพูดของแม่ทำให้ร่างบางชะงัก
"บ้าน่า...... จะเป็นแบบนั้นได้ไง" พึมพัมเสียงเบา พร้อมกับเดินออกจากบ้านไป
คิ้วสวยขมวดมุ่นเข้าหากันตั้งแต่ออกมาจากบ้า นิ้วเรียวก็ยังโทรหาเบอร์เดิมๆซ้ำๆ แต่ก็ยังไม่มีใครรับเหมือนเดิม ข้อความก็ไม่ตอบกลับ นี่ผมชักจะโมโหแล้วนะ!
"ถ้าไม่รับสายอีกครั้งจะไม่โทรแล้วนะ!" ผมพูดใส่หน้าจอที่มีรูปผู้ชายคนหนึ่งยิ้มจนเห็นเขี้ยว ให้ตายสิน่าหมันไส้ชะมัด
ผมรอจนสายตัดไปก็ยังไม่มีคนรับ จะเล่นอย่างนี้ใช่ไหมหวังจุนไค!
แล้วอย่ามาง้อผมทีหลังนะ! จะไม่ให้อภัยเลย!
"หวังหยวนวันนี้จื้อหงไม่มาเหรอ" ถิงซินที่อยู่อีกห้องเดินมาถามผมถึงโต๊ะเรียนตอนพักกลางวัน ผมพึ่งรู้ตอนนั้นเองว่าวันนี้จื้อหงไม่มาโรงเรียน
"อ่อ คงงั้นแหละ ยังไม่เห็นเลยตั้งแต่เช้า" ผมพูดไปเรื่อย จริงๆคือผมไม่ได้สนใจอะไรเลยตั้งแต่เช้า มัวแต่โทรจิกไอ้หน้าแมวจนลืมเพื่อนรักไปเลย
"เหรอ ฉันอุตส่าห์เอาหนังสือการ์ตูนมาให้ เสียเที่ยวชะมัด"ถิงซินบ่นพึมพัมแล้วเดินออกจากห้องไป ผมมองโต๊ะที่ว่างข้างๆตัวแล้วก็นึกสงสัย ช่วงนี้จื้อหงทำตัวแปลกๆ ขาดเรียนสองครั้งอย่างไม่มีเหตุผล บอกติดธุระๆ ธุระอะไรกันทำไมบอกผมไม่ได้ แล้วอย่างงี้จะตามเรียนทันมั้ยเนี่ย
ผมละสายตาจากโต๊ะเรียนของเพื่อนรักมาที่โทรศัพท์ที่ถืออยู่
ยังไม่มีข้อความตอบกลับแม้แต่ฉบับเดียว
หวังจุนไค นายหายไปไหนกันแน่
ออดเลิกเรียนดังขึ้น มือบางกวาดของทุกอย่างลงกระเป๋า สะพายมันขึ้นหลังแล้วเดินออกจากห้อง แปลกๆแหะเวลาไม่มีใครอีกคนอยู่ข้างๆ เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าบ้านของผมอยู่ไกลโรงเรียนมากขนาดนี้ ทั้งที่ตอนที่นั่งซ้อนท้ายจักรยานใครบางคนมาทุกวันก็ไม่รู้สึกว่ามันจะไกลเท่าไหร่
"กลับมาแล้วครับ" ร้องบอกคนในบ้านอย่างทุกที ต่างกันแค่น้ำเสียงที่ใช้อย่างเช่นทุกวัน
เดินสะโหลสะเหลขึ้นมาถึงห้อง ขว้างกระเป๋าเป้ไว้ตรงโต๊ะเขียนหนังสือมุมเดิมแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้ง
แต่ก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีมิสคอล ไม่มีแม้แต่ข้อความตอบกลับ ให้ตายสิ ทำอะไรอยู่นะ
หรือว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี
"ฮัลโหลครับ ไม่ทราบว่าพี่จุนไคกลับบ้านหรือยังครับ........ อ่างั้นเหรอครับ.......ครับ ขอบคุณมากครับ " สายตัดไปแล้ว ผมมองโทรศัพท์ในมือด้วยหลากหลายความคิด ที่บ้านบอกว่าออกไปเรียนตั้งแต่เช้า แต่ตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย หายไปไหนของเขากันนะ
เปลือกตาบางปิดลงพ้อมกับเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่
ความกระอักกระอ่วนใจนี่มันอะไรกันนะ
ไม่ชอบความรู้สึกนี้เลยจริงๆ
......................XXXXX......................
เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้หน้าจอโทรศัพท์ของผมก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีแม้แต่ข้อความ ไม่ว่าผมจะส่งไปมากเท่าไหร่ โทรไปกี่ครั้งๆก็ไม่รับ
จนผมเริ่มคิดว่า เขาคงเบื่อผมแล้วจริงๆ
ร่างบางลากร่างหนักๆของตัวเองออกจากโต๊ะเรียน เดินออกจากห้องเนือยๆ
วันนี้กลับบ้านช้าๆดีมั้ยนะ
"นี่แก เค้าคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่อ้ะ" เสียงซุบซิบที่ผมไม่เคยคิดจะสนใจ แต่ครั้งนี้กลับทำให้ผมหยุุดชะงัก สายตามองไปตามที่คนพวกนั้นมอง
"เมื่อเช้าก็มาด้วยกันนะแก ฉันเห็นเดินข้างกันสวีทเชียว" เสียงพูดยังดังขึ้นไม่หยุด รูปประโยคที่ทำให้ผมเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมอีกคนถึงไม่ไปรับผมที่บ้านเมื่อเช้านี้
"ไม่มีเค้ามาก่อนเลยนะแก คบกันตอนไหนฉันล่ะงงจริงๆ"
"แต่ก็เหมาะกันดีนะฉันว่า"
"ฉันก็ว่างั้นแหละ"
ตอนนี้ผมหูอื้อตาลายไปหมด เหมือนกับคนกำลังจะจมน้ำทั้งที่มีอากาศหายใจ ในหัวมีแต่คำถามที่ว่า..
ทำไม?
ทำไม ผมไม่รู้เรื่อง
ทำไม ไม่บอกผม
ทำไม ทิ้งผมเอาไว้
หรือเพราะ
ผมมันไม่เคยสำคัญ
"เฮ้หวังหยวน ยังไม่กลับบ้านเหรอ"เสียงของหลิวจื้อหงดังขึ้น ใช่ผมจำได้ แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะหันกลับไปถามว่ามาโรงเรียนตอนเลิกเรียนแล้วทำไม
"เฮ้ย! ได้ไง"จื้อหงพูดออกมาเสียงดัง คงตกใจกับภาพตรงหน้าไม่ต่างไปจากผม
"หวังหยวนนายใจเย็นนะ"
"ใจเย็นอะไร หลิวจื้อหงนายอย่ามาตลก ฉันไม่ได้เป็นอะไร" ยกยิ้มมุมปากไม่รู้ว่ายิ้มให้กับอะไร
คง.....
ยิ้มให้กับความโง่ของตัวเอง
"หวังหยวน โอ้ยยย ควายเอ้ยยยย ชอบก็บอกว่าชอบดิ่ว่ะ มายืนร้องไห้ นางเอกอ่อ!"
"ร้องไห้บ้านแกดิ่ ไม่ได้ร้อง"
"ไม่ได้ร้องบ้าอะไรน้ำตาไหลเป็นเขื่อนแตก"
"ฮึก! เปล่าร้อง แค่มันไหลเฉยๆ ฮึก ! " ยกหลังมือขาวขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาจากตากลมโต ให้ตายสิหวังหยวน นายมันอ่อนแอชะมัด
"ฉันถามนายจริงๆ นายชอบพี่จุนไคใช่ป่าววะ" ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าเพื่อนรัก
"ไม่รู้" ผมตอบตามความจริง
"ฟายจริง"
"อะไรนะ"
"ป่าว บอกว่าเหนื่อยจริง เฮ้อออ เลิกปากแข็งแล้วทำตามหัวใจตัวเองซะ ก่อนที่คนอื่นจะงาบพี่จุนไคของแกไปซะก่อน"
"ฟังฉันนะหวังหยวน บางสิ่งบางอย่างไม่ต้องรอให้เสียไปถึงจะเห็นคุณค่า ถ้านายไม่อยากเสียมันไปก็รีบไปหวงคืนมาซะ ก่อนที่มันจะเสียไปจริงๆ" ผมมองหน้าเพื่อนรักที่ผมไม่คิดว่าวันนึงมันจะสอนอะไรผมได้
" แล้วฉันต้องทำไง"ผมถาม เอามือเช็ดน้ำตาออกจนหมด พยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้มันไหล
"ตามแต่ใจเลย อยากทำอะไรก็ทำ สู้ๆนะเว้ย!"
"โอเค ฉันจะลองดู" ผมรับปากกับเพื่อนรักแล้วส่งยิ้มให้กัน
ขอบใจนะจื้อหง
"พี่ขอบคุณเสี่ยวหลิงมากนะที่ทำเพื่อพี่ขนาดนี้"
"ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อรุ่นพี่จุนไคเสี่ยวหลิงยินดีเสมอ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง ไว้เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ" เธอโบกมือให้แล้วเดินขึ้นรถเมล์ที่มาพอดีไป ผมมองของบางอย่างที่อยู่ในมือแล้วก็อมยิ้ม
ผมหยุดยืนอยู่หน้าบ้านหลังเดินที่ผมมาอยู่ทุกๆวัน มองรั้วบ้านที่แสนคุ้นเคยแล้วก็ต้องยิ้มออกมา ไม่รู้ว่าเจ้าตัวแสบของผมจะเป็นอะไรยังบ้าง
"หวังจุนไค!!" ผมหันไปตามเสียงเรียก แต่แล้ว...
ผลัก!!
"โอ้ย!"หน้าผมชาไปข้างนึง ถ้าผมมองทันเมื่อกี้รองเท้าใช่มั้ย!!
"เดี๋ยวหวังหยวนนี่มันอะไร?" ผมถามมึนๆให้กับคนตาโตที่ตอนนี้นัยตามีน้ำตารื้นขึ้นมาเต็มไปหมด ให้ตายสิเขาเป็นอะไรไป
"ใครทำอะไร ร้องไห้ทำไม"ผมหันมามองหน้าเขา พยายามจะเข้าไปหาแต่อีกคนกลับถอยหนี
"หวังหยวนเป็นอะไร บอกพี่ก่อน"
"นายโกหก ทั้งที่สัญญากันแล้วว่าจะไม่โกหก" เจ้าของนัยตากลมโตพูดเหมือนจะขาดใจ ผมมองน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตานั้นอย่างเจ็บปวด ให้ตายสินี่ผมพลาดตรงไหน
"ไม่ได้โกหกอะไรเลยนะ หวังหยวนนายเข้าใจอะไรผิดหรือป่าว มานี่ก่อนมา" ผมพยายามจะคว้าตัวเขาเอาไว้แต่ก็เหมือนเดิม
"นายโกหกนายบอกไม่ได้รับขนม บอกไม่ได้ชอบ แต่วันนี้นายกลับคบกับผู้หญิงคนนั้น ไปรับเขาตอนเช้าแล้วก็ยังมาส่งขึ้นรถกลับบ้านอีก ทำไมเป็นคนแบบนี้จะใจร้ายเกินไปหน่อยไหม ไม่คิด ฮึก! จะบอกกันเลยเหรอ"
"หวังหยวน"ผมเรียกชื่อเขาเสียงแผ่ว ตากลมโตแสนสดใสตอนนี้มันกลับขุ่นมัวเปียกชื้นไปด้วยน้ำตามากมาย
"ฮึก นายมัน ฮึก! โคตรใจร้ายเลย ฮืออ"ผมพุ่งเข้าไปรวบตัวเขาเอาไว้ ไม่สนใจมือที่ทุบผม หรือขาที่เตะผม ตอนนี้รู้แค่ว่าอยากกอดคนตรงหน้าให้แน่นๆ
"หวังหยวนฟังพี่นะ"
"พี่ชอบนาย"
"ชอบนายมาตั้งนานแล้ว"
"ฮึก! มาพูดอะไรตอนนี้ใคร ฮึก จะเชื่อ ไอ้บ้า"
"ไม่พูดตอนนี้จะให้พูดตอนไหนล่ะ คนบางคนไม่ทันได้ถามก็คิดไปซะไกลและ ไอ้เรารึก็อยากทำเซอร์ไพร์เลยไปขอให้น้องเค้าช่วยสอนทำคุ๊กกี้เพื่อจะเอามาให้ใครบางคนเป็นของขวัญครบรอบสองปีที่รู้จักกัน แต่ตอนนี้คงไม่อยากได้แล้วมั้ง"
เจ้าตัวแสบในอ้อมกอดของผมเงียบไป ผมมองหัวกลมๆที่เอาแต่ซุกอกผมพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาออก ให้ตายอยากฟัดชะมัด
"ไหนคุ๊กกี้" เงยหน้าขึ้นมามองผมทั้งที่ยังตาแดงจมูกแดง มือบางหงายออกเป็นเชิงบอกว่าของ
"ไม่ให้แล้ว เด็กแสบปารองเท้าใส่หน้าพี่ได้ไง" อมยิ้มพลางบีบจมูกแดงๆตรงหน้าอย่างหมันเขี้ยว
"อื้อออออ ก็มันโมโหอ้ะ แล้วมันก็เป็นของที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด"พึมพัมเสียงค่อย พลางมองหน้าผมอย่างไม่เต็มหน้าตานัก
"อื้อช่างเหอะ แล้วว่าไง พี่บอกไปแล้วไม่คิดจะบอกพี่บ้างเหรอ"
"บะ บ้า! บอกอะไร"
"บอกว่าชอบไง พี่บอกชอบนายไปแล้วนายก็ต้องบอกว่าชอบพี่สิ"
"โง่ปะเนี่ย ร้องไห้ขนาดนี้ยังไม่รู้อีกหรือไงว่าชอบ ยังจะต้องให้บอก ประสาท"ว่าพลางยิ้มมุมปากน้อยๆ
ผมมองอีกคนที่ตอนนี้ยิ้มได้แล้ว ให้ตายสิผมชอบรอยยิ้มนี้จัง
......................XXXXX......................
"ชอบมานานยัง"
"ไม่บอก"
"บอกหน่อย"
"ไม่บอกหรอก อย่าถามมากเดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ"
"แต่พี่ชอบมานานแล้วนะ"
"................."
"แล้วก็จะชอบต่อจากนี้ไปอีกนานด้วย"
"ประสาทพูดคนเดียว"
ผมยิ้มให้กับคำที่เขาว่าผม แต่กลับเอามือเขียนที่หลังผมเป็นคำว่า
我也是
ฉันก็เหมือนกัน
#END
......................XXXXX......................
เย้จบแล้ว 555555 ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านค่ะ #โค้ง
ถ้าจะสกรีมในทวิตติดแท็ก #ONESHOTKY ให้ด้วยนะคะ 5555
เย้จบแล้ว 555555 ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านค่ะ #โค้ง
ถ้าจะสกรีมในทวิตติดแท็ก #ONESHOTKY ให้ด้วยนะคะ 5555
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น