ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องสั้นเศร้า

    ลำดับตอนที่ #37 : เมื่อแฟนผมให้ไปออกเดทกับหญิงอื่น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.49K
      1
      9 พ.ย. 52

    ไม่ว่าคุณจะมีแฟน หรือไม่

    คุณก็ควรไปเดท กับ หญิงคนนี้ จริงๆซึ้งจังเลย




    --------------------------------------------------------------------------------




    เมื่อแฟนผมอยากให้ไปออกเดทกับผู้หญิงอื่น' (อ่านน่ะ...ให้จบด้วย... ดีมากจริงจริง)





    หลังจากที่แต่งงานมาได้ 21 ปี
    ผมก็ค้นพบวิธีใหม่ในการทำให้ความรักสดใสมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ


    เพราะ....วันหนึ่งภรรยาผมบอกว่า
    ผมต้องออกเดทกับผู้หญิงคนหนึ่ง
    มันเป็นไอเดียของเธอล้วน ๆ จริง ๆ ! ! นะ

    ' ฉันรู้ว่าคุณรักเธอ' ภรรยาผมพูด
    'แต่ผมรักคุณนี่' ผมเถียง
    'ฉันรู้ค่ะ แต่คุณก็รักเธอคนนี้ด้วยเหมือนกัน'




    ผู้หญิงคนนั้นที่ภรรยาอยากให้ผมไปหา คือ 'แม่' ของผมเอง
    ซึ่งเธอเป็นหม้ายและใช้ชีวิตเพียงลำพังกับสัตว์เลี้ยงมา 19 ปีแล้ว


    เนื่องจากงานที่รัดตัว ทั้งเจ้านายและลูกค้าที่ผมจะต้องรับผิดชอบ
    และยังมีภรรยาและลูก ๆ ที่ต้องดูแล
    ทำให้ผมไปเยี่ยมแม่เพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้น


    ผมตอบตกลงกับภรรยา และขอบคุณที่เธอให้โอกาสเช่นนั้น
    วันที่ผมโทรไปหาแม่ เพื่อชวนท่านออกไปทานข้าวเย็นและดูหนัง
    แม่ถามผมว่า 'มีอะไรหรือ? ลูกสบายดีรึเปล่า?'


    แม่คิดว่าการที่ผมโทรมาหาอย่างกระทันหัน
    หมายความว่ า มีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขึ้น
    ผมตอบแม่ว่า 'ไม่มีอะไรคับ ก็อยากคุยกับแม่ และคงจะดีมาก
    ถ้าเราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ตามลำพังสองคนแม่ลูกบ้าง
    ทานข้าวด้วยกันสักมื้อ ดูหนังด้วยกันสักเ! เรื่อง'
    แม่นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า
    'ได้สิจ๊ะ แม่ยินดีมากเลยจ้ะ' + 'แล้วลูกมีเวลาว่างแล้วเหรอจ๊ะ หยุดงานได้เหรอ'

    ...

    เย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน ผมขับรถไปรับแม่ที่บ้าน
    ผมรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
    เมื่อผมไปถึงบ้านแม่ ผมก็สังเกตได้ว่า
    แม่เองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน
    แม่สว มเสื้อโค้ทนั่งรอผมอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว


    แม่ม้วนผมแล้วสวมชุดที่แม่ใส่ในวันฉลองครบรอบการแต่งงานครั้งสุดท้าย
    พลางยิ้มรับผมด้วยใบหน้าที่แจ่มใสราวกับทูตสวรรค์
    แม่บอกเพื่อน ๆ ว่า 'จะออกไปเที่ยวกับลูกชาย'
    แม่พูดขณะที่กำลังก้าวขึ้นรถ เพื่อน ๆ ของแม่ต่างพากันประทับใจยกใหญ่


    เราไปภัตตาคารที่ถึงแม้จะไม่หรูหรา แต่ก็ดีเยี่ยม
    บรรยากาศก็อบอุ่นสบาย ๆ มาก ๆ
    ผมวางแผนว่าต้องเป็นร้านในสไตล์ที่แม่ต้องชอบ
    แม่ควงแขนผมเดินราวกับว่าเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง


    หลังจากที่เรานั่งเรียบร้อยแล้ว
    ผมต้องเป็นฝ่ายอ่านเมนูอาหาร
    เพราะแม่บอกว่า 'ตอนนี้สายตาของแม่อ่านได้เพียงตัวหนังสือตัวใหญ่ ๆ เท่านั้น'


    เมื่อผมอ่านเมนูอาหารไปได้เพียงครึ่งหนึ่ง
    จึงหยุดเว้นจังหวะ เพื่อให้แม่ได้เลือกรายการอาหาร
    ผมเงยหน้าขึ้น มองเห็นแม่กำลังจ้องมองดูผมอยู่ด้วยรอยยิ้มระลึกถึงความหลัง


    แม่พูดเปรยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า
    'ตอนที่ลูกยังเด็ก แม่ต้องเป็นคนอ่าน เมนูให้ลูกฟังหลายรอบ'
    ผมบอกแม่ว่า 'งั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ผมจะผลัดเวรให้แม่นั่งฟังสบาย ๆ บ้างแล้ว'


    ในระหว่างมื้ออาหารนั้น
    เราคุยกันอย่างถูกคอ - ไม่ใช่เรื่องราวพิเศษอะไร -
    เพียงแต่สลับกันถามว่าชีวิตของเรา


    เราคุยกันสนุกมากจนไปดูหนังไม่ทัน

    เมื่อผมไปส่งแม่ที่บ้าน แม่พูดว่า 'แล้วแม่จะออกไปเที่ยวกับลูกอีกนะ' -
    'แต่คราวนี้ลูกต้องยอมให้แม่เป็นเจ้าภาพนะจ๊ะ'
    'แน่นอนครับ' ผมตอบตกลง


    'ดินเน่อร์เป็นยังไงบ้าง?' ภรรยาถาม เมื่อผมกลับถึงบ้าน
    'วิเศษมาก ๆ ดีเยี่ยมกว่าที่ผมคิดไว้มากเลย' ผมตอบ

    อีกไม่กี่วันต่อมา แม่ผมเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน
    มันเกิดขึ้นกระทันหันมากจนผมช่วยอะไรไม่ทันเลย

    หลายวันต่อมา
    ผมได้รับจดหมายพร้อมใบเสร็จจากภัตตาคารที่ผมกับแม่เคยไป
    มีโน๊ตเล็กๆแนบมาด้วยว่า...

    'แม่จ่ายค่าอาหารชุดนี้เรียบร้อยแล้ว แม่รู้อยู่แล้วว่าแม่คงไปอีกครั้งไม่ได้ -
    แต่... แม่ก็จ่ายสำหรับสองคน คือ สำหรับลูกกับภรรยา - ลูกคงเดาไม่ถูกหรอกว่า
    วันนั้นมีความหมายต่อแม่มากแค่ไหน, รักลูกมากจ๊ะ'


    ณ วินาทีนั้น ผมได้เข้าใจถึงความสำคัญของการกล่าวคำว่า ''รัก'
    ต่อคนที่เรารัก ในช่วงเวลาที่เค้าต้องการมัน
    ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าครอบครัวของคุณ
    จงให้เวลากับพวกเค้าในเวลาที่พวกเค้าต้องการคุณ
    เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่อาจผลัดวันประกันพรุ่งได้


    -มีบางคนบอกว่า หลังจากที่คลอดลูกแล้วต้องใช้เวลาพักฟื้นราว 6 สัปดาห์ แม่จึงจะคืนสภาพเดิม
    คนนั้นไม่รู้ว่าหลังจากที่คุณได้เป็นแม่คนแล้ว ไม่มีคำว่าคนเดิมอีกต่อไป

    -บางคนบอกว่า คนเราเรียนรู้การเป็นแม่ได้เองตามสัญชาติญาณ
    คนนั้นไม่เคยพาลูกสามขวบไปซูเปอร์มาร์เกต

    -บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นน่าเบื่อ
    คนนั้นไม่เคยนั่งรถที่ลูกวัยรุ่นขับ หลังจากที่ได้ใบขับขี่มาหมาด ๆ

    -บางคนบอกว่า ถ้าคุณเป็นคนดี ลูกออกมาก็จะดีเอง
    คนนั้นนึกว่าเด็กคลอดออกมาพร้อมกับคู่มือการใช้และใบรับประกัน

    -บาง คนบอกว่า แม่ที่ดีไม่ควรขึ้นเสียงกับลูก
    คนนั้นไม่เคยเปิดประตูหลังบ้านออกมา ทันได้เห็นลูกหวดลูกบอลเข้าใส่หน้าต่างครัวของเพื่อนบ้านพอดิบพอดี


    -บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นไม่ต้องมีการศึกษาก็ได้
    คนนั้นไม่เคยช่วยลูกที่กำลังเรียน ป. 4 ทำการบ้านเลข! !

    -บางคนบอกว่า แม่รักลูกคนที่ห้าไม่เท่าลูกคนแรก
    คนนั้นไม่เคยมีลูกห้าคน



    -บางคนบอกว่า ช่วงที่ยากที่สุดของการเป็นแม่ คือตอนคลอดและตอนเลี้ยง
    คนนั้นไม่เคยยืนดูลูกขึ้นรถเมลไปโรงเรียนอนุบาลวันแรก
    ไม่เคยส่งลูกเข้าห้องหอในคืนแต่งงาน

    -บางคนบอกว่า งานของแม่นั้นหมู ๆ ปิดตาสองข้าง หรือมัดมือไว้ข้างหนึ่งก็ยังไหว
    คนนั้นไม่เคยสอนการออกเดินขายขนมให้กับเหล่ายุวนารี
    ที่กระจุ๊กกระจิ๊กคิกคักกันอยู่ตลอดเวลา


    -บางคนบอกว่า แม่เลิกกังวลได้แล้ว หลังจากที่ลูกแต่งงานออกเรือนไป
    คนนั้นไม่รู้ว่าการแต่งงานคือการนำลูกชายหรือลูกสาวคนใหม่เข้ามาอยู่ในสายใยใจของแม่


    -บางคนบอกว่างานของแม่ สิ้นสุดลงเมื่อลูกคนสุดท้ายออกจากบ้านไป
    คนนั้นไม่เคยมีหลานยาย หรือหลานย่า


    -บางคนบอกว่า แม่รู้ดีอยู่แล้วว่าคุณรักท่าน เพราะงั้น ไม่ต้องบอกท่านก็ได้
    คนนั้นไม่เคยเป็นแม่คน
    ...................................................................


    credit : E-mail
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×