ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fiction[SooxNew]Timeless Of Friend หมดเวลาของคำว่าเพื่อน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 10 จากลา

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 55


    Timeless Of Friend หมดเวลาของคำว่าเพื่อน
    ตอนที่ 10 จากลา
     
     
     
     
    ณ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม  
     
    วันนี้เป็นวันที่โรงเรียนจัดงานไหว้ครูและหลังจากนั้นจะมีการแสดงของนักเรียนซึ่งวง The split ก็ได้ขึ้นแสดงด้วย วันนี้เป็นวันที่โซ่และนิวตื่นเต้นที่สุด ถึงแม้ว่าเขาทั้งสองจะผ่านมาหลายเวทีแล้วก็ตาม  พิธีการไหว้ครูก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงเวลาการแสดงของนักเรียน ซึ่งนักเรียนทุกคนตั้งหน้าตั้งตารออยู่  และแล้วก็ถึงคิวของโซ่และนิว เจย์ที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกร จึงพูดเรียกเสียงกรี๊ดให้ทั้งสอง และเมื่อทั้งสองเดินขึ้นเวทีเสียงกรี๊ดก็กระหึ่มดังขึ้นหลายเท่า
    "เห้ย มึงดูป้ายนั่นดิ"  โซ่สะกิดนิวให้ดูป้ายที่พวกแฟนคลับชูขึ้น ซึ่งมันเขียนว่า “โซ่♥นิว”
    "จะสนใจทำไม มันไม่จริงซะหน่อย"  นิวพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยแล้วจึงเดินมานั่งที่เก้าอี้
    "สวัสดีคร้าบบบบบบ"   นิวและโซ่พูดทักทายพร้อมกัน
    "ทุกคนคงรู้จักพวกเราดีอยู่แล้ว แต่ขอแนะนำตัวอย่าเป็นทางการอีกครั้งละกัน  ผมโซ่ ศตายุ นาคทองเพขร  นักเรียนชั้น ม.6/1 ครับ"   
    "ส่วนผม นิว ชลัชจักร  ตรีนงลักษณ์ ม.6/1 เหมือนกันครับ" นิวพูดต่อโซ่ทันที
    "วันนี้เราเตรียมเพลงมาเล่นให้เพื่อนๆและน้องๆฟังอยู่หลายเพลง เริ่มเพลงแรกเลยละกัน  เอ...เพลงไรครับนิว"  โซ่หันไปถามนิว 
    "อ่อ เพลงความคิด ของแสตมป์ครับ งั้นเราไปฟังกันเลยนะครับ"  นิวพูดจบก็ตามด้วยเสียงกรี๊ดและปรบมือที่ดังสนั่น  โซ่จึงเริ่มดีดอินโทรที่เขาเพิ่มคอร์ดมาเป็นการเรียกเสียงกรี๊ด ซึ่งมันเป็นอินโทรที่ค่อนข้างยาวและเสียงหวานมาก ไม่ผิดคาดเขาได้รับเสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดดังที่หวังไว้
     
    ~ยังเดินผ่านทุกวัน  ที่ที่เราพบกันเมื่อก่อน 
    ยังจำซ้ำๆ ได้ทุกตอน  ราวกลับมีใครมาหมุน ย้อนเวลา 
    แต่ก็คงจะหมุนย้อนได้แค่ในความคิด  ในชีวิตจริง คงไม่เจอกันอีกแล้ว 
    ยืนอยู่ตรงที่เดิม แต่ไม่มีวี่แวว  เธอจากไปแล้ว และคงไม่ย้อนคืนมาหา 
     
    ได้แต่ฝากความคิดของฉันเอาไว้  เผื่อวันไหนเธอผ่านมา 
    เห็นที่เดียวกันนี้ เธอจะนึกขึ้นได้ว่า  เคยมีคนนึงยืนข้างเธอ อยู่ตรงนี้เสมอตลอดมา 
     
    ให้เธอสัมผัสความคิดที่ฉันทิ้งไว้  อาจไม่เห็นได้ด้วยตา 
    ฉันจะฝากเอาไว้ อยู่ในพื้นดินและท้องฟ้า  มันเป็นความคิดที่กระซิบว่า ฉันยังรักเธอ ....
     
    พอจบเพลงความคิดโซ่จึงดีดกีตาร์ต่อและเริ่มขึ้นอินโทรของเพลงรักเมียที่สุดในโลกทันที และหลังจากที่โซ่เริ่มอินโทรเพลงนี้ เสียงกรี๊ดในห้องประชุมของโรงเรียนก็ดังขึ้นอีกครั้ง และตามด้วยเสียงแซวอีกมากมาย
    "เห้ยๆๆ รักพี่นิวที่สุดในโลก จากพี่โซ่ กรี๊สสสสสสส  ฟินๆๆๆ"  เด็กสาวคนนึงตะโกนขึ้นมาจึงทำเสียงกรี๊ดในหอประชุมดังไม่หยุด  และในขณะเดียวกันบนเวที โซ่หันไปมองหน้านิว เพื่อจะยิ้มให้แต่นิวกลับไม่มองหน้าเขาและทำหน้านิ่งเฉยเหมือนไม่รู้สึกอะไร
     
    ~ฉันมักจะถามเธอเป็นประจำว่าเธอนะรักฉันมั้ย
    และหากว่าเธอน่ะบอกว่ารักแล้วเธอน่ะรักแค่ไหน
    รักเท่าฟ้าหรือมหาสมุทร รักเท่าผืนดินหรือผืนน้ำ รักฉันที่สุด
    เธอบอกว่าบางทีมันยากที่จะอธิบาย ไม่ต้องกังวลจะไม่ไปไหนจนกว่าวันสุดท้าย
    ไม่ใช่ว่าฉันนั้นไม่เชื่อใจ ฉันรู้ว่าเธอทำเพื่อฉันนะไม่ใช่เพื่อใคร
    ย้ำคิด ย้ำทำ อยากได้ยินซ้ำๆ เวลาเธอหายไปก็อยู่กับใจช้ำๆ
    ช่วยมองตาตอนฉันข้างเธอ ฉันยังรอฟังเธอรู้มั้ยเธอต้องห้ามเหม่อ
      You my number one lady จะไม่มีใครที่มาแทนที่เธอ
    และไม่ว่านานแค่ไหนฉันจะรักเธอตลอดไป
    ให้บอกว่ารักเท่าจักรวาลมันก็ยังไม่พอ ก็อยากได้ยินเธอพูดซ้ำ like I never heard that before
    ก็อยากได้ยินมันทุกวัน อยากได้ยิน เพียงเธอบอกรักฉัน
    ให้บอกว่ารักเท่าจักรวาลมันก็ยังไม่พอ ก็อยากได้ยินเธอพูดซ้ำ like I never heard that before
    ก็อยากได้ยินมันทุกวัน อยากได้ยิน เพียงเธอบอกรักฉัน ได้มั้ยเธอ...
     
      เพลงรักเมียที่สุดในโลกจบลงด้วยเสียงปรบมือของคนในหอประชุม และเสียงกรี๊ดอันล้นหลาม
    "ขอบคุณสำหรับเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือ  เอ่อ ..และเสียงแซวทั้งหลายด้วยนะครับ"  โซ่พูดจนทำให้คนในหอประชุมหัวเราะกันถ้วนหน้า
    "เพลงต่อไปเพลงอะไรครับนิว"  โซ่หันมาถามนิวอีกครั้งเพราะเห็นนิวนั่งเงียบ
    "เอ่ออ เพลงคืนที่หนึ่งครับ เพลงนี้โซ่เพิ่มคอร์ดลงไป ทำให้มันน่าฟังมากครับ ไม่พูดมากดีกว่า ผมว่าไปฟังกันเองเลยละกัน"  พอนิวพูดจบโซ่ก็เริ่มโซโล่กีตาร์ทันที จนทำให้ทั้งหอประชุมเงียบกริบเพื่อฟังเสียงกีตาร์ของโซ่ เมื่อท่อนโซโล่จบนิวจึงร้องทันที
     
    ~แค่สองเราได้สบสายตา ก็เข้าใจว่าใครคิดอะไร 
    แต่ฉันรู้อยู่เต็มหัวใจ ว่าเราควรจะหยุดไว้แค่นั้น 
    yeah yeah yeah 
     
    มันเป็นเพียงเสื้อผ้าที่ทำให้เธอ sexy เมื่อสวมใส่ 
    มันเป็นเพียงแค่บรรยากาศที่กล่อมให้เราต่างเคลิ้มไป 
    มันเป็นเส้นบางบางที่ขั้นระหว่างความรักและความใคร่ 
    hey yeah yeah yeah 
     
    และเธอคือความงดงาม  แบบที่ฉันเคยตามหาเพียงไร 
    แต่ฉันต้องห้ามใจให้ได้  ไม่อาจทำให้เธอเป็นของฉัน 
     
    มันเป็นเพียงเสื้อผ้าที่ทำให้เธอ sexy เมื่อสวมใส่ 
    มันเป็นเพียงแค่บรรยากาศที่กล่อมให้เราต่างเคลิ้มไป 
    มันเป็นเส้นบางบางที่ขั้นระหว่างความรักและความใคร่ 
    hey yeah yeah yeah 
     
    ให้คืนนี้ของเราเป็นคืนที่หนึ่ง ไม่ใช่หนึ่งคืนเท่านั้น 
    อยากให้เธอรู้ว่าฉันเห็นเธอสำคัญ 
    และมีความหมายเพียงใด 
    ให้มันเป็นคืนหนึ่งที่ได้โรแมนติก กับเธอก็พอรู้ไหม 
    เพราะรักของเรายิ่งใหญ่ มากกว่า One Night Stand ...
    เมื่อจบเพลงคืนที่หนึ่งโซ่ยังคงคลอกีตาร์ไปเบาๆอยู่ และนิวก็พูดขึ้นระหว่างเพลง
    "ต่อไปนะครับ จะเป็นเพลงสนุกๆ ผมเชื่อว่าทุกคนที่ฟังแล้วต้องร้องตามได้แน่ๆ นั่นคือเพลงคำถามคร้าบบบ"
    ~อยากให้วันนี้ เป็นแบบวันนั้น ที่เราหลบฝนอยู่ด้วยกัน 
    มีร่มคันหนึ่ง กับใจที่เริ่มสั่น ไม่หนาวหรือว่าหวั่นไหวเพราะใกล้เธอ 
     
    ตั้งแต่วันนั้น มาจนวันนี้ ไม่ว่ากี่ทีที่พบเจอ ที่ดูไม่ค่อยคุย แค่ยิ้มให้เธอ 
    ก็กลัวว่าเผลอไปบอกความในใจ 
    ได้แต่ตั้งคำถาม แต่ไม่กล้าถามเธอสักครั้ง  ได้แต่ตั้งความหวังข้างในหัวใจ 
    จริงๆ แค่อยากรู้ ว่าเธอน่ะคิดเหมือนฉันไหม อยากให้เธอมองตา และตอบคำถามหัวใจ 
    ไม่รู้เมื่อไหร่ เธอจะได้ตอบมันซักที ...
     
    เสียงกีตาร์ของโซ่ค่อยๆเบาลงและจบลงในที่สุด  ตามมาด้วยเสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดอีกเช่นเคย
    "ครับ เพลงต่อไปนี้เป็นเพลงสุดท้ายของเราในวันนี้นะครับ  ซึ่งเพลงนี้ผมกับโซ่ช่วยกันเขียนทำนองใหม่ พร้อมกับใส่ดนตรีให้มันดูโรแมนติกขึ้นและให้มันเข้ากับการร้องคู่ เพลงนี้ชื่อว่าเพลงจากนี้ไปจนนิรันดร์ ครับ"  นิวเว้นช่วงให้แฟนๆได้กรี๊ดและเขาก็พูดต่อ
    "แต่เพลงนี้ผมไม่ได้เป็นคนร้องนะครับ  โซ่จะร้องคู่กับสมาชิกใหม่ของวงเราและก็อาจจะเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวโซ่ในอนาคต"   นิวเว้นช่วงอีกครั้งและหันไปมองหน้าโซ่ ซึ่งโซ่ทำหน้าตาประหลาดใจกับคำพูดของนิว  ส่วนในหอประชุมนั้นเต็มไปด้วยเสียงซุบซิบนิวจึงพูดต่อ
    "คนนั้นก็คือ น้องฟ้า ม.5/1 คร๊าบบบ  เชิญฟังได้เลยครับ"  พูดจบนิวก็วิ่งลงจากเวทีทันที และฟ้าก็วิ่งสวนขึ้นมาบนเวทีในเวลาเดียวกัน  
    โซ่เริ่มบรรเลงช่วงอินโทรของเพลง  เพลงที่เขาและนิวช่วยกันเขียนทำนองใหม่มันทำให้คนในหอประชุมเงียบกริบเพื่อที่จะได้ยินเสียงกีตาร์ชัดๆ โซ่พลางนึกถึงสีหน้าของนิวเมื่อกี้ มันเป็นสีหน้าที่แสดงออกมาหลายอารมณ์ มีทั้งอารมณ์ประชด อารมณ์นอยด์ และอารมณ์เศร้า  เขาทำให้นิวเสียใจอีกแล้วหรอเนี่ย เขาคิดไปเรื่อยจนรู้สึกตัวอีกทีตอนที่ฟ้าเริ่มร้องเพลง
     
    ~แค่ได้มองตาเธอในวันนั้น จากที่เราเจอกันแค่ครั้งเดียว
    เปลี่ยนชีวิตที่เคยโดดเดี่ยวให้มีความหมาย ไม่ว่าฉันและเธอต่างคนต่างมาต่างกันเท่าไหร่
    คำว่ารักจะผูกใจเราไว้....ไม่ให้ไกลกัน
     
    ตอนนี้นิวเดินลงมาจากเวทีแล้ว มานั่งนั่งข้างหลังเวทีกับเพื่อนๆ แต่สีหน้าของนิวไม่สู้ดีนักเพื่อนจึงเริ่มชวนคุยเพื่อนเปลี่ยนบรรยากาศ
    "เห้ยนิว ! เป็นไงว่ะ เสียงกรี๊ดตรึมเลยนะมึง เดี๋ยวนี้ดังใหญ่แล้วนะ" โอ๊ตพูดขึ้น
    "เออๆๆ ช่ายๆๆ อย่างนี้กูคงต้องขอลายเซ็นซะแล้ว"  เจย์พูดเสริม
    "ไม่ขนาดนั้นหรอก"  พูดจบนิวก็ก้มหน้าลงตัวเริ่มสั่น
     
    ~จากที่เคยเย็นชาก็หวั่นไหว จากเป็นคนอื่นไกลก็คุ้นเคย
    สิ่งที่ฉันไม่เข้าใจเลยเธอบอกกันให้รู้
    เปลี่ยนชีวิตฉันไปอยากอยู่นานๆเพื่อจะเฝ้าดูวันพรุ่งนี้รักเราจะเป็นอย่างไร
     
    "กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ  เดี๋ยวกูมา"  นิวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและลุกออกไป
    "มันจะไหวเปล่าวะ กุสงสารมันว่ะ  เฮ้ออ..." เจย์พูด
    "นั่นดิ ใครจะไปทนได้ อยู่ดีๆ ก็มีคนมาร้องเพลงคู่กะคนที่เรารัก แถมเป็นเพลงที่ช่วยกันเขียนทำนองอีก เฮ้อ !"     โอ๊ตพูดพลางส่ายหน้า
    ขณะนี้นิวเดินมาถึงห้องน้ำแล้ว นิวทรุดตัวนั่งลงกับม้านั่งตัวเดิม ตัวที่เขานั่งร้องไห้วันที่โซ่บอกสถานะของเขาทั้งสอง  นิวนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว เสียงเพลงจากหอประชุมแว้วมาถึงตรงที่นิวนั่ง เขานั่งฟังด้วยความเจ็บปวด
     
    ~ฉันไม่เคยรักไม่เคยรู้ว่าชีวิตมันดีเช่นไร
    เมื่อได้มีบางคนข้างกายเมื่อได้มีเธออยู่ข้างๆกัน
    ฉันมอบชีวิตต่อจากนี้ไปจนนิรันดร์ทั้งหัวใจคือเธอเท่านั้น
    รักของเรา...จะอยู่จนวันตาย
     
     
     
    - NEW’S PART - 
    อาการแบบนี้มันหวนกลับมาหาผมอีกแล้ว  ทั้งๆที่จะตั้งใจว่าลืมทุกสิ่งทุกอย่างและเริ่มต้นใหม่ แต่ผมกลับต้องจมปลักอยู่อย่างนี้ไม่รู้ทำไมตัวเองถึงไม่ยอมปล่อยวางซักที  ผมอุตส่าห์เดินออกห่างจากหอประชุมมาตั้งไกล แต่ยังได้ยินเสียงเพลงของผมและโซ่เพลงที่เราช่วยกันทำซึ่งตอนนี้ไม่ใช่ผมอีกต่อไปแล้วที่จะร้องเพลงข้างโซ่ แต่เป็นฟ้าตะหากที่คู่ควรจะอยู่ข้างโซ่  ซึ่งการเดินหนีมาอย่างนี้แล้วยังได้ยินเสียงเพลง มันคงจะบอกให้ผมรู้ว่าผมไม่สามารถหนีความจริงไปได้ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่สามารถเผชิญกับความจริงได้เช่นกัน  ผมจึงลุกขึ้นเดินออกมาจากห้องน้ำชาย กะว่าจะกลับบ้าน  ผมจึงเดินออกมาหน้าโรงเรียนและจะข้ามถนนไปโบกแท็กซี่กลับบ้าน การเดินมาหน้าโรงเรียนในครั้งนี้มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปคือ หน้าโรงเรียนในตอนนี้ไม่มีนักเรียนชุกชุม เพราะตอนนี้นักเรียนไปรวมอยู่หอประชุมกันหมดแล้ว แต่บนถนนกลับมีรถที่วิ่งผ่านหน้าโรงเรียนมากขึ้นไม่เหมือนตอนเช้าและเย็นที่จะไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านเพราะรถพวกนั้นจะเลี่ยงไปใช้ทางอื่นแทน  ตอนนี้ผมเดินข้ามมาถึงเกาะกลางถนนแล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผมข้ามถนนคนเดียว คงไม่ต้องบอกหรอกว่าทุกครั้งผมข้ามกับใคร  ผมกำลังจะข้ามถนนเลนส์สุดท้ายเพื่อที่จะไปโบกรถของถนนอีกฝั่ง  ผมต้องตกใจเมื่อมีเสียงแตรของรถดังลั่น  
    ปรี้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!! 
    เอี๊ยดดดดดดดด!!  ตุบ!!!!!!!!!    นี่คือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน
    - END NEW’S PART -
     
     
     
    - TBC -
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    Talk With Writer
    สวัสดีครั้งที่ 2 ของวันนี้ครับ 5555 นี่ก็ตอนที่ 10 แล้ว
    ดูไปดูมาคนอ่านเริ่มน้อยลง สงสัยเบื่อช่วงดราม่ากันแน่ๆๆ เลย TT 
    ไรเตอร์สัญญานะ ว่าดราม่าจะน้อยลงกว่านี้ (นิดๆ -..-)
    อย่าเพิ่งหนีกันไปไหนน๊าาาาาา ถือว่าขอร้อง -/\-
    .
    .
    .
    .
    .
    ปล .นี่เฟสกลุ่มครับ ^^ https://www.facebook.com/groups/401687626533482/
    ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครั้บ
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×