ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sweet dream วิจารณ์นิยายฉบับฝันหวาน!

    ลำดับตอนที่ #25 : [Send] HOT HOT HOT ! สะดุดรักนายสุดฮอต !

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 160
      0
      16 ต.ค. 55

    :)  Shalunla



    ชื่อนักวิจารณ์ :: เฮ้อ...ปวดขี้ <สวัสดีอีกครั้งนะคะ ในส่วนนี้เราก็ยังอยากบอกกล่าวเหมือนเดิม คือเราเป็นเพียงนักวิจารณ์สมัครเล่น บางคำพูดของเราอาจจะแรงไปหรือไม่เข้าใจ สามารถมาสอบถามจะคุยกับเราได้โดยตรง หากการวิจารณ์ที่ข้อผิดพลาดหรือเราเข้าใจไรเตอร์ผิดไป ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย>

    ชื่อเรื่อง :: HOT HOT HOT !   สะดุดรักนายสุดฮอต !

    หน้าบทความ :: ในส่วนนี้จัดดีกว่าเรื่องก่อนนะคะ อ่านง่ายสบายตา ทว่าเนื้อหาข้างล่างที่ย้ายไปติดมุมซ้าย ในส่วนนี้ถ้าไม่ทำเป็นสองสดมภ์ก็ควรจะจัดให้อยู่ตรงกลางเหมือนกันจะโอเคกว่า

    บทนำ ::

    บทนำ

     

                “เฮ้ ~ สาวน้อยไปซื้อน้ำให้พวกฉันหน่อยสิ” คุณชายสไมล์พูดพลางทำทุเรศ <ทำอะไรทุเรศเหรอคะ?>

                “ให้ฉันไ... < ตัวนี้นี่ตกมาคืออะไรคะ ถ้าจะสื่อความหมายว่ากำลังจะพูดแต่พูดยังไม่ทันจบมันน่าจะเป็นคำได้นะคะ อย่างจะพูดคำว่า คือจะเป็น คะหรือ ไปจะเป็น ปะออกเสียงครึ่งนึงมากกว่า>

                “ไม่ต้อง นายไปเล่นบาสกับไมล์เหอะฉันไปเอง” ฉันบอกเมจิคก่อนจะเดินไปยังถนนฝั่งตรงข้ามที่มีบรรดาร้านหลายๆอย่าง <ตรงนี้น่าจะเป็น มีบรรดาร้านค้าหลายร้านซึ่งขายแต่ละอย่างแตกต่างกันไป ให้ความหมายที่ชัดเจนกว่า แอบมีความรู้สึกว่าร้านหลายๆ อย่างมันแปลก>

    และเราก็สนิทกันจนรู้ยันขี้เล็บว่าแต่ละคนชอบมีขี้เล็บตรงไหนกันบ้าง =.,= <ชอบมีขี้เล็บตรงไหน มีคนอยากมีขี้เล็บด้วยเหรอคะ มันไม่ใช่เครื่องประดับที่จะเอาไปใส่ตรงไหนก็ได้ที่ชอบ มันเกินจริงไปนะคะ>

                ขาฉันที่แทบจะไม่เคยล้มโดยเรื่องแบบนี้ถึงกับอ่อนพับล้มลงไปกลางถนน <แปลกค่ะ พูดเหมือนขาไม่ใช่อวัยวะ เหมือนเป็นตัวอะไรซักอย่างที่ถูกทะนุถนอมเป็นอย่างดี คือมันก็ต้องเอาไว้เดินเหินไม่ใช่เหรอ แล้วที่บอกว่าโดยเรื่องแบบนี้ ใครจะไปโดนรถชนได้บ่อยๆ ล่ะคะ ถ้าจะให้แนะนำคิดว่าประโยคนี้ควรจะเป็น ฉันที่ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนถึงกับขาพับขาอ่อนลงไปกลางถนน มากกว่า>

                บ้าตัวไหนมันขี่ <ขับ> รถอุบาท  <อุบาทว์> ทุเรศขนาดนี้กัน!!

                “คุณ!! คุณเป็นอะไรไหมครับต้องขอโทษแทนเจ้านายผมด้วยนะครับ ขอโทษจริงๆ” ไม่นานนักชายชุดดำ <ชายชุดดำไม่ทำให้นึกถึงบอดี้การ์ด มันเหมือนโจร ชุดบอดี้การ์ดมีเอกลักษณ์ที่เราพบเห็นบ่อยๆ คือชุด สูทไม่ใช่เหรอคะ ที่คล้ายๆบอดี้การ์ดก็วิ่งทะเล่อทะล่าออกมาพร้อม <ด้วย> สีหน้าแตกตื่น ชุดอะไรทุกอย่างเป๊ะแต่เสียงแก่ไปนิดนะลุง -_-; <เราไม่เข้าใจว่าประโยคนี้กำลังจะสื่ออะไร จะบอกว่าเครื่องแบบของเขามันเนี๊ยบเหรอ เธอบรรยายมาแค่ใส่ชุดดำแล้วมันเป๊ะตรงไหน เรามองไม่เห็นภาพ ไรเตอร์ควรบอกรายละเอียดมากกว่านี้นะคะ>

                “ม..ไม่เรื่องนี้เดี๋ยวฉันเคลียร์เอง

                ปลาจวดที่ฉันเตะหรือถีบวะ ชั่งมันเถอะสรุปว่าหมอนั่นนั่งหันหลังให้ฉันแผ่นหลังสั่นเทาด้วยความโกรธชัดเจน <ประโยคนี้งงมาก เขานั่งหันหลังให้เธอ แล้วหลังเขาก็สั่นเพราะโกรธ แล้วพวกเขาคุยกันยังไง หันหลังคุยกันเหรอ> ก็เอาสิ!

                เท่ดีออก! J <J มันคืออะไร>

                “เธอ!!” ปลาจวดที่ฉันว่าเมื่อครู่ยันตัวขึ้นเต็มความสูงแล้วค่อยๆหันหน้ามา <เมื่อกี้บอกว่าเขาหันหลังไป แล้วนี่หันหน้ากลับแสดงว่าตัวเขาไม่ได้หันนะ เพราะไรเตอร์ชี้เฉพาะไปที่หน้าแล้ว>

                และเมื่อหมอนั่นหันหน้ามาทางฉันแล้ว... <เหมือนที่อธิบายไปแล้ว>

                หัวใจเจ้ากรรมดันเต้นแรงขึ้นมาดื้อๆทันทีที่สบนัยต์ย์ตาโศกคู่นั้น <มันดูไม่เข้าการคาแรกเตอร์ที่แสดงออกมาก่อนหน้านี้เลย ลักษณะของนัยน์ตาแบบนี้ ทั้งคำพูดที่แสดงถึงอารมณ์ชัดเจนไม่บ่งบอกว่าเขาจะมีนัยน์ตาโศก>

                “เธอรู้ไหมฉันลูกใคร!!

                “พ่อแม่นายเองยังไม่รู้แล้วฉันจะรู้หรอฉันไม่ใช่เมียนายนะ! <แค่ถามว่าลูกใคร ไม่ได้ถามว่าพ่อแม่รู้หรือเปล่า ส่วนเรื่องเมีย เราว่ามันนอกประเด็น อ่านแล้วแบบ เอิ่ม ขุดคูเถียงหรือเปล่า>

                ถุ้ยยยยใครเขาอยากเจอนายกันหน้าหล่อ! L <L มันคืออะไร เราไม่เข้าใจ และจะไม่ทักอีกแล้วนะคะ>

    อ่านจบแล้วค่อนข้างงงมากพอสมควร ในบทนี้เน้นการสนทนาที่ไม่ได้ทำให้เรื่องเดินหน้าไปไหนเลย  ไม่ได้บอกให้บรรยายมากๆ นะคะ แต่กำลังจะบอกว่าการบรรยายทำให้ผู้อ่านมองเห็นภาพและเหตุการณ์ชัดเจนขึ้น การสนทนาก็ทำให้เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของตัวละครและช่วยให้เรื่องดำเนินไปได้ ทว่ามันควรจะมีความสัมพันธ์และอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว แต่จากที่เราอ่านบทนี้ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกแบบนั้นเลย

     

    การบรรยาย  :: การบรรยายในเรื่องนี้ค่อนข้างสับสน จับจุด หาประเด็น และมองภาพไม่ออก ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางบทสนทนา ซึ่งการสนทนาไม่มีความน่าดึงดูดและต่อเนื่อง ลูกรับลูกส่งภายในเหตุการณ์เอง บางทีเหมือนตัวละครอยากพูดอะไรก็พูดซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเหตุการณ์เลย อ่านแล้วรู้สึกเหมือนขุดคูน้ำ ไหลลึกลงไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย  การบรรยายจะต้องอาศัยจิตนาการมากๆ และความเข้าใจในการจับจุดมองที่มีความเหมาะสม ทว่าในเรื่องนี้ยังทำได้ไม่ดีพอ...การเว้นวรรคในแต่ละประโยคมีปัญหามาก มันทำให้อ่านไม่รู้เรื่อง ความหมายผิดไปด้วย

                    ปล.อย่าลืมเรื่องการเว้นวรรคหนึ่งครั้งหลังเครื่องหมาย ๆ การเว้นช่องไฟที่ถูกต้อง หรือแม้แต่การกด Tab ทุกครั้งที่มีการขึ้นพารากราฟใหม่ด้วยนะคะ

    เนื้อเรื่อง ::

    บทที่ 1

    ให้ตายยังไงก็ไม่ไป!

    ฉันลุกขึ้นจากที่นอนทันทีที่ชื่อนี้จบ <มันห้วนมาก เราแนะนำว่าประโยคควรจะเป็น ฉันลุกจากที่นอนทันทีที่สิ้นเสียงนั้น>

    ก็หมอนข้างนอนอยู่นี้ <นี่> แม่เรียกอะไรตอนดึกๆ

    เพราะฉันมันแก่ไปสินะ แกก็เริ่มรำคาญพูดอะไรก็ไม่สนใจ ใช่สิ๊ แกมันโตแล้วนิ

    แม่พูดพลางมองทอด <มองทอดออกไปราว ถ้าเขียนแบบนี้เราว่าตัดทอดออกก็ไม่เป็นปัญหานะ

    แม่ฉันแสร้งทำป็นคุกเข่าลงไปราวกับคนไม่มีแรง

    โอเค ฉันจะหยุดแม่ก่อนที่แม่ฉันจะลงไปชักดิ้นชักงอ บนพื้นให้ฉันสนใจท่าน  <เรียกร้องความสนใจ>

     

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะที่แม่ฉันขอให้ไปงานเลี้ยงคุณนายบ้าบอคอแตกอะไรนั่นที่มีแต่พวกใส่หน้ากาก

               

    ฉันที่พึ่ง <เพิ่ง>แต่งตัวเสร็จและกำลังจะกดเบอร์

    ดลบรร <บัน>ดาลให้เป็นแม่มาเคาะประตูตอนนี้ แง้!

    แล้วแม่ก็เดินลัลล๊า <ลั๊นลา ลั่นล๊า>

     

     บทที่ 2

    ฮี่ ฮ่า วี่ ว่า สุดท้ายก็ต้อง.....!! 

    ลูกจะต้องย้ายก้นกับย้ายใบหน้างามๆที่ได้จากแม่มาล้วนๆไปพบปะผู้คนที่มากหน้าหลายตา

                    เสียงรถเบรกอย่างเรียบหรู <เราไม่เข้าใจที่ว่าเบรกอย่างเรียบหรูนะคะ มันเป็นยังไง ตามปกติไม่เคยพบนะคะ>

                ฉึก!

                เสียงแบบนี้ น้ำเสียงกวนส้นเท้าประมาณนี้ คำพูดแบบทุเรศทุรังแบบนี้!

                ขอร้องเถอะ

                (      -  -   ) (      -  -   )

    หน้าปลาจวด! <เพิ่งเจอกันไปครั้งเดียวแถมไม่มีเหตุการณ์หรือฉากที่ทำให้ตัวละครเก็บลักษณะหรือเอกลักษณ์ของอีกฝ่ายได้ขนาดนี้ การจดจำเสียงละท่าทางที่แสดงออกมันเฉพาะเจาะจงมากเกินไปจนไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นชวนให้น่าติดตาม>

    แต่ฉันกำลังขบคิดในใจอย่างทรมาว่า...

    มันเป็นกงกรรมกงเกวียนแน่ ๆ ที่ทำให้ฉันเจอกับหมอนี่อีกครั้งหา T_T

     =____= ถุงยางอนามัยสองทำไมมาด่าฉัยังงี้

    นัยต์น์ตา

     

    บทที่ 3

    ศึกชิง.... (?)

    ฉันที่กำลังกินน้ำอย่างปรีดาถึงกับต้องสำลักออกมาอย่างหมดมาด <หมดมาด?? อ่านแล้วไม่เข้าใจเลยค่ะ >

    ไม่ได้กวนประสาทก็แค่บอกไว้เฉย เฉ๊ย <ลูกคำนี้เรานึกภาพ นึกเสียงไม่ออก มันดูไม่เข้ากับประโยคข้างหน้าเลย>

    เสียงมันคุ้นๆนะ เหมือนเคยได้ยินเสียงอุบาทว์ๆ ดูผู้คนทรมา

     

    แกจะเอามาทำไรหะ!” เสียงแม่ดังเสมือนฉันกำลังจะยักยอกปล้นถุงยางอนามัยของสภากาชาติไทย <สภากาชาดไทย เป็นองค์กรการกุศลเพื่อมนุษยธรรมที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในด้านการให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ได้รับความทุกข์ยาก มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับถุงยางอนามัยเลย >

    ” ฉันตะโกนบอกแล้วแกล้งทำเป็นเงียบ ทั้งๆที่ในใจแทบอยากจะกรี๊ดเมื่อได้ยินเสียงหัวเราคิ๊กคั๊ก<คิกคัก>

                    นี่ช้าว <เช้า>แล้วหรอ -_-”

    เพี๊ยะ!

    บทที่ 4

    ข้อตกลงที่หมอนข้างแทบช็อค TOT

                “แง้ T[]T นายก็ขึ้นมา ทำไมไม่ให้คนมาบอกก็ได้เน้นี่ แล้วมาหาฉันมีอะไรหา!

    ฉึกฉักหา นี่สาบานว่าจบมาจากเมืองนอก เมืองนอกหรือพม่ายะ! <พม่าก็ถือว่าเป็นเมืองนอกนะคะ>


    บทที่ 5

    ห๊ะ...?! เจออีกแล้ว

    ฉันเลือกเส้นทางไปยังโต๊ะประจำที่ไม่มีคนเพราะตอนพักเที่ยงคนโครตวุ่นวายเลย

                    ฉันห้ามทัพเพื่อนรักทั้งสองก่อนพวกนี้จะตีกัน ฉันหันไปมองก็อตไบท์ที่ตอนนี้มีที่หน้ามีรอยยิ้มเล็กๆ

    ฉึกฉักบ้าบอคอแตกแหกกะโหลกกร๊าซซซซ ฉันอุตส่าห์ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

     “ก็..ก็ แม่บังคัง ( . .)

     

    ส่วนที่ต้องแก้ไข :: มีเยอะแยะมาก แทบจะทุกบรรทัด

    ตัวละคร :: ตัวละครมีเยอะมาก และการดำเนินไปของตัวละครไม่มีเหตุผลอะไรมาส่งเสริมให้ตัวละครคิดและกระทำแบบนั้นเลย

    คำผิด :: แจงไปแล้ว มีคำแสลงเยอะ และภาษาพูดที่เราไม่นิยมนำมาเขียนเป็นภาษาเขียน เข้าใจนะคะว่าต้องการให้เหมือนกับที่พูดจริง แต่พออ่านเข้าไปมากๆ แล้วมันรู้สึกว่าไม่ใช่ มันไม่สัมพันธ์กับประโยคที่พยายามจะสื่อสารเลย

    ความน่าติดตาม :: ไม่มีเลยค่ะ นิยายเรื่องนี้เขียนตาอารมณ์หรือเปล่าคะ ถ้าอ่านตามอาร์มเอามันๆ ชนิดแบบว่าอย่างด่าใครซักคนเรื่องนี้พอถูๆ ไถ ๆ ไปได้  ไม่รู้ว่าพูดแรงไปหรือป่าว แต่ต้องขอโทษด้วยถ้าหากว่ารับไม่ได้กับคำพูดบางคำ แต่จะบอกว่าการเขียนนิยายมีหลากจุดประสงค์ บางคนเขียนตามอารมณ์ซึ่งนิยายก็จะออกมาตามอารมณ์อย่างที่ต้องการ แต่หากไม่ใส่แก่นหรือมิติของนิยายลงไปเรื่องนั้นก็จะไม่มีอะไร ไม่สนุก ไม่น่าสนใจ และไม่น่าติดตาม ถ้าเขียนนิยายเพราะอยากสื่อข้อคิด มันจะมีกระบวนการคิดและวิธีเขียนที่เวิร์คกว่านี้ อย่างน้อยๆ สิ่งที่ไรเตอร์ควรทราบคือการเช็คข้อมูลของแหล่งอ้างอิงที่เอามาพูดถึง ว่ามันหมายความว่ายังไง ไม่ใช่ คิดจะเขียนหรือพูดก็แค่พิมพ์ มันไม่ทำให้คนอ่าน มีอารมณ์ร่วมและอยากอ่านต่อ จากที่อ่านมาแล้ว นิยายเรื่องนี้ ด่ากันเกือบทั้งเรื่องโดยไร้เหตุผล การกระทำของตัวละครอยากจะทำก็ทำ อยากจะโผล่ก็โผล่ ตอนแรกคิดว่าคงอ่านไม่จบซะแล้ว แต่เห็นว่าเคยอ่านผลงานของไรเตอร์คนนี้มาก่อน ซึ่งเรื่องที่แล้วแตกต่างจากเรื่องนี้มาก เขียนห่างกันเยอะไหมคะ คนละปีหรือไม่กี่เดือน

                    แนะนำว่าก่อนเขียนให้ทำสมาธิก่อนนะคะ มันช่วยได้มาก ^^ ยังเป็นกำลังใจให้ สู้ต่อไปบนถนนแห่งการเป็นนักเขียนนะคะ

     


    ชื่อนิยาย ::

    พอใจกับคำวิจารณ์ไหมคะ  ::

    ต้องการให้เราปรับปรุงไหมเอ่ย ::

    แอดแฟน โหวต แปะแบนเนอร์ให้ด้วยได้ไหมจ๊ะ ::

    แล้วมาใช้บริการใหม่นะคะ ^O^  ::


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×