ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อภินิหาร...ฟาโรห์แห่งรัก

    ลำดับตอนที่ #7 : การตอบรับ

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 48


    ร่างหนาที่ล้มลงไปนั้น  ทำเอาอินทิมิสร์ที่นอนอยู่บนที่บรรทมตกใจยิ่ง  ครั้นนางจะตะโกนสั่งทหารที่อยู่ข้างนอกก็คงไม่ได้  เพราะบาดแผลของนางยังไม่หายดี  ร่างบางเดินโซซัดโซเซไปหาร่างหนานั้น อินทิมสร์ค่อยๆเดินเข้าไปหาโครโซเรียสช้าๆเพราะคงเดินไม่ได้เร็วกว่านี้อีกแล้ว  นางค่อยๆประคองใบหน้าคมนั้นไว้บนตัก



        “ท่านๆ”อินทิมิสร์เขย่าร่างนั้นเท่าที่กำลังของเธอในตอนนี้จะทำได้  ร่างหนาไม่ขยับเธอจึงค่อยๆคลานไปยังประตูที่อยู่ใกล้ๆนั้น ผลักเบาๆ  ลาเร่ที่ยืนรออยู่หน้าห้องนั้นเมื่อเห็นเธอก็รีบถลาเข้ามาหา

      

        “ท่านอินทิมิสร์ เป็นอะไรเพคะ”ลาเร่เข้ามาประคองร่างบางนั้นขึ้นด้วยความเป็นห่วง อินทิมิสร์ชี้นิ้วไปที่ห้องบรรทม  พลางว่า



        “เขา…นายหัวของท่านล้ม”อันทิมิสร์พยายามพูด  แต่ความเจ็บแปลบก็เกิดขึ้นที่คออย่างรุนแรง แต่ไม่ได้เธอต้องบอกลาเร่ จนเธอสามารถพูดได้จบ

      

        “นายหัวหรือค่ะ งั้นก็…ทหาร!!!ทหาร!!!เข้าไปดูท่านโครโซเรียสเร็ว”ลาเร่ตะโกนไปยังทหารกลุ่มหนึ่งที่ยืนเกาะกลุ่มกันอยู่ ทำให้ทหารพวกนั้นเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว  สักพักทหารสองคนก็ยกร่างหนาใหญ่ไว้บนบ่าออกมาด้วยความยากลำบาก ลาเร่เห็นก็ตกใจ



        “พระช่วย!!!  ท่านโครโซเรียส…ท่านอันทิมิสร์ทรงอยู่ที่นี่ก่อนน่ะเพค่ะ”ลาเร่กระวีกระวาดเดินไปหาทหารพลางช่วยแบกร่างนั้นตรงไปยังห้องข้างๆที่ติดกัน  สายตาของอันทิมสร์มองตามร่างนั้นจนหายลับไปในห้อง  สักพักใหญ่ลาเร่ก็ออกมา เธอเดินตรงเข้ามาหาอันทิมิสร์ที่นั่งอยู่หน้าห้อง  ริมฝีปากแห้งเผยอขึ้นราวกับจะเอ่ยอะไรออกมา  ลาเร่ยิ้มให้ก่อนจะพูดว่า

        “ท่านโครโซเรียสทรงไม่เป็นอะไรมากเพคะ  ท่านแค่เพลียจัดเท่านั้นเอง”ลาเร่ยิ้มเมื่อเห็นคิ้วที่ผูกเป็นปมของอันทิมิสร์พร้อมใบหน้าที่กังวลคลายออก  นางเข้ามาประคองอันทิมิสร์เพื่อพาเข้าห้อง  แต่สายตาของอันทิมิสร์ก็ยังไม่วายจะมองไปยังอีกห้องที่อยู่ติดกันไม่ได้…





    ภายในห้องที่สุกสว่างไปด้วยสีทอง  ร่างใหญ่หนาบึกบึนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้บุด้วยกำมะหยีนุ่มกำลังใช้มือกุมขมับอยู่ในห้องอย่างเงียบๆ  ใบหน้าคมเคร่งเครียด เรียวฝีปากแห้งนั้นเม้มเข้าหากัน  ดวงตาช้ำเป็นสัญลักษณ์ให้เห็นถึงความอ่อนเพลีย  หน้าที่เคยเข้มไปด้วยสีน้ำตาลบัดนี้ซีดเผือดลงแทบไม่มีสี  เสียงบานประตูที่เปิดออกเบาๆเรียกให้ผู้ที่นั่งอยู่เงยหน้าขึ้นมอง…  



        “เจ้าชายโครโซเรียส”เสียงคุ้นเคยดังขึ้นในความเงียบที่น่าอึดอัดใจ  โครโซเรียสหันมามองบรรณาธิการของฮิปไทท์อย่างช้าๆ  ใบหน้าทรุดโทรมอย่างยากที่จะอธิบายได้  ใบหน้านั้นทำเอาผู้ที่เข้ามาผงะด้วยความตกใจยิ่ง

      

        “เจ้าชาย…ทรงเป็นอะไรไปพ่ะย่ะค่ะ”  เคนด์ฟิสว่าพลางเข้ามาดูพระอาการใกล้ๆ ดวงตาคล้ายเหยี่ยวมองสำรวจตรวจตาอย่างวิเคราะห์



        “เจ้าชายทรงผอมลงมากน่ะพ่ะย่ะค่ะ”เคนด์ฟิสพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงอย่างจริงใจ  ดวงตาสีเงินของโครโซเรียสมองผู้ที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มตื้น  ผมสีทองของเขาถูกเสยขึ้นด้วยมือสาก ดวงตารื้นหยาดน้ำ



        “ขอบคุณน่ะ  ที่เป็นห่วงข้า  เอาล่ะ…เจ้ามีธุระอันใดก็ว่ามาได้เลย”โครโซเรียสยกมือขึ้นป้ายน้ำตาที่ค่อยๆหยาดไหลอย่างช้า  เคนด์ฟิสเมนหน้าจากภาพที่เห็นตรงหน้า นี่หรือ  ฟาโรห์องค์ต่อไปของอียิปต์  แต่เอาเถิดเรื่องราวแบบนี้มันก็น่าช้ำอยู่ไม่น้อย



        “เอ้อ  ที่ข้าพเจ้ามาวันนี้ก็เรื่องที่ทางอียิปต์  ส่งสารมาอัญเชิญให้เจ้าชายขึ้นเป็นฟาโรห์พ่ะย่ะค่ะ”เคนด์ฟิสพูดอย่างตรงไปตรงมา  โครโซเรียสทำหน้าไม่หยี่ระใดๆทั้งสิ้น



        “ท่านเคนด์ฟิสควรว่าอย่างไรก็ให้ทำตามนั้นเถิด  แต่ถ้าโดยส่วนตัวข้าแล้ว  ข้าไม่ต้องการมันอีกต่อไป”โครโซเรียสยิ้มอย่างเยือกเย็น  ดวงตาว่างเปล่า  เคนด์ฟิสหันมามองโครโซเรียสเต็มตา



        “ทำไมท่านคิดอย่างนั้น  หรือว่าเป็นเพราะแม่หญิง…แล้วท่านโครโซเรียสไม่คิดอย่างนี้บ้างหรือพ่ะย่ะค่ะคะ  ในการที่พระองค์ไปเป็นฟาโรห์นั้นทำให้ท่านหญิงได้กลับสู่บรรยากาศเดิมๆ  และเมื่อพระองค์ได้เป็นฟาโรห์มันอาจจะทำให้ท่านหญิงยอมรับพระองค์ได้ง่ายขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”เคนด์ฟิสให้เหตุผลที่ฟังดูขึ้น  ทำให้โครโซเรียสคิดตาม



        “ท่านคิดอย่างนั้นหรือ”โครโซเรียสนิ่วหน้าถามด้วยความไม่แน่ใจ  ส่วนเคนด์ฟิสก็พยักหน้าตอบรับอย่างเต็มที่  ใบหน้าของโครดซเรียสเริ่มมีความหวังขึ้นมาเล็กน้อยก็ต้องสลดลงอีกครั้ง



        “แต่ข้าไม่แน่ใจ”โครโซเรียสยิ้มอย่างไม่สบายใจนัก  แต่ก่อนที่เคนด์ฟิสจะค้านอะไรอีก  เสียงเปิดบานประตูเบาๆก็เรียกความสนใจของทั้งสอง  ร่างบางที่ก้าวเข้ามาค่อนข้างช้านั้นแสดงถึงความอ่อนแอที่มีอยู่อย่างชัดเจน  ดวงตาเขียวมรกตกวาดสายตามายังสองร่างที่อยู่กลางห้องด้วยความสงสัย  แต่สายตาของโครโซเรียสจับจ้องอยู่ที่ผ้าพันแผลรอบคอนั้นไม่วางตา  ร่างระหงเดินเข้ามาใกล้ทั้งสองคน  ข้างหลังร่างบางนั้นปรากฏกายผู้ติดตาม ซึ่งก็คือ ลาเร่ที่เฝ้าติดตาม



        “ท่านหายแล้ว”เสียงเล็กๆที่ลอดออกมาจากคอของอันทิมิสร์ ส่งผลให้โครโซเรียสยิ้มออกมาได้อย่างยินดี  นี่เธอก็ห่วงเราเหมือนกันหรือเนี่ย  เป็นเรื่องที่น่ายินดีนักหัวใจที่แห้งผากของโครโซเรียสกลับมาชุ่มชื่นอีกครั่ง อย่างน้อย  เราก็ยังอยู่ในสายตานาง



        “ถ้าท่านไม่เป็นอะไรมาก  งั้นเราขอตัว”อันทิมิสร์ว่าพลางทำท่าหันหลังกลับ  แต่หัวใจของโครโซเรียสอยากรั้งดึงให้เธออยู่ต่อ  แต่เมื่อคิดได้ว่าเธอเองก็ต้องการ การพักผ่อนเช่นกัน เขาเลยไม่รั้งไว้  จนเมื่อได้ยินเสียงประตูจึงค่อยมองไป  เมื่ออันทิมิสร์ออกไปแล้วโครโซเรียสก็หันมามองเคนด์ฟิสแล้วว่า



        “ตกลง  ตอบทางอียิปต์ไปว่า  เราจะขึ้นเป็นฟาโรห์องค์ใหม่ให้เอง”ดวงตาสีเงินของโครโซเรียสแสดงให้เห็นว่าเขาจะเอาจริงแล้ว!!!





    เออเฮอะๆ เป็นยังไงบ้างค้า  เรื่องราวของเราตอนนี้มันเริ่มจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้วเนอะ  เอ….ถ้าอย่างนั้นจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย  พอโครโซเรียสเป็นฟาโรห์องค์ใหม่ เรื่องมันจะตาลปัตรกันขนาดไหนน้อ…..

    อีกเรื่องอ่ะค่ะ  ตอนหน้าจาเป็น”ภพของฟาโรห์ 2”ค่ะ  มาอ่านกันดูน่ะค่ะว่าอัสเวลป์จะทำยังไง!?!

    อิอิ  ไปล่ะค่ะ

    สุดท้ายนี้(เหมือนเดิมทุกที) ก็ขอขอบคุณผู้อ่าน ผู้ที่ให้คะแนน และผู้ที่เม้นให้ข้าพเจ้าทุกท่าน

    จะติจะชมยังไงบอกกานมาเลย  อนุมัติเต็มที่ค่า…..

    ตอนนี้  บ๊ายบาย…สวัสดีมีชัยค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×