ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    . . . . .

    ลำดับตอนที่ #1 : This Love , sir 0 : มาแล้วความวุ่นวาย

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 55


    © Tenpoints !





     

       

       This Love , sir 0
    Fronk's Chapter


      ว้ายยย ไอ้ลูกไม่มีพ่อ~ไอ้อ้วนดำจีบปากจีบคอพูดเยาะเย้ยผมถึงเรื่องพ่อที่เป็นจุดอ่อนในใจเสียงดัง มันแลบลิ้นล้อเลียนผมด้วย อื้อหือ..น่ารักตายแหละ อย่างกับควายโดนน้ำร้อนลวก

    ไม่มีพ่อแล้วผิดตรงไหน!’ ไม่ใช่ว่าผมไม่กลัวมันหรอกนะ ตัวมันใหญ่กว่าผมมาก หัวผมเท่าไหล่มันเอง แถมตัวยังดำเหมือนควาย ผมสู้มันไม่ได้อยู่แล้ว แต่ด้วยความโกรธปะทุขึ้น ทำให้ผมเผลอตะโกนใส่หน้ามันไปเต็มๆ

    ผิดสิไอ้ตุ๊ด เพราะแกไม่มีพ่อแกถึงได้เป็นตุ๊ดไงล่ะ ฮ่าๆๆไอ้อ้วนดำยังหัวเราะไม่เลิก ผมเริ่มจะทนไม่ไหวแล้วนะ คำก็พ่อตาย สองคำก็ตุ๊ด ผมไม่ได้เป็นตุ๊ดสักหน่อย!

    แกสิตุ๊ด ผู้ชายดีๆ ที่ไหนชอบแลบลิ้นปลิ้นตา เล่นบาร์บี้ โดดยาง แถมมัดจุกเหมือนเขาควายอย่างนั่นล่ะ!!’ เอาแล้วครับ พูดความจริงเข้าหน่อยไอ้อ้วนดำเริ่มยั๊วะ หน้าที่ดำอยู่แล้วยิ่งดำจนเขียว มันกัดฟันกรอดด้วยความโมโหก่อนจะผลักอกผมล้มลงไปกองกับพื้นทรายเต็มแรง

    ไอ้อ่อน! ไอ้ตุ๊ด! ไอ้พ่อตาย! แกมันก็แค่ลูกไม่มีพ่อ! พ่อแกตายกลายเป็นผี ตายๆๆๆ!!’ ผมก้มหน้านิ่ง เป็นความจริงที่พ่อผมจากไปแล้ว พ่อเสียชีวิตตอนผมเพิ่งคลอดได้แค่สามวัน พ่อผมเป็นตำรวจครับ ท่านตายด้วยหน้าที่ จากนั้นผมและแม่ก็อยู่กันสองคนมาโดยตลอด เรื่องนี้จึงเป็นปมในใจของผมตั้งแต่เล็กจนโต เด็กๆ ในหมู่บ้านนี้รู้กันหมดนั่นแหละว่าผมไม่มีพ่อ โดยเฉพาะไอ้อ้วนดำที่คอยชอบหาเรื่องแกล้งผมด้วยเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา แต่วันนี้ผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ที่ผ่านมาเพราะผมไม่เคยสู้มัน เลยหาว่าผมเป็นตุ๊ดสินะ

    โอ๊ะ! นั่นขี้หมานี่! แกล้มทับขี้หมา ไอ้ตุ๊ดล้มทับขี้หมา ฮ่าๆๆๆๆๆๆ มันและผองเพื่อนร่วมใจกันหัวเราะผมที่ก้นจ้ำเบ้าล้มทับขี้หมากันอย่างสามัคคี อื้อหือ...จริงๆ ด้วยครับ เหลืองอ๋อยเลย หึ..ไหนๆ ก็ซวยล้มทับขี้หมาแล้ว จัดเต็มหน่อยเป็นไง

    ‘..อยากหัวเราะกันมากนัก งั้นวันนี้พวกแกก็ลองกินขี้หมาเป็นอาหารว่างหน่อยเป็นไง

    ฮะ?...วะ ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!’

     

     

     

     

     

     

     

       และภาพพวกไอ้อ้วนดำศัตรูจอมแก่นตอนวัยเด็กที่วิ่งหนีมนุษย์ขี้หมาอย่างผมอย่างเอาเป็นเอาตายก็ยังคงติดค้างอยู่ในมันสมองไม่มีวันลืมเลือน ถึงจะอายแต่ก็สะใจจริงๆ นะตอนนั้น

    เหม่ออะไรอยู่คนเดียวน่ะ

    เปล่าสักหน่อย

    อ้อเหรอออแม่ทำท่าไม่เชื่อผม ใครจะบอกล่ะครับว่าคิดถึงเรื่องตอนโดนแกล้งสมัยเด็กอยู่  ยิ่งตอนนี้ผมกับแม่กำลังจะย้ายเข้าไปอยู่กับพ่อในบ้านหลังใหม่แล้วด้วย

    ตื่นเต้นล่ะสิผมหันไปแซวแม่ที่นั่งข้างๆ เธอทำท่ากระวนกระวายพอควร ทำให้ผมขำเบาๆ

    ก็นี่เป็นครั้งแรกที่แม่เข้ามาบ้านเค้าในฐานะภรรยานี่นา แล้วฟร้องค์ไม่ตื่นเต้นหรือไง

    เฉยๆ นะโกหกครับ ความจริงผมโคตรตื่นเต้นเลย! ตื่นเต้นตั้งแต่รู้ว่าจะย้ายบ้านแล้ว แถมยังเป็นบ้าน...ไม่สิ คฤหาสน์ของตระกูลสันติวิจิตราตระกูลดังตระกูลเด่นเจ้าของ STT. Royal Hotel โรงแรมระดับแนวหน้าของประเทศ และยังมีบริษัทน้อยใหญ่ของเครือ STT. อีกมากมาย ที่มีพ่อคนใหม่ของผมเป็นผู้นำตระกูล พูดให้ถูกก็คือ คุณไพโรจน์ สันติวิจิตรา นั่นเอง ซึ่งตอนนี้ผมกับแม่ก็กลายเป็นสมาชิกใหม่ของตระกูลนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

        ยังแอบใจหายอยู่เลยที่วันหนึ่งแม่ก็เดินมาบอกว่าจะแต่งงานใหม่ แถมยังแต่งกับนักธุรกิจชื่อดังอย่างคุณไพโรจน์นั่นทำให้ผมช็อกไปเลย ใครจะไปคิดล่ะว่าสาวออฟฟิศธรรมดาๆ อย่างแม่จะตกกระไดพลอยโจรไปรักกับเศรษฐีพันล้านเข้า

    ถึงแล้วครับลุงคนขับรถชะโงกหน้ามายิ้มให้ ตอนที่รถคันหรูจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ที่มีคนยืนต้อนรับอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือพ่อด้วย

        บรรดาแม่บ้านเปิดประตูรถพร้อมโค้งคำนับแม่กับผมอย่างสวยงาม ไอ้เราก็เขินสิครับ ที่มีคนรุ่นลุงรุ่นป้ามาก้มหัวให้ เลยทำได้เพียงยิ้มเก้งๆ กังๆ เท่านั้น พอเห็นเราทำตัวไม่ถูกพ่อก็หัวเราะเสียงดังหลุดมาดเศรษฐี ก่อนจะเดินมาทุบหลังผมดังอั้ก! เจ็บนะ

    ไงไอ้แสบ อึ้งล่ะสิพ่อยักคิ้วเยาะเย้ย ผมเลยเบ้ปากให้ก่อนจะแหย่เบาๆ

    โถ่ลุง ก็คนมันเพิ่งจะรวยได้ยินดังนั้นพ่อจึงยีหัวผมเล่นด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะต่อว่าผมที่แกล้งเรียกเขาว่าลุง ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ ผมกับพ่อสนิทกันพอตัวน่ะ

        พวกเราพากันเดินเข้าบ้าน โดยมีบรรดาแม่บ้านยกของของผมและแม่ไปเก็บให้เรียบร้อย เราเดินมานั่งกันที่โซฟาตัวใหญ่ ก่อนจะพูดคุยเรื่องสัพเพเหระเกี่ยวกับที่นี่

    ยายส้มพ่อออกปากเรียกแม่บ้านแก่ๆ คนหนึ่งที่กำลังจะเดินผ่านไป พอยายแกหันมานี่ทำเอาผมสะพรึง! เอิ่มมมกิ๊ฟดอกกุหลาบสีแดงสดอันเบ้งที่ทัดหูยายแกอยู่นี่คงจะไปขโมยมาจากลูลู่ลาล่าสินะ

    ขาคุณท่าน?

    ไอ้กายมันกลับมาหรือยัง

    ยังเลยค่ะ

    อ่อ..งั้นเหรอสิ้นเสียงของพ่อทำเอาผมกับแม่นั่งเงียบ บุคคลที่เพิ่งพูดถึงไปเมื่อสักครู่ก็คือคุณชายจิรัญญู สันติวิจิตรา หรือ พี่กาย ลูกชายในไส้คนเดียวพ่อผมนั่นเอง ผมไม่เคยเจอเค้าหรอกนะ ในงานแต่งก็เหมือนกัน รู้สึกเค้าจะไม่มาเพราะติดธุระ แต่ผมว่าเค้าจงใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เค้าเบี้ยวนัดกับผมและแม่ แต่มันคือครั้งที่สาม สี่ ห้าแล้ว ดูเหมือนเค้าจะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ที่ผมกับแม่มาอยู่บ้านหลังนี้ในสมาชิกใหม่ เหมือนในละครเดี๊ยะเลยแฮะ

    ผมขอตัวขึ้นไปจัดห้องก่อนนะ ผมบอกแค่นั้นก่อนจะเดินออกมา

     

     

     

     

     

     

     

    กูถึงแล้วนะผมนั่งลงบนเตียงใหญ่ที่โคตรจะนุ่ม ก่อนจะเอนตัวลงไปนอนแผ่โดยที่มือยังคงถือโทรศัพท์

        ฮ่า~~~ สบายสัสๆ ครับผมมมม!

    เป็นไงบ้างวะ!!” เสียงแวดๆ ของไอ้ตัง(สตางค์)เพื่อนยากดังลอดออกมาจากโรศัพท์จนผมต้องยกหูหนี  เอิ่มมม ถ้ามึงจะเสียงดังนี้

    เบาหน่อยครับเพื่อน หูกูจะดับอยู่แล้ว

    เออๆ ช่างแ ม่ง หูมึงไม่ใช่หูกู ตกลงว่าไง เป็นไงมั่ง ทุกอย่างโอเคมั้ย โอ้ยยย กูตื่นเต้นแทนมึงจริงๆ !!” แล้วมึงจะตื่นเต้นแทนกูทำไมครับ?

    ก็ดีนะ แต่รู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย

    แล้วเรื่องพี่กายอ่ะ พี่เค้าว่าไงมั่งไม่พ้นเรื่องนี้สินะไอ้ตัง

    กูยังไม่เจอพี่เค้าเลยว่ะ พี่เค้าไม่อยู่

    อ้าวแงะ

    เออออออ

    โห่ย! อดได้รูปเลยว่ะไอ้ตังบ่นกระปอดกระแปดครับ มันบ้าผู้ชาย โดยเฉพาะพี่กายเดือนคณะสถาปัตย์ที่พ้วงตำแหน่งเดือนมหาลัยของมัน

    บ้าผู้ชายนะมึงอ่ะ

    ว่ากูซะงั้น? กูไม่ได้บ้าผู้ชายเว้ย กูกะได้รูปแล้วเอาไปขายต่ออ่ะ ท่าทางจะกำไรดีว่ะ ฮ่าๆๆ โอเค กูรู้ธาตุแท้มึงแล้ว โหมึง ก็พี่กายเป็นถึงเดือนมหาลัยเชียวนะโว้ย แถมมึงยังได้อยู่ร่วมชายคากับเค้าอีก โชคดีสัสๆ อ่ะ

    โชคดีเหี้ยๆ สิครับ มึงก็รู้ว่าพี่เค้าไม่ชอบกูกับแม่

    มึงก็คิดมากไป พี่เค้าอาจไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย

    “..เหอะๆ กูว่ากูเล่าไปแล้วนะ

       ได้ทีก็ย้อนความเม้ามอยไปเรื่อย แต่ไอ้ตังก็ยังจะยืนยันคำเดิมว่าพี่กายของมันไม่ได้คิดแบบนั้นแน่ เถียงกันอยู่พักใหญ่จนกูขี้เกียจจะเถียงกับมันล่ะ

    พอๆ เปลี่ยนเรื่อง กูยอมแพ้มึงแล้ว

    ฮะๆ ไอ้คุณฟร้องค์ครับ รอชาติหน้าก่อนเหอะที่มึงจะเถียงกูชนะ

    ก็ว่าไป..”

    จากนั้นพวกเราก็คุยเล่นกันไปเรื่อยเปื่อย ยิ่งใกล้ช่วงที่เฟรชชี่หน้าใหม่เอี่ยมอย่างพวกผมเปิดเทอมเท่าไหร่ก็ยิ่งมีเรื่องตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น ไอตังมันบอกว่ามีพี่(ผู้ชาย)ในมหาลัยมาตามจีบมันแล้วด้วยล่ะ ก็นะ เพื่อนผมมันฮ็อตใช่ย่อยนี่ครับ ด้วยรูปลักษณ์ที่โคตรจะไม่แมนของมัน เหอะๆ ผู้ชายบ้าอะไรวะตัวเล็กนิดเดียว ผมว่าผมตัวเล็กแล้วนะ มันยังตัวเล็กกว่าผมอีกครับ! ตาโต ผิวขาว แก้มป่อง ปากนิดจมูกหน่อย นิสัยขี้แวดบวกกับเสียงแว้ดๆๆ ของมันทำให้ใครหลายคนคิดว่ามันเป็นกระเทย!? แต่แล้วมันก็ทำลายคำสบประมาทด้วยการคบกับผู้หญิง พูดง่ายๆ คือตอนนี้มันมีแฟนแล้วครับ แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนยังเชื่อว่ามันคบกับผู้หญิงเพื่อบังหน้า เหอะๆ กูสงสารมึงจริงๆ ว่ะตัง กร๊ากกกกกก!

    มึง..แค่นี้ก่อนนะ แกวโทรมาว่ะนึกถึงก็มาพอดีเลย ตายยากจริงครับ

    เออๆ ได้แฟนแล้วทิ้งเพื่อน จำไว้มันแกวคือแฟนมันครับ เรียนอยู่มนุษย์ฯ หน้าตาน่ารักใช้ได้ แม้ว่าจะน้อยกว่าไอ้ตังก็เถอะ (มีคนบอกแบบนั้นอ่ะ)

    หึ มึงจะไปเหงาอะร้ายยย มีพี่กายอยู่แนบกายทั้งคน~

    ไอ้ตัง!! อย่ามาพูดงี้ว่ะ กูสยอง กูไม่ได้เหมือนมึงนะด่าครับด่า คิดได้เนอะมึง หูยยย

    อ่าวสัสนี่ กูชายแท้แมนเต็มร้อยนะครับ อะ..แค่นี้ก่อนแล้วนะ ว่าแล้วมันก็วางสายไป เออ! แ ม่งวางไปได้ก็ดี

     

     

     

        ผมใช้เวลาเกือบทั้งวันไปกับการนอนเล่นตากแอร์เย็นๆ ในห้อง บวกกับจัดของต่างๆ นาๆ อีกเล็กน้อย แหงนมองนาฬิกาก็ปาไปเกือบจะสองทุ่มแล้ว เลยลุกมาอาบน้ำแต่งตัวลงไปชั้นล่างแทน

        ถึงแม้จะเปิดไฟสว่างจ้าแต่ข้างล่างก็ดันเงียบสงบจนน่าวังเวง เอิ่ม...นี่มันเพิ่งจะสองทุ่มกว่าเองนะ ผู้คนหายไปไหนกันหมด?

        และเพราะด้วยความหิวที่เริ่มจะก่อม็อบในกระเพาะ นำพาให้ขาของผมก้าวเดินมายังครัวสุดหรูเพื่อหาของมายัดปากทันที นี่ถ้าเกิดครัวหรูอย่างนี้ไม่มีอะไรกินกูจะไปดักตีหัวพ่อเลยนะ แต่โชคดีหน่อยที่เปิดตู้เย็นขนาดตู้เสื้อผ้าเหมือนตู้พิศวงในหนังเรื่องนาเนียร์แล้วเจอของกินเพียบ อื้อหือออ ตอนอยู่บ้านหลังเก่าเปิดตู้เย็นมาเจอช็อกโกแลตขึ้นรานี่ก็ถือว่าบุญแล้ว แต่ที่นี่แ ม่งเก็บอาหารไว้เผื่อสงครามหรือไง? แบบว่ามีพอกินกันทั้งกองทัพพระเจ้าเหาเลย (อันนี้ก็เวอร์ไป)

       หันซ้ายหันขวาแล้วไม่มีใครอยู่ได้ทีก็โกยเอาสิครับ แต่พอมาคิดอีกทีกูก็ลูกเจ้าของบ้านี่หว่า เลยเลิกทำตัวลับๆ ล่อๆ เปลี่ยนเป็นหยิบของปกติแทน (แต่ก็ยังเหมือนโกยเอาอยู่ดี)

    แถ่น แถ๊นนนน~ ทายสิว่าผมขโมยอะไรมาได้บ้าง?

    เลย์รสดั้งเดิมกับรสสาหร่ายห่อใหญ่อย่างละห่อ เป๊ปซี่ขวดใหญ่เบ้งพร้อมน้ำแข็ง ช็อกโกแลตยี่ห้อ…….อะไรก็ไม่รู้ เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส พิซซ่าหน้าซีฟู้ดค็อกเทลที่อุ่นแล้ว กับขนมปังกระเทียมแล้วก็หมากฝรั่งหลากรส ที่ขนมานี่ตู้เย็นพร่องไปนิดเดียวเองนะ กะเอาให้อ้วนไปข้างเลยทีเดียวครับกู

        ผมหอบลูกหอบหลานย้ายตูดเข้ามานั่งบนโซฟาในห้องโถง พร้อมเอื้อมหยิบรีโมทเปิดทีวีจอยักษ์ดูอย่างสบายใจ รู้นะครับว่าความเกรงใจคือสมบัติของผู้ดี แต่ผมสนิทกับเจ้าของบ้านแล้วไง เลยไม่ต้องเกรงใจและเป็นผู้ดี ฮ่าาาาาาาา!

     

     

    ก็อก~ แก็ก~

       หือ? เสียงอะไรวะ

    ผมลดเสียงทีวีให้เบาลงก่อนจะเงียหูฟังเสียงประหลาดนั่นอีกครั้ง

    ก็อก~ แก็ก~ ตึก~ ตึก~

    รู้สึกว่าเสียงมันจะดังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หรือว่าจะเป็นขโมย??? ผมเด้งตัวขึ้นจากโซฟาแล้วมองไปยังทางเข้าห้องโถงทันที ใจนึงก็กลัวว่าถ้าเป็นขโมยจริงๆ แล้วกูจะทำไง กรี๊ดเลยดีมั้ย? อีกใจนึงก็คิดในแง่ดีว่ามันอาจจะไม่ใช่

    ตึก~

    และแล้วผมก็ได้รู้ว่า………….

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ขโมยสมัยนี้นี่มันหล่อชิบหายยยย!!!!!? 

     

     

     

     

     

     

     

     

     





     

     

    24 / 08 / 12
    (     W r i t e r  / R e a d e r     )
          สวัสดีผู้อ่านแสนน่ารักทุกท่าน ที่ได้หลงมาในนิยายเรื่องนี้นะคะ

    ไรเตอร์อยากจะบอกว่าขอขอบคุณมากมายที่อ่านมาตั้งแต่งต้นจนจบ
    โดยรวมตัวไรเตอร์เองคิดว่ายังแต่งได้ไม่ลื่นไหลเท่าไหร่ จึงขออภัยด้วยถ้าทำให้อ่านสะดุด
    ไรเตอร์จะพยายามปรับปรุงค่ะ ตอนนี้ขอแค่นี้ก่อน แล้วพบกันใหม่ตอนต่อไปนะคะ

      

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×