คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ทิวลิปส์ ท้องฟ้า และ แสงดาว (ฟ้ากับแบ้งค์)2
ก็ฟ้าเป็นคนสวยนี่ครับก็ต้องมีคนรุมชอบเธอเป็นธรรมดา
แต่ทุกครั้งที่มีคนบอกรักเธอ
เธอก็มักจะปฏิเสธทุกครั้งไป
ผมปล่อยให้มันด่าฟ้าต่อไปโดยที่ผมยังไม่ผลีผลามเข้าไป
ผมยืนดูอย่างไม่พูดไม่จากับพวกเพื่อนผม
แล้วการเถียงกันมันก็เริ่มที่จะรุนแรงขึ้น
รุ่นพี่คนหนึ่งมันกระชากกระเป๋าฟ้าแล้วก็ผลักเธอล้มลงกับพื้น
ผมฟิตร่างกายเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็เรียกนายที่มันผลักฟ้า พอมันหันมา
ไม้เบสบอลในมือผมก็ถูกขว้างออกไปอย่างเต็มแรงไม้หมุน360องศา ประมาณ 4 รอบ
แล้วก็ถึงปากมันพอดีไม้กระแทกปากมัน มันกระเด็นเลยทีเดียว มันลุกขึ้นมา
แล้วใช้มือจับดูปริมาณเลือดของตัวเองเลือดมันไหลนองไปหมด มันเดินตรงมาที่ผม
ผมรู้ดีว่าการชกกันในแบบนี้ ผู้ที่ลงมือก่อนจะได้เปรียบ
ผมไม่รอช้ายิงหมัดขวาอย่างไม่ยั้ง คราวนี้มันสลบยาวเลย
เพื่อนมันที่เหลือก็ตรงเข้ามากะจะอัดผมเต็มที่ เพื่อนผมที่มาด้วยกัน
จึงวิ่งเข้าตะลุมบอลกัน เก้าอี้ โต๊ะบริเวณนั้นถูกนำมาใช้เป็นอาวุธ
ข้าวของในห้องกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ผลสุดท้ายรุ่นพี่ทั้ง 5
ก็สลบตินคาพวกผม สภาพผมแต่ละคนในตอนนั้นก็สะบักสะบอมเอาการเหมือนกัน
จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ผมเก็บกระเป๋าฟ้าที่วางอยู่กับพื้นยื่นให้เธอ
“ฟ้า กลับบ้านกันเถอะ”
ผมกับฟ้าก็เดินกลับบ้านโดยที่เธอไม่พูดจาสักคำเอาแต่มองหน้าผม
แต่ถึงผมจะสะบักสะบอมแค่ไหนแต่ผมก็ยังจะไปส่งฟ้าเหมือนเดิม
เธอใช้ผ้าเช็ดหน้าของเธอเช็ดเลือดให้ผม จนผ้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเลย
เรายืนรอรถอยู่นานมาก เวลาก็เริ่มจะมืดแล้ว จนรถมา ผมเดินจะไปขึ้น
แต่ฟ้าเธอดึงผมไว้ “แบ๊งค์อย่าพึ่งกลับไปดูดาวเป็นเพื่อนฟ้าหน่อย”
ผมก็นึกตลกเหมือนกันทำไมเธอถึงอยากจะดูดาวนะ เธอพาผมขึ้นรถคันใหม่ไปกับเธอ
จนท้องฟ้ามืด ก็มาถึงที่ดูดาวที่เธอว่า “ที่นี่เหรอฟ้า
ที่ว่าจะพาแบ๊งค์มาดูดาว” เธอพยักหน้า “ใช่! ที่นี่หละ ฟ้าไม่เคยชวนใครมาเลยนะ
แบ๊งค์เป็นผู้ชายคนแรกที่ฟ้าพามาเลยหละ” ผมมองที่ ที่เธอว่าดูดาวที่นี่
มันสวย แล้วผมก็หัวเราะ ก็ที่นี่มันสะพานแขวนชัดชัด มันจะสวยกว่าที่อื่นตรงไหน
แต่ผมก็ไม่พูดอะไรปล่อยให้เธอเดินจูงมือผมแล้วก็เดินเพื่อจะขึ้ นไปบนสะพานที่ว่า
เธอแวะซื้อไอศกรีมรสสตอเบอรี่ 2 อัน แล้วก็เดินต่อ
ข้างบนนี้มันเป็นสะพานแขวนที่รถวิ่งได้ 4 เลน แต่ไม่ค่อยจะมีรถวิ่งเท่าไหร่
เพราะเส้นทางนี้มันทำให้เสียเวลามาก
คนจึงมักจะใช้เส้นทางอื่นจะมีก็แต่รถที่จะวิ่งไปฝั่งธนบุรี
สะพานนี้มันจึงดูเงียบเชียบ ขอบสะพาน
เป็นทางเท้าสำหรับคนเดินที่ทั้งสะพานดูเหมือนจะมีแค่ผม กับฟ้าเท่านั้นที่กำลังเดิน อยู่
เธอพาผมเดินไปจนถึงกลางสะพานแล้วเธอก็หยุดเดิน
เธอมองลงไปตามชุมชนที่มีแสงไฟระยิบระยับ
และก็มองตามถนนที่เรียบฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาไปจนสุดลูกหูลูกตา
เธอมองขึ้นไปข้างบนเพื่อจะดูดาวบนท้องฟ้า อย่างที่เธอพูดจริงครับ
บนนี้ทุกอย่างมันดูสวยไปหมด เธอมองดาวพร้อมกับกินไอศกรีม
ผมแอบมองใบหน้าเธอตาไม่กระพริบเลย เธอทำไมถึงน่ารักอย่างนี้นะ
ไม่ว่าจะเรื่องหน้าตา หรือจะนิสัย เธอก็ดูดีไปหมด
เธอยังสวยเหมือนที่ผมเห็นครั้งแรกไม่มีผิด แต่ตอนนี้เธอดูจะสวยกว่าเดิม
เธอเริ่มที่จะเป็นสาวเต็มตัวแล้ว
แววตาที่กลมโตและเป็นประกายของเธอมันช่างสวยจับใจจริงจริง เธอหันมายิ้มให้ผม
“แบ๊งค์ ที่นี่สวยมั๊ย..ฟ้าชอบมาบ่อยๆ” ผมพยักหน้า “อื้ม ก็
สวยดีหนิ
แล้วปกติฟ้ามากับใครหละ”
“ก็มาคนเดียวหนะสิ
ถามได้ จะให้ฟ้ามากับใครหละจ๊ะ”
ผมมองตาเธอแล้วพูด “ทำไมฟ้าต้องมาคนเดียวด้วยหละ
. แค่ฟ้าออกปากชวน
ผู้ชายทั้งโรงเรียนก็พามากันเป็นแถบแล้ว มีคนเขาชอบฟ้าเยอะจะตาย” เธอยิ้ม
“ผู้ชายที่ว่าเนี่ย
รวมถึงแบ๊งค์ด้วยหรือเปล่าหละ”
ผมไม่ตอบเธอแล้วเงียบไป เธอใช้มือมาจับแผลที่อยู่แก้มผม “เจ็บมั๊ยแผลนี่”
ผมส่ายหน้า “ก็ ไม่เท่าไหร่” เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเดิมออกมาเช็ดให้ผมอีก
“แบ๊งค์เนี่ย ยอมเจ็บเพื่อฟ้าเสมอเลยนะ แบ๊งค์เหมือนเป็นฮีโร่ ประจำตัวฟ้าเลย
ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ช่วยฟ้าเสมอเลย ว่าแต่ว่าทำไมน๊า
. แบ๊งค์ถึงชอบช่วยฟ้า
เอ๊ะ
.เอ๊ะ
.คิดอะไรอยู่น๊า
.” เธอพูดแบบอมยิ้มด้วยท่าทางน่ารัก
ผมรีบตอบไปเพราะความเขิน “ก็ ก็ ฟ้าเป็นเพื่อนแบ๊งค์ไง
เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนสิจริงมั๊ย” ผมพยายามหลบสายตาที่เธอมอง
แล้วก็ชวนเธอคุยเรื่องอื่น เราคุยกันจนดึกเธอก็ชวนผมกลับ ผมก็พยักหน้า “ฟ้า
ว่าแต่ว่าเราจะกลับกันยังไง รถก็หมดแล้ว ทุกครั้งที่ฟ้ามาฟ้ากลับยังไงหละ”
“ฟ้ามาทุกครั้งก็เดินกลับไง!”
ผมรู้สึกตลกทำไมเธอถึงต้องเหนื่อยเดินเพียงเพื่อมาดูดาวแค่นี้น ะ
ผมก็เดินนำหน้าเธอ เธอเรียกผม “แบ๊งค์! แต่วันนี้ฟ้าไม่ต้องเดินกลับแล้ว”
ผมหันมาทันที “แล้วเราจะกลับยังไงหละฟ้า” เธอยิ้มแบบเด็กเด็ก “ก็
ทุกวันฟ้ามาคนเดียวฟ้าก็เดินกลับ
.แต่วันนี้มีแบ๊งค์
ฟ้าก็จะขี่หลังแบ๊งค์กลับยังไงเล่า”
เธอพูดจบก็กระโดดขึ้นหลังผมแบบไม่ให้ตั้งตัวเลย “โธ่! ฟ้า..ก็..ตั้งไกลนะ”
เธอไม่ฟังผม แล้วเธอก็ชี้นิ้วไปข้างหน้า แล้วสั่งให้ผมเดิน เธอชวนผมคุยตลอดทาง
การที่ผมได้ใกล้ชิดเธอขนาดนี้มันทำให้ผมไม่รู้สึกเหนื่อยแม้แต่ น้อย
คืนนี้มันทำให้ผมมีความสุขมาก หากผมหยุดเวลาได้ผมจะหยุดอยู่แค่ตอนนี้ตลอดไป
การมาโรงเรียนอาจจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับหลายคน แต่สำหรับผมไม่เลยครับ
ผมอยากจะมาทุกวัน ทุกวัน ไม่มีวันหยุดไม่มีปิดเทอมเลยด้วยซ้ำไป
เพราะถ้าวันไหนผมไม่ได้เห็นหน้าฟ้าก็เหมือนบางอย่างในชีวิตผมมั นขาดหายไป
วันนี้ผมมาโรงเรียนแต่เช้าเลยวันนี้เป็นวัน “วาเลนไทน์”
ผมนั่งข้างฟ้า ตลอดทั้งวันมีผู้ชายเอากุหลาบมาให้เธอนับดอกไม่ถ้วนเลย
แต่ผมก็ยิ้มและก็แสดงความยินดีกับเธอ
หลังจากที่โรงเรียนเลิกผมก็มาทำความสะอาดห้องเพราะวันนี้เป็นเว รประจำวันของผม
ฟ้าเธอก็นั่งรอผมอยู่หลังห้อง เธอนั่งเด็ดกลีบกุหลาบเล่น
ดูเธอจะไม่เสียดายดอกกุหลาบเหล่านั้นเลย หลังจากที่ผมทำความสะอาดเสร็จ
เวลาในตอนนั้นมันก็เย็นมากแล้ว ผมจึงออกไปล้างไม้ล้างมือแล้วก็ปิดห้อง
ฟ้าเธอก็ชวนผมกลับ
ขณะที่เธอกำลังเดินผมก็คิดอยู่นานจนในที่สุดผมก็แข็งใจเรียกเธอ
“ฟ้าเดี๋ยวก่อน” เธอหันมาหาผมแล้วยิ้ม “มีอะไรหรอแบ๊งค์”
ผมเปิดกระเป๋าสะพายของผมแล้วค้นหาสิ่งที่อยู่ข้างในนั้น
มันถูกห่อไว้อย่างทนุถนอม
มันคือดอกทิวลิปส์สีขาวที่ผมเตรียมมาให้เธอตั้งแต่เช้า
แต่ผมไม่กล้าที่จะให้เธอ ถึงมันจะดูเฉาลงไปบ้าง แต่ก็ยังคงงดงามอยู่
ผมค่อยๆคลี่กระดาษที่ห่อมันอยู่แล้วก็ยื่นให้ฟ้า
“อ๊ะ แบ๊งค์ให้” ตอนนั้นใจผมเต้นตุ๊บตั๊บเลย
เธอดีใจมากที่ผมให้เธอ
เธอค่อยๆหยิบจากมือผมไป ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ดวงตาของเธอจับจ้องมา
ที่ผม “สวยจังเลย
. รู้มั๊ย ทั้งวัน ฟ้ารอดอกไม้จากแบ๊งค์คนเดียวเลย”
เธอพูดจบก็เอากุหลาบหลายดอกที่ เพื่อนๆเธอให้
เธอเอากุหลาบทั้งหมดทิ้งลงถังขยะทันที เหลือแต่เพียงทิวลิปส์ที่ผมให้เธอ
มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมมีความสำคัญสำหรับเธอมากเลย
เธอรีบเดินมาขวางทางไม่ให้ผมเดินต่อ
เธอจ้องตาผมแววตาของเธอมันทำให้ผมเขินแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ใจของผมเต้น ราว
150 ครั้ง ต่อนาทีได้มั๊ง เธอยิ้มแบบหน้าแดง ดูแล้วน่ารักมาก แล้วพูดกับผม
“เอ๊ะ
.เอ๊ะ
.เอ๊ะ แบ๊งค์ให้ฟ้าทำไมน๊า
บอกมาซะดีดี
รู้นะว่าคิดอะไรอยู่
รู้น๊ะ
รู้น๊ะ” ผมรีบหลบสายตาเธอด้วยความเขิน
แต่เธอก็ยังเดินอ้อมมาจ้องหน้าผม แล้วก็ถามอีก ผมหลบหน้าเธอไปเรื่อยๆ
จนในที่สุดผมก็ต้องจนมุม เพราะทุกครั้งที่เธอเริ่มจะจับได้ว่าผมชอบเธอ
เธอจะชอบถามผมแบบนี้ทุกครั้งไป แต่ผมก็มักจะหาข้อแก้ตัวทุกครั้ง
ผมคิดด้วยความเขินอยู่นานว่าจะแก้ตัวว่ายังไงดี “คือ
คือ อ้อใช่!
ก็วันนี้วันวาเลนไทน์ไง แบ๊งค์ ก็อยากจะให้อะไรฟ้าบ้าง”
เธอหัวเราะในคำตอบของผม “แล้วทำไมถึงอยากจะให้ฟ้าหละจ๊ะ
.ตอบให้ตรงประเด็นสิ”
ผมชักจะจนมุม เลยต้องวกไปคำตอบที่ผมมักจะใช้อยู่เสมอ “ก็
ก็
ฟ้าเป็นเพื่อนแบ๊งค์ไง”
“นั่นไง
ว่าแล้วเชียว ชอบวนมาจบคำว่าเพื่อนอยู่เรื่อยเลยแบ๊งค์หนะจะตอบแบบอื่นบ้างไม ่ได้
หรือไง”
“อ้าว..ก็ถ้าไม่ให้พูดว่าเพื่อนจะให้พูดว่าไงหละ
ฟ้าก็” เธอจ้องตาผมอยู่นาน
”อ๊ะ
ถ้าแบ๊งค์บอกว่าคิดกับฟ้าแค่เพื่อน แล้วในห้องเราก็มีกันตั้ง 50 กว่าคน
ไม่เห็นว่าจะได้ดอกไม้จากแบ๊งค์ บ้างเลย
.เนอะ”
ดูเหมือนผมจะแก้ตัวไม่ขึ้นเลยสำหรับคำพูดของเธอ ฟ้าเธอมักจะต้อนผมจน จนมุมเสมอ
ผมเลยชี้ไปที่ป้ายรถเมล์ “ฟ้า ฟ้า รถมาแล้วรีบไปกันดีกว่า”
“เดี๋ยวก่อนซี้ มาตอบก่อน” ผมรีบวิ่งขึ้นทันที
ตลอดทางบนรถเธอยิ้มและก็จ้องหน้าผมไม่กระพริบตาเลย
การเอาทิวลิปส์ให้เธอในวันนั้นทำให้ฟ้าเธอดูมีความสุขมาก
แต่อาจารย์ก็สั่งให้ทุกคนนั่งลงเพื่อเตรียมตัวที่จะสอบ
หลังจากวันนั้นก่อนที่อาจารย์จะติดป้ายประกาศชื่อนักเรียนว่าจะ ได้อยู่สายไหน
ห้องไหน ผมไปขอดูผลกับอาจารย์ที่ปรึกษาของผมก่อน
ชื่อผมกับฟ้าเราได้อยู่คนละห้อง กันเลย ฟ้าเธอหัวอ่อนได้อยู่สาย ศิลป์-ภาษา
ส่วนผมได้อยู่สาย วิทย์-คณิต คะแนนนี้นำโด่งเลย
ผมเห็นอย่างนั้นเลยขออาจารย์ย้ายไปอยู่ สายศิลป์-ภาษา ทันที
ทีแรกอาจารย์ก็ไม่อยากให้ผมเปลี่ยนห้องอาจารย์บอกว่าคนหัวไวอย่ างผม เรียนสาย
วิทย์-คณิต จะไปได้ไกลเลย แต่ผมก็ไม่ฟัง ขอร้องอาจารย์ด้วยเหตุผล นานัปการ
จนในที่สุดอาจารย์ก็ย้ายชื่อผมไปห้องเดียวกันกับฟ้าเลยครับ
ผมดีใจมากที่ผมจะได้ใกล้ชิดเธออีกตั้ง 3 ปี
ก็ตลอดเวลาที่ผมได้รู้จักเธอมันกลายเป็นความผูกพันที่ฝังลึกอยู ่ในใจผม
มันคงยากที่ผมจะละสายตาจากเธอได้
วันที่ผมรอก็มาถึง ฟ้าเธอดีใจมากที่เห็นผมได้อยู่ห้องเดียวกับเธอ
แต่เธอก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าคนอย่างผมทำไมถึงได้อยู่สาย ศิลป์-ภาษา
ฟ้าเธอดูเป็นสาวขึ้น สวยขึ้น
แต่นิสัยก็ยังคงเป็นฟ้าเหมือนเดิมเด็กผู้หญิงที่น่ารัก ขี้เล่น
และก็ชอบที่จะให้ผมเอาใจอยู่เสมอ เธอมักจะให้ผมชอบอะไรที่เหมือนเหมือนกับเธอ
เวลากินข้าวอาหารก็ต้องเหมือนกัน
ถ้าข้าวจานไหนเยอะกว่ากันเธอก็ต้องเอามาแบ่งให้เท่ากันทั้ง 2 จานถึงจะกินได้
น้ำที่ดื่มก็ต้องเหมือนกันโดยมากจะเป็นน้ำส้ม
ปากกายังต้องเป็นยี่ห้อเดียวกันเลย
และก็อีกหลายต่อหลายอย่างที่เธอมักจะสรรหามา แม้แต่รองเท้า
เธอยังเคยเปลี่ยนกันใส่กับผมเลย ถึงผมจะอายเพื่อนก็เหอะ แต่ผมก็ไม่เคยขัดใจเธอ
เธอว่าไง
ผมก็ว่างั้น ความสุขเล็กเล็กน้อยน้อยที่เกิดขึ้นในใจผมทุกวัน
จึงทำให้ผมรู้สึกห่วงใยเธออยู่ตลอดเวลา
เวลาที่เธอร้อนผมก็จะหากระดาษมาทำเป็นพัดแล้วก็พัดให้เธอ
เวลาที่เธอหนาวผมก็จะถอดเสื้อหนาวของผมคลุมให้เธอ
เวลาที่เธอตากฝนผมก็จะใช้กระเป๋าผมเป็นร่มบังฝนให้เธอโดยที่ไม่ สนใจหนังสือที่อยู่ข้างใน
เลยว่ามันจะเปียกแค่ไหน
หรือแม้แต่เวลาที่เธอถูกอาจารย์ทำโทษ ผมก็มักจะออกรับแทนเธอเสมอ
ฟ้าเธอเป็นคนที่ไม่กล้าเถียงคนอื่น ผมจึงหาข้อแก้ตัวสารพัดมาช่วยเธอ
หรือถ้ามันเป็นความผิดแบบเต็มเต็ม ที่เถียงไม่ขึ้น ผมก็จะรับโทษแทนเธอ
เธอมักจะถามผมเสมอว่าผมทำไมถึงต้องดีกับเธอขนาดนั้น
แต่ทำไมนะถึงไม่มีสักครั้งเลยที่ผมจะกล้าเอ่ยปากบอกเธอว่า “ผมรักเธอ”
ผมเอาแต่กลัวกลัวว่าหากเธอรู้เธออาจจะจากผมไป
ผมเห็นจากที่ผู้ชายหลายคนที่มาจีบฟ้า ทั้งหล่อทั้งรวย
ฟ้าเธอก็ไม่เคยสนใจใครเลย ดูเหมือนชายในฝันของเธอคงจะต้องดีไปซะทุกอย่าง
สำหรับผม ผมขอแค่ได้อยู่ใกล้ใกล้เธอ ได้ทำอะไรเพื่อเธอ ได้เห็นเธอยิ้ม
เห็นเธอมีความสุข เท่านั้นมันก็มากพอแล้วสำหรับคนอย่างผม
ผมเป็นฮีโร่ประจำตัวฟ้าอยู่หลายปี ไม่เคยมีสักครั้งที่ผมจะให้เธอยืนเดียวดาย
ตอนนี้พวกเราก็มาถึงชั้น ม.6แล้วนี่ก็เป็นปีสุดท้ายในชั้นมัธยมแล้วสินะ
ถ้าจะนับจากวันแรกที่ผมเห็นเธอและก็แอบหลงรักเธอ
ตั้งแต่วันนั้นมาจนวันนี้ก็ย่างเข้าปีที่ 6 แล้ว
แต่ความรักที่ผมมีให้กับเธอมันไม่เคยลดน้อยลงไปเลย ตรงกันข้าม
มันมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ต้นรักที่เธอได้ปลูกไว้ในใจผมอย่างไม่รู้ตัวตอนนี้มันดูเหมือนจ ะแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปทุกอนู
ภาคของ
ร่างกายผมเลยก็ว่าได้
เธอจะรู้บ้างไหมนะว่าผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนเคียงข้างเธอเสมอมา
เขาแอบหลงรักเธอจนหมดหัวใจ
เดี๋ยวนี้ผมกับเธอมักจะไปไหนด้วยกันเป็นประจำ ไม่ห่างกันเลยทีเดียว
ความคิดเห็น