ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องสั้นเศร้า

    ลำดับตอนที่ #15 : ทิวลิปส์ ท้องฟ้า และ แสงดาว (ฟ้ากับแบ้งค์)2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 666
      0
      10 ก.ค. 51


    ก็ฟ้าเป็นคนสวยนี่ครับก็ต้องมีคนรุมชอบเธอเป็นธรรมดา
    แต่ทุกครั้งที่มีคนบอกรักเธอ
    เธอก็มักจะปฏิเสธทุกครั้งไป
    ผมปล่อยให้มันด่าฟ้าต่อไปโดยที่ผมยังไม่ผลีผลามเข้าไป
    ผมยืนดูอย่างไม่พูดไม่จากับพวกเพื่อนผม
    แล้วการเถียงกันมันก็เริ่มที่จะรุนแรงขึ้น
    รุ่นพี่คนหนึ่งมันกระชากกระเป๋าฟ้าแล้วก็ผลักเธอล้มลงกับพื้น
    ผมฟิตร่างกายเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็เรียกนายที่มันผลักฟ้า พอมันหันมา
    ไม้เบสบอลในมือผมก็ถูกขว้างออกไปอย่างเต็มแรงไม้หมุน360องศา ประมาณ 4 รอบ
    แล้วก็ถึงปากมันพอดีไม้กระแทกปากมัน มันกระเด็นเลยทีเดียว มันลุกขึ้นมา
    แล้วใช้มือจับดูปริมาณเลือดของตัวเองเลือดมันไหลนองไปหมด มันเดินตรงมาที่ผม
    ผมรู้ดีว่าการชกกันในแบบนี้ ผู้ที่ลงมือก่อนจะได้เปรียบ
    ผมไม่รอช้ายิงหมัดขวาอย่างไม่ยั้ง คราวนี้มันสลบยาวเลย
    เพื่อนมันที่เหลือก็ตรงเข้ามากะจะอัดผมเต็มที่ เพื่อนผมที่มาด้วยกัน
    จึงวิ่งเข้าตะลุมบอลกัน เก้าอี้ โต๊ะบริเวณนั้นถูกนำมาใช้เป็นอาวุธ
    ข้าวของในห้องกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ผลสุดท้ายรุ่นพี่ทั้ง 5
    ก็สลบตินคาพวกผม สภาพผมแต่ละคนในตอนนั้นก็สะบักสะบอมเอาการเหมือนกัน
    จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ผมเก็บกระเป๋าฟ้าที่วางอยู่กับพื้นยื่นให้เธอ
    ฟ้า กลับบ้านกันเถอะ
    ผมกับฟ้าก็เดินกลับบ้านโดยที่เธอไม่พูดจาสักคำเอาแต่มองหน้าผม
    แต่ถึงผมจะสะบักสะบอมแค่ไหนแต่ผมก็ยังจะไปส่งฟ้าเหมือนเดิม
    เธอใช้ผ้าเช็ดหน้าของเธอเช็ดเลือดให้ผม จนผ้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเลย
    เรายืนรอรถอยู่นานมาก เวลาก็เริ่มจะมืดแล้ว จนรถมา ผมเดินจะไปขึ้น
    แต่ฟ้าเธอดึงผมไว้ แบ๊งค์อย่าพึ่งกลับไปดูดาวเป็นเพื่อนฟ้าหน่อย
    ผมก็นึกตลกเหมือนกันทำไมเธอถึงอยากจะดูดาวนะ เธอพาผมขึ้นรถคันใหม่ไปกับเธอ
    จนท้องฟ้ามืด ก็มาถึงที่ดูดาวที่เธอว่า ที่นี่เหรอฟ้า
    ที่ว่าจะพาแบ๊งค์มาดูดาวเธอพยักหน้า ใช่! ที่นี่หละ ฟ้าไม่เคยชวนใครมาเลยนะ
    แบ๊งค์เป็นผู้ชายคนแรกที่ฟ้าพามาเลยหละผมมองที่ ที่เธอว่าดูดาวที่นี่
    มันสวย แล้วผมก็หัวเราะ ก็ที่นี่มันสะพานแขวนชัดชัด มันจะสวยกว่าที่อื่นตรงไหน
    แต่ผมก็ไม่พูดอะไรปล่อยให้เธอเดินจูงมือผมแล้วก็เดินเพื่อจะขึ้ นไปบนสะพานที่ว่า
    เธอแวะซื้อไอศกรีมรสสตอเบอรี่ 2 อัน แล้วก็เดินต่อ
    ข้างบนนี้มันเป็นสะพานแขวนที่รถวิ่งได้ 4 เลน แต่ไม่ค่อยจะมีรถวิ่งเท่าไหร่
    เพราะเส้นทางนี้มันทำให้เสียเวลามาก
    คนจึงมักจะใช้เส้นทางอื่นจะมีก็แต่รถที่จะวิ่งไปฝั่งธนบุรี
    สะพานนี้มันจึงดูเงียบเชียบ ขอบสะพาน
    เป็นทางเท้าสำหรับคนเดินที่ทั้งสะพานดูเหมือนจะมีแค่ผม กับฟ้าเท่านั้นที่กำลังเดิน อยู่
    เธอพาผมเดินไปจนถึงกลางสะพานแล้วเธอก็หยุดเดิน
    เธอมองลงไปตามชุมชนที่มีแสงไฟระยิบระยับ
    และก็มองตามถนนที่เรียบฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาไปจนสุดลูกหูลูกตา
    เธอมองขึ้นไปข้างบนเพื่อจะดูดาวบนท้องฟ้า อย่างที่เธอพูดจริงครับ
    บนนี้ทุกอย่างมันดูสวยไปหมด เธอมองดาวพร้อมกับกินไอศกรีม
    ผมแอบมองใบหน้าเธอตาไม่กระพริบเลย เธอทำไมถึงน่ารักอย่างนี้นะ
    ไม่ว่าจะเรื่องหน้าตา หรือจะนิสัย เธอก็ดูดีไปหมด
    เธอยังสวยเหมือนที่ผมเห็นครั้งแรกไม่มีผิด แต่ตอนนี้เธอดูจะสวยกว่าเดิม
    เธอเริ่มที่จะเป็นสาวเต็มตัวแล้ว
    แววตาที่กลมโตและเป็นประกายของเธอมันช่างสวยจับใจจริงจริง เธอหันมายิ้มให้ผม
    แบ๊งค์ ที่นี่สวยมั๊ย..ฟ้าชอบมาบ่อยๆผมพยักหน้า อื้ม ก็สวยดีหนิ
    แล้วปกติฟ้ามากับใครหละ
    ก็มาคนเดียวหนะสิถามได้ จะให้ฟ้ามากับใครหละจ๊ะ
    ผมมองตาเธอแล้วพูด ทำไมฟ้าต้องมาคนเดียวด้วยหละ…. แค่ฟ้าออกปากชวน
    ผู้ชายทั้งโรงเรียนก็พามากันเป็นแถบแล้ว มีคนเขาชอบฟ้าเยอะจะตายเธอยิ้ม

    ผู้ชายที่ว่าเนี่ยรวมถึงแบ๊งค์ด้วยหรือเปล่าหละ
    ผมไม่ตอบเธอแล้วเงียบไป เธอใช้มือมาจับแผลที่อยู่แก้มผม เจ็บมั๊ยแผลนี่
    ผมส่ายหน้า ก็ ไม่เท่าไหร่เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเดิมออกมาเช็ดให้ผมอีก
    แบ๊งค์เนี่ย ยอมเจ็บเพื่อฟ้าเสมอเลยนะ แบ๊งค์เหมือนเป็นฮีโร่ ประจำตัวฟ้าเลย
    ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ช่วยฟ้าเสมอเลย ว่าแต่ว่าทำไมน๊า…. แบ๊งค์ถึงชอบช่วยฟ้า
    เอ๊ะ….เอ๊ะ….คิดอะไรอยู่น๊า….” เธอพูดแบบอมยิ้มด้วยท่าทางน่ารัก
    ผมรีบตอบไปเพราะความเขิน ก็ ก็ ฟ้าเป็นเพื่อนแบ๊งค์ไง
    เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนสิจริงมั๊ยผมพยายามหลบสายตาที่เธอมอง
    แล้วก็ชวนเธอคุยเรื่องอื่น เราคุยกันจนดึกเธอก็ชวนผมกลับ ผมก็พยักหน้า ฟ้า
    ว่าแต่ว่าเราจะกลับกันยังไง รถก็หมดแล้ว ทุกครั้งที่ฟ้ามาฟ้ากลับยังไงหละ
    ฟ้ามาทุกครั้งก็เดินกลับไง!
    ผมรู้สึกตลกทำไมเธอถึงต้องเหนื่อยเดินเพียงเพื่อมาดูดาวแค่นี้น ะ
    ผมก็เดินนำหน้าเธอ เธอเรียกผม แบ๊งค์! แต่วันนี้ฟ้าไม่ต้องเดินกลับแล้ว
    ผมหันมาทันที แล้วเราจะกลับยังไงหละฟ้าเธอยิ้มแบบเด็กเด็ก ก็
    ทุกวันฟ้ามาคนเดียวฟ้าก็เดินกลับ….แต่วันนี้มีแบ๊งค์
    ฟ้าก็จะขี่หลังแบ๊งค์กลับยังไงเล่า
    เธอพูดจบก็กระโดดขึ้นหลังผมแบบไม่ให้ตั้งตัวเลย โธ่! ฟ้า..ก็..ตั้งไกลนะ

    เธอไม่ฟังผม แล้วเธอก็ชี้นิ้วไปข้างหน้า แล้วสั่งให้ผมเดิน เธอชวนผมคุยตลอดทาง
    การที่ผมได้ใกล้ชิดเธอขนาดนี้มันทำให้ผมไม่รู้สึกเหนื่อยแม้แต่ น้อย
    คืนนี้มันทำให้ผมมีความสุขมาก หากผมหยุดเวลาได้ผมจะหยุดอยู่แค่ตอนนี้ตลอดไป……
    การมาโรงเรียนอาจจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับหลายคน แต่สำหรับผมไม่เลยครับ
    ผมอยากจะมาทุกวัน ทุกวัน ไม่มีวันหยุดไม่มีปิดเทอมเลยด้วยซ้ำไป
    เพราะถ้าวันไหนผมไม่ได้เห็นหน้าฟ้าก็เหมือนบางอย่างในชีวิตผมมั นขาดหายไป
    วันนี้ผมมาโรงเรียนแต่เช้าเลยวันนี้เป็นวัน วาเลนไทน์
    ผมนั่งข้างฟ้า ตลอดทั้งวันมีผู้ชายเอากุหลาบมาให้เธอนับดอกไม่ถ้วนเลย
    แต่ผมก็ยิ้มและก็แสดงความยินดีกับเธอ
    หลังจากที่โรงเรียนเลิกผมก็มาทำความสะอาดห้องเพราะวันนี้เป็นเว รประจำวันของผม
    ฟ้าเธอก็นั่งรอผมอยู่หลังห้อง เธอนั่งเด็ดกลีบกุหลาบเล่น
    ดูเธอจะไม่เสียดายดอกกุหลาบเหล่านั้นเลย หลังจากที่ผมทำความสะอาดเสร็จ
    เวลาในตอนนั้นมันก็เย็นมากแล้ว ผมจึงออกไปล้างไม้ล้างมือแล้วก็ปิดห้อง
    ฟ้าเธอก็ชวนผมกลับ
    ขณะที่เธอกำลังเดินผมก็คิดอยู่นานจนในที่สุดผมก็แข็งใจเรียกเธอ
    ฟ้าเดี๋ยวก่อนเธอหันมาหาผมแล้วยิ้ม มีอะไรหรอแบ๊งค์
    ผมเปิดกระเป๋าสะพายของผมแล้วค้นหาสิ่งที่อยู่ข้างในนั้น
    มันถูกห่อไว้อย่างทนุถนอม
    มันคือดอกทิวลิปส์สีขาวที่ผมเตรียมมาให้เธอตั้งแต่เช้า
    แต่ผมไม่กล้าที่จะให้เธอ ถึงมันจะดูเฉาลงไปบ้าง แต่ก็ยังคงงดงามอยู่
    ผมค่อยๆคลี่กระดาษที่ห่อมันอยู่แล้วก็ยื่นให้ฟ้า
    อ๊ะ แบ๊งค์ให้ตอนนั้นใจผมเต้นตุ๊บตั๊บเลย
    เธอดีใจมากที่ผมให้เธอ
    เธอค่อยๆหยิบจากมือผมไป ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ดวงตาของเธอจับจ้องมา
    ที่ผม สวยจังเลย…. รู้มั๊ย ทั้งวัน ฟ้ารอดอกไม้จากแบ๊งค์คนเดียวเลย
    เธอพูดจบก็เอากุหลาบหลายดอกที่ เพื่อนๆเธอให้
    เธอเอากุหลาบทั้งหมดทิ้งลงถังขยะทันที เหลือแต่เพียงทิวลิปส์ที่ผมให้เธอ
    มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมมีความสำคัญสำหรับเธอมากเลย
    เธอรีบเดินมาขวางทางไม่ให้ผมเดินต่อ
    เธอจ้องตาผมแววตาของเธอมันทำให้ผมเขินแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ใจของผมเต้น ราว
    150
    ครั้ง ต่อนาทีได้มั๊ง เธอยิ้มแบบหน้าแดง ดูแล้วน่ารักมาก แล้วพูดกับผม
    เอ๊ะ….เอ๊ะ….เอ๊ะ แบ๊งค์ให้ฟ้าทำไมน๊าบอกมาซะดีดี
    รู้นะว่าคิดอะไรอยู่รู้น๊ะรู้น๊ะผมรีบหลบสายตาเธอด้วยความเขิน
    แต่เธอก็ยังเดินอ้อมมาจ้องหน้าผม แล้วก็ถามอีก ผมหลบหน้าเธอไปเรื่อยๆ
    จนในที่สุดผมก็ต้องจนมุม เพราะทุกครั้งที่เธอเริ่มจะจับได้ว่าผมชอบเธอ
    เธอจะชอบถามผมแบบนี้ทุกครั้งไป แต่ผมก็มักจะหาข้อแก้ตัวทุกครั้ง
    ผมคิดด้วยความเขินอยู่นานว่าจะแก้ตัวว่ายังไงดี คือคือ อ้อใช่!
    ก็วันนี้วันวาเลนไทน์ไง แบ๊งค์ ก็อยากจะให้อะไรฟ้าบ้าง
    เธอหัวเราะในคำตอบของผมแล้วทำไมถึงอยากจะให้ฟ้าหละจ๊ะ….ตอบให้ตรงประเด็นสิ
    ผมชักจะจนมุม เลยต้องวกไปคำตอบที่ผมมักจะใช้อยู่เสมอ ก็ก็
    ฟ้าเป็นเพื่อนแบ๊งค์ไง
    นั่นไงว่าแล้วเชียว ชอบวนมาจบคำว่าเพื่อนอยู่เรื่อยเลยแบ๊งค์หนะจะตอบแบบอื่นบ้างไม ่ได้
    หรือไง
    อ้าว..ก็ถ้าไม่ให้พูดว่าเพื่อนจะให้พูดว่าไงหละฟ้าก็เธอจ้องตาผมอยู่นาน
    อ๊ะถ้าแบ๊งค์บอกว่าคิดกับฟ้าแค่เพื่อน แล้วในห้องเราก็มีกันตั้ง 50 กว่าคน
    ไม่เห็นว่าจะได้ดอกไม้จากแบ๊งค์ บ้างเลย….เนอะ
    ดูเหมือนผมจะแก้ตัวไม่ขึ้นเลยสำหรับคำพูดของเธอ ฟ้าเธอมักจะต้อนผมจน จนมุมเสมอ

    และพยายามให้ผมยอมรับให้ได้เลยทีเดียว ผมไม่รู้จะตอบเธอว่าไง
    ผมเลยชี้ไปที่ป้ายรถเมล์ ฟ้า ฟ้า รถมาแล้วรีบไปกันดีกว่า
    เดี๋ยวก่อนซี้มาตอบก่อนผมรีบวิ่งขึ้นทันที
    ตลอดทางบนรถเธอยิ้มและก็จ้องหน้าผมไม่กระพริบตาเลย
    การเอาทิวลิปส์ให้เธอในวันนั้นทำให้ฟ้าเธอดูมีความสุขมาก
    แต่อาจารย์ก็สั่งให้ทุกคนนั่งลงเพื่อเตรียมตัวที่จะสอบ
    หลังจากวันนั้นก่อนที่อาจารย์จะติดป้ายประกาศชื่อนักเรียนว่าจะ ได้อยู่สายไหน
    ห้องไหน ผมไปขอดูผลกับอาจารย์ที่ปรึกษาของผมก่อน
    ชื่อผมกับฟ้าเราได้อยู่คนละห้อง กันเลย ฟ้าเธอหัวอ่อนได้อยู่สาย ศิลป์-ภาษา
    ส่วนผมได้อยู่สาย วิทย์-คณิต คะแนนนี้นำโด่งเลย
    ผมเห็นอย่างนั้นเลยขออาจารย์ย้ายไปอยู่ สายศิลป์-ภาษา ทันที
    ทีแรกอาจารย์ก็ไม่อยากให้ผมเปลี่ยนห้องอาจารย์บอกว่าคนหัวไวอย่ างผม เรียนสาย
    วิทย์-คณิต จะไปได้ไกลเลย แต่ผมก็ไม่ฟัง ขอร้องอาจารย์ด้วยเหตุผล นานัปการ
    จนในที่สุดอาจารย์ก็ย้ายชื่อผมไปห้องเดียวกันกับฟ้าเลยครับ
    ผมดีใจมากที่ผมจะได้ใกล้ชิดเธออีกตั้ง 3 ปี
    ก็ตลอดเวลาที่ผมได้รู้จักเธอมันกลายเป็นความผูกพันที่ฝังลึกอยู ่ในใจผม
    มันคงยากที่ผมจะละสายตาจากเธอได้
    วันที่ผมรอก็มาถึง ฟ้าเธอดีใจมากที่เห็นผมได้อยู่ห้องเดียวกับเธอ
    แต่เธอก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าคนอย่างผมทำไมถึงได้อยู่สาย ศิลป์-ภาษา
    ฟ้าเธอดูเป็นสาวขึ้น สวยขึ้น
    แต่นิสัยก็ยังคงเป็นฟ้าเหมือนเดิมเด็กผู้หญิงที่น่ารัก ขี้เล่น
    และก็ชอบที่จะให้ผมเอาใจอยู่เสมอ เธอมักจะให้ผมชอบอะไรที่เหมือนเหมือนกับเธอ
    เวลากินข้าวอาหารก็ต้องเหมือนกัน

    ถ้าข้าวจานไหนเยอะกว่ากันเธอก็ต้องเอามาแบ่งให้เท่ากันทั้ง 2 จานถึงจะกินได้
    น้ำที่ดื่มก็ต้องเหมือนกันโดยมากจะเป็นน้ำส้ม
    ปากกายังต้องเป็นยี่ห้อเดียวกันเลย
    และก็อีกหลายต่อหลายอย่างที่เธอมักจะสรรหามา แม้แต่รองเท้า
    เธอยังเคยเปลี่ยนกันใส่กับผมเลย ถึงผมจะอายเพื่อนก็เหอะ แต่ผมก็ไม่เคยขัดใจเธอ
    เธอว่าไง
    ผมก็ว่างั้น ความสุขเล็กเล็กน้อยน้อยที่เกิดขึ้นในใจผมทุกวัน
    จึงทำให้ผมรู้สึกห่วงใยเธออยู่ตลอดเวลา
    เวลาที่เธอร้อนผมก็จะหากระดาษมาทำเป็นพัดแล้วก็พัดให้เธอ
    เวลาที่เธอหนาวผมก็จะถอดเสื้อหนาวของผมคลุมให้เธอ
    เวลาที่เธอตากฝนผมก็จะใช้กระเป๋าผมเป็นร่มบังฝนให้เธอโดยที่ไม่ สนใจหนังสือที่อยู่ข้างใน
    เลยว่ามันจะเปียกแค่ไหน
    หรือแม้แต่เวลาที่เธอถูกอาจารย์ทำโทษ ผมก็มักจะออกรับแทนเธอเสมอ
    ฟ้าเธอเป็นคนที่ไม่กล้าเถียงคนอื่น ผมจึงหาข้อแก้ตัวสารพัดมาช่วยเธอ
    หรือถ้ามันเป็นความผิดแบบเต็มเต็ม ที่เถียงไม่ขึ้น ผมก็จะรับโทษแทนเธอ
    เธอมักจะถามผมเสมอว่าผมทำไมถึงต้องดีกับเธอขนาดนั้น
    แต่ทำไมนะถึงไม่มีสักครั้งเลยที่ผมจะกล้าเอ่ยปากบอกเธอว่า ผมรักเธอ
    ผมเอาแต่กลัวกลัวว่าหากเธอรู้เธออาจจะจากผมไป
    ผมเห็นจากที่ผู้ชายหลายคนที่มาจีบฟ้า ทั้งหล่อทั้งรวย
    ฟ้าเธอก็ไม่เคยสนใจใครเลย ดูเหมือนชายในฝันของเธอคงจะต้องดีไปซะทุกอย่าง
    สำหรับผม ผมขอแค่ได้อยู่ใกล้ใกล้เธอ ได้ทำอะไรเพื่อเธอ ได้เห็นเธอยิ้ม
    เห็นเธอมีความสุข เท่านั้นมันก็มากพอแล้วสำหรับคนอย่างผม
    ผมเป็นฮีโร่ประจำตัวฟ้าอยู่หลายปี ไม่เคยมีสักครั้งที่ผมจะให้เธอยืนเดียวดาย
    ตอนนี้พวกเราก็มาถึงชั้น ม.6แล้วนี่ก็เป็นปีสุดท้ายในชั้นมัธยมแล้วสินะ
    ถ้าจะนับจากวันแรกที่ผมเห็นเธอและก็แอบหลงรักเธอ
    ตั้งแต่วันนั้นมาจนวันนี้ก็ย่างเข้าปีที่ 6 แล้ว
    แต่ความรักที่ผมมีให้กับเธอมันไม่เคยลดน้อยลงไปเลย ตรงกันข้าม
    มันมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
    ต้นรักที่เธอได้ปลูกไว้ในใจผมอย่างไม่รู้ตัวตอนนี้มันดูเหมือนจ ะแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปทุกอนู
    ภาคของ
    ร่างกายผมเลยก็ว่าได้
    เธอจะรู้บ้างไหมนะว่าผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนเคียงข้างเธอเสมอมา
    เขาแอบหลงรักเธอจนหมดหัวใจ
    เดี๋ยวนี้ผมกับเธอมักจะไปไหนด้วยกันเป็นประจำ ไม่ห่างกันเลยทีเดียว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×