ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มั่วๆ898888

    ลำดับตอนที่ #6 : ผดปแดปผ

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 51


    เช้าวันนี้เสียงรถมอเตอร์ไซค์ของเจ้าหน้าที่ส่งจดหมายหรือบุรุษไปรษณีย์ มาจอดเทียบหน้าบ้าน พี่เฟิร์นพี่สาว ออกไปรับจดหมายปึกใหญ่ ก่อนเอามาวาง ไว้บนหลังตู้เย็น แล้วก็เปิดๆอ่านดูก่อนเจ๊เฟิร์นจะหยิบเอาโปสการ์ด รูปสวยมาให้ฝ้าย

     

    Calw Nikolauskapelle.jpg (25582 Byte)

    (รูปโปสการ์ดเมืองคาล์ว ประเทศเยอรมนี)

    ข้างหลังเขียนข้อความว่า

    "To. นู๋ ฝ.ฝ้ายผู้น่ารัก แต่พี่นาตน่ารักกว่านะ>O<

    นี่เป็นการ์ดรูปเมืองที่พี่อยู่ เห็นมันสวยดีซื้อมาสองอัน

    สะพานนี้มีรูปปั้น Hermann-Hesse ด้วยนะเขามีหนังสือ

    แปลกับประพันธ์นส์ ลองอ่านดู น่าจะดีมากๆเลย>O<
     กลีบดอกไม้เป็นรูป
    (แล้วพี่นาตก็วาดรูปใบโควฟ์เวอร์สี่กลีบมาให้ )"

    By Elfenkind von Bellona

    กลีบที่1.....หมายถึง ความหวัง

    กลีบที่2..หมายถึง ความศรัทธา

    กลีบที่3......หมายถึง ความรัก

    กลีบที่4.....หมายถึง ความโชคดี

    เอากลอนใบโคว์ฟเวอร์ของพี่นาตมาลงนะคะ

    โคล์ฟเวอร์ สี่ใบ นำโชค
    หมดโศก ทั่วโลก สดใส
    ความเชื่อ ศรัทธา แห่งใจ
    มีให้ เพียงเธอ ผู้เดียว

    by: Elfenkind Von Bellona

    พี่นาตวาดรูปใบโคล์ฟเวอร์สี่กลีบมาให้ก็หมายถึงความโชคดี

    ความในใจ

    " แง้ๆ อ่านโปสการ์ด และอ่านเรื่องใบโคล์ฟเวอร์ของเจ๊แล้วฝ้ายเป็นไรไม่รู้อยากร้องไห้ ขอบคุณเจ๊มากน้า รักเจ๊มากเลย แล้วที่บอกว่า เจ๊จะมางานหนังสืออ่า ฝ้ายไม่ลืมน้าเจ๊ ฝ้ายจะรอเจ๊ เจ๊มาวันไหนช่วงไหนก็บอกฝ้ายด้วย แง้ๆๆ ฝ้ายตั้งใจแต่งนิยายเรื่องใหม่ที่ตั้งใจว่ายังไงฝ้ายต้องแต่งให้จบ ฝ้ายจะตั้งใจแต่งนิยายดีๆ มาให้สำนักพิมพ์และ ไปขายของกับเจ๊ที่งานสัปดาห์ ขอบคุณเจ๊มากๆเลยมิสเจ๊นะคะ รักเจ๊"

    http://my.dek-d.com/f_fine/story/view.php?id=351810

    (ลิ้ง นิยายเรื่องใหม่ เพราะเรื่องเก่าโดนสับละเอียด แง้ๆ)

     


    Sankt-Nikolaus-Brücke Calw, mit dem deutschen Schriftsteller Hermann Hesse

    ว่าด้วยเรื่อง

    Hermann Hesse Of....F'ine (555+)

                 เฮอร์มานน์ เฮสเส เกิดที่เมืองคาล์ว เยอรมนี เมื่อวันที่ ๒ กรกฏาคม(จะบอกฝ้ายเกิดวันที่ 1กรกฏาคม 555+ใกล้กันเลย อิอิ) ๑๘๗๗ เริ่มอาชีพขายหนังสือที่ตือบินแง่นและบาเซิล ระหว่างนั้นได้ลงมือเขียนและตีพิมพ์บทกวีเมื่ออายุ ๒๑ ปี ห้าปีหลังจากนั้น เขาประสบความสำเร็จอย่างสูงยิ่งจากนวนิยายสะท้อนปัญหาวัยรุ่นและปัญหาการศึกษาเวลานั้น เริ่มจาก ปีเตอร์ คาเมนซินด์(๑๙๐๔) บทเรียน (๑๙๐๖) ติดตามด้วย เกอร์ทรูด (๑๙๑๐) รอสฮัลด์ (๑๙๑๔) เดเมียน (๑๙๑๙) และ อื่นๆ 
        ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เฮสเสต่อต้านลัทธินิยมทหารในเยอรมนีอย่างรุนแรง เขาโอนสัญชาติและย้ายไปอยู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นนักเขียนที่มีเกียรติภูมิสูงเด่นในโลกวรรณกรรมภาษาเยอรมัน สำนึกด้านมนุษยธรรมและการศึกษาปรัชญาพัฒนาอย่างมากในผลงานเล่มต่อๆมา เช่น  สิทธารถะ(๑๙๒๗) สเตปเปนวูล์ฟ (๑๙๒๗) นาร์ซิสซัสกับโกลด์มุนด์ (๑๙๓๐) ท่องตะวันออก (๑๙๓๒) และ The Glass Beed Game (๑๙๔๓)
         ส่วนบทกวีและข้อเขียนเชิงวิจารณ์เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในบรรดานักคิดร่วมสมัย นาซีเยอรมันกลัวและกำจัดหนังสือของเฮสเส แต่ชาวสวิสกลับให้เกียรติ ทั้งยังเสนอปริญญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ให้แก่เขาด้วย
    แต่ทันทีที่สงครามโลกครังที่สองยุติ ชาวเยอรมันกลับยอมรับเขา โดยการมอบรางวัลเกอเธ่ (Goethe Prize)
    ให้เป็นเกียรติ เพราะเป็นที่ปรากฏแก่นักอ่านจำนวนมากว่าผลงานของเฮสเสได้รักษาคุณค่าด้านต่างๆไว้มาก เป็น "อาณาจักรแห่งวิญญาณอันไม่จำกัดกาลเวลา" ซึ่งวงการวรรณเยอรมันและวงการวัฒนธรรมเยอรมันได้สูญเสียไประหว่าง ๑๒ ปีของการปกครองระบอบนาซี และต่อมาโลกได้ยกย่องเฮสเสด้วยการมอบรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมประจำปี ๑๙๔๖ ให้แก่เขา ในฐานะผู้สร้างผลงานที่ลึกล้ำด้วยสำนึกด้านมนุษยธรรมและงดงามด้วยวรรณศิลป์ เฮอร์มานน์ เฮสเส ถึงแก่กรรมเมื่อปี ๑๙๖๒ รวมอายุ ๘๕ ปี

     

     

    นักเดินทางชีวิต...

    เส้นทางยาวไกล
    เส้นชัยอยู่ตรงไหน..                                  
    จะถึงเมื่อไหร่..ไม่อาจรู้.
    แต่สิ่งที่รับรู้เสมอ                                    
    คือการปกป้องเหล่านักเดินทางที่ตามมาข้างหลัง..
    ความยากเข็ญและปัญหาที่รุมเร้าสำหรับตนเองนั้นช่างกระจ้อย
    ผู้ตามมาข้างหลังต่างหากที่ต้องการการดูแลมากกว่าหลายเท่า
    เพราะโลกยุคใหม่ค่อย ๆ เปลี่ยนพวกเขาทุกวี่ทุกวัน
    พวกเขา.........อาจแข็งกร้าวแต่อ่อนแอ..
    ..............อาจเชื่อมั่นแต่ไม่รู้แยกแยะ..
    ..............อาจมีความรักแต่มิใช่ความรักที่แปลว่าการให้..
    ..............อาจมีความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมนุษย์..
                  แต่มองคุณค่าความสัมพันธ์เปลี่ยนไป..

    ฝ ฝ้าย ณ ทุ่งเมินหมา (เจ้าหญิงขี่ควายผู้ทรนง)

     

    เช้าวันนี้เสียงรถมอเตอร์ไซค์ของเจ้าหน้าที่ส่งจดหมายหรือบุรุษไปรษณีย์ มาจอดเทียบหน้าบ้าน พี่เฟิร์นพี่สาว ออกไปรับจดหมายปึกใหญ่ ก่อนเอามาวาง ไว้บนหลังตู้เย็น แล้วก็เปิดๆอ่านดูก่อนเจ๊เฟิร์นจะหยิบเอาโปสการ์ด รูปสวยมาให้ฝ้าย

     

    Calw Nikolauskapelle.jpg (25582 Byte)

    (รูปโปสการ์ดเมืองคาล์ว ประเทศเยอรมนี)

    ข้างหลังเขียนข้อความว่า

    "To. นู๋ ฝ.ฝ้ายผู้น่ารัก แต่พี่นาตน่ารักกว่านะ>O<

    นี่เป็นการ์ดรูปเมืองที่พี่อยู่ เห็นมันสวยดีซื้อมาสองอัน

    สะพานนี้มีรูปปั้น Hermann-Hesse ด้วยนะเขามีหนังสือ

    แปลกับประพันธ์นส์ ลองอ่านดู น่าจะดีมากๆเลย>O<
     กลีบดอกไม้เป็นรูป
    (แล้วพี่นาตก็วาดรูปใบโควฟ์เวอร์สี่กลีบมาให้ )"

    By Elfenkind von Bellona

    กลีบที่1.....หมายถึง ความหวัง

    กลีบที่2..หมายถึง ความศรัทธา

    กลีบที่3......หมายถึง ความรัก

    กลีบที่4.....หมายถึง ความโชคดี

    เอากลอนใบโคว์ฟเวอร์ของพี่นาตมาลงนะคะ

    โคล์ฟเวอร์ สี่ใบ นำโชค
    หมดโศก ทั่วโลก สดใส
    ความเชื่อ ศรัทธา แห่งใจ
    มีให้ เพียงเธอ ผู้เดียว

    by: Elfenkind Von Bellona

    พี่นาตวาดรูปใบโคล์ฟเวอร์สี่กลีบมาให้ก็หมายถึงความโชคดี

    ความในใจ

    " แง้ๆ อ่านโปสการ์ด และอ่านเรื่องใบโคล์ฟเวอร์ของเจ๊แล้วฝ้ายเป็นไรไม่รู้อยากร้องไห้ ขอบคุณเจ๊มากน้า รักเจ๊มากเลย แล้วที่บอกว่า เจ๊จะมางานหนังสืออ่า ฝ้ายไม่ลืมน้าเจ๊ ฝ้ายจะรอเจ๊ เจ๊มาวันไหนช่วงไหนก็บอกฝ้ายด้วย แง้ๆๆ ฝ้ายตั้งใจแต่งนิยายเรื่องใหม่ที่ตั้งใจว่ายังไงฝ้ายต้องแต่งให้จบ ฝ้ายจะตั้งใจแต่งนิยายดีๆ มาให้สำนักพิมพ์และ ไปขายของกับเจ๊ที่งานสัปดาห์ ขอบคุณเจ๊มากๆเลยมิสเจ๊นะคะ รักเจ๊"

    http://my.dek-d.com/f_fine/story/view.php?id=351810

    (ลิ้ง นิยายเรื่องใหม่ เพราะเรื่องเก่าโดนสับละเอียด แง้ๆ)

     


    Sankt-Nikolaus-Brücke Calw, mit dem deutschen Schriftsteller Hermann Hesse

    ว่าด้วยเรื่อง

    Hermann Hesse Of....F'ine (555+)

                 เฮอร์มานน์ เฮสเส เกิดที่เมืองคาล์ว เยอรมนี เมื่อวันที่ ๒ กรกฏาคม(จะบอกฝ้ายเกิดวันที่ 1กรกฏาคม 555+ใกล้กันเลย อิอิ) ๑๘๗๗ เริ่มอาชีพขายหนังสือที่ตือบินแง่นและบาเซิล ระหว่างนั้นได้ลงมือเขียนและตีพิมพ์บทกวีเมื่ออายุ ๒๑ ปี ห้าปีหลังจากนั้น เขาประสบความสำเร็จอย่างสูงยิ่งจากนวนิยายสะท้อนปัญหาวัยรุ่นและปัญหาการศึกษาเวลานั้น เริ่มจาก ปีเตอร์ คาเมนซินด์(๑๙๐๔) บทเรียน (๑๙๐๖) ติดตามด้วย เกอร์ทรูด (๑๙๑๐) รอสฮัลด์ (๑๙๑๔) เดเมียน (๑๙๑๙) และ อื่นๆ 
        ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เฮสเสต่อต้านลัทธินิยมทหารในเยอรมนีอย่างรุนแรง เขาโอนสัญชาติและย้ายไปอยู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นนักเขียนที่มีเกียรติภูมิสูงเด่นในโลกวรรณกรรมภาษาเยอรมัน สำนึกด้านมนุษยธรรมและการศึกษาปรัชญาพัฒนาอย่างมากในผลงานเล่มต่อๆมา เช่น  สิทธารถะ(๑๙๒๗) สเตปเปนวูล์ฟ (๑๙๒๗) นาร์ซิสซัสกับโกลด์มุนด์ (๑๙๓๐) ท่องตะวันออก (๑๙๓๒) และ The Glass Beed Game (๑๙๔๓)
         ส่วนบทกวีและข้อเขียนเชิงวิจารณ์เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในบรรดานักคิดร่วมสมัย นาซีเยอรมันกลัวและกำจัดหนังสือของเฮสเส แต่ชาวสวิสกลับให้เกียรติ ทั้งยังเสนอปริญญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ให้แก่เขาด้วย
    แต่ทันทีที่สงครามโลกครังที่สองยุติ ชาวเยอรมันกลับยอมรับเขา โดยการมอบรางวัลเกอเธ่ (Goethe Prize)
    ให้เป็นเกียรติ เพราะเป็นที่ปรากฏแก่นักอ่านจำนวนมากว่าผลงานของเฮสเสได้รักษาคุณค่าด้านต่างๆไว้มาก เป็น "อาณาจักรแห่งวิญญาณอันไม่จำกัดกาลเวลา" ซึ่งวงการวรรณเยอรมันและวงการวัฒนธรรมเยอรมันได้สูญเสียไประหว่าง ๑๒ ปีของการปกครองระบอบนาซี และต่อมาโลกได้ยกย่องเฮสเสด้วยการมอบรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมประจำปี ๑๙๔๖ ให้แก่เขา ในฐานะผู้สร้างผลงานที่ลึกล้ำด้วยสำนึกด้านมนุษยธรรมและงดงามด้วยวรรณศิลป์ เฮอร์มานน์ เฮสเส ถึงแก่กรรมเมื่อปี ๑๙๖๒ รวมอายุ ๘๕ ปี

     

     

    นักเดินทางชีวิต...

    เส้นทางยาวไกล
    เส้นชัยอยู่ตรงไหน..                                  
    จะถึงเมื่อไหร่..ไม่อาจรู้.
    แต่สิ่งที่รับรู้เสมอ                                    
    คือการปกป้องเหล่านักเดินทางที่ตามมาข้างหลัง..
    ความยากเข็ญและปัญหาที่รุมเร้าสำหรับตนเองนั้นช่างกระจ้อย
    ผู้ตามมาข้างหลังต่างหากที่ต้องการการดูแลมากกว่าหลายเท่า
    เพราะโลกยุคใหม่ค่อย ๆ เปลี่ยนพวกเขาทุกวี่ทุกวัน
    พวกเขา.........อาจแข็งกร้าวแต่อ่อนแอ..
    ..............อาจเชื่อมั่นแต่ไม่รู้แยกแยะ..
    ..............อาจมีความรักแต่มิใช่ความรักที่แปลว่าการให้..
    ..............อาจมีความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมนุษย์..
                  แต่มองคุณค่าความสัมพันธ์เปลี่ยนไป..

    ฝ ฝ้าย ณ ทุ่งเมินหมา (เจ้าหญิงขี่ควายผู้ทรนง)

     

    หากเปรียบกับชีวิตของคน
    เมื่อยามสุขล้นจนใจมันยั้งไม่อยู่
    ก็คงเปรียบได้กับฤดู คงเป็นฤดูที่แสนสดใส

     

     

    * ( และ) แต่ถ้าวันหนึ่งวันไหน
    ที่ใจเจ็บทนทุกข์ ดังพายุที่โหมเข้าใส่
    บอกกับตัวเองเอาไว้ ความเจ็บต้องมีวันหาย
    ไม่ต่างอะไรที่เราต้องเจอทุกฤดู

     

     

    ** อดทนเวลาที่ฝนพรำ
    อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง
    เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง ....
    ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ
    ว่ามันคุ้มค่า( แค่ไหนที่เฝ้ารอ )

     

     

    เมื่อวันที่ต้องเจ็บช้ำใจ
    จากความผิดหวังจนใจมันรับไม่ทัน
    เป็นธรรมดาที่เราต้องไหวหวั่น
    กับวันที่อะไรมันเปลี่ยนไป ....
    ( ** )

     

     

    อย่าไปกลัวเวลาที่ฟ้าไม่เป็นใจ
    อย่าไปคิดว่ามันเป็นวันสุดท้าย
    น้ำตาที่ไหลย่อมมีวันจางหาย
    หากไม่รู้จักเจ็บปวดก็คงไม่ซึ้งถึงความสุขใจ
    ( ** )

     

    อดทนเวลาที่ฝนพรำ
    อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง
    เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง ....
    ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ
    ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ....

     

     

     

     

     

    http://www.carefor.org/media/02_Season.swf

    จิ้มที่ลิ้ง เสร็จแล้วเลื่อนๆสกอบาร์ในนั้นดู แล้วจะรู้ ฤดูที่แตกต่าง

     

     

     

    ฤดูที่แตกต่าง  ต่างแตกจากฤดู                             

    เราเองมิอาจรู้  รู้เองมิอาจทำ                              

    อดทนยามฝนพรำ พร่ำรักสักหมื่นหน                        

    แตกต่างที่ตัวตน   สอนคนให้รักดี  

    .........>O<........... 

    จะทุกข์จะสุขจะเศร้าจะเหงา                               

    จะเหนื่อล้าสักเพียงใดโปรดรู้ไว้                              

    เวลาที่ฝนพร่ำฟ้าอาจจะมืดมิด แต่ยามเมื่อฟ้าสว่าง

    เราจะเห็นหนทางที่เราจะก้าวเดินต่อไปภายหน้า                                        

    ฤดูที่แตกต่าง แตกต่างที่ฤดู by ฝ ฝ้าย

     

    We all have the different roads - some may be beautiful, some may be rough.
    พวกเราทุกคน ก็มีถนนที่ต่างกัน อาจจะสวย หรืออาจจะขุรขระ

    We all walk the different ways - some may walk, some may run.
    เราเดินด้วยวิธีต่างๆกัน บางคนก็เดิน บางคนก็วิ่ง

    But all roads have one destination - success.
    แต่ทุกทาง ก็มีจุดหมายเดียวกัน คือความสำเร็จ

     

     By love

     

     

    ฤดูที่แตกต่าง
    บอย โกสิยพงษ์

     


    ภาษิตและคติพจน์อังกฤษ
    Self-conquest is the greats of victory.
    การชนะใจตนเอง คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 



    ใบโคลเวอร์ (clover) 4 กลีบ


    ใครๆก็ถือกัน ว่าถ้าผู้ใดที่เจอใบโคลเวอร์ที่มี 4 กลีบ ถือว่าเป็นคนที่โชคดีมาก

    กลีบที่1.....หมายถึง ความหวัง

    กลีบที่2..หมายถึง ความศรัทธา

    กลีบที่3......หมายถึง ความรัก

    กลีบที่4.....หมายถึง ความโชคดี

    โคล์ฟเวอร์ สี่ใบ นำโชค
    หมดโศก ทั่วโลก สดใส
    ความเชื่อ ศรัทธา แห่งใจ
    มีให้ เพียงเธอ ผู้เดียว

    by: Elfenkind Von Bellona

    มันใช่ไหมเนี่ย แต่แถวบ้านฝ้ายเรียก ผักแว่น

    ต้มกินกับน้ำพริกแซ่บอิหลี่ 555+

    หาได้ตามหนองบึงลำคลองทั่วไป ยิ่งอยู่ใกล้นาน้ำเยอะนะ สุดยอด

     

    โฮะๆ ตำน้ำพริกแล้วก็เอาผักแว่น เนี่ย เด็ดสดๆก็ได้

    จิ้มน้ำพริกกินกับข้าวอร่อยเหาะ ก๊ากกกกกกก

    เพิ่งรู้ว่าฝ้ายเกิดมาโชคดีนอกจากจะได้เห็นใบโคล์ฟเวอร์

    แล้วยังได้กินมันอีก โฮะๆ คราวนี้โชคดีลงท้อง 555+

    (ได้มาจากไดอารี่ใครซักคน ลืมชื่อ 555+)

    ว้าวฝนตก อีกไม่นาน ดอก โคล์ฟเวอร์ ก็ออกดอก อิอิ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×