ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ღ Rival or Lover ღ :: kai x sehun ::

    ลำดับตอนที่ #8 : Rival or Lover :: 7 ::

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 55



                “แล้วตามลงมานะ”


                คิมจงอินพยักหน้ารับรู้ให้กับรุ่นพี่ตัวเล็ก ใบหน้าคมเข้มที่ตอนนี้เรียบเฉย เรียบสนิท นิ่งไม่แสดงอาการอะไรทั้งสิ้น แม้ว่าลู่หานจะกำลังยกยิ้มน้อยๆแอบขำก็ตาม ถ้าเพียงแต่จะซ่อนสักนิด ซ่อนม่านกลมน้ำตาลเงาวาวที่มันกลอกกลิ้งไปมาอย่างหลบเลี่ยง คล้ายไม่กล้าสบกับคนอายุมากกว่าตรงๆ


                ก้านนิ้วเรียวสัมผัสหน้าจอของเครื่องมือสื่อสารไปมาอย่างไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม ชั่วแวบที่หลุบตาลงเหลือบมองสันจมูกเรียวสวยของใครอีกคนที่กำลังหลับพริ้มปิดเปลือกตาสบายอยู่บนลาดไหล่หนา โดยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ารถได้จอดสนิทลงเมื่อถึงที่หมายแล้วเรียบร้อย นี่คือสาเหตุที่ทำให้คิมจงอินรู้สึกว่าตนเองทำอะไรไม่ถูกยามดวงตาหวานของรุ่นพี่จดจ้อง


                ยอมให้ซบ ก็ไม่ได้หมายความว่าอยากให้ซบ


                บอกตัวเองแบบนั้น ก่อนจะช้อนเปลือกตาขึ้นมองแผ่นหลังเล็กของลู่หานที่ก้าวลงจากรถไป เพื่อนสนิทของอู่อี้ฝาน เพื่อนสนิทคนสำคัญ แปลกดีที่สองคนนั้นเลือกจะคบกันในสถานะนี้ จงอินไม่เคยเห็นอู่อี้ฝานล่วงเกินอีกคนเลยแม้แต่น้อย เพื่อนก็คือเพื่อน เพื่อนก็คือคนที่เราคิดกับเขาอย่างบริสุทธิ์ใจ บางทีความรักมันก็ไม่จำเป็นต้องมาในรูปแบบของคนรักเสมอไป สถานะก็แค่คำจำกัดความของความสัมพันธ์ เขาว่าการกระทำต่างหากที่จะบอกทุกอย่าง


                “นอนสบายเลยนะ หึ” งึมงำคนเดียวเบาๆ อาการปวดเมื่อยเริ่มทำร้ายให้รู้สึกอยากผลักหัวกลมๆของอีกฝ่ายออก รำคาญไอกลิ่นยาสระผมอ่อนๆที่ลอยแตะจมูกจะแย่ พลันก้านนิ้วเรียวที่เคลื่อนไปมาบนหน้าจอหยุดชะงัก เปลือกตาช้อนขึ้นมองไปข้างหน้า มุมริมฝีปากอิ่มกระตุกยิ้มเล็ก ก่อนจะยกเจ้าเครื่องมือสื่อสารซึ่งความชัดของกล้องหน้าทำให้มองเห็นโอเซฮุนตอนหลับได้อย่างชัดเจน


                หากแต่ก้านนิ้วเรียวไม่ยอมขยับ มันไม่ยอมกดบันทึกภาพของอีกฝ่ายเสียที


                เปลือกตาบางที่ปิดแววหวานนิ่งสนิท ผิวแก้มใสช่างขึ้นกล้องจนคนที่คิดจะแอบถ่ายเอาไว้ดัดหลังชะงัก ความจริงข้อนี้คิมจงอินรู้ดีว่าโอเซฮุนหน้าตาดีขนาดไหน ออกจะหวานน่ารักเหมือนผู้หญิงจนบางทีก็สวยเกินไป เกินกว่าที่ผู้ชายควรจะมี เพียงแต่เขาไม่ได้คิดจะใส่ใจมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว หรือจะพูดให้ถูกคือเพราะความเคยชินตั้งแต่สมัยอยู่ไฮสคูล ยิ่งเห็นบ่อยๆก็ยิ่งเฉยชา แต่เมื่อไหร่กันที่น้องชายนอกสายเลือดคนนี้เปลี่ยนไป


                ยกเว้นไว้อย่างที่ไม่เปลี่ยนไปเลย


              นิสัยและความเกลียดชังที่มีให้เขาไง


                สะบัดหัวเล็กน้อยอย่างเรียกสติกลับคืน ทำลายม่านความคิดที่ก่อตัวขึ้นเองอย่างไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ ก้านนิ้วเรียวเลื่อนแตะเบาๆบนหน้าจอ ภาพของคนนอนหลับไม่รู้เรื่องก็ถูกบันทึกเก็บเอาไว้เรียบร้อย จ้องมองและเลื่อนดูรูปที่ถูกถ่ายไว้สองสามชอต ไม่ทันไร...


                “กูเห็นนะ”


                !!!


                เสียงของบุคคลที่สามกระซิบข้างหูทำให้จงอินสะดุ้งตกใจน้อยๆ ปลุกคนอ่อนเดือนกว่าให้ลืมตาตื่น กายบอบบางขยับยันตัวเองขึ้นอย่างงัวเงีย ผมด้านข้างชี้ฟูน้อยๆน่ารักน่าเอ็นดู ยิ่งใบหน้าสะลึมสะลือยิ่งทำให้พยอนแพคฮยอนที่เข้ามาขัดอยากกระโดดตะครุบเดี๋ยวนี้เลย บอกได้คำเดียวว่าโคตรน่ารัก


                ทว่าของดีที่เห็นเมื่อกี้ทำให้คนตัวเล็กต้องปัดเรื่องของตัวเองออกไปเสีย แล้วหยิบเรื่องที่น่าสนใจกว่ามาขบคิด ดวงตาเรียวรีหรี่ลงอย่างจับผิดเพื่อนสนิท หากแต่ใบหน้าคมเข้มก็กลับมาตีเรียบเหมือนเคย ราวกับที่ทำไปทั้งหมดเมื่อกี้มันเป็นเรื่องสามัญธรรมดา ทั้งๆที่คนไม่ถูกกันมันไม่ควรจะ แกล้ง


                “อะไรของมึง” ขมวดคิ้วยุ่ง จงอินลุกขึ้นยืนแล้วเอื้อมหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเองลงมาสะพายไหล่ เหลือบสายตามองเซฮุนที่ยังงงๆเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวเดินลงจากรถไป


                แพคฮยอนเขย่งเท้าเอื้อมหยิบกระเป๋าเป้ให้เจ้าของที่ยังทำหน้าสงสัยมองตามคิมจงอินไปติดๆ ม่านตากลมสีดำเบนกลับมามองคนตัวเล็ก ซึ่งอีกฝ่ายก็ทำตัวเป็นรุ่นพี่ที่ดีด้วยการฉีกยิ้มกว้างน่ารักให้คนมองได้หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะขยับพาตัวเองออกมาจากที่นั่งเมื่อเห็นว่าคนอื่นๆลงไปกันหมดแล้ว


                นี่เขาคงจะทำให้คิมจงอินรำคาญอีกแล้วสิ ถึงได้เดินหงุดหงิดออกไปแบบนั้น


                “จริงๆพี่ก็อยากนอนบ้านเดียวกับน้องเซฮุนนะ แต่พี่สลัดมารชีวิตไม่ออก เดี๋ยวไปนอนบ้านเดียวกับจงอินมันแล้วกัน” ทำหน้าเหมือนลูกหมาหงอย เสียใจและเสียดายที่จะไม่ได้นอนกับคนน่ารักในดวงใจ นึกสาปแช่งปาร์คชานยอลที่ชอบมาคอยตาม


                “แต่ผมอยากนอนกับพี่มากกว่า”


                “หา?” ดวงตาเรียวเล็กเบิกกว้าง


                “ให้ผมนอนกับพี่แทนแล้วกันนะครับ เดี๋ยวผมจะไปขอพี่ชานยอลเอง” จากที่ได้ยิ้มทักทายกันไปเมื่อตอนเช้า ปาร์คชานยอลผู้ชายตัวสูงใส่แว่นสายตาอันโตก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ออกจะใจดีด้วยซ้ำไป


                “จริงอ่ะ!” แพคฮยอนที่ได้ยินแบบนั้นรีบเข้ามาเบียดชิดคลอเคลีย เรียกเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอให้กับเซฮุนได้ไม่น้อย


                “พี่ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเพื่อนพี่ไม่ชอบหน้าผม” สรรพนามที่ใช้ดูห่างเหิน ริมฝีปากแดงอ่อนเบ้น้อยๆอย่างหมันไส้ในความอินดี้ที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของพี่ชายนอกสายเลือด พลางรับกระเป่าจากคนตัวเล็กมาสะพายไหล่ข้างหนึ่ง เดินลงจากรถตามแรงดันแผ่นหลังของอีกฝ่าย “แล้วกระเป๋า...”


                ดวงตาเรียวเล็กกวาดมองไปทั่วข้างตัวรถบัสคันใหญ่ก็ไม่พบกระเป๋าเดินทางขนาดกลางที่ตอนแรกยังวางอยู่ตรงนี้ก่อนเขาจะเดินขึ้นไปตามเพื่อน มือบางยกขึ้นเกาหัวอย่างไม่เข้าใจ แต่ข้อสันนิษฐานก็คงจะมีได้อย่างเดียวเท่านั้น...


                “สงสัยจงอินเอาไปด้วยแล้ว”


                “..........!?.........”


     

    * * * * *


     

                “จุดประสงค์ของเราคือรับน้องและทำความดี เพราะงั้นกิจกรรมที่นี่จะทำให้น้องๆทุกคนรู้จักช่วยเหลือสามัคคีกัน ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงาน” หลังจากได้บ้านพักกันแล้วเรียบร้อย โดยนักศึกษาสองคนต่อหนึ่งบ้าน เข้าไปอยู่กับคนที่เป็นเจ้าของ เพื่อเรียนรู้ชีวิตที่แตกต่างจากพวกเขา เพราะฉะนั้นนักศึกษาจะมีพ่อและแม่ชั่วคราวระหว่างอยู่ที่นี่ คิมจงอินประกาศอย่างเป็นทางการและไม่รอให้เวลาผ่านไปเฉยๆ ทำตัวเป็นผู้นำด้วยการเดินไปยกอุปกรณ์ที่ตระเตรียมมา


                ทุกคนก็พากันแห่เข้าไปช่วยรวมถึงคนในหมู่บ้านบางคนเองด้วยที่มาร่วมกันสร้างห้องน้ำ ห้องสมุด โรงอาหาร รวมไปถึงเทปูนให้ถนนใกล้บริเวณโรงเรียน จำนวนนักศึกษาที่แบ่งงานกันทำตามคำสั่งของรุ่นพี่ ทำให้งานและเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว


                ล่วงเลยมาจนบ่ายแก่ๆ กลุ่มนักศึกษาก็ยังขะมักเขม้นจนแทบจะไม่ได้พัก


                “โอ๊ย!


                “อะไรของมึง! ร้องซะกูตกใจ”


                “กูตอกโดนนิ้วตัวเอง” หนึ่งในรุ่นพี่ตัวแสบที่กำลังนั่งยองทำงาน กระพริบตาปริบๆเรียกคะแนนสงสารไปทางนักเรียนแพทย์ซึ่งกำลังทำหน้าที่เป็นเด็กเสิร์ฟน้ำอยู่ใกล้ๆ นี่ไม่ได้แกล้งนะ เจ็บจริงแต่ขอเนียนอันเป็นนิสัย


                ใบหน้าหวานของคนผิวขาวเงยขึ้นเลิกคิ้วมองอย่างงงๆ ก่อนจะเพ่งจุดสนใจไปที่ก้านนิ้วยาวมีเลือดซิบนิดๆ ลิ้นเล็กแลบเลียริมฝีปากแดงอ่อนเล็กน้อย ก่อนจะหันซ้ายแลขวาแล้วตัดสินใจยกถาดน้ำเปล่าแก้วพลาสติกไปวางไว้ใต้ร่มของศาลา จากนั้นก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับมาหาอีกฝ่ายทันที


                “ให้ผมดูหน่อยนะครับ” น่ารัก ใจดี มีเมตตาจนทำคนรอบข้างเพ้อด้วยการจับเข้าที่มือข้างที่ก้านนิ้วนั้นบาดเจ็บ เรียวคิ้วขมวดยุ่ง จิ๊ปากเบาๆราวกับตนเองเจ็บอย่างไรอย่างนั้น ท่าทางจริงจังจนมีใครบางคนที่นั่งอยู่บนที่สูงแอบหมันไส้ “เข้าไปนั่งตรงศาลาก่อนนะ เดี๋ยวผมทำแผลให้ก่อน”


                มือที่ถูกลากไปทำเจ้าของเพ้อไปแล้วเรียบร้อย แรงสาปแช่งและก่นด่าตามประสาเพื่อนรุ่นเดียวกันไม่อาจทำให้คนเจ็บหลุดออกจากภวังค์ ความน่ารักของโอเซฮุนยิ่งมองใกล้ๆก็ยิ่งเพลินตา กลิ่นตัวหอมๆที่โชยแตะเบาตรงปลายจมูกพาเคลิ้มฝัน ไม่แปลกที่จะมีคนต้องการอยู่ใกล้ๆ


                “โหย ไอตอแหล!! เจ็บแค่นี้มึงทำเหมือนกำลังจะตาย! ทีโดนเขาต่อยฟันหลุดมันไม่เห็นร้องสักแอะ!!


                “ถุย! เดี๋ยวกูจะแกล้งเดินเหยียบตะปูบ้างงงงง!


                “เมื่อกี้กูเห็นตอนลมพัด เสื้อน้องเขาปลิว มึงเอ๊ยยยย! ขาวววว”


                “น้องเซฮุนนี่แม่ง นางฟ้าในฝันของกูเลย!!


                แม้จะรู้ว่าอยู่ปีเดียวกันแต่ก็ถือว่าเป็นน้อง เพราะประธานเป็นเพื่อนพวกเขา ..พากันคุยสนุกปากได้ไม่คิดว่าพี่ชายที่นั่งอยู่บนคันไม้ที่ต่อเป็นโครงของโรงอาหารแล้วเรียบร้อยจะว้ากใส่ ไม่มีใครสนใจคิมจงอินสักนิด และคิมจงอินก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเกินเหตุแบบไม่ชายตาแลคนรุ่นเดียวกันที่เอ่ยปากแซวน้องชายเลยสักนิดเหมือนกัน มือหนายังคงเตรียมปูกระเบื้องหลังคาลงบนไม้เนื้อดีที่จัดหามา หยาดเหงื่อเกาะพราวบนในหน้าหล่อหยดลงตามเรียวหน้าและสันจมูก หากแต่หูก็ยังเงี่ยฟังอยู่เรื่อยๆ


                “งั้นพวกมึงก็ฝันต่อไปเถอะ น้องเซฮุนกูจองแล้ว!


                “แพคฮยอน?” ยืนขึ้นประจันหน้ากับคนตัวเล็กที่แสบอย่างกับพริกขี้หนู


                “เออ!” คนที่อยากจีบหูผึ่งทันทีที่ได้ยินโอเซฮุนโดนลวนลามทางคำพูด รีบปรี่เข้ามาโบกกบาลของหนึ่งในสามที่แอบมองใต้เสื้อยืดตัวโคร่งของคนอายุน้อยกว่า ไอพวกเวรนี่ไว้ใจไม่ได้


                “มึงหึงกูหรา ไม่ดีนะ เดี๋ยวไอแว่นนั่นแม่งคิดแผนชั่วมาแบล็คเมล์พวกกูอีก มันยิ่งฉลาดๆอยู่ ถึงมึงจะน่ารักน่างับขนาดไหน แต่กูก็ห่วงชีวิตตัวเอง ไปซะเถอะ เราจบกันแค่นี้”


                “หรือมึงอยากโดนถีบติดกำแพง”


                “ไม่เอาอ่ะ กูอยากผลักมึงติดกำแพงมากกว่า โอ๊ย!!!!” ยังไม่ทันได้จบประโยคดี ค้อนอันโตก็ตกกระทบเหนือร้องเท้าแตะ ย้ำว่ารองเท้าแตะที่แม่งไม่มีอะไรปิดคลุมเท้าน้อยๆข้างนี้เลยสักนิด เล่นเอาคนตัวใหญ่ต้องร้องโอดครวญ


                “ขอโทษครับ พอดีมันหนัก ผมเลยทำหลุดมือ” เสียงทุ้มเข้มเป็นของปาร์คชานยอลที่เดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่มีใครรู้ กายสูงเพรียวค้อมตัวลงเก็บค้อนเจ้าปัญหาที่ขยันตกใส่เท้าคนอื่นเหลือเกินพลางก้มหัวขอโทษ ก่อนจะเงยหน้าจ้องเข้าไปในดวงตาอันหวาดเกรงของอีกฝ่าย ดวงตาโตหลังแว่นกรอบสีดำนิ่งสนิทและเย็นชาจนคนถูกมองขนลุกซู่จนต้องรีบก้มหน้าก้มตากลับไปทำงานต่อ เป็นอันรู้กันว่าเจ้าของสายตาน่ากลัวคนนี้กำลังไม่พอใจ


                เพียงเปลือกตากระพริบปิดลง แววกลมโตก็เปลี่ยนเป็นสดใสทันทีก่อนจะหันมาฉีกยิ้มกว้างให้กับคนตัวเล็กที่ตนคอยตามตื้อมาตั้งแต่สมัยเข้าเรียนใหม่ๆ ราวกับคนละคน ปาร์คชานยอลกำลังเล่นบทเด็กเรียนซื่อๆบื้อๆที่แค่เดินตามคนที่ชอบเท่านั้น


                “แพคฮยอนหิวน้ำไหมครับ”


                “ไปไกลๆเลยไปไอหยอย!” แม้ว่าจะเปลี่ยนจากทรงผมหยักลอนในตอนแรกมาเป็นตรงสวยประกายสีน้ำตาลแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังติดคำเรียกเดิมๆไม่เปลี่ยน และเขาก็ไม่ชอบให้ใครมาทำเหมือนตนเองเป็นเจ้าหญิงบานสะพรั่งแรกแย้มอะไรเทือกๆนั้นด้วย “ถ้ากูอยากกิน กูจะกินเอง”


                สะบัดหน้าเชิด เดินหนีกลับไปหน้าที่ของตัวเองต่อ โดยมีคนตัวสูงตามไปติดๆ

     


                คิมจงอินที่อยู่ในเหตุการณ์ตลอดส่ายหัวน้อยๆ เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งปีนลงมาจากโครงไม้เมื่อรู้สึกเหนื่อยและค่อนข้างร้อน เสื้อแขนกุดสีดำชื้นน้อยๆ หากแต่ก้านนิ้วเรียวก็จับมันขึ้นเช็ดหยาดเหงื่อลวกๆ ก่อนจะเงยขึ้นสำรวจความคืบหน้าของผลงาน พลันชายเสื้อที่ถูกดึงเบาๆทำให้จงอินก้มหน้ามองเด็กชายตัวเล็กที่ถือแก้วน้ำพลาสติกมาให้พร้อมกับหลอดสีขาวเอาไว้เจาะดื่ม


                เปลือกตาช้อนขึ้นมองตรงไปยังศาลาริมบ่อน้ำ ทว่าไม่พบโอเซฮุนที่น่าจะอยู่ตรงนั้น คนตัวสูงรับน้ำมาถือก่อนจะเอ่ยขอบใจสั้นๆ แล้วเริ่มกวาดสายตาหาใครอีกคน ขณะที่มือก็เจาะน้ำแล้วยกขึ้นดื่มเสียแทนจะใช้หลอด


                “ไอชินฮเยมันไปไหน” เอ่ยถามพวกที่ยังอยู่ที่เดิม สายตาไม่ละจากการสอดส่ายหาร่างของน้องชายที่หายไปพร้อมๆกับเพื่อนสาขาเดียวกัน


                “อ้าว อะไรวะ เมื่อกี้ยังนั่งทำแผลกันอยู่เลย”


                “ไม่ใช่มันสอยน้องไปกินนะแสรดดด.... เอ่อะ กูขอโทษ ลืมไปว่าน้องมึง”


                คิมจงอินสบถเบาๆพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือหนายกขึ้นเสยผมลวกๆ ขายาวเริ่มก้าวออกตามหาน้องชาย นึกตำหนิโอเซฮุนเล็กน้อยที่อยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง แล้วหายไปกับเพื่อนของเขานี่คิดอะไรอยู่ คิดว่าที่นี่มันเป็นที่เดินเล่นหรือยังไง หน้าที่ของตัวเองทำอะไรไม่รู้จักรับผิดชอบ


                ราวกับลืมตัว ว่าเผลอใส่ใจ เผลอหงุดหงิดกับการกระทำของใครอีกคน ทั้งๆที่เคยบอกเอาไว้ว่าควรจะอยู่ใครอยู่มัน เหตุผลที่ยกพ่อแม่มาอ้างตอนนี้คงไม่พ้นเป็นรองจากอารมณ์ส่วนตัว เพราะหัวคิ้วที่ขมวดยุ่งเสียแทบจะชนกัน นัยน์ตาสีน้ำตาลก็ดูขวางเหลือเกิน เรียกว่าน้องๆที่กะว่าจะเดินเข้ามาถามงาน หรือทักตามประสาต้องชะงักค้าง หุบปากกลับทันควันเมื่อดูเหมือนว่ารุ่นพี่ยังไม่พร้อมตอบ


                ละเดินออกมาไกลจากกลุ่ม เมื่อหาแล้วไม่เจอแม้แต่เงา ที่สำคัญคือหายไปทั้งคู่ แล้วเพื่อนเขามันก็ใช่ว่าจะคนดีอะไรมากมาย หญิงก็ได้ ชายมันก็ฟัน จะไม่ว่าอะไรเลยถ้าเกิดว่าคนที่มันหายไปด้วยจะไม่ใช่โอเซฮุน


                แล้วนี่เขาคิดอะไรอยู่?


                บางทีโอเซฮุนอาจจะไปเข้าห้องน้ำ และบางทีไอชินฮเยมันก็อาจจะไปเข้าห้องน้ำเหมือนกัน


                “อ๊ากกกกกกกกกกกก! อ๊ากกกกกกกกก!! พี่ครับ พี่ครับ!!


                ห้องน้ำอย่างนั้นเหรอ? ห้องน้ำแล้วมายืนกอดกันหลังโรงเรียนที่หญ้าขึ้นแซมสูงแบบนี้หมายความว่ายังไง แล้วเมื่อกี้อะไรวะ สรรพนามบ้าบอคอแตกที่เซฮุนมันใช้เรียกคนอื่น


                นัยน์ตาสีน้ำตาลแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันทีที่ได้เห็นร่างสองร่างกำลังแนบชิด โดยที่แขนขาวของโอเซฮุนเป็นฝ่ายรัดรอบลำคอของเพื่อนในสาขาเดียวกัน และมือของชินฮเยก็จับอยู่ที่เอวคอดเล็กของเซฮุน น้องชายที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ยิ่งรัดแน่นมากขึ้นไปอีก ทั้งยังส่งเสียงร้องดังลั่นจนอีกคนทำอะไรไม่ถูก


                “ใจเย็นนะ! เดี๋ยวพี่เอาออกให้”


                “เร็วๆครับ!!


                “จ้ะๆๆ”


                ไอคนอยากจะเป็นพระเอกก็มือสั่น ใบหน้าคมหล่อเหยเกนิดๆขณะที่มือกำลังจะถูกตัวหนอนสีเขียวบนหลังของคนอายุน้อยกว่า หากแต่ครานี้มันกลับเป็นเพียงตัวเล็กๆเท่านั้น ทว่าพอโอเซฮุนรู้ว่าหนอนเกาะหลังเท่านั้นแหละ แทบจะกระโดดใส่คนตัวโต


                “เซ.. น้องเซฮุนอย่ารัดพี่แน่นสิครับ”


                “ผมกลัว! เอาออกไปเร็วๆเลยครับ!


                ถามกูสักคำไหม ว่ากูกลัวหรือเปล่า ฮือออ หนอนแม่ง เปิดโอกาสให้กูหล่อหน่อยก็ไม่ได้


                !!!


                “อ๊ะ!!” ร่างทั้งร่างของโอเซฮุนถูกกระชากโดยมือของบุคคลที่สามที่มองอยู่สักพักแล้ว กายผอมปลิวเข้าปะทะอกแกร่งของคิมจงอินทันทีอย่างรวดเร็ว ใบหน้าหวานและคางที่เกยลาดไหล่หนาดูตกใจจนลืมสิ่งที่ตนเองกำลังกลัวไปเสียสนิท เพียงดวงตาเรียวคู่สวยที่กระพริบปริบ ขณะที่สัมผัสได้ว่ามืออุ่นกำลังกระชับแน่นที่เอวตน กลิ่นเหงื่อคละกับกลิ่นโคโลญจน์แตะปลายจมูก ความคุ้นเคยทำให้โอเซฮุนไม่กล้าแม้แต่จะขยับกาย


                “มึงทำอะไรวะ”


                “ทำอะไรคืออะไร กูแค่จะเอาหนอนออกจากหลังน้องเขา เนี่ยๆ อ๊ากกก! เชี่ย! กูลืมไปว่ากูก็กลัวเหมือนกัน” มือใหญ่รีบสลัดเจ้าตัวเล็กน่าขนลุกทิ้งเมื่อระลึกได้ว่าเพิ่งหยิบออกมาสดๆก่อนจงอินจะเข้ามาขัด ทว่าต้องชะงักไปคล้ายเพิ่งได้สติ ดวงตาคมเหลือบมองลำแขนยาวที่รัดรอบกายบอบบางของคนที่เป็นน้องชายอย่างสงสัย ...สงสัยในแบบที่จองอึนซลมันยังไม่ทำขนาดนี้เลย แล้วนี่...


                “อย่ายุ่งกับคนในครอบครัวกู”


                “หา?” นี่ตกลงว่ามันเห็นเขาเป็นคนแบบไหนกัน จะบอกว่าหน้าตาดีอย่างเขาก็เลือกเว้ยไม่ใช่เอะอะพาเข้าห้อง แล้วก็ยังเกรงใจเพื่อนเป็น เออ ถึงแม้จะไม่เคยแสดงให้มันเห็นก็ตาม แต่เขาก็รู้ว่าใครควรเล่นด้วย หรือใครที่ไม่ควรเล่นด้วย แล้วดูจากท่าทางของไอคุณพี่ชาย...


                “จะเตือนมึงแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว”

     


                กูก็รู้ได้ว่ากูไม่ควรยุ่งกับน้องของมึง

     







    - - - 
    จริงๆจะลงตั้งแต่วันศุกร์แล้ว แต่แต่งไม่ไปไหนสักที  โม้ ดูละคร บลาๆค่ะ T T ไม่มีข้อแก้ตัว

    พาร์ทนี้ก็เอาอีกแล้วววววว คิมจงอินกำลังทำอะไรรรร ต้องการอะไรรจากน้องเซฮุนกัน หืมมม ? 
    เค้าเป็นคนชอบแต่งให้น้องเซฮุนน่ารักนะ เพราะงั้นไอที่แสดงๆออกไปตอนแรกๆต่อหน้าคิมไคน่ะ
    แค่แสร้งทำ ทำเก่ง อวดดี เอาชนะ เรียกร้อง อย่างที่หลายคนเข้าใจค่ะ ต่อจากนี้จะได้เห็นตัวจริง
    ที่อาจจะแว้ดๆบ้าง ดื้อบ้าง แต่น่ารักเยอะๆ อย่างที่คนแต่งชอบบบบ หุหุหุหุ55555

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจกันเหมือนเดิมนะคะ หลายคนเลยที่เค้าจำได้ ดีใจค่ะที่ได้อ่าน
    ความคิดเห็นของทุกคน มีแรงแต่งต่อเยอะเลย ^-^v ขอบคุณมากค่าา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×