ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [คลังSF] iKON #ฟิคสั้นค่อน [JUNBIN,DOUBLEB]

    ลำดับตอนที่ #3 : [SF] DOUBLEB #ขี้เมาจะเอาบิน 2 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 58





    #ขี้เมาจะเอาบิน 

    -2-

     





    คิมจีวอนนั่งพิงหัวเตียงในชุดเสื้อกล้ามคู่กับบ็อกเซอร์(มันคือชุดนอนของคนสแวกซ์) สภาพก็พร้อมนอนแล้วล่ะ อ้าปากหาววอดๆไปสองสามทีแล้ว แต่ที่ยังไม่หลับคือเจ้าของห้องยังไม่นอนไงล่ะ แถมไม่ปิดไฟอีก แบบนี้ต่อให้เมาแค่ไหนนี่ก็ไม่มีทางนอนหลับอ่ะจริงๆ

     

              เป็นคนไม่พกผ้าปิดตาด้วยเพราะคิดว่าไม่มีความจำเป็น ใครจะไปคิดว่าวันดีคืนดีจะได้มาอยู่ร่วมห้องกับบุคคลกลัวความมืดแบบนี้

     

                แต่ตอนนี้ก็ชักจะเริ่มชอบความสว่างขึ้นมาตงิดๆแล้วล่ะ เพราะความสว่างทำให้ได้เห็นหน้าน้องฮันบินชัดเจน นั่นคือเหตุผลเดียวที่คิมจีวอนชอบความสว่างทั้งที่ตอนนี้มันควรจะมืด

     

    หลังจากเขาอาบน้ำเสร็จแล้วพบกับฮันบินที่กำลังนอนดูการ์ตูนอยู่อย่างออกรสออกชาต นี่ก็เสนอตัวว่าจะนอนดูการ์ตูนเป็นเพื่อน ถึงแม้อีกคนจะตั้งใจดูแต่การ์ตูนโดยไม่สนใจกันเลยก็เถอะ

     

     

    ผ่านมาแล้วเกือบชั่วโมง ฮันบินยังนอนนิ่งดูการ์ตูนอยู่อย่างนั้น นี่มันจะห้าทุ่มแล้ว

     

                เมื่อไหร่อาบน้ำ?

     

    ยอมรับว่าฟินที่ข้างๆมีน้องฮันบินนอนอยู่ แต่ก็แค่นั้นแหละ เพราะน้องแม่งตั้งใจดูแต่การ์ตูนอ่ะ นี่ถามอะไรไปก็ไม่ตอบด้วย ตอบอย่างเดียวคือ พี่อย่าเพิ่งถามดิ๊ดูตูนอยู่

     

                นี่เหรอคนที่พี่ชอบตั้งแต่แรกเจอ

     

    โอเคพี่ซึ้งมาก

     

    “ฮันบิน ดึกแล้วนะ ไปอาบน้ำนอนมั้ยอ่ะ” เอ่ยปากถามออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะกลัวอีกคนจะตอกกลับมาโทษฐานที่ไปขัดขวางเวลาดูการ์ตูนของเค้า แต่ก็อยากจะถาม ก็แค่อยากพูดด้วย

     

                สาบานได้ว่าในชีวิตคิมจีวอนไม่เคยพูดกับใครเพราะขนาดนี้ น้องฮันบินคนแรกครับ

     

                พี่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อน้องแล้วนะ ถึงแม้ตัวน้องจะไม่รู้ห่าเหวอะไรเลยก็ตาม =_=’

     

    โถ่เอ้ย กูมันคนใจง่าย เห็นเด็กน่ารักแค่นี้ทำไมต้องตกหลุมรักด้วย อีกคนแม่งมีรสนิยมชอบผู้ชายป้ะวะ แล้วนี่จะรู้ไหมว่าพี่ชอบ?

     

     

              ที่สำคัญเลย น่ารักขนาดนี้มีแฟนหรือยัง?

     

    อยากรู้จังแต่ไม่กล้าถาม กลัวคำตอบที่ได้มันจะบาดใจ หรือไม่น้องเขาก็คงไม่ตอบ และเผลอๆอาจจะโดนถีบตกเตียงซะเปล่าๆถ้าน้องเขาแอนตี้เพศเดียวกัน

     

                เห้อม

     

    “เดี๋ยวก่อนดิ” ฮันบินตอบกลับแค่พอผ่านๆ คือปากก็พูดไง แต่ตาก็จ้องแต่การ์ตูนเหมือนเดิมนั่นแหละ เหมือนเด็กที่ถูกรบกวนให้ละสายตาจากของที่ถูกใจยังไงอย่างงั้น น่ารักอีกแล้ว

     

                จับฟัดเลยดีไหม พี่บ๊อบทำแบบนั้นได้หรือเปล่า

     

    “มันดึกแล้วนะ พรุ่งนี้นายไม่ต้องไปโรงเรียนหรือไง”

     

    “มีอะไรให้ต้องไปอ่ะ ถ้าต้องไปโรงเรียนผมจะมาอยู่กับพี่แอลทำไม” ฮันบินตอบคำถามยาวเหยียดหลังจากมือบางเพิ่งจะกดปิดทีวีไปเพราะการ์ตูนเรื่องโปรดจบลงพอดี

     

    “จบม.ปลายแล้วหรอ?”

     

    “ถามเยอะเรียกยุ่งนะ”

     

    ก็แค่อยากรู้” คิมจีวอนสตั๊นไปสามวิให้กับคำว่ายุ่งที่อีกคนเอ่ย แต่ก็แค่สามวิเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นเขาก็พร้อมที่จะเสือกต่อทันที

     

                ถ้าคิดว่าคนอย่างพี่จะหน้าบางขนาดนั้นบอกเลยว่าคิดผิด ต่อให้น้องด่าพี่ว่าเสือกพี่ก็จะไม่รู้สึกผิด จำไว้

     

    “จบแล้ว ปิดเทอมมาจะสองเดือนแล้ว เข้าใจยัง?”

     

    “อ่อ เตรียมตัวเข้ามหาลัยสินะ”

     

    “ทำนองนั้น”

     

    ” บ๊อบบี้พยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงเข้าใจ และกำลังจะหาเรื่องอื่นมาชวนคุยต่อ แต่ติดที่คนตัวเล็กขยับตัวลุกขึ้นซะก่อน

     

    “อาบน้ำหรอ?”

     

    “อือ พี่ก็นอนได้ละ” ฮันบินหันไปบอกอีกคนก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าขนหนูของตัวเอง พี่แม่งเป็นใครมาจากไหนเรียนอะไรจบไม่จบยังไงเขาไม่เห็นจะอยากรู้เท่าไหร่ แต่ทำไมอีกฝ่ายต้องถามนู่นนี่เขาอยู่ตลอด

     

    ฮันบินไม่ใช่คนพูดมากหรือชอบตอบคำถามใคร แต่ก็ไม่ได้ใจดำถึงขั้นที่จะไม่ตอบเลย แค่สงสัยว่าอีกคนจะอยากรู้เกี่ยวกับตัวเขาไปทำไมในเมื่อก็จะได้อยู่ด้วยแค่คืนนี้คืนเดียว(มั้ง)

     

    “ก็ได้ ถ้านายออกมาเห็นพี่หลับนั่นคือพี่นอนแล้ว” บ๊อบบี้ตอบออกไป จริงๆก็ง่วงแต่ก็ยังไม่อยากนอน ไอ้อยากนอนอ่ะอยากนอนเพราะวันนี้ก็เหนื่อยมาทั้งวัน แต่จะให้ทำไงได้ในเมื่อตอนนี้ในใจมันโรคจิตอยากจะเห็นชุดนอนของน้องฮันบิน

     

                กูต้องบ้าไปแล้วแน่นแน่

     

    ฮันบินไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีก เขาไม่รู้ว่าอีกคนจะสร่างเมาหรือยัง ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าที่พูดมากถามมากขนาดนี้เป็นเพราะเมาหรือเปล่า

     

    ไม่รู้ว่าคิดไปเองไหม แต่เขารู้สึกเหมือนพี่มันแปลกๆไปตั้งแต่ตอนที่เขาปลุกบนรถ พูดง่ายๆคือแม่งดูบ้าๆตั้งแต่ได้เห็นหน้าคร่าตากันนั่นแหละ

     

              ว่าแต่พี่แม่งชื่ออะไรนะ?....-.-

     

     

     

     

    -

    เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง

     

    คิมจีวอนยังคงสกิลการถ่างตาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีครั้งไหนที่เปลือกตาจะปิดหรือเผลอหลับไป ตอนนี้สติสตังค์เหลืออยู่เกินร้อยซะอีก อาการมึนๆมันหายไปตั้งแต่อาบน้ำแล้วล่ะ

     

    ง่วงนะ แต่ยังไม่อยากนอน ประเด็นคือกูจะนอนเข้าไปได้ยังไงในเมื่อทั้งห้องยังสว่างจ้าอยู่แบบนี้

     

                น้องฮันบินอาบน้ำนานจัง

     

     

                เป็นไรหรือเปล่าเข้าไปดูหน่อยดีไหม?

     

     

     

     

                เห้ย นี่ไม่ได้คิดอกุศลไรนะ คือเป็นห่วงน้องเค้าจริงๆ

     

     

     

     

     

     

                จริงนะเว้ย!!

     

     

    แกร้ก

     

     

    หลังจมอยู่กับความคิดตัวเองอยู่นาน คิมจีวอนก็ได้ยินเสียงเหมือนประตูห้องน้ำถูกเปิดออก อ่า อาบเสร็จแล้วสินะ รู้ว่าคิดถึงหรือไงถึงได้ออกมาพอดี งึ้ยยยยเขินนนนน

     

                เขินพ่อ ง

     

     

    “ยังไม่นอนอีกหรอ?” คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินเข้ามานั่งที่เตียงก่อนจะเอ่ยถาม เขาก็ว่าเขาอาบน้ำนานพอสมควรนะ แต่ทำไมพี่มันยังไม่หลับอีก หรือไม่ชอบนอนที่สว่าง? ไม่มั้ง ก็พี่มันบอกเองว่านอนได้นี่นา

     

    “ยังอ่ะ” ตอบได้แค่สั้นๆสองพยางแค่นี้เพราะไม่ค่อยมีสติจะตอบ ได้แต่จ้องมองไปยังร่างเล็กๆในทุกๆการเคลื่อนไหว มันเตะตา มันสะดุดตา มันโดนใจเข้าอย่างจัง

     

    น้องฮันบินในชุดนอนลายมิกกี้เมาส์!!!

     

    ไอเหี้ยยยยยยยยยยยย ใดใดในโลกที่ว่าน่ารักนี่มึงต้องสยบให้กับคนนี้อ่ะกูพูดเลย กูพูดจริงๆ กูจริงจัง!!!

     

    แม่งน่ารัก น่ารักมาก น่าถนุถนอมอะไรขนาดนี้ ผิวก็ขาวๆเหมือนเด็กผู้หญิง ไม่สิ บางทีน้องแม่งงามกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก

               

     

     

    กูไม่ได้เวอร์!!!

     

    จ้องมองร่างเล็กในชุดนอนลายหนูดำกางเกงแดงอยู่อย่างนั้น เขาไม่ปฏิเสธิว่าตอนนี้เอ็นดูอีกคนมากๆ ไม่รู้ว่าทำไมคนตัวเล็กนี่ถึงได้ดูน่ารักเหมาะสมกับชุดนอนลายมิกกี้เมาส์ขนาดนี้

     

    มันไม่ใช่ทุกคนนะเว้ยที่จะดูน่ารักกลมกลืนไปกับลายมิกกี้เมาส์ขนาดนี้ โดยเฉพาะผู้ชาย ลองคิดภาพผู้ชายคนอื่นใส่ชุดนอนลายมิกกี้เมาส์ดูสิ ไม่มีใครน่าดูเท่าคนนี้อีกแล้วนี่พูดจริงๆ เอางี้ก็ได้ ไม่ต้องคิดไกล แค่ลองคิดว่าจุนฮเวเพื่อนรักใส่ชุดนอนลายมิกกี้เมาส์บ้างกูก็พร้อมจะสยองแล้ว คือยี๋มาก เพราะผู้ชายแม่งไม่ควรจะน่ารักมุ้งมิ้งไปกับหนูผี

     

    แต่สำหรับน้องฮันบินมันไม่ใช่ คือน้องแม่งดูน่ารัก ดูเหมาะสมตั้งแต่หัวจรดเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างมันลงตัว คืออธิบายไม่ถูก คือมึงต้องมาเห็นเองเว้ย เห็นแล้วจะเลิกมองไม่ได้เลยอันนี้คิมจีวอนยืนยัน!!

     

                บอกอีกครั้งว่ากูไม่ได้เวอร์!!

     

     

    “ผมง่วงแล้วอ่ะ นอนละนะ” เจ้าของห้องเอ่ยบอกก่อนจะหาวประกอบแสดงอาการง่วงเสียเต็มประดา

     

    ร่างบางนอนราบลงบนเตียงนุ่มก่อนจะหลับตาพริ้มแล้วก็ไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรออกมาอีก

     

    บ๊อบบี้มองดูทุกการกระทำไม่วางตา ยอมรับว่าที่ฮันบินทำมันช่างน่ารักน่ามองไปหมด คนอะไรอาบน้ำเสร็จแล้วก็นอนเลยเนี่ยนะ ไอ้ทีอดทนรอดูการ์ตูนได้เป็นชั่วโมงๆไม่เห็นแสดงอาการท่าทีง่วงหรืออยากนอนอะไรออกมาเลย แต่พอจะนอนแค่เอนตัวนอนก็หลับเลยงั้นหรอ

     

    ใบหน้าน่ารักยังคงหลับตานิ่ง ดูผ่อนคลายซะจนคนมองสบายใจตาม มองไปยังใบหน้าของอีกคนแล้วคิมจีวอนก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ คนอะไรจะน่ารักได้ขนาดนี้  จมูกก็โด่ง แก้มก็เนียน ตาก็โต ปากนั่นก็น่าสัมผัสไม่เบาเลย สัมผัสสักทีจะเป็นบุญปากพี่มาก



    30%


     

     วันนี้มีแต่คำว่าน่ารักลอยฟุ้งเต็มไปหมดตั้งแต่ได้รู้จักกับฮันบิน ยอมรับว่าชอบ ชอบมากๆ ชอบมากจริงๆ

     

                ที่จริงน้องมันก็ไม่ได้หุ่นดีตะอ้อนตะแอ้นเหมือนผู้หญิงหรอก ก็ผู้ชายทั้งแท่งทั่วไปนี่แหละ แต่มันดูน่ามองไง โอ๊ย จะอธิบายยังไง เข้าใจมั้ยว่ามันน่ารัก!

     

    “นอนเลยหรอ?” เอ่ยถามออกไปเพราะเห็นอีกคนทำท่าอยากจะนอนซะเหลือเกิน

     

    “อือ ดึกแล้วนะ” ปากขยับพูดทั้งๆที่ตายังหลับอยู่ ฮันบินเองก็ไม่ได้ง่วงขนาดนั้น แค่ไม่รู้ว่าจะลืมตาไปเพื่ออะไรเท่านั้นเอง

     

                พี่แม่งคนแปลกหน้านะเว้ย ถึงพี่แอลจะย้ำนักหนาว่าไว้ใจได้ก็เถอะ แต่ก็ไม่ค่อยอยากพูดด้วยเท่าไรอ่ะ

     

    “อ่า ฝันดีนะฮันบิน” บ๊อบบี้ว่าพลางตัวเองก็ราบตัวนอนลงไปบ้าง ทันทีที่นอนลงใกล้ๆเท่านั้นแหละ กลิ่นหอมอ่อนๆจากสบู่ที่อีกคนใช้ก็ลอยมาเตะจมูกเข้าให้อย่างจัง ห่ารากมาก

     

                นี่พี่ต้องมีสติมากขนาดไหนถึงจะห้ามใจไม่ให้ปล้ำน้องได้

     

    ความจริงก็อยากจะชวนพูดคุยสัพเพเหระให้มากกว่านี้แต่จะทำไงได้เมื่ออีกคนเล่นหลับตาโชว์ซะ

     

    ไม่เป็นไร ไม่ได้คุยก็ขอแค่มองก็ได้ ไหนๆไฟก็สว่างทั้งคืนอยู่แล้ว นอนมองมันทั้งคืนไปเลยแล้วกัน

     

     

                ความสุขมีให้เห็นอยู่ตรงหน้าขนาดนี้จะหลับตาไปเพื่ออะไร

     

     

    “ฝันดีพี่เออ พี่ชื่อไรนะ” อยู่ๆตาที่หลับก็ลืมโพลงขึ้นมา ฮันบินจำไม่ได้จริงๆว่าพี่คนนี้มันชื่ออะไร คือเออ ตอนบอกก็จำได้ไง แต่พอดูการ์ตูนไปแล้วแม่งก็จำได้แต่เรื่องราวในการ์ตูนไง ลืมชื่อพี่มันไปแล้วอ่ะ

     

    “บ๊อบบี้คิม” บ๊อบบี้ไม่ได้แนะนำชื่อจริงของเขาออกไป เพราะเคยแนะนำไปแล้วแต่อีกคนกลับลืมซะได้ ตอนแรกกะจะให้น้องเรียกว่าพี่จีวอนนะอยากให้น้องเป็นคนสำคัญ แต่ตอนนี้บังเอิญว่างอนที่น้องจำชื่อพี่ไม่ได้ งั้นก็เรียกบ๊อบบี้เหมือนคนทั่วไปละกัน หายงอนเมื่อไหร่จะให้เรียกจีวอนละกัน งอนนะตอนนี้ย้ำว่างอน

     

                กูแม่งมีสิทธิ์งอนน้องด้วยหรอ

     

    “ฝันดีพี่บ๊อบบี้คิม”

     

    “บ๊อบบี้เฉยๆก็ได้”

     

    “คิมบ๊อบบี้?”

     

    “เรียกบ๊อบบี้เฉยๆก็ได้มั้ง” งอนนะเนี่ยรับรู้บ้างได้ป้ะ ง้อบ้างได้มั้ยอ่ะ

     

    “เรียกคิมบับได้ป้ะอ่ะ น่ารักดี”

     

    ว่าไงนะ!!!!

     

    เมื่อกี้น้องว่าไงนะ!!! เรียกคิมบับได้ป้ะอ่ะ น่ารักดีอย่างงั้นหรอ? ตาย ตายแน่ๆ นี่มีบัญญัติชื่อพี่ขึ้นมาเองด้วยหรอ?

     

    บอกเลยว่าเหนือความคาดหมายมาก มันรู้สึกดีที่น้องตั้งใจจะตั้งชื่อให้พี่ใหม่เพื่อที่น้องจะได้เรียกแบบนี้แค่คนเดียว หูย ในบรรดาชื่อหรือฉายาทั้งหมดที่ใครต่อใครเคยตั้งให้นี่บอกเลยว่าชอบชื่อ คิมบับ ที่สุดแล้ว

     

    ประเด็นคือชอบคนตั้งด้วยไง บวกกันไปแล้วก็ยิ่งชอบเลยทีนี้ ว่าแต่น้องฮันบินนี่ยังไง น้องให้ท่าพี่อยู่หรือเปล่า การที่น้องลืมตาโพลงขึ้นมาเพื่อตั้งชื่อให้พี่ดึกๆดื่นๆนี่มันแปลว่าอะไร สนใจพี่เหมือนกันใช่ไหม

     

    จะเรียกพี่ว่าคิมบับนี่หิวอยู่หรือเปล่า หรือว่าน้องอยากกินพี่…? ถึงมันจะเป็นความคิดที่เข้าข้าตัวเองไปหน่อย แต่ก็แอบหวังให้มันเป็นแบบนั้นนะ เคี้ยกๆๆๆ

     

                ไม่งอนละอ่ะ พี่ไม่งอนแล้วจริงๆ น้องแม่ง!!

     

    “ได้อยู่แล้ว นายนี่เวลายิ้มน่ารักดีนะ” ปฎิบัติการหยอดด้วยคำพูดของคิมจีวอนได้เริ่มขึ้นแล้ว

     

    ฮันบินหุบยิ้มลงแทบทันทีที่อีกคนพูดจบ อะไรของพี่มันวะ อยู่ๆมาชมกันทำไม นี่ก็แค่เห็นว่าชื่อแปลกดี เรียกไปเรียกมาจากคิมบ๊อบบี้ก็อาจจะเหลือแค่คิมบับอะไรแบบนี้ เลยอยากเรียกคิมบับมากกว่า เพราะมันน่ารักดีอย่างที่บอกไปนั่นแหละ แล้วพอพูดถึงคิมบับก็ยิ้มออกมาเพราะตลกดีคนไรชื่อเหมือนอาหาร ก็แค่ยิ้มแค่นี้เองอ่ะ ทำไมจะต้องสังเกตแล้วเอามาบอกกันโต้งๆแบบนี้ด้วย

     

                แปลกที่ฮันบินรู้สึกร้อนๆที่ใบหน้า อ่า อากาศก็เย็นนี่นา

     

    ” คนตัวเล็กยังนอนนิ่งๆไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไป เพียงแค่นั้นก็ทำให้จีวอนรู้ว่าตอนนี้อีกคนคงเขิน หรือไม่ก็หมดคำจะพูด หรือไม่ก็คงกำลังสรรหาคำด่าในใจอยู่

     

    “น่ารักขนาดนี้ไม่มีใครมาจีบหรอ?” เข้าเกมรุกอย่างต่อเนื่อง ชาตินี้ไม่เคยอาย ชอบใครก็พุ่งเข้าใส่แม่งอย่างเดียวนี่แหละ รู้สึกคนนี้คิมจีวอนจะอยากพุ่งใส่เป็นพิเศษซะด้วยสิ

     

    เป้าหมายมีไว้พุ่งชน และตอนนี้น้องฮันบินคือเป้าหมายของพี่ สัญญาว่าถ้าได้พุ่งเข้าชนแล้วพี่จะไม่ไปไหนอีกเลย พี่จะชนแค่น้องคนเดียวเท่านั้น สาบาน!

     

    “ถามไรของพี่วะน่ะ”

     

    “ถามไง ว่านายมีแฟนยัง”

     

    “ถามทำไม” ฮันบินก็ดูจะงงไม่น้อยกับคำถามที่ได้รับ ไอ้พี่นี่มันก็ขยันทำตัวแปลกๆจัง เขาจะมีแฟนหรือไม่มีมันก็เรื่องส่วนตัวของเขาป่ะ ขี้เสือกจังเลย

     

              อย่าบอกนะว่าจะจีบ?

     

    “ชอบ

     

    “ห้ะ?”

     

    “ชอบชื่อคิมบับ ชอบชื่อที่นายตั้งให้ ชอบที่สุดก็น่าจะเป็นคนตั้งนั่นแหละ” คิมจีวอนพูดออกมาอย่างจริงใจ อาการประหม่ารายล้อมรอบตัวจนแทบจะหยุดหายใจ เชื่อไหมว่าไม่เคยสารภาพกับใครได้เลี่ยนขนาดนี้ ส่วนมากแค่บอกว่าชอบแล้วก็จบที่เตียงกันทุกราย

     

     แต่กับน้องฮันบินพี่ไม่อยากให้จบแค่ที่เตียง พี่อยากต่อที่ระเบียงแล้วค่อยกลับมาที่เตียงอีกที

     

     

     

     

    ไม่ใช่!!!

     

     

     

    คนนี้บ๊อบบี้จะเอาจริง!

     

     

    “พูดไรของพี่วะ” เอาจริงๆฮันบินก็ไม่ได้อ่อนต่อโลกถึงขั้นไม่รู้หรอกว่าที่พี่มันพูดออกมาคืออะไรแต่ที่ถามไปก็เพราะอยากให้อีกคนลองตั้งสติและคิดทบทวนดูว่าที่พูดออกมาน่ะมันถูกต้องหรือเปล่า

     

    “เฮ้ยพูดจริง ชอบตั้งแต่เห็นครั้งแรกเลยนะ” บ๊อบบี้นอนตะแคงหันหน้าไปมองคนที่ตัวเองกำลังสารภาพ ซึ่งอีกคนก็ไม่ได้มีการหลบสายตาแต่อย่างใด

     

    ” สิ่งที่ฮันบินทำก็เพียงแค่มองหน้าอีกคนนิ่งๆเท่านั้น ไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่อะไรเพราะตลอดช่วงชีวิตมัธยมที่ผ่านมาก็มีผู้ชายมาจีบเยอะเหมือนกัน และตอนนี้ก็คุยกับผู้ชายซะส่วนเยอะ เขาเองก็ไม่ได้คิดว่ามันจะผิดอะไร ใครอยากคุยเขาก็แค่คุยด้วย ใครคุยกันถูกคอก็คุยกันได้นานหน่อย ส่วนใครที่คุยกันไม่รู้เรื่องสามวันก็เกินพอ

     

    แต่สำหรับพี่คนนี้แม่งรู้จักกันยังไม่ถึงห้าชั่วโมงด้วยซ้ำ อะไรจะชอบกูเร็วขนาดนั้น นี่ก็อุตส่าห์ไว้ใจเพราะคิดว่าเป็นผู้ชายด้วยกัน คิดว่าจะเป็นประเภทผู้ชายชอบผู้หญิงอะไรแบบนั้น ที่แท้พี่แม่งไม้ป่าเดียวกันเหรอ?

     

                แล้วนี่ควรจะระวังตัวไหม?

     

    “มีแฟนหรือยังอ่ะ”

     

    “ที่พูดนี่เพราะเมาป้ะ” อดไม่ได้ที่จะแขวะออกไป คนปกติเค้าเคยมาสารภาพกันแบบนี้เหรอ แล้วถ้าคำตอบของเขาคือมีแฟนแล้วล่ะ จะมองหน้ากันติดมั้ยทีนี้ ถามออกมาก็คิดหน่อยได้ไหม

     

    “วันนี้ก็เมาแหละ แต่ก็มีสติ ไม่ได้เมาหัวราน้ำขนาดนั้น” คิมจีวอนตอบออกไปอีกครั้งอย่างไม่คิดจะปกปิด ขอถามหน่อยว่าน้องแม่งรู้สึกสะดุดตาพี่สักนิดไหม เหมือนที่พี่สะดุดตาน้องหรือเปล่า ตอนนี้รู้สึกมากแล้วนะ ถ้าการสารภาพออกไปแล้วโดนปฏิเสธกลับมานี่ไม่ต่างอะไรจากอกหักเลยนะ เคยได้ยินไหมเจ็บตั้งแต่ยังไม่เริ่มน่ะ

     

    “จะจีบ?”

     

    “ได้ป้ะล่ะ”

     

    “ก็ลองดู” ฮันบินพูดไปไม่ได้มีท่าทีเขินอายเลยสักนิด เออ พี่แม่งก็พิลึกคนดี เขาเองโดนผู้ชายบอกชอบมาก็เยอะแต่ไม่เคยเห็นใครประหลาดแบบนี้ คนบ้าอะไรเปิดเผยชะมัด แบบนี้ก็น่าลองเหมือนกันนะ

     

    “ไม่มีแฟนหรอ?” จีวอนก็แค่แปลกใจว่าหน้าตาน่ารักขนาดนี้ไม่มีแฟนหรือไง แต่จะดีใจมากถ้าน้องตอบกลับมาว่าไม่มี

     

                คือแค่ที่น้องให้จีบนี่ก็ดีใจจนแทบจะหุบยิ้มไม่อยู่แล้วนะ โอ้ยยยย พี่บ๊อบขอถวายไต;_;

     

                แต่พี่จะยิ้มได้กว้างมากกว่านี้ถ้าน้องยังโสด

     

    “แฟนหรอ ตอนนี้ไม่ได้เรียกใครว่าแฟนนะ”

     

    แม่เจ้า!! ที่จริงน้องบอกแค่ว่าไม่มีแฟนก็พอแล้วมั้ยอ่ะ แต่ที่น้องพูดแบบนี้น้องอ่อยอยู่หรือเปล่าเอ่ย?

     

    “โสด?” นี่ก็กำลังรับบทเป็นคนคูลๆ พูดน้อยให้แลดูมีสเน่ห์แบบไม่ค่อยใส่ใจในคำพูดน้องเท่าไหร่ แต่ความเป็นจริงคือแม่เจ้าโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ใจมันสั่นระดับแสน น้องฮันบินแม่งบอกตอนนี้ไม่ได้เรียกใครว่าแฟนไง คือนี่ก็มีสิทธิ์เป็นแฟนน้องไง แล้วคือแบบมันโอ้ยยยยยย อยากได้อ่ะ ฮื่ออออ

     

    “งั้นมั้ง” ฮันบินยังนอนตอบคำถามด้วยท่าทีสบายๆ ไม่ต่างจากบ๊อบบี้ที่นอนอยู่ข้างๆด้วยท่าทีผ่อนคลายไม่ต่างกัน

     

    เหมือนเล่นเกมใครนิ่งกว่าคนนั้นชนะ ทั้งๆที่ในใจตอนนี้มันสั่นไหวรุนแรงจนต้องแอบเกร็งไปทั้งตัว

     

    “จีบนะ” พูดจบก็ส่งยิ้มไปให้ราวกับจะขอให้มันเป็นการเริ่มต้นที่ดี ฮันบินเองก็ยิ้มอ่อนๆกลับมา แค่นี้ก็ทำเอาบ๊อบบี้ตื่นเต้นจนแทบจะลงไปชักดิ้นชักงอที่พื้นซะให้มันรู้แล้วรู้รอด

     

                น้องฮันบินแม่งกำลังจะทำให้กูหลงจนโงหัวไม่ขึ้น

     

                ลืมไอ้เด็กกะโปกที่เคยพูดกวนตีนในโทรศัพท์ตอนนั้นไปได้เลย เพราะตอนนี้เหลือแค่น้องฮันบินของพี่คิมบับเท่านั้น อ๋อยยยย ./////.

     

    “พี่ไม่มีหรือไงแฟนน่ะ” ฮันบินถามกลับไปบ้างเพราะก็นึกสงสัยอยู่ไม่น้อย พี่คนนี้แม่งก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ออกจะหน้าตาดีด้วยซ้ำ แถมท่าทางก็ยังเท่ห์ๆ สูงก็สูง หุ่นก็ดี เวลายิ้มก็ดูจะอบอุ่น

     

                กูจะชมพี่มันมากเกินไปละ -.-

     

    “ก็ไม่ได้มีใคร แต่ตอนนี้อยากมีแล้ว” พูดไปก็มองหน้าคนถามไป เอาจริงๆไหม ชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะจริงใจกับใครเพราะคนที่ผ่านเข้ามาก็ไม่มีใครคิดที่จะจริงใจด้วย ที่ผ่านมาชีวิตคิมจีวอนก็แค่คนรักสนุก

     

    จนได้มาเห็นน้องฮันบินนี่แหละ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ไอ้ความรู้สึกอยากครอบครองอยากดูแลมันเริ่มก่อตัวขึ้นมาได้ง่ายๆ แค่คิดว่าถ้าได้อยู่ใกล้ๆ ได้พูดได้คุย ได้ห่วงใยได้ดูแลเด็กคนนี้ไปตลอดคิมจีวอนก็ฟินลืม

     

    Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดบทสนทนาที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม บ๊อบบี้รู้ว่ามันไม่ใช่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์เขา และแน่นอนว่ามันต้องเป็นของอีกคน

     

                มีคนโทรหาฮันบิน?

     

    ฮันบินเด้งตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะหยิบเครื่องมือสื่อสารที่มันยังดังสนั่นขึ้นมามองว่าใครที่โทรเข้ามาดึกดื่นป่านนี้ ก่อนที่ใบหน้าหวานจะระบายยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าใครที่โทรเข้ามา

     

    “ครับพี่” เอ่ยออกไปทันทีที่กดรับสาย

     

    คิมจีวอนถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ๆกับท่าทางของอีกคนที่แสดงออกมา ใครโทรมา? ทำไมต้องยิ้ม? ทำไมต้องรับสายด้วยการพูดจาเพราะๆ? ขอหวงได้ไหม? พี่มีสิทธ์หวงหรือยัง?

     

                คำตอบคือยัง

     

    “อ๋อ ก็จะนอนแล้วล่ะหืมบ้า ป่าวซะหน่อย ฮะๆ” เสียงหัวเราะยังคงดังอยู่ที่ปลายเตียงไม่เลิกเพราะฮันบินนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ตรงนั้น

     

    คิมจีวอนนอนต่อไปไม่ได้แล้ว ร่างหนาลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงแล้วมองร่างเล็กๆที่นั่งคุยโทรศัพท์หันหลังให้เขาอยู่

     

                หงุดหงิด ฟังจากเสียงหัวเราะนั่นแล้วดูมีความสุขจังเลยเนอะ

     

    “พี่ก็นอนเถอะครับอ่าก็ได้ครับฝันดีนะ” จบด้วยการบอกฝันดีก่อนจะกดวางสายแล้วหันมาทำท่าจะนอนต่อ แต่ก็พบกับอีกสายตาที่จ้องมองมาอย่างสงสัย

     

    ฮันบินมองสบตาบ๊อบบี้เพียงเสี้ยววินาที เออ เมื่อกี้คุยกับพี่มันถึงไหนแล้วนะ? เอ่อ ช่างมันเหอะ รู้แค่ว่าโดนพี่มันหยอดนั่นแหละ

     

    “ไม่นอนอ่ะ?” เอ่ยถามออกไปเพราะเห็นอีกคนลุกขึ้นมานั่งแทนที่จะนอน

     

    “ไม่มีอารมณ์จะนอน” ก็เพิ่งบอกไปหยกๆว่าจะจีบ แถมอีกคนยังบอกว่าไม่มีแฟน แต่นี่อะไร คุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้ ท่าทางมีความสุขมากด้วย แบบนี้จะไม่ให้หงุดหงิดได้ยังไง

     

    “หืม? งั้นผมนอนนะ” ฮันบินแสร้งทำเป็นไม่สนใจก่อนจะเอนตัวลงนอนทิ้งให้อีกคนหน้าบูดบึ้งอยู่อย่างนั้น

     

    อยากจะตลกกับท่าทางแบบนั้นของพี่แกจริงๆ ทำหน้าแบบนั้นคืออะไร คงไม่ได้หวงเขาหรอกใช่มั้ย บ้า อย่ามาทำให้รู้สึกดีไปหน่อยเลยน่าคิมบับ

     

    “ฮันบิน” คิมจีวอนเอ่ยเรียกอีกคนที่ตอนนี้นอนลงและหลับตาเรียบร้อย นี่ไม่คิดจะสนใจกันเลย?

     

    “หือ?”

     

    “ที่คุยน่ะใครหรอ?” ถามออกไปแบบกล้าๆกลัวๆ คิมจีวอนกล้าๆกลัวๆจริงๆนะ ไม่รู้ว่าน้องจะมองว่าก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวหรือเปล่า แต่ความอยากรู้มันก็มีอยู่มากกว่า คือไม่แฮปปี้ถ้าน้องจะคุยโทรศัพท์กับใครแล้วดูมีความสุขขนาดนั้นทั้งที่บอกว่าตัวเองยังไม่มีแฟน

     

    “พี่ถามทำไมอ่ะ” ฮันบินลืมตาขึ้นอีกครั้งก่อนจะดันตัวเองลุกขึ้นแล้วนั่งพิงหัวเตียงบ้าง คืนนี้จะได้นอนมั้ยล่ะ=_=

     

    “ก็บอกว่าไม่มีแฟน แต่ทำไมคุยโทรศัพท์แล้วดูมีความสุขเหมือนคุยกับแฟน” คิมจีวอนเอ่ยเสียงตึงๆพร้อมใบหน้าที่บูดบึ้งแบบแรง เอาแหล่ว สรุปคือกูหวงน้องมันจริงๆครับ ไม่น่าเชื่อว่าน้องแม่งจะมีอิทธิพลกับชีวิตตั้งแต่คืนแรกที่เจอกันขนาดนี้

     

    “ไม่ใช่แฟน”

     

    “แล้วใครอ่ะ” จะด่าว่าพี่เสือกก็เชิญครับ แต่นี่อยากรู้จริง อยากรู้มากด้วย

     

    “เขาก็อยู่ในสถานะเดียวกับพี่นั่นแหละ”

     

     

    “กำลังจีบผม”

     

     

    ผ่าง!!!

     

    ผ่างมาก!!! ได้ยินแบบนี้ยอมรับว่าคิมจีวอนผ่างมาก มันเป็นใคร! จีบมานานเท่าไหร่แล้ว

     

    ” พูดไม่ออกนั่นคือเรื่องจริง เสียหน้ามากที่ต้องมาจีบแข่งกับใครแบบนี้ ปกติคิมจีวอนอยากได้ใครแค่กระดิกนิ้วก็ได้แล้ว นี่ถ้าเป็นคนอื่นพี่ล้มเลิกไปแล้ว แต่นี่เป็นน้องฮันบินไง น้องฮันบินที่พี่คิดมาตลอดสองชั่วโมงว่าน้องคือเนื้อคู่พี่ เพราะงั้นพี่จะสู้!!

     

    “บอกว่าไม่มีแฟนก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีคนคุยนี่ คนจีบผมเยอะนะรู้ยัง” คนตัวเล็กกระหยิ่มยิ้มก่อนจะเอ่ยอย่างนึกสนุก ให้ตายสิ นี่อีกคนกำลังหวงเขาจริงๆหรอ บ้าจริง รู้สึกดีขึ้นมาซะเฉยๆ

     

    “มันเป็นใคร จีบนายนานยัง จีบมากี่ปีกี่เดือนกี่วันแล้ว ชอบมันไปหรือยัง” เป็นการรัวคำถามที่คิมจีวอนเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะถามได้รัวและเร็วขนาดนั้น แต่ก็นะ บอกแล้วว่านี่เป็นน้องฮันบิน อะไรที่เกี่ยวกับน้องพี่ต้องรู้

     

              ฮันบินนี่เป็นคนขี้เกรงใจเหรอ? น้องแม่งให้โอกาสคนที่เข้ามาจีบทุกคนเลยหรือเปล่า?

     

               

     

    “แค่อาทิตย์เดียวเองมั้ง ก็คุยสนุกดี” ฮันบินตอบ พี่เขาก็เพิ่งเข้ามาจีบแล้วก็โทรหาเขาจริงจังๆได้แค่อาทิตย์เดียวเองนั่นแหละ ความจริงคนที่เข้ามาจีบอ่ะเยอะกว่านี้แต่ฮันบินก็คุยกับคนนี้ได้นานที่สุดแล้ว เพราะคนอื่นทั้งงี่เง่าง๊องแง๊งพูดไม่รู้เรื่องก็เลยค่อยๆเลิกคุยไป แต่กับพี่คนนี้ก็คุยสนุกดี ออกจะสบายใจเหมือนคุยกับพี่ชายด้วยซ้ำ เพราะมีหลายอย่างที่เราชอบเหมือนกันเลยคุยกันได้นานหน่อย พี่เขาชอบดูการ์ตูนฮันบินก็เลยคุยได้เพราะเขาเองก็ติดการ์ตูนเหมือนกัน

     

    “ชื่ออะไร” คิมจีวอนยังคงตั้งใจในการทำความรู้จักกับคู่ต่อสู้ คือนี่บอกเลยว่าแค่อาทิตย์เดียวกูตามมึงทันแบบสบายๆมาก กูได้อยู่กับน้องเค้าทุกคืนเลยนะครับอยากให้รู้ .ยิ้มอ่อน

     

     

    “ซงมินโฮ”

     

     

     

    คิมจีวอนสาบานเลยว่ากูจะเกลียดคนที่ชื่อซงมินโฮไปตลอดชีวิต ถึงมันจะไม่ได้ทำอะไรให้และไม่ได้รู้จักกันก็เถอะ แต่ก็ถือว่ามึงเบียดเบียนกูมากในเรื่องของน้องฮันบิน(ถึงกูจะมาทีหลังก็เถอะ) มึงคือศรัตรูหมายเลขหนึ่งของกู ซง! มิน! โฮ!!!!!

     

     

    “หมดหรือยังที่อยากรู้น่ะ” ฮันบินเอ่ยถามก่อนจะหันไปมอง ตอนนี้นั่งพิงหัวเตียงอยู่ใกล้ๆจนไหล่จะเกยกันอยู่แล้ว

     

    “นายชอบมันไปหรือยัง”

     

    “ถ้าผมชอบ ผมก็ไม่ให้พี่จีบผมหรอก” ร่างเล็กตอบตามความเป็นจริง เขาไม่ได้ชอบพูดจาปั่นหัวใคร แต่ที่พูดทั้งหมดมันคือความจริง เขายังไม่ได้รู้สึกชอบพี่มิโน ก็แค่คุยกันแล้วสบายใจก็เลยยังคุยได้

     

    ข้อสำคัญเลยคือพี่มิโนไม่ใช่คนพูดมาก เขามักจะไม่จู้จี้ไม่ขี้บ่น และไม่ได้อยากรู้อะไรพร่ำเพรื่อด้วย ต่างจากคิมบับมากที่ตอนนี้ยังสาดคำถามมาไม่เลิก ถามว่ารำคาญมั้ย ก็มีบ้างนะ แต่ก็ยังตอบได้ทุกคำถามที่เขาถามมา ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม มันแค่รำคาญแต่ไม่ได้เบื่อ

     

    ฮันบินไม่ใช่คนที่คบใครไว้เผื่อเลือกแต่ก็ไม่ใจแข็งพอที่จะปฏิเสธใครตั้งแต่ที่ยังไม่ได้คุยกัน ก็แค่ลองคุยดูก่อน ใช่ไม่ใช่ยังไงนั่นอีกเรื่อง ตอนนี้เขายังไม่มีแฟนเขาก็ยังมีสิทธิ์ที่จะรับใครเข้ามาหรือคุยกับใครก็ได้ แต่ถ้าวันไหนที่เขาเรียกใครว่าแฟน ไม่ว่าจะใครหน้าไหนเขาก็จะไม่คุยด้วยทั้งสิ้น

     

    ไม่ใช่อยากจะหาคนที่ดีที่สุด แต่อยากจะหาคนที่ใช่ที่สุด

     

    ถึงจะแค่เพิ่งจบม.ปลาย แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความรักฮันบินก็จริงจังเสมอ คบใครก็อยากจะคบไปนานๆ ถึงจะยังเป็นเด็กแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอยากเจ็บกับความรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่นคือเหตุผลที่ยังไม่ยอมคบกับใครเสียที

     

    “นายคุยกับทุกคนที่เข้ามาจีบเลยหรือไง”

     

    “เรียกว่าให้โอกาสไม่ถูกกว่าหรอ?”

     

    เงียบ คิมจีวอนนี่แทบจะเตะปากตัวเอง ลืมว่าตัวเองก็แค่คนที่จะจีบน้องเขา ลืมไปว่าเขาก็คืออีกคนที่อยากได้โอกาสอยากฮันบิน ก็แค่หวง อยากเก็บไว้จีบแค่คนเดียวไงประเด็น

     

    “อย่างพี่ที่มาบอกว่าจะจีบผมเนี่ย ถ้าผมไม่ให้โอกาสพี่ก็หาว่าผมหยิ่งอีก”

     

    ..

     

    “ที่คุยได้ทุกคนนั่นเพราะผมยังไม่มีแฟน ถ้ามีแฟนแล้วจะไปอยากคุยกับคนอื่นทำไม”

     

                ฮันบินรู้สึกว่าคืนนี้เป็นอะไรที่เขาพูดมากที่สุดแล้ว ทำไมจะต้องมานั่งอธิบายอะไรให้คนขี้เมาฟังด้วยเนี่ย!!!

     

    “งั้นเป็นแฟนกับพี่เถอะ” คิมจีวอนหลุดพูดออกไปก่อนจะทำหน้าตาเลิ่กลั่ก ปากกูนี่แม่งไวกว่าความคิดอีกห่า นี่ว่าจะแค่คิดเฉยๆแล้วนะ ว่าจะไม่พูด แต่ปากแม่มพูดไปซะงั้นแหละ

     

    “ง่ายไปมั้งคิมบับ”

     

    “เฮ้ยเอาจริงๆนะเว้ย เนี่ย ถ้าสมมติว่าพี่จีบน้องแข่งกับไอ้มินโฮนั่นแล้วน้องชอบมัน พี่แม่งก็มีแต่เจ็บกับเจ็บดิ”

     

    “ก็พี่ชอบผมเองนี่”

     

    ” เงียบอีกครั้งเพราะที่อีกคนพูดมามันถูกต้องที่สุด เป็นคนไปชอบแล้วบอกจะจีบน้องมันเองนี่หว่า ถ้าจะเจ็บมึงก็โทษใจตัวเองที่มันง่ายเหอะคิมจีวอน น้องมันน่ารักขนาดนี้ไม่แปลกที่ใครๆก็อยากจีบ มึงก็แค่หนึ่งในคนที่ชอบน้องมัน และน้องมันก็ไม่ใช่หนึ่งในคนที่ชอบมึงด้วย

     

               

     

    ตัดพ้อแต่พองามก็พอ อย่าเยอะ -.-

     

     

    ” ฮันบินก็นิ่งเงียบไปเหมือนกัน หรือเมื่อกี้เขาจะพูดแรงเกินไป ทำไมอีกคนถึงตีหน้าเศร้าขนาดนั้น แต่เขาก็พูดความจริงป้ะอ่ะ

     

    “งั้นจีบอยู่นะ บอกใครต่อใครได้เลยว่าพี่จีบน้องอยู่ บอกให้ครบ บอกแม้กระทั่งไอ้มินโฮอะไรนั่นด้วย”

     

    “ก็ได้นะ” ฮันบินพูดก่อนจะเลื้อยตัวลงไปนอนแล้วตะแคงหันหลังให้อีกคน ปากบางยกยิ้มเพราะตอนนี้ในใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะ ทำไมถึงรู้สึกดีได้ขนาดนี้ทั้งๆที่เจอแบบนี้ก็บ่อย เมื่อกี้ฮันบินแอบเห็นความพยายามที่แฝงอยู่ในตาคมคู่นั้น อ่า หัวใจนี่ก็เต้นแรงจัง

     

    “เฮ้ จะนอนเลยเหรอ?”

     

    “อือ คุยกับพี่ก็คงไม่ได้นอนหรอกคืนนี้”

     

    “นอนได้ แต่ช่วยหันหน้ามาทางนี้หน่อยได้ไหมอยากเห็น” นี่คือคำพูดที่ไม่คิดว่าพูดออกไปแล้วจะเก็บเอามาเขินเอง โอ่ย นี่กูเป็นอะไรมากไหม ปกติฟันแล้วทิ้งตลอดนะเว้ย แต่กับน้องฮันบินถ้ามีโอกาสได้ฟันพี่จะไม่ทิ้งสาบานได้

     

                พี่จะฟันแล้วฟันอีก ฟันแล้วก็ฟันอีก!!!

     

    ขนาดน้ำเซาะหินหินมันยังกร่อน พี่เองก็จะเซาะน้องไปเรื่อยๆ น้องไม่กร่อนบ้างก็ให้มันรู้กันไป!

     

    “หันมาแล้วจะทำไม” ฮันบินหันหน้ามาทันทีที่สิ้นคำขอ ที่หันมาเพราะไม่อยากให้อีกคนได้ใจไปว่าเขาเขินจนไม่กล้าจะหันหน้ามามอง บ้าไปสิ เขาไม่เขินกับอะไรง่ายๆแบบนี้หรอก

     

                แต่ก็ในใจมันก็ยิ้มแรงพอสมควรเลยนะตอนนี้ >//<

     

    “ฝันดีนะ ฮันบิน” สายตาอ่อนโยนที่มองมาทำเอาคนโดนบอกใจกระตุก ไม่ได้นะ จะหวั่นไหวแค่เพราะเห็นสายตาเขาแบบนี้ไม่ได้นะ ให้ตายเถอะ นี่มันไม้ตายของคิมบับหรือไง!

     

    “ฝันดี คิมบับ” เอ่ยบอกกลับไปก่อนจะหลับตาลงในท่านอนหงาย เขาไม่ได้กลัวว่าคิมบับจะคิดอกุศลอะไรกับเขาหรอก เพราะนี่คือคนที่พี่แอลไว้ใจและเขาเองก็จะไว้ใจคิมบับเช่นกัน ถึงแม้ตอนนี้ข้างไหนมันจะปั่นป่วนไม่น้อยเลยก็ตาม

     

              ฮันบินหลับตาลงพร้อมกับความรู้สึกที่มากมายที่ถาโถมเข้ามา

     

    เขาไม่ใช่พวกประเภทที่จะพูดมากกับคนที่ไม่สนิท และตอนนี้ก็มั่นใจว่าคิมบับยังไม่ใช่คนสนิทของเขา แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาพูดกับอีกคนไปเยอะพอสมควร บ้าไปแล้ว ตอนแรกก็ไม่อยากคุยด้วย แต่พอได้คุยก็คุยยาวจนลืมไปเลยว่าอีกคนแม่งคนแปลกหน้า =.= แถมยังแอบใจเต้นแรงไปกับท่าทางของอีกคนอีก

     

     

     

     

     

    คิมจีวอนนั่งมองใบหน้าของอีกคนนิ่งๆ นิ่งซะจนเกือบจะลืมหายใจ ยิ่งจ้องยิ่งน่ารัก ยิ่งมองก็ยิ่งหลงใหล ไม่ว่าจะยังไงน้องฮันบินต้องเป็นของกู ของกูคนเดียวพอ กูบอกจะเอาก็คือจะเอา และจะเอาให้ได้!!

     

     

    โน้มใบหน้าตัวเองลงไปใกล้ๆอีกคนจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆอีกครั้ง มองใกล้ๆก็ยิ่งอยากจะกลืนลงไปเก็บไว้คนเดียว คนอะไรน่าพับใส่กระเป๋ากลับบ้านไปอวดพ่อซะจริง นี่ถ้าไม่ติดว่าโกรธพ่ออยู่พรุ่งนี้จะพาฮันบินเข้าบ้านไปกราบพ่อเลยอ่ะจริงๆ

     

    ร่างหนายังคงจดจ้องไปยังใบหน้ามนที่ยังหลับตาสนิทอยู่ตอนนี้ ไล่มองไปในทุกส่วนของใบหน้าอย่างช้าๆ ไม่แน่ใจว่าฮันบินจะหลับไปหรือยัง แต่ถึงยังไงก็ดีแล้วที่น้องมันปล่อยให้มองนานขนาดนี้

     

                ปากบางๆนั่นจูบได้ไหมนะ

     

    จบความคิดใบหน้าคมก็โน้มลงไปใกล้กว่าเดิม จัดการประกบปากตัวเองลงบนกลีบปากสีสดบางเบา กดค้างไว้อย่างนั้น ไม่ได้มีการล่วงล้ำใดๆ คิมจีวอนไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงได้ดึงดูดนัก เขาอยากจะทำให้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่อยากเอาเปรียบและไม่อยากดูเลวในสายตาอีกฝ่าย เพราะงั้นแค่การประกบปากมันก็คงดีมากๆแล้วสำหรับคนที่ชอบน้องมากๆอย่างพี่

     

    ฮันบินลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆและพบว่าใบหน้าของคิมบับห่างออกไปไม่มาก ไม่สิ ไม่มีระยะห่างระหว่างใบหน้าพวกเขาเลยด้วยซ้ำ สองสายตาประสบกันอย่างห้ามไม่ได้ จีวอนไม่ได้ผละปากออกถึงแม้จะรู้ว่าอีกคนลืมตาขึ้นมา

     

    ฮันบินกระพริบตาปริบๆด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย บอกตรงๆว่าตั้งแต่คุยกับพี่มิโนมาเป็นอาทิตย์ รายนั้นยังไม่ได้แตะต้องตัวเขาเลยนะ แม้กระทั่งจับมือพี่มิโนยังไม่เคยทำ แต่คิมบับนี่อะไร เพิ่งบอกชอบไปไม่ถึงชั่วโมงนี่มาจุ้บปากกันซะแล้ว

     

    ยอมรับว่าเมื่อกี้ฮันบินก็ไม่ได้หลับหรอก คนอะไรจะหลับเร็วขนาดนั้น รู้สึกด้วยนะที่อีกคนขยับหน้าลงมาใกล้ๆแต่ก็ไม่ได้ลืมตาแค่อยากรู้ว่าพี่มันจะทำอะไรต่อ และสุดท้ายก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มหยุ่นที่ทาบทับลงมานี่แหละ

     

    ยอมรับอีกทีว่าปั่นป่วน ฮันบินปั่นป่วนไปหมด จะว่าอึ้งก็ไม่ใช่ แต่มันไม่รู้ว่าต้องทำยังไงมากกว่า อยากจะผลักคนฉวยโอกาสนี่ออกให้ห่างนะ แต่แขนกลับไม่ทำงานไปซะเฉยๆ

     

     

    ในที่สุดคิมจีวอนก็ยอมละปากออกมา เขาตั้งตัวนั่งตรงแล้วเกาท้ายทอยอย่างนึกประหม่า กลัวน้องจะโกรธก็กลัว แต่เมื่อกี้ก็โดนแรงดึงดูดจากน้องดึงเข้าไปจนแทบไม่อยากจะผละตัวเองออก คือเมื่อกี้เกือบไซร้คอไปแล้วจริงๆ -.-

     

    ฮันบินมองอีกคนด้วยสายตายากที่จะคาดเดา ซึ่งนั่นทำให้คิมจีวอนเสียวสันหลังวูบวาบ

     

    “ขอโทษ” ปากหนาเอื้อนเอ่ยถ้อยคำที่คิดว่าคงดีที่สุดในตอนนี้

     

    ขอโทษทำไม มันไม่ผิดหรอก แต่ผมก็ไม่ได้ชอบให้ใครมาทำแบบนี้” พูดออกมานั่นคือความคิดทั้งหมด เขาไม่ได้โกรธ แต่ก็อย่างที่บอกว่าไม่ชอบ คิดว่าเป็นใครกันล่ะ ไม่ได้สนิทด้วยสักหน่อย อยากจูบก็แค่จูบงั้นเหรอ? ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ

     

    “อย่าคิดว่าเป็นคนฉวยโอกาสเลยนะ คือถ้าไม่ชอบพี่จะไม่ทำแน่ๆ”

     

    “อย่าเอาคำว่าชอบมาเป็นข้ออ้างดิ งี้ถ้าพี่จับผมปล้ำแล้วสุดท้ายพี่มาบอกว่าชอบผม ผมก็ไม่ควรโกรธหรอ?” ไม่รู้ว่าคำพูดพวกนี้ผุดขึ้นมาในหัวตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีฮันบินก็พูดมันออกมาแล้ว มันไม่ใช่การตัดพ้อ แต่น้ำเสียงที่พูดออกมากับใกล้เคียงซะจนคนฟังใจเสีย

     

    “ฮันบิน

     

    “ช่างเถอะ ผมไม่ได้โกรธ แต่อย่าทำอีก เรายังไม่ได้เป็นแฟนกัน” เสียงเล็กบอกออกไปจริงจัง ใครจะว่าเขาหัวโบราณก็ช่าง ถึงจะคุยกับคนนั้นคนนี้มากมายแต่เขาเองก็ค่อนข้างจะหวงตัว ยิ่งกับคนแปลกหน้าที่เพิ่งจะมาบอกว่าชอบเขาแบบคิมบับนี่สมควรต้องหวงป่ะ

     

                แล้วรู้อะไรไหม นั่นมันจูบแรกของเขาเลยนะ

     

                เด็กอย่างฮันบินวันๆจะทำอะไรนอกจากเรียน กลับบ้านมาก็ดูการ์ตูน ไม่เคยคบกับใครเป็นจริงเป็นจัง และที่สำคัญ ยังไม่เคยเสียจูบให้ใคร

     

                เป็นเด็กที่ป๊อบในโรงเรียนพอสมควร แต่ก็ไม่ประสีประสานักในเรื่องของความรัก

     

    “นายโกรธ”

     

    “ไม่โกรธ” ฮันบินส่ายหัวน้อยๆอย่างต้องการไล่ความรำคาญ เขาไม่เคยโกหกอยู่แล้ว บอกว่าไม่โกรธก็คือไม่โกรธ แต่จะโกรธเพราะอีกคนยังเถียงนี่แหละ

     

    จริงๆที่โดนจูบเมื่อกี้มันก็ไม่ได้แย่ ความรู้สึกมันเบนไปทางที่ดีด้วยซ้ำ นั่นคือสิ่งที่ฮันบินไม่เข้าใจ จะไปรู้สึกดีด้วยทำไมกับคนขี้ฉวยโอกาสพรรค์นั้น คืนนี้อาจจะแค่จูบ แล้วถ้าคืนพรุ่งนี้ยังอยู่ล่ะ จะไม่ทำมากกว่านี้หรือไง บ้าชะมัด!! มารบกวนที่อยู่ที่นอนอย่างเดียวไม่พอหรือไง ทำไมต้องมารบกวนในใจกันด้วยนะคิมบับ!!!

     

    แต่เขาเป็นผู้ชาย การที่ผู้ชายถูกเนื้อต้องตัวกันมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ยกเว้นจูบสิ จะมาจูบได้ไง แค่บอกว่าชอบก็จูบเลยหรอ ทะลึ่งละพี่มึง ไม่ได้โกรธนะแต่มันโมโหเนี่ย อยากเจอคิมฮันบินโหมดดาร์กเหรอ?

     

                บอกเลยว่า ณ จุดนั้นช็อคโก้โคนก็หยุดกูไม่อยู่ครับ!

     

     

    “ขอโทษจริงๆนะ” คิมจีวอนเองก็แทบจะกลั้นใจตาย ความรู้สึกผิดบุกเข้าโจมตีจนจุกไปหมด เพิ่งจะมาคิดได้ตอนนี้ว่าเมื่อกี้ทำบ้าอะไรลงไป

     

     

     

    เออ นั่นแหละ

     

     

     

    เพิ่งคิดได้

     

     

    “ไม่เป็นไรอ่ะนอนเหอะ” ฮันบินเลือกที่จะจบทุกการสนทนาด้วยการนอนหันหน้าหนีไปอีกทาง บอกไม่โกรธก็คือไม่โกรธ และตอนนี้ก็ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมข้างในมันบันเทิงจัง ใจนี่เต้นชีโนชีชักสนุกสนานเกินไปแล้ว

     

                จะรบกวนกันมากเกินไปแล้วนะคิมบับ!!

     

    “ฝันดีนะ”

     

    “อืม”

     

    รู้ไหมคำที่คิมจีวอนเกลียดที่สุดคือคำว่าอืมนี่แหละ มันดูเหมือนคนพูดไม่สนใจกัน ดูก็รู้ว่าน้องโกรธ ชิบหายแล้ว ต่อไปจะทำยังไงดี อย่าโกรธกันได้ไหมใจพี่จะสลายอยู่แล้วนะ

     

               

     

    แต่น้องฮันบินแม่งปากนุ่มชุ่มชื่นมากจริง

     

     

     

     

                โว๊ะ!

     

     

    คิมจีวอนจำเป็นต้องข่มตาให้หลับเพราะไม่มีอะไรให้มองแล้วนอกจากแผ่นหลังบางที่แน่นิ่งตรงหน้า อยากมองหน้าแต่ก็ไม่กล้าเรียกให้อีกคนหันมาอีกแล้ว ไม่กล้าแม้แต่จะมองด้วยซ้ำ

     

               

    เฮ้ยเดี๋ยว อย่าดราม่า มันไม่ใช่วิถีของคนสแวกซ์

     

     

                ไปนอนกันเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะรุกจีบน้องฮันบินใหม่ ถึงน้องจะโกรธพี่ก็จะง้อ แม้น้องจะเมินพี่ก็จะตื้อ พี่ต้องเอาน้องมาเป็นแฟนให้ได้ ต้องเอาให้ได้!

     

     

     

     

     

    -2-

     

     

     

     

     

    คิมบับคนขี้ตื๊อป่ะอ่ะ ตามชื่อเรื่องเลยจ้า คือนางอยากได้นางก็จะเอา 555555555

    เบื่อออออความใจง่ายของพระนาง(?)มาก นี่มีฟิคเรื่องไหนที่ตัวเอกจะใจง่ายขนาดนี้ไหม ถถถถถถถถถ

    *ความจริงว่าจะให้จบภายในสามตอนแต่มันจะจบได้ยังไงในเมื่อทั้งตอนนี่ก็ยังไม่ได้อะไรเลยนอกจากความหลง ความหวง ความมโนโอ้อวดลมๆแล้งๆของคิมบับ ถถถถถถถถถ

    แถมยังเอ่ยนามคุณซงขึ้นมาเป็นคู่แข่งของคิมบับอีก เมิงจะตันไหม ถามอิไรท์มันซิ๊ 5555555555

    **เอาเป็นว่ายังไม่รู้ว่าจะจบในกี่ตอนละกันเนอะ อ่านกันไปเรื่อยๆเนอะ เดี๋ยวจบตอนไหนก็จบตอนนั้นแหละเนอะ #อ่าวอินี่ 5555555555555555555555

    ฝากเม้นท์และติดแท็ก #ขี้เมาจะเอาบิน เราชอบอ่านมากนะงึยงึย <3


     

     

     

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×