คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : กเดกเ
บทนำ
ดวงอาทิตย์กำลังจะรับขอบฟ้าเสียงนกการ้องดังต่างพากันบินเข้ารัง บ่งบอกถึงเวลาการทำงานที่หมดลง เย็นนี้หน้าประตูโรงเรียนมัธยมปลายเซนจิตะมากมายด้วยนักเรียนชายหญิงที่กำลังจะกลับบ้าน
ผมสีทองของเด็กชายคนหนึ่งสะท้อนแสงอาทิตย์ระยับ เขายืนหันหน้าเข้าหาประตูโรงเรียนภายใต้ร่างสูงของเขามีผู้หญิงผมสวยดำขลับยาวถึงกลางหลังตัวเล็กยืนอยู่
“เอรุจัง คบกับฉันได้ไหม”
เขาแย้มริมฝีปากหนาออก เสียงพูดรอดไรฟันที่จัดเรียงสวยออกมาเบาๆแต่ทำให้คนที่เดินสวนผ่านไปมาได้ยินชัด จึงต่างพากันหยุดมองทั้งคู่
“>///<”
เอรุจังเจ้าของเรือนผมงาม ตัวเล็กประมาณอกเขาที่สูง180 กว่า ยืนเอียงอายแก้มแดงแปร๊ดเป็นซอสมะเขือเทศตกใส่ถังสี ก่อนเงยหน้าขึ้นตอบรับเบาๆ
“ค่ะ”
และแล้วดวงอาทิตย์ก็เลื่อนลับขอบฟ้าไป ท้องฟ้าสีส้มถูกปิดลงด้วยสีดำของความมืดมิด แต่ยังคงมีดวงดาวนับล้านส่องประกายอยู่เล็กๆ พร้อมดวงจันทร์ที่ลอยเด่นกระจ่างแจ้ง
บทที่1
ท้องฟ้าสีครามส่องคลองน้ำขนาดใหญ่ที่ไหลเอื่อยๆ ราวกับทะเลสีฟ้าเป็นประกายระยิบตัดกับเมฆขาว พอเธอลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบกับความสดชื่นของธรรมชาติที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีและคลองน้ำใสสะอาดแบบนี้ทุกวัน
เมะจิโกะ เอรุ จึงชอบบรรยากาศที่นี้มาก เธออายุ 17 ปี เรียนชั้นปีที่2 โรงเรียนมัธยมปลายเซนจิตะ โรงเรียนมัธยมปลายในชนบท ซึ่งใครรู้อะไรซักคนนึงก็จะรู้ทั่วกันทั้งโรงเรียนภายในไม่กี่นาที ซึ่งรับรองได้ว่าเรื่องของเธอที่คบกับรุ่นพี่ ไคบะ เมื่อวานคงเป็นเรื่องสนทนาในเช้านี้
เธอเดินกึ่งวิ่งออกจากบ้านเช่าชั้นเดียวหลังเล็กที่อยู่กันสามแม่ลูกตรงไปยังสถานีรถไฟใกล้บ้าน เธอมีน้องชายคนนึง แต่น้องชายของเธอเป็นโรคแพ้เกสรดอกไม้ตั้งแต่เด็ก แม่ของเธอเลยให้เขาอยู่ที่บ้านไม่ได้ไปโรงเรียนหรือข้างนอก แม่เธอรับจ้างซักผ้าและทำความสะอาด ให้บ้านเช่าหลังอื่นๆที่มาจ้าง ซึ่งเธอก็ต้องช่วยแม่ทำงานด้วย พ่อของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังเด็ก
เช้าวันอังคารที่แสนสดใสเอรุจัง ยิ้มมาตลอดทาง เพราะเธอคิดถึงเรื่องเมื่อวานที่รุ่นพี่ แจ๊คเซอร์เฮอมาน ไคบะ ประธานนักเรียนมาสารภาพรักกับตน
เขาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาจากประเทศอเมริกา ผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลามีเรือนผมสีทอง ดวงตาสีฟ้า นอกจากนี้เขาคือคนที่สอบเข้าในโรงเรียนมาด้วยคะแนนเต็ม คนแบบนี้ไม่มีใครสนใจก็แปลกแล้ว เป็นธรรมดาที่เธอก็แอบปลื้มเขาเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าเขาจะมาสารภาพรักกับเธอทั้งๆที่มีสาวมากมายไปสารภาพรักกับเขาแต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมาทุกคน
>///< รุ่นพี่ไคบะ น่ารักจริงๆเลย
สถานีรถไฟซิเมะกิ
‘รถไฟสาย 2 กำลังจะเทียบท่า กรุณายืนหลังเส้นขาว~~~’
เสียงประกาศจากสถานีดังขึ้น คนที่ใช้รถไฟเป็นยานพาหนะในการเดินทางมีมากมายจนเบียดกันแทบหายใจไม่ออก เอรุจังแทรกผู้โดยสารหาทางไปยังช่องซื้อตั๋วก่อนเดินมาหยุดรอรถที่ริมทางขึ้นรถไฟหลังเส้นขาว
ผลัก
“อ๊ะ”
เธอมั่วเหม่อคิดถึงเรื่องเมื่อวานจนถูกเบียดหล่นลงไปบนรางรถไฟ
“กรี้ดดดด”
“แย่แล้วมีเด็กตกลงไปบนรางรถไฟ”
“โอ้ว รถไฟมาโน่นแล้วทำไงดี ยามอยู่ไหน”
เสียงแซงแซ่จากผู้โดยสารที่ยืนอยู่รอบดังขึ้นอย่างตระหนก
“อึบ อ๊ะ”
เอรุจังพยายามลุกขึ้น แต่เท้าเจ้ากรรมดันติดกับเหล็กรางเข้าจนเลือดออก
ชึกชัก ชึกชัก
เสียงกระชั้นชิดของรถไฟดังเลื่อนเข้ามา
ตายแล้ว ใครก็ได้ช่วยด้วย
ภาพรถไปสีดำทมิฬใกล้เข้ามาอย่างเร็ว เอรุจังได้แต่ภาวนาในใจก่อนหลับตาปี๋ด้วยความกลัวตัวสั่นสะท้าน
ปู้น~~~~~~~~ กึกๆ
ฟิ้ว
“อ๊าย”
เอรุจังร้องดังเป็นจังหวะที่รถไปเกือบเข้าถึงตัว แต่เธอโดนพลักเข้าไปอยู่บนริมทางเดิน โดยมีร่างใหญ่ของชายคนหนึ่งล้มทับอยู่
เธอค่อยๆลืมตาด้วยความตะลึงก่อนร้องไห้กระซิกเพราะความกลัวและตกใจ พร้อมทั้งโล่งใจด้วย
“ฮึก ฮือ ฮือ”
“พวกเธอสองคนเป็นอะไรไหม”
ยามคนหนึ่งวิ่งถือไม้กระบองมาถามด้วยอาการกระหืดกระหอบ
“ไม่รอให้ตายก่อนแล้วค่อยมาเก็บศพล่ะ”
ชายบนร่างเธอบอกยามด้วยเสียงอันดุดัน ก่อนขยับตัวลุกขึ้น แล้วหันมาส่งมือหนาให้เธอจับยืน
“ฮือ ฮือ ฉันกลัว”
เอรุจังยังยืนร้องไห้ตัวสั่นไม่หาย ก่อนรับผ้าเช็ดหน้าสีแดงที่ชายตรงหน้าส่งให้มาเช็ดซับน้ำตา
“ไคโร เร็วๆเซ่”
เสียงร้องดังมาจากอีกฝั่งของรางรถไฟ
“ซุ่มซ่าม”
เขาพูดทิ้งท้ายก่อนหันหลังเดินจากไป
อะไรผู้ชายคนนี้ช่วยแล้วยังมาว่าอีก
เอรุจังมองตามผู้ชายผมแดงเพลิง เจาะหูตาเข้มดูหน้ากลัว สายตาของเขาเย็นชาและเยือกเย็น แต่เอ๊ะ นั่นมันเครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนเธอนี่น่า
ชิ้ง
แสงประกายแวบจากบ้างสิ่งส่องมาโดนตาเธอจากข้างล่าง
เอรุจังก้มลงไปเก็บสร้อยสีเงินที่ปลายเท้า เธอพลิกดูไปมาจี้ของสร้อยเป็นรูปกลีบโคว์ฟเวอร์ซึ่งเป็นใบไม้ที่มีกลีบเป็นรูปหัวใจ ส่วนมากมีสามกลีบ จำนวนหนึ่งในหมื่นเท่านั้นที่จะมีถึงสี่กลีบซึ่งหมายถึงความโชคดี สร้อยนี้ถูกออกแบบมามีสี่กลีบตรงกลางสลักชื่อว่าไคโร
ของผู้ชายผมแดงคนนั้นแน่เลย
ตี้ด~~~ตี้ด~~~
“อ่า ฮัลโหล”
“เอรุจัง เธออยู่ที่ไหนแล้ว ฉันรอเธออยู่หน้าโรงเรียนแล้วนะ”
“ซัทจิโกะจังหรอ ตอนนี้ฉันอยู่ที่สถานีรถไฟแล้ว อีกแปบเดียวคงไปถึงขอโทษน้าที่ไปช้า”
“อืม รีบมานะอีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาขึ้นเรียนแล้ว”
“จ้ะบาย”
เธอรีบเก็บมือถือที่เพิ่งคุยกับเพื่อนสนิทที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลใส่ในกระเป๋ากระโปรง แล้วตรงไปขึ้นรถไฟที่เกือบจะฉีกร่างเธอเป็นชิ้นเมื่อครู่นี้ด้วยความกลัวหวาดๆลึกในใจ
บทที่2
ออด~~~ ออด~~~ ออด~~~
เสียงออดเข้าเรียนดังขึ้น เอรุจังกับซัทจิโกะเดินเข้าห้องทันเวลาพอดี การเรียนทั้งวันเป็นสิ่งที่หน้าปวดหัวไม่น้อย แต่ที่หน้าปวดหัวกว่าก็คือเธอได้ทำงานกลุ่มที่ยากสุดๆสำหรับการเรียนระดับชั้นปีที่2 งานนี้ไม่ยากเท่าไหร่ถ้าเธอได้จับฉลากคู่กับซัทจิโกะ แต่เธอดันจับฉลากได้คู่กับอิจิซากา อากาเซะ นักเรียนชายที่เป็นเจ้าของฉายา’ผู้ชายสีดำ’ อันธพาลครองโรงเรียนที่แสนหน้ากลัว ตั้งแต่เปิดเรียนมาเขาไม่ขึ้นเรียนซักคาบและที่สำคัญสุดๆคือเธอไม่เคยเห็นหน้าเขาเลยเนี่ยแหละที่เป็นปัญหา เธอจะไปหาเขาเจอได้ที่ไหนนะ
“โอ๊ย”
เอรุจังนั่งเกาหัวตัวเองแกรกๆ
“เอรุจัง มีคนมาหาหน้าห้องแน่ะ”
เพื่อนในห้องคนนึงสะกิดเรียกเธอเบาๆ
“ต๊าย พี่ไคบะมาหาถึงห้องเลยน้า สวีทกันจริงๆ”
“นี่ๆ เมื่อวานฉันได้ยินที่พี่ไคบะพูดด้วยแหละ”
“จริงหรอพี่เขาพูดว่าไงอ่ะ”
“พี่เขาพูดว่า ‘เอรุจัง คบกับฉันเถอะนะ’ ”
“กรี้ด จริงหรอ หน้าอิจฉาจังเลย”
“พวกแกหุบปากเน่าๆแล้วอ่านหนังสือไปเลย”
ซัทจิโกะตะคอกใส่เพื่อนๆในห้องที่พากันส่งเสียงแซวเอรุจัง จนเธอหน้าแดงรีบเดินออกไปหน้าห้อง
ร่างสูงของไคบะ เจ้าของฉายา ’เฟอร์เพ็กแมน’ ปรากฏขึ้น เรือนผมสีทองของเขายังดูโดดเด่นเหมือนเคย
“สวัสดีตอนเย็น”
เขาทัก
“สวัสดีค่ะรุ่นพี่”
เอรุจังเอ่ยตอบด้วยเสียงสั่นๆ เธอก้มหน้างุดเพราะความเขินอายต่อดวงตาสีฟ้าคู่นั้นของเขาที่มองมาเป็นประกาย
“เรียกฉันว่า ไคบะ จะดีกว่านะ”
“อ๊ะ ไม่ดีมั้งคะ”
“นะ...เรียกฉันว่าไคบะ”
“อ่ะ...คือฉันเกรงใจนะค่ะ”
“ก็ได้...เรียกฉันว่ารุ่นพี่เหมือนคนอื่นก็ได้”
เขาตกลงเมื่อเห็นเธอตอบมาด้วยเสียงจริงจัง อย่างถ่อมตน
“รุ่นพี่มีอะไรรึเปล่าคะ”
“ฉันจะชวนเธอไปเที่ยววันเสาร์หน่ะ ไปเที่ยวในตัวเมืองเอ่อคือ...เดทแรกของเรานะ”
เขาก้มลงมากระซิบที่ข้างหู จนเธอหน้าแดงแปร๊ด
ปังๆๆ
“นี่ รุ่นพี่ไคบะคะ... (เน้นเสียงแน่น) จะคุยกันอีกนานไหม ฉันจะกลับบ้าน”
ซัทจิโกะเอากระเป๋าหนังใบใหญ่ของตนทุบประตูห้องเรียนเป็นสัญญาณเตือนเบาๆ จนทั้งสองคนสะดุ้ง ก่อนที่เอรุจังจะถูกดึงแขนออกมาโดยซัทจิโกะ
“ซัทจิโกะเธอนี่มัน...”
ไคบะสบถเบาๆ
“ทำไมล่ะ”
ซัทจิโกะเชิดหน้าขึ้นจ้องไคบะด้วยสายตาท้าทาย
“ฉันจะไปส่งเอรุจังเอง”
ว่าแล้วไคบะก็ดึงแขนเอรุจังกลับมาฝั่งตน
“ได้ไง เอรุจังต้องกลับกับฉัน”
“ฉันไปส่งเอรุจังเอง เธอไม่ต้อง”
“นายมีสิทธิ์อะไรหะ ฉันเป็นเพื่อนเอรุจังนะ”
“แต่ฉันเป็นแฟน”
ไคบะทิ้งเสียงเรียบ ก่อนพาเอรุจังเดินออกไป
“มานี่เลยเอรุจัง เธอต้องไปกับฉัน”
ซัทจิโกะวิ่งตามมากระชากแขนเอรุจังจนหลุดจากการกอบกุมของไคบะ แล้วพาเดินไปอีกทาง
“เธอทำอะไรเนี่ยซัทจิโกะ เอรุจังจะไปกับฉัน”
ไคบะหันกลับไปจับแขนยื้ออีกข้างไว้
“ไม่ได้เอรุจังต้องกลับกับฉัน”
“ไม่มีทางกลับกับฉันต่างหาก ใช่ไหมเอรุจัง”
ไคบะหันหน้าถามเอรุจังอย่างต้องการคำตอบ
“T^T อะ...คือ”
เอรุจังตอบอะไรไม่ได้เพราะต่างฝ่ายก็ต่างดึง
“ฉันไปส่งเอรุจังเองนายไม่ต้อง”
“ฉันจะไปส่งแฟนฉัน”
“ฉันเป็นเพื่อนนะ”
“แล้วไงล่ะ”
“TOT เดี๋ยวฉันกลับเองดีกว่า ไว้วันหลังนะ”
.....................................................
เอรุจังสงบศึกสองคนนั้นก่อนรีบเดินหนีออกมาหลังโรงเรียน แต่แหมรุ่นพี่ไคบะน่ารักจังเลย ชวนเธอเดทวันเสาร์ด้วย>///< กี๊ซซ เธอต้องแต่งตัวให้สวยที่สุดเลยคอยดูเซ่ แสงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า วันนี้เอรุจังไม่ได้ตรงกลับบ้านไปช่วยแม่ทำงาน แต่เธอได้งานใหม่ทำที่ร้ายขายเบเกอรรี่ข้างสถานีรถไฟ
“โอ๊ยยยยย”
เสียงร้องดังออกมาจากหลังอาคารคหะกรรมที่เป็นตึกเก่าแก่ของโรงเรียน
หว่า เสียงอะไรอ่ะ
“โอ๊ยยยย”
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง เอรุจังเดินไปแอบดูข้างๆตึก
ตายแล้วนี่มันผู้ชายผมแดง เมื่อเช้านี่น่า แต่ทำไมผมเขากลายเป็นสีเขียวแล้วล่ะ
เอรุจังมองดูผู้ชายผมเขียวกับนักเรียนชาย5คนที่ล้อมตัวเขาอยู่ เขากำลังโดนรุมเห็นๆ หน้ากลัวจัง หน้าของเขามีแผลเต็มไปหมด เนื้อตัวเปื้อนไปด้วยฝุ่น และตามแขนขาก็มีแต่รอยฟกช้ำ
พลั่ก
ผู้ชายคนหนึ่งกระโดดเตะจากข้างหลังไปโดนเขาจนทรุดลงไปนั่งบนพื้น
“อ๊ากกกก”
ผู้ชายอีกคนถือไม้หน้าสามขนาดใหญ่อยู่ในมือ ยกขึ้นสุดแรงเกิดก่อนจะตั้งใจเหวี่ยงฟาดลงไปบนตัวผู้ชายหัวเขียว (ซึ่งเมื่อก่อนเคยแดง) แต่เขาหันหลังเตะสวนกลับเข้าไปเต็มอกจนผู้ชายที่ถือไม้หน้าสามกระเด็นมาติดกำแพงที่เอรุจังกำลังหลบอยู่
พลั่ก
ตุบ
อึก
เขาเตะผู้ชายอีกคนหนึ่งที่จะตรงเข้าไปต่อยเขาจนสลบเหมือดคาที่
ผู้ชายผมเขียวหันมาเผชิญหน้ากับผู้ชายที่เหลืออีกสามคน ด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน
“อ๊ากกกกก แกตายแน่”
ชายทั้งสามกระโดดเข้าไปรุมเขาพร้อมกัน
จึก
แต่มีคนนึงในนั้นชักมีดออกมาแทงเข้าที่ไหล่ซ้ายของเขาอย่างแรงจนเลือดสาดกระเด็น
“อ๊ะ”
ตายแล้ว ทำไงดีอย่างนี้ต้องช่วย
เอรุจังเดินออกมาจากมุมตึกหยิบไม้หน้าสามขนาดใหญ่ของชายที่มากระเด็นติดกำแพงขึ้นมากำชับในมือด้วยท่าทีมั่นใจ แต่ก็สั่นน้อยๆ
พลั่ก
ตุบ
อ็อก
เขาเตะผู้ชายสองคนต่อมาจนล้มไป ตัวเขาเองก็ล้มฟุบไปด้วยเหมือนกัน เพราะเกิดจากบาทแผลในตัวและแผลใหม่ที่ไหล่ซ้าย
ครืดดดดด
ชายอีกคนที่เหลือดึงคัตเตอร์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อนักเรียนก่อนรูดใบมีดออกมาจนยาวสุด หมายจะตรงใส่เขาฟันเขาเต็มที่
อั่ก
ฟุบ
แต่เขาก็ล้มฟุบลงไปบนพื้น เลือดในหัวสาดออกกระเด็นไปทั่ว
แกรก
ไม้ในมือเอรุจังหล่นลงพื้น เลือดในตัวผู้ชายคนนั้นสาดเต็มเสื้อนักเรียนที่ขาวสะอาดของเธอ
ฉะ...ฉันตีหัวผู้ชายคนนี้จนสลบเลยหรอเนี่ย
บทที่3
ร้านเบเกอรรี่ข้างสถานีรถไฟ
“ตายแล้ว เอรุจังไปโดนอะไรมาเปื้อนเลือดเต็มเลย ว๊าย ผะ...ผะ...ผู้ชายคนนี้ ”
เสียงร้องดังอย่างตกใจของนามิ เพื่อนร่วมงานคนสวยเดินเข้ามาทักเธอที่เดินพยุงผู้ชายผมเขียวคนนี้มาตลอดทาง แต่ก่อนที่นามิจะพูดอะไรมากกว่านี้ก็ถูกเจ้าของร้านหนุ่มเอามือมาปิดปากไว้
“เอาเข้าไปหลังร้านก่อนเดี๋ยวฉันหาอุปกรณ์ทำแผลให้นะ”
เขาสั่งเอรุจังที่พะรุงพะรังไปด้วยกระเป๋าหนังสือของตัวเอง ผู้ชายร่างใหญ่ที่เต็มไปด้วยเลือด
อึบ ตัวหนัดชะมัดเลยผู้ชายอะไรเนี่ย
เอรุจังว่างเขาไว้บนโซฟาขนาดเล็กหลังร้านซึ่งเป็นที่นั่งของพนักงาน
คุณโซกาชิ เจ้าของร้านสุดหล่อเอาเครื่องมือปฐมพยาบาลมาให้เธอ แล้วช่วยทำความสะอาดและทำแผลให้เขา
“โซกาชิ ช่วยหน้าร้านหน่อยคนเยอะมากเลย”
นามิเปิดประตูเข้ามาเรียกคุณโซกาชิที่สาละวนกับการทำแผลให้ผู้ชายผมเขียวกับเธอ
“หาผ้ามาชุบน้ำเช็ดเลือดที่ปากเขาด้วย แล้วก็ใส่ยาที่แผลตามหน้าด้วยนะ ฉันออกไปดูหน้าร้านก่อน”
“ค่ะ”
เธอตอบรับเบาๆก่อนบิดผ้าเช็ดหน้าสีแดงของเขาที่ทิ้งไว้ให้เธอเมื่อเช้าอย่างหมาดๆ แล้วค่อยๆบรรจงเช็ดเลือดที่มุมปากเขาออก
“เธอเป็นใคร”
“ฉันชื่อเอรุ เราเคยเจอกันครั้งนึงที่สถานีรถไฟเมื่อเช้านี้ นายช่วยชีวิตฉันจากรางรถไฟที่ฉันหล่นลงไปจนเกือบโดนรถไฟเหยียบ อีกอย่างนายให้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้กับฉันไว้ด้วย”
เธอบอกเขาก่อนยิ้มแล้วชูผ้าเช็ดหน้าให้เขาดู แต่เขาทำหน้างงๆ
“แต่ว่า...เมื่อเช้าผมนายยังแดงอยู่เลย”
“ฉันชื่อ อากาเซะ”
“อะไรนะ นายเนี่ยนะ อิจิซากา อากาเซะ”
ทันทีที่เขาบอกชื่อตัวเองเสร็จเธอก็ร้องเสียงดัง ผ้าเช็ดหน้าในมือหลุดลงไปกองอยู่บนพื้น
“ทำไมชื่อฉันมันหน้ากลัวขนาดนั้นเลยหรือไง หล่อๆแบบนี้มีคนเดียวในโลกนะ”
เขาทำท่าเจ้าเล่ห์ ซึ่งต่างจากเมื่อเช้าที่ดูเคร่งครึมมาก
“แหวะ หลงตัวเองชิ”
“อะไรเธอว่าฉันหรอ”
“นายไม่ได้ชื่อไคโรหรอ”
“เธออย่าเอ่ยชื่อทุเรศๆแบบนั้นออกมาให้ฉันได้ยินอีกเป็นครั้งที่สองนะ”
เขาเอ่ยเสียงเข้ม
“อ๊าก ได้ๆ โอเค ตกลงนายคืออากาเซะตัวปัญหาใช่ไหม”
เอรุจังทำท่าขยาด เขาเนี่ยนะ อากาเซะ ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่า ผู้ชายสีดำ นักเรียนชั้นปีที่2 ห้อง A
“นี่เธอว่าฉันเป็นตัวปัญหาหรอ”
“ฉันไม่ได้ว่านายเป็นตัวปัญหา แต่นายเป็นคนที่ทำงานกลุ่ม ทวีไฟน์กับฉันนะซิ ดีฉันจะได้ไม่ต้องไปหาตัวนายที่ไหน”
“อะไรนะ รายงานกลุ่มทวีไฟน์ ฉันได้ทำกับเธอหรอ”
“ก็ใช่นะซิ”
“โอ้ว ไม่”
“ฉันสมควรที่จะพูดคำนั้นมากกว่านายนะ”
เอรุจังตะโกนใส่เขา
ไอ้ผู้ชายบ้า ฉันปวดหัวทั้งวันในการคิดวิธีตามหานายเลยนะ ดีที่นายดันโผล่ตัวมาตัวซะก่อน แต่ฉันก็ไม่ได้อยากทำงานเดียวกับนายซะหน่อยชิ
วันนี้ภายในร้านเบเกอรรี่ยุ่งมากแต่พอเอรุจังช่วยอากาเซะเสร็จ เธอก็ออกมาช่วยหน้าร้านโดยมีหนุ่มหล่อผมเขียวที่จัดการอาบน้ำล้างตัวและใส่ชุดของคุณโซกาชิ ที่ถึงอายุขึ้นเลขสามแล้วแต่หน้าตาก็ยังคงความหล่อไว้มาก ตัวของเขากับอากาเซะพอๆกันจะมีต่างกันหน่อยก็ตรงความสูงที่คุณโซกาชิ ดูท่าจะเตี้ยกว่าอากาเซะมากจนเสื้อที่สั้นมันตื้นเขินมาจนเกือบโผล่เห็นสะดือ
“ให้ฉันไปส่งไหม บ้านเธออยู่ที่ไหนละ”
อากาเซะเอ่ยถามเอรุจังที่กำลังเก็บของกลับบ้านเบาๆ ร้านปิด 2 ทุ่มพอดีที่จริงต้องปิด 3ทุ่ม แต่เนื่องจากวันนี้เบเกอรรี่ขายดีมากจนหมดเสียก่อนเพราะใกล้เทศกาลคริสต์มาสในอีกไม่ถึง4-5วัน
“นายจะไม่ทำอะไรฉันใช่ไหม”
“บ้าใครจะไปทำอะไรเธดลงละหน้าตาอย่างเนี่ย”
“นายนี่มัน”
“ทำไม”
“ได้...นายจะไปส่งฉันจริงๆนะ บ้านฉันหน่ะไกลสุดๆ”
“ได้ ฉันไม่กลัวอยู่แล้ว”
“โอเค แต่ก่อนกลับบ้านนายเลี้ยงอุด้งร้อนๆซักชามก่อนกลับก็ดี 555+”
“โธ่ยัยขี้งก ได้ๆ ฉันเลี้ยงสองชามเลยเอ้า”
“ตกลง”
ทางสายยาวถูกประดับประดาไปด้วยของวันคริสต์มาสสีแดงเต็มไปทั่ว
ความคิดเห็น