ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bad Girls จำเอาไว้...ผู้ชายคนนี้เป็นของฉัน! SJ SNSD

    ลำดับตอนที่ #3 : Bad Girls : Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 54


    ตอนที่ 2
     
              ร่างบางปิดประตูรถคันหรูเสียงดังแล้วนั่งลง ให้ตายสิ! เธอไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อแม้แต่นาทีเดียวด้วยซ้ำไป!
    “นี่! กลับบ้านเลย” ซอฮยอนตะโกนบอกคนขับรถ
    “อะไรนะครับ แต่คุณชาย...” ชายแก่ที่นั่งประจำที่คนขับเห็นว่าคุณชายของเขายังไม่ออกมาจากในงาน แถมยังเอารถมาแค่คันเดียวอีก
    “ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งรึไง ฉันพูดครั้งเดียวจบ ถ้าทำขับพรุ่งนี้ก็เก็บของออกจากบ้านฉันไปได้เลย” ซอฮยอนปรายตามองคนขับก่อนจะคว้าเสื้อคลุมสีน้ำตาลอ่อนที่วางอยู่บนเบาะมาใส่แล้วเอนหลังนอน
     
    ติ๊ดๆ~
    เสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวในชุดนอนกระโปรงลายหมีพูสีชมพูที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงสีชมพูอ่อนดังขึ้น
    “โอ้ย! โทรมาบ้าอะไรตอนนี้เนี่ย!” ซอฮยอนลุกขั้นแล้วรับโทรศัพท์
    {ยัยเล็ก! เธอทิ้งพี่ไว้ที่นั่นได้ยังไง ดีนะที่ยุนอาเอารถมา รู้ไหมว่างานมันเลิกตั้งครึ่งชม.แล้ว แล้วพี่ก็ต้องมารับมือกับยัยเจ้าของงานนั้น...}
    “เลิกบ่นสักที นี่อยู่บ้านรึยัง ถ้าถึงแล้วก็อย่าบ่น มันจะทำให้ผิวเล็กเสีย แล้วก็น้องมาร์กหน้าไว้ด้วย คุยมากไม่ได้สวัสดี!” ซอฮยอนวางสายแล้วหยิบที่ปิดตาสีชมพูมาปิดตาแล้วนอนลง
     
    ซอฮยอนคว้ากางเกงยืนสีชมพูมาใส่ด้วยความรวดเร็ว เสื้อแขนยาวสีขาวแล้วหยิบจั๊กเก้ตแขนสามส่วนสีชมพูมาสวมอย่างรวดเร็ว
    “ให้ตายสิ เพราะงานบ้าๆนั่นกำลังจะทำฉันสาย!” ซอฮยอนรวบผมลอนไว้ด้านหลังแล้วรีบวิ่งลงบันไดมา
    “น้องเล็ก จะรีบไปไหน วันนี้มีเสต็กปลาของโปรดนะ” ดงแฮตะโกนบอกน้องสาวที่ใช้กุญแจรถเปิดประตูรถสปอร์ตสีชมพูคันเล็ก
    “วันนี้น้องมีเอมวี เอารถไปเอง มีอาหารเช้าให้ อ้อ! พี่ด็องอย่าใส่มาสตาสสสสส มันจะทำให้กระเพาะทำงานหนักเพราะว่ามันเผ็ด แค่นี้ล่ะ” ซอฮยอนเข้าไปในรถแล้วถอนรถออกอย่างรวดเร็ว
    “ให้ตายสิวะ! มาสตาสก็กินไม่ได้” ดงแฮวางขวดมาสตาสลงแล้วเอาเนื้อปลาเข้าปากด้วยสีหน้าบู้บี้ แค่นึกถึงเรื่องเมื่อคืน...เจสสิก้างั้นหรอ... ไม่ใช่ว่าเธอพิเศษอะไร แต่ใบหน้าของเธอมันชวนให้น่าจดจำจริงๆ
     
    เอี๊ยดดด
    เสียงเบรกดังจอดที่กองถ่ายที่มีคนเดินกันให้วุ่น ซอฮยอนถอดแว่นกันแดดสีดำออกแล้วโยนลงที่เบาะด้านข้างแล้วก้าวลงจากรถ ทุกคนหยุดงานทุกอย่างแล้วหันมามองเธอเป็นสายตาเดียว
    “ซอขอโทษนะคะ พอดีเมื่อวานนี้ซอไปงานแล้วเพลียมากจริงๆ ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ” ซอฮยอนตีใบหน้าให้ใสซื่อและรู้สึกผิด พี่ไสตล์สิสหันมามองซอฮยอนแล้วยิ้มให้ก่อนจะเดินผ่านเธอไป
    “น้องเจสสิก้าใช่ไหมคะ ขอบคุณมากเลยนะคะที่ช่วยมาดูการถ่ายเอมวีในวันนี้ด้วย” ซอฮยอนรู้สึกหน้าเสีย ทุกคนหันไปมองเจสสิก้าเป็นสายตาเดียว
    “ก็เพราะผู้กำกับเป็นเพื่อนเจสตอนอยู่ที่แอลเอหรอกนะคะ ไม่งั้นคงไม่เอาเวลามาทำอะไรแบบนี้หรอก โอ้ย ร้อนจังเลย ที่นี่มีที่เย็นๆไหมเนี่ย” เจสสิก้าบ่น เธอไม่ต้องแต่งตัวอะไรมากก็ดูดีได้ในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้ากับกางเกงขาสั้น สีดำของเธอได้ ซอฮยอนแบะปากก่อนจะเดินไปที่ห้องแต่งตัว
    “เหอะ! ทำอย่างกับยัยนั่นเป็นเจ้าหญิง เมินฉันไปเลยหรอเนี่ย!” ซอฮยอนเลือกเสื้อที่มีคนเอามาให้เธอเลือก
    “ชุดพวกนี้คุณเจสสิก้าบอกว่ามันเข้ากับคุณซอฮยอนแล้วก็เอมวีนี้มากเลยนะคะ คุณซอฮยอนก็ชอบสีพูแถมยังเข้ากับสีนี้อีกด้วย...” ซอฮยอนวางเดรชสีชมพูลง แล้วหยิบเดรชสีขาวขึ้นมาแทน
    “แต่วันนี้ฉันจะใส่สีขาว” ซอฮยอนปรายตามองสตาร์ฟแล้วแสยะยิ้มก่อนจะไปเปลี่ยนเสื้อ
     
    “เจ้าหญิงหรอ! ฉันว่านะ ยัยนั่นน่ะนางมารชัดๆ เห็นว่าน้องเจสสิก้าสวยหน่อยไม่ได้ เหอะ เธอเลือกชุดสีฟ้าๆทั้งๆที่ตัวเองชอบสีชมพูน่ะ” ร่างสูงที่เดินเข้ามาหยิบน้ำให้น้องสาวถึงกับชะงักเมื่อได้ยินพวกสตาร์ฟนินทาใครคนหนึ่ง
    “ยัยนั่นดูถูกแฟชั่นของเจสสิก้า คิดว่าตัวเองเก่งมาจากไหนกันเชียว” คยูฮยอนหยิบน้ำกอนจะขมวดคิ้ว ยัยผู้หญิงคนนั้นนี่นิสัยแย่จริงๆเลย
    คยูฮยอนเดินออกมาที่สตูริโอสำหรับถ่ายเอมวี เลือกนางเอกได้ดีจริงๆ
    “ไปซะนาน ให้ไปหยิบน้ำ ไม่ใช่ให้ไปกรอกน้ำ” เจสสิก้าบ่นพี่ชาย
    “ได้ข่าวว่า...น้องสาวของลีดงแฮอยู่ที่นี่ด้วยหรอ เธออยู่ไหนน่ะ” เจสสิก้าทำสีหน้านิ่งเรียบแล้วกระดกน้ำดื่ม
    “ก็นางเอกเอมวีวันนี้ไง ลีซอฮยอนน่ะ เธอนิสัยดีแถมยังทำงานเก่งมากๆด้วยนะ” คยูฮยอนแสยะยิ้ม นิสัยดีหรอ... ถ้าคนพวกนี้เห็นตัวตนของยัยเด็กนั่นจะช็อคขนาดไหนนะ
    “คนที่เป็นขวัญใจคนเกาหลีน่ะหรอ...ก็นะ พี่หน้าตาดีขนาดนั้น น้องสาวก็คงจะเหมือนๆกัน” เจสสิก้าเปรยออกมาเบาๆ
    “อ้อ นั่นไง เธอมาแล้ว” ผู้กำกับซึ่งเป็นเพื่อนของเจสสิก้าพูดให้เจสสิก้าหันไปมอง ซอฮยอนในชุดเดรชเรียบๆสีขาวมันทำให้เจสสิก้าไม่พอใจอย่างมาก
    “คิม ฉันเลือกชุดสีชมพูให้ไม่ใช่หรอ ทำไมเธอใส่ชุดนี้” เจสสิก้าเอ่ยอย่างไม่อยสบอารมณ์
    “เอ่อ...” ผู้กำกับถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คยูฮยอนกระตุกยิ้มที่มุมปากเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ปกติเขาไม่ชอบจะยุ่งเรื่องคนอื่นก็จริง แต่เป็นใครก็คงต้องหมันไส้ยัยเด็กนี่ แสดงละครได้เก่งจริงๆ
    ซอฮยอนยิ้มทักทายคนในกองด้วยใบหน้าใสซื่อจนเธอมองเห็นเจสสิก้าที่ยืนอยู่กับผู้กำกับทำสีหน้าไม่พอใจนัก ซอฮยอนซ่อนใบหน้าที่สะใจไว้ข้างหลังแล้วเดินมาหา
    “สวัสดีค่ะคุณเจสสิก้า ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้เลือกชุดที่คุณเลือกให้ ฉันคิดว่าทุกคนรู้ว่าสีชมพูคือตัวตนของฉัน ก็เลยอยากเปลี่ยนลุคบ้าง อีกอย่าง...^^ ฉันคิดว่าเนื้อเพลงสบายๆแบบนี้ สีชมพูคงไม่เข้า ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ” ซอฮยอนพูดด้วยคำสุภาพแต่ทำให้คนที่ได้ยินถึงกับสะอึก
    ใจเย็นเจสสิก้า ถ้าเป็นคนอื่นเธอคงด่ากลับหน้าหงายไปแล้ว แต่เพราะนี่คือน้องของลีดงแฮ เธอต้องทนอีกหน่อย แต่ถ้าไม่ตอบกลับบ้าง ยัยเด็กนี่จะได้ใจไปน่ะสิ!
    “ค่ะ ฉันเข้าใจว่าคุณเชื่อมั่นในทัศนของคุณ แต่ยังไงฉันก็อายุมากกว่าคุณ ช่วยกรุณาเคารพและให้เกรียติฉันมากกว่านี้ด้วยนะคะ ถึงฉันจะไม่ได้โตที่นี่ แต่ก็พอจะรู้ว่าเขาถือเรื่องอายุมาก” เจสสิก้าพูดโดยไม่หันไปมองหน้าซอฮยอน ซอฮยอนเอามือที่กำแน่นซ่อนไว้ข้างหลังแล้วยิ้มรับ
    “ค่ะ...ฉันจะพยายามให้มากกว่านี้ ขอตัวไปอ่านบทก่อนนะคะ” ซอฮยอนโค้งให้เจสสิก้าอีกครั้งก่อนจะเดินออกมา สีหน้าเปลี่ยนเป็นคนละคนในทันที
    “คิดว่าฉันจะกลัวรึไง” 
     
    ซอฮยอนถ่ายเอมวีจนดึกเพราะฉากมันซับซ้อนมาก แต่เธอก็ทำได้ดีมากเช่นกัน ซอฮยอนไปเปลี่ยนชุดเดิมเพราะความเหนื่อยเลยปล่อยผมทรงที่เข้าฉากกลับบ้าน
    “ให้ตายสิ นี่มันสองทุ่มแล้ว ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย กระเพาะทำงานหนักแน่เลย จะกินอะไรตอนนี้น้ำหนักคงขึ้น” ซอฮยอนเปิดกระโปงหลังรถหยิบนมขวดสองขวดขึ้นมาก่อนจะเตรียมตัวกลับบ้าน
    “ซอฮยอน!” ผู้กำกับเอมวีเรียกเธอ
    “คะ” ซอฮยอนถามเพราะเขารีบวิ่งมาจากในสตูริโอ
    “คือ...เจสสิก้าเขารีบกลับบ้านไปแล้วเอารถไปด้วย ตอนนี้ทีมงานก็กลับไปกันหมดแล้ว ที่เหลือจะอยู่เก็บรายละเอียด ฉลองปิดกล้องที่นี่ ฉันรู้ว่าเธอคงไม่อยากนอนดึก เพราะงั้น...” สีหน้าผู้กำกับดูลำบากใจ
    “เพราะงั้นอะไรคะ”
    “ช่วยไปส่งคยูฮยอนที่บ้านหน่อยได้ไหม” ซอฮยอนเปลี่ยนสีหน้าในทันที
    “นี่มันกี่โมงคะ ซอยังไม่ได้ทานอะไรเลย ปกติตอนนี้ซอจะกลับไปมาร์กหน้า พรุ่งนี้ตารางงานซอก็แน่นมาก ยังจะให้ซอไม่ส่งคนที่ไม่รู้จักอีก เหอะ” ซอฮยอนกลอกตาไปมา
    “ซอ...ฉันขอร้อง” ซอฮยอนเองก็ไม่ใช่คนที่เรื่องมากอะไรขนาดนั้น ถ้าคนที่เธอจะไปส่งไม่ใช่คยูฮยอน!
    “ทำไมผู้กำกับคิมไม่ให้เขาโทรเรียกแฟนเขามาล่ะคะ” ซอฮยอนเบ้ปากก่อนจะเปิดขวดนมแล้วดื่มมันเข้าไป
    “แฟน -_-? ช่างเถอะ ถือว่าเป็นคำขอของฉันครั้งเดียวนะ” ซอฮยอนถอนหายใจ
    “แล้วเขาอยู่ไหนล่ะคะ”
     
    ในที่สุดซอฮยอนก็ต้องใจอ่อนจนได้ เพราะขืนเธอวีนให้ทุกคนคงจะมองเธอไม่ดีเป็นแน่ ซอฮยอนไม่ได้ถามทางคยูฮยอนเพราะพอจะจำทางไปบ้านของเขาได้ จึงไม่มีการสนทนาใดๆระหว่างทั้งสอง
    ติ๊ดๆ~
    ซอฮยอนมองโทรศัพท์มือถือราคาแพงที่กำลังสั่นอยู่ตรงคอนโซลด้านหน้า เธอกดรับที่บลูธูททำให้คยูฮยอนที่นั่งข้างๆหันมามองเธอเพียงเล็กน้อย
    “ฮัลโหล” ซอฮยอนพูดด้วยเสียงปกติแต่ไม่มีคำว่า ‘ค่ะ’ อย่างทุกที ทำให้คยูฮยอนเริ่มจะสนใจในบทสนทนานั้น
    {ไง ยัยบ๊อง เอ...หลายวันนี้มานี้ไม่โทรหาฉันเลย...จะแกล้งให้คิดถึงเล่นรึเปล่าเนี่ย~} เมื่อซอฮยอนได้ยินเสียงปลายสายความเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันเหมือนหายเป็นปลิดทิ้ง
    “แล้วคิดถึงไหมล่ะ” ซอฮยอนพูดด้วยปรายตามามองคยูฮยอนแต่แสร้งทำเป็นมองออกไปนอกหน้าต่าง
    {บอกว่าไม่คิดถึงยัยต๊องของฉันคงไม่เชื่อหรอก ฮ่าๆ ไง วันนี้เหนื่อยไหม ต้องให้ฉันร้องเพลงให้ฟังเหมือนทุกครั้งรึเปล่า} ซอฮยอนเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ยากนักที่จะเห็นรอยยิ้มที่ไม่ได้แต่งเติ่มของเธอเลย
    “วันนี้ฉันคงไม่มีเวลาฟังหรอกนะ ต้องไปส่งคนแปลกหน้าที่โดยฝากมา พรุ่งนี้ตารางงานก็แน่นมากเลย ทำยังไงเราจะเจอกันได้นะเนี่ย” ซอฮยอนเบ้ปาก
    {ไม่เอา อย่าดื้อสิ ไว้วันไหนถ้าตารางงานเราว่างตรงกันค่อยออกมาเจอกันก็ได้นะ ฉันไม่กวนแล้ว เดี๋ยวไม่มีสมาธิขับรถ}
    “ค่า” ซอฮยอนวางสายแล้วมาตั้งใจขับรถแทน คยูฮยอนได้เห็นซอฮยอนในมุมที่ไม่เคยเห็น เธอจะเป็นแบบนี้กับใครกันนะ
    เอี๊ยดดดดด
    ซอฮยอนเบรกรถกะทันหันเมื่อมีหมาตัวเล็กๆวิ่งตัดหน้ารถเธอ ซอฮยอนสบถออกมาเบาๆก่อนจะเปิดประตูรถออกไปอย่างอารมณ์เสีย แต่คยูฮยอนคว้าแขนเธอเอาไว้ก่อน
    “แค่หมาวิ่งตัดหน้ารถเธอ เธอจะทำอะไร” คยูฮยอนพูดด้วยความกลัวว่าเธอจะทำร้ายหมาตัวนั้นจึงได้ห้ามไว้
    “ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้หรอก! ถ้าฉันชนหมาตัวนั้นจะทำยังไง ทั้งรถ ทั้งหมา โอ้ยไม่อยากจะคิด!” ซอฮยอนบ่นๆออกมา
    “แค่รถเรอะก็ต้องอารมณ์เสียเลยรึไง! เธอนี่มันตอแหลจริงๆ แกล้งทำเป็นคนดี แค่หมาตัวเล็กๆก็ยังไม่เว้น เธอจะทำอะไร ถ้าเธอชนมันจริงๆ ตีมัน ไม่ฆ่ามันไปเลยล่ะ!” ซอฮยอนรู้ถึงหน้าชามากที่คยูฮยอนพูดแบบนั้น ดูถูกเธอเกินแล้ว!
    ซอฮยอนสะบัดมือคยูฮยอนทิ้งก่อนจะพูดขึ้นมา
    “ลงไปจากรถฉัน ฉันไม่อยากให้รถฉันเปื้อนเสนียดจรรไร เดินไปนิดเดียวก็ถึงบ้านนายแล้ว บอกให้ลงไปไง!” ซอฮยอนตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความโมโห ขนาดพี่ชายของเธอยังไม่เคยตวาดเธอ ว่าเธอดูถูกเธอสักครั้ง แล้วเขาเป็นใคร!
    “เหอะ! ฉันก็ไม่อยากอยู่นักหรอก” คยูฮยอนรีบลงจากรถแล้วปิดประตูเสียงดัง ซอฮยอนน้ำตาไหลลงมาด้วยความโมโห
    “เห็นฉันเลวขนาดนั้นเลยหรอ! ให้ตายสิ...น้องหมา!” ซอฮยอนเปิดประตูรถลงมามองหาลูกหมาตัวเมื่อกี้ที่วิ่งตัดน้ารถเธอไป เธอเห็นมันอยู่ที่ริมถนนแล้ววิ่งไปจับมันมา เพราะรถคันใหญ่กำลังจะชนมันน่ะสิ!
    ซอฮยอนจับมันแล้วรีบวิ่งหลบไปแต่เขียนเธอโดนรถเฉี่ยวทำให้มีแผลเป็นทาง เธอกอดลูกหมาน่ารักไว้ในอ้อมแขน
    “แกทำให้ฉันต้องเป็นแผล! จะเป็นแผลเป็นไหมเนี่ย เฮ้อ แกต้องชดใช้นะ! มาเป็นสัตว์เลี้ยงแก้เหงาให้ฉันซะดีๆ เจ็บจังเลย” ซอฮยอนหยิบผ้าเช็ดหน้าสีชมพูในกระเป๋าออกมากดเลือดให้หยุดไว้ก่อน ทำไมต้องมาเจอเรื่องบ้าๆอย่างนี้ด้วยเนี่ย!
     
     







     
    มาอัพแล้ววว Gui And Safe สู้ตายยยย ไว้ลายยย สู้ๆๆๆ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×