ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END [FIC iKON] พี่ชาย BJIN Ft. iKON BOBYUN JUNDONG

    ลำดับตอนที่ #24 : 23 : ฟิคพี่ชาย 23 [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.64K
      14
      26 ต.ค. 58



    ฟิคพี่ชาย BJIN Ft. iKON Junhoe [BOBYUN] 

    -23-


     

    11 : 21 PM

     

    จินฮวานเริ่มรู้สึกตัวและขยับตัวไปมา ตาเล็กค่อยๆลืมขึ้นพบกับบรรยากาศที่ไม่คุ้นเคย เขาจำได้ว่าภาพสุดท้ายในความทรงจำคือใบหน้าของฮันบินที่มองมาแล้วหลังจากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบลง

     

     

    เมื่อปรับสายตาให้เหมาะสมและภาพตรงหน้าเริ่มชัดเจนร่างเล็กก็ต้องผงะ ถดตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงด้วยหัวใจที่เต้นรัวเร็ว อาการปวดจี้ดในหัวทำให้ใบหน้าเล็กยู่ลงและบิดเบี้ยวไปตามความเจ็บปวด

     

     

    “ตื่นแล้วหรอ” ฮันบินเดินเข้ามาพร้อมกับเอ่ยถามพี่ชายร่างเล็กที่มีท่าทางหวาดกลัว

     

     

    “ฮันบิน ที่นี่ที่ไหน” เอ่ยชื่อคนที่เดินเข้ามาหาพร้อมกับถามประโยคที่สงสัยอย่างไม่รอช้า

     

     

    “บ้านพักของบ๊อบบี้น่ะ”

     

     

    “นาย...มาที่นี่ทำไม แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่กับนาย”

     

     

    “เพราะผมพาพี่มาไง”

     

     

    “คิดจะทำอะไร พาฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ”

     

     

    “นี่มันห้าทุ่มแล้ว ที่นี่ไกลจากบ้านเรามากเลยนะ”

     

     

    “ต้องการอะไร” จินฮวานมองข้ามความยียวนของฮันบิน เขาเลือกที่จะถามความต้องการของอีกคนออกไป นี่ห้าทุ่มแล้วงั้นเหรอ หายมานานขนาดนี้ที่บ้านไม่เป็นห่วงจนบ้านวุ่นวายไปแล้วหรอ เด็กนี่คิดเล่นอะไรพิเรนท์อีกหรือไง

     

     

    “ผมไม่ได้ต้องการอะไรเลยนอกจากคุยกับพี่”

     

     

    “ทำไมต้องมาคุยถึงที่นี่”

     

     

    “ก็เพราะที่บ้านพี่ไม่คุยกับผม”

     

     

    “...”

     

     

    “พี่จินฮวาน ที่นี่มีแค่เรานะครับ แค่ทำอะไรก็ได้ที่พี่อยากทำ พูดในสิ่งที่พี่รู้สึก ผมขอแค่นี้” ถ้อยคำขอร้องถูกเอ่ยบอกออกไป ทั้งๆที่เขาเคยขอไปแล้วหลายครั้ง แต่พี่ชายตัวเล็กก็ยังทำใจแข็ง จะเมินกันไปถึงไหน ไม่คิดว่าที่ทำอยู่มันสร้างความเจ็บปวดให้กันบ้างหรือไง

     

     

    “...”

     

     

    “เลิกใจแข็งสักที ผมจะตายเข้าแล้วจริงๆ” ฮันบินนั่งลงและสวมกอดคนตรงหน้าอย่างไม่รอช้า 



    อ้อมกอดอบอุ่นถูกส่งมอบจากคนที่คิดถึงสุดหัวใจ จินฮวานคิดถึงฮันบิน คิดถึงสัมผัสจากฮันบิน คิดถึง คิดถึง...

     

     

    ร่างเล็กไม่ได้กอดตอบแต่ก็ไม่ได้ผลักอีกคนออก เขาทำเพียงแค่นั่งนิ่งๆปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาเงียบๆอย่างห้ามไม่อยู่

     

     

    “ผมรักพี่ แค่พี่คนเดียวนั่นคือที่ผมคิด”

     

     

    “...” ปากบางเม้มเป็นเส้นตรงอย่างพยายามใช้ความคิด สกัดกั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดออกไปหรือให้มันเล็ดลอดออกไปให้น้อยที่สุด เขาไม่รู้จะทำอะไรนอกจากร้องไห้ จินฮวานทำอะไรไม่ถูก แม้แต่จะพูดอะไรออกไปในตอนนี้เขายังทำไม่ได้เลย

     

     

    “ทั้งๆที่พี่เองก็รักผม แต่พี่กลับไม่มองแค่ผม พี่ดึงคนอื่นมากมายเข้ามาวุ่นวายกับเรื่องของเรา”

     

     

    “...”

     

     

    “พี่จะคิดถึงคนอื่นให้ลำบากความรู้สึกตัวเองทำไม” ฮันบินรับรู้ถึงความชื้นบริเวณไหล่ พี่จินฮวานกำลังร้องไห้

     

     

    “นั่นคุณพ่อนะไม่ใช่คนอื่น” ร่างเล็กในอ้อมกอดยอมเอ่ยออกมาในที่สุด เพราะฮันบินเปรียบผู้มีพระคุณเป็นคนอื่น มันไม่ถูกต้องที่ฮันบินจะคิดแบบนั้น ถึงเขาจะคิดถึงใจคุณพ่อมากก็จริง แต่คุณพ่อคือคุณพ่อ ไม่ใช่คนอื่น

     

     

    “พี่ก็คิดถึงแต่พ่อ”

     

     

    “...”

     

     

    “ แล้วผมล่ะ ผมจะเจ็บยังไงก็ช่างหัวผม...แบบนั้นเหรอ?”

     

     

    “อย่าพูดแบบนี้ได้ไหม” จินฮวานสะอื้นฮักในอ้อมกอดอุ่น มือเล็กยกขึ้นกอดตอบอีกคนทันที เขาใจแข็งต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ ความเจ็บปวดของเราไม่ได้แตกต่างกันเลย แค่ได้ฟังคำพูดตัดพ้อของฮันบินจินฮวานก็อ่อนปวกเปียกไปหมด

     

     

    เขาผิดเองที่คิดจะตัดฮันบินออก ทั้งๆที่มันเร็วเกินไป แม้แต่ตัวเขาเองยังทำใจไม่ได้ เขาผิดที่ไม่เชื่อฮันบิน เขาผิดเอง ยอมรับผิดแล้วทุกอย่าง

     

     

    “...” ฮันบินเงียบไป

     

     

    “...” จินฮวานเองก็ได้แต่นั่งกอดอีกคนและร้องไห้ต่อไป ไม่ใช่ไม่อยากพูดอะไรแต่อะไรที่อยากจะพูดมันก็พูดไม่ออก ปล่อยให้ฮันบินได้พูดอะไรที่เขาอยากพูด พูดออกมาให้หมดเลย ตอนนี้ฉันจะฟังนายทุกอย่าง

     

     

    “พี่ทำเหมือนที่ผมพูดมันไม่มีความหมาย ทำเหมือนคำพูดของผมไม่มีค่าอะไรเลย” ฮันบินยังคงเอ่ยประโยคตัดพ้อออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนั่นมันก็ทำให้ใจคนฟังหวิวไปไม่น้อย

     

     

    “...”

     

     

    “ผมบอกว่าคิดถึงพี่ ทั้งๆที่มันคือความจริงใจทั้งหมดของผม แต่พี่กลับทำเหมือนไม่อยากฟังมัน”

     

     

    “...” ฮันบินโจมตีด้วยคำพูดจนจินฮวานตัวแข็งทื่อไปหมด ทำไมเด็กนี่ถึงได้มีสิ่งที่อยากจะพูดมากมายขนาดนี้ แล้วที่พูดมาน่ะ ไม่คิดหรอว่ามันเชือดเฉือนใจกันมากแค่ไหน

     

     

    “แถมยังทำเหมือนไม่คิดถึง ไม่อยากเจอผมอีก”

     

     

    “...”

     

     

    “ใจร้ายมากรู้ตัวไหมคิมจินฮวาน”

     

     

    “ขอโทษ”

     

     

    “หือ?” ฮันบินชะงักไปด้วยความตกใจทันทีที่ได้ยินเสียงเล็กๆเอ่ยออกมา

     

     

    “ฉันขอโทษ ขอโทษทุกอย่าง รู้ว่ามันทำนายเสียความรู้สึกไปแล้ว”

     

     

    “...”

     

     

    “แต่ก็อยากขอโทษ ขอโทษที่ฉันมันบ้าทำอะไรที่ตรงข้ามกับความรู้สึกไปซะหมด”

     

     

    “...”

     

     

    “ยังอยากได้ยินคำคิดถึงของฉันอยู่หรือเปล่า”

     

     

     

    “...”

     

     

    “ฉันคิดถึงนายจะตายอยู่แล้ว” แขนเล็กกระชับกอดให้แน่นขึ้นราวกับกลัวว่าร่างหนาตรงหน้าจะสลายหายไป ต่อให้กลับไปที่บ้านต้องเจอกับอะไรจินฮวานก็ไม่อยากจะคิดถึงแล้ว ขอแค่ตอนนี้มีฮันบินอยู่ข้างๆเขาก็พอ

     

     

                แบบนี้หรือเปล่านะที่ฮันบินอยากให้เขาคิด

     

     

    เขาผิดเองที่มองข้ามมัน ขอโทษนะฮันบิน ต่อไปฉันจะเชื่อใจนาย ถึงมันจะขัดใจคุณพ่อ แต่ฉันก็รู้ว่าฉันยังมีนายอยู่ข้างๆกัน

     

     

    ฝ่ายฮันบินเองเขาดีใจกับประโยคที่ได้ยินจนหัวใจพองโต รอยยิ้มแห่งความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาเป็นครั้งแรกของวัน ไม่คิดว่าแผนของเขาจะได้ผลเร็วแบบนี้ นึกว่าจะต้องลงมือกับร่างนุ่มนิ่มนี่เพราะความดื้อรั้นของอีกคนซะอีก

     

     

    “ถ้าบอกผมแบบนี้ตั้งแต่แรกก็คงไม่ต้องมาอยู่ที่นี่นะ”

     

     

    “ที่จริง...”

     

     

    “หื้ม?”

     

     

    “มาอยู่กับนายแบบนี้มัน...ก็ดี...เหมือนกันนะ” คำพูดที่ไม่ควรพูดหลุดออกจากปากบาง ฮันบินนี่แทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง

     

     

    “น่ะ งานขี้อ่อยก็มานะ” ฮันบินผละร่างเล็กออกจากอ้อมกอดเบาๆ คราบน้ำตายังคงเลอะอยู่บนแก้มใส นิ้วโป้งถูกยกขึ้นมาเพื่อปาดคราบน้ำตาให้อีกคน เขามองจินฮวานด้วยสายตาที่อบอุ่น สายตาที่เต็มไปด้วยความคิดถึง สายตาแห่งความรักหมดทั้งใจที่มี

     

     

    “...” จินฮวานแอบอมยิ้มสุขใจทั้งที่น้ำตาก็ยังไม่จางไปจากใบหน้า

     

     

    “แล้วใครที่บอกว่าไม่รักผมเมื่อวาน ใครที่บอกว่าจะลืมผม ใครกันที่บอกให้ผมกลับไปเป็นน้องชาย แล้วใคร...”

     

     

    “พอได้แล้ว ตอนนั้นฉันกลัวมาก กลัวจนโง่ไปเลย” นิ้วเล็กยกขึ้นมาปิดปากเพื่อไม่ให้เด็กขี้ตัดพ้อได้พูดอะไรออกมาอีก

     

     

    “พี่จะเชื่อผมแล้วใช่ไหม มาอยู่ข้างกันนะครับ”

     

     

    “อื้ม”

     

     

    “ผมคิดถึงพี่มากเลยรู้ไหม”

     

     

    “...รู้แล้ว”

     

     

    ฮันบินประคองใบหน้าเล็กให้ได้ระดับก่อนที่เขาเองจะก้มไปฝังจูบลงบนหน้าผากเนียน ก่อนจะไล่จูบซับคราบน้ำตาทั้งหมดบนใบหน้าหวาน

     

     

    “พี่ไม่ควรร้องไห้อีก พี่ไม่ควรจะเสียใจกับอะไรอีกทั้งนั้น” จบคำพูดที่เป็นเหมือนคำสัญญา คนพูดก็เลื่อนปากมาประทับจูบลงบนริมฝีปากบางทันที ถ้าจะให้พูดกันตรงๆเขาคิดถึงปากหวานๆนี่ที่สุดเลยล่ะ ถึงจะเพิ่งได้สัมผัสไปเมื่อวานแต่ช่วงเวลาที่ผ่านมามันก็เหมือนผ่านมานาน นานจนเขาคิดถึง คิดถึงคนตัวเล็กคนนี้ที่สุด

     

     

    รสจูบที่แสนหวานทำเอาคนป่วยหายใจติดขัด ความอ่อนโยนของฮันบินทำให้เขาแทบจะไม่เหลือสติ

    ร่างบางรู้สึกตัวอีกทีก็โดนคนเอาแต่ใจผลักให้นอนลงไปบนเตียงซะแล้ว

     

     

    ฮันบินเลื่อนเป้าหมายจากปากเล็กแสนหวานไปที่ซอกคอขาวที่ตอนนี้ร้อนระอุ พลันให้นึกขึ้นได้ว่าอีกคนกำลังไม่สบายแถมยังเพิ่งฟื้นจากฤทธิ์ยานอนหลับอีกตางหาก

     

     

    เชี่ยบิน นี่มึงจะปล้ำคนป่วยหรอ?

     

     

    แต่คนป่วยนี่ก็ขัดขืนซะที่ไหนล่ะ นอนนิ่งเชียว

     

     

    “ถ้าไม่เห็นว่าป่วยพี่ไม่รอดแน่” คนเป็นน้องเอ่ยก่อนจะผละตัวเองออกทิ้งให้คนเป็นพี่นอนหน้าแดงอยู่บนเตียง

     

     

    “...” จินฮวานนี่แทบจะกัดลิ้นตัวเองตาย ก็เมื่อกี้เคลิ้มจนลืมป่วยไปเลยน่ะสิ!

     

     

    “พักผ่อนนะครับ ผมจะออกไปซื้อของใช้จำเป็นหน่อย”

     

     

    “ไปด้วยไม่ได้หรอ? นายซื้อเป็นหรือไงล่ะ”

     

     

    “ช่วยไม่ได้ ก็พี่ป่วย”

     

     

    “ฉันไม่อยากอยู่คนเดียวนี่”

     

     

    “แล้วจะให้ผมทำยังไง แบบนี้หรือเปล่า” ไม่ว่าเปล่า คนเอาแต่ใจยังแทรกตัวเองขึ้นมาบนเตียงก่อนจะกลิ้งตัวขึ้นทับคนป่วย ใช้สายตาไล่มองทุกส่วนของใบหน้า

     

     

    “มะ ไม่ใช่สักหน่อย นี่! มันหนักนะ” จินฮวานยู่หน้าเพราะรู้สึกหนัก ก็ตัวฮันบินโตกว่าตัวเขานี่นา แล้วนี่จะมาหายใจใกล้กันทำไมเดี๋ยวก็ติดไข้ไม่รู้เรื่องหรอก!!! -///-

     

     

    “ถ้าถามผม ผมไม่อยากจะห่างพี่แม้แต่วินาทีเดียว”

     

     

    “...”

     

     

    “ไม่รู้ว่าตอนไหนที่ผมรักพี่มากขนาดนี้ รู้ตัวอีกทีผมก็ไม่อยากจะเสียพี่ไป” ฮันบินเอ่ยเสียงแผ่ว จ้องลึกลงไปในแววตาหวาน

     

     

                แววตาที่เมื่อก่อนไม่เคยคิดอยากจะมอง แต่ตอนนี้กลายเป็นแววตาที่เขาอยากจะมองที่สุด อยากจะจ้องที่สุด ไม่อยากให้แววตาคู่นี้มองไปทางอื่นนอกจากตัวเขา จนถึงตอนนี้เขาหลงไหลคนๆนี้มากจริงๆ

     

     

    “ฉันใช้เวลารู้สึกกับนายไม่นานเลย แค่นายบอกว่าชอบฉันฉันก็หวั่นไหวไปแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ฉันมันคนใจง่าย” มือเล็กยกขึ้นกอดอีกคนแนบแน่นทันทีที่จบประโยคสารภาพ

     

     

    ฮันบินฉีกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะพลิกตัวยกอีกคนขึ้นมาไว้บนตัวเขาได้แบบสบายๆ กลายเป็นว่าตอนนี้ร่างเล็กๆของจินฮวานได้นอนทับลงบนตัวของฮันบินในท่าที่ค่อนข้าง...ล่อแหลม

     

     

    “ใจง่ายกับผมน่ะมันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ฮันบินเอ่ยพร้อมใช้แขนขึ้นโอบกอดอีกคนไว้หลวม



    คนตัวเล็กในอ้อมกอดได้แต่นอนนิ่งๆและแนบแก้มลงบนอกแกร่ง เขาได้ยินเสียงหัวใจฮันบินเต้นและจับจังหวะได้อย่างชัดเจน มันเต้นรัวเร็วจนเขาเองแทบไม่อยากจะเชื่อ ฮันบินจำเป็นต้องใจเต้นเร็วขนาดนี้เลยหรอ เขาตื่นเต้นหรือไงนะ?

     

     

    แต่ถ้าฮันบินไม่ได้ตายด้านก็คงจะรู้นั่นแหละว่าหัวใจของจินฮวานก็เต้นเร็วและรัวไม่แพ้กัน

     

     

    “ใจนายเต้นเร็วมากอ่ะ”

     

     

    “ผมตื่นเต้น ผมดีใจที่ได้อยู่กับพี่แบบนี้”

     

     

    “...” ประโยคที่แสนจะตรงไปตรงมาของฮันบินทำเอาจินฮวานชะงักไป

     

     

    “ผมคิดว่าจะไม่มีวันนี้ซะแล้วรู้มั้ย”

     

     

    “...” จินฮวานเงยหน้าขึ้มองอีกคนที่ตอนนี้เขานอนทับอยู่ ฮันบินส่งยิ้มจางๆมาให้ แต่มันก็ดูอบอุ่นเหลือเกิน

     

     

    “...” ต่างฝ่ายต่างเงียบเพื่อที่จะจ้องมองและสื่อสารกันทางสายตา

     

     

    ฮันบินเองมองคนตัวเล็กที่อยู่บนตัวเขาด้วยความเพลิดเพลินจนลืมความหนักหน่วงบนร่าง ส่วนจินฮวาน เขาได้แต่จ้องมองและรับความอบอุ่นจากแววตาคู่นั้นอย่างลืมความเมื่อย

     

     

    “ขอบคุณนะฮันบิน” เป็นคนตัวเล็กข้างบนที่พูดขึ้นก่อน

     

     

    “หื้ม?”

     

     

    “ขอบคุณที่นายไม่เกลียดฉัน ขอบคุณที่พยายามจนทำให้เราได้อยู่ใกล้กันแบบนี้”

     

     

    “...”

     

     

    “ขอบคุณที่ไม่ท้อ แล้วก็ขอบคุณที่นายเลือกที่จะตามฉัน ขอบคุณที่ไม่คิดจะทิ้งกันไป”

     

     

    “ผมรักพี่นี่นา” คนที่นอนอยู่ใต้ร่างเล็กเอ่ยขึ้นบ้างด้วยรอยยิ้ม วันนี้เขายิ้มบ่อยจริงๆ ชอบตัวเองตอนนี้จริงๆ มีความสุขมากเลยจริงๆ

     

     

    “ฉันก็รักนายนะ รักมากเข้าไปทุกทีแล้ว” คำสารภาพถูกเอ่ยออกไปอีกครั้ง จินฮวานเขินจนแทบจะมุดลงไปในแผงอกกว้าง

     

     

    ต่อไปนี้รักก็จะบอกว่ารัก คิดถึงก็จะบอกว่าคิดถึง อยากกอดก็จะบอกว่าอยากกอด เขาจะเชื่อฮันบิน เมื่อฮันบินสู้เขาก็จะสู้ ไม่อยากจะเชื่อ แต่เขารักคิมฮันบินมากไปแล้วจริงๆ

     

     

    เรื่องที่ต้องเจอในอนาคตก็อยากจะพับเก็บไว้ก่อน ตอนนี้จินฮวานแค่อยากมีความสุขกับตรงนี้ มีความสุขที่ได้อยู่กับคนคนนี้...คิมฮันบิน

     

     

    “รักกันก็รัก ทำไมต้องทำห่างเหินกันด้วยก็ไม่รู้” คนน้องทำกระเง้ากระงอดล้อเลียนอยู่ใต้ร่าง ไม่รู้ทำไม จินฮวานเห็นท่าทางแบบนี้ของอีกคนแล้วอวัยวะเบื้องล่างมันเหมือนจะกระตุก น่าหมั่นไส้

     

     

    “ล้อเลียนหรอ?”

     

     

    “ก็พี่ทำอะไรกับผมไว้บ้างล่ะ ทั้งไม่ยอมพูด ไม่มองหน้า ไม่ยิ้มให้ สารพัดจะไม่”

     

     

    “จะไม่ยอมจบใช่มั้ย ผ่านไปแล้วจะไม่ยอมปล่อยผ่านใช่มั้ย” คนข้างบนเริ่มหงุดหงิดเล็กๆที่ฮันบินเอาแต่พูดกระทบกระเทือนกัน เออ เขาก็ยอมรับว่าเขาผิดที่แสดงออกต่อฮันบินแบบนั้น แต่เขาก็ขอโทษไปแล้วไง และตอนนี้มันก็ดีขึ้นแล้วด้วย แต่เด็กนี่ก็ยังจะรื้อขึ้นมาพูดอยู่นั่นน่ะ

     

     

                ตอนนั้นเขาก็แค่กลัว กลัวจนมองข้ามอะไรหลายๆอย่างไปเลย

     

     

    ร่างเล็กพยายามจะดิ้นออกจากอ้อมกอดเพราะเริ่มไม่พอใจแต่ก็ยังถูกเด็กเอาแต่ใจกอดไว้แน่น ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ ทั้งลำตัวทั้งขาทั้งแขนนี่ถูกันวุ่นวายไปหมด ทุกส่วนของร่างกายคนสองคนเสียดสีกันแม้แต่...ส่วนนั้น

     

     

              ความสูงนี่มันไม่มีผลต่อแนวราบเลยจริงๆ พอนอนทับกันไปแล้วร่างกายของเราเสมอกันทุกส่วน จะต่างก็แค่ใบหน้าเล็กๆของจินฮวานจะอยู่ตรงระดับอกของฮันบิน นอกนั้น...เสมอ

     

     

    จินฮวานหน้าแดงน้อยๆก่อนจะถอดใจเลิกดิ้นในที่สุด เขาไม่อยากขยับตัวแล้ว ไม่อยากจะเสียดสีกับฮันบินแล้ว-////-

     

     

    “ทำไมไม่ดิ้นต่อ นี่กำลังฟินเลยนะ” คนทะเล้นเลือกที่จะมองข้ามประโยคหาเรื่องของคนตัวเล็กไปแล้วเอ่ยถามออกไปแทน

     

     

    “ฟินอะไร” คิ้วเล็กขมวดมุ่น มีอะไรให้ต้องฟินกัน

     

     

    “ก็เวลาพี่ดิ้น...” สายตาเจ้าเล่ห์จากคนพูดถูกส่งมา ร่างเล็กถลึงตาใส่แทบจะทันที

     

     

    “หยุดพูดนะ เด็กบ้านี่” ว่าออกไปเพราะรู้ว่าอีกคนคิดอะไรอยู่ คิมฮันบินนี่มันคิมฮันบินจริงๆ กามมมมมมมจังเลยยยยยยย

     

     

    “ฮ่าๆ”

     

     

    “...” ใบหน้าเล็กอดไม่ได้ที่จะลอบยิ้มกับตัวเอง เด็กนี่เอาแต่ใจก็เอาแต่ใจ แถมยังทะลึ่งบ้ากามอีก รักไปได้ยังไงก็ไม่รู้!!!

     

     

    “ผมเองก็ขอบคุณนะครับ”

     

     

    “มาไม้ไหนอีกเนี่ย”

     

     

    “ก็อยากขอบคุณบ้าง ฟังก่อนดิ นี่ก็อยากจะพูดอะไรซึ้งๆเหมือนกันนะ”

     

     

    “ก็ฟัง ปล่อยก่อนสิ ไม่หนักหรือไง”

     

     

    “ไม่อ่ะ ชอบแบบนี้ แต่ถ้าพี่เมื่อยปล่อยก็ได้” ฮันบินคลายมือออกจากการกอดร่างเล็กก่อนที่จินฮวานจะได้เป็นอิสระและกลิ้งหลุนๆลงสู่ที่นอนนุ่มๆ

     

     

    “ก็ไม่เมื่อยหรอก แค่ท่ามันแปลกๆ แบบนี้ดีกว่าเยอะ” คนพี่พูดก่อนจะนอนตะแคงหันไปหา พร้อมกับคนน้องที่หันมาพอดีอย่างรู้งาน กลายเป็นว่าตอนนี้ทั้งคู่นอนจ้องตากันอยู่...อีกแล้ว จินฮวานเนี่ยเขินอีกแล้ว    -/-

     

     

    “...” ฮันบินเอาแต่จ้องตาอีกคนจนลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้จะพูดอะไร

     

     

    “พูดมาสิ ไหนจะขอบคุณอะไร”

     

     

    “ก็...ขอบคุณ ที่ไม่ดื้อไปกว่านี้”

     

     

    “...”

     

     

    “ขอบคุณที่ยอมคุยกับผมดีๆ ขอบคุณที่ทำให้ผมไม่ต้องใช้ความรุนแรง”

     

     

    “ความรุนแรง?”

     

     

    “ก็ คิดมาว่าถ้าพี่ดื้อ คงต้องปล้ำ”

     

     

    “ย่าห์!” มือเล็กฟาดลงบ่าแกร่งสุดแรงจนคนโดนฟาดต้องร้องซี้ดออกมา เด็กบ้า นึกอยากจะพูดอะไรก็พูดออกมาได้หน้าตาเฉยเลยรึไง

     

     

    “ล้อเล่นๆๆ ตีซะแรง” ความจริงก็ไม่ได้ล้อเล่นหรอก ถ้าพี่จินฮวานดื้อมากจริงๆเขาก็คงจะจับปล้ำจริงๆนั่นแหละ วันนี้ทำใจไว้แล้วว่าจะเลวให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่คนตัวเล็กก็ยังยอมพูดกันดีๆฮันบินก็เลยไม่ต้องเลวมาก แค่วางยานอนหลับเขาก็ดูเลวพอตัวอยู่แล้ว

     

     

    “พูดบ้าอะไร วันๆคิดอะไรบ้างเนี่ย”

     

     

    “คิดถึงพี่นั่นแหละ จะเป็นจะตายกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะพี่ไม่ยอมคุยกับผมเนี่ย”

     

     

    “ชิ...” หมั่นไส้ก็หมั่นไส้ แต่ก็เอ็นดู น่ารักเหมือนกันนะมนุษย์ฮันบินเนี่ย

     

     

    “ก็นั่นแหละ ผมอยากขอบคุณ แล้วก็ขอโทษ...”

     

     

    “ขอโทษ?”

     

     

     “ก็ผมวางยานอนหลับพี่อ่ะ”

     

     

    “ว่าแล้วนายต้องทำอะไรกับฉัน รู้สึกเพลียๆ ทำแบบนี้ทำไมห้ะ!” คนป่วยขึ้นเสียงใส่อย่างเอาเรื่อง

     

     

    “แล้วถ้าบอกจะยอมมาด้วยดีๆมั้ยล่ะ คุยกับผมพี่ยังไม่อยากทำเลย”

     

     

    “ก็ขอโทษไปแล้วไง”

     

    “นี่ก็อยากขอโทษบ้างไง ทั้งที่รู้ว่าพี่ป่วย แต่ผมก็ทำอ่ะ ผมกลัวว่าถ้าไม่ทำทุกอย่างมันจะช้าไป ผมกลัวผมจะช้ากว่าพ่อ..”

     

     

    “พอเถอะ ไม่พูดแล้ว” จินฮวานขยับตัวเข้าไปใกล้ก่อนจะใช้มือลูบไล้ใบหน้าคมของผู้เป็นน้องชาย คำว่าน้องชายแค่คิดก็สะเทือนจิตใจ

     

     

                คิมฮันบินจะเป็นแค่น้องชายเขาจริงๆหรอ? ในอนาคตข้างหน้าเขาต้องรักกับคนอื่นแล้วปล่อยคนคนนี้ไว้ในฐานะน้องชายจริงๆหรือ? เป็นคำถามที่จินฮวานเองไม่กล้าแม้แต่จะทวงถามพระเจ้า เขาเพียงแค่คิด แค่คิดในใจ...

     

     

    “เข้าใจผมใช่ไหม?”

     

     

    “อื้อ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันรู้”

     

     

    “แล้ว...ตอนนี้พี่ยังรู้สึกเหนื่อยๆหรือเพลียๆหรือเปล่า” ฮันบินถามก่อนจะจับมืออีกคนมากุมไว้

     

     

    “ก็ไม่ค่อยแล้วแหละ มีบ้างนิดหน่อยคงเพราะพิษไข้น่ะ ยานอนหลับคงหมดฤทธิ์ไปแล้วก็ฉันหลับไปตั้งหลายชั่วโมง”

     

     

    “ดีแล้ว” ฮันบินจับหัวทุยมานอนหนุนท่อนแขนตัวเองก่อนจะใช้มืออีกข้างที่ว่างลูบและปัดปอยผมหน้าม้าบริเวณหน้าผากเล็ก

     

     

    “...” จินฮวานไม่พูดอะไร เขาทำเพียงแค่กอดร่างหนากลับไปเท่านั้น บางทีความสุขมันก็แค่การได้กอดกับคนที่เรารัก มันแค่นั้นจริงๆ

     

     

    “พี่จินฮวาน”

     

     

    “หื้อ?”

     

     

    “ถ้าผมมีอะไรจะบอกพี่จะฟังไหม?”

     

     

    “อะไรล่ะ”

     

     

    “สัญญาก่อนว่าถ้าบอกไปแล้วจะไม่โกรธผม”

     

     

    “อะไรเนี่ย ซีเรียสหรือเปล่า”

     

     

    “ไม่น่าจะนะ หรืออาจจะ...” ฮันบินอ้ำอึ้ง ที่จริงเรื่องมันก็นานแล้ว จะไม่บอกก็ได้ไงแต่ก็อยากบอก เออนั่นแหละ อยากบอกอยากสารภาพ มีโอกาสทั้งทีก็ต้องบอกดิ

     

     

    “บอกมาเลย” เสียงแหบเอ่ยแกมขู่

     

     

    “เอ่อ ก็ ตอนนั้น ที่ผมบอกว่าชอบพี่ครั้งแรก เอ่อ ตอนปาร์ตี้วันเกิดพี่ยุนฮยองอ่ะจำได้ไหม”

     

     

    “อื้ม”

     

     

    “วันนั้นพี่เหมือนไม่เชื่อผม แถมผมยังพูดจาไม่ดีกับพี่ พี่ไปกินเหล้าจนเมา”

     

     

    “...” จินฮวานคิดตามคำพูดของอีกคน ใช่ วันนั้นเขาจำได้ดี แต่เป็นเหตุการณ์ก่อนที่เหล้าจะเข้าปากอ่ะ พอหลังจากเหล้าเข้าปากแล้วเขาก็จำอะไรไม่ได้เลย

     

     

    “ผมพาพี่กลับบ้าน แล้วคืนนั้นในห้องพี่...”

     

     

    “...”

     

     

    “ผมเกือบปล้ำพี่นะรู้ยัง”

     

     

    “ย่าห์!!!!” คนป่วยตะโกนใส่หน้าคนเล่าจนสุดเสียง

     

     

    “ฟังก่อนสิ ก็แค่เกือบ ดีที่ผมห้ามใจอยู่ปะวะ พี่แม่งเมาแล้วขี้อ่อยอ่ะ”

     

     

     

    “นายนี่มัน” จินฮวานพาลนึกไปถึงเหตุการณ์ของวันถัดมาของคืนนั้นที่เขารู้สึก...เจ็บปาก สรุปแล้วเขาไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ไอ้ความรู้สึกเหมือนจะเสียตัวในคืนนั้น...

     

     

    “แค่จูบ...”

     

     

    “ทำไมไม่เคยบอกกันเลยล่ะ” จินฮวานตั้งสติแล้วถาม นึกย้อนกลับไปตอนนั้นแล้วมันน่าอายนะ ถึงตอนนี้เราจะแตะต้องกันบ่อยจนแทบจะชินไปแล้ว แต่ตอนนั้นมันไม่ใช่นี่ ตอนนั้นเขายังไม่ได้รู้สึกอะไรกับฮันบินด้วยซ้ำ...มั้งนะ

     

     

    “ไม่มีโอกาส กลัวพี่โกรธด้วยแหละ”

     

     

    “บ้าจริงๆเลย” นายนี่มันปีศาจชัดๆเลยคิมฮันบิน นี่ฉันจะไว้ใจนายต่อไปได้หรือเปล่าเนี่ย

     

     

    “โกรธมั้ย..”

     

     

    “โกรธแล้วยังไงล่ะ นายทำไปแล้ว”

     

     

    “ขอโทษตอนนี้ไม่สายหรอกเนอะ” มาน้งมาเนอะไรล่ะ เด็กบ้านี่!!

     

     

    “ก็ดีที่ยังขอโทษอ่ะนะ” ร่างบางเอ่ยเสียงปกติ ถ้าถามว่าโกรธมั้ยก็ไม่หรอกในเมื่อตอนนี้ก็จูบไปจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แค่อายๆและตกใจมากกว่าที่จู่ๆฮันบินก็มาบอก ปกติเด็กนี่แคร์ใครที่ไหนล่ะ อะไรที่ผ่านมาแล้วเขาแทบจะไม่เคยได้ยินฮันบินกลับไปพูดถึงเลย ยิ่งเป็นเรื่องที่ฮันบินผิดหมอนี่ยิ่งไม่อยากรื้อฟื้นเลยล่ะ

     

     

    แต่นี่ที่เลือกจะพูดออกมาก็คงเพราะมีโอกาสและอยากจะขอโทษจริงๆนั่นแหละ

     

     

     “...ผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรอ่ะ แต่กับพี่ผมแค่คิดว่าผมจะรอ และผมรอได้ รอวันที่พี่เต็มใจอ่ะ จริงๆนะ” อยู่ๆฮันบินก็จริงจังขึ้นมา เขาคิดแบบนั้นมาโดยตลอดแหละ เขารอได้ แค่รู้สึกว่าไม่อยากทำร้าย ไม่อยากให้ร่างบางๆตรงหน้านี่ต้องเปราะบางไปมากกว่านี้แล้ว

     

     

    “ก็...พูดเรื่องอะไรเล่า” คนป่วยหลุบตาต่ำหน้าขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างอดไม่ได้ หมอนี่พูดเรื่องอะไรกัน รอก็รอไปสิ จะมาบอกทำไม แล้วนี่เขาควรจะโต้ตอบออกไปแบบไหนล่ะ บ้าจริง

     

     

    “ผมรักพี่นะครับ” แสดงความจริงใจออกมาทั้งหมดที่มีก่อนจะก้มลงฝังจูบลงบนหน้าผากเล็กอย่างเต็มรัก

     

     

    “...” จินฮวานหลับตานิ่งยอมรับสัมผัสแต่โดยดี คิดว่านายรักฉันฝ่ายเดียวหรือไงล่ะฉันก็รักนาย รักมากๆแล้วด้วย

     

     

    “ต่อไปนี้ก็แค่อยู่ข้างๆกัน ถ้าใครพยายามจะขัดขวางก็ไม่ต้องกลับหรอกบ้าน อยู่มันที่นี่แหละ”

     

     

    “ฮันบิน...ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ” พูดมาถึงตรงนี้จินฮวานก็ใจกระตุกอีกแล้ว เขาอยากจะลืมๆไปซะว่าต่อไปต้องเจอกับอะไร เขาไม่อยากคิดอะไรแต่ความจริงมันก็ยังมาให้เห็นอยู่ตรงหน้าเสมอ ความจริงที่ว่าคุณพ่อไม่ยอมรับเรา

     

     

    “พูดแบบนี้หมายความว่าไง กลับบ้านไปจะทำตัวห่างเหินกับผมอีกงั้นหรอ จะหมั้นกับคนอื่นทั้งๆที่บอกว่ารักผมงั้นสิ”

     

     

    “ไม่ใช่สักหน่อย หยุดประชดประชันกันได้แล้วมั้ย”

     

     

    “พี่ก็บอกมาสิ”

     

     

    “เราไม่กลับบ้านไม่ได้หรอก” แววตาใสหม่นลงอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้ จินฮวานไม่ได้อยากอ่อนแอ เพียงแต่ตอนนี้เขายังมองไม่เห็นความเป็นไปได้ แต่เขายืนยันแล้วว่าจะอยู่ข้างฮันบินเขาก็จะอยู่ข้างฮันบินนั่นแหละ

     

     

    “...”

     

     

    “แค่นี้ทุกคนก็เป็นห่วงเรามากพอแล้ว”

     

     

    “...”

     

     

    “ทั้งฉันทั้งนายก็ยังต้องเรียน เราจะเอาแต่ใจแบบนั้นไม่ได้”

     

     

    “แล้วถ้ากลับไปพ่อเตรียมงานหมั้นไว้รอพี่จะทำยังไง” ตัวฮันบินเองเขาไม่ได้กลัวหรอก ถ้าสมมติกลับไปเจอพ่อเตรียมงานหมั้นรอจริงๆเขาจะพาพี่จินหนีอีกตอนนั้นเลยก็ได้ แต่เขากลัวใจจินฮวาน กลัวคนตัวเล็กนี่จะใจอ่อนยอมพ่ออีก ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนก่อนหน้านี้

     

     

    “นายบอกให้ฉันเชื่อใจนาย แล้วนายเชื่อใจฉันไหม?” มือเล็กบีบมือใหญ่เบาๆเป็นการย้ำความเชื่อใจ ที่ผ่านมาฮันบินย้ำอยู่ตลอดว่าให้เขาเชื่อใจ และวันนี้เขาก็อยากจะบอกฮันบินเหมือนกัน

     

     

     เชื่อใจฉันได้แล้วนะ

     

     

    “ผมเชื่อใจพี่ตลอดนั่นแหละ แต่พี่ก็ยังหนีผม...”

     

     

    “หลังจากนี้ก็จะไม่หนีแล้วไง” จินฮวานเอ่ยพร้อมขยับปากตัวเองขึ้นแตะปากอีกคนเบาๆ เป็นเพียงการสัมผัสที่บางเบาและเนิ่นนาน ฮันบินไม่ได้หลีกหนีและก็ไม่ได้คุกคาม เขายอมที่จะอยู่นิ่งๆโดยไม่ทำการรุกล้ำใดๆ สัมผัสอุ่นๆจากปากเล็กทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

     

     

    “ฉันก็รักนาย นายคนเดียว” ว่าขึ้นอีกครั้งหลังจากละริมฝีปากออกมา

     

     

    “...”

     

     

    “ฉันคิดว่าฉันต้องคุยกับคุณพ่ออย่างตรงไปตรงมาสักครั้ง ที่ผ่านมาฉันกลัวและเอาแต่หนีมาโดยตลอด”

     

     

    “...”

     

     

    “การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการหันหน้าคุยกันไม่ใช่หรอ?” ร่างเล็กกระชับกอดแน่นอีกครั้ง เขาเองก็อยากจะทำให้ฮันบินมีความสุขบ้าง การคุยกับคุณพ่อไม่ใช่ว่าเขาจะบอกความต้องการทั้งหมดของตัวเอง แต่มันจะเป็นเพียงการขอโอกาส ขอแค่เขาได้พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดและรู้สึก

     

     

     

              ไม่รู้ว่าคุณพ่อจะมีการตอบสนองมาในลักษณะไหน แต่ตอนนี้เขาก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะคุย มันอาจจะฟังดูน้ำเน่าไปสักหน่อย แต่จินฮวานก็ยอมรับว่าตอนนี้สิ่งที่เขาหวงแหนและไม่อยากเสียไปที่สุดก็คือฮันบิน

     

     

    “ผมเชื่อว่าพี่ทำได้นะ”

     

     

    “อื้ม จะทำให้ดู”

     

     

    “ปล่อยมันเป็นเรื่องของอนาคตเถอะ ตอนนี้พี่พักผ่อนได้แล้วเดี๋ยวจะป่วยหนักกว่าเดิม”

     

     

    “แล้วนายจะไปซื้อของตอนไหน” ถึงจะบอกว่าไม่กลับบ้านไม่ได้ แต่ใจจินฮวานเองนี่แหละที่ยังไม่อยากกลับ ขอไม่กลับไปภายในวันนี้ก็แล้วกัน ขอเห็นแก่ตัวสักครั้ง เพียงเพราะอยากอยู่กับฮันบินนานๆ

     

     

    “รอพี่หลับก่อนผมค่อยออกไป”

     

     

    “รีบกลับมานะ”

     

     

    “อือ นอนเถอะ ฝันดีครับ” ฮันบินจรดจมูกลงบนหน้าผากเนียนอีกครั้งพร้อมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เวลานี้คนทั้งสองมีความสุข จินฮวานได้แต่วอนขอให้ความสุขอยู่ด้วยกันนานๆและเคียงข้างกันไปตลอด

     

     

    ฮันบินคือความสุข ขอแค่มีฮันบิน จินฮวานก็มีความสุข                

     

     

     

     

    100%

     

     

     

     

     

    ไหนใครจะเอาฉากอะไร นี่ฟิคใสใสนะ ไม่มีฉากปลุกปล้ำอะไรหรอก //ตัดภาพไปที่บ๊อบบยุน 55555555555555

    ของบีจินนี่ต้องรอก่อนนะฮะ ตอนแรกว่าจะให้พี่จินดื้อแล้วให้บินขย้ำซะในตอนนี้ แต่สงคนป่วย สงตัวเองด้วย แต่งคัทยังไม่ลื่นเลย(ต่อให้อีกนานแค่ไหนมันก็แต่งไม่ลื่นหรอกมันแก้ตัวไปงั้นแหละ) 55555555555555555555555555555

    ตอนนี้แค่อยากให้เค้าคุยกัน ให้เค้าเข้าใจกันก่อน พอเค้าเข้าใจกันแล้วอย่างอื่นจะได้เข้ากันง่ายๆ #อะไรวะ 5555555555555 เค้าคัทกันทั้งทีก็ต้องเต็มใจกันทั้งสองฝ่ายเส่ะ

    ช่วงแรกๆก็คุยกันอยู่หรอก หลังๆมาเหมือนน้องบินสารภาพบาป ถถถถถถถถถถถถถถถ

     

    *ตอนหน้าเราจะไปหาบ๊อบยุน เราจะไปไขข้อข้องใจกันว่าตกลงแล้วเพ่ยุนเขียนอะไรลงไปในกระดาษที่ยื่นให้ชนู เหยยย รีดเดอร์บางคนอาจลืมไปแล้ว แต่เราไม่ได้ลืมนะเหวย เราแค่อยากเอาบีจินให้รอดก่อนไงแกเข้าใจเรานะ .ปริบๆ 555555555555

     

    **ฉากคัทของบ๊อบยุนเรายังส่งให้ได้ตลอดๆนะงั้บ ใครที่ยังไม่ได้รับหรือเราพลาดข้ามไป แปะเมลล์ไว้ใหม่นา หรือใครที่เราส่งซ้ำก็ขออภัยนาคาาา 55555555555555555

     

    ทอล์คยาวทุกตอนนี่เป็นไรมากไหมนังไรท์เตอออออออออออร์ พูดไรนักหนา พูดมากขนาดนี้แม่ไม่ว่าหรอ 55555555555555555555555555555

    มันมาจากความคิดถึงทั้งน้านนนนน  #ฟิคพี่ชายบีจิน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×