ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Just so you know ( HanChul ) feat. SJ

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ย. 52


    ตอนที่ 1

     

     

     

    ปัง ปัง ปัง ฮันเกิงปัง ปัง ปัง ฮันเกิง ปัง ปัง ปัง ฮานนนนนเกิงงงงงง

    เสียงเคาะประตูดังลั่นตั้งแต่เช้ามืด ที่ยังไม่สว่างดี เจ้าของห้องที่กำลังนอนคุดคู้อยู่บนเตียงนุ่มอย่างสบายกลับต้องสดุ้งตื่นเพราะเสียงตะโกนเรียกของใครบางคน

                    “ใครมาเรียกแต่เช้าว่ะ” เขาตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงีย ยังคงกึ่งหลับกึ่งตื่นเดินโดยไม่ได้ลืมตาไปที่หน้าประตูพลางเหวี่ยงประตูเปิดออกด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เพราะเขาไม่ชอบให้ใครมาเรียกเขาตอนยังได้นอนไม่เต็มที่แบบนี้ พอเปิดออกมาก็พบกับแขกผู้มาเยือนที่กำลังยืนหันข้างอย่างสบายอารมณ์ ขนาดท่ายืนเคาะประตูยังทำให้เขาหมั่นไส้ได้ขนาดนี้

     

    ฮานเกิงงงงงงงงงงงงง  เขากำลังจะเคาะประตูอีกครั้งโดยที่สายตาไม่ได้หันมามองคนที่มายืนตามเสียงเรียกของเขา มือที่เคาะไปกลับไม่เจอบานประตูไม้เหมือนเดิม แต่กลับเป็นเพียงความว่างเปล่า เขาจึงรีบหันมามองยังบานประตูทันที แต่สิ่งที่เห็นทำให้เขาต้องเบิกตาโต เพราะคนที่ยืนอยู่กำลังยืนจ้องหน้าเขาเหมือนอยากจะอยากจะบีบคอให้ตายซะตรงนั้น

    “อ้าว นายมาเมื่อไรเนี่ย”

    “นายมีอะไรห่ะ ฮีชอลมาร้องตะโกนบ้าบอแต่เช้าเนี่ย” ตากลมโตจ้องมองอีกคนที่สภาพผมยุ่งเหยิง ของเขาก็เข้าใจทันทีว่าอาการแบบนี้เพิ่งตื่นแน่ๆ เหอะ แต่มีหรือว่าคนแบบคิมฮีชอลจะสนใจความทุกข์ของคนอื่น

    “ ฮีบอมอยู่ที่ห้องนายมั้ย”

    “ไม่อยู่ ไม่เห็น เข้าใจแล้วก็ไปได้แล้ว”เขาโบกมือไล่ พลางดึงประตูจะปิดแต่อีกคนกลับเอามือมากันประตูไว้ก่อน

    “ไม่มีจริงๆหรอ นายดูทั่วยัง”

    “ฮึ้ย ไม่มีก็ไม่มีเซ่ จะมาอยู่ห้องฉันได้ไงก็ฉันล็อกประตูตลอด” เขาไม่พูดเปล่า พร้อมกับกระชากประตูปิดทันที

    “ฮาน…..”คนที่มาตามหาแมวรักยังไม่ทันอ้าปากพูดจบก็โดนอีกคนปิดประตูใส่หน้าเต็มๆ

    “โธ่เว้ย แค่ให้หาแมวให้หน่อยทำมาเป็นอารมณ์ เสียใส่ แบร่”ฮีชอลทำหน้าบูดบึ้งและแลบลิ้นใส่เหมือนเด็กๆแล้วก็เดินไปหาที่ห้องอื่นๆต่อ

     

    ส่วนคนในห้องที่โดนปลุกแต่เช้าก็กลับเข้ามายังเตียงนุ่มอันแสนสบายของเขาต่อ ถึงจะรู้สึกหงุดหงิดกับเรื่องเมื่อกี้อยู่ก็ตาม พอเดินมาถึงเตียงเขาค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงแล้วสอดขาเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนหนา แต่กลับรู้สึกเหมือนเท้าไปสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่เหมือนขน “เฮ้ย !!!” เขารีบชักเท้ากลับทันที

    “ตัวอะไรว่ะ ตอนแรกยังไม่มีแบบนี้นี่” ฮันเกิงเอียงหัวด้วยความสงสัย แล้วจึงค่อยๆเปิดผ้าห่มผืนหนานั้นแล้วก็ต้องพบว่ามันคือตัวปัญหาที่ฮีชอลตามหาอยู่นั่นเอง

    “แกนี่เอง เจ้านายกำลังหาแกอยู่นะ”ฮันเกิงค่อยอุ้มแมวอ้วนตัวนั้นขึ้นมา

    “ทำไมถึงได้ชอบมาห้องฉันนักนะ ทั้งๆที่ฉันกับแกก็ไม่ได้สนิทกันอะไรซักหน่อย เฮ้อ” ทุกๆครั้งเจ้าฮีบอมชอบมายุ่งวุ่นวายที่ห้องของเขาอยู่บ่อยๆ ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมชอบมาห้องเขาแล้วเข้าห้องเขามาได้ยังไง

    “ฉันอยากจะเปลี่ยนชื่อแกเป็น ไอ้วุ่นวายจริงๆ ชอบมาวุ่นวายกับชีวิตคนอื่นเค้าเนี่ย” จากที่คิดว่าจะกลับมานอนต่อก็ต้องเปลี่ยนใจเอาแมวไปคืนเจ้าของ เพราะตอนนี้ให้นอนอีกทีก็คงข่มตาไม่หลับแล้ว และอีกอย่างกลัวว่าฮีชอลจะไปรบกวนคนอื่นๆต่อด้วย ยิ่งไม่ค่อยจะสนใจใครอยู่แล้ว

    “มีแต่เรื่องเดือดร้อนให้ทั้งแมวทั้งเจ้าของ”

     

    ร่างสองร่างที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา หน้าโทรทัศน์ ที่หน้าจอเป็นเกมส์รถแข่ง ที่อีกคันเป็นสีดำ และอีกคันเป็นสีเหลือง จนสุดท้ายสีดำก็เป็นผู้ชนะไปอีกครั้ง

    “แพ้อีกแล้ว คิบอมนายเปลี่ยนเกมส์เหอะ พอดีว่าฉันจะไม่ค่อยถนัดเกมส์เกี่ยวกับรถเท่าไร ลองเปลี่ยนเป็นเกมส์อื่นดีกว่า”

    “เกมส์ไหน ก็เหมือนๆกันนั่นแหละเห็นเล่นทีไรนายก็แพ้ทุกทีนี่”

    “เฮ้ยๆ นี่ฉันพูดจริงนะ ลองเปลี่ยนเกมส์ คราวนี้ฉันชนะนายแน่ คิบอม”

    “ก็ได้งั้นนายเลือกเกมส์ไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวฉันไปกินน้ำก่อน”  คิบอมลุกจากที่นั่งแล้วเดินตรงไปที่ห้องครัวเพื่อไปดื่มน้ำ ระหว่างทางก็เดินสวนกับฮีชอลที่กำลังตามหาฮีบอมมาตั้งแต่เช้าแล้ว

    “พี่ยังหาฮีบอมไม่เจออีกหรอ” ฮีชอลที่กำลังเดินหาไปทั่วห้องครัวกำลังเดินออกไปยังห้องนั่งเล่นต่อ

    “ยังเลยไม่รู้หายไปไหน คิบอม นายไม่เห็นบ้างเลยหรอ” คิบอมส่ายหัว “ไม่เห็นเลยนะ ตั้งแต่มานั่งเล่นเกมส์กับฮยอกแจ ตั้งแต่เช้า” 

    “งั้นเดี๋ยวไปหาในห้องนั่งเล่นดีกว่าเผื่อว่าฮีบอมจะไปแอบอยู่แถวนั้น” คิบอมพยักหน้าเบาๆเชิงเข้าใจ แล้วอีกคนก็เดินหายออกไปยังห้องนั่งเล่น ผมเห็นพี่หาในห้องนั้นมาเป็นรอบที่ร้อยแล้ว แล้วที่ว่าฮีบอมจะไปแอบอยู่แถวนั้น มันเล่นซ่อนหากับพี่หรือไงฮะ คิบอมคิดพลางส่ายหน้า เอือมระอากับพี่ชายคนนี้จริงๆ

    คิบอมหาน้ำดื่มจนเสร็จ ระหว่างที่เขากำลังจะเดินออกมาจาห้องครัว ห้องครัวกับห้องนั่งเล่นติดกันจึงเห็นคนที่เขาเพิ่งคุยด้วยเมื่อกี้กับสมาชิกชาวจีนเพียงคนเดียวของวงในมือของเขากำลังอุ้มแมวตัวที่พี่ฮีชอลกำลังหาอยู่  เขายื่นให้เจ้าของของมัน

    “ แมวนายมาอยู่ที่ห้องฉันอีกแล้ว ทีหลังหัดสั่งสอนแมวนายบ้างก็ดีนะ หัดเกรงใจคนอื่นบ้างก็ ฮีชอลรีบดึงแมวจากมือฮันเกิงไปทันที

    “ฮีบอม ฮีบอม  แกไปไหนมาเนี่ย โอ๊ยตามหาซะทั่วบ้าน” ฮันเกิงส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย พูดไปก็ไม่เคยฟังที่เขาพูดเลย คนกำลังพูดนะเว้ย ฟังบ้างได้มั้ย ฮีชอล

    “ฉันบอกว่าอะไร นายได้ยินมั้ยเนี่ย”

    “ฉันได้ยินแล้ว บ่นเป็นคนแก่ไปได้เรื่องเล็กน้อยเองน่า” ฮีชอลพูดไปพร้อมกับกอดฮีบอมไปด้วยเหมือนไม่ค่อยสนใจเขาเท่าไรเลย

    “รู้ก็ดี แล้วหัดทำตามที่บอกบ้าง ฉันหิวแล้ว นายจะเอาอะไรมั้ย”

    “เอาๆ ฉันขอข้าวผัดปักกิ่งแล้วกัน แล้ววันนี้นายมีงานมั้ย” ฮีชอลกอดคอร่างสูงแล้วพากันเดินเข้าไปในห้องครัวด้วยกัน

     

    คิบอมเลยเดินออกมาก็เห็นร่างเล็กที่นั่งอยู่หน้าโทรทัศน์กำลังมองทั้งสองคนอยู่ จนพวกเค้าหายเข้าไปในครัวด้วยกัน คิบอมเดินกลับเข้ามานั่งที่เดิมของเขา

    “พี่ฮีชอลนี่ โชคดีนะ ที่มีพี่ฮันกยองคอยดูแล” ฮยอกแจที่อยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาลอยๆอย่างลืมตัว

    “ฮะ นายว่าไงนะ” คิบอมที่ได้ยินไม่ค่อยถนัดจึงถามซ้ำอีกครั้ง

    “ฮะ” ฮยอกแจที่เหมือนจะเพิ่งรู้สึกตัว แล้วทำหน้าเหลอหลาใส่อีกคน

    “เมื่อกี้นายพูดอะไรเกี่ยวกับพี่ฮันกยองกับพี่ฮีชอลเนี่ยแหละ”

    “อ้าว หรอไม่ใช่หรอกมั้งนายคงได้ยินผิดไปเอง นี่ๆฉันได้เกมส์ใหม่แล้ว มาแข่งกันอีกรอบคราวนี้ฉันไม่แพ้นายแน่” ฮยอกแจที่ตอนแรกทำหน้าแปลกๆเมื่อกี้ ทำให้คิบอมยังติดใจอยู่ พี่ฮีชอลโชคดีนะ ที่มีพี่ฮันกยองคอยดูแลคำพูดที่คนตัวเล็กพูดเมื้อกี้เขายังจำได้เป็นอย่างดี เขาสังเกตมาหลายครั้งแล้วที่เหมือนว่าคนๆนี้จะให้ความสนใจต่อพี่ฮันกยองเป็นพิเศษ และเขาก็รู้สึกว่าฮยอกแจต้องมีความรู้สึกพิเศษกับเขาคนนั้นด้วย

    “นายจะเล่นมั้ยเนี่ย ถ้านายไม่เล่นถือว่านายแพ้เลยแล้วกัน” คิบอมที่กำลังคิดเรื่องของคนข้างๆอยู่จึง ต้องหลุดจากความคิดนั้น แล้วรีบตอบกลับไปทันทีแบบที่ไม่ชอบแพ้ใคร มันเป็นนิสัยของเขาอยู่แล้ว

    “เฮ้ย เล่นสิ ฉันจะให้นายเห็นว่ายังไงนายก็ไม่มีวันชนะฉันได้หรอกยังเร็วไปสิบปีนะ เด็กน้อย” คิบอมยิ้มแล้วมองมาที่เขาอย่างเย้ยหยัน

    “นายอายุน้อยกว่าฉันนะคิบอม นายนั่นแหละเด็กน้อย” ฮยอกแจก็ไม่ยอมแพ้ เขารู้สึกแปลกใจอยู่อย่างนึงว่าทำไมคนที่อายุอ่อนกว่าเค้าไม่เคยมีใครเรียกเขาว่าพี่เลย บางครั้งเค้าก็รู้สึกไม่ชอบเหมือนกันที่คนอ่อนกว่ามาเรียกเขาแบบนี้ โดยเฉพาะคิบอม ที่อ่อนกว่าเขาหลายปีอยู่  แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาของเจ้าน้องชายเย็นชาคนนี้ที่แทบจะไม่เรียกใครพี่เลยก็ว่าได้ เพราะการที่เขาเคยไปอยู่ที่ต่างประเทศเนี่ยแหละที่เป็นสาเหตุ กระทั่งพี่ฮีชอลยังโดนมาแล้วเลย

    “คราวนี้ล่ะ ฮยอกแจคนนี้จะทำให้นายได้ลิ้มรสความรู้สึกของคนแพ้ว่ามันเป็นยังไง” สีหน้าของคนที่แพ้มาตลอดดูมุ่งมั่นขึ้นมาทันที ส่วนคนที่นั่งข้างๆก็ได้แต่ยิ้มให้กับความเป็นเด็กของคนข้างๆ



    ________________________________________________________________________________________________________

    ขอแต่งเรื่องนี้ก่อนนะคะ เรื่องนี้แต่งไว้นานแล้ว แต่ไม่กล้าเอามาลง เป็นเรื่องแรกๆเลยก็ว่าได้ อยากลองเอามารีไรท์ใหม่เป็นฮันชอลเหมือนเดิมค่ะ ส่วนคู่อื่นๆต้องลุ้นเอานะคะ

    ลองอ่านกันนะคะ 

    ขอให้สนุกกับการอ่านฟิคเรื่องนี้นะคะ

    เม้นให้เราหน่อยนะจะได้เอากลับไปแก้ไข หรือสนุกไม่สนุกยังไงก็บอกกันได้นะคะ 

     

    ++++ ขอบคุณคนอ่านและเม้นทุกๆคนมากคร้า ++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×