คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เจอ
พระอาทิตย์กำลังเคลื่อนตัวลาลับขอบฟ้า แสงสุดท้ายของวันใกล้หมดไป ท้องฟ้าที่ถูกแทนที่ด้วยเมฆมืดครึ้ม ฝนตกเริ่มตกปรอยๆ สายลมอ่อนที่พัดผ่านยิ่งทำให้อากาศหนาวเย็นลงไปอีก
"หงิง~ หงิง~"
ภายใต้ต้นไม้ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ปรากฏร่างของลูกสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วเพศเมียที่ถูกทิ้งกำลังนั่งตากฝน หนาวสั่น
เปรี้ยง!!
"หงิง~ หงิง~ "
เมื่อได้ยินเสียงจากฟ้าแลบที่ดังสนั่น ลูกสุนัขตัวนั้นก็นอนขดหนาวสั่น ใครผ่านมาเห็นต่างก็สงสาร แต่ไม่มีใครคิดที่จะเข้าไปช่วยเหลือ เนื่องจากทุกคนต่างเร่งรีบที่จะเดินทางกลับบ้านให้ทันก่อนที่ฝนจะตกหนักเข้าไปอีก
'ดินพัฒน์' หรือ ดิน เด็กหนุ่มมัธยมปลาย โรงเรียน S หลังจากที่อ่านหนังสือหลังเลิกเรียนเสร็จ เขามักจะเดินกลับบ้าน โดยใช้เส้นทางที่ผ่านสวนสาธารณะเป็นประจำ แต่วันนี้มีสิ่งที่ผิดปกติออกไป คือพายุลูกใหญ่ที่กำลังเคลื่อนตัวผ่าน ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนัก เขาต้องรีบกลับก่อนที่มันจะตกลงมา
ในขณะที่ดินกำลังเดินทางกลับบ้านตามปกตินั้น ฝนก็ตกลงมาเม็ดใหญ่ ลมที่เริ่มผัดแรงขึ้นจนต้นไม้เอนเอียง อากาศเย็นลงจนหนาวสั่น เขาจึงได้รีบเดินเพื่อที่จะได้กลับบ้านให้เร็วที่สุดก่อนที่หนังสือในกระเป๋าจะเปียกไปมากกว่านี้
"หงิง~ หงิง~"
เมื่อเขาเดินผ่านมาถึงจุดหนึ่งในส่วนสาธารณะ เขาก็ได้ยินเสียงของบางอย่างใกล้ต้นไม้ใหญ่ แม้จะเร่งรีบขนาดไหน เขาก็เดินเข้าดูเจ้าของเสียงนั้นว่าใช่อย่างที่ตนขึ้นหรือไม่
"หืมมม เสียงอะไรน่ะ " เขาพึมพำออกมาขณะเดินไปดู
"เอ๋ นี่มันลูกหมานี่นา"
"มาได้ไงเนี่ย ตัวเล็ก" เขาถามเจ้าตัวเล็กก่อนจะอุ้มขึ้นมากอดเขาไว้ เพื่อจะให้ความอบอุ่น
"หงิง ~"
"อ่าาา ไม่มีปลอกคอด้วย" ดินพัฒน์สำรวจลูกสุนัขพันธุ์บางแก้วตัวมอมแมมในอ้อมกอด
"ได้กินอะไรยังเอ่ย ผอมเชียว ไปอยู่ด้วยกันมั้ย "
"หงิง ~ "
"ตกลงแล้วนะเจ้าปีโป้"
ดิวพูดเองเสร็จสับก็รีบอุ้มลูกสุนัขตัวน้อยกลับบ้านก่อนที่ฝนตกหนักจนกลับบ้านไม่ได้ซะก่อน
"กลับมาแล้วค้าบบบ "
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง
"ฮ่าฮ่าฮ่า หยุดก่อนจัมโบ้ อย่าพึ่งยุ่งครับ"
ดิวรีบห้ามเจ้าจัมโบ้สุนัขตัวโตพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ที่เข้ามาทักทายตนเองด้วยการกระโดดเลียใบหน้า เจ้าจัมโบ้มีหรือจะเชื่อฟัง มันเข้าไปสำรวจสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมที่เจ้าทาสมันเก็บมาด้วยทันที
เจ้าจัมโบ้สุนัขเพศผู้วัยหนึ่งขวบปี สีขนเหลืองทอง สีน้ำตาลเข้มตรงใบหู มีนิสัยที่แสนซน จัดเข้าขั้นที่ดื้อที่สุด พลังเหลือล้น จนเจ้าทาสหมายเลข1-3 ต้องปวดหัว แต่ถึงกระนั้นทั้งคุณพ่อคุณแม่ก็รักและหวงเจ้าจัมโบ้ยิ่งกว่าลูกแท้ๆอย่างดินพัฒน์
"กลับมาแล้วหรอลูก "
"หื้ออ แล้วได้อะไรมาด้วยละนั้น" คุณแม่ถามด้วยความสงสัยหลังจากเห็นสิ่งที่ลูกอุ้มมาด้วย
คุณพัชนภา ทาสหมายเลขหนึ่งของเจ้าจัมโบ้ สปอยลูกรักยิ่งกว่าใคร ตอนแรกบอกไม่เลี้ยงแต่หลังๆมาดูแลดีกว่าเขาที่เป็นลูกแท้ๆ จนสงสัยว่าหรือจริงๆแล้วเขาคือลูกที่ถูกเก็บมาเลี้ยง
"อ้อ ชื่อปีโป้ครับ ดินเห็นที่สวนสาธารณะเลยเก็บกลับมาด้วย" ดินพัฒน์ตอบออกไปพร้อมกับชูลูกสุนัขในอ้อมแขนให้ผู้เป็นมารดาได้เห็นชัดๆ
“แอ๊วววว”
"ไอ้ดิน! ทำไมไม่ปรึกษาแม่ก่อน "
"แม่ไม่ให้เลี้ยงนะ แค่จัมโบ้ก็จะตายอยู่แล้วเนี่ย"
คุณพัชนภาโอดครวญออกมา เมื่อเห็นสิ่งที่เจ้าลูกชายตัวดีนิสัยขี้สงสารทุกสิ่งอย่างอุ้มสุนัขตัวน้อยมาด้วย มองจากสายตาอายุน่าจะราวๆสองเดือนได้ เนื้อตัวผอม มอมแมม เห็นแล้วช่างน่าสงสาร
"โถ่ แม่ครับบบ แม่ไม่สงสารมันหรอ ดูสิน่ารักจะตาย"
"ไม่ได้ๆ ไม่เลี้ยงอีกเด็ดขาด" เมื่อคุณแม่พูดแบบนั้นแล้ว ใครจะกล้าขัด
ยกเว้นเขา นายดินพัฒน์ คนนี้!!
หลายเดือนผ่านไป
โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!
"ว่าไงคะลูก น้องปีโป้หิวแล้วเหรอคะ"
"มา เดี๋ยวคุณแม่ให้อาหารนะคะ เด็กดี " คุณแม่หรือคุณพัชนภาพูดเสียงเล็กเสียงน้อยกับสุนัขบางแก้วที่ตนบอกไม่เลี้ยงในคราก่อน
"ไหนว่าแม่ไม่เลี้ยงไง เสียงสองเสียงสามเลยนะ"
"กับลูกแท้ๆ เคยพูดแบบนี้ด้วยไหม "
ดิวตัดพ้อออกมา เมื่อเห็นมารดาของตน คุยกับปีโป้เสียงอ่อนเสียงหวาน ตอนนี้เจ้าปีโป้หมาผอมแห้งคราวก่อนกลายเป็นหมาอวบอ้วน บริเวณใบหน้าสีขนน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ หูตั้งตรง ลำตัวจนถึงหางมีสีขาว กลางลำตัวมีขนสีน้ำตาลไหม้ครึ่งวงกลมและมีจุดสีน้ำตาลอ่อนๆตลอดลำตัวที่เกิดจากขนหลุดร่วงเมื่อตอนที่เป็นหมาจร ตรงโคนหางมีขนสีน้ำตาลคล้ายวงแหวน ว่าแต่มองดูแล้วลูกสาวคนสวยของบ้านมีเสน่ห์สุดๆเลยนะเนี่ย
"แกควรที่จะชินได้แล้วนะเจ้าดิว " คุณพ่อพูดขึ้น ก่อนจะเสริมอีกว่า
"กับจัมโบ้ แม่แกก็บอกจะไม่เลี้ยง เป็นไงล่ะทีนี้ เลี้ยงดีกว่าลูกกว่าผัวอีก" คุณพ่อพูดเสร็จก็เดินไปลูบหัวเข้าจัมโบ้
คุณดนัย ทาสหมายเลขสอง ทำหน้าที่ในการพาเจ้านายทั้งสองไปเดินเล่นออกกำลังกาย คนนี้ก็สปอยเหล่าลูกๆไม่แพ้เบอร์หนึ่ง ถึงแม้จะดุแต่มือซ้ายลูบหัวมือขวาให้ขนม ทั้งกอดทั้งโอ๋ เจ้าหมาซนทั้งสองชอบใจสุดๆ
"คุณก็ว่าแต่ฉัน คุณเองก็ไม่ต่างกันหรอก" คุณแม่ตอบกลับคุณพ่อเมื่อเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม
"สรุปว่าดินเป็นลูกที่เก็บได้จากข้างทางใช่ไหมเนี่ย ดูสิ แม่ก็มีเจ้าปีโป้หมาอ้วน พ่อก็มีเจ้าจัมโบ้หมาเน่าอีก " ดินพัฒน์พูดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจมันเลย
"อ้าว แกเพิ่งจะรู้เรอะ ฉันนึกว่าแกรู้ตัวตั้งนานแล้ว ใช่ไหมคะ น้องปีโป้~" คุณแม่เมื่อมีโอกาสก็พูดแกล้งลูกชายของตนทันที
"โถ่~~ คุณแม่" ดินโอดครวญขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคุณแม่พูดแบบนั้น
ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณพ่อคุณแม่หัวเราะออกมาจนน้ำตาเล็ด เมื่อเห็นลูกรักหน้าหงิกหน้างอเป็นปลาทูในเข่งที่วางขายตามตลาดสด
โฮ่ง! เจ้าจัมโบ้เมื่อเห็นทาสของตนกำลังเล่นสนุกกันก็อยากที่จะมีส่วนร่วมไปด้วย มันกระโดดกอดทาสหมายเลขสามของมันพร้อมเห่าไปหนึ่งที
"ย๊าาา จัมโบ้หยุดเลยนะ"
"จัมโบ้~~ ปล่อยยยย"
"ฮ่า ฮ่า จัมโบ้ปล่อยพี่ครับ ฮ่า ฮ่า" คุณแม่พูดห้ามออกมาอย่างไม่จริงจัง เมื่อเห็นจัมโบ้กระโดดกอดดินพัฒน์พร้อมทั้งเลียหน้าเลียตาเอาหัวถูไถไม่หยุด
"ปีโป้ไปช่วยดินเร็ว หยุดกินก่อนลูก" ปีโป้ลูกเล็กของบ้านกำลังก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่สนใจสิ่งรอบข้าง สมกับเป็นหมาอ้วนจริงๆ
หลังจบปีการศึกษาแรก เริ่มปีการศึกษาใหม่ นักเรียนชั้นม.6 เริ่มว่างจากการเรียน แต่อ่านหนังสือเตรียมสอบหนักขึ้น ดินพัฒน์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาเริ่มที่จะจริงจังสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยมากขึ้น จนแทบไม่มีเวลาว่างไปเล่นกับเจ้าจัมโบ้และปีโป้ สุนัขหน้ามึนทั้งสอง
แปะ แปะ
"อะไรจัมโบ้ ฉันอ่านหนังสืออยู่ เห็นไหม หื้มมม" เจ้าจัมโบ้เห็นเจ้าทาสหมายเลขสามที่ไม่ยอมมาเล่นกับตนหลายวันแล้ว จึงขึ้นมาเรียกโดยการใช้เท้าควักแปะๆกับหน้าขาของดินพัฒน์ มันวางกระดูกปลอมชิ้นโตของจากปาก พร้อมใช้ตาอ่อนตาหวานมองมาที่ดิน เป็นเชิงกดดันว่า ลุกขึ้นมาเล่นกับเราเลยนะ
"ไม่เอาหรอก ไปเล่นกับปีโป้นู้นนนน" ดินพัฒน์ไม่ยอมใจอ่อน เขาส่ายหน้าพร้อมทั้งชี้มือไปที่หน้าประตู ให้เจ้าจัมโบ้รู้ว่า ตนจะอ่านหนังสือ ไม่ว่าง
หึ่มม
เจ้าจัมโบ้แสนรู้งาน มันครางฮึมฮัมก่อนคาบกระดูกปลอม แล้วเดินสะบัดตูดออกไปจากห้องของดินทันที
10 นาทีผ่านไป
แปะ แปะ
"อะไรปีโป้ ไปเล่นกับจัมโบ้ข้างนอกเลย"
เวลาผ่านไปไม่นาน เจ้าปีโป้หมาอ้วนก็ขึ้นมาตามเจ้าทาสของมันต่อจากเจ้าจัมโบ้ แต่เจ้าจัมโบ้ไม่ได้คาบของเล่นมา มันตบมือลงขาของเจ้าทาสเบาๆ ก่อนจะล้มตัวนอนหงายท้อง กลิ้งไปกลิ้งมา แต่สายตาไม่ละไปจากดินพัฒน์สักวินาที มาเล่นกับเราเลยนะ ทำขนาดนี้แล้วอะ
"ไม่ นู้นนน ประตู" เป็นอีกครั้งที่ดินชี้นิ้วไปประตู บอกให้เจ้าปีโป้หมาอ้วนรับรู้ ออกไป ไม่ใจอ่อน
เมื่อลูกสาวคนสวยสุนัขบางแก้วเดินออกไปจากห้อง ดินพัฒน์ยกยิ้มพลางส่ายหัวออกมา เขาอยากรู้ว่าลูกๆของเขาจะทำอย่างไรต่อ
10 นาทีผ่านไป
แปะ แปะ
"ไม่จัมโบ้ไม่"
เป็นแบบนี้ทุกๆสิบนาที เจ้าจัมโบ้และปีโป้จะสลับกันขึ้นมาตามเจ้าทาสไปเล่นด้วย งัดสารพัดวิธีออกมาใช้ เจ้าทาสก็ไม่ใจอ่อน
แปะ แปะ
"คราวนี้จัมโบ้หรือปีโป้"
"อะไรเนี่ยจัมโบ้ ฮ่า ฮ่า ปีโป้ก็เอาด้วยหรอ ฮ่า ฮ่า"
เจ้าปีโป้สะกิดเจ้าทาสก่อนที่จัมโบ้จะมุดไปซุกที่พุงน้อยๆ มันใช่หัวถูไถเจ้าทาสใช้สายตาออดอ้อนอย่างเต็มที่ ส่วนเจ้าจัมโบ้นอนทับปลายเท้าของดินพัฒน์ก่อนจะเกลือกกลิ้งอยู่ตรงนั้นจนเขายอมแพ้
"โอเคๆ ไปๆ ไปเล่นกัน ฮ่าฮ่า"
เจ้าจัมโบ้ เจ้าปีโป้ เมื่อได้ยินคำว่าไปเล่นพวกมันก็ยอมหยุดแต่โดยดี ดินพัฒน์จึงได้เวลาออกไปเดินเล่นกับสุนัขทั้งสองสักที เขาปิดหนังสือ เก็บอุปกรณ์ต่างๆให้เข้าที่ กดปิดโน๊ตบุ๊คตัวโปรดที่เปิดเพลงคลอขณะอ่านหนังสือ
"อย่าดันสิจัมโบ้" เจ้าจัมโบ้ใช้หัวดันขาให้เขาเดิน ส่วนเจ้าปีโป้เดินนำข้างหน้า แล้วหันมามองเขาเป็นช่วงๆ เพื่อเช็คดูว่าเจ้าทาสจะเล่นตุกติกไหมนะ
“แม่ครับ ดินพาจัมโป้กับปีโป้ไปเดินเล่น” ดินพัฒน์เดินบอกคุณแม่ของตนในห้องครัวที่กำลังเตรียมทำอาหารเย็นอยู่
“โอเคจ้า อย่ากลับค่ำนะลูก ดูไอ้หน้ามึนดีๆด้วยล่ะ” คุณพัชนภาเอ่ยบอกกับลูกชายของตนที่กำลังจะออกไปเดินเล่นข้างนอกให้กลับมาให้ทันมื้อเย็นและให้ดูแลเจ้าหน้ามึนทั้งสองดีๆ กลัวเหลือเกินที่ลูกชายที่ตัวเล็กๆของตนจะคุมสุนัขไม่ได้ โกลเด้นสุนัขตัวโตกับบางแก้วที่แม้จะตัวเล็กกว่า แต่แรงไม่ใช่น้อยๆ อ่า น่าเป็นห่วงจริงๆ
“ค้าบบบ”
ความคิดเห็น