คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3
ตอนที่ 3
ส่วนคนที่ถูกทิ้งให้อยู่ห้องครัวเพียงลำพัง กำลังรู้สึกหงุดหงิดกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขายังคงติดใจสงสัยอยู่ว่าสองคนนั้นมีความสัมพันธ์ยังไงกัน แล้วพวกเค้าจะไปที่ไหนกัน เขานั่งครุ่นคิดอยู่อย่างนั้นจนคิ้วขมวดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว
“ฮึ้ย แล้วจะไปคิดเรื่องอะไรของสองคนนั้นนะ ฮีชอลจะไปไหนกับซีวอนก็ไม่ใช่เรื่องของเรานี่นา” ถึงจะพูดเหมือนไม่สนใจแต่จิตใจก็ยังว้าวุ่นกับเรื่องนี้อยู่
เกร้ง !
“โว้ยยย ฮีชอลจะไปไหนก็ไป ไปไม่ต้องกลับเลยยิ่งดี ” เขาพูดแล้วกระแทกจานที่กำลังจะเอาไปล้างลงอ่างล้างจานอย่างแรง แต่พอคิดถึงว่าคนสวยนั่นไปกับใครก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่ใจกลับตรงกันข้าม
“อ้าว พี่ฮันกยองจะทำลายทรัพย์สมบัติในบ้านรึไง” ดงแฮที่เพิ่งเข้ามาในบ้านก็ได้ยินเสียงชามลงกระทบอย่างแรงจึงรีบวิ่งเข้ามาดู
“ไม่มีอะไร แค่จานมันหลุดมือน่ะ” เขาตอบโดยสายตาไม่ได้ละจากจานใบนั้นเลย
“แล้วนี่ไม่มีใครอยู่เลยหรอพี่” ดงแฮที่กลับเข้าสังเกตเห็นว่าบ้านมันเงียบผิดปกติ
“อืม” ฮันกยองตอบโดยมือยังล้างจานทีละใบทีละใบ
“พี่ฮีชอลก็ไม่อยู่หรอครับ เห็นปกติติดบ้านจะตาย ถ้าไม่มีอะไรจริงๆก็ไม่ยอมออกไปไหนนี่” น้องชายที่เพิ่งกลับมาถามพลางหย่อนตัวนั่งลงเก้าอี้กินข้าว
ฮันกยองที่ได้ชื่อคนนั้นอีกครั้งก็กำจานแน่นขึ้น เขาถูจานอย่างบ้าคลั่งจนดงแฮสังเกตเห็น
“พี่ฮัน
กยองเป็นไรรึป่าวครับ” น้องชายหน้าหวานเริ่มถามอย่างเกรงๆ ตอนนี้ดูเหมือนพี่ฮันกยองจะน่ากลัวมากกว่า ทั้งๆที่ปกติจะไม่เป็นแบบนี้
“แล้วตกลงพี่ฮีชอลไปไหนหรอครับ” ดงแฮที่ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรยังคงถามกระตุ้นต่อมหงุดหงิดของพี่ชายคนจีนคนนี้ต่อไป
ฮันกยองพยายามข่มอารมณ์ เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเขาเองหงุดหงิดอะไรนักหนา “ไปเดตกับซีวอน” เขาตอบด้วยเสียงเรียบ
“ห่ะ ไปเดตกับซีวอน ฮ่าๆๆๆ พี่ล้อผมเล่นป่าวเนี่ย” น้องชายที่เหมือนไม่เชื่อ กลับหัวเราะให้กับสิ่งที่ฮันกยองบอกมา
ฮันกยองเห็นน้องชายคนนี้ไม่เชื่อจึงหันกลับมามองด้วยสายตาที่ไม่ล้อเล่นซักนิดแถมยังดูน่ากลัวด้วย ดงแฮจึงรีบหุบปากทันที “นายไม่เชื่อก็ตามใจ แล้วเรื่องฮีชอลนายไม่ต้องมาถามฉันอีก ไปถามเจ้าตัวเองแล้วกัน ไม่สิหรือบางทีคืนนี้คงไม่กลับแล้วมั้ง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงประชดแล้วก็เดินออกจากครัวไปทันที ทิ้งให้น้องชายที่เพิ่งมาต้องประหลาดใจ มองตามหลังพี่ชายไป
“เป็นอะไรของพี่เค้าล่ะเนี่ย หงุดหงิดเรื่องอะไรของเค้านะ” ดงแฮยืนเกาหัวอย่างไม่เข้าใจ วันนี้พอเขากลับมาถึงก็เจอแต่เรื่องแปลกๆ อีกคนก็หัวเราะเป็นคนบ้า อีกคนก็อารมณ์เสียสุดๆ
เวลาที่ล่วงเลยมาจนถึงกลางดึง คนสวยที่ออกไปช่วงตอนสายจนป่านนี้ก็ยังไม่กลับ ในหอไฟถูกปิดดับสนิทเพราะเป็นเวลานอนของทุกคนแล้ว ต่างคนต่างเข้าห้องไปหลับนอน แต่ในความมืดกลับมีเงาร่างสูงของใครคนหนึ่งที่ยังเดินวนเวียนอยู่ในห้องนั่งเล่น ทั้งๆน่าจะเป็นเวลานอนไปนานแล้ว
แกร๊ก !
เสียงเปิดประตูเบาๆ ทำให้คนที่กำลังเดินวนเวียนอยู่ในห้องไม่ได้ยินยังคงเดินไปด้อมๆมองๆแถวหน้าห้องของคนเพิ่งกลับมา ตอนแรกคนสวยก็ไม่ได้สังเกตอะไรเดินเข้ามาในหอปกติ แต่พอเดินมาถึงหน้าห้องเขา กลับพบแผ่นหลังของใครบางคนหน้าห้องของเขา ฮีชอลเข้าหอมาโดยไม่ได้เปิดไฟ เดินเข้ามาด้วยความชิน แต่วันนี้กลับมีสิ่งปกติที่กำลังเดินวนเวียนอยู่แถวหน้าห้องของเขา ดูแล้วพฤติกรรมน่าสงสัย พอเดินเข้าไปใกล้มากขึ้นเขาก็รู้ทันทีเพียงแค่มองข้างหลังเขาก็จำคนๆนี้ได้แล้ว เขาจึงเดินเข้าไปใกล้แล้วสะกิดไหล่หนานั่น
“ฮันกยอง” คนที่หันหลังถูกเรียกก็สดุ้งสุดตัว
“นายมาด้อมๆมองๆอะไรหน้าห้องฉัน” ฮีชอลแกล้งถาม เขาชอบแกล้งร่างสูงอยู่บ่อยๆอยู่แล้ว เพราะชอบเห็นหน้าเอ๋อๆ ที่เวลาทำอะไรไม่ถูกของคนๆนี้
“ปะ..ป๊าวววววววววว” เขาลากเสียงยาวแบบแปร่งๆ ยิ่งเวลาเขาทำอะไรไม่ถูกภาษาเกาหลีของเขาจะยิ่งวิบัติมากขึ้น ฮันกยองที่กำลังหาคำตอบอื่น ไม่คิดว่าฮีชอลจะมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว เขาแค่มาเดินดูนิดหน่อยด้วยความเป็นห่วงแบบเพื่อน ใช่ แบบเพื่อนเท่านั้น เขากำลังสับสนกับตนเองยืนเหงื่อไหลเต็มใบหน้า อย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะในห้องก็ไม่ได้ร้อนถึงขั้นต้องเหงื่อตกขนาดนี้
ฮีชอลที่เห็นแบบนั้นก็ยิ่งอยากแกล้งคนจีนคนนี้ เขาจึงเดินเข้ามาประชิดตัวแล้วเอาแขนเรียวคล้องคอร่างสูง
คนจีนใจหายวูบ ทำไมเค้าต้องตื่นเต้นด้วยว่ะ ฮันกยองยังคงยืนทำอะไรไม่ถูก คิดสับสนอยู่ในใจตลอดเวลา
“หรือว่านายยย
”ใบหน้าสวยค่อยๆเคลื่อนมาใกล้แนบชิดกับใบหูของร่างสูง
“
” ฮันกยองที่ยืนปั้นหน้าไม่ถูกใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว ไอ้บ้านี่มันเล่นอะไรของเขาเนี่ย ผมจะบ้าตายอยู่แล้ววว
“เป็นห่วงฉันหรอ ฮันกยอง” คนสวยพูดแล้วอมยิ้ม ร่างสูงพอได้ฟังก็เหมือนพูดตรงจุดของเขาพอดี ใบหน้าชาวาบทันที ฮันกยองรู้สึกดีใจอยู่อย่างที่ไฟไม่ได้ถูกเปิดไม่งั้นเค้าคงจะปั้นหน้าลำบาก ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าหน้าของเขาตอนนี้มันออกอาการยังไงบ้าง เพราะตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจอารมณ์ตัวเองตอนนี้เหมือนกัน
พอเขารู้สึกตัวก็รีบสะบัดตัวหนี ออกมาจากอ้อมแขนเล็กนั่น จนฮีชอลต้องปล่อย แล้วฮันกยองก็หันไปเถียงกลับ
“คะ ใคร ใครจะไปห่วงนาย” ร่างสูงตอบโดยน้ำเสียงยังไม่ปกติดี
“ก็นายไง รู้สึกนายจะเขินนะ” ฮีชอลยังคงแกล้งไม่เลิก เขาพูดด้วยรอยยิ้มหยอกล้อ
“ฉันไม่ได้ห่วงนาย จะไปไหนมันก็เรื่องของนาย” เขาพูดโดยเน้นประโยคสุดท้าย
“ฮ่าๆๆๆๆ ไม่เอานะฮันนี่ หึงฉันหรอ” คนสวยยังคงแกล้งไม่เลิก มองท่าทางเวลาที่ฮันกยองทำอะไรไม่ถูกแล้วรู้สึกว่ามันน่ารักดี
“โอ๊ยยยยยยย อย่าเรียกฉันแบบนั้นนะ ฟังแล้วขนลุก แล้วอีกอย่างฉันไม่ได้ห่วง ไม่ได้หึง นายมัน
นายมันบ้าไปแล้ว” ฮันกยองไม่รู้จะเถียงกลับยังไง จนเขายอมแพ้ โดยทิ้งประโยคท้ายไว้พลางชี้หน้าฮีชอลเหมือนผู้ใหญ่ว่าเด็กแล้วก็รีบปลีกตัวออกไปทันที
ฮีชอลที่ยืนมองตามหลังก็อดยิ้มไม่ได้ กับท่าทางเปิ่นๆ เอ๋อๆของฮันกยอง
“แกล้งนายแล้วสนุกจริงๆ” ฮีชอลอมยิ้มอย่างมีความสุขพลางเดินกลับเข้าห้องตัวเองไป
ไม่รู้จะคุยอะไรดี ตอนนี้ฮันชอลเต็มๆ แต่น่าจะเป็น ฮีคยองมากกว่านะเนี่ย
รู้สึกกว่าแต่งแต่ละตอน ยิ่งแต่งยิ่งสั้นแฮะ
~ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ ~
ยิ่งคนเม้นยิ่งขอบคุณมากๆเลยค่ะ เป็นไรเตอร์ที่น่ารักจริงๆ ^^
ความคิดเห็น