คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
ปัง ปัง ปัง ฮันเกิงปัง ปัง ปัง ฮันเกิง ปัง ปัง ปัง ฮานนนนนเกิงงงงงง
เสียงเคาะประตูดังลั่นตั้งแต่เช้ามืด ที่ยังไม่สว่างดี เจ้าของห้องที่กำลังนอนคุดคู้อยู่บนเตียงนุ่มอย่างสบายกลับต้องสดุ้งตื่นเพราะเสียงตะโกนเรียกของใครบางคน
“ใครมาเรียกแต่เช้าว่ะ” เขาตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงีย ยังคงกึ่งหลับกึ่งตื่นเดินโดยไม่ได้ลืมตาไปที่หน้าประตูพลางเหวี่ยงประตูเปิดออกด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เพราะเขาไม่ชอบให้ใครมาเรียกเขาตอนยังได้นอนไม่เต็มที่แบบนี้ พอเปิดออกมาก็พบกับแขกผู้มาเยือนที่กำลังยืนหันข้างอย่างสบายอารมณ์ ขนาดท่ายืนเคาะประตูยังทำให้เขาหมั่นไส้ได้ขนาดนี้
ฮานเกิงงงงงงงงงงงงง เขากำลังจะเคาะประตูอีกครั้งโดยที่สายตาไม่ได้หันมามองคนที่มายืนตามเสียงเรียกของเขา มือที่เคาะไปกลับไม่เจอบานประตูไม้เหมือนเดิม แต่กลับเป็นเพียงความว่างเปล่า เขาจึงรีบหันมามองยังบานประตูทันที แต่สิ่งที่เห็นทำให้เขาต้องเบิกตาโต เพราะคนที่ยืนอยู่กำลังยืนจ้องหน้าเขาเหมือนอยากจะอยากจะบีบคอให้ตายซะตรงนั้น
“อ้าว นายมาเมื่อไรเนี่ย”
“นายมีอะไรห่ะ ฮีชอลมาร้องตะโกนบ้าบอแต่เช้าเนี่ย” ตากลมโตจ้องมองอีกคนที่สภาพผมยุ่งเหยิง ของเขาก็เข้าใจทันทีว่าอาการแบบนี้เพิ่งตื่นแน่ๆ เหอะ แต่มีหรือว่าคนแบบคิมฮีชอลจะสนใจความทุกข์ของคนอื่น
“ ฮีบอมอยู่ที่ห้องนายมั้ย”
“ไม่อยู่ ไม่เห็น เข้าใจแล้วก็ไปได้แล้ว”เขาโบกมือไล่ พลางดึงประตูจะปิดแต่อีกคนกลับเอามือมากันประตูไว้ก่อน
“ไม่มีจริงๆหรอ นายดูทั่วยัง”
“ฮึ้ย ไม่มีก็ไม่มีเซ่ จะมาอยู่ห้องฉันได้ไงก็ฉันล็อกประตูตลอด” เขาไม่พูดเปล่า พร้อมกับกระชากประตูปิดทันที
“ฮาน ..”คนที่มาตามหาแมวรักยังไม่ทันอ้าปากพูดจบก็โดนอีกคนปิดประตูใส่หน้าเต็มๆ
“โธ่เว้ย แค่ให้หาแมวให้หน่อยทำมาเป็นอารมณ์ เสียใส่ แบร่”ฮีชอลทำหน้าบูดบึ้งและแลบลิ้นใส่เหมือนเด็กๆแล้วก็เดินไปหาที่ห้องอื่นๆต่อ
ส่วนคนในห้องที่โดนปลุกแต่เช้าก็กลับเข้ามายังเตียงนุ่มอันแสนสบายของเขาต่อ ถึงจะรู้สึกหงุดหงิดกับเรื่องเมื่อกี้อยู่ก็ตาม พอเดินมาถึงเตียงเขาค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงแล้วสอดขาเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนหนา แต่กลับรู้สึกเหมือนเท้าไปสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่เหมือนขน “เฮ้ย !!!” เขารีบชักเท้ากลับทันที
“ตัวอะไรว่ะ ตอนแรกยังไม่มีแบบนี้นี่” ฮันเกิงเอียงหัวด้วยความสงสัย แล้วจึงค่อยๆเปิดผ้าห่มผืนหนานั้นแล้วก็ต้องพบว่ามันคือตัวปัญหาที่ฮีชอลตามหาอยู่นั่นเอง
“แกนี่เอง เจ้านายกำลังหาแกอยู่นะ”ฮันเกิงค่อยอุ้มแมวอ้วนตัวนั้นขึ้นมา
“ทำไมถึงได้ชอบมาห้องฉันนักนะ ทั้งๆที่ฉันกับแกก็ไม่ได้สนิทกันอะไรซักหน่อย เฮ้อ” ทุกๆครั้งเจ้าฮีบอมชอบมายุ่งวุ่นวายที่ห้องของเขาอยู่บ่อยๆ ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมชอบมาห้องเขาแล้วเข้าห้องเขามาได้ยังไง
“ฉันอยากจะเปลี่ยนชื่อแกเป็น ไอ้วุ่นวายจริงๆ ชอบมาวุ่นวายกับชีวิตคนอื่นเค้าเนี่ย” จากที่คิดว่าจะกลับมานอนต่อก็ต้องเปลี่ยนใจเอาแมวไปคืนเจ้าของ เพราะตอนนี้ให้นอนอีกทีก็คงข่มตาไม่หลับแล้ว และอีกอย่างกลัวว่าฮีชอลจะไปรบกวนคนอื่นๆต่อด้วย ยิ่งไม่ค่อยจะสนใจใครอยู่แล้ว
“มีแต่เรื่องเดือดร้อนให้ทั้งแมวทั้งเจ้าของ”
ร่างสองร่างที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา หน้าโทรทัศน์ ที่หน้าจอเป็นเกมส์รถแข่ง ที่อีกคันเป็นสีดำ และอีกคันเป็นสีเหลือง จนสุดท้ายสีดำก็เป็นผู้ชนะไปอีกครั้ง
“แพ้อีกแล้ว คิบอมนายเปลี่ยนเกมส์เหอะ พอดีว่าฉันจะไม่ค่อยถนัดเกมส์เกี่ยวกับรถเท่าไร ลองเปลี่ยนเป็นเกมส์อื่นดีกว่า”
“เกมส์ไหน ก็เหมือนๆกันนั่นแหละเห็นเล่นทีไรนายก็แพ้ทุกทีนี่”
“เฮ้ยๆ นี่ฉันพูดจริงนะ ลองเปลี่ยนเกมส์ คราวนี้ฉันชนะนายแน่ คิบอม”
“ก็ได้งั้นนายเลือกเกมส์ไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวฉันไปกินน้ำก่อน” คิบอมลุกจากที่นั่งแล้วเดินตรงไปที่ห้องครัวเพื่อไปดื่มน้ำ ระหว่างทางก็เดินสวนกับฮีชอลที่กำลังตามหาฮีบอมมาตั้งแต่เช้าแล้ว
“พี่ยังหาฮีบอมไม่เจออีกหรอ” ฮีชอลที่กำลังเดินหาไปทั่วห้องครัวกำลังเดินออกไปยังห้องนั่งเล่นต่อ
“ยังเลยไม่รู้หายไปไหน คิบอม นายไม่เห็นบ้างเลยหรอ” คิบอมส่ายหัว “ไม่เห็นเลยนะ ตั้งแต่มานั่งเล่นเกมส์กับฮยอกแจ ตั้งแต่เช้า”
“งั้นเดี๋ยวไปหาในห้องนั่งเล่นดีกว่าเผื่อว่าฮีบอมจะไปแอบอยู่แถวนั้น” คิบอมพยักหน้าเบาๆเชิงเข้าใจ แล้วอีกคนก็เดินหายออกไปยังห้องนั่งเล่น ผมเห็นพี่หาในห้องนั้นมาเป็นรอบที่ร้อยแล้ว แล้วที่ว่าฮีบอมจะไปแอบอยู่แถวนั้น มันเล่นซ่อนหากับพี่หรือไงฮะ คิบอมคิดพลางส่ายหน้า เอือมระอากับพี่ชายคนนี้จริงๆ
คิบอมหาน้ำดื่มจนเสร็จ ระหว่างที่เขากำลังจะเดินออกมาจาห้องครัว ห้องครัวกับห้องนั่งเล่นติดกันจึงเห็นคนที่เขาเพิ่งคุยด้วยเมื่อกี้กับสมาชิกชาวจีนเพียงคนเดียวของวงในมือของเขากำลังอุ้มแมวตัวที่พี่ฮีชอลกำลังหาอยู่ เขายื่นให้เจ้าของของมัน
“ แมวนายมาอยู่ที่ห้องฉันอีกแล้ว ทีหลังหัดสั่งสอนแมวนายบ้างก็ดีนะ หัดเกรงใจคนอื่นบ้างก็
” ฮีชอลรีบดึงแมวจากมือฮันเกิงไปทันที
“ฮีบอม ฮีบอม แกไปไหนมาเนี่ย โอ๊ยตามหาซะทั่วบ้าน” ฮันเกิงส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย พูดไปก็ไม่เคยฟังที่เขาพูดเลย คนกำลังพูดนะเว้ย ฟังบ้างได้มั้ย ฮีชอล
“ฉันบอกว่าอะไร นายได้ยินมั้ยเนี่ย”
“ฉันได้ยินแล้ว บ่นเป็นคนแก่ไปได้เรื่องเล็กน้อยเองน่า” ฮีชอลพูดไปพร้อมกับกอดฮีบอมไปด้วยเหมือนไม่ค่อยสนใจเขาเท่าไรเลย
“รู้ก็ดี แล้วหัดทำตามที่บอกบ้าง ฉันหิวแล้ว นายจะเอาอะไรมั้ย”
“เอาๆ ฉันขอข้าวผัดปักกิ่งแล้วกัน แล้ววันนี้นายมีงานมั้ย” ฮีชอลกอดคอร่างสูงแล้วพากันเดินเข้าไปในห้องครัวด้วยกัน
คิบอมเลยเดินออกมาก็เห็นร่างเล็กที่นั่งอยู่หน้าโทรทัศน์กำลังมองทั้งสองคนอยู่ จนพวกเค้าหายเข้าไปในครัวด้วยกัน คิบอมเดินกลับเข้ามานั่งที่เดิมของเขา
“พี่ฮีชอลนี่ โชคดีนะ ที่มีพี่ฮันกยองคอยดูแล ” ฮยอกแจที่อยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาลอยๆอย่างลืมตัว
“ฮะ นายว่าไงนะ” คิบอมที่ได้ยินไม่ค่อยถนัดจึงถามซ้ำอีกครั้ง
“ฮะ” ฮยอกแจที่เหมือนจะเพิ่งรู้สึกตัว แล้วทำหน้าเหลอหลาใส่อีกคน
“เมื่อกี้นายพูดอะไรเกี่ยวกับพี่ฮันกยองกับพี่ฮีชอลเนี่ยแหละ”
“อ้าว หรอไม่ใช่หรอกมั้งนายคงได้ยินผิดไปเอง นี่ๆฉันได้เกมส์ใหม่แล้ว มาแข่งกันอีกรอบคราวนี้ฉันไม่แพ้นายแน่” ฮยอกแจที่ตอนแรกทำหน้าแปลกๆเมื่อกี้ ทำให้คิบอมยังติดใจอยู่ ‘พี่ฮีชอลโชคดีนะ ที่มีพี่ฮันกยองคอยดูแล’ คำพูดที่คนตัวเล็กพูดเมื้อกี้เขายังจำได้เป็นอย่างดี เขาสังเกตมาหลายครั้งแล้วที่เหมือนว่าคนๆนี้จะให้ความสนใจต่อพี่ฮันกยองเป็นพิเศษ และเขาก็รู้สึกว่าฮยอกแจต้องมีความรู้สึกพิเศษกับเขาคนนั้นด้วย
“นายจะเล่นมั้ยเนี่ย ถ้านายไม่เล่นถือว่านายแพ้เลยแล้วกัน” คิบอมที่กำลังคิดเรื่องของคนข้างๆอยู่จึง ต้องหลุดจากความคิดนั้น แล้วรีบตอบกลับไปทันทีแบบที่ไม่ชอบแพ้ใคร มันเป็นนิสัยของเขาอยู่แล้ว
“เฮ้ย เล่นสิ ฉันจะให้นายเห็นว่ายังไงนายก็ไม่มีวันชนะฉันได้หรอกยังเร็วไปสิบปีนะ เด็กน้อย” คิบอมยิ้มแล้วมองมาที่เขาอย่างเย้ยหยัน
“นายอายุน้อยกว่าฉันนะคิบอม นายนั่นแหละเด็กน้อย” ฮยอกแจก็ไม่ยอมแพ้ เขารู้สึกแปลกใจอยู่อย่างนึงว่าทำไมคนที่อายุอ่อนกว่าเค้าไม่เคยมีใครเรียกเขาว่าพี่เลย บางครั้งเค้าก็รู้สึกไม่ชอบเหมือนกันที่คนอ่อนกว่ามาเรียกเขาแบบนี้ โดยเฉพาะคิบอม ที่อ่อนกว่าเขาหลายปีอยู่ แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาของเจ้าน้องชายเย็นชาคนนี้ที่แทบจะไม่เรียกใครพี่เลยก็ว่าได้ เพราะการที่เขาเคยไปอยู่ที่ต่างประเทศเนี่ยแหละที่เป็นสาเหตุ กระทั่งพี่ฮีชอลยังโดนมาแล้วเลย
“คราวนี้ล่ะ ฮยอกแจคนนี้จะทำให้นายได้ลิ้มรสความรู้สึกของคนแพ้ว่ามันเป็นยังไง” สีหน้าของคนที่แพ้มาตลอดดูมุ่งมั่นขึ้นมาทันที ส่วนคนที่นั่งข้างๆก็ได้แต่ยิ้มให้กับความเป็นเด็กของคนข้างๆ
________________________________________________________________________________________________________
ขอแต่งเรื่องนี้ก่อนนะคะ เรื่องนี้แต่งไว้นานแล้ว แต่ไม่กล้าเอามาลง เป็นเรื่องแรกๆเลยก็ว่าได้ อยากลองเอามารีไรท์ใหม่เป็นฮันชอลเหมือนเดิมค่ะ ส่วนคู่อื่นๆต้องลุ้นเอานะคะ
ลองอ่านกันนะคะ
ขอให้สนุกกับการอ่านฟิคเรื่องนี้นะคะ
เม้นให้เราหน่อยนะจะได้เอากลับไปแก้ไข หรือสนุกไม่สนุกยังไงก็บอกกันได้นะคะ
++++ ขอบคุณคนอ่านและเม้นทุกๆคนมากคร้า ++++
ความคิดเห็น