ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ღ Rival or Lover ღ :: kai x sehun ::

    ลำดับตอนที่ #23 : Rival or Lover :: 22 ::

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.11K
      27
      29 มี.ค. 56

     

                สายน้ำอุ่นไหลกระทบผิวกายสู่พื้นกระเบื้องด้านล่างจนเกิดเสียงเบา ไอน้ำเกาะพราวตามกระจกใสกลายเป็นสีขุ่น เปลือกตาบางหลับพริ้มยื่นหน้าเข้าไปใต้ฝักบัวเพื่อรองรับสายน้ำอีกครั้ง พร้อมกับมือเรียวสวยลูบผิวแก้มเนียนเล็กน้อย ผิวแก้มที่ยังสัมผัสได้ถึงแรงกดหนักๆ และริมฝีปากอุ่นๆ ของใครอีกคน เซฮุนยกยิ้มบางกับตนเองก่อนจะเอื้อมมือออกไปปิดน้ำ และปาดหยาดหยดออกจากใบหน้าขาวสะอาด

     

                ผลักบานประตูกระจกใสแทรกกายเปลือยเปล่าออกมายืนตรงเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ทอดมองเงาที่สะท้อนกลับพลางยกก้านนิ้วเรียวขึ้นแตะตามรอยจางๆบริเวณลำคอและเนินไหล่ที่เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งคนนั้นทำเอาไว้ มืออีกข้างยกขึ้นแตะเบาตรงสร้อยข้อมือสีเงินวาว ภายในอกวูบไหวและดีใจจนต้องยกยิ้มน้อยๆ แม้จะเจ็บจนไม่อยากลุกเดิน หากแต่พอเป็นคิมจงอิน จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น

     

                และสงสัยเมื่อวานจะแช่น้ำนานไปสักหน่อย รุ่งเช้าขึ้นมาเขาถึงได้รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะไม่สบายเอาเสียดื้อๆ คำปลอบโยนเมื่อคืนคงไม่ได้ผล ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ไข้ขึ้นแบบนี้หรอก ซ้ำร้ายพี่ชายตัวดีนั่นแหละยิ่งเป็นสาเหตุให้เขาไม่สบายหนักกว่าเดิม

     

     

                รีบนอนเถอะ เดี๋ยวนายจะไม่สบาย

              มาพร้อมกับจุ๊บเบาๆ ข้างขมับราวกับจะปัดเป่า

              ก่อนเซฮุนจะหลับฝันดีตลอดคืนในอ้อมอกอุ่น

              เห็นๆ กันอยู่ว่ามันไม่ได้ผล

     

     

                คลี่ยิ้มหวานยามนึกถึงคนเอาแต่ใจ ก่อนจะนำผ้าขนหนูมาเช็ดกายที่พร่างพราวไปด้วยหยาดน้ำจนแห้ง มือขาวหยิบชุดคลุมอาบน้ำของทางบ้านพักซึ่งถูกเตรียมไว้ให้ขึ้นมาห่มตัวเองหลวมๆ พร้อมผูกปลายผ้าให้เรียบร้อย

     

                !!

     

                พลันดวงตาเรียวคู่สวยต้องหลับปี๋ลงทันทีเมื่อขายาวก้าวเดิน ใบหน้าน่ารักขี้อ้อนของเมื่อคืนเหยเกอย่างเจ็บปวด แล่นริ้วไปทั่วแนวกระดูกสันหลังด้วยความทรมาน หากแต่โอเซฮุนก็ยังห้ามไม่ให้มีเสียงร้องออกมาสักนิด แนวฟันขาวกัดผิวเนื้อเคลือบใสแน่น อดกลั้นความรวดร้าวไว้ข้างใน ก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องน้ำแล้วตรงไปยังเตียงกว้างที่มีกายหนาของพี่ชายคนละสายเลือดนอนพาดยาวอยู่

     

                “ไค”  เอ่ยเรียกคนขี้เซา พลางทรุดตัวนั่งลงริมขอบเตียงด้านข้างกัน กระพริบตามองแผ่นหลังกว้างเปลือยเปล่าของคิมจงอินนิ่ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังเอาหน้าซุกหมอนไม่ยอมขยับ

     

                ก้านนิ้วเรียววางลงบนแผ่นหลังที่อีกฝ่ายบอกว่ายกให้เขา ค่อยๆ ลูบร่องรอยของบาดแผลที่ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปนานแต่ก็ยังหลงเหลือเป็นตำหนิที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครรู้ สัมผัสอ่อนโยน แผ่วเบา ส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดที่ไม่เคยได้ทดแทนให้อีกฝ่ายได้รับรู้เช่นกัน

     

                แต่แล้ว... คนที่ทำเหมือนว่าหลับก็คว้ามือขาวไปจับไปหน้าตาเฉยทั้งที่เปลือกตายังปิดสนิท ไม่คว้าเปล่า เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งยังเอาไปซุกแนบไว้ตรงหมอน แล้วกดทับด้วยปลายจมูกของตนเองเสียอย่างนั้น คนที่เสียเปรียบตลอดตั้งแต่เมื่อคืนได้แต่ขมวดคิ้วมุ่น แล้วเอ่ยเสียงงุ้งงิ้งอย่างหวังว่าอีกฝ่ายจะฟัง

     

                “ตื่นเหอะ หิวแล้วอ่ะ เมื่อวานยังไม่ได้กินอะไรเลย”

     

                “หอม”  ทว่าปฏิกิริยาที่ได้รับตอบกลับมามีเพียงแค่คำพยางค์เดียว ซึ่งได้ยินแล้วก็ไม่ได้ทำให้เขินไปมากกว่าหมันไส้เลยสักนิด

     

                ดมทั้งคืนแล้วจะมาหงมาหอมอะไรอีก

     

                ได้แต่คิดค่อนขอดพี่ชายอยู่ในใจ เพราะถึงยังไง แค่ได้ยินเสียงทุ้มข้างใบหูกับนัยน์ตาคู่คมที่สบประสาน โอเซฮุนก็แทบจะไม่มีแรงขืนหรือว่าปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย แค่คิมจงอินอ่อนโยนด้วย ความแข็งกร้าวที่สร้างขึ้นก็พังทลายลง...

     

                “ก็เพิ่งอาบน้ำมา”

     

                “ตอนไหนก็หอม”

     

                “เหรอ เมื่อก่อนไม่เห็นพูดแบบนี้เลย”

     

                “หมันไส้เลยไม่อยากพูด”

     

                คำตอบจากคนขี้เซาทำเอาใบหน้าหวานบึ้งตึงขึ้นมาทันที ริมฝีปากแดงอ่อนขยับยุกยิกบ่นงึมงำคนเดียวไร้เสียง ประท้วงนิดๆ ด้วยการพยายามดึงมือของตนเองออกจากการกอบกุม กระนั้นผิวแก้มขาวก็ยังแดงเรื่อน่ารัก ยามที่ริมฝีปากอิ่มกดแนบจูบบนหลังมือ

     

                “ลุกไปอาบน้ำเลยป่ะ”

     

                ตอนนั้นเองที่คิมจงอินยอมเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ ภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือกายบอบบางในชุดคลุมอาบน้ำสีขาว.. นั่นไม่เท่ากับการที่มันถูกใส่ไว้อย่างหลวมๆ และล่อแหลมมากในสายตาของคนเป็นพี่ มองจากตรงนี้ที่เขานอนคว่ำหันหน้าตะแคงข้าง สามารถเห็นเข้าไปได้ถึงแผ่นอกบางข้างใน

     

                แววคู่คมจ้องนิ่งไม่ละไปไหนจนคนอ่อนเดือนกว่าต้องเลิกคิ้วแปลกใจ แต่พอสังเกตได้ถึงระดับสายตา คนผิวขาวก็เลื่อนก้านนิ้วไปหยิกแก้มของอีกฝ่ายไม่เบานัก

     

                “โอ๊ย!

     

                “บอกให้ลุกไปอาบน้ำไงเล่า หิวจะตายอยู่แล้ว”  ยู่ปากน้อยๆ ให้น่าเอ็นดูมากขึ้นไปอีก ทำหลบเลี่ยงไม่สนใจกับดวงตาพราวระยับของจงอินที่ทอดมองมาเงียบๆ เท่านั้นแหละตอนที่กำลังเผลอ ร่างทั้งร่างก็ถูกฉุดให้ลงไปนอนราบบนฟูกนุ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสัมผัสอุ่นร้อนจู่โจมตรงซอกคอ

     

                “งั้นก็อย่าน่ารักดิ”  เคลื่อนริมฝีปากลงต่ำ จุ๊บเบาๆ ไปตามแผ่นอกและหน้าท้องแบนราบ นูนเล็กน่ารักด้วยกล้ามท้องแบบผู้ชายซึ่งไม่เคยออกกำลังกาย แต่มันน่ากัดน่าหยอกมากกว่าอะไรเป็นไหนๆ

     

                “อย่ามันจั๊กจี้”  ใช้มือดันลาดไหล่หนาให้ออกห่าง ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่ฟังสักนิด

     

                “ฉันชอบเอวนาย ...สวยดี” 

     

                โอเซฮุนชะงักไปเล็กน้อยกับคำชมที่แสนจะธรรมดา และถึงแม้ว่ามันจะธรรมดา แต่ก็ทำให้คนน่ารักรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า ไหนจะฟันคมๆ ที่ชักจะซนเกินเหตุเริ่มฝังเขี้ยวฝากรอยจางๆ เอาไว้อีก จนเขาเผลอเกร็งตัวทุกครั้งที่ถูกสัมผัส อายก็อาย เขินก็เขิน แต่ก็นั่นแหละคิมจงอินไม่เคยสนใจ ชุดคลุมอาบน้ำแทบจะไม่ได้ทำหน้าที่ที่ดี เพราะตอนนี้มันเปิดไปถึงไหนต่อไหน

     

                “ฮื้ออ!..”  ร้องประท้วงพลางชะโงกหน้าเท้าข้อศอกพยุงกายขึ้น เมื่อรู้สึกได้ว่าผิวเนื้อเนียนบริเวณหน้าท้องถูกขบเม้มดูดดึงไม่เบานัก ม่านกลมดำกลอกกลิ้งหลบ ไม่กล้ามองพี่ชายคนละสายเลือดที่กำลังเคลื่อนริมฝีปากขึ้นมาเรื่อยๆ จูบใต้ปลายคางเล็กน้อยก่อนจะปิดริมฝีปากแดงอ่อน พร้อมกับช้อนเปลือกตามองคนน่ารักที่เผยออ้ารับอย่างว่าง่าย

     

                ทว่า...

     

                “ตื่นได้แล้วคร้าบบบบบบบ! โอ๊ะ!?...”  กายเล็กของคิมฮยอนอูกลับถลาเข้ามาขัดช่วงเวลาดีๆ แบบไม่บอกกล่าว ส่งผลให้พี่ชายคนรองจำต้องรีบผละออกห่างจากพี่ชายคนโตอย่างรวดเร็ว โดยที่มือขาวก็จัดผ้าคลุมให้เรียบร้อย หากแต่เด็กน้อยยังตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้เห็นจนออกนอกหน้า  “นี่ไง! พี่ไคจูบพี่เซฮุนอีกแล้ว!” 

     

                เด็กหนอเด็ก ช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย เอาแต่ชี้ไม้ชี้มือไปทางพี่ชายทั้งสองบนเตียง ดวงตากลมเบิกกว้างขยับปากฟ้องคนอายุมากกว่าที่กำลังจะเดินตามเข้ามาอีกสองคน หากแต่ตัดสินใจชะงักเท้าเอาไว้ได้ทันก่อนจะเห็นภาพที่ว่า

     

                คิมจงอินกระตุกยิ้มขำกับท่าทางเงอะงะและใบหน้าขาวที่ขึ้นสีแดงเรื่อของโอเซฮุน กายสูงโปร่งจึงลุกขึ้นยืนแล้วก้าวเข้าใกล้ฮยอนอูพลางช้อนกายเล็กขึ้นไว้ในอ้อมแขน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเบนมองลู่หานและอู่อี้ฝานที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้า พร้อมกับเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

     

                “มีอะไรเปล่าพี่”

     

                “จะมาดูว่าเซฮุนเป็นไงมั่ง แต่ได้ยินแบบนี้ก็ว่าหายดีแล้วล่ะ หิวข้าวก็ตามลงมานะ อย่ามัวแต่อิ่มอย่างอื่น”  ว่าจบ รุ่นพี่ตัวเล็กก็ทำท่าจะปิดประตูให้อย่างเดิม หากแต่เสียงทุ้มขึ้นจมูกนิดๆ ของคิมจงอินกลับรั้งเอาไว้เสียก่อน

     

                “เดี๋ยวพี่ ฝากฮยอนอูไปด้วยดิ ผมยังไม่ได้อาบน้ำ”

     

                “ก็เซฮุนไง”  คนที่เลี้ยงเด็กมาตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้าบ่นอุบ พยักพเยิดหน้าหมายถึงอีกคนด้านใน ทว่าต้องยอมแพ้ให้กับประโยคถัดมาของรุ่นน้องเอาแต่ใจ

     

                “พอดีอยากได้คนช่วยถูหลัง”

     

                เพราะอย่างนั้นเอง ลู่หานเลยต้องทำหน้าที่พี่เลี้ยงต่ออีกหน่อยโดยการรับคิมฮยอนอูกลับมาอุ้มไว้อย่างเดิมเหมือนกับตอนขามา ก็ไม่รู้ว่าถูหลังหรือถูอะไร แต่ที่แน่ๆ คือยิ้มมุมปากของมันน่าหมันไส้มาก ..ทำอย่างไรได้ ก็แค่ปิดประตูแล้วเดินหายออกไปเท่านั้นเอง...

     

                คล้อยหลังรุ่นพี่ กายสูงโปร่งหันกลับมาสนใจคนถูหลังที่ว่า น้องชายผิวขาวยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน เพียงช้อนเปลือกตาขึ้นมองมาทางเขาแล้วก็แลบลิ้นใส่ คล้ายจะสมน้ำหน้าที่ถูกขัดจังหวะ ดูเอาเถอะ แค่นี้ยังน่ารักไม่พอ

     

                คิมจงอินไม่ได้ทำอะไรต่อจากเดิม ขายาวก้าวออกไปจากห้องพัก ไม่นานก็กลับเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางของโอเซฮุน

     

                “แต่งตัวรอนะ เดี๋ยวอาบน้ำก่อน” 

     

                กายสูงโปร่งผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำทันทีที่พูดจบ จากนั้นก็ได้ยินเสียงสายน้ำไหลกระทบพื้นกระเบื้องดังออกมาจากด้านใน โอเซฮุนระบายยิ้มบางพลางเม้มปากน้อยๆ อย่างกลั้นอายเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้

     

                ไม่นานนักเจ้าของผิวสีน้ำผึ้งก็เดินออกมาเพื่อแต่งตัวให้เรียบร้อย เสื้อยืดกับกางเกงขายาวสบายๆ เหมือนเคยถูกหยิบมาใส่ ..เหลือบสายตามองคนอ่อนเดือนกว่าเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มขำเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเตรียมพร้อมอยู่นานแล้ว และดูเหมือนว่ากระเพาะกำลังจะประท้วงหนักเลยเชียว ถึงได้ส่งเสียงเบาๆออกมาให้ได้ยิน

     

                “ยิ้มอะไรเล่า ก็บอกว่ายังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวาน”

     

                “มาดิ เดี๋ยวพยุง”  กลั้วหัวเราะพลางค้อมตัวหยิบเครื่องมือสื่อสารบนโต๊ะเตี้ยใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะหันมาดึงลำแขนขาวพยุงให้อีกฝ่ายลุกขึ้นจากที่นอน เปลี่ยนมาวาดแขนกอดเอวที่แสนชอบ กระชับแน่นอีกนิดแล้วจับแขนยาวให้ยกมาพาดไหล่ตน

     

                โอเซฮุนกลอกม่านตากลมมองตามการกระทำของพี่ชายคนละสายเลือดเงียบๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าทั้งเขาและจงอินจะมาถึงจุดนี้ ความสัมพันธ์ของเราไม่น่าจะบรรจบกันได้เลยด้วยซ้ำ แต่แล้วเราก็ไม่ได้เกลียดกัน ซึ่งเซฮุนก็ไม่เคยคิดอีกเหมือนเคยว่าจะมีวันนี้ วันที่ตนเองได้ก้าวเข้าไปอยู่ในสายตาของคิมจงอินทีละนิด...

     

                เรียวขายาวค่อยๆ ก้าวตามพี่ชายลงบันไดไปเรื่อยๆ

     

                “ไค”

     

                “หืม”

     

                “ฉันไม่รู้ว่านายยังรอฟังมันอยู่ไหม.. แค่อยากให้นายรู้ว่าฉันไม่เคยมีความสุขเลยสักนิดที่ต้องไป ...ฉันขอโทษ ฉ...”

     

                “นี่”  หยุดเสียงหวานที่กำลังจะเอ่ยต่อด้วยการพูดแทรกขึ้น ถึงเมื่อก่อนเขาจะอยากได้ ถึงเขาเคยอยากให้โอเซฮุนสำนึกและรู้สึกผิดบ้าง แต่ตอนนี้เขากลับไม่อยากให้น้องชายตัวเองคิดถึงมันอีก ไม่อยากให้จมอยู่กับอดีตที่มันก็ผ่านไปแล้ว และเขาก็ให้อภัยไปแล้วด้วย  “นายตัวรุมๆ ตั้งแต่เช้าแล้ว รีบไปกินข้าวเหอะ จะได้หายากิน”

     

                “..................”

     

                “ส่วนเรื่องนั้น แค่ปล่อยให้มันเป็นอดีต แล้วต่อจากนี้อยู่กับฉันไปตลอดก็พอ”

     

     

    * * *

               

     

                “มาส่งฉันแบบนี้จะดีเหรอคะ พี่เป็นเจ้าของแท้ๆ”

     

                “ไม่เป็นไร ที่บ้านก็มีคนดูแลอยู่”  ชินฮเยปลอบให้อีกฝ่ายหายกังวล มือใหญ่วางบนพวงมาลัยขณะที่ดวงตาคมก็มองกระจกข้างเล็กน้อย สลับกับมองไปข้างหน้า

     

                พระอาทิตย์ยังไม่ทันได้ขึ้นหญิงสาวรุ่นน้องก็อยากจะกลับบ้านขึ้นมาเสียดื้อๆ ซึ่งเขาก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่อยากเผชิญหน้ากับคิมจงอินหรือว่าโอเซฮุนอีก คล้ายยังทำใจไม่ได้ที่ต้องเห็นภาพทำร้ายตนเอง เพียงรับรู้ว่าโอเซฮุนปลอดภัยดีและสบายดี จองอึนซลก็เลยตัดสินใจกลับบ้านของตัวเองเสีย แต่ด้วยความที่เมื่อคืนร้องไห้จนเป็นภาระของรุ่นพี่ ชายหนุ่มจึงอาสาขับรถไปส่งให้

     

                “นอนก็ได้นะ เมื่อคืนหลับไปนิดเดียวเองนี่”

     

                “แต่พี่ไม่นอนน้อยกว่าฉันเหรอคะ”  ตื่นมาอีกทีก็เห็นคนที่ยืมไหล่ให้ซบสัปหงกอยู่ข้างๆกันอย่างนั้น แล้วจะไปนอนมากกว่าเธอได้ยังไง เพราะงั้นเลยต้องนั่งถ่างตาเป็นเพื่อนกันด้วยความเกรงใจนี่แหละ แม้ว่าแสงเบื้องหน้ามันจะส่องเข้ามาจนทำให้ต้องหรี่ตาและง่วงงุนก็ตามที

     

                “นอนเถอะ จะได้ไม่ต้องคิดอะไรไง ดูดิ ตาบวม”  หัวเราะเบาใส่รุ่นน้องอย่างขำๆกับเปลือกตาบางที่บวมขึ้นจริงอย่างที่ว่า เอานิ้วจิ้มประกอบคำพูดให้หญิงสาวได้รีบเบนหน้าหนีพลางร้องประท้วงในลำคอ

     

                น่าแปลกที่เวลานั้นเขากลับได้เป็นคนเห็นด้านอ่อนแอของจองอึนซล ทั้งที่ก็ไม่เคยคิดหรอกว่าจะมีโอกาสได้ทำหน้าที่สุภาพบุรุษ เพราะห่ามๆอย่างเขามันต้องทำสถุลอย่างเดียวเลยล่ะ

     

                “งั้นถ้าฉันนอน พี่แน่ใจนะว่าจะพาฉันไปถึงบ้าน ไม่หลับกลางทางไปซะก่อน”

     

                “โห่ ดูถูก ระดับนี้แล้ว หลับตาขับยังไปถึงเลย”

     

                “โม้จริง”  และถึงโม้ แต่มันก็ทำให้อึนซลหลุดหัวเราะออกมาน้อยๆ ก่อนใบหน้าหวานจะหันซ้ายขวาเพื่อหาที่ปรับเบาะให้เอนลงอีกนิด มาถึงจุดนี้แล้ว เธอว่าเธอก็คงถ่างตาไปได้อีกไม่นานแน่นอน ทว่าดูเหมือนอะไรๆจะไม่เป็นใจเมื่อเธอดึงที่ปรับเบาะไม่ได้ เรียวคิ้วสวยขมวดมุ่นร้องฮือเบาๆในลำคอ

     

                คนอายุมากกว่าที่มองอยู่นานได้แต่ส่ายหัว ก่อนจะเหยียบเบรกเมื่อมาถึงไฟแดง แล้วเอี้ยวตัวหวังเข้าไปช่วยรุ่นน้องน่ารักขยับเบาะให้พอดี

     

                “มาๆ เดี๋ยวพี่ทำเอง” 

     

                ท่าทางมันเลยล่อแหลมขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล คือไม่ต้องการเหตุผลอะไรมาอธิบาย แค่ว่าภาพที่เห็นคือใบหน้าคมเข้มระยะใกล้ รวมถึงลมหายใจอุ่นๆเป่ารดจนชักทำตัวไม่ถูก และคล้ายว่าชินฮเยจะออกแรงมากไปหน่อย เจ้าก้านที่ปรับมันถึงได้ยกขึ้นทีเดียวพร้อมกับที่เจ้าตัวกดน้ำหนักลง เบาะจึงเอนลงไปอย่างรวดเร็วจนสุด...

     

                !!!

     

                “อ๊ะ!” 

     

                จังหวะที่ชายหนุ่มกำลังตกใจหันหน้าเข้าหาหญิงสาวนั้นเอง จมูกของทั้งคู่ก็เฉียดกันไปเพียงนิด โชคดีที่ชินฮเยตั้งตัวไว้ได้ทันรีบดันกายให้ออกห่าง ไม่งั้นมันจะล่อแหลมกว่านี้เยอะ

     

                “เอ่อ ขอโทษ”  ยกมือขึ้นเกาท้ายทอยอย่างไม่รู้ว่าจะเอาไปไว้ที่ไหนยามรู้สึกว่ามันช่างเกะกะเหลือเกิน ปฏิกิริยาที่ได้รับตอบกลับมาคืออึนซลโบกมือหยอยๆ พร้อมกับเบิกตากว้างส่ายหัวพรืด

     

                “หา อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงฉันก็รู้ว่าพี่ชอบพี่เซฮุน คงไม่อะไร แหะ”  แต่กระนั้นใบหน้าจิ้มลิ้มมันก็แดงซ่านไปถึงใบหู

     

                “บ้า นั่นมันการแสดง”  ว่าไปพลางก็เคลื่อนตัวเข้าใกล้อีกครั้งเพื่อขยับเบาะให้เข้าที่ ทีนี้ล่ะปรับง่ายไม่มีปัญหาขึ้นมาเชียว ก่อนจะหันกลับมาสนใจหน้าที่ของตนเองหลังพวงมาลัยอย่างเดิม  “จะนอนก็นอนไป ไม่อยากกวนคนอกหัก”

     

                “รู้แล้วน่า ย้ำจังเลยนะคะ”  ขยับปากบ่นงุ้งงิ้งคนเดียวอีกเล็กน้อย พร้อมกับเอนตัวพิงพนักนุ่มแล้วหลับตาลง ปล่อยให้ชินฮเยขับรถ ปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบคลุม...

     

                ...และปล่อยให้เสียงข้างในที่ดังรัวสงบลง     

     

     

     

     

     

     

     

    - - -

    ขอบคุณคอมเม้นท์สำหรับพาร์ทที่แล้วมากนะคะ หลายคนตลกมากเลย เค้าชอบๆ ดีใจที่ยังมีคนอ่านอยู่  ขอบคุณนะคะ <3

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×