ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END [FIC iKON] พี่ชาย BJIN Ft. iKON BOBYUN JUNDONG

    ลำดับตอนที่ #13 : 12 : ฟิคพี่ชาย 12 [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.65K
      22
      29 เม.ย. 58



     

    [FIC iKON] พี่ชาย BJIN Ft. iKON Junhoe [BOBYUN]

    -12-






     

    #ความฮันบิน

     

    มาคิดๆดูแล้วที่ผมพูดไปเมื่อครู่มันก็แรงเกินไปจริงๆนั่นแหละ แต่จะให้ทำไงได้ก็คนมันโมโห ด่าเขาว่าเขาสารพัดแล้วก็ไปบอกว่าชอบเขา กูนี่มันคนประเภทไหน

     

    แต่ผมไม่ได้เมานะ ผมรู้ทุกอย่างที่ผมพูดออกไป ผมยังมีสติดี เหล้าแค่นั้นทำอะไรผมไม่ได้หรอก มันแค่เข้ามาช่วยทำให้อารมณ์ผมร้อนขึ้นกว่าเดิม เท่านั้นเอง ชั่วมาก

     

                โทษใครไม่ได้ โทษเหล้าแม่ ง

     

    ผมยืนสงบสติอารมณ์อยู่ข้างนอกอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนจะกลับเข้ามาในผับเพื่อตามหาใครอีกคน และตอนนี้คนที่ผมกำลังหาก็นั่งอยู่ที่เดิม ใกล้กับไอ้มิโนเหมือนเดิมนอกจากนั้นก็ยังมีบ็อบบี้และพี่ยุนฮยองนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย

     

    “มึงไปไหนมาวะ” บ็อบบี้ถามผมทันทีที่ผมเดินเข้ามา

     

    “ข้างนอก เฮ้ย กินทำไมเนี่ย!” ผมตอบบ็อบบี้ก่อนจะหันไปแย่งแก้วเหล้าจากมือพี่จินฮวานมาถือไว้ ทำไมกินเหล้าวะ

     

    “อารายยยย นาย? ครายเนี่ยยย” ชิบหาย พี่มันเมาแล้วหรอวะ เมาแล้วจำกันไม่ได้อีก?

     

    “กินตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”

     

    “ตั้งแต่เข้ามาก็เห็นกระดกเอาๆ ใครห้ามก็ไม่ฟัง บอกอยากเมา สั่งให้กูชงให้นี่ปาไปหลายแก้วละ” บ็อบบี้ว่าก่อนมันจะก้มหน้าก้มตาชงเหล้าต่อ

     

    “พอเลย พอๆ สั่งให้ชงมึงก็ชงเนี่ยนะ” หันไปส่งสายตาต่อว่าไอ้เพื่อนเวรสักหน่อย กูไม่อยู่แทนที่มึงจะช่วยดูแลให้นะไอ้ห่า

     

    ยอมรับว่าพลาดมากที่ตามเข้ามาช้าเกินไป ลืมว่าไอ้เชี่ยมิโนก็อยู่นี่ด้วย มัวแต่คิดว่าถ้าเข้ามาแล้วต้องเจอหน้าจะทำตัวยังไง ลืมคิดไปไอ้ตัวการมอมเหล้าพี่เตี้ยมันก็นั่งอยู่ที่นี่!

     

    “ก็ไม่มีใครห้ามได้ไง ปกติจินนี่ไม่แตะของพวกนี้นะ นายทำอะไรเขาป้ะเนี่ย” พี่ยุนฮยองถามผมพลางส่งสายตามองมาที่ร่างเล็กข้างๆผมที่ตอนนี้นั่งสัปงกอยู่ เมาหนักเลยป้ะวะ ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเห็นพี่จินฮวานเมาเลยนะ

     

    “ผมจะไปทำอะไรเค้า” พูดจบผมก็หิ้วปีกคนเมาขึ้นก่อนจะตวัดสายตามองไอ้พี่หมียักษ์ที่นั่งอยู่

     

    “เฮยยย อย่ามามองกันแบบนั้น นี่ไม่เกี่ยวป้ะ น้องเค้าอยากกินเองไม่ได้ส่งเสริมเลยไม่มี๊”

    แหม กูมองหน้ามึงแค่นี้มึงอธิบายซะยาวเลยนะครับไอ้พี่หมีควาย แล้วเสียงสูงๆของมึงนั่นมันคือห่าอะไร?

     

    “กลับก่อนล่ะ” ผมหันไปบอกกับทุกคนที่นั่งอยู่ร่วมโต๊ะ เหมือนงานเริ่มจะกร่อยแล้วครับ คนเริ่มหายจะหมดแล้ว

     

    “อ้าวกลับเลยหรอ ให้ไปส่งป่าว?” ไอ้พี่หมีดำถาม

     

    “รถก็มี ไปเองได้ ไปนะพี่ยุนฮยอง กูกลับล่ะบ็อบบี้”

     

    “อ่ะๆ ดูแลจินนี่ด้วยนะฮันบิน”

     

    ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไปเพียงแค่ค้อมหัวให้พี่ยุนฮยองน้อยๆเป็นเชิงรับปาก บ็อบบี้มองหน้าผมเหมือนจะถามว่าไหวหรือเปล่า ผมเลยส่งสายตากลับไปหามันเป็นคำตอบประมาณว่าไหว ไว้ค่อยคุยกัน

               

    ทุกวันนี้สนิทกับมันเกินไป มองตาก็รู้ใจถุยเถอะ ที่จริงแม่งก็ขี้เกียจพูดกันทั้งคู่นั่นแหละ

     

     

    -

    “อารายๆๆๆ จาปายหนายเนี่ยยยย” อยู่ๆคนเมาก็ถามขึ้นหลังจากที่ผมลากออกมาจนถึงรถ

     

    “กลับบ้านไง”

     

    “ม่ายกลับ แล้วนายเป็นใครวะะะะ” พี่จินฮวานหรี่ตามองผมราวกับต้องการจะพิจารณา

     

    “นี่จำกันไม่ได้จริงดิ เมาขนาดนั้นเลย?”

     

    “ครายมาว อึก ไม่มี๊”

     

    “พี่นั่นแหละ”

     

    ผมจัดการยัดคนเมาไปนั่งในรถได้สำเร็จก่อนจะพาตัวเองเดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับบ้าง ตลอดทางที่ขับรถกลับก็ดูเหมือนพี่แกจะหลับนะ แต่ก็มีบางทีที่ละเมอร้องเพลงบ้าง บางทีก็บ่นนู่นนี่ไปทั่ว บางทีก็หัวเราะ  ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ก็ยังมี =_= คนไรวะเมาแล้วเหมือนคนบ้าแต่แม่งน่ารักชิบหาย!

     

     

     

     

     

     

    -

    “นอนไปซะ” ผมว่าหลังจากทิ้งคนเมาลงบนเตียงได้ กว่าจะลากกันเข้าบ้านได้นี่ก็เหนื่อยสะท้านร่างสุด พี่มันขัดขืนสารพัดวิธี แถมยังถามย้ำตลอดทางอีกว่าผมเป็นใคร -_-

     

    นี่ห้องนอนพี่จินฮวานครับ สะอาดมาก ผมไม่ได้เข้ามาในห้องนี้กี่ปีแล้วล่ะ หกจะเจ็ดปีแล้วมั้ง ยังเหมือนเดิมครับ เขายังเป็นคนสะอาดจัดห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเดิม ที่ไม่เหมือนเดิมก็คงจะเป็นเจ้าของห้องละมั้ง เมาชิบหายแล้วนั่น

     

    “ปวดหัวอ่าาาา” ไม่ทันที่ผมจะได้ก้าวขาออกจากห้องคุณพี่เค้าก็บ่นออกมาซะก่อน

     

    “ก็ใครใช้ให้กินเยอะขนาดนั้น”

     

    “นายเป็นใครนะ?” เขามองผมอีกครั้งท่าทางสงสัย ถามได้ถามดี นี่บอกไปแปดล้านรอบแล้วป้ะวะว่าชื่อคิมฮันบิน ฮันบินอ่ะฮันบิน เพลียกับพี่มันชิบหาย แต่ไอ้แก้มแดงๆนั่นมันอะไร แล้วทำไมปากมันดูฉ่ำๆ ทำไมมันน่า..

     

    เห้ยไม่ดิ สติฮันบินสติ มึงต้องตั้งสติ

     

    “ผมหรอ?”

     

    “งืมมมมมมม นั่งคุยกันก่อนเด่ อย่าเพิ่งปายยย” ไม่ว่าเปล่านะครับ ยังส่งมือเล็กๆของตัวเองมาฉุดให้ผมนั่งลงไปบนเตียงอีก ทำแบบนี้ไม่คิดว่ามันจะอันตรายกับตัวเองบ้างไงวะ?

     

                คนยิ่งห้ามใจตัวเองไม่ค่อยจะไหวอยู่

     

    “คิมฮันบินไง รู้จักมั้ย”

     

    “ฮันบิน?...จริงหรอออออ?” พี่จินฮวานเอามือสองข้างโอบหน้าผมไว้ก่อนที่เขาจะจ้องมองหน้าผมใกล้ๆอีกครั้ง

     

    เดี๋ยวๆ ใกล้เกินๆ นี่มันใกล้ไปแล้วมือที่โอบหน้าอยู่นี่คิดนานป้ะ นี่คนนะเว้ย จับปล้ำขึ้นมาจะว่าไงล่ะ

     

    “ก ก็ใช่” ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก ระยะนี้มันไม่ควรนะ คนเมานี่แม่งขี้อ่อยแบบนี้ทุกคนป้ะวะ หรือแค่คนนี้คนเดียว?

     

    “งั้นนายก็คือคนที่เพิ่งจะพูดจาล้อเล่นกับฉันไปน่ะสิ! น้ำเสียงตื่นเต้นเหมือนเพิ่งจะคิดออกนี่ก็อะไร โอเวอร์แอคติ้งโคตรพ่ออ่ะ

     

    “ล้อเล่น?”

     

    “นายบอกว่านายชอบฉานนน” ทีแบบนี้จำได้ดีจังเลยเนอะ..

     

    “ผมไม่ได้ล้อเล่น” ผมรวบสองมือเล็กของอีกคนลงมากอบกุมไว้ อ่า มือนุ่มจังวะ

     

    “หื้ม?” เฮ้ย ความจริงทำหน้าตาสงสัยก็ไม่จำเป็นต้องน่ารักขนาดนี้ป้ะวะ

     

    “ที่บอกว่าชอบพี่มันคือเรื่องจริง” ผมจ้องลึกเข้าไปในตาคู่หวานที่ตอนนี้จะลืมก็ยังลืมลำบาก

     

              กะจะโรแมนติกด้วยบ้างนี่มันพอจะเป็นไปได้ไหมวะ

     

    “แต่ฮันเบนบอกว่าชอบฉันนะ”

     

    “ก็ใช่ไง”

     

    “แล้วนายเป็นใคร ทำไมนายรู้ล่ะ?”

     

    “อ้าว ผมก็ฮันบินไง” สรุปที่คุยกันนี่พี่มันรู้มั้ยว่าผมเป็นใคร ต้องให้บอกกี่รอบวะ ทำไมเมาแล้วเลอะเลือนแบบนี้ โอยยยย กูเหนื่อย!

     

                ไม่เคยมีความพยายามจะคุยกับคนเมาคนไหนเท่าคนเมาคนนี้มาก่อน ยิ่งคุยไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ก็รู้สึกอยากจะคุยให้มันรู้เรื่อง

     

     “ฮันบินหรอ อ้อ ดีเลย นี่มีเรื่องจาด่าอยู่พอดี นายมานปากเสียยย นายด่าฉัน นายว่าฉันสารพัด นายมันใช้ไม่ได้ ไอ้คนปากร้ายยยย” แค่ผมบอกว่าผมคือฮันบินแล้วพี่แกจ้องผมจนพอใจแล้วเท่านั้นแหละ ร่ายประโยคยาวมาเลย แถมยังเบะปากเหมือนเด็กน้อยที่กำลังจะร้องไห้อีก

     

                เค้าว่ากันว่าคนเมามักจะพูดความจริงตามใจคิด

     

              โกรธผมมากไหม

     

    “ขอโทษได้มั้ย”

     

    “ฮืออออออออออ” อ่าว ร้องไห้ซะงั้น ร้องจริงๆครับ น้ำตาก็น้ำตาไหลแบบจริงๆ พี่จินฮวานร้องไห้จนตาแดงจมูกแดงหน้าแดงไปหมด เป็นการร้องไห้แบบคนเมาที่เห็นแล้วทำใจกระตุกไม่น้อยเลย

     

    “ผมขอโทษ โกรธผมมากถึงขนาดต้องกินเหล้าเมาขนาดนี้เลยหรอ” พูดจบผมก็คว้าร่างบางที่อ่อนปวกเปียกเข้ามากอดไว้ เขาเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ยอมนิ่งให้ผมกอดอยู่อย่างนั้น ที่น่าเจ็บใจคือผมทำเขาร้องไห้อีกแล้วล่ะ

     

    “รู้อะไรมั้ย ในหัวฉันน่ะ มีแต่ฮันบินๆๆๆๆๆ ฉันคิดแต่เรื่องของนาย นายๆๆๆ ไม่มีเรื่องอื่นเลย ฮือออออ”

     

    “โกรธผมมากมั้ย เกลียดกันไปหรือยัง” ผมกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ลูบหัวคนตัวเล็กในอ้อมกอดเบาๆอย่างต้องการจะปลอบ ต้องขอโทษอีกกี่ครั้งถึงจะลบล้างคำพูดหมาๆพวกนั้นจากปากผมได้กันล่ะ

     

    ในใจตอนนี้มันหวิวแปลกๆ แค่คิดว่าพี่จินฮวานจะเกลียดผมผมก็อดไม่ได้ที่จะเสียใจ มันเสียใจจริงๆนะถ้าเขาเกลียดผม

     

    “นายมันใจร้าย ฮึก”

     

    “ผมขอโทษ” พรั่งพรูคำขอโทษออกไปอย่างไม่รู้จักจบสิ้น เขาไม่ได้บอกว่าเขาโกรธหรือเกลียดผม แต่ถ้าจะให้เดาเขาคงโกรธผมมาก

     

    “ฉันเสียใจนะ ฮืออออออ” ร่างเล็กยังคงสั่นเทาอยู่ในอ้อมกอดผม ต้องทำยังไงถึงจะเลิกร้องไห้วะเนี่ย

     

    “ผมไม่ได้เกลียดพี่นะ เชื่อผมได้มั้ยล่ะ”

     

     

    “พี่จินฮวาน”

     

     

    “พี่ เห้ย” ผมผละอีกคนออกจากอ้อมกอด ก่อนจะเขย่าร่างเบาๆเพื่อปลุกให้อีกคนตื่น

     

                กำลังจะถึงจุดไคลแมกซ์ พี่แม่งก็มาหลับเนี่ยนะ -_-

     

    “หืมมมม” พี่จินฮวานลืมตาแบบพยายามจะลืมที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นคนลืมตามา คราบน้ำตายังไม่หายไปจากแก้มใสๆของเขาเลย

     

                นี่สินะคนเมา พรุ่งนี้ตื่นมาก็ลุ้นเอาเถอะว่าจะจำทุกอย่างได้มั้ย

     

    “ที่พูดไปเมื่อกี้ได้ฟังป้ะวะ”

     

    นายเป็นครายยยย”

     

                กรรมกูสาบานเลยว่าผมจะไม่ปล่อยให้พี่แม่งไปเมากับใครที่ไหนเด็ดขาด เมาแล้วล่อลวงง่ายชิบหายตายห่าเลยแบบนี้

     

    ผมส่ายหัวน้อยๆให้คนเมาที่ตอนนี้กำลังพยายามจ้องหน้าผมนิ่ง เออดี คุยทั้งคืนแม่งก็คงไม่รู้ว่ากูเป็นใครหรอกครับ

     

    “ร้อนอ่ะ” ว่าจบก็ปัดแขนผมทั้งสองข้างที่ช่วยพยุงตัวเขาไว้ออก ก่อนจะทรงตัวนั่งนิ่งได้ด้วยตัวเองแล้วรูดซิปถอดเสื้อแขนยาวตัวนอกออก

     

    แล้วมันจะเห็นอะไรล่ะนอกจากเสื่อกล้ามสีขาวตัวบางๆที่บางจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน

     

                ทำไมแต่งตัวงี้วะเพิ่งจะสังเกต ดีที่ยังรู้จักใส่เสื่อแขนยาวทับเพื่อปกปิดไว้

     

    แต่แม่งเอ้ยยยย แขนขาวๆนี่มันอะไรวะ คอขาวๆนั่นก็อะไรอีก ไหนจะหน้าแดงๆที่ยั่วกันมาแบบไม่รู้ตัวนั่นอีกล่ะ

     

                กูต้องมีสติขนาดไหนถึงจะหักห้ามใจได้

     

    “ใส่เสื้อเถอะ” ผมเอ่ยบอกอย่างใจเย็น

     

    “ม่ายยย ร้อนนนนน” พูดจบพี่แกก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงไปซะเฉยๆแถมยังทำปากแจ๊บๆประดุจเคี้ยวน้ำลายตัวเองอีก  เออดี สร้างความปั่นป่วนให้ฮันบินน้อยเป็นอย่างดี

     

    “มาถอดเสื้อซี้ซั้วแบบนี้ได้ไงวะ” อันนี้บ่นกับตัวเองครับ บ่นแล้วรีบหันหน้าหนีเลยด้วย กูมองพี่มันต่อไม่ได้แล้วโว้ยยยย ไม่อยู่ตรงนี้ไม่มีใครเข้าใจคิมฮันบินได้หรอก ไม่มีเด็ดขาด!!

     

    “นายเป็นใคร เข้ามาในห้องฉันได้งายอ้ะ” คนเมาที่เพิ่งจะทิ้งตัวลงไปนอนเมื่อกี้ดูเหมือนจะเริ่มสงสัยในตัวผมอีกครั้ง ร่างบางเด้งขึ้นจากที่นอนมานั่งจ้องหน้าผมอีกทีแบบงงๆ

     

                กูยอมละ เกิดมาเคยเมาบ้างยังถามหน่อย ทำไมเมาแล้วสมองเสื่อมขนาดนี้

     

    “ฟังนะ” ผมยื่นมือไปจับไหล่บางไว้แน่นพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้

     

     

    “ผมคือฮันบิน คิมฮันบิน”

     

    ” เขาเพียงแค่มองตาผมนิ่งๆ ตาแดงๆเหมือนน้ำตาจะไหลลงมาอีก นี่มันคนเมาหรือคนบ้าวะ เดี๋ยวร้องไห้เดี๋ยวถามว่าเป็นใครอยู่นั่นแหละ

     

              ไม่เคยเห็นใครเมาแล้วน่าจับปล้ำขนาดนี้มาก่อนนี่กล้าพูดเลย

     

    “ฮันบินที่มันชอบพี่ มันชอบพี่จริงๆนะ” จ้องมองใบหน้านี้ใกล้ๆที่ไรแม่งก็อยากทำมากกว่าแค่มองทุกทีอ่ะ เป็นแบบนี้ตั้งแต่วันนั้นที่เผลอจูบไปแล้วนะ แล้วก็ยังเป็นอยู่เสมอเวลาที่ได้มอง

     

                เห็นปากแดงๆนี่ใกล้ๆทีไรก็ห้ามใจตัวเองลำบากทุกที

     

     

    “ผมจูบพี่ได้ไหม”

     

    ไม่รอให้อีกคนได้ตอบกลับอะไรมาทั้งสิ้น และไม่คิดที่จะห้ามร่างกายตัวเองอีกต่อไป ผมเลื่อนหน้าเข้าไปประกบปากกับอีกคนทันทีที่พูดจบ อุณหภูมิร่างกายตอนนี้ร้อนจนแทบจะคลั่ง กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ยังคละคลุ้งอยู่ในปากพี่จินฮวานมันทำให้คนตัวเล็กนี่ดูเร่าร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆในความรู้สึกผม

     

    ผมส่งลิ้นร้อนเข้าไปกวาดต้อนเอารสชาตจนแทบจะทุกซอกทุกมุมของปาก ลิ้นเล็กๆของพี่จินฮวานพยายามจะถดถอยหนี เหมือนเขาจะไม่เห็นด้วยกับจูบที่ผมมอบให้ แต่ถึงอย่างนั้นใครจะแคร์กันล่ะ ถือว่าผมขอจูบไปแล้ว

     

                รู้ว่าขอคนเมาก็เท่ากับปล้น แต่ก็ขอจูบไปแล้วไง

     

    “อื้ออ” เสียงเล็กเอ่ยท้วงเมื่อเริ่มจะขาดอากาศหายใจ ผมละปากออกมาเพื่อให้อีกคนได้หายใจเข้าปอดแบบคล่องๆ

     

    “จำผมได้หรือยัง”

     

    “หายใจม่ายออกกกกก” คนเมาตอบแค่นั้นก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆอีกสองสามที เขาทำเหมือนกับไม่ใส่ใจกับการโดนผมจูบ เชื่อเลยว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเมาแน่ๆ ถ้าเป็นเวลาปกติเขาคงฆ่าผมไปแล้ว

     

    “จูบอีกได้ไหม” ฟังดูเหมือนเป็นการขอก็จริงครับ แต่เปล่าเลย ผมไม่ได้รอให้เขาอนุญาต ผมเลือกที่จะจู่โจมเข้าอีกครั้งแบบที่อีกคนยังไม่ทันได้ตั้งตัว

     

    ครั้งนี้เป็นจูบที่ค่อนข้างนานและเหมือนจะไม่จบอยู่แค่การจูบ ผมเล่นหยอกล้อกับกลีบปากบางของอีกคนอยู่นานพอสมควรก่อนจะดันคนตัวเล็กให้นอนหงายราบลงไปกับเตียงนอนแล้วโถมตัวเองทับลงตามไปติดๆ

     

    ดูเหมือนตอนนี้พี่จินฮวานจะยอมทำตามทุกอย่าง นั่นอาจเป็นเพราะเขาไม่ค่อยมีสติตามประสาคนเมา หรือบางทีอาจไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืน นั่นมันทำให้ผมเผลอคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าเขาเองก็คงจะรู้สึกดีไปกับสิ่งที่ผมทำอยู่ไม่น้อย

     

    ผมไม่รู้ว่าระหว่างผู้ชายกับผู้ชายมันจะโอเคไหม แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาจะชอบมันหรือเปล่า ผมไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายด้วยกันเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ว่ามันทำแบบไหน หลายเรื่องก็เคยศึกษาเคยได้ยินมา

     

                ไม่เคยรู้สึกพิศวาสเพศเดียวกันอยู่แล้ว แต่คิมจินฮวานคือข้อยกเว้น

     

    กับพี่จินฮวาน มันเหมือนกับร่างกายผมต้องการที่จะปฏิบัติเอง แค่ปล่อยไปตามที่ร่างกายอยากจะทำ ผมมีความต้องการ ใช่ ตอนนี้มีความต้องการมาก มันไม่เหมือนความต้องการที่อยากได้จากผู้หญิง แต่มันเป็นความต้องการที่จะได้จากผู้ชายตัวเล็กๆใต้ร่างนี่ แค่คนเดียวที่ตอนนี้ผมต้องการที่สุด

     

    กับคนคนนี้มันเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ดูดให้ผมอยากจะเข้าหาเขาตลอดเวลา ความรู้สึกในใจมันชัดเจนขึ้นมาจนอยากจะครอบครอง      

     

    ผมพรมจูบใบทั่วทั้งใบหน้าหวานในขณะที่พี่จินฮวานหลับตาปี๋ รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำมันผิด ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราจริงๆพรุ่งนี้พี่เขาก็ต้องรู้ และมันอาจจะทำให้ผมไม่ได้ทำแบบนี้กับเขาอีกเลยก็ได้ แต่ถ้าจะให้ห้ามร่างกายตอนนี้มันก็ลำบากเหลือเกิน ยิ่งถ้าจะให้หยุด มันยิ่งยากที่จะทำ

     

    รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลักหลับคนเมาก็คราวนี้ พี่จินฮวานไม่มีขัดขืนอะไรผมสักแอะ เขาทำเพียงแค่นอนนิ่งๆให้ผมได้ทำอะไรกับร่างกายเขาเท่าที่ผมอยากทำ ผมยังคงจูบต่อก่อนจะเลื่อนเป้าหมายลงมาที่ซอกคอขาวๆ ซุกไซร้ไล่ดมความหอมอย่างพึงพอใจ

     

    คนเมาทำไมตัวหอมจังวะ

     

    ยิ่งได้ลิ้มลองก็ยากที่จะหยุด มือหนาเลื่อนสอดเข้าไปใต้สาบเสื้อกอดรัดอีกคนเข้ามาแนบชิดกับแผ่นอกแกร่งก่อนจะเลื่อนปากไปกระซิบข้างๆหู

     

    “ผมขอได้มั้ย” รู้ครับว่าคำพูดพวกนี้มันไม่ได้ทำให้คนเมาเข้าใจหรอก พูดออกมาเพราะไม่อยากรู้สึกผิดที่กำลังลักหลับเขาเท่านั้นแหละ ถือว่าขอแล้วจะทำอะไรก็ได้

     

    “อื้อออออ อย่ากวนสิง่วงงงงง” คนเมาโวยวายออกมาหลังจากมือผมเริ่มอยู่ไม่สุข ยอมรับว่าพี่จินฮวานตอนนี้เซ็กซี่ไปหมดทุกสิ่งของร่างกายจริงๆ

     

                แม้กระทั่งเสียง

     

    “ผมหยุดไม่ได้แล้วนะ”

     

    “อย่า

     

    ผมไม่ได้ฟังที่เสียงเล็กๆนั่นบอกเลยแม้แต่นิดเดียว ยังคงหยอกล้อกับร่างกายของเขาต่ออย่างพอใจ

     

    “ไม่เอา”

     

     

    “ไม่ทำ”

     

     

    “นะ พี่เตี้ยที่เหมือนจะเหลือสติอยู่น้อยนิดพูดขึ้น ปากแดงบวมเจ่อขึ้นมาเพราะผมเผลอขบเม้มไปหลายที มันช่วยไม่ได้ ก็ใครบอกให้หวานขนาดนี้

     

    ผมมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้หลับตาพริ้มอยู่ใต้ร่าง หลังจากเขาพยายามรวบรวมคำพูดต่างๆนาๆมาเพื่อห้ามผม รู้ว่าจิตใต้สำนึกลึกๆแล้วคนเมาคงไม่ได้ต้องการให้ผมทำอะไรเขาแน่ๆเพียงแต่เขาไม่มีสติพอที่จะพูดคุยกับผมให้รู้เรื่อง ขนาดผมเป็นใครเขายังจำไม่ได้เลย

     

    คิดๆไปก็เหมือนคนที่เห็นแก่ตัวชิบหาย ทั้งๆที่ความต้องการทั้งหมดมันเป็นของผมคนเดียวแต่ผมก็เกือบจะเอาไปลงกับร่างกายของเขา

     

    “รู้ได้ไงว่าผมจะทำอะไร เคยทำกับใครหรือไง” ผมยังกอดร่างเล็กอยู่อย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ ทำเพียงแค่กอดแล้วจ้องหน้าเขาไปเพลินๆ

     

    เห็นเขาบอกว่าคนเมาไม่เคยโกหก เลยลองหลอกถามดูสักหน่อย

     

    “ไม่เคยแต่ ไม่ ได้โง่..” เขาพูดเสียงติดๆขัดๆเพราะอาการง่วงเนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ และเพราะสติที่เหลือน้อยนิดเต็มทีตาก็จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ เมาแล้วยังอวดฉลาดอีก ถ้าไม่ได้โง่จริงก็ควรจะจำผมให้ได้ก่อนป้ะ

     

    แต่เขาพูดมาชัดๆขนาดนี้ว่าไม่เคยผมนี่อยากจะกรี้ด(?) มันดีมากนะที่ได้รู้ว่าคนตัวเล็กนี่ยังไม่ได้ไปมีอะไรกับใคร

     

                งั้นรอผมนะ ช่วยรอผมหน่อย ผมบอกแล้วว่าผมชอบพี่ ผมก็จะทำให้พี่รู้ว่าผมชอบ ยังไม่ต้องมีใครนะ ช่วยรอผมก่อน

     

    คิดได้แค่นี้ปากก็เผลอยิ้มออกมา ผมรู้แล้วว่าตอนนี้ผมควรจะทำอะไร ผมควรจะผละตัวเองออกแล้วปล่อยให้อีกคนได้นอนหลับฝันหวานสักที กวนมานานมากแล้ว

     

    เกือบไปแล้วกับการปลุกปล้ำคนเมา ที่แม้เขาจะไม่ขัดขืนอะไรแต่ผมก็รู้ดีว่าเขาต้องไม่ยินยอมแน่ๆ

     

               

    เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ผมสามารถหักห้ามใจได้ แต่ครั้งนี้มันมีแรงบันดาลใจในการหักห้ามใจนะ เป็นการหักห้ามที่ไม่ได้ฝืนใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่ไม่อยากทำ ไอ้อยากทำน่ะอยากมาก แต่จะเก็บไว้ รอทำในวันที่ทั้งเขาและผมเต็มใจที่จะทำมัน ไม่ใช่มีแค่ผมคนเดียวที่เต็มใจ

     

                หล่อเหี้ ย… /พระเอกแรง

     

     

    “งั้นนอนนะ ฝันดีนะครับ” ผมก้มฝังจูบลงบนหน้าผากมนไปที ก่อนที่อีกคนจะหลับตานิ่ง คราวนี้ก็คงจะหลับจริงๆนั่นแหละ ไม่หือไม่อืออะไรสักคำ ที่จริงเขาก็จ้องจะหลับมานานแล้ว ง่วงมากไหมถามใจดู

     

                ผมจะรอวันที่พี่เป็นของผมอย่างเต็มใจ และถูกต้องตามความรู้สึกของพี่นะ

     

    แต่ตอนนี้ไม่ไหว ปลุกอารมณ์มาตั้งมากมาย  ฮันบินน้อยแม่งบวมเปล่งละขอเวลาเข้าห้องน้ำแป้บ ไปเล่นกับลูกชายสักหน่อย ใครที่ไม่รู้ว่าผมจะทำอะไรก็จงไม่รู้ต่อไป ส่วนใครที่รู้ก็ขอให้เงียบไว้ มันเป็นเรื่องธรรมชาติ!

     

     

     

     #จบความฮันบิน

     

     

    55%

     

     
    -

                         

    แสงแดดที่สาดส่องเข้ามาในห้องเป็นสัญญาณบ่งบอกว่านี่คือเช้าวันใหม่

     

                หรือบางทีอาจจะเป็นสายของวันใหม่

     

    จินฮวานรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการตึ้บๆในหัว ปวดหัวเหมือนจะระเบิด หนักหัวไปหมด หนักไปหมดทุกส่วนของร่างกาย รู้สึกเหมือนมีท่อนอะไรมาทาบทับไว้บนตัวอยู่ตอนนี้

     

    ร่างบางนอนตะแคงพลิกไปอีกทางเพื่อจะเปลี่ยนท่าให้นอนสบายขึ้น พร้อมกับต้องการจะขับไล่ความหนักหน่วงที่เกิดขึ้นบนร่างกาย

     

                เอ๋ ทำไมรู้สึกอึดอัดเหมือนมีอะไรมากั้นตัวไว้ หมอนข้างหรอ ทำไมหมอนข้างกลิ่นแปลกๆ?

     

    คิดในใจแค่นั้นก่อนตาคู่เล็กก็ลืมขึ้นเพื่อมองดูสิ่งที่ทำให้สงสัยจนนอนไม่สนุก แต่พอลืมตาเท่านั้นแหละ

     

    เบื้องหน้าคือสันจมูกโด่งๆของใครสักคนที่ยังไม่แน่ใจว่าของใคร แถมตอนนี้ยังรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดลงมาอีกด้วย

     

    มือเล็กขยี้ตาหนักๆไปทีก่อนจะโฟกัสสิ่งตรงหน้าได้เต็มร้อย และยืนยันได้ว่าบุคคลที่นอนข้างๆเขาคือ คิมฮันบิน!!!!!!

     

              แล้วไอ้ความรู้สึกหนักๆไปทั้งตัวคือทั้งแขนทั้งขาของฮันบินที่ก่ายทับลงมา

     

    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!” ตะโกนออกมาด้วยความตกใจแล้วขาเล็กก็กระตุกรุนแรงจนกลายเป็นถีบอีกคนที่นอนหลับอยู่ตกเตียงลงไปกองกับพื้นเรียบร้อย

     

                โทษที ขากระตุกแรงไปหน่อย แต่ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกก ฮันบินมานอนข้างๆได้ไง ห้องมันทำไมมันไม่ไปนอน แล้วมันมานอนกอดแบบนี้คืออะไร แล้วเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ทำไมจำอะไรไม่ได้เลย

     

                รู้สึกเหมือนฝันอะไรสักอย่าง เป็นความฝันที่เหมือนจริงมากแต่รู้สึกเหมือนไม่มีแรงพอที่จะคิดว่ามันใช่ความจริงหรือเปล่า น่าจะฝันแหละ

     

     ฝันเหมือนจะเสียตัวหรืออะไรทำนองนั้น

     

    “โอยยย อะไรวะ” คนที่เพิ่งจะโดนถีบลงไปกองกับพื้นโวยวายพร้อมร้องโอดโอย ถีบเข้ามาได้ จุกแต่เช้าเลยเนี่ย

     

    “นายมานอนห้องฉันได้ไงอ่ะ!” จินฮวานที่ตื่นเต็มตาพูดขึ้นเสียงดัง ทำไมเวลาตะโกนแล้วระบมปากจังวะ เมื่อคืนนอนกัดปากตัวเองเหรอ? รู้สึกปากช้ำๆ แต่ช่างมัน ตอนนี้แค่อยากรู้ว่าฮันบินมาอยู่ในห้องเขาได้ยังไง!!

     

    “พี่จะตะโกนทำไมวะ เมื่อคืนทำไรไว้นี่จำไม่ได้เลยรึไง” ฮันบินทำหน้าเหยเกแสดงอาการเจ็บปวดก่อนจะพาตัวเองขึ้นมานั่งบนเตียงนุ่มๆ

     

              เมื่อคืนทำผมสติแตกแค่ไหนจำไม่ได้เลย?

     

    “อะไร” เออนั่นดิอะไร เมื่อคืนเขาทำอะไร แล้วมันมีอะไรที่ต้องจดจำด้วยหรอ เมื่อคืนจำได้ว่าโกรธฮันบินมากแล้วก็เผลอตบหน้ามันไปที จากนั้น

     

              ฮันบินก็บอกว่าชอบรู้แค่ว่าตอนนั้นโคตรจะกระวนกระวายใจ อยากกินเหล้าให้เมากันไปข้างเพราะเคยได้ยินมาว่าคนเมาจะลืมทุกอย่าง และไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็เลยอยากเมา

     

    “ก็เมื่อคืนพี่ขอให้ผมนอนด้วย ผมจะไปนอนที่ห้องพี่ก็ดึงผมไว้อยู่นั่นแหละ” ฮันบินอธิบายยาว เหมือนเป็นความจริงใช่ไหมล่ะ แต่เปล่าเลย

     

                ที่พูดไปเมื่อกี้คือโกหก เมื่อคืนหลังจากตัดใจจากการลักหลับคนเมาได้ก็พาตัวเองเข้าห้องก่อนจะไปจัดการตัวเองในห้องน้ำจนเสร็จเรียบร้อย แล้วอาบน้ำให้สบายตัว แล้วก็ระเห็จตัวเองมานอนกับอีกคนในห้องนี่แหละ แค่อยากนอนกอดเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั้นเลยจริงๆนะ

     

    “ฉัน? ขอให้นายนอนด้วยเนี่ยนะ”

     

    “เออดิ”

     

    จินฮวานดูจะสงสัยไม่น้อยกับเรื่องที่เขาได้รับรู้จากฮันบิน แล้วนี่จำเป็นต้องเชื่อป้ะวะ แต่จะทำไงได้ เมื่อคืนก็จำอะไรไม่ได้สักอย่าง ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว จำได้อย่างเดียวคือที่ฮันบินบอกว่าชอบ แม่งจำอยู่นั่นแหละ ไม่รู้มันล้อเล่นหรือมันจริงจัง

     

     

    “ทำไมพี่ต้องเมาขนาดนั้นด้วยวะ”

     

    “ก็แค่อยากกิน”

     

    “ไม่ใช่ว่ากินเพราะเสียใจจากคำพูดของผมหรอกนะ” ฮันบินเอ่ยถาม ที่จริงก็ค่อนข้างจะมั่นใจเพราะอีกคนเผลอพูดมันออกมาจนหมดตั้งแต่เมื่อคืน แต่ก็อยากจะถามในตอนที่อีกฝ่ายมีสติดูบ้าง

     

    “ฉันจำไม่ได้หรอก” เถียงข้างๆคูๆไปงั้นแหละ ไอ้ตอนก่อนจะกินเหล้าอ่ะจำได้หมดแหละ กินเพราะเสียใจจากคำพูดของนายงั้นหรอ? ถ้าใช่แล้วจะทำไมล่ะ ไม่รู้หรือไงว่าตัวนายเองมันปากร้ายขนาดไหน

     

                แต่มันก็แปลกอยู่ที่พอหลังจากที่เหล้าเข้าปากมาแล้วก็จำอะไรไม่ได้เลย เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเมาหนักๆครั้งนี้ครั้งแรกเลยมั้ง ที่ผ่านมาก็แค่จิบๆไปบ้างเวลาเพื่อนยื่นแก้วมาให้ ไม่ได้สวาปามเหล้าเท่าไหร่ แต่เมื่อคืนแค่คิดได้ว่าอยากเมามันก็ไม่ได้คิดอะไรต่อจริงๆ แค่อยากเมาก็จะเมาแม่งอย่างเดียวนั่นแหละ ไม่สามารถจำอะไรได้ จำได้แค่ว่าตัวเองเมา เท่านั้นแหละ T^T

     

    “แล้วเมื่อคืนจำอะไรได้บ้าง” เมื่อรู้ว่าอีกคนคงไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อ จึงเปลี่ยนใจยิงคำถามใหม่ไปทันที จะจำได้ไหมวะเรื่องเมื่อคืนนี้อ่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นบนเตียงเนี่ย

     

    ใจนึงก็ภาวนาขอให้อีกคนจำไม่ได้ว่าเขาทำอะไรไว้บ้าง แต่อีกใจก็อยากให้จำได้ว่าเมื่อคืนเขาบอกว่าขอโทษอีกฝ่ายไปบ่อยขนาดไหน

     

    “มันมึนๆเหมือนจะได้แต่ก็ไม่ได้”

     

              อะไรที่ว่าได้ไม่ได้วะ? ความจำมั้ยหรืออะไร? อย่าพูดจาหลายง่าม สายๆแบบนี้สมองฮันบินประมวลผลลำบากครับ

     

    “แล้วที่ตบผมนั่นจำได้หรือเปล่า”

     

    “ก็จำได้” พูดไปก็รู้สึกผิดอยู่ลึกๆ เมื่อคืนเขาตบฮันบินจนหน้าหันเลยอ่ะ ฟาดไปเต็มแรงเลยแหละ

     

    “แล้วหลังจากนั้นจำได้มั้ย ที่ผมบอกว่าชอบ” มันถึงเวลาแล้วที่ฮันบินจะต้องบอกทุกอย่าง และผลมันก็ต้องออกมาตามความต้องการของเขาด้วย ไม่ว่าเหตุจะเป็นยังไงแต่ผลที่ได้ต้องเป็นการครอบครอง เท่านั้น

     

    “จำได้แต่ไม่เข้าใจ พูดแบบนั้นไปเพื่ออะไรฮันบิน” จินฮวานเข้าสู่โหมดจริงจังทันทีที่พูดถึงเรื่องนี้ วันนี้ทุกอย่างต้องชัดเจนสักที ฉันจะไม่มัวมาคิดมากเพราะคำพูดของนายแล้วนะ!

     

    “ผมพูดจริงๆ”

     

    “ชอบฉันเนี่ยนะ” ถามไปตามที่สงสัย ไม่ได้ตกใจหรืออึ้งหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ควรจะเป็น ตอนนี้มันแค่ไม่เข้าใจมากกว่า

     

    “อือ ไม่ใช่แบบพี่น้อง” ฮันบินพูดเสียงเรียบ นี่บอกชอบจนด้านหมดแล้วนะ เมื่อไหร่จะเข้าใจว่าชอบจริงๆสักทีวะ

                คิดว่าคนคนนึงจะมีความพยายามกับการพูดคำว่าชอบได้บ่อยแค่ไหนกัน

     

    “คิดอะไรอยู่ ทำไมถึงได้พูดแบบนี้ ฉันเป็นพี่นายนะ” จินฮวานหันไปมองหน้าอีกฝ่ายที่นั่งอยู่อีกฟากของเตียง ตอนแรกเขาก็คิดว่าฮันบินแค่ล้อเล่น แต่ตอนนี้สายตาของฮันบินที่มองมามันไม่มีวี่แววของการล้อเล่นเลยสักนิด แปลกอีกแล้วที่หัวใจมันเริ่มพองตัวจนคิดว่าถ้ามองตาฮันบินนานกว่านี้มันต้องพองและระเบิดตู้มในที่สุด

     

    “ผมไม่ได้คิดว่าพี่เป็นพี่ตั้งนานแล้ว”

     

    “อันนั้นฉันรู้ แต่นายจะมาบอกว่าชอบฉันได้ไงในเมื่อที่ผ่านมาก็เกลียดกันจะตายไป” พยายามอธิบายออกไปอย่างใจเย็นที่สุด ฮันบินที่ต่อต้านเขามาตั้งนานทำไมอยู่ๆมาบอกว่าชอบ ถึงช่วงหลังๆมานี้จะดีขึ้นมากก็เถอะ มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ

     

    “ผมเคยบอกไปแล้วว่าไม่ได้เกลียด”

     

    “ไม่ได้เกลียดแต่ปุบปับมาชอบเลยเนี่ยนะ”

     

    “ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม”

     

     

    “แค่มีคนมาบอกว่าชอบพี่..ผมแม่งก็หงุดหงิด”

     

    “พี่มิโนอ่ะนะ”

     

    ก็ เออ นั่นแหละ” ที่จริงก็ไม่ใช่แค่ไอ้หมีนั่นหรอก ที่จริงความรู้สึกมันเริ่มมีตั้งแต่ไอ้จุนฮเวมันบอกว่าชอบพี่จินฮวานแล้ว แต่จะบอกไปไม่ได้เด็ดขาดว่าเป็นไอ้เน่

     

                พี่จินฮวานไม่ควรจะรู้เรื่องนี้..

     

    “ทำไม” บอกตรงๆว่าตอนนี้คิมจินฮวานไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเอามากๆ พี่มิโนเพิ่งจะมาวนเวียนใกล้ๆเขาเมื่อคืนนี้เอง ทำไมฮันบินถึงได้ปุบปับแบบนี้ ที่จริงเด็กนี่ก็ทำตัวแปลกมานานแล้วเหอะ

     

    “ที่จริงมันก็ตั้งแต่ก่อนหน้านั้น”

     

     

    ฮันบินเดินอ้อมเตียงมานั่งลงข้างๆคนตัวเล็กที่ตอนนี้มองตามเขาอย่างสงสัย

     

    “เชื่อเถอะว่าผมไม่ได้เกลียด”

     

    มือหนาจับมือเล็กมากวบกุมไว้ราวกับต้องการจะสร้างความเชื่อใจ

     

                รู้ไหมว่าผมต้องใช้ความกล้าขนาดไหนกว่าจะพูดทั้งหมดออกมาได้ ในเมื่อผมลงทุนขนาดนี้คำตอบของพี่ต้องเป็นคำตอบตามที่ใจผมคิดไว้เท่านั้น

     

     

    “แล้วก็ไม่ได้อยากเป็นน้อง”

     

    “นายกำลังทำอะไรรู้ตัวหรือเปล่าฮันบิน” จินฮวานไม่ได้ชักมือเล็กออกจากการเกาะกุมของอีกคน เขาเพียงต้องการจะทำความเข้าใจกับฮันบินในตอนนี้เท่านั้น

     

                รวมไปถึงความรู้สึกของตัวเองด้วย

     

    ทำไมใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่เคยตื่นเต้นกับอะไรได้มากขนาดนี้ แต่นี่มันระหว่างผู้ชายกับผู้ชายนะเว้ย จริงๆก็เคยมีผู้ชายเข้ามาคุยด้วยแต่ก็ไม่ได้คุยกับใครจริงๆจังๆด้วยเพราะต้องเรียนและงานก็เยอะ จนคนพวกนั้นก็ค่อยๆห่างออกไปเอง

     

    แต่ตอนนี้กับฮันบินมันก็มีความรู้สึกดีแบบแปลกๆที่ผุดขึ้นมา แต่มันผิด ระหว่างเรามันคือพี่น้อง ไอ้เรื่องจะเป็นอย่างอื่นแค่คิดก็ผิดแล้ว

     

    “ผมรู้ทุกอย่างนั่นแหละ พี่

     

     

    “ชอบผมบ้างหรือเปล่า”

     

    “ฉันคิดว่าฉันไม่น่าจะชอบผู้ชายนะ” นั่นคือความจริง ไม่ได้ต่อต้านผู้ชายก็จริง แต่ถ้าจะให้คิดก็อยากจะคบกับผู้หญิงมากกว่า หรือบางทีกับคิมฮันบินมันอาจจะเป็นกรณีพิเศษกันล่ะ?

     

    “ผมก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย ผมแค่ชอบพี่”

     

    แล้วก็บังเอิญว่าพี่เป็นผู้ชาย แค่นั้น

     

    “แต่ฉันเป็นพี่นายนะ”

     

    “บอกกี่ทีแล้วว่าพี่ไม่ใช่พี่ผม”

     

    “แต่คนอื่นเขาก็มองว่าฉันเป็นพี่นาย ไหนจะคุณพ่อคุณแม่อีก มันผิดนะฮันบิน”

     

    “มันผิดแน่ๆถ้าพี่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับผม”

     

     

    “แต่ถ้าพี่รู้สึก ผมจะทำทุกอย่างให้มันถูกเอง” พูดจริงทำจริงนะขอให้รู้ คนอย่างคิมฮันบินอยากทำอะไรต้องได้ทำ

     

    “นายทำมันไม่ได้หรอก” ในความคิดของจินฮวานแล้วมันไม่มีทางจะเป็นไปได้เลยสักนิด ไม่ใช่เพราะไม่อยากให้เป็นไป แต่หลายๆอย่างมันก็ฟ้องอยู่ว่าคงเป็นไปได้ยาก

     

    “แค่บอกมาว่าชอบผมหรือเปล่า”

     

    “ฉันไม่รู้ มันไม่ได้รวดเร็วขนาดนั้น”

     

    “งั้นก็รู้ไว้ว่าผมชอบ แล้วก็ห้ามมีใครด้วย จอง” ฮันบินดึงคนตัวเล็กเข้าไปกอดอีกทีก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นราวกับไม่ต้องการจะปล่อยให้อีกคนหลุดมือไปไหนอีก

     

                ใครๆก็รู้ว่าถ้าคิมฮันบินอยากได้อะไรก็ต้องได้

     

    อย่างน้อยความรู้สึกทั้งหมดเขาก็ได้สารภาพออกไปแล้ว และยิ่งอีกคนไม่ได้แสดงอาการต่อต้านอะไรมันก็ทำให้ใจชื้นขึ้นมาหน่อยนึง ด้วยหวังว่าอีกฝ่ายจะมีความรู้สึกดีๆให้กันบ้าง

     

    “ฉันเป็นพี่นายนะ” จินฮวานบ่นอุบอยู่ในอ้อมกอดอุ่น ทุกอย่างตอนนี้มันทำให้รู้สึกดีจนต้องระบายรอยยิ้มออกมา ฮันบินตอนนี้ดูอบอุ่นและน่าอยู่ด้วยมากๆ ถึงทุกอย่างที่กำลังทำตอนนี้มันจะผิดเพราะมีคำว่าพี่น้องมากั้นเป็นกำแพงอยู่

     

                แต่ก็ปฎิเสธิไม่ได้เลยว่าแบบนี้มันมีความสุข ต่างจากความสันพันธ์แบบพี่น้องไปโดยสิ้นเชิง มันคืออีกความสันพันธ์ที่กำลังก่อตัวขึ้นมา ตอนนี้รู้สึกดีแค่ไหนจินฮวานรู้ดี เขากำลังหวั่นไหวไปกับผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องชายตัวเอง

     

    “บอกว่าไม่เคยมีพี่ไงวะ” ดุอีกคนแบบขำๆก่อนยิ้มกับตัวเองอย่างมีความสุขราวกับคนบ้า นึกขอบใจที่พี่จินฮวานจำเหตุการณ์เมื่อคืนหลังจากที่ตัวเองเมาไม่ได้ ไว้มีโอกาสผมจะเล่าบอกเขาละกัน ห้ามมีใครบอกก่อนผมล่ะ!

     

              ว่าแล้วก็นึกขอบใจตัวเองด้วยเหมือนกันที่เมื่อคืนไม่ได้ทำรอยอะไรไว้บนตัวพี่จินฮวาน #ฉลาดไปอีก

     

     

    “เฮ้ย นี่กี่โมงแล้วอ่ะ วันนี้ฉันมีเรียนเช้านี่!” นึกขึ้นมาได้ก็อยากจะเขกหัวตัวเองสักที ตื่นสาย แถมยังปวดหัวมากอีกด้วย ทำไมเป็นคนแบบนี้วะ

     

    “สิบโมงละ” ฮันบินหันไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงก่อนเอ่ยบอก ท่อนแขนหนายังคงโอบรัดอีกคนไว้แน่น

     

    “ฮ๊ะ! ฉันมีเรียนแปดโมงอ่ะ ปล่อยดิ๊ จะไปอาบน้ำ” ร่างเล็กดิ้นขลุกขลิกอยู่ในอ้อมกอด แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าฮันบินจะปล่อยให้เขาเป็นอิสระเลย

     

    “ที่พูดนี่คิดมั้ย มันไม่ทันแล้วป้ะวะ เมาแฮงค์ขนาดนี้ก็หยุดพักผ่อนซักวันเหอะ”

     

    “อย่างน้อยก็ควรไปอาบน้ำป้ะ ปล่อย” พยายามจะดิ้นให้หลุด ไม่รู้ว่าวันนี้ยุนฮยองไปเรียนหรือเปล่า ไม่ยอมติดต่อมาเลย เห็นว่าฉันสายนายก็น่าจะโทรหาฉันสิยุน ฮึ่ยยยยย ขัดใจเป็นบ้า

     

    “ไม่ปล่อย ทีผมผมยังไม่ไปเรียนเลย”

    “ก็นั่นมันนายนี่ ปล่อยดิวะ” ไอ้นี่ก็รัดอยู่นั่นแหละโว้ยยยยยยย

     

    “หยุดดิ้นก่อน อยู่นิ่งๆ ฟังผมพูดแล้วผมจะปล่อย”

     

    ” ร่างกายจินฮวานหยุดขยับแทบทันทีที่จบคำพูดของอีกคน

     

    “เรื่องเมื่อคืนผมขอโทษที่พูดไม่ดี แล้วก็


     

    “ผมชอบพี่นะ ที่ผมกล้าบอกเพราะนานไปผมก็กลัวว่าพี่จะมีคนอื่นไปก่อน” ร่างสูงกระชับกอดอีกครั้งก่อนจะพูดประโยคที่เขาต้องการจะบอกอีกคน บอกมันทั้งอย่างงี้ล่ะ ไม่อยากมองหน้าตอนบอกนี่หว่า บอกแบบนี้แหละจะได้ไม่ต้องเขิน เห็นแมนๆด้านๆงี้ก็เขินเป็นป้ะวะ .////.

     

    ถ้าบอกว่าเขินมันจะเร็วเกินไปหรือเปล่า แต่ตอนนี้จินฮวานเขินเป็นบ้าเขินจนกลั้นยิ้มไว้แทบไม่อยู่

     

              ไม่ได้รู้สึกเหมือนกับโดนน้องชายกอดเลยจริงๆ

     

    “ถ้าพี่เองก็รู้สึกอะไรกับผมบ้างก็อย่าเพิ่งมีคนอื่น คิดให้ดีๆเอาแค่ตามความรู้สึกพี่ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น” ฮันบินย้ำอีกครั้ง เขากลัวว่าร่างบางนี่จะเอาคำว่าพี่น้องมาเป็นกำแพงกั้นระหว่างเรา

     

    อาจจะเป็นความคิดที่เข้าข้างตัวเอง แต่ฮันบินก็ค่อนข้างมั่นใจว่าอีกคนคงรู้สึกอะไรบ้าง เพราะถ้าไม่รู้สึกคงไม่ยอมให้กอด ไม่ยอมอยู่นิ่งๆแล้วรับฟังกันทุกประโยคแบบนี้

     

                คิดแล้วก็ฟินไปก่อนสิบแปดชาติ

     

    “อือ ฉันรู้” รู้ดีว่ามีไม่กี่ทางที่ให้คิด หลักๆเลยก็แค่

     

    จะมีความสุขอยู่บนความผิด หรืออยู่บนความถูกต้องที่ไม่มีความสุข

     

    “ถึงจะยังไม่ชอบผมก็ห้ามพูดว่าไม่ชอบผม เพราะอีกไม่นานพี่ก็ต้องชอบผม เข้าใจที่ผมพูดไหม” อาจฟังดูเผด็จการไปหน่อย แต่ก็หมายความอย่างที่พูดจริงๆนั่นแหละ รู้ว่าต้องให้เวลาอีกคนได้คิดได้ทบทวนความรู้สึกตัวเองด้วย แต่ก็อยากบอกไว้เพราะรู้อีกนั่นแหละว่าตัวเองคงทำใจไม่ได้แน่ๆถ้าพี่จินฮวานไปชอบคนอื่นและจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นเด็ดขาด ประกาศเลย !!

     

    “พูดบ้าอะไรของนาย” จินฮวานพูดปนขำๆ ตอนนี้มันสุขใจอย่างบอกไม่ถูก ฮันบินตอนนี้อบอุ่นเกินกว่าร่างกายจะต้านทานได้จริงๆ จะให้คิดถึงเรื่องความถูกต้องตอนนี้คงยังไม่อยากที่จะคิด ถ้าคิดแล้วมันไม่สบายใจก็ปล่อยมันไว้แบบนี้แล้วกัน..

     

    “พี่ก็รู้ว่าผมเผด็จการแค่ไหน ผมอยากได้อะไรผมก็ต้องได้”

     

     

    “และถ้าผมอยากได้พี่ ผมก็ต้องได้”

     

     

     

     

    100%

     

     

     

     

     

    อะไรๆ เพิ่งจะสารภาพเน้นๆตรงๆครั้งแรกนี่ก็จะเอาเลยหรอ? เอาในที่นี้คือเอามาเป็นแฟนนะเฮ่ย อย่าคิดนอกเหนือนะเฮ่ย ห้ามนะเฮ่ยห้าม ไม่เอาไม่กาม(เมิงนั่นแหละอิไรท์) 555555555

    ติดตามกันด้วยเนอะ ตอนนี้เอาฟินๆไปก่อน เธอฟินมั้ย? เราฟินนะ เราเขินนนนนนนนนน ./////.

    พี่จินนางจำอะไรไม่ได้จริงๆ เออดีมาก งี้เดี๋ยวให้บักห่านมอมเหล้าแล้วปล้ำเลย = อกุศลไปอีก .ตบ 555 

    เม้นบอกกันได้น้าว่ามันอะไรยังไง เราชอบอ่าน

    เรารู้สึกสำคัญเวลาเธอว์ทวงฟิคเรา เราชอบมากจริงๆนะ มาทวงอีกเถอะ *มันโรคจิตจังวะ 5555555

    สกีมลงแท็ก #ฟิคพี่ชายบีจิน ร่วมตบตีประณามพระเอกกันได้ หรือจะประนามในความใจง่ายของพี่จินก็ได้ ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ

     

     

     

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×