คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : 21 : ฟิคพี่ชาย 21 [100%]
-21-
จินฮวานสะดุ้งสุดตัวพร้อมผลักตัวเองออกห่างจากฮันบินทันทีที่พบกับผู้มาใหม่
คุณพ่อ…
ท่านมาได้ยังไง
ท่านขึ้นมาทำไม ท่านเห็นแล้วใช่ไหม ท่านรู้แล้วใช่ไหม
ท่านได้ยินหมดแล้วใช่ไหมว่าเขากับฮันบินคุยอะไรกันไปบ้าง
คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวแต่ปากบางไม่สามารถเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาได้
เขาตกใจ ยอมรับว่าตกใจมากที่ผู้เป็นพ่อมายืนประจันหน้าอยู่ตรงนี้
ตอนนี้ความกลัวมันชัดเจนขึ้นมาอีกครั้ง และเขากำลังกลัว กลัวจนสั่นไปหมด…
“ลงไปคุยกันข้างล่าง”
คิมซองกยูยื่นคำขาดก่อนที่ตัวเขาเองจะเดินออกจากห้องไป
ทิ้งไว้เพียงสองพี่น้องที่นั่งอึ้งกับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น
ฮันบินเองก็นิ่งเงียบไปเช่นกัน ไม่ใช่เพราะกลัวพ่อ
กลัวพ่อก็อีกประเด็น แต่กลัวที่สุดก็คือความรู้สึกของคนข้างๆนี่แหละ
คนที่เขาเพิ่งจะขอคบเป็นแฟนไปเมื่อครู่
จินฮวานนั่งกุมมือตัวเองแน่น นาทีนี้เขาไม่กล้าแม้จะปริปากพูดอะไร
มือไม้สั่นจนพยายามกุมไว้แค่ไหนก็ปิดอาการไม่มิด
“พี่จินฮวาน” ฮันบินเอื้อมมือไปกอบกุมมือเล็กที่ยังสั่นเทา
เขาต้องการจะย้ำให้อีกคนมั่นใจว่าไม่ต้องกลัว
ตอนนี้มีฮันบินพี่จินฮวานไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรทั้งนั้น
“ลงไปข้างล่างเถอะ” มือบางชักออกจากการเกาะกุมรวดเร็ว
เร็วเสียจนฮันบินตกใจ ทำไมพี่จินฮวานต้องกลัวจนไร้สติขนาดนี้
“มองหน้าผม”
ไม่ทันที่ร่างเล็กจะได้ก้าวเดินจากห้องไปแรงกระชากข้อมือจากฮันบินก็ทำให้จินฮวานชะงักเท้าซะก่อน
“...” คนเป็นพี่ได้แต่ก้มหน้ามองพื้นห้องอยู่อย่างนั้น
เมื่อกี้เขาเพิ่งจะยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุขไปเอง ทำไมพระเจ้าต้องพรากความสุขไปเร็วขนาดนี้
เขาไม่รู้ว่าถ้าลงไปแล้วจะต้องเจอกับอะไรบ้าง คุณพ่อจะว่ายังไง ท่านจะรับได้ไหม
หรือท่านจะเสียใจแค่ไหน จินฮวานไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลย
“มองหน้าผม”
ประโยคเดิมถูกเอ่ยออกมาเป็นครั้งที่สองเพราะอีกคนยังไม่ยอมเลื่อนสายตามามองหน้ากัน
“...” จินฮวานย้ายสายตามาจับจ้องที่ดวงตาคมของฮันบินตามคำสั่ง
ไม่รู้ทำไมเขาถึงอยากจะร้องไห้
ได้จ้องตาฮันบินแล้วมันเหมือนมีมีดแหลมคมมาปลิดขั้วหัวใจ
หัวใจที่มันเพิ่งจะเบ่งบานไม่เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
กลัวเหลือเกิน กลัวว่าจะไม่ได้จ้องมองแววตาคู่นี้อีก
“พี่เชื่อใจผมใช่ไหม”
“ฉัน...”
“พี่ไม่ต้องกลัวได้ไหม นั่นพ่อนะไม่ใช่มารร้ายสักหน่อย”
“แต่ท่านต้องไม่พอใจที่พวกเรา...”
“อย่าเพิ่งคิดมาก นี่ใคร นี่ฮันบินนะ ผมไม่ยอมให้เราแย่หรอก”
“...”
“แค่ผมรักพี่และพี่รักผม แค่นั้นก็พอ”
ดึงร่างเล็กเข้ามากอดจนแทบจะจมลงไปในแผงอกแกร่ง ฮันบินก็ไม่ใช่ว่าไม่กลัว
เขาเองก็หวั่นๆอยู่เหมือนกัน แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อพี่จินฮวานกลัวมากมายซะขนาดนี้
เขาก็ต้องแข็งเกร่งเพื่อดึงอีกคนให้มีสติ
ทั้งๆที่ตัวเองก็ร้อนรุ่มอยู่ในใจไม่น้อยเช่นกัน
“ลงไปกันเถอะ คุณพ่อจะรอนาน” เอ่ยบอกพร้อมผละตัวเองออกจากอ้อมกอด
เขาเองก็อุ่นใจที่ฮันบินพูดมาแบบนี้ แต่ความกลัวมันก็ยังมีมากอยู่ดี
“ไปพร้อมกันสิ”
คว้ามือเล็กมาจับไว้ก่อนจะถือวิสาสะดึงให้เดินไปพร้อมกัน
“ฮันบิน...” คนพี่พยายามจะปฏิเสธและเดินนำไปก่อน
แต่แววตาของฮันบินก็คืออาวุธชั้นดีที่ถาโถมเข้าใส่จนขาเล็กหมดเรี่ยวแรงจะก้าวเดิน
“เชื่อผม ไปด้วยกัน” ว่าแค่นั้นคนเป็นพี่ก็ไม่โต้เถียงอะไรออกไปอีก
เขายอมให้ฮันบินเดินจูงมือลงมายังชั้นล่างอย่างไม่ขัดขืน
ไม่ใช่ไม่สนสายตาคุณพ่อที่จะมองมา แต่เขาเองก็สนความรู้สึกของฮันบินมากเช่นกัน
ในเมื่อฮันบินต้องการจะย้ำให้เขาเชื่อใจ เขาเองก็จะเชื่อใจ
และจะทำตามที่ฮันบินบอกถ้าทำได้
คิมซองกยูปรายตามองลูกชายสองคนที่เดินจับมือลงบันไดมาด้วยกัน
จับมือกันมาขนาดนี้ฉันคงไม่ต้องคิดแล้วใช่ไหมว่าระหว่างพวกแกมันคืออะไร
เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะกลับเร็วขนาดนี้
เพียงแต่ภรรยาเกิดอาการเป็นห่วงลูกชายคนเล็กและอยากจะกลับบ้านเร็วๆ แต่พอมาถึงบ้านคุณนายคิมกลับมีสายเข้าซะก่อน
เลยขอตัวไปคุยโทรศัพท์ เขาเองก็อยากจะขึ้นไปเปลี่ยนเส้อผ้าสักหน่อย
แต่ระหว่างทางผ่านที่จะไปห้องเขามันเป็นห้องของฮันบิน
แล้วก็บังเอิญได้ยินเสียงจินฮวานดังออกมาจากในห้อง พอลองฟังดูดีๆสิ่งที่เด็กสองคนนี้คุยกันมันไม่ใช่เรื่องที่พี่น้องคุยกันสักนิด
เขาแอบฟังอยู่สักพักจนจับใจความได้นั่นแหละ
จนมาถึงประโยคสุดท้ายที่เล่นเอาใจกระตุกวูบได้เหมือนกันนั่นคือประโยคที่คิมฮันบินถามคิมจินฮวานที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายว่า
เป็นแฟนกันมั้ย และจินฮวานเองก็ตอบกลับมาว่าเป็น
นั่นทำเอาคิมซองกยูอึ้งไปชั่วขณะก่อนจะเปิดประตูห้องแล้วเข้าไปประจันหน้ากับพวกมันนั่นแหละ
สองพี่น้องนั่งลงบนโซฟาตัวยาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับผู้เป็นพ่อ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่” เอ่ยเข้าประเด็นทันทีแบบไม่ต้องปกปิด
นาทีนี้มั่นใจได้เลยว่าเด็กสองคนนี้มันมีอะไรเกินพี่น้องไปแล้วแน่นอน
“...”
“ฉันถามว่าตั้งแต่เมื่อไหร่!” เสียงตะหวาดแข็งกร้าวจากผู้เป็นพ่อทำเอาคิมจินฮวานสะดุ้งโหยง
แววตาใสสั่นไหวล่อกแล่กจนไม่รู้จะวางสายตาไปที่จุดไหน
“นานแล้ว” เป็นฮันบินที่ตอบ
ตอบออกไปทั้งที่มือหนายังกุมมือเล็กไว้แนบแน่น
คิมจินฮวานนั่งก้มหน้ามองพื้นอย่างไม่กล้าสบสายตา เขากลัว
กลัวมากจริงๆ
“แล้วคิดจะบอกฉันเมื่อไหร่”
“ไม่ได้คิด”
“คิมฮันบิน!” คำพูดที่ตรงไปตรงมาของฮันบินทำให้ผู้เป็นพ่อโมโหจนต้องขึ้นเสียงอีกครั้ง
ฮันบินไม่เคยโดนขัดใจ นั่นเป็นข้อเสียที่เขาพลาดไป เด็กที่ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจจึงได้ก้าวร้าวและไม่คิดจะเกรงกลัวเขาแบบนี้
“ผมเองก็ไม่คิดว่าผมจะรักพี่จินฮวาน
แต่ในเมื่อมันรักไปแล้วก็ขอคบกันไม่ได้หรอ”
เด็กเอาแต่ใจยังไงก็เป็นเด็กเอาแต่ใจอยู่วันยังค่ำ
ไม่ว่าบรรยากาศที่เป็นอยู่จะจริงจังแค่ไหน แต่ฮันบินก็ยังเป็นฮันบิน เขาแทบไม่สนใจเพราะไม่อยากจะสนใจ
สิ่งที่เขาสนใจในตอนนี้คือมือเล็กๆที่กำลังสั่นระริกภายใต้มือหนาของเขานี่ต่างหาก
“แกกำลังพูดเรื่องอะไร” แกกำลังขอคบกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายแกมาตลอดชีวิตงั้นเหรอคิมฮันบิน
“แล้วพ่อกำลังพูดเรื่องอะไร”
“แกรู้ว่าฉันกำลังพูดเรื่องอะไรฮันบิน”
“พ่อจะห้ามไม่ให้ผมคบกับพี่จินฮวาน?”
“แล้วมันควรเหรอ? ถาม”
“...” ฮันบินนิ่งเงียบ ณ
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าพ่อไม่แฮปปี้ที่เขากับพี่จินฮวานจะคบกัน
ถึงจะไม่แอนตี้รุนแรงแบบโหวกเหวกโวยวายมากนัก แต่นี่คือพ่อ
คือคิมซองกยูที่ถ้าบอกว่าไม่ก็คือไม่ พ่อเป็นคนใจเย็นแต่เต็มไปด้วยอำนาจและความน่าเชื่อถือ
ถึงฮันบินจะแสดงออกว่าไม่เกรงกลัวผู้เป็นพ่อนัก
แต่เขารู้ดีว่าพ่อตัวเองเป็นคนยังไง
และพ่อก็น่าจะรู้ดีว่าเขาเป็นคนยังไง
“ปล่อยมือกันได้แล้ว” ผู้เป็นพ่อเอ่ยสั่งอีกประโยคพลางส่งสายตาไปยังมือทั้งสองที่ยังกุมกันแน่น
“พี่จินฮวาน”
เป็นฮันบินที่เอ่ยเรียกจินฮวานเสียงแผ่วหลังจากที่มือเล็กรีบชักออกทันทีที่สิ้นคำสั่งของผู้มีพระคุณ
ใบหน้าเล็กก้มหลุบตาต่ำแทบไม่กล้าเงยหน้ามาสบตาใคร ไม่รู้ จินฮวานแค่กลัว
ไม่ใช่ไม่เชื่อใจฮันบิน แต่คำตอบของคุณพ่อมันก็ชัดเจนแล้วว่าไม่ได้ ในเมื่อไม่ได้ก็คือไม่ได้
เขาไม่มีทางปฏิเสธ
สิ่งที่จินฮวานกลัวมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ เขาจะโดนแยกออกจากฮันบิน
ไม่ว่าด้วยวิธีใดมันก็คงเจ็บไม่น้อยเลย
ถึงจะรักมากแค่ไหน
แต่เมื่อคุณพ่อบอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ จำใส่หัวสมองไว้นะจินฮวาน ไม่ได้...
“ผมรักพี่จินฮวาน” ฮันบินพยายามจะขยับเข้าไปใกล้แล้วกอบกุมมือเล็กนั่นอีกครั้งแต่อีกคนกลับขยับหนีไม่ยอมให้ผู้เป็นน้องได้แตะต้องมันอีก
“อย่าพูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้ฮันบิน”
“พ่อไม่เข้าใจ ในเมื่อเรารักกันทำไมเราจะคบกันไม่ได้” ฮันบินหันมาโต้ตอบคนเป็นพ่ออีกครั้งก่อนที่จะส่งสายตามองจินฮวานไม่ขาด
ทำไมต้องนั่งห่างกัน ทำไมไม่ยอมให้เขาได้กุมมือเล็กนั่นไว้ ทำไมถึงไม่เชื่อใจกัน
“เพราะมันไม่ถูกต้อง!” คิมซองกยูตวาดเสียงดังซะจนจินฮวานสะดุ้งโหยงอีกครั้ง
เป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้ที่ต้องสะดุ้งตกใจกับเสียงที่ทรงอำนาจนี้ คุณพ่อช่างเด็ดขาดและน่ากลัวเหลือเกินในความคิดของจินฮวาน
เขากลัว กลัวจนลืมไปว่ายังมีอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
อีกคนที่พยายามจะมอบความเชื่อใจให้เขาตลอด แต่จินฮวานกลับมองข้าม
ความกลัวทำให้จินฮวานเผลอมองข้ามความห่วงใยจากฮันบินไปแล้ว
กลุ่มแม่บ้านทยอยกันเดินเข้ามาพร้อมกับคุณผู้หญิงของบ้านที่เดินเข้ามาด้วยเช่นกัน
“มีอะไรกันคะ”
คุณนายคิมเอ่ยถามอย่างสงสัยเพราะดูท่าแล้วจะไม่ใช่เรื่องที่ดี
เธอได้ยินเสียงสามีดังไปถึงข้างนอกที่เธอยืนคุยโทรศัพท์
“ถามลูกชายคุณ” ปลายตามองไปยังลูกชายทั้งที่ตอนนี้อารมณ์ยังครุกรุ่น
แกมันไม่รู้อะไรฮันบิน แกรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่เข้าใจ เรื่องแบบนี้ฉันเข้าใจดี
เข้าใจมากๆเลยด้วย
“พี่จินเป็นไรลูกทำไมต้องก้มหน้าแบบนั้น น้องบินเกิดอะไรขึ้น”
คนเป็นแม่ถามพลางมองดูอาการขอลูกชายทั้งสองฝั่ง ทางป้ายูรินเองก็ยืนดูเหตุการณ์อยู่ไม่ห่าง
เธอเองก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเพราะเพิ่งเดินเข้ามาพร้อมคุณผู้หญิงของบ้าน
“ผม…ฮึก”
น้ำตาแห่งความกลัวในที่สุดก็กลั้นมันไว้ไม่อยู่ ทั้งกลัว ทั้งเสียใจ
เสียใจที่เรื่องต้องเป็นแบบนี้ เสียใจที่ต้องทำให้ผู้มีพระคุณเสียใจ
เสียใจที่ต้องทำให้ฮันบินเสียใจ เสียใจที่เขาไม่สามารถรักฮันบินได้แล้ว
รักไม่ได้แล้ว...
“หนูใหญ่ ร้องไห้ทำไมคะ” ป้ายูรินเอ่ยถามหน้าตาตื่น
เธอเข้ามาโอบไหล่คุณหนูคนใหญ่แล้วถามด้วยความเป็นห่วง
“คุณคะ ฉันงงไปหมดแล้ว”
“เด็กสองคนนี้มันไม่ได้รักกันแบบพี่น้อง”
“วะ ว่าไงนะ”
“แม่ฟังไม่ผิด ผมไม่ได้รักพี่จินแบบพี่ชาย
ผมรักเขามากในแบบของคนสองคน”
“ฮันบิน” คุณนายคิมยกมือขึ้นทาบลงบนอกด้วยความตกใจก่อนที่ปากบางสวยจะเอ่ยชื่อลูกชายที่นานๆทีเธอจะเรียกชื่อลูกแบบนี้
“ผมขอโทษ” จินฮวานเอ่ยขึ้นท่ามกลางความวุ่นวาย
ป้ายูรินที่กอดร่างเขาอยู่ก็ดูตกใจเช่นกัน
“แต่ มันเริ่มตั้งแต่ตอนไหน ทำไมลูกถึง...”
“ผมรักพี่จินฮวาน เราคบกันไม่ได้หรอครับแม่”
“แม่...”
“ฉันบอกว่าไม่ก็คือไม่!”
ไม่ทันที่แม่จะได้พูดอะไรเสียงแห่งอำนาจทั้งหมดก็ดังขึ้น
คิมซองกยูยื่นคำขาดจริงจัง
เขาจะไม่ยอมให้เรื่องบ้าๆแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับครอบครัว
เป็นพี่น้องกันมันจะคิดอะไรเกินพี่น้องได้ยังไง ถึงฮันบินกับจินฮวานจะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆแต่ใครหลายๆคนก็เข้าใจไปแล้วว่าทั้งคู่คือพี่น้องกันจริงๆ
ครอบครัวของเขาเองก็มีหน้ามีตาทางสังคม
เขาจำเป็นต้องหยุดความสัมพันธ์ของเด็กสองคนนี้ก่อนที่มันจะสายเกินไป
“พ่อ!!”
“หนูเล็ก ใจเย็นๆค่ะ” ป้ายูรินรีบปรามคุณหนูคนเล็กของเธอ
“จินฮวานควรจะมีคู่หมั้น” แว้บนึงที่ซองกยูคิดได้เขารีบพูดออกไป
ถ้าพูดถึงการหยุดเรื่องแบบนี้แล้วก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องเดียวคืออีกคนต้องมีเจ้าของถึงจะทำให้อีกคนตัดใจ
จินฮวานเองก็โตจนจะเรียนจบมหาลัยอยู่แล้วเพราะฉะนั้นจินฮวานควรจะคบหาดูใจกับใครสักคน
ส่วนฮันบินถ้าเด็กนี่ต้องการที่จะตัดใจ เขาจะส่งฮันบินไปเรียนต่างประเทศ
นั่นคือที่คิมซองกยูคิด
“ผมไม่ให้หมั้น ไม่มีทาง” ตามคาด
คนที่ต่อต้านคนแรกคือคิมฮันบิน
“คุณ นี่มันเกินไปหรือเปล่า” คุณนายคิมแทรกขึ้นมาบ้าง เธอไม่รู้อะไรมากนัก
แต่ถ้าถึงขั้นจะต้องบังคับจิตใจลูกแบบนี้เธอก็คิดว่ามันเกินไป
ความรู้สึกมันไม่ใช่เรื่องผิด
คิมซองกยูเองก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ดี
เขาน่าจะเข้าใจดี...
“ถามจินฮวานดูสิ”
“ผม...”
“พี่จินฮวาน” ฮันบินเรียกชื่อเพื่อเตือนสติอีกคน
เขารู้ว่าพี่จินฮวานต้องยอมพ่ออีกแน่ๆ อย่าพูดมันออกมาได้ไหม อะไรที่พี่คิดอยู่ในใจไม่พูดมันออกมาได้หรือเปล่า
“ถ้าคุณพ่อต้องการ...ผม...จะหมั้น” จินฮวานกลั้นใจพูดออกไปโดยไม่เงยหน้ามองใครทั้งสิ้นแม้แต่ฮันบิน
เขารู้ว่าตอนนี้ตัวเองดูแย่แค่ไหนในสายตาฮันบิน เขาทำลายความเชื่อใจที่มีต่อฮันบิน
แต่ในอีกแง่ พระคุณของคุณพ่อก็มีอิทธิพลต่อเขามากเหลือเกิน
คุณพ่อชนะแล้ว ชนะแล้วจริงๆ
“แต่ตอนนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ”
คนตัวเล็กเอ่ยบอกแค่นั้นก่อนจะพาร่างของตัวเองวิ่งขึ้นบันไดไปด้วยความเร็ว
ฮันบินมองร่างพี่ชายตัวเล็กออกห่างไปเรื่อยๆจนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจวิ่งตามไป
ไม่มีคำด่าทอหรือคำขู่ใดๆจากบิดา คิมซองกยูรู้ว่าตอนนี้เด็กทั้งสองคนเจ็บปวดแค่ไหน
แต่เขาก็จำเป็นต้องทำแบบนี้ ถ้าอยากจะคุยกัน ก็จะให้โอกาสคุย
เพราะเขารู้ว่าจินฮวานเป็นคนยังไง จินฮวานเป็นเด็กดี
อะไรที่เขาทำพื่อครอบครัวได้เขาก็ทำเสมอ โดยเฉพาะอะไรที่พ่อต้องการ
คิมจินฮวานไม่มีทางปฎิเสธมันได้
จะยากหน่อยก็แต่ฮันบิน เด็กนั่นหัวรั้น
การหมั้นของจินฮวานอาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะฮันบินคงไม่ยอมแน่ๆ
แต่อย่างน้อยก็คงจะช่วยแยกเด็กสองคนนี้ได้ล่ะมั้ง
.
จินฮวานวิ่งเข้ามาให้ห้องพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มใส
ประตูห้องถูกปิดและล็อคเข้าทันทีที่เจ้าของห้องเข้ามา
ฮันบินวิ่งตามขึ้นมา
แต่ไม่ทันที่จะได้เข้าไปเจ้าของห้องก็ปิดประตูปังใส่หน้าซะก่อน
“พี่จินฮวาน!”
มือหนาทุบลงประตูพร้อมเรียกชื่อเจ้าของห้องเสียงดัง
“...”
ร่างเล็กที่ยังยืนพิงประตูอยู่ไม่ไปไหนได้แต่ร้องไห้พร้อมใช้มือปิดปากไม่ให้เสียงสะอื้นได้เล็ดลอดออกไป
“ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้ ทำไมทำกับผมแบบนี้”
“ฉันขอโทษ” เอ่ยออกมาแผ่วเบา
เบาซะจนแทบจะไม่ได้ยินและเขาก็มั่นใจว่าฮันบินไม่ได้ยินมัน
น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลลงมาไม่สามารถบรรเทาอาการปวดหนึบในหัวใจ
รู้ว่าต้องเจ็บ
แต่ไม่คิดว่าจะเจ็บขนาดนี้
“ผมบอกให้พี่เชื่อใจผม”
“มันเป็นไปไม่ได้ฮันบิน
ระหว่างเรา...มันเป็นไปไม่ได้” เสียงเล็กยอมเอ่ยออกไปเพื่อจะคุยกับคนด้านนอก
“เปิดประตูให้ผมได้ไหม”
“ไม่ได้”
“พี่จินฮวาน”
“มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
ต่อให้ฉันเชื่อใจนายมากขนาดไหน มันก็เป็นไปไม่ได้”
ตัดใจตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่าฮันบิน
ตัดใจเถอะ...
“พี่เอาแต่พูดว่าเป็นไปไม่ได้ พี่ไม่รักผม...”
“...” อย่าคิดแบบนั้นได้ไหม ฉันรักนายมาก
และมันก็เป็นเพราะฉันรักนายฉันถึงได้เจ็บเจียนตายขนาดนี้
“พี่จะหมั้น...”
“คิดได้ก็ดีแล้ว ฉันจะหมั้น
และนายเองก็ต้องเจอคนที่ดีๆกว่าฉัน คนที่เหมาะสม คนที่คุณพ่อเห็นชอบที่จะให้นายคบ”
“เลิกพูดถึงคนนั้นสักที ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าให้เชื่อใจผม แต่พี่ไม่ พี่พยายามจะผลักไสผม เพียงแค่เพราะพ่อต้องการ พี่ไม่เห็นใจผม พี่เห็นใจแต่พ่อ พี่ไม่แคร์ผม..."
“หยุดพูดได้แล้ว! พอกันที ฉันไม่เชื่อใจใครทั้งนั้น”
ขอโทษฮันบิน ขอโทษ
“พี่จินฮวาน”
เสียงของฮันบินที่อยู่ด้านนอกเรียกชื่อเขาแผ่วเบา เบาจนเขาเองก็ใจหวิว
ฮันบินคงจะเหนื่อยแล้วจริงๆ
ในเมื่อเป็นแบบนี้ฉันจะมีความสุขได้ยังไง
ฉันจะมีความสุขกับคนอื่นทั้งๆที่ยังมีนายเป็นน้องได้ยังไง
ฉันจะรักคนอื่นนอกจากนายได้ยังไง
ได้ยังไงฮันบิน
บอกที ฉันจะทำได้ยังไง...
“ไปได้แล้ว” เอ่ยปากไล่ทั้งที่ใจแทบจะสลายแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ความเสียใจแบบนี้เขาไม่เคยได้สัมผัสมันมาก่อน เขาเคยสูญเสียครอบครัวไปแต่นั่นมันเป็นตอนที่เขายังเด็กมากเขารับรู้มันได้ไม่มากเท่าไรนัก แต่ตอนนี้มันเป็นความเสียใจที่เขาได้พบเจอกับมันจริงๆ ทั้งต่อหน้าตอนนี้และไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ถึงจะสามารถชินชากับมันได้
“พี่จะเอาแบบนี้ใช่ไหม ไม่รู้หรอว่าผมเป็นคนยังไง”
น้ำเสียงเย็นยะเยือกหน้าห้องราวกับไม่ใช่คนเดียวกันกับฮันบินคนเมื่อครู่ทำให้จินฮวานสะอึก
ร่างบางหยุดสะอื้นพลางคิดตามที่อีกคนพูดออกมา เสียงฮันบินตอนนี้เหมือนกับเสียงในตอนนั้น
ตอนที่ฮันบินต่อต้านเขา
กลัว
กลัวเหลือเกินว่าฮันบินจะกลับไปเกลียดเขาเหมือนเมื่อก่อน
รักนายฉันก็รักไม่ได้
แต่จะให้นายเกลียดฉันฉันก็ทำใจไม่ได้อีกเหมือนกัน ทำยังไงดีฮันบิน ฉันจะทำยังไงดี
“ฉันตัดสินใจแล้ว”
“ผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่ไม่รักผม”
“รักแล้วยังไง ในเมื่อถ้ามีคนใหม่เข้ามาฉันก็รักคนใหม่ได้
ฉันไม่จำเป็นต้องจมปลักกับนาย” คำโกหกถูกเอ่ยออกไปเป็นประโยคยาวต่อเนื่องพร้อมกับร่างเล็กที่พยายามบังคับตัวเองไม่ให้เสียงสั่น
“ไม่แคร์กันได้ขนาดนั้นเลยสินะ”
“แคร์ทำไมให้เสียเวลา”
“ผมไม่เชื่อ พี่เลิกพยายามเถอะ ยังไงพี่ก็รักผม”
“...”
“ถ้าพี่เสียใจก็แค่บอกผมมาว่าพี่เสียใจ ไม่ต้องพยายามจะไล่กัน
มาช่วยกันแก้ปัญหา”
“...”
“สิ่งที่เราคุยกันไว้ผมทำได้ แค่พี่เชื่อใจผม”
“...”
“เชื่อใจผมนะครับ เปิดประตูได้ไหม คนดีของผม” ฮันบินพยายามพูดอย่างใจเย็น
เขารู้และค่อนข้างจะมั่นใจว่าที่พี่จินฮวานพูดแบบนี้เป็นเพราะคุณพ่อ
พี่จินฮวานรักคุณพ่อและครอบครัวมากเพราะทุกอย่างคือพระคุณที่เขาต้องตอบแทน
แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่จะต้องทำในสิ่งที่ฝืนใจตัวเองขนาดนี้ มันไม่ถูกต้อง
ฮันบินไม่เห็นด้วย
นาทีนี้อยากจะจับอีกคนเข้ามากอดไว้เหลือเกิน
“อย่ามั่นใจนักเลยฮันบิน...นายมันก็แค่เด็กโง่
นายไม่มีพ่อแม่นายจะอยู่ได้ยัง อย่าเก่งไปหน่อยเลย” นายมันเด็กโง่
โง่ที่มารักคนที่เป็นพี่ชายนายอย่างฉัน
และฉันก็โง่ยิ่งกว่าที่ปล่อยใจไปรักนายมากเกินจะถอยกลับไปแล้ว
“พี่หมายความว่าไงวะ” คนข้างนอกเริ่มหงุดหงิดกับความรั้นของอีกคน
การคุยกันผ่านประตูห้องก็ว่าแย่พอแล้ว นี่ต้องมาได้ยินประโยคเจ็บๆจากคนที่ตัวเองรักอีกหรอวะ
ที่พูดมาทั้งหมดนั่นเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าคิดอย่างที่พูดหรือแค่แสดงความเข้มแข็งออกมากันแน่
คำพูดที่พูดออกมาราวกับว่าไม่รู้สึกอะไรต่อกันเลยแบบนั้น
แม่งบีบหัวใจกันเหี้ยๆ
“กลับไปเป็นน้องที่เกลียดฉัน...เหมือนเดิม”
ถึงจะปากเก่งยังไงแต่น้ำตาก็ไหลลงมาไม่หยุด ทำไมต้องทรมานแบบนี้ ทำไมใจมันเจ็บขนาดนี้
“ง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง รักแล้วกลับไปเกลียดได้ไงวะ”
“ฉันเองก็จะทำนะ ก็แค่กลับไปเป็นพี่ชายนาย
ถึงต้องอดทนกับความเกลียดชังของนาย แต่มันก็แค่นิดหน่อย เพราะอีกเดี๋ยวฉันก็จะมีคู่หมั้นแล้ว”
“พี่จินฮวาน!!” ฮันบินตะหวาดเรียกชื่ออีกคนเสียงดังราวกับคนขาดสติ
คำพูดที่อีกคนเอ่ยออกมามันตัดความหวังกันเกินไปไหม พี่จินฮวานดูจะใจแข็งเกินไป
ก็เคยคุยอะไรกันไว้ทำไมไม่จำบ้าง แค่เชื่อใจกันมันลำบากตรงไหน
อย่าให้ต้องร้าย อย่าให้ต้องเลว
ที่ไม่อยากทำอะไรก็เพราะไม่อยากเป็นคนเลวในสายตาพี่จินฮวาน
แต่ถ้ายังบังคับกันทางคำพูดแบบนี้ก็คงต้องเลวมันสักวัน!!
“....” คนในห้องเงียบลงเพราะต้องการจะหยุดการสนทนานี่สักที
เขาเจ็บเกินจะต้านทานอะไรไหวแล้ว ใจนึงก็อยากให้ฮันบินเกลียดเขาไปสักที แต่อีกใจก็อยากให้ฮันบินรับรู้ว่าที่พูดออกไปมันไม่เคยตรงกับใจเลยสักนิด
แต่มันก็แค่นั้น ในเมื่อมันไม่ได้
ย้ำบ่อยๆกับตัวเองเข้าไว้ว่ามันไม่ได้
“คำพูดพี่แม่ง...เจ็บ...เจ็บเหี้ยๆ” คำหยาบคายถูกพ่นออกไป
ไม่ใช่ไม่สนใจ เขาเคยบอกว่าจะไม่พูดจาทำร้ายคนตัวเล็กเขาจำมันได้ แต่กลับกัน พี่จินฮวานเอาแต่พูดจาทำร้ายจิตใจเขา
“...” จินฮวานยังคงปิดปากเงียบ
ก้อนความอึดอัดขึ้นมาจุกที่คออีกครั้งเมื่อได้ยินประโยคตัดพ้อของฮันบิน
ฮันบินเจ็บเขารู้ เขาเองก็เจ็บ แต่จะให้ทำยังไง
ที่ทำได้ก็แค่หายใจและยอมเจ็บต่อไปก็พอ
“ผมจะไปคุยกับพ่อ”
“...” ในใจอยากจะร้องห้ามออกไป แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆออกจากปากบาง ไม่อยากให้ระหว่างคุณพ่อกับฮันบินมันดูแย่ไปกว่านี้ แต่เขาเองก็หมดแรงแล้วที่จะห้าม
.
“ทำแบบนี้ทำไม”
ลูกชายคนเล็กเดินลงมานั่งประจันหน้ากับผู้เป็นพ่ออีกครั้ง
“คุยกับลูกดีๆนะคะ ฉันจะขึ้นไปดูจินฮวาน”
คุณนายคิมเอ่ยพร้อมลูบแขนแกร่งของผู้เป็นสามีเบาๆ
ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นชั้นบนเพื่อไปหาลูกชายอีกคน
เธอรู้ดีว่าจินฮวานเป็นเด็กดี เป็นเด็กกตัญญู และแน่นอนว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
คนที่เสียใจที่สุดก็คือจินฮวาน
ความสงสารเกาะกุมไปทั้งหัวใจของคนเป็นแม่ เธอไม่ได้ขัดข้องอะไร
เพราะรักลูกมากก็อยากให้ลูกมีความสุข แต่ถึงอย่างนั้นเธอเองก็ขัดสามีไม่ได้เช่นกัน
“ทำอะไร” คิมซองกยูตอบทสนทนา
“ไม่รู้หรือไงว่าผมเป็นคนยังไง”
“ถึงแกจะเป็นยังไง แต่จินฮวานก็ยังเป็นลูกที่ดี”
“ผมไม่ดีในสายตาพ่อมันก็แค่นั้น ผมไม่สนใจหรอก
แต่พี่จินฮวานพ่อเคยสนบ้างไหม เคยแคร์ความสุขของเขาบ้างไหม”
“อย่ามาอ้างบ้าๆว่าความสุขของจินฮวานคือการได้คบกับแก”
“ถึงผมไม่พูดพ่อก็รู้ พ่อรู้ทุกอย่าง”
“เพราะฉะนั้นก็หยุด พวกแกเป็นพี่น้องกัน”
“เราไม่ใช่พี่น้องกันพ่อก็รู้
และผมก็ไม่เคยยอมรับเขาเป็นพี่ตั้งแต่ที่รู้ความจริง”
“แกจะให้คนอื่นเขาพูดกันหรือไงว่าลูกบ้านนี้มันกินกันเอง”
“พ่อก็แคร์แต่คนอื่น ลูกตัวเองเคยแคร์บ้างปะวะ” ฮันบินเริ่มโมโหเพราะคนเป็นพ่อไม่มีที่ท่าว่าจะอ่อนลง
“จินฮวานก็ดูมีความสุขดี”
“บ้าอะไร เขาเสียใจแค่ไหนพ่อรู้ดีเหอะ เลิกคิดถึงแต่ตัวเองสักที”
“แกพูดกับคนเป็นพ่อแบบนี้หรือไง?”
“พ่อจะมาขัดขวางเราทำไม เพราะอะไร เพราะเป็นพี่น้องจอมปลอม หรือเพราะเราเป็นผู้ชายทั้งคู่”
“ฉันไม่เคยเหยียดเรื่องเพศ พวกแกจะรักจะชอบจะคบใครมันได้หมด
แต่ต้องไม่ใช่พี่น้องกันแบบนี้” คิมซองกยูพูดออกไปตามความเป็นจริง
เขาไม่เคยบังคับลูกชายว่าต้องคบแต่กับผู้หญิง
เรื่องความรักเขาไม่เคยบังคับใครเพราะเขารู้ว่าการโดนบังคับมันเจ็บปวดและทรมานขนาดไหน
เพราะเคยผ่านมันมาด้วยตัวเอง
จึงไม่คิดจะขัดขวางใครเรื่องความรัก แต่ก็ไม่ใช่จะยอมให้คนเป็นพี่น้องได้คบกัน
มันไม่ถูกต้อง และมันก็จะไม่เกิดขึ้น เขาจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น
“ก็ผมรักพี่จินฮวาน”
“พูดไม่รู้เรื่องหรือไง”
“พ่อนั่นแหละพูดไม่รู้เรื่อง
จำคำผมไว้ว่าผมจะไม่มีทางรักใครนอกจากพี่จินฮวาน และจะไม่มีการหมั้นระหว่างพี่จินกับใครหน้าไหนทั้งนั้นถ้าผมยังหายใจอยู่”
“แกจะสู้กับฉันงั้นหรอฮันบิน?”
“นี่ใคร นี่ลูกพ่อนะครับ พ่อรู้ทันผมแล้วไม่คิดว่าผมเองก็รู้ทันพ่อบ้างหรือไง?” ฮันบินประกาศแน่วแน่ เขาเสียใจมามากพอแล้ว
ต่อไปมันจะไม่มีคำว่าเสียใจ และเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้คิมจินฮวานคืนมา
ก็แค่ทำตามใจตัวเอง
ต่อให้พี่จินฮวานอยู่ฝั่งพ่อฮันบินก็แค่จะแย่งมา ถึงพี่จินฮวานจะไม่เต็มใจฮันบินก็แค่จะบังคับ ต่อให้มันเป็นวิธีที่สกปรกแต่ใครจะสนกันล่ะ
ก็บอกแล้วว่าอย่าให้เลว...
“คิดว่าทำได้ก็ลองดู หึ” คิมซองกยูพูดท่าทีไม่แยแส
รู้ว่าไอ้ลูกคนนี้มันหัวรั้น รู้ว่ามันต้องไม่ยอมง่ายๆ
และก็ทำใจไว้แล้วว่ามันต้องมาประกาศสงครามกับเขาเข้าจนได้
แต่เขารู้ดีว่าจินฮวานจะต้องไม่นอกลู่นอกทางไปกับฮันบินแน่ๆเพราะงั้นไอ้เด็กนี่มันก็คงจะทำอะไรไม่ได้มาก
แต่ก็นิ่งนอนใจมากไม่ได้ ก็อย่างที่มันบอกมันเป็นลูกเขา ถ้าเขาร้ายไอ้ลูกคนนี้มันก็คงร้ายได้เหมือนกัน
ฉันไม่ได้ว่างมากพอที่จะมาเล่นอะไรแบบนี้กับแกหรอกไอ้ลูกชาย
เพราะฉะนั้นการหมั้นของจินฮวานต้องมีขึ้นให้เร็วที่สุด!
100%
เฮ่ย ก็ว่ามันดราม่าแต่ทำไมช่วงหลังๆเหมือนอิพ่อกับอิลูกมันจะเล่นเกมอะไรกันสักอย่าง
เอออออออ ดราม่าไม่ขึ้นจริงๆ ถถถถถถถถถ
ทุกคนต้องเข้าใจพี่จินฮวานนะคะ แบบรักฮันบินมากแต่ก็ติดตรงขัดใจพ่อไม่ได้ เพราะฉะนั้นในความคิดของพี่จินความกตัญญูสำคัญที่สุดค่ะ
แต่ไม่ใช่กับฮันบินค่ะ ต่อให้พี่จินจะกตัญญูแค่ไหนแต่ฮันบินก็ประกาศไว้แล้วว่าจะเลวให้ดู
ไม่ใช่ฮันบินอกตัญญูนะขุ่นผู้โชมมมมมมเพียงแต่นางเป็นลูกแท้ๆความเกรงใจนางเลยมีไม่ถึงครึ่งของพี่จินฮวาน ถถถถ
ต่อไปก็เตรียมรับมือกับความร้ายกาจของคุณหนูคนเล็กได้เลยขรั่บบ
โอยยยย หายไปนานมากนานจนอาจจะไม่มีใครรอแล้วTT^TT
รีดเดอร์อาจจะคิดว่าโอ่ยอิไรท์นี่มันหายไปไหนมันตายยัง
เฮ่ยยยมันยังไม่ตายเว้ยมันมาอัพแล้วเนี่ย 55555555
รอกันหน่อยเนอะ ที่ผ่านมาคือยุ่งมากช่วงนี้ไม่ค่อยได้รุงรังฮันบินเท่าที่ควรเหลย แงงงงงงงงงง
ขอบคุณล่วงหน้าที่ยังรออ่านกัน
หวังว่าเธอจะคิดถึงเราเหมือนที่เราคิดถึงพวกเธอนะ เม้นเป็นกำลังใจนะงั้บ จุบบุ
#ฟิคพี่ชายบีจิน
ดีใจที่ไอค่อนมีวันนี้ เยิ้บบบ
ทอล์คยาวมากยัง อิไรท์นี่พูดมากจังค่ะสังคมมมม 55555555555555555555555555555555
ความคิดเห็น