[OS - GGAD] A letter to you - จดหมายถึงคุณ
จดหมายของเกลเลิร์ตที่ไม่เคยได้ส่ง
ผู้เข้าชมรวม
1,570
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ฉบับที่ 1
ถึง อัลบัส
ผมมาไกลเกินกว่าจะหันหลัง
แต่ระยะทางที่ทำให้เราห่างกันไปเรื่อย ๆ กลับทำให้ผมมองเห็นคุณชัดเจนยิ่งขึ้น
อย่างที่คุณก็รู้
ผมเห็นอนาคต
ในตอนที่เรายังเด็กผมเห็นภาพของผมคนเดียว
ผมคนเดียวที่ยืนอยู่บนหอคอยสูงชันนี่ ผมคนเดียวที่ยืนอยู่บนเวทีนี้
มองลงไปยังผู้คนมากมายที่ส่งเสียงเรียกร้องหาอุดมการณ์ของเรา
คุณอาจสงสัยว่าทำไมผมถึงบอกคุณไปว่าผมเห็นเราสองคนยืนอยู่ข้าง
ๆ กัน
นั่นเป็นเพราะบางครั้งพยากรณ์ก็เป็นศาสตร์ที่ไม่แม่นยำ
เรื่องนั้นคนที่รักการเรียนรู้แบบคุณก็คงจะรู้อยู่แล้ว
ผมจึงเลือกหลอกคุณไปว่าผมเห็นเราสองคนยืนเคียงข้างกัน
แต่นั่นไม่ได้เกิดจากการตั้งใจที่จะโกหก
มันเกิดจากความปรารถนาของผมที่อยากให้เป็นแบบนั้นต่างหาก
ในขณะที่ผมหลอกคุณในวันนั้น
ผมก็หลอกตัวเองด้วย
ในบรรดาเรื่องโกหกมากมายหลายอย่างที่ผมหลอกคุณ
ในบรรดาเรื่องน่าผิดหวังมากมายหลายอย่างที่ผมปิดบังคุณ
เชื่อเถอะว่าอย่างน้อยตอนที่ผมบอกว่าผมอยากเห็นเราอยู่ข้าง
ๆ กันในวันที่เราทั้งคู่บรรลุเป้าหมายที่เราวาดฝันกันไว้มันไม่ใช่เรื่องโกหกเลย
แม้ตอนนั้นผมจะโง่เขลา
และแม้ว่าผมจะพยายามบอกตัวเองว่าผมไม่ได้รักคุณ
อัลบัส
ผมรับรู้ความรู้สึกที่คุณมีให้ผมมาตลอด แต่ผมกลับปิดกั้นตัวเองไว้
และบอกตัวเองว่าพฤติกรรมที่ผมตอบโต้ต่อความรักที่คุณมอบให้นั้นเป็นเพียงแผนการหลอกล่อคุณเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากความรักของคุณ
แต่เปล่าเลย
ผมรักคุณจริง ๆ และผมเพิ่งมายอมรับได้ในวันนี้
หากผมไม่มีเยื่อใยใด
ๆ กับคุณ เพราะอะไรคุณถึงยังวนเวียนอยู่ในความคิดของผม
หากผมไม่ได้รักคุณ
เพราะอะไร ผมถึงยังเฝ้าอธิษฐานอยู่ทุกค่ำคืนให้ผมตื่นมาเจอคุณอยู่ตรงหน้า
ผมในตอนนี้ไม่เหมือนผมในวัยเด็ก
ผมในตอนนี้สุขุมและเยือกเย็นกว่าเมื่อก่อน
แต่มีเพียงกองไฟเล็ก
ๆ เท่านั้นที่นับวันก็ยิ่งจะเป็นเปลวไฟโหมกระหน่ำให้ผมร้อนรุ่ม
คุณ
ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะทำให้ผมไขว้เขวได้เสมอ
แม้เราจะไม่ได้พบเจอกันมาหลายสิบปี
ผมเฝ้าแต่คิดว่าคุณในตอนนี้จะเป็นอย่างไร
คุณในตอนนี้
จะยังมีรอยยิ้มสดใสแบบที่ผมเคยเห็นหรือเปล่า
คุณในตอนนี้
จะยังจำความฝันในวัยเด็กที่เราเคยร่วมแบ่งปันกันได้ไหม
คุณในตอนนี้
จะยังให้อภัยผมหรือไม่
แม้ว่าสิ่งที่ผมทำลงไปก็ออกจะชัดเจนดีอยู่แล้วว่ามันเกินกว่าที่คุณจะให้อภัยผมได้
ผมคิดถึงคุณ
แต่ผมมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับ
และมันทรมานเหลือเกินในช่วงเวลาที่ภาพของคุณกลับเป็นสิ่งที่ชัดเจนที่สุดแม้ว่าผมจะเดินมาไกลสักแค่ไหน
จาก
คนที่ทรยศต่อความรักของคุณ
______________________________________________________________________
ฉบับที่ 2
ถึง อัลบัส
ผมนับวันรอให้คุณเริ่มเคลื่อนไหว
และดีใจที่คุณทำแบบนั้น
คุณที่เฉยชากับผมกลับเป็นสิ่งที่ผมกลัวยิ่งกว่าคุณที่เป็นศัตรูกับผม
อัลบัส
คุณโชคดีเหลือเกินที่หลุดพ้นจากบ่วงอุดมการณ์ที่เราวาดฝันกันไว้ได้
แต่ตัวผมกลับถูกมันรัดตรึงไว้จนขยับไปไหนไม่ได้
ผมเคยคิดที่จะปกครองโลก
ควบคุมผู้คนที่ด้อยค่ากว่าตัวผม
แต่ตอนนี้อุดมการณ์ของผมกลับเหนี่ยวรั้งตัวผมเอง
ผมอยากจะถอยหลังกลับ
อยากกลับไปเริ่มใหม่กับคุณ
ผมอยากแก้ไขสิ่งที่เคยทำพลาดไป
และยังรักษาคุณไว้ในชีวิตผมได้
ผมอยากจะย้อนเวลากลับไปหาช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน
ใช้เวลากับตัวผมที่แสนงี่เง่าในตอนนั้น
แล้วบอกกับตัวเองในวัยเด็กว่าชีวิตที่ผมเลือกนั้นมันช่างเป็นเรื่องผิดพลาดจนเกินเยียวยา
และบอกว่าคุณต่างหากคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม
แต่จะทำอย่างไรได้
ผมคงไม่มีโอกาสได้ใช้เวลากับตัวเองเพียงลำพัง เพราะเท่าที่จำได้
ผมกับคุณแทบไม่เคยแยกจากกันเลยในช่วงเวลานั้น
สิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขแค่เพียงคิดถึงอย่างอำนาจ
กลับไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผมยิ้มได้อีกต่อไป
และสิ่งเดียวที่ทำให้ผมยังยิ้มได้แม้เพียงนึกถึงก็คือเรื่องราวของเรา
คุณเคยบอกว่าผมคือคนที่เข้าใจคุณที่สุด
และผมก็ตอบคุณไปว่าคุณก็เป็นคนที่เข้าใจผมที่สุด
และน่าขำที่แม้แต่ในสถานการณ์แบบนี้
ผมก็ยังเห็นด้วยกับคำพูดนั้น
ผมกลายเป็นความคาดหวังของประชาชนให้ปฏิวัติโลก
ส่วนคุณกลายเป็นความคาดหวังของประชาชนให้หยุดยั้งผม
การเป็นความคาดหวังไม่ใช่เรื่องดีเลย
เพราะนั่นแปลว่าคุณไม่สามารถคิดอะไรเพื่อตัวคุณเองเพียงคนเดียวได้อีกต่อไปแล้ว
คุณเองก็คงรู้สึกเหมือนกัน
ผมไม่อยากให้ถึงวันที่เราต้องปะทะกัน
แต่ไม่ช้าวันนั้นก็คงมาถึง และผมก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความคาดหวังของผู้คนกำลังดึงผมให้จมดิ่งลงไปในความมืดมิดช้า
ๆ และไม่มีทางไหนเลยที่ผมจะปีนขึ้นมาได้
และมันก็คงไม่ต่างกันกับความคาดหวังที่ผู้คนมีต่อคุณเลย
อัลบัส
คุณจะยังรู้สึกอะไรไหมหากวันหนึ่งเราต้องเผชิญหน้ากัน
คุณจะยกไม้กายสิทธิ์ของคุณชี้มาที่ผมไหม
ระหว่างความถูกต้องต่อศรัทธาที่ประชาชนมอบให้
กับความต้องการเบื้องลึกในจิตใจ เราควรจะเลือกอะไร
ผมอยากให้คุณนั่งอยู่ตรงนี้และคอยชี้ทางให้กับผมเหมือนที่คุณเคยทำ
เพราะตอนนี้ผมมองไม่เห็นทางออกให้กับอะไรเลย
และมันก็งี่เง่าดีที่ผมคิดแบบนั้น
เพราะหากคุณนั่งอยู่ตรงนี้จริง ๆ ผมคงไม่ต้องคอยกังวลกับเรื่องนี้เลย
ยังคิดถึงคุณเหมือนเดิม
และมากขึ้นทุกที
จาก ศัตรูของคุณ
________________________________________________________________________
ฉบับที่ 3
ถึงอัลบัส
หากคุณยังพอจำได้ ผมเคยบอกคุณไปว่าผมไม่ชอบการพ่ายแพ้
และคุณที่ใจดีและอ่อนหวานก็มักจะยอมแพ้ให้ผมทุกครั้งที่เราซ้อมดวลกัน
ผมยังคงจำท่าโค้งที่นอบน้อม
กับเส้นผมสีน้ำตาลแดงที่พริ้วไหวรับแดดอ่อน ๆ ในช่วงเย็นย่ำของฤดูร้อนนั้นได้ดี
คุณมักจะยิ้มให้ผมเมื่อผมเริ่มหงุดหงิดเมื่อไหร่ก็ตามที่สิ่งต่าง
ๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่ผมคิด
และบอกผมด้วยน้ำเสียงปลอบประโลมแต่ก็ออกจะเหนื่อยใจเล็กน้อยว่า
ใจเย็น ๆ สิเกลเลิร์ต หรือ ถ้านายไม่ใช่คนใจร้อนป่านนี้ก็คงสำเร็จไปแล้วล่ะนะ หรือ
บางทีการยอมแพ้ก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรนะ
ผมมักจะถามคุณกลับว่า
การยอมแพ้มันน่าสนุกตรงไหน
ผมไม่เคยมองเห็นเหตุผลที่จะต้องยอมแพ้
แต่คุณคือเหตุผลนั้น
เราต่างก็ยื้อเวลาที่จะได้มาเจอกัน
แม้ผมจะอยากเจอคุณใจแทบขาด
นั่นอาจเป็นครั้งแรกที่ผมรู้จักกับความ
"ใจเย็น" อย่างแท้จริง
ขอแค่ได้เจอคุณสักครั้ง
ต่อให้ต้องสู้กันจริง ๆ ก็ไม่เป็นไร
แต่ผมก็ใจเย็น
รอเวลาที่คุณพร้อม
และเมื่อเรามาเจอกันจริง
ๆ
นั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมรู้จักการยอมแพ้
ผมที่เสกคาถาพิฆาตมานับร้อยนับพันครั้ง
กลับทำได้แค่พยายามเสกคาถาปลดอาวุธ
หรือคาถาพื้นฐานที่ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรเลยใส่คุณ
ผู้คนจะเขียนว่าการดวลเวทย์ของเราในครั้งนี้ยิ่งใหญ่
แม้ว่าเราต่างก็รู้กันดีว่าต่างคนก็ต่างพยายามทำร้ายอีกฝ่ายให้น้อยที่สุด
ผมไม่กล้าแม้จะสบตาคุณ
แม้ว่าผมจะอยากมองมันมากแค่ไหน
ผมเพียงต้องการให้คนที่ศรัทธาในตัวผมได้เข้าใจแบบที่เขาควรเข้าใจ
ว่าผมและคุณได้สู้กันอย่างเต็มที่แล้ว
เพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่
และเพื่อเราทั้งสองคน
แปลกดีที่คุณเป็นคนเสนอคำว่า
เพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่
แต่ผมกลับเป็นคนที่แบกมันไว้
น้ำหนักของคำสั้น
ๆ คำนี้ที่กดลงบนบ่าผมทำให้ผมต้องเสียคุณไป
ถ้าผมเพียงแต่คิดได้ว่า
ในกลุ่มคนส่วนใหญ่นั้นควรมีคุณกับผมด้วย
เราก็คงไม่ต้องมาจบลงแบบนี้
หลังจาก 3
ชั่วโมงของการดวลเวทย์ที่น่าเบื่อ ผมก็คิดว่าควรถึงเวลาแล้ว
เสียงของคุณในวันนั้นดังขึ้นในหัว
บางทีการยอมแพ้ก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร
และผมคิดว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
ผมยืนนิ่งให้คุณปลดอาวุธของผม
ผมที่เกลียดการพ่ายแพ้
ยืนเผชิญหน้ากับมันโดยไม่คิดที่จะขัดขืน
แต่โปรดรู้ไว้ว่าเพราะเป็นคุณ
เพราะเป็นคุณที่ชี้ไม้กายสิทธิ์มาตรงหน้าผม
เพราะผมรู้ว่าคุณจะไม่มีวันทำร้ายผม
อย่างที่ผมไม่มีวันทำร้ายคุณ
อัลบัส
สิ่งที่ผมทำกับคุณไว้มันเกินจะแก้ไข
แต่ผมสำนึกผิดตั้งแต่วินาทีที่ผมเดินไปถึงจุดสูงสุดคนเดียว
ไม่มีคุณก็ไร้ความหมาย
ความฝันของเราเกิดขึ้นได้จากคนสองคน และมันมีไว้เพื่อคนสองคน
ผมคนเดียวแบกรับไม่ไหว
ผมรู้ว่าคุณยังคงเจ็บปวดกับเรื่องที่ผ่านมา
แต่ขอให้เชื่อว่าตัวผมเองก็ไม่ต่างกัน
ตอนนี้ผมกลายเป็นเพียงนักโทษที่ถูกคุมขังในคุกที่ตัวเองสร้างขึ้น
เป็นความผิดบาปที่ถูกกักขังไว้ด้วยโซ่ตรวนที่ตัวเองก่อ
และสุดท้ายอัลบัสก็ยังคงเป็นอัลบัสที่ผมรู้จัก
อัลบัสที่อ่อนโยนและพร้อมจะให้อภัยคนที่ทำผิดพลาดอย่างผมเสมอ
คุณได้ให้โอกาสผมครั้งแรกเมื่อตอนที่ผมเพิ่งโดนไล่ออกจากโรงเรียน
ในตอนนั้นมีเพียงคุณที่เชื่อใจว่าผมจะสำนึกผิดได้
แต่ผมก็ทำให้คุณผิดหวัง
หนที่สอง
คุณปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาเนิ่นนาน
ยอมรับเสียงก่นด่า
แล้วมองดูผมฆ่าคนอยู่เฉย ๆ
คุณบอกใครต่อใครว่าเป็นเพราะคุณกลัวอดีตจะตามมาหลอกหลอน
แต่ผมรู้ว่าลึก ๆ
แล้วคุณยังคงให้โอกาสผม และคาดหวังให้ผมกลับตัวกลับใจได้
แล้วผมก็ทำให้คุณผิดหวังอีกครั้ง
แต่แล้วคุณก็ยังให้โอกาสผมเป็นหนที่สาม
และหนสุดท้าย
คุณเลือกที่จะไม่ฆ่าผม
แม้ว่าผมจะทำเรื่องเลวร้ายมามากแค่ไหน
อย่างไรแล้วผมก็รู้ว่าครั้งที่สามนั้นเกินเยียวยา
และผมรู้ว่าความเชื่อใจที่คุณเคยมีให้ผมถูกทำลายลงไปหมดแล้วด้วยการกระทำของผมเอง
และเหมาะสมดีแล้วที่คุณเลือกที่จะกักขังผมไว้ที่นี้
เพื่อที่ผมจะได้ไม่ทำร้ายจิตใจคุณเป็นหนที่สี่
อัลบัส
ผมกลายเป็นแค่อดีตที่มืดมน
ส่วนคุณยังคงเป็นอนาคตที่สดใส
และผมดีใจที่มันจบลงแบบนี้
สุดท้ายผมคงไม่มีอะไรจะบอก
นอกจากคำขอบคุณ
และคำที่ผมควรจะรู้ตัว
และคุณควรจะได้ยินมาตั้งนานแล้ว
คำลงท้ายจดหมายเกร่อ
ๆ ที่ถ้าคุณได้อ่านคงได้แต่ทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วบอกว่า
เกลเลิร์ตนี่ไม่มีความสามารถในการเขียนเลยนะ
ผมรักคุณ
จาก เพื่อนเก่าของคุณ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ gymnopedieno1 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ gymnopedieno1
ความคิดเห็น