สงครามมหาเทพ
เมื่อ 2500 ปีก่อน บนโลกมีเพียง 3 เผ่าพันธุ์ คือ เทพ เอลฟ์ และ ออค เอลฟ์เป็นผู้ปกครองโลก โดยมีออคเป็นทาศ
ผู้เข้าชมรวม
306
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เมื่อ 2500 ปีก่อน บนโลกมีเพียง 3 เผ่าพันธุ์ คือ เทพ เอลฟ์ และ ออค เอลฟ์เป็นผู้ปกครองโลก โดยมีออคเป็นทาศเนื่องจากออคมีแต่กำลังแต่ไร้ซึ่งสมอง ส่วนเทพก็มัหน้าที่สร้างสิ่งต่างๆบนโลก เลออน เทพผู้คุมประตู นรก เกิดคิดวิปริด นำดวงวิญญาณ ของ เอลฟ์และออค มารวมกัน เกิดวิ่งมี่ชีวิตใหม่ ที่มีทั้งความฉลาดที่ได้มาจากเอลฟ์ และความแข็งแรงที่ได้มาจากออค เลออนเรียกสิ่งที่เขาสร้างมาว่า มนุษย์ แต่แล้ว เลออนไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เขาเริ่มสร้าง ก่องทัพมนุษย์ขึ้นเรื่อยๆ ในที่ห่างไกลบนโลกมนุษย์ เพื่อที่จะนำมาต่อสู้กับเพทองค์อื่นเพื่อยกตัวเองเป็นมหาเทพ แต่แล้ว เทพโฟคาซ เทพผู้ดูแลเวลาของโลกมนุษย์ล่วงรู้แผนการของ เลออน เทพดิพเรซ แม่ทัพแห่งกองทัพสวรรค์ได้สังการลงไปยังโลกมนุษย์ ให้เอลฟ์และออค โจมตีกองทัพมนุษย์
ที่ทุ่งกว้าง อีนดิส เป็นที่ที่โลกต้องจดจำ เพราะสงครามครั้งนั้นยิ่งใหญ่นัก กองทัพมนุษย์นับแสน ปะทะกับกองทัพเอลฟ์และออคซึ่งมีจำนวนพลพอๆกัน ระหว่างการต่อสู้เผาออคได้ทรยศชาวเอลฟ์เนื่องจากทุกกดขี่มานาน บรูทัส หัวหน้าเผาออคที่ทำการทรยศ สงครามครั้งนั้นจึงเป็นการต่อสู่ของ 3 ทัพให้คือ เอลฟ์ มนุษย์และออค สิ้นสุดสงครามมนุษย์เป็นฝ่ายชนะ ส่วนเอลฟ์เหลือรอดไม่กี่พันและหลบหนีไปอยู่ในป่า ออคนั้นแทบสูญพันธุ์ไป
เลออน คิดว่ากองทัพของเขาแข็งแกร่งแต่ยังมีจุดอ่อนคือ อายุ ซึ่งมีเพียง50ปี เขาจึงนำกองทัพมนุษย์ที่เหลือ บุกหอคอยแห่งเวลา และฆ่าเทพโฟคาซผู้คุมเวลาโลกมนุษย์ แล้วปรับให้มนุษย์มีอายุ 1000 ปี
เทพดิพเรซเห็นว่า เลออนคงไม่หยุดแค่นี้จึงทำกองทัพเทพ500000นายเขาโจมตี หอคอยแห่งเวลา กองทัพของเลออนเหนื่อยล่าและเหลือกำลังพลน้อยพ่ายแพ้โดยสิ้น เลออนโดนประหาญ ส่วนมนุษย์ทุกใช้เป็ยทาศ
--------------------------------------------------------------------------
ในตรอกเล็กแห่ง หนึ่งมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งซึ่งหนีมาจากการถูกทารุนยืนลอมวงกัน และมีอยู่คนหนึ่งพูดขึ้นว่า “เราจะสู้”
“จะสู้หรือ” “บ้าไปแล้ว” “ดูพวกผู้คุมสิตัวใหญ่กว่าเราเท่านึงเลยนะ”
“ถ้าพวกท่านจะถ่อยก็หันหลังกับไปส่วนข้าจะ
.”
โคลม(เกิดจากออคผสมกับก็อบลิน)ตัวใหญ่3ตัวยืนอยู่หน้าพวก คนงานที่คิดจะต่อต้าน เทพ
ณ หมู่บ้าน ดิเซมเบอร์ (หมู่บ้านของพวกคนแคะ)
เดิธ “มาคัสแกอยู่ไหนมาช่วยข้าหน่อย มาคัส”
มาคัส “มาแล้วเจ้านาย”
เด็กหนุ่มวัย 15 ปีคลานมาหาเจ้านายที่ตัวเล็กกว่าเขาถึง 2 เท่า
“เดิธๆๆ”
“มีอะไร ดีคัน”เดิธพูดพร้อมกับเดินไปเปิดประตูให้
ดีคันเดินเข้ามาพร้อมเหงือเต็มตัว “แฮกๆๆ พะ...พวกโคลม”
ปุ้ง!! ทหารโคลมนับ 10 พังประตูเข้ามา เจ้าพวกคนแคะที่นำมนุษย์มาเลี้ยงไว้ถือว่าคิดคดต่อ เทพต้องกำจัด เดิธหยิบ ขวาน เก่าออกจาก!บและโยนให้ดีคัน “เห็นอย่างนี้พวกข้าก็เคยออกรบนะเจ้าพวกโคลมหน้าโง่” ฟิ้ว~~ปัก ลูกธนูดอกใหญ่ปักลงกลางอก เดิธ เดิธดวงตาเบิกโพลงนะนอนแน่นิ่งไป
ดีคัน “อย่าฆ่าข้านะนายท่าน ข้าไม่คิดว่านายพลแห่งโคลมจะมาด้วย”
“ข้าแอริแซด. ไม่เคยไว้ชีวิตศัตรู ล่าก่อน”
ร่างของ ดีคัน ล่วงลงพื้น มาคัสไม่อยากนึกว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขา
“อะฮ่า เจ้าเด็กมนุษย์ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวเจ้าก็จะได้ไปพบพวกมันแล้ว” แอริแซดพูดพร้อมเงื้อดาบขึ้นมา
ฟิ้ว~~ลูกธนูสีเงินวิ่งมา แต่แอริแซดใช้โล่สีดำอันใหญ่ กันไว้ได้อย่างชำนาญ
แอริแซด “ซุ้มโจมตีได้ดีใร้เสียง แต่ยังไร้พลัง”
แอริแซด “ออกมาได้แล้วเจ้ามนุษย์จากเงามืด”
ชายหนุ่มผมสีทอง ในชุดรัดรูปเดินออกมาจากหลังต้นลนต้นใหญ่
แอริแซด “ใจกล้ามากคิดจะสู้กับพวกเรา เจ้ามนุษย์ตัวจิ๋ว”
เซโร่ “ หุบปากแล้วก็ตายซะ! ”
แอริแซด “
.ฆ่ามัน”
โคลม 9 ตัววิ่งเขาใส่ เซโร่ “โง่จิงๆ” ลูกธนูนับ 10 พุ้งออกมาจากพุ้มไม้ข้างหลัง เซโร่ ตรงเข้าใส่พวกโคลม 9 ตัว
แอริแซด “ไม่ได้มาคนเดียวรึ” แอดริแซดพูดพร้อมยิ่งพลุขึ้นฟ้า
เซโร่ “แล้วข้าจะกลับมาเด็ดหัวเจ้า”
เซโร่ “ไปเจ้าหนู”
มาคัส วิ่งตาม ตามเซโร่และทหารของเขามานานมาจนเข้ารู้สึกว่ามันผ่านไปครึ่งวันแล้ว แล้วเซโร่ก็หยุด พักเขาบอกว่าพักก่อน
มาคัส “จะพาผมไปไหน”
เซโร่ “กินซะ อาหารกลางวัน” เซโร่พูดพร้อมโยนขนมปังก้อนให้
มาคัส “จะพาผมไปไหน”มาคัสพูดซ้ำ”
เซโร่ “ไม่รู้ ”
มาคัส “หมายความว่าไง ผมคิดว่าจะพาผมเข้าวังซะอีก”
เซโร่ “พวกข้าเป็นคนเร่ร่อน ข้าตามฆ่าพวกโคลมไปวันๆไม่ใช่ทหารอย่าที่เจ้าคิด”
“ที่แท้ก็พวกมนุษย์เร่ร่อนนี้เอง”
แอริแซดพร้อมกับทหารโคลมนับร้อยยืนอยู่เบื้องหน้าพวก เซโร่
แอริแซดและทหารนับร้อยค่อยๆเคลื่อนพลเขามาหาพวกเซโร่ พวกของเซโร่เงื้อดาบขึ้นมาเตรียมพร้อม “เยอะกว่านี้ก็เจอมาแล้ว” พวกของเซโร่พูดขึ้น พร้อมกับทหารโคลมเคลื่อนพลเข้ามาเรื่อยๆ
มาคัสคิดในใจว่าต่อให้พวกเซโร่จะแข็งแกร่งขนาดไหนแต่ก็คงไม่สามารถต้านทานศึกครั้งนี้ได้
ทหารโคลมไกลเข้ามา 100เมตร 50เมตร 30เมตร 20เมตร 10เมตร ปุ้ง!! เสียงของโล่กับดาบปะทะกัน มาคัสไปหลบหลังพุ่มไม่ข้างทางตามคำบอกของเซโร่ ทั้ง2ฝ่ายปะทะกันปะมาณ 10 นาที เหลือเพียงเซโร่คนเดียว ทหารโคลม ล้มตายนับสิบ ถึงพวกเซโร่จะมีฝีมือขนาดไหนแต่มาคัสก็พอจะรู้ผลแพ้ชนะแล้ว ก่อนที่ทั้ง2ฝ่ายจะเริ่มปะทะกันอีกครั้งก็มีฝีเท้ามานับร้อยเร่งรุดใกล้เข้ามา แล้วเพียงไม่ถึงนาทีก็มีอัศวินนับสิบอยู่เบื้องหลังพวก เซโร่
“ข้า โอม บุตรแห่งเซริซ พวกโคลมทั้งหลายยอมจำนนโดยดีแต่หากแม้นจะสู้ก็จงหยิบดาบของเจ้าแล้ววิ่งเข้ามา”
อัศวินนายหนึ่งที่ขี่ม้าสีแดงเพลง พูดขึ้นพร้อมเตรียมเข้าปะทะพวกโคลม พวกเซโร่เดินเข้ามารวมกลุ่มกับเหล่า อัศวิน แอริแซดสั่งการพลทหารโคลมของเขา “ตั้งขบวนรบ!!!” ทหารของทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันอยู่นานสองนาน พวกโคลมก็ล่าถอยไปเนื่องจาก แอริแซดสิ้นชีวิตแล้ว
“ท่านคือ” เซโร่ถามอัสวินขี่ม้าสีแดงเพลงอีกครั้ง
“ข้าโอม บุตรแห่งเซริซ หัวหน้าค่ายกลุ่มต่อต้าน และ ทหารที่ยืนอยู่ข้างข้า เซทเซอร์ ทหารพูดรวมรบเคียงบ้าเคียงไหล่กับข้า” อัศวินพูด
“ตามข้ามาข้าจะพาพวกเจ้าไปที่พักของงข้า” อัศวินพูดพร้อมเดินนำไปข้างหน้า
พวกเซโร่และมาคัสเดินตาม อัศวินทั้งหลายไป ประมาณครึ่งก็ถึงเมืองๆหนึงซึ่งมีการรบกันปะปรายระหว่างทางมีมังกรของฝ่ายเทพบินเต็มท้องฟ้า แต่ พวกอัศวินดูท่าทางไม่แปลกใจ แล้วในที่สุดก็ถึงหน้าปราสาทที่อยู่พายในเมือง
“นี้คือเมือง มิดีเนท ที่ตั้งของค่ายกลุ่มต่อต้าน”โอมพูดขึ้น
“แล้วจะให้ข้ากับมาคัสทำอะไร” เซโร่พูด
“เจ้าเซโร่ใช่ไหม ฝีมือดาบใช้ได้ ไปอยู่หน่วยทะลวงฟัน” โอมพูด
“เจ้าหนูเจ้าใช้ดาบเป็นไหม”
“เออ ผมชอบรักษาคนมากกว่านะ” มาคัสตอบ
“หรอ งั้นไปอยู่โรงครัว” โอมพูดพร้อม เดินเข้าไปในปราสาท
แต่ก่อนที่ โอม จะเข้าไปในปราสาทได้พูดอะไรกับ เซทเซอร์ แล้วเซทเซอร์ก็ทำให้ มาคัสตกใจแทบเป็นลมเมื่อเขาเป่าปากแล้วมังกร ตัวใหญ่สีดำก็บินลงมา เขาขึ้นนั้งมันพร้อมกับบินออกไปในรัตติกาล มาคัสหันกลับมาเซโร่ก็หายไปเสียแล้ว
เซโร่เดินมาเรื่อยๆเขาไม่ได้อยากเป็นอัศวินซะหน่อย ฟิ้ว~~ มีดสีเงินฟุ้งมาหามาคัส มาคัสมองไปทางที่มาของมีดเล่มนั้น พบ เด็กหนุ่มหน้าตาใส่ซื่ออายุคงรุ่นเดียวกับมาคัส ยืนอยู่บนซากปรักหักพัง
“ไงทหารใหม่ รึ” เด็กคนนั้นพูด
“เป็นเด็กเป็นเล็ก เอามีดมาปาเล่นมันไม่ดีนะ นายหนู” เซโร่พูด
“เด็ก รึ ท่านคงจะยังไม่รู้อะไรข้านะอายุมากกว่าท่านหลายรอบเชียวละ” เด็กคนนั้นพูด
“หมายความว่าไง” เซโร่ถาม
“ข้านะ โดนสาปให้ไม่เติบโต ข้างอายุ 15 มา20ปีแล้ว” เขาพูด
“งั้นรึ งั้นค่ายฝึกทหารหน่วยทะลวงฟันอยู่ไหน” เซโร่ถาม
“ข้าเนี้ยแหละ หัวหน้าหน่วยทะลวงฟัน คาส บุตแห่งแมกเน็ต” เขาพูด
เซโร่ตาม คลาส ไปสักพักจนในที่สุดก็ถึงประตูค่ายทหาร มีทหารนับร้อยฝึกฝีมือดาบอยู่ เซโร่ค่อยค่อยเดินเข้าไปในค่าย
“เจ้าไปหาที่พักแล้วมาฝึกข้าขอดูพื้นฐานเจ้าหน่อย” คลาสพูด
เซโร่เดินไปหาเต้นว่างๆๆเพื่อจะหาที่พัก ในที่สุดเซโร่ก็เลือกเต้นด้านในค่ายเป็นที่พัก เซโร่ว่างของลงแล้วเดินไปหา คลาส
“เสร็จแล้วรึ งั้นเจ้าหยิบดาบแล้วลองไปสู้กับ อืม~~บูทเตอร์”คลาสพูดพร้อมชี้ บูทให้เซโร่ดู
บูทเตอร์เป็น เป็นชายหน้าตาดี ท่าทางขี้เล่น เขากำลังสู้กับทหารนายหนึ่งอยู่ เซโร่เดินเข้าไปหาเข้า
“นายใช้บูทเตอร์ใช้ไหม?” เซโร่ถาม
“ใช้ทหารใหม่ละสิที่นี้ใครๆก็รู้จักข้า” เขาพูด
“คลาสให้ข้ามา”
“อ๋อ เข้ามาเลย”บูทเตอร์พูด
ทั้งสองหยิบดาบขึ้นมา บูทเตอร์เมื่อจับดาบท่าทางเขาดูเปลี่ยนไป เซโร่พร้อมแล้ว เขาทั้งสองต่อสู้กันจิงจังเหมือนกำลังอยู่ในสนามรบ เขาสู้กันนานสองนาน แล้วก็มีม้าเร็วเข้ามาในค่าย
“คลาส ทหารจากโพรอมมาถึงแล้ว” ทหารม้าเร็วตะโกนบอก
“วันนี้หยุดซ้อมได้ ข้าจะไปรับทหารจากโพรอม” คลาสพูด
มาคัสทำงานอยู่ในโรงครัวที่ทั้งเหม็นและฉุน เขาพยามหรีออกมาจากโรงครัว 3 รอบในที่สุดก็หนีออกมาได้ มาคัสเดินทางมาตามทางพยายามหาเซโร่ แต่เขาเห็นกองทหารเดินมาไม่เป็นระเบียบ พร้อมกับชายขี่มังกร เซทเซอร์นั้นเอง พวกกองทหารเดินเข้ามาในเมืองหลายคนมีบาดแผล หลายคนแขนขาด หลายคนแบกศพเพื่อนเดินเข้ามา กองทหารนี้คือกองทหารที่แพ้สงครามนั้นเอง มาคัสเดินไปดูบาดแผลของทหารนายหนึ่ง
“ข้าไม่เป็นไรไปดูเพื่อนข้า”ทหารนายนั้นพูด
“ท่าน เพื่อนของท่านตายแล้ว”มาคัสบอก
“แผลท่านข้าจะรักษาให้”
มาคัส ยื่นมือออกไปแล้วงึมงัมอะไรในลำคอ แผลของทหารนายนั้นเริ่มหาย ทหารนายนั้นมีท่าทีตกใจ
“เจ้ามีเวทมนต์ เจ้าชุบชีวิตเพื่อนข้าที”เขาพูด
“ข้ารักษาได้เพียงแผลเล็กเท่านั้นท่าน”มาคัสบอก
ทหารมีท่าทางเสียใจและลมนอนลง มาคัสถามถึงการรบว่ามันเป็นเช่นไรทหารนายนั้นเล่าให้ฟังอย่างเหนื่อยๆ
พวกเราตั้งค่ายอยู่ด้านนอกเมือง มิดีเนท ห่างออกไป 100กิโล เราตั้งค่ายกันอยู่ 3 ปีไม่เคยเจอศึกครั้งได้ใหญ่เท่านี้มาก่อน พวกโคลมนับ หมื่น มังกรนับพัน เข้าโจมตีค่ายของเรา เราผ่ายแพ้โดยสิ้น ทหารในค่ายเรามีเพียง3000คนพวกเราสู้จนต้องล่าถอยมาระหว่างทางเราก็พบท่าน เซทเซอร์พอดี
มาคัสอยากรู้เรื่องราวมากกว่านี้เพื่อจะนำไปเล่าให้เซโร่ฟัง เข้าจึงแอบเข้าไปในปราสาทมาคัสแอบฟังการประชุมผ่านรอยแยกตามรองไม้
“ทหารโคลมนั้นหมื่น มังกรอีก ศึกครั้งนี้ลำบากแน่”
“ข้าว่าเราควรถ่อยออกไปแล้วทิ้งเมืองนี้ไว้กำลังพลเรามีเพียง 20000 นาย”
“ข้าว่ามันต้องเอากำลังพลมาเสริมทัพแน่ๆ เราควรถอย”
“เรายังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด”
“ข้าให้ ราฟ ริวไปสืบมาแล้วทหารมันมีประมาณ....ห้าหมื่นนายและอาจมีมาสมทบอีก”
“หยั่งงั้นเรายิ่งควรจะถ่อยไปใหญ่ ห้าหมื่อแค่ทหารนะ มันยังมีมังกรอีก”
“เราควรให้ท่านโอมตัดสิน”เซทเซอร์พูด(มาคัสจำนำเสียงได้)
“
..”
“ว่าไงท่านโอม”
“ข้าจะสู้”
มาคัสตกใจกับเรื่องที่เขาได้ยินสงครามกำลังจะเกิดขึ้น เพราะเขา เพราะเขาเป็นตัวซวย
แก มาคัสแกมันเด็กที่ถูกสาปแก มันลูกครึ่งคนกับเอลฟ์ แกมันปีศาจ อยู่ที่ไหนที่นั้นต้องย่อยยับ แกทำลายมาเป็น สิบสิบเมืองแล้ว แกมันตัว ซวย ไม่จิง!!!!!
มาคัส สดุ้งติดมาบนเตียงสีขาว มีชายสองคนกำลังคุยกัน คนหนึ่งเขาจำได้แม่น เซโร่นั้นเอง
“เซโล่ๆๆ”มาคัสเรียก
“ฟื้นแล้ว รึ”เซโร่บอก
“เจ้าแอบไปทำอะไรใน ปราสาท หือมาคัส”เซโร่ถามเสียงดัง
“เออ ข้า....”มาคัสอ้ำอึ้ง
“555”ชายอีกคนที่เซโร่คุยด้วยหัวเราะขึ้น
“เซโร่ท่านเลิกแกล้งเด็กนี่ได้แล้ว” เขาพูดต่อ
มาคัสเคืองนิดๆที่มีคนมาว่าเขาเด็กทั้งๆที่ชายคนนั้นอายุไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่
“เจ้าเป็นใครเจ้าเด็กน้อย”มาคัสถามกลับ
“เด็กน้อย รึ”
“ข้าอายุเท่าเจ้าก็จิงแต่ตอนอายุ13ข้าก็ข้าคนเป็น10แล้วเจ้าหนู”เขาพูดอวดตัว
“เจ้าฆ่าคน รึ”
“ตอนอายุ13ข้าก็ช่วยชีวิตชาวบ้านเป็น10คนแล้วเหมือนกัน” มาคัสพูดอวดตัวเช่นกัน
“พอได้แล้วทั้งสองคน”เซโร่พูด
“ข้าลืมแนะนำไปนี้ ราฟ ริว นักฆ่าที่ไปสืบข่าวเรื่องกำลังพลของศัตรู”เซโร่บอก
เซโร่หันไป ราฟ ริวก็ไม่อยู่แล้ว มาคัสเลยเล่าเรื่องที่ได้ยินมาให้เซโร่ฟัง แต่เขากลับบอกว่ารู้เรื่องหมดแล้ว ระหว่างที่เขาสลบมีการประกาศปิดประตูเมืองเนื่องจาก กองทัพโคลมจะเข้ามาประชิดเมืองภายใน 3 วัน เป็นอย่างที่มาคัสได้ยินมาจิงๆ ท่านโอมจะสู่
ระหว่างการเตรียมพร้อมรบนั้นมาคัสได้ไปอยู่หน่วยแพทย์เนื่องจากทหารที่เขารักษาแผลให้ได้ไปบอกหัวหน้าหน่วยแพทย์ เรื่องมนย์ขาวที่เขาใช้ ทหารเดินกันหน้าตึงเครียดเขาไม่พบกับเซโร่อีกเลยตังแต่เจอกันในห้องพยาบาลแต่ ดันเป็น ราฟ ริวที่เขาเจอบ่อยเป็นพิเศษ ซึ่งเขาไม่ดีใจเลย ราฟ ริวจะโพล่มาตามหลังคา ต้นไม้ ราฟ ริวไม่ได้รวมรบด้วยวันพรุ้งนี้เขาต้องออกจากเมืองไป เนื่องจากเขาเป็นหน่วยหาข่าวจะให้ศัตรูเห็นใบหน้าที่แท้จิงไม่ได้
วันที่ 2 ก่อนข้าศึกเขาประชิด นายทหารเริ่มประจำตำแหน่ง หน่วยพลธนู ประจำตำแหน่งตามด้วนบนกำแพงปราสาท และตามป้อมปราการต่างๆ วันนี้ประตูเมืองปิดแล้ว และมาคัสก็ไม่เจอกับราฟ ริว ซึ่งคงออกจากเมืองไปแล้ว
วันที่ 3 ก่อนข้าศึกประชิด มีการแจกบอกแผนการรบออก แผนการรบคือเราจะเป็นฝ่ายตังรับ เนื่องจากภูมิประเทศของเมืองทำให้ข้าศึกจะโจมดีได้เพียงด้ายหน้าด้านเดียวคือด้านหน้าและกำแพงเมืองมิดีเนทไม่เคยแตกไม่ว่าจะศึกใหญ่แค่ไหน คืนนี้ไม่มีใครนอนหลับทุกคนยืนประจำตำแหน่งไม่มีแม้นแต่เสียงกระซิบ
วันที่ข้าศึกประชิดทหารรอค่อยทั้งคืนจนถึงเที่ยงวัน มีข่าวมาว่าทัพของพวกโคลมจะประชิดในเวลากลางคืน พวกทหารไร้ซึ่งกำลังใจเนื่องจาก 3 วันที่ผ่านมาเสบียงไม่สามารถผ่านเข้ามาได้ และเรื่องที่พวกโคลมอาจ มีกำลังพลมากถึง แสนนาย ทหารทุกคนไร้ซึ้งกำลังใจ เวลา 12.00 น. ห่างจากตัวกำแพงเมือง แปดร้อยเมตร เห็นเพียงคบเพลิงที่พวกโคลมถือมา เห็นเป็นลูกไฟนับหมื่นดวง เปรี้ยง!! เสียงฟ้าแล็บทำให้เห็นพวกโคลมนับแสนเคลื่อนพลเข้ามา ทหารบ้างคนเริ่มถอดใจทิ้งอาวุธ ทหารต่างทิ้งอาวุธไปตามๆๆกัน แล้วก็มีเสียงหนึ่งพูดขึ้น
“ข้าโอม บุตรแห่งเซริซ ศึกครั้งนี้ข้าขอพูดกับทุกคนอย่างพี่น้องว่า ข้าก็ไม่มั่นใจเลยว่าเราจะชนะ ” เสียงทหารคุยกันระงมไปหมด “ถ้าท่านหนีไปตอนนี้แน่นอนในวันนี้ท่านจะรอด ท่านอาจจะมีชีวิตอยู่ต่ออีกวัน สิบวัน สิบเดือนหรือสิบปี แต่ท่านก็ยังคงเป็นทาสอยู่และท่านก็จะคิดถึงโอกาสในวันนี้ที่ท่านไม่ได้ ไข้วขว้ามันไว้”
“เฮ้ เฮ้” เสียงทหารโห่ร้องกึกก้อง
อีก300เมตรข้าศึกจะประชิดตัวเมือง พลธนูเตรียมพร้อมยิง “เตรียม ยิง!!” ฟิ้วๆๆๆๆ เสียงลูกธนูนับพันพุ่งออกไปทหารโคลมนับร้อยล่วงลงพื้น นั้นเหมือนเป็นสัญญาณ ว่าการรบเริ่มแล้ว พวกโคลมเริ่มวิ่งเข้ามานำสะพาน มาผาดกำแพง พวกโคลมเริ่มใต้ สะพานขึ้นมาบนกำแพง ทหารสู้กันอย่างนักหน่วง
“อ๊าก!! แขนฉัน”
“ไม่!!!”
“ตุ้ม!!” เกิดเสียงระเบิดจากกำแพงด้านซ้ายมีเสียงสว่างเจิดจ้ายิ่งทำให้เห็นกำลังพลของพวกโคลมที่เริ่มทะลักเข้ามาในตัวเมือง กำแพงเมืองด้านซ้ายระเบิด การต่อสู้นั้นยาวนานจนถึงรุ่งสางไม่มีวิ้แววว่าฝ่ายเราจะเป็นฝ่ายชนะฝ่ายโคลมยังเหลือกำลังถึงห้าหมือนนาย แต่กำลังพลของเราเหลือน้อยเต็มที่
ระหว่างที่กำลังต่อสู้กันอยู่นั้นก็เกิดแสงสว่างบาดตาขึ้นจากท้องฟ้าเปลวเพลิงร่วงหล่นจากฟ้าเผาผลาญ พวกโคลม จนล่าถ่อยไป
ถ่ามกลางความชุนมุนมีชายใส่ชุดคลุมดำตังแต่หัวจรดเท้าและด้านข้างมีชายผมยาวหน้าตายิ้มแย้มยืนอยู่เคียงข้าง
ทหารฝ่ายต่อต้านที่รอดชีวิตเหลืออยู่เพียงสามพันนาย แต่ทุกคนก็ได้รับบาดเจ็บ และตอนนี้ในเมืองไร้ซึ้งเสบียงและข่าวที่ โอม ได้รับบาทเจ็บสาหัสทำให้ทหารที่เหลือเดินทางออกจากเมืองไปจนหมด เหลืออยู่เพียง โอม เซทเซอร์ คลาส บูทเตอร์ มาคัส เซโร่ และ เควินหัวหน้าหน่วยยิงธนู ส่วนชายทั้งสองคนนั้นหายตัวไปไม่มีใครรู้ว่าเขามาช่วยหรือมาทำอะไรกันแน่
“ท่านโอมบาทเจ็บสาหัส เราคงต้องไปขอความช่วยเหลือจากพวกเอลฟ์” เซทเซอร์พูด
เซทพูดต่อไปว่า “เราจะไปด้วยกันหมดไม่ได้แน่เนื่องจากพวกเอลฟ์ยังไม่ไว้ใจมนุษย์”
“ข้าจะแบ่ง 2 กลุ่ม กลุ่มแรก ข้า ท่านโอม และมัสจะไปเอลฟ์ ส่วนที่เหลือให้เดินทางไปเมือง ซแลนเดอร์ แล้วเล่าเรื่องทุกอย่าให้คนที่นั้นฟัง”
เมื่อพูดจบ เซทเซอร์ ก็ออกเดินทางทันทีเขาบอกว่าเวลาทุกวินาทีตอนนี้มีค่ามากนัก
มาคัส ตื่นเต้นมากที่จะได้เดินทางไปยังเมืองเอลฟ์ มีคนบอกว่าเมืองพวกเอลฟ์สวยงามนัก แต่เขาก็อดเป็นห่วง เซโร่ ไม่ได้
ทางด้านเซโร่ในกลุ่มของเขามี คลาสหัวหน้ากลุ่ม บูทเตอร์ที่ชอบยิงมุข ห่วยๆ และเควิน ที่ยังไม่พูดอะไร ตลอดทาง คลาสบอกว่าพวกเขาต้องเร่งฝีเท้าอีกเนื่องจากยังไม่ถึงครึ่งของการเดินทาง
มาคัสตื่นขึ้นตอนเช้าวันนี้ฟ้าดูมืดครึ้มผิดปกติพวกเขาเดินทางมา 3 วันแล้ว เซทเซอร์บอกว่าจะถึงป่าของพวกเอลฟ์อย่างน้อยต้องเดินทาง ถึง หนึ่งอาทิตย์ แผลของท่านโอมยังคงมีเลือดไหลอยู่ตลอดเวลา แม้นจะมีผ้าผันแผลไว้แน่น พวกเขาเริ่มเดินทางอีกครั้งเมื่อ กินอาหารเช้าที่เซทเซอร์นำติดมาด้วย(ขนมปังแผ่น) เขาเดินทางกันอย่างไม่เร่งรีบเนี้ยงจากมีคนเจ็บอยู่ด้วย พวกเขาเดินทางมาสักพักก็ถึง ทุ่งกว้าง อีนดิส ซึ่งเมื่อ 2500 ปีก่อนเป็น ที่ๆ มนุษย์ ออคและเอลฟ์ทำสงครามกัน ที่นี้ยังคงคลุ้มด้วยกินเลือด มีหมองลงหนาที่นี้พวกเขาเดินฝ่าหมอกไป
“เซทเซอร์ท่านอยู่ไหน”
“ข้าอยู่นี้ ตรงนี้มาสิ”
“ข้าไม่เห็นท่าน หมอกหนาไปหมด”
“เซทเซอร์ได้ยินไหม”
“เซทเซอร์!!”
มาคัสคลาดกับเซทเซอร์เสียแล้ว มาคัสเดินตรงมาเรื่อยๆเขาเห็นเงาคนๆหนึ่งยืนอยู่
“เซทเซอร์ใช้ไหม”มาคัสถาม
ไม่มีเสียงตอบกลับมา มีเพียงหมอกที่ไหวแล้วร่างนั้นก็หายไป
“อย่าขยับ”
“เจ้าเป็นใครทำไมมาอยู่ในป่าของข้า”
“ข้าหลงทาง”มาคัสตอบ
“แล้วเจ้าละใคร”
“ข้า นักเวทย์ฮารุ โฮะๆๆ”
“-*-”
มาคัสคิดในใจเขาคงมาเจอนักเวทย์ปัญญาอ่อนเสียแล้ว
มาคัสเล่าให้ฮารุฟังว่าเขาหลงทางกับเซทเซอร์ ซึ่งพวกเขากำลังจะเดินทางไปหาพวกเอลฟ์
“พวกเอลฟ์หรือ ข้ารู้จักข้าพาเจ้าไปได้นะ”ฮารุบอก
“จิง รึ”มาคัสไม่ค่อยมันใจในท่าทางของฮารุเท่าไหร่
แต่ก็ให้ฮารุนำทางมาคัสเดินทางตามฮารุไปในป่าเริ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ ในป่าเรื่อมมืดลงแม้จะเป็นตอนกลางวันเขาเดินตามฮารุมานานมากจนในที่สุด พวกเข้าก็ถึงริมน้ำตก
“นี้แหละที่อยู่พวกเอลฟ์หละ” ฮารุบอก
“ไหน ไม่เห็นเอลฟ์ซักตน”
“เข้าไปในถ้ำหลังน้ำตกกัน”ฮารุบอกพร้อมเดินไป
มาคัสเดินตามาคัสไปในถ้ำในทำนั้นมืดจนมองไม่เห็นท่าไม่ได้แสงจากคบไปตามทางเดิน พวกมาคัสเดินมาเรื่อยๆจนถึงด้านใจกลางถ้ำ ในถ้ำนี้เหมือนปราสาทใต้ดิน มีพวกเอลฟ์ผิวสีคล้ำออกเทาๆเดินไปมา ไม่มากเท่าไหล่
“เจ้าพาใครมานะ ฮารุ”เอลฟ์ตนหนึ่งถาม
“เขาหลงทาง เขาบอกว่ามาหาพวกท่าน”ฮารุตอบ
“เจ้ามีเรื่องอะไรเจ้ามนุษย์”เอลฟ์ถาม
“ข้าคิดว่าเพื่อนข้าจะอยู่ที่นี้ให้ข้ารอพวกเขาได้ไหม” มาคัสบอก
“ฮาๆๆเจ้าออกไปไหนพ้นเจ้าคนเร่รอน ข้าไม่ฆ่าเจ้าก็บุญแล้ว”เอลฟ์บอก
“ให้เขาอยู่เถอะท่าน ข้าไม่มีเพื่อนแม้แต่คนเดียวเลย” ฮารุอ้อนวอน
“ข้านับถึง 3 ถ้าเจ้าเด็กนั้นยังไม่ไปหัวเด็กนั้นหลุดแน่”เอลฟ์บอกฮารุเสียงเ!้ยม
“1 2...”
ทางด้านเซทเซอร์เขาไม่มีเวลาตามหามาคัสเนื้องจากโอมลมหายใจแผ่วเบาเต็มทีเขาเร่งฝีเท้าเข้าไปในป่าเรื่อยๆ จน มาถึงหน้าทางเข้าเมืองเอลฟ์ เป็นบันได้ทอดยาวไปสู่เมืองที่ลอยอยู่บนน้ำด้วยเวทย์มนย์ของพวกเอลฟ์ เซทเซอย์แบก โอม อยู่บนหลังแล้วเดินไปตามบันได้เรื่อยๆ
“เจ้ามนุษย์นี้”เอลฟ์เฝ้าประตูคนหนึ่งพูดพร้อมง้างคันธนู ขึ้น
“ข้ามาหา ท่านเซกินะ”เซทเซอร์พูด
ทหารยามทำท่าทางลังเลพร้อมนำทางเซทเซอร์ไป ทหารยามพาเข้ามาในห้องๆหนึ่ง
“เดียวท่านเซกินะจะลงมา”ทหารพูด
เซทเซอร์ สำรวดดูรอบๆห้องตามสัญชาติญาณ ในห้องสักลวดรายสวยงามเป็นเรื่องราว เข้าสำรวดห้องอยูนาน
“คงรอข้านาน ซินะ”
เสียงนั้นมาพร้อมกับร่างเอลฟ์หญิงคนหนึ่ง ผิวขาว กำลังยิ้มและมองมาที่ เซทเซอร์ ทำให้วิญญาณของเขาเหมือนจะหลุดลอยไป
เซทเซอร์เรียกสติกลับมาได้“ข้าขอพูด ตรงๆข้ามาเพื่อให้ท่านรักษา ชายคนนี้”
“แผลหนักมากเขาคงมีเวลาไม่มากแล้วหละ ท่านอัศวิน”เซกินะบอก
“พวกเอลฟ์มีมนต์รักษาที่แข็งแกร่ง ข้ารู้”
“แล้วทำไม่ข้าต้องรักษาชายคนนี้ด้วย เมื่อเผ่าเราเคยเป็นศัตรูกัน ทำให้พวกเอลฟ์อย่างข้าต้องหลบซ่อนในป่า ส่วนพวกเจ้าอยู่อย่างสบาย”เซกินะพูดเสียงเย็นชา
“ข้าจะทำทุกอย่างที่ท่านขอ”เซทเซอร์พูด
“อ่า...อย่างนั้น รึแม้แต่ชีวิต รึ”
“แม้แต่ ชีวิตข้า”เซทเซอร์บอก
เซกินะ เดินกลับไปพร้อมทหารเอลฟ์ชายสามคนแบกร่างของ โอม ตามไปในห้อง
ทางด้าน เซโร่พวกเขามาถึงเมือง ซแลนเดอร์ นานแล้วเมืองนี้โดนพวกนักเวทย์มนย์กลุ่มหนึ่งทำลายไปซึ่งพวกเขากำลัง ต่อสู้อยู่กับพวกนักเวทย์
“เจ้านักเวทย์ 2 คนนั้นเป็นคนที่มาช่วยพวกเราในศึก มินีเดท นี้หน่า”เซโร่บอก คลาส
“ใช้แต่ต้องจับตำมาสอบสวน”คลาสบอก
คลาส เซโร่ และบูทเตอร์ สู้อยู่กับพวกโคลงกระดูกเดินได้ที่นักเวทย์คนนั้นเสกมา แต่ เควิน กลับ มุ่งหน้าไปหานัก เวทย์ สองคนนั้น
“ระวัง เควินกลับมาก่อน”คลาสบอก
เควินเดินไปพร้อมกำจัดโคลงกระดูกที่มาขวางทาง เควินเดินต่อไป
“เซเดอร์ริกข้าจะข้าเจ้า เขาวิ่งไปหานักเวทย์คนนั้น”เควินตะโกนด้วยความแค้น
“ธนู วิญญาณ”เควินยิงธนูออกไปนับสิบดอก
“เจ้ายังอ่อนหัดนัก”โคลงกระดูกเดินได้มารวมตัวกันป้องกัน เซเดอร์ริก
“เจ้าคงแค้นที่ข้าน้ำน้องชายเจ้ามาทดลองสินะ”เซเดอร์ริกบอก
“ในถานะที่เจ้าเคยเป็นอัศวินประจำตัวข้าข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”เซเดอร์บอกพร้อมร่ายมนย์ใส่เควิน เควินหลับใหลไปในนิทราที่ยาวนาน
เควินตื่นมาใน ตอนเช้า
“ตื่นแล้ว รึ”คลาสถาม
“เจ้าหลับไป 3 วันนานกว่าใครในที่นี้เลยนะ พวกข้าหลับกันไป คนละ2 วันเอง”คลาสพูดพร้อมหัวเราะลงลูกคอ
พวก เซโร่ คลาส บูตเตอร์โดนเวทย์มนย์เหมือนกัน
“เอาไงต่อ ท่านหัวหน้าคลาส”บูทเตอร์ถาม
“เราคงต้องไปหาพวกเซทเซอร์แล้วละ”
“คงเดือนทางกับเกือบเดือนแหละท่าน”เซโร่บอก
“ข้าเป็น....”
“หัวหน้ากลุ่มข้าตัดสินใจแล้ว”บูตเตอร์ตอบแทนคลาส
ทางด้านมาคัส เขารอเซทเซอร์จนคิดว่าเซทเซอร์ทิ้งเขาแน่แล้ว เขาจะต้องออกไปจากที่นี้ คืนนี้เขาจะแอบหนี เขาเอายานอนหลับให้ฮารุกิน เดินทางอย่ารวดเร็วไปทางออก
“จะไปไหนเจ้าหนู”เสียงพูดดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ขนลุกไปเป็นแถบๆ
“เออ..”มาคัสโปรยพริกไทยใส่เอลฟ์ตนนั้น แต่เอลฟ์ยืนสงบนึง
“ข้าชอบพริกไทยนะ”เอลฟ์บอก
“เจ้าไม่ต้องกลัวข้าถึงข้าจะเป็นเอลฟ์ มืดก็เถอะ”เอลฟ์บอก
มาคัส งง กับคำว่าเอลฟ์มืด แต่เขาทำเป็นเข้าใจ
“เจ้าชื่อมาคัส รึ ข้า ไกรเซอร์”เอลฟ์บอกชื่อของเขา
“เจ้ามาหาพวกเอลฟ์ทำไม”ไกรเซอร์ถาม
มาคัสมีความรู้สึกว่าเอลฟ์คนนี้เป็นคนมีจิตใตดีเขาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
“เพื่อนเจ้าคงไปหาพวกเอลฟ์ฝ่ายแสงแล้วหละ”ไกรเซอร์บอก
เมื่อไกรเซอร์เห็นสีหน้างงของมาคัส เขาจึงอธิบายเรื่อง เอลฟ์ให้ฟัง
เอลฟ์เมื่อแพ้สงครามก็หลบหนีไปในป่า เอลฟ์บางพวกพอใจในความสงบของป่านั้นคือเอลฟ์สว่าง ส่วนเอลฟ์บางพวก ต้องการแก้แค้นมนุษย์นั้นคือเอลฟ์มืด เอลฟ์สองฝ่ายขัดแย้งกันเองทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้น เอลฟ์มืดแพ้สงคราวจึงหลบมาอยู่ในถ้ำแห่งนี้และฝึกเวทย์มนย์มืดจนแข็งแกร่ง จนมาสู้กับเอลฟ์สว่าง เอลฟ์สองฝ่ายสู้กันมาช้านาน ป่าเอลฟ์จึงแบ่งเป็นสองข้าง ป่าเอลฟ์ มืดและป่าเอลฟ์สว่าง
“ข้านะต้องการให้เอลฟ์อยู่รวมกันอย่างเดิมมากกว่า”ไกรเซอร์บอก
“เจ้าไปพักเถอะเดียววันพรุ่งนี้ข้าจะนำเจ้าไปหาพวกเอลฟ์สว่าง”ไกรเซอร์บอก
ทางด้านเซทเซอร์ เขาได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพวกเอลฟ์ แต่เขายังคงห่วง ท่านโอม
“ที่นี้ที่ไหน” โอมตื่นขึ้น
“ใจเย็นๆ ที่นี้เมืองเอลฟ์”เสียงเอลฟ์หญิงตอบกลับมา
“เจ้าเป็นใคร”โอมถาม
“ข้าเซกินะ”เอลฟ์บอก
“เพื่อนเจ้า เซทเซอร์นะ พามาให้ข้ารักษา”เซกินะบอกเสียงอ่อนโยน
“เขาอยู่ไหน”โอมถามต่อ
“เดี๋ยวเขาได้ข่าวเจ้าคงรีบมาเองหละ”เซกินะบอกเสียงยั่วยวน
“ตอนนี้นอนหลับไปก่อนเถอะข้าจะไป อาบ...น้ำ”เซกินะบอก
โอมรู้สึกไม่ดีกับเอลฟ์คนนี้ เลยเขาต้องรีบหาเซทเซอร์ให้เจอแล้วรีบออกจากที่นี้แต่ตอนนี้เขาง่วงเหลือเกิน
เซทเซอร์ได้ข่าวว่า ท่านโอม ฟิ้นแล้วจึงรีบมาหา เขารีบเขามาในห้อง แต่กลับพบเซกินะ ยืนร่างเปลือยเปล่าอยู่
“ข้าขอโทษ ข้ามาหา...”เซทเซอร์รีบพูด
“อย่างนั้นรึ ”เซกินะบอก
“ข้ารักษาเพื่อนเจ้าแล้ว สัญญาละ”เซกินะ ถาม
“ท่านต้องการอะไร”เซทเซอร์ถาม
“มาหาข้า”เซกินะบอกเสียงยั่วยวน
โอมตื่นมาอีกครั้งตอนบ่าย เขามีแรงขึ้นมาจึงเดินตามหาเซทเซอร์ เขาเข้ามาในห้องของเซกินะเพื่อถามที่อยู่ของเซทเซอร์ แต่กลับพบ เซทเซอร์นอนร่างจมกองเลือดอยู่ เซกินะหันมาหน้าตาจากที่สวยงามกลับดูหน้ากลัวราวกับอสูร
โอมขว้าดาบเอลฟ์ที่แขวนอยู่ข้างผนังขึ้นมาตามสัญชาติญาณ เขาโจมตีใส่เซกินะ เซกินะใช้แส้ฝาดใส่โอม แผลของเขาปริออก โอมเลือดใหลออกเรื่อยๆ เขายืนดาบขึ้นมาอีกเล่ม เขาทะนัดใช้ดาบคู่มากกว่า โอม ตะวัดดาบใส่เซกินะ ซึ่งหลบได้อย่างสบายๆ เซกินะฟาดแส้ใส่อีกครั้งแต่คราวนี้โอมหลบได้ เขาสู้กับเซกินะนานเกือบครึ่ง ช.ม. เขามีแผลเต็มร่างกายส่วนเซกินะ ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย
“ข้าได้พลังจากการสิ่งสู่เพื่อนเจ้า เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก”เซกินะบอกเสียงแหบแห้ง
เซกินะใช้ปลายหอกทิ้มทะลุร่างของโอม โอมใช้แรงเหือกสุดท้ายจับแส้ไว้“ดาบ ฆ่าปีศาจ” โอมตะโกนเขาใช้ดาบฟันใส่เซกินะนับ สิบๆที เซกินะเลือดสีเขียงไหลออกจากร่าง เธอ ทหารเอลฟ์คงได้ยินเสียงโอมตะโกน จึงแห่มาที่ห้อง
“ปีศาจ”ทหารเอลฟ์นายหนึ่งบอก
ทหารเอลฟ์ยิงธนูนับสิบๆดอกใส่เซกินะแต่เซกินะบินหนีไปได้ ร่างของโอมทรุดลงไป โอมนอนแน่นิ่ง
เซทเซอร์ยังไม่ตายพอเขาเรียบเรียงเรื่องราวได้เขาก็ออกมาจาห้อง
“ท่านโอมอยู่ไหน”เขาถามทหารเอลฟ์ คนหนึ่ง
“เออ เขาตายแล้ว”ทหารเอลฟ์บอก
“ไม่จิง เขาตายได้ยังไง”เซทเซอร์ถาม
เขาหยีบดาบขึ้น เขาจะนำศพท่านโอมไปฟังยังหุบเขาอัศวิน
ทหารเอลฟ์เล่าเรื่องทั้งหมดให้เซทเซอร์ฟัง เซทเซอร์เมื่อฟังเรื่องทั้งหมดจบแล้วก็ขอ ไปดูศพของ ท่านโอม
“เป็นความผิดของข้าเอง”เซทเซอร์บอก ขณะที่ยืนดูร่างที่เยียบเย็นของโอม
มาคัสตื่นขึ้นมาพร้อมกับรีบไปหา ไกรเซอร์
“ไกรเซอร์ ท่านอยู่ไหม”มาคัสเรียก
“ตื่นเช้าเชียว”ไกรเซอร์บอกจากในบ้าน
เขาเดินออกมาพร้อมชุดที่เตรียมออกเดินทาง
“ไป กัน”ไกรเซอร์บอก
มาคัสเดินตามเรื่อยๆเพียงไม่นานนักเขาก็พบเอลฟ์คนหนึ่งยืนอยู่ เอลฟ์คนนี้รูปร่างคล้าย ไกรเซอร์มาก เพียงแต่ผิวที่เป็นสีขาว
“นี้อาโอย น้องชายข้า”ไกรเซอร์บอก
“อาโอยจะนำทางเจ้าไปต่อเอง”ไกรเซอร์บอก
แต่เมื่อเขาพูดจบ ก็มีลูกธนูสีดำยิงใส่อาโอย เอลฟ์มืดนับสิบยืนอยู่
“เจ้านี้เอง ที่เป็นคนทรยศไกรเซอร์”เอลฟ์มืดคนหนึ่งบอก
“ฟังข้าก่อน” ไกรเซอร์บอก
“ไม่ ฆ่าพวกมันให้หมด”เอลฟ์คนนั้นสั่งการ
มีเอลฟ์มืดหลายคนซุ้มตามพุ่มไม้ ลูกธนูพุ่งมาหลายทิศทาง ไกรเซอร์พามาคัสและอาโอยมาหลบหลังพุ่มไม้เขาหลบอยู่ไม่นานนักก็มีเอลฟ์ผิวขาว คนหนึ่ง พาพวกเอลฟ์แสงมานับสิบยิ่งตอบโต้ไป
“ซิด แอลเกน”อายโอยตะโกนเรียก
เขาหับไปมองแว๊บหนึ่งก่อนเข้าปยิงสู่ต่อ ซิด แอลเกน ยิงธนูทีละ5ดอกได้ในคราวเดียว
เอฟ์มืดค่อยๆล่าถอยไป
ซิด เดินมาหาอาโอยพร้อมจับมือให้อาโอยยืนขึ้นแต่ทหารเอลฟับสิบกลับง้างธนูใส่ ไกรเซอร์และมาคัส
“ฆ่าพวกมันสองคน”ซิดบอก
“อย่าท่าน”ทหารเอลฟ์คนหนึ่งบอก
“เพราะอะไร วินซ์”ซิดถาม
“เออ เราต้องนำไปสอบส่วนก่อนท่านซิด”วินซ์บอก
ซิดยืนคิดอยู่ซักพักก็ให้นำตัวไป วินซ์กระซิบที่ข้างหูของไกรเซอร์ว่า “ข้าช่วยเจ้าได้แค่นี้นะเจ้าเพื่อนยาก”
เมื่อมาถึงเมืองเอลฟ์ เหตุการวุ่นว่ายก็เกิดขึ้นเมืองไม่มีหัวหน้าเมือง จึงทีการเรียกประชุมใหญ่ขึ้น ซิดจึงรีบไปสั่งให้ขัง ไกรเซอร์และมาคัสไว้ก่อน
เซทเซอร์ได้เขาร่วมประชุมด้วยในถานะคนกลาง
“ข้าขอเสนอชื่อ ซิด แอนเกน”เอลฟ์คนหนึ่งบอก
“ข้าเห็นด้วย”
“ข้าไม่ต้องการตำแหน่งนี้”ซิดบอก
“แต่ท่านเหมาะสมที่สุด”
“ถ้าไม่ใช้ท่านจะเป็นใคร”
“แล้วแต่พวกท่านสิ”
“เกี่ยงนักข้าขอเป็นเอง เซทเซอร์บอก”ในห้องประชุมเงียบหมด
“ท่านพูดเล่น รึท่านเซท”
“ถ้าท่านยังทะเลาะกันแบบนี้ข้าพูดจริง”เซทเซอร์ตอบหนักแน่น
“ถ้านายข้ายังอยู่ ข้าคงเสนอชื่อเขาไปแล้ว”
“อยากเป็น รึ”ซิด
“ข้าจะให้ท่านเป็น”
“ใครจะขัดข้าก็โปรดยืนขึ้น”ซิดบอก
“ดูซิ พวกมนุษย์จะทำอะไรได้”ซิดบอก
ลงต่ออีกนิด
เซทเซอร์สั่งการให้นำสารไปขอสงบศึกกับพวกเอลฟ์มืดแต่ไม่
สำเร็จ พวกเอลฟ์มืดจะเข้าโจมตีอีกครั้งในไม่ช้า
เซทเซอร์สั้งให้พวกเอลฟ์แสงหลบอยู่ในปราสาทไม่ไปต่อสู้ด้วย แต่ซิดกับนำทหารสิบกว่านายไปสู้กับพวกเอลฟ์มืดซึ้งทหารทั้งหมดเสียชีวิต ซิดจึงได้รับโทษคุมขังหนึ่งอาทิตย์
ซิดโดนขังรวมอยู่กับ ไกรเซอร์และมาคัส
“อ่าวท่านซิด แอนเกน มาหาข้ามีอะไร รึ”มาคัสถาม
“อยากพูดอะไรก็เชิญ”ซิดบอก
“ทำไมท่านถึงรังเกียจพวกเอลฟ์มืดนักท่านซิด เราก็เอลฟ์เหมือนกัน”ไกรเซอร์ถาม
“เจ้าจะรู้ไปทำไม เจ้าเอลฟ์”บอก
ซิด ไกรเซอร์ มาคัสอยู่ด้วยกันกึง5วันแล้วทำให้สนิดกันมากขึ้น ซิดจึงเล่าเรื่องของเขาให้ฟัง
“ครอบครัวของข้าโดนเอลฟ์มืดฆ่าตาย”ซิดบอก
“แต่เอลฟ์มืดไม่ใช้เลวทุกคนหรอก พวกเขาเพียงต้องการอำนาจคืน”ไกรเซอร์บอก
ระหว่างที่คุยกันอยู่เซทเซอร์ก็เดินผ่านมา
“อ่าว มาคัสมานี้ได้ไง”เซทเซอร์ถาม
“เซทพาข้าออกไปที่”มาคัสบอก
“ไกรเซอร์และซิดด้วย”มาคัสอ้อน
“O.K.จ้า”เซทเซอร์บอก
“แล้วท่านโอมละ”มาคัสถาม
“เขาไปแล้ว”เซทบอก
“ไปไหน”มาคัสถาม
“แล้วเจ้าจะรู้เอง”
ทางด้านเซโร่ พวกเขาเดินทางมา5วัน5คืนโดยไม่พัก ยังไม่ถึงครึ่งของการเดินทาง ระหว่างทางเขาเจอทหารกลุ่มหนึ่งล้อมไว้
ทางด้านเซโร่ พวกเขาเดินทางมา5วัน5คืนโดยไม่พัก ยังไม่ถึงครึ่งของการเดินทาง ระหว่างทางเขาเจอทหารกลุ่มหนึ่งรอบไว้
“จะเอาเลยไหม”บูตเตอร์บอก
“ใจเย็นถามพวกมันก่อน”คลาสบอก
“พวกเจ้าเป็นใคร”คลาสถาม
“พวกเจ้าแหละใครมาอยู่ในพื้นที่ของเราได้ไง”ทหารคนหนึ่งตอบ
“พวกข้านะรึ อัศวินแห่ง มิดีเนท”บูตเตอร์บอก
“เมืองล้มสลายพันนั้นรึ”ทหารคนนั้นพูด
คลาสเขาโจมตีใส่กองทหาร เซโร่และบูตเตอร์เข้าช่วย ส่วนเควิน “พวกเจ้าคงสู้กันไหวนะข้ากินข้าวก่อน”
ไม่นานทหารทั้งก่องก็บาดเจ็บไปตามๆกันเหลือเพียงนายทหาร
“เจ้าชื่ออะไร เจ้าหนุ่มฝีมือดาบดีนี้”คลาสถาม
“ข้า ซาคเรด แห่งกลุ่มทหารรับจ้าง”เขาบอก
“พวกเราจะสู้จนตัวตาย”เขาขี่ม้าวิ่งมา
“ขอข้าเอง”คลาสบอก
ซาคเรดขี่มาวิ่งมา คลาสวิ่งเข้าใส่ ย๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตุ้ม!!!! ทั้ง2ชนกันอย่างแรง คลาสลุกขึ้นมา ซาคเรดก็ลุกขึ้นมาเช่นกัน
“ข้าถนัดใช้หมัดมากกว่าแฮะ”ซาคเรดบอก
“เอาซิมาลองกันซักตั้ง”คลาสบอก
ทั้งสองต่อยกันชุนละมุน ทหารของ ซาคเรด มานั้งล้อมวงกินข้าวกับ เควิน บูตเตอร์นอนหลับไปในเต้นของทหารรับจ้าง ส่วนเซโร่นั่งรับคมดาบอยู่ข้างบูตเตอร์
ทั้งสองเมื่อสู้กันซักพักก็เลิกและมานักกินข้าวด้วยกัน คลาสเลือดออกจมูก ส่วนซาคเรดตาเขียวปัด
“ฮาๆๆฝีมือดีเจ้าหนุ่ม”คลาสบอก
“เหนื่อยชะมัดมีไรกินมั่งเนี้ย”ซาคเรดไม่ได้ใส่ใจที่คลาสบอก พร้อมมองหาของกิน
“เดี๋ยวพี่ข้าจะมาแล้วรอก่อนแล้วกัน ข้าจะเปิดตัวตะผมลของเราซะหน่อย”ซาคเรดบอก
พอชาคเรดพูดจบก็มีฝีเท้าม้าสองตัววิ่งมา
“ไงซาค พวกนั้นใครนะ”หนึ่งนั้นพูดขึ้น
“ดูเหมือนทหารในวัง”ชายอีกคนบอก
คลาสนึ่งไปซักพักเนื่องจากสับสนเพราะหน้าของชายทั้งสองเหมือนกันยังกับแกะ
“เออ ชื่อไรกันมั่งนะ”คลาสถาม
“อ๋อข้ามัสธาอัส และนั้นเอสคอป(SCOPอ่านงี้เปล่า)”ชายคนขวาบอก
“พวกเราทหารรับจ้างสิงโตดำ”ชายคนซ้ายพูด
“อืมข้าไม่มีเงินว่าจ้างเจ้าหรอก เพียงจะขอยืมม้าพวกเจ้าไปเมืองเอลฟ์หน่อย”คลาสพูด
“หรอม้าตัวละ แสนนะซื้อหลายตัวลดได้”เอสคอปบอก
“ข้าบอกว่าไม่มีเงินไง”
“งั้นเจ้าเดินเท้าต่อไปเถอะ”เอสคอปบอก
“พี่ ข้าจะใช้เขายืมม้า”ซาคเรดบอก
“ข้า ถูกใจฝีมือหมอนี้”ซาคบอก
“ไม่ได้หรอกน้องชาย”เอสคอปบอก
“งั้นข้าจะ ออกค่าม้าให้เขาเอง”ซาคเรดบอก
“ชิ ก็ได้สี่ตัวห้าแสน”เอสคอปบอก
“ไหนบอกตัวละแสน”ซาคเรดพูด
“ข้า ขึ้นราคาเองมีไรรึเจ้าน้องชาย”เอสคอปบอก
หลังจากจบการสนทนาซักพักก็มีเสียงฝีเท้าม้านับร้อยวิ่งมา พวกก็อบลินนั้นร้อย
“เจ้าพวกนี้นี้เอง ที่มาทำลายที่อยู่ของเรา”หัวหน้ากลุ่มของงก็อบลินพูดขึ้น
“พวกเจ้าทหารรับจ้างที่มาทำลายที่อยู่ของพวกข้าใช้ไหม”ก็อบลินพูดต่อ
“ชาวบ้านจ้างพวกข้าไป ข้าก็ต้องไป”มัสธาอัสบอก
“ใจกล้ามากที่กล้ายุ่งกับพวกเรา”ก็อบลินบอก
“จะเอาเลยไหม”มัสธาอัสพูด
ทหารของพวกเขาต่างกันถึงหนึ่งในห้า คลาสคิดว่าเราคงหนีแล้ว จึงไปบอกเซโร่ บูตเตอร์และเควิน
“เราคงต้องไปแล้ว ศึกนี้ไม่เกี่ยงกับเรา”คลาสบอก
“เราต้องทำหน้าที่ของเราต่อไป”คลาสบอก
วันนี้คึกลงเยอะหน่อยแล้วกัน
“เราจะทิ้งพวกเขารึ”บูตเตอร์บอก
“มันจำเป็น”คลาสบอก
“ดูความต่างของกำลังพล สิ”
“เราต้องไปเดี๋ยวนี้”คลาสพูด
ถึงเซโร่จะไม่เห็นด้วยแต่เขาก็ไม่พูดอะไร เขาเดินตามคลาสออกไป เสียงของการสู่รบเริ่มขึ้น
“ข้าจะไปช่วยเขา”บูตเตอร์บอกพร้อมวิ่งออกไป
“ชิ เจ้าบ้า”เควินวิ่งตามไป
“ท่านจะหนีไปก็ได้นะ”เซโร่บอกคลาสพร้อมวิ่งตามไปอีกคน
“เอาไงเอากัน”คลาสบอกตัวเอง
พวกเขารวมรบกับกลุ่มทหารสิงโตดำนานสิบนาทีไม่มีท่าทีว่าจะชนะ
“ถอยก่อนมัสธาอัส”คลาสบอกขณะสู่รบอยู่
“พวกเราถอย”มัสธาอัสตะโกนบอกเหล่าทหาร
“เราถอยไม่ได้แล้วโดนล้อมไว้หมด”ทหารคนหนึ่งบอก
“เราคงต้องสู่ตายแล้ว สู่!!!”มัสธาอัสตะโกน
ทหารสิงโตดำเริ่มล้มลงทีระคนสองคน ตอนนี้เหลือเพียง คลาส บูตเตอร์ เซโร่และสามพี่น้องสิงโตดำ ขณะที่ก็อบลินเหลืออยู่กว่าห้าสิบนาย
“เอาไงต่อละ”บูตเตอร์ถามคลาส
“เจ้านำมาไม่ใช้รึ”คลาสบอก
“แผนมีอยู่ว่าวิ่งไปหาม้าคนละตัวแล้วขี่หนี นับถึง 3 ”เอสคอปพูดโพลงขึ้น
“1 2 สาม!!”เอสคอปตะโกนบอก
พวกเขาต่างวิ่งไปหาม้าพวกก็อบลินกำลังงง พวกเขาขี่ม้าหนีมาอย่างรวดเร็ว พวกก็อบลินตะโกนโฮ่ร้องกับชัยชนะ
“แล้วข้าจะกับมา”เอสคอปบอก
..........
ผลงานอื่นๆ ของ Gunslinger(lv.4/4) ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Gunslinger(lv.4/4)
ความคิดเห็น