คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
อีทึกที่เพิ่งกลับมาจากบริษัทก็เดินเข้ามาเตือนคิบอมเกี่ยวกับเรื่องการถ่ายโฆษณาวันนี้ ปกติคิบอมไม่ได้นอนที่หอนี้ แต่เขาจะพยายามหาเวลาว่างแวะเวียนเข้ามาที่หอบ่อย เพราะอยากเจอกับใครบางคนก็เท่านั้นเอง
“คิบอมนายมีงานตอนสิบโมง อย่ามัวแต่เล่นเกมส์เพลินซะล่ะ” หัวหน้าวงย้ำเตือนอีกครั้ง
“ครับพี่ เรื่องงานน่ะผมจำได้อยู่แล้ว แล้วนี่กี่โมงแล้วฮะ” เขาตอบโดยที่สายตายังคงจ้องไปที่จอโทรทัศน์ด้วยใบหน้าที่เฉยเมย ส่วนคนข้างๆก็ยังคงเล่นอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อจะชนะให้ได้ แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า
“เฮ้ย ได้ไงว่ะ อีกนิดเดียวแท้ๆ จอยนี่มันต้องไม่ค่อยดีแน่ๆ ห่วยจริงๆ” คนที่เป็นฝ่ายแพ้มาตลอดถึงกับเซ็ง เลยพาลวางจอยเกมส์ลงแล้วเหวี่ยงไปหน้าโทรทัศน์
“อ้าว แพ้แล้วพาลนี่ จอยมันก็ปกติของมันดีนี่ หรือว่านายจะเล่นอีกรอบ สลับจอยกันก็ได้นะ”คิบอมยิ้มแบบเย้ยหยันเหมือนเป็นต่อ
“ไม่แล้ว เลิกๆ ฉันจะไปนอนล่ะ” ฮยอกแจลุกขึ้นแล้วเดินออกไปเพื่อจะกลับไปที่หอของเขา
“แค่นี้ก็ยอมแล้วหรอ นายนี่มันเด็กน้อยของแท้เลยจริงๆ”
“ง่วง จะไปนอนไม่ได้ยอมแพ้ เอาไว้คราวหน้า “
“คิบอมนี่มัน เก้าโมงครึ่งแล้วนะ” อีทึกที่ถูกลืมไปชั่วขณะตอบคำถามที่คิบอมถามไว้
“ห่ะ เก้าโมงครึ่ง ! ทำไมพี่ไม่เตือนผมเนี่ย ฮึ้ย”คิบอมรีบลุกขึ้นแล้วจัดแจงแต่งตัวให้เรียบร้อย รีบวิ่งออกไปทันที
“หึ ไอ้เด็กบ้า ไปๆได้ซะก็ดี” ฮยอกแจที่พูดอย่างหมั่นไส้ตามหลังไป อีทึกที่ยืนอยู่จึงหันมาถามน้องในวง
“ฮยอกแจ นายมาเล่นเกมส์ตั้งแต่กี่โมงเนี่ย”
“ผมมาเล่นตั้งแต่ตีห้าแล้วล่ะฮะ ไอ้เด็กบ้านั่นมันโทรมาชวนให้มาเล่นเกมส์เป็นเพื่อน”
“แล้วนี่ นายจะกลับห้องแล้วหรอ”
“อืม ผมกลับก่อนนะ” ระหว่างที่ฮยอกแจกำลังจะเดินออกจากหอก็มีเสียงที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีเรียกไว้ก่อน
“อ้าว ฮยอกแจ นายจะกลับแล้วหรอ ไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนล่ะ ฉันทำเผื่อนายไว้เยอะเลย” คนที่กำลังจะเดินออกจากห้องรีบหันมาตามเสียงของอีกคน แล้วก็เห็นว่าตอนที่เขามาอยู่ในห้องนั่งเล่นแล้ว
“อีทึกแล้วนายจะทานเลยมั้ยเดี๋ยวฉันตักใส่จานไว้ให้”
“อืม ดีเลยกำลังหิวพอดี ฮยอกแจก็มาทานด้วยกันสิ” อีทึกหันมาชวนน้องด้วยอีกคน เขาไม่รู้จะปฏิเสธยังไงเลยต้องมาร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยอีกคน ตอนนี้ที่หอนี้ไม่มีใครอยู่เลยเหลือกันอยู่เพียงแค่นี้ ส่วนชินดงก็ออกไปทำงานส่วนดงแฮก็กลับบ้าน ระหว่างที่นั่งทานอาหารฮยอกแจก็โล่งใจอยู่อย่างนึงเพราะมีอีทึกอยู่ด้วยอีกคน ไม่งั้นเค้าคงรู้สึกอึดอัดแย่ เพราะต้องมาเห็นเค้าสองคนอยู่ด้วยกัน พอเข้ามาในห้องครัวผมก็เห็นพี่ฮีชอลนั่งทานข้าวอยู่แล้ว ผมจึงรีบเดินตามไปนั่งฝั่งเดียวกับพี่อีทึกที่ว่างอยู่ แล้วฮันกยองก็ตักอาหารมาให้ทั้งสองคน รวมทั้งของเขาด้วย
“ขอบใจมากนะ”
“ขอบคุณฮะ”
เสียงแรกเป็นเสียงพี่อีทึกส่วนเสียงหลังเป็นเสียงของผมเอง แล้วพี่ฮันกยองก็หย่อนตัวลงนั่งข้างๆพี่ฮีชอล เฮ้อ ให้ผมกลับไปทานที่ห้องของผมยังจะดีซะกว่ามาเห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกัน
“นายเป็นอะไรรึปล่าว”เสียงนุ่มของฮันกยองเอ่ยถาม พร้อมกับสายตาที่อ่อนโยนส่งมาที่เขา ฮยอกแจเริ่มรู้สึกหายใจติดขัด
“ม ไม่เป็นไรครับ”ร่างเล็กรีบส่ายหัวทันที
“นั่นสิ นายเป็นอะไรรึปล่าวหน้าดูซีดๆ”อีทึกสมทบอีกคน
“ลิงคงไม่ป่วยง่ายๆหรอกมั้ง”เสียงนี้ไม่ต้องบอก็รู้ว่าเป็นใคร พลางยิ้มด้วยมุมปากตามแบบของเขา ฮันกยองได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหัว เขารู้ว่าฮีชอลชอบปากเสียไปแบบนั้นแต่จริงๆแล้วเค้าก็เป็นห่วงสมาชิกทุกคนนั่นแหละ แต่ไม่อยากแสดงออกให้ใครเห็นเท่านั้นเอง
“กลับห้องไปก็ไปหายากินซะนะ เดี๋ยวคืนนี้จะทำงานไม่ไหวเอา” ฮันกยองเตือนอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงจริงๆ ฮยอกแจรู้ดีว่าเขามักจะดูแลเอาใจใส่ทุกๆคนอยู่เสมอ เพราะส่วนนี้ส่วนนึงที่ทำให้เขาชอบคนๆนี้ได้ถึงขนาดนี้ โดยที่ตัวเขาเองไม่รู้ว่าความใจดีแบบนี้ทำให้ใครอีกคนต้องหวั่นไหว และเจ็บไปพร้อมๆกัน เพราะระหว่างเรื่องของเขากับอีกคนนั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย พอคิดถึงตรงนี้แล้วฮยอกแจยิ่งมีสีหน้าที่แย่ไปอีก
“ฉันว่านายควรจะไปพักผ่อน ทานข้าวเสร็จแล้วก็ไปพักผ่อนซะนะ ช่วงนี้นายงานเยอะนี่ เห็นไม่ค่อยได้พักผ่อนเลย” ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง ฮยอกแจก็ก้มหน้านิดหน่อยเป็นเชิงว่ารับรู้ แต่ในใจกลับปฏิเสธ พอเถอะครับอย่าทำดีกับผมอีกเลย ยิ่งทำแบบนี้ผมก็ยิ่งต้ดใจจากพี่ยากไปอีก
“นายก็เป็นห่วงเค้าไปทั่ว หัดเป็นห่วงตัวเองบ้างก็ดีนะ นายก็งานยุ่งแทบจะไม่ค่อยได้พักเหมือนกันนั่นแหละ” ฮีอชลที่นั่งฟังฮันกยองสั่งนู่นสั่งนี่กับฮยอกแจ เลยพูดด้วยความรำคาญ
ปิ่งป่อง ปิ่งป่อง
เสียงออดบ้านดังขึ้น อีทึกจึงอาสาไปดูเองว่าเป็นใคร ระหว่างนั้นยิ่งทำให้ฮยอกแจอืดอัดเข้าไปใหญ่ ดูเหมือนว่าที่พี่ฮีชอลพูดแบบนี้คงจะน้อยใจที่พี่ฮันกยองให้ความสนใจตัวเองมากเกินไป เขาจึงตัดสินใจพูดให้ฮันกยองเลิกเป็นห่วงเขา
“ผมไม่เป็นไรจริงๆครับ พี่อย่าห่วงเลย พี่ไปห่วงคนที่พี่ควรจะห่วงเขาดีกว่านะ” ฮันกยองกับฮีชอลที่กำลังนั่งทะเลาะกันอยู่ก็เลยเงียบไป ฮันกยองหันมามองหน้าน้องอย่างงงๆ
“นายหมายถึงใคร” เขายังคงมีสีหน้าที่ไม่เข้าใจสิ่งที่ฮยอกแจจะสื่อว่าเป็นใคร
“ก็ ”ยังไม่ทันที่ฮยอกแจจะพูดจบก็มีเสียงคนมาใหม่ดังเข้ามาพอดี
“พี่ฮีชอลครับ”ร่างสูงที่เดินเข้ามาทำให้ฮันกยองและฮยอกแจแปลกใจเล็กน้อย ส่วนเจ้าของชื่อที่คนมาใหม่เรียกกลับนั่งเฉยๆเหมือนปกติ
“อ้าว กำลังทานข้าวกันอยู่หรอฮะ” เขาถามด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มตามปกติของเขา
“นายจะทานด้วยมั้ยเดี๋ยวฉันจะได้ตักให้”
“อ๋อ ไม่เป็นไรครับพี่ฮันกยอง ผมทานมาแล้วเรียบร้อย ขอบคุณนะครับ” ซีวอนตอบเสร็จก็หันไปทางฮีชอล คนสวยที่เหมือนจะรู้ตัวจึงลุกจากที่นั่งแล้วหันมาบอกชายหนุ่ม
“เดี๋ยวขอไปแต่งตัวก่อนนะ”
“ครับ” ซีวอยพยักหน้าเล็กน้อยแล้วส่งยิ้มบางๆให้
ฮันกยองกับฮยอกแจที่นั่งอยู่ตรงนั้นต่างงงไปตามๆกันกับความสัมพันธ์สองคนนี้ ถึงเขาจะดูสนิทกันแต่ทำไมวันนี้เค้าจะออกไปไหนด้วยกันสองคนล่ะเนี่ย แล้วรอยยิ้มที่น่าสงสัยของซีวอน ที่ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษนั่นอีก
ระหว่างที่ฮีชอลออกไปแต่งตัว ซีวอนก็ลงนั่งข้างๆฮยอกแจเพื่อรออีกคน ฮันกยองจึงหันมาถามด้วยความสงสัย
“นี่ นายจะไปไหนกันเนี่ย” ซีวอนหันมายิ้มหวานให้พี่ชายที่นั่งตรงข้ามอย่างอารมณ์ดีก่อนจะตอบว่า
“ไปเดทกันน่ะฮะ” แล้วก็ฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิมเข้าไปอีก
ทั้งฮันกยองและฮยอกแจได้ฟังก็เริ่งงงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะฮยอกแจที่ไม่เข้าใจยิ่งกว่าฮันกยองอีก เพราะเขาเข้าใจมาตลอดว่าพี่ฮันกยองกับพี่ฮีชอลคบกันอยู่ แต่ทำไมกลับกลายเป็นว่าพี่ฮีชอลคบกับไอ้เจ้าชายนี่ไปได้
“เออ จริงสิแล้วพี่อีทึกล่ะ” ฮยอกแจที่เพิ่งสังเกตเห็นว่าพอคนคนนี้มา แต่อีกคนกลับหายไป
“อ๋อพอดีที่บริษัทเรียกตัวไปน่ะ พี่อีทึกก็เลยต้องรีบไป”
“ซีวอนจะไปกันรึยัง” เสียงฮีชอลที่ตะโกนเรียกมาจากในห้องนั่งเล่นซีวอนจึงรีบออกไปแล้วหันมาบอกลาทั้งสองคน
“คร้าบบบ”ซีวอนตอบกลับไปและหันมาบอกลาทั้งสองคน “ผมไปก่อนนะพี่ฮันกยอง ไปก่อนนะฮยอกแจ” แล้วเขาก็รีบตามฮีชอลออกไปทันที
ทิ้งให้คนที่นั่งอยู่ทั้งสองที่ยังรู้สึกแปลกใจอยู่
“พี่ไม่ได้ครบกับพี่ฮีชอลหรอกหรอฮะ”ฮยอกแจที่ค่อยๆหันมาถามร่างสูง
“บ้าหรอ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับฮีชอลซักหน่อย” ฮันกยองตอบแบบขำๆทำไมทุกคนชอบคิดว่าเขากับฮีชอลคบกันอยู่เรื่อยเลย
ฮยอกแจที่ตาเรียวเบิกกว้างขึ้นอยู่แล้วพอได้ยินคำตอบจากปากร่างสูงก็ยิ่งเปิดกว้างขึ้นไปอีก นี่เขาเข้าใจผิดมาตอลอดหรอกหรอเนี่ย เขาไม่เคยรู้เลย ได้แต่คิดไปเองคนเดียวตลอด ถ้าลองนึกดูดีๆ พี่ฮีชอลกับพี่ฮันกยองก็ไม่เคยบอกแน่ชัดซักครั้งว่าพวกเขาคบกัน อย่างนี้พวกเขาก็เป็นแค่เพื่อนน่ะสิ
เสียงก้อนเนื้อในหน้าอกซ้ายเริ่มเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ ทำไมเขาถึงได้รู้สึกมีความสุขขนาดนี้ ถ้าเป็น อย่างนั้นเขาก็ยังมัความหวังอยู่น่ะสิ โอ้ พระเจ้าเข้าข้างผมแล้ว
ถึงในใจของฮยอกแจจะดีใจซักแค่ไหนเขาก็พยายามปกปิดรอยยิ้มที่มันจะเผยออกมาให้ได้อยู่ทุกเมื่อ เขาจึงรีบปลีกตัวกลับหอของเขาก่อน ก่อนที่ฮันกยองจะเห็นแล้วสงสัยในตัวเขา ฮยอกแจรีบผลุนผันออกมา พอออกมาจากห้องโดยที่เขายังยืนอยู่หน้าห้องหอของฮันกยองอยู่ก็เก็บอาการไม่อยู่ หัวเราะออกมาดังลั่นหน้าห้อง เขาไม่เคยดีใจอะไรได้มากขนาดนี้มาก่อน ดงแฮที่กลับมาจากบ้านของเขาพอดี กลับมาเห็นว่าเพื่อนสนิทของเขามายืนหัวเราะเหมือนคนเสียสติอยู่หน้าห้องของเขา จึงรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง ส่วนฮยอกแจที่ยืนหลับหูหลับตาหัวเราะอยู่เลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครบางคนกำลังเดินเข้ามาหาเขา
“ฮยอกแจ นาย .เป็นอะไรรึปล่าว”ดงแฮที่เข้ามาแตหัวไหล่พลางถามด้วยสีหน้าดูเป็นกังวลเป็นอย่างมาก คนที่ถูกถามรีบหุบยิ้มทันที แล้วหันมามองเพื่อน หรือว่าอากาศจะร้อนเกินไปลิงเลยเกิดอาการคลุ้มคลั่งกันนะ ดงแฮได้แต่คิในใจแล้วรอคำตอบจากเขา
“ดงแฮเองหรอ นายกลับมาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”
“ฉันเพิ่งมาเมื่อกี้นี้เอง แล้วก็มาเห็นนายยืนหัวเราะเหมือนคนบ้าอยู่เนี่ยแหละ”เพื่อนสนิทของเขายังคงมองด้วยความเป็นห่วง พาไปฉีดยาซักเข็มคงน่าจะลดอาการลงได้ล่ะมั้ง ดงแฮยังคงคิดในใจต่อไป
“ฮ่า ๆ ๆ พอดีมีเรื่องให้ดีใจนิดหน่อยน่ะ” เขาหัวเราะเสียงดัง แล้วตอบโดยที่ใบหน้ายังเต็มไปด้วยรอยยิ้มอยู่
“อืม นายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ฉันว่านายน่าจะนอนพักผ่อนเยอะๆนะ เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น” ดงแฮยังมองฮยอกแจด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล พลางตบไหล่เพื่อนเบาๆ มันจะดีใจอะไรนักหนาว่ะยิ้มไม่หุบเลย
“อือ ขอบใจที่เป็นห่วงงั้น
ฉันกลับห้องล่ะ” ฮยอกแจขอตัวแล้วก็เดินโซเซกลับห้องไป ดงแฮส่ายหน้าเบาๆ มองเพื่อนด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าเพื่อนจะไปตกบันไดหัวทิ่มที่ไหนซะก่อน
“แล้วมันจะถึงห้องมั้ยล่ะนั่น”
_____________________________________________________________________________________
มาต่อตอนสองแล้ว อยากอัพบ่อยๆจัง
คนอ่านจะชอบรึป่าวนะ เป็นไปตามที่คิดกันรึปล่าวเอ่ย
วันนี้วันคอนวันแรก แต่กลับไม่ได้ไปซะงั้น
เสียดายมากๆเลย T-T ใครได้ไปก็มาเล่าให้ฟังกันหน่อยนะคะ อยากรู้เรื่องฮันชอลมากๆ
ว่าจะหวานกันเหมือนเวทีอื่นๆรึปล่าว เพราะว่าเรื่องฮันชอลคืองานของเรา ฮ่าๆๆ
อ่านแล้วเม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
ปล. Love HanChul
ความคิดเห็น