ตอนที่ 19 :
My friend รักใสใสภายใน365วัน
My friend – 18
“ความจริง”
ภายในห้องส่วนตัวของโรงพยาบาล บนเตียงมีหญิงวัยกลางคนนอนซมคลุมผ้าห่มจนถึงระดับคอ สายน้ำเกลือห้อยระโยงระยางดูเกะกะไปหมด เธอค่อยๆปรือตาขึ้นมามองเห็นผนังสีขาวเรียบๆ และหันใบหน้ามาทางที่ลูกชายของเธอที่นอนเอาหน้าแนบกับเตียงพลางกุมมือเธอไว้อยู่ตลอดเวลา
“เว.. กัส” น้ำเสียงแหบกร้านค่อยๆดังขึ้น หญิงวัยกลางคนออกแรงยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบหัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างเบามือ ในระหว่างเดียวกันที่น้ำตากำลังไหลอาบแก้ม...
“ผมขอโทษ..ผมขอโทษ..” หนุ่มน้อยเผลอละเมอออกมาทำให้ผู้เป็นแม่ที่นอนอยู่บนเตียงร้องไห้รำพันจนไม่สามารถหยุดยั้งได้ เธอบีบมือลูกชายเพื่อย้ำกับตัวเองว่าเขาคือคนพิเศษ เขาเป็นคนเดียวที่ยังคอยอยู่ข้างเสมอ
..................
Patcha part
ฉันนั่งเหม่อลอยราวกับว่าวิญญาณได้ออกไปจากร่างถาวรแล้ว... เรื่องเมื่อวานนี้มันหนักหนาจนฉันไม่สามารถรับมือกับมันได้ โลกแห่งความจริงตอนนี้มันโหดร้ายยิ่งนัก ฉันอยากให้เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพียงแค่ความฝัน ส่วนเรื่องที่อยากให้เป็นจริง
คือฉันอยากให้เวกัสเป็นผู้ชายปกติที่มีนิสัยทะเล้นเหมือนเดิม
และอยากให้เขารักฉันด้วย...
ไม่สิ เขาไม่แม้แต่จะชอบฉันเลยแหละ
“พัดชา! นี่ครูสั่งให้ทำงานทำไมไม่ทำออกมาหน้าห้องเดี๋ยวนี้” ฉันลุกเดินไปหน้าห้องตามคำสั่ง
“เธอกำลังเรียนอะไร?” ครูถามเสียงเข้มพลางจ้องหน้าเขม้น เพื่อเค้นเอาคำตอบ
“ชีวะค่ะ” ฉันตอบเสียงเรียบ แต่ก็ถูกไม้เรียวฟาดมาที่ก้นอย่างเจ็บแสบและตามมาด้วยเสียงตะหวาดจากครูจนฉันสะดุ้งโหยง
“เธอกล้าตอบแบบนี้ได้ยังไง เรียนจนจะจบบทที่สองยังไม่รู้ว่าเรียนวิชาอะไร แล้วนี่มาอยู่ห้องสองได้ยังไง! ออกไปนอกห้องเดี๋ยวจะตามไปทำโทษ” ฉันโค้งให้ครูก่อนจะก้าวลวกๆออกไปจากห้อง คนในห้องต่างพากันหัวเราะเยาะอย่างไม่ขาดสาย ก็ห้องสองนี่... รองจากห้องคิง เป็นธรรมดาที่จะหัวเราะเยาะดูถูกคนอื่นที่โง่กว่า ด้อยกว่าอย่างฉันอยู่แล้ว
แต่ฉันยอมรับนะว่าวันนี้ฉันสมองกลวงจริงๆแหละ ขนาดเมื่อกี้ฉันเรียนเคมีแท้ๆ แต่ดันไปตอบว่าเรียนชีวะ สงสัยตอนนี้สติกลับมาแล้วสินะถึงนึกได้ เฮ้อ.. ให้ตาย! ฉันเกลียดนายเวกัสที่สุด นายทำให้ฉันต้องโดนไม้เรียวของครูเคมีสุดโหดคนนี้ แถมยังพาวิญญาณออกจากร่างของฉันอีก!
กริ๊งงง กริ๊งงง
ฉันรีบกดรับโทรศัพท์ก่อนครูเคมีจะออกมาทำโทษ เป็นสายที่ฉันไม่อยากรับมากที่สุดนั่นก็คือ ‘พ่อ’ ตั้งแต่ฉันส่งรูปนั้นไปทางไลน์ให้พ่อ เขาก็พยายามจะแก้ตัว ต่างๆนาๆ จนฉันไม่ยอมเปิดอ่าน เพราะเบื่อคำโกหกหลอกลวงของเขา
“โทรมาทำไมคะ นี่เป็นเวลาที่หนูเรียนอยู่” ฉันเอ่ยทักกดเสียงต่ำที่สุดเพื่อให้รู้ว่า ‘ฉันยังไม่ยกโทษ’ ให้เขา
(ครั้งนี้ลูกช่วยมาโรงพยาบาลของแม่เวกัสได้ไหม พ่อมีความจริงจะบอก ทุกอย่าง และพ่อจะพาแม่ไปด้วย) ฉันใจหายทันทีเมื่อพ่อบอกว่าจะพาแม่ไปด้วย ทำไมมาหักหลังกันแบบนี้ล่ะ ฉันบอกแล้วไงว่าห้ามบอกแม่!
“ไม่! แม่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง”
(แกก็ช่วยฟังฉันบ้างสิ! ถ้าแกอยากรู้ความจริงก็มา แต่ถ้าแกอยากปล่อยให้มันเป็นปริศนาต่อไปฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร)
ตู๊ดๆๆๆ
พูดจบคนปลายสายก็กดวางสายทันที
เหอะ... ผู้ชายมันก็ห่วยแตกทั้งโลกนั่นแหละ!
บางที...การออกไปแสวงหาความจริงด้วยตนเองจะดีกว่าการที่ไปฟังคนผิดแก้ตัว ฉันคงไปตามที่พ่อบอกไม่ได้แล้ว เพราะฉันจะออกไปหามันเอง
เย็นนี้ฉันขอออกมาจากโรงเรียนอ้างว่าติดธุระสำคัญมาก แท้จริงแล้วฉันมาเดินป้วนเปี้ยนแถวๆโบถส์ เพราะเพิ่งจะออกมาจากห้องสารภาพบาป ฉันขอสารภาพว่าฉันเกลียดพ่อของตัวเอง และเกลียดคุณนายด้วย พวกเขาทำร้ายจิตใจแม่ของฉัน พวกเขาแอบคบหาระหว่างกัน ถึงแม้ว่านจะบอกว่าแม่ของฉันมาทีหลังก็เถอะ
เพราะแบบนี้ไงฉันถึงมาสารภาพบาป ทั้งๆที่แม่มาทีหลังคุณนายบ้านโน้น บาปอีกข้อคือฉันแอบรักพี่ชายของตัวเอง พี่ชายที่เกิดจากพ่อเดียวกันอย่างเวกัส...
เขาคงไม่รู้ว่าพ่อของฉันก็เป็นพ่อของเขาเหมือนกัน...
“หนู... หนูจ๊ะ มาทำอะไรที่นี่” ฉันสะดุ้งโหยงเมื่อมีแม่ชีนุ่งขาวห่มขาวมีผ้าสีขาวออกเทาโพกที่หัวเดินมาหยุดอยู่ข้างกาย
“หนูมาสารภาพบาปค่ะ” ฉันตอบ
แม่ชีท่านส่งยิ้มมาให้ก่อนจะพูดอย่างใจเย็น
“อีกไม่นานครอบครัวของหนูจะกลายเป็นครอบครัวใหญ่” แม่ชีท่านพูดอะไรหรือ? ฉันไม่เข้าใจ แล้วแม่ชีมองเห็นในอนาคตของฉันได้ยังไง?
“ยังไงเหรอคะ?” ฉันถามด้วยความสงสัย ท่านไม่ตอบแต่ยิ้มให้แล้วเดินจากไป
ท่านบอกว่าอีกไม่นานครอบครัวของฉันจะกลายเป็นครอบครัวใหญ่ หรือว่าครอบครัวของฉันจะมีพ่อ แม่ แม่ของเวกัส เวกัส และก็พ่อใหม่ของเวกัส แบบนี้ใช่ไหม
ฉันไม่เอาด้วยนะ ถ้าเป็นแบบนี้ฉันขอยอมหนีออกจากบ้านไปเช่าอยู่หอพักราคาถูกๆกับแม่ดีกว่า!
“ไมล์ ฉันขอบคุณเธอมากที่ไม่ทิ้งลูกฉัน” แล้วฉันต้องหยุดคิดเรื่องอื่นทันทีเมื่อได้ยินเสียงคนสองคนคุยกัน และชื่อที่เรียกเมื่อกี้ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน แต่ฉันไม่ได้ยินชื่อนี้มานานแล้ว เป็นชื่อแม่ฉันเอง แม่ของฉันเคยเป็นนักเรียนนอกเลยได้ชื่อไมล์มา แต่แถวบ้านไม่มีใครเรียกท่านว่าไมล์เลยนะ
ฉันค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ต้นเสียง ก็คือหลังต้นไม้ที่อยู่ถัดจากกำแพง เมื่อฉันเดินเข้าไปใกล้จนเห็นว่าใครเป็นใคร ใจก็เต้นรัวทันทีเมื่อคนที่ฉันเห็นเป็นคุณนายกับแม่
“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณพี่ที่มอบพัดชาให้กับฉัน พัดชาเป็นคนดีและก็ไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังไปเลยจริงๆ” ฉันรีบซ่อนตัวอยู่หลังเสาต้นใหญ่ที่ห่างจากต้นเสียงไม่ใกลนัก
เขาพูดถึงฉันนี่!
“เธอลืมไปแล้วเหรอว่าฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้เธอสักหน่อย”
“ฮะๆ หมดสัญญาแล้วละสิ ฉันต้องคืนลูกของฉันให้พี่จริงๆใช่มั้ย”
คืนลูก? คืนใคร ฉันเหรอ?
ทำไมความจริงเป็นแบบนี้? คุณนายเป็น แม่-ของ-ฉัน น่ะเหรอ!?
“ถ้าเธอไม่คืน ฉันจะฆ่าเธอ... แต่ฉันจะอนุญาตให้ลูกมีแม่สองคน คงไม่แปลกปะหลาดไปหรอกนะ”
“อา.. ฉันไม่น่าพูดความจริงให้พี่ฟังเลย นี่ก็เก็บมาตั้งนานนึกว่าจะไม่เจอพี่แล้วซะอีก”
“ฉันก็นึกว่าลูกของฉันตายแล้วไง และก็ไม่รู้ว่าพัดชาเป็นลูกของคุณภวัฒน์ เกือบทำร้ายลูกตัวเองไปแล้ว”
“ฮ่าๆ ถ้ารับพัดชาไปแล้วอาการของพี่คงทุเลาลง ครั้งแรกๆเด็กอาจจะปรับตัวไม่ทัน พี่ทนเอาหน่อยนะคะ^^”
“จ้ะ.. ขอบคุณนะที่บอกว่าพัดชาเป็นลูกของฉัน... ไม่อย่างนั้นฉันคงจะตกนรกเพราะทำร้ายลูกตัวเองเป็นแน่”
“ถ้าอย่างนั้นช่วยเก็บความลับนี้ไว้ต่ออีกได้ไหม พัดชายังไม่พร้อมที่จะรับรู้เรื่องนี้”
“แล้วเธอจะคืนยัยหนูพัดชาลูกของฉันเมื่อไหร่ล่ะไมล์ ฉันรอคอยเด็กคนนี้มาทั้งชีวิตแล้ว”
“จนกว่าพัดชาจะเรียนจบมัถธยมปลาย เอ้อ! แล้วลูกชายของพี่ล่ะ เขาจะรับได้ไหมที่ตัวเองดันเป็นน้องชายของพัดชาซะแบบนั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นเพื่อนกัน”
“ไมล์... ฟังฉันนะ ตั้งแต่ฉันมีลูกกับภวัฒน์ครั้งแรกก็ไม่สามารถมีลูกได้อีกเลย แล้วเวกัสจะเป็นลูกฉันได้ยังไงล่ะ^^”
!!!
“อ้าว! ถ้างั้น พ่อหนุ่มคนนั้นก็ไม่ใช่ลูกพี่น่ะสิ ตายๆ ทำไมชีวิตของพวกเรามันสับสนวุ่นวายแบบนี้นะ แล้วพี่จะบอกความจริงกับเวกัสยังไงล่ะ”
เรื่องจริงเหรอ!!! ที่คุณนายพูดออกมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ ที่เวกัสไม่ใช่ลูกของท่าน!
“ความลับไม่มีในโลก ต่อให้พี่ไม่บอก เขาก็รู้เองแหละ” ฉันเม้มปากเป็นเส้นตรงก่อนที่จะสูดหายใจเข้าไปลึกๆ แล้วเดินไปปรากฏตัวที่พวกท่านทั้งสองคุยกัน
“ขอโทษนะคะ หนูดันรู้ความลับของผู้ใหญ่เข้าซะแล้ว”
“พัดชา!” ทั้งสองท่านเอ่ยชื่อฉันพร้อมกันพลางเบิกตาโตราวกับเห็นผี
“เป็นแบบนี้นี่เองเหรอครับแม่ ไม่สิ อดีตแม่ของผม”
“เวกัส!”
เวกัส... ปรากฏตัวที่ข้างต้นไม้ใหญ่ ที่ที่เหมาะที่สุดกับการแอบฟัง นี่เขาก็แอบฟังเหมือนกันหรอกเหรอ! เขาหันมามองทางฉันก่อนจะเม้มปากอย่างชั่งใจแล้วเดินเข้าไปหาคุณนายอดีตแม่ของเขาอย่างช้าๆ...
แล้วค่อยๆก้มลงกราบเท้าพร้อมกับน้ำตาของลูกผู้ชายที่ไหลรินออกมาดั่งสายน้ำ
“ผมขอโทษในสิ่งที่ผมไม่รู้มาก่อน.. บุญคุณท่านที่มอบให้คนแปลกหน้าอย่างผม ผมจะไม่มีวันลืมเลยครับ” นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเวกัสร้องไห้ เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นก่อนจะนั่งคุกเข่าแล้วค่อยๆพยุงตัวยืนขึ้นสบตาผู้ที่เลี้ยงดูเขามาอย่างคุณนาย
“แก... มาที่นี่ได้ยังไง” ท่านจ้องหน้าเวกัสไม่ละสายตาพลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาวางทาบที่แก้มของเขา
“ผมเป็นคนเดียวที่ไม่รู้ว่าท่านออกจากโรงพยาบาล... ดีแล้วสินะที่ท่านเจอลูกจริงๆอย่างพัดชาแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องไปแล้ว” น้ำตาที่ไหลรินออกมาจากดวงตาของเวกัสยังคงไหลไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ทำเอาฉันร้องไห้ตามไปด้วย ฉันก็มีเรื่องอัดอั้นใจเหมือนกันนี่นา
“ลาก่อนนะครับ... แม่” เวกัสค่อยๆหันหลังและเดินออกไปจากตรงนี้ ทั้งฉัน แม่ และคุณนายที่มัวแต่ยืนนิ่งเพราะในหัวตอนนี้มันถูกล้างออกจนไม่รู้จะคิดอะไรต่อไป
รู้ตัวอีกที ฉันก็สวมกอดคนตัวสูงจากด้านหลังเข้าซะแล้ว
กลิ่นหอมจางๆอันคุ้นเคยสำหรับฉันจากตัวของเขายังคงไม่จางหายไปไหน
“ปล่อยเถอะ” เขาบอกเป็นเชิงขอร้องแล้วค่อยๆปลอดมือฉันออกจากเอวของเขา
ไม่มีคำพูดใดออกจากปากฉัน ก็ได้แต่ยืนมองดูบุคคลคนหนึ่งที่ฉันหลงรักตั้งแต่วันแรกจนวันนี้แต่ก็ใจแข็งปฏิเสธทุกครั้งว่าคนน้ำไม่ใช่คนที่เราจะต้องมาชอบ.. ร่างของเขาค่อยๆจางหายไปเรื่อยๆ และเริ่มที่จะเลือนรางเข้าไปทุกที จนในที่สุดร่างของเขาก็หายไป...
เวกัส นายจะไปไหน...ช่วยกลับมาก่อนได้ไหม
Vegas part
ผมยืนดูพระอาทิตย์ที่ใกล้จะตกดินบนด่านฟ้าของโรงเรียน ที่แห่งนี้เป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับคนไม่มีที่ไปอย่างผมตอนนี้... เมื่อผมรู้ว่าแม่ที่ผมรักและแคร์ที่สุดในชีวิตเป็นแค่ผู้มีบุญคุณที่ผมจะต้องตอบแทนและท่านไม่ใช่แม่ของผม ตลอดเวลาสิบหกกว่าปี ผมแทบไม่รู้เรื่องน้ำเน่าเคล้าน้ำตาของตัวเองเลยด้วยซ้ำ ทำไมทุกคนถึงปิดบังได้นะเรื่องออกจะใหญ่โตขนาดนี้ ทำไมพ่อถึงไม่บอกผม รึว่าพ่อของผมไม่รู้...
“เจอจนได้สินะลูกพ่อ” จู่ๆเสียงทุ้มอันคุ้นหูก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ผมไม่หันไปเพราะรู้ว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร
“พ่อเป็นพ่อผมใช่ไหม” ผมยังคงมองไปบนท้องฟ้าสีส้มแดงที่ปรากฏให้เห็นอยู่
“ถามแปลกๆ พ่อก็เป็นพ่อแกนั่นแหละ แต่เป็นพ่อเลี้ยง” เหมือนหัวใจผมแตกสลายเมื่อได้ยินคำว่า พ่อเลี้ยง ออกมา สรุปผมเป็นคนที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่ใช่ไหม
“แกอย่าน้อยใจไปเลย เพราะถึงแกจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ พ่อเองก็จะเลี้ยงดูแกต่อไป” พูดจบพ่อก็เดินเข้ามานั่งข้างๆผม แล้วลูบหัวของผมอย่างเบามือด้วยความอ่อนโยน
“แกต้องอยู่ทดแทนบุญคุณฉันกับแม่แกนะเวกัส! ฮ่าๆ” พ่อตบกบาลผมไปหนึ่งทีจนผมต้องหันมาขึงตาใส่แล้วลูบจุดที่โดนตบป้อยๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วหัวเราะตามผู้เป็นพ่อ
“ถ้างั้นผมขอไปเรียนต่างประเทศได้ไหมครับ ที่ไหนก็ได้ ผมอยากตั้งใจเรียน จะได้เป็นหมอ” จู่ๆผมก็หลุดความฝันที่คิดไว้แต่ตอนเด็กออกมาซะจนได้ และอีกกรณีคือผมอยากไปให้ห่างจากหน้าของพัดชา เพราะผมอาย และโกรธตัวเองทุกครั้งเมื่อเห็นหน้าเธอหลังจากนี้
ผมทำเรื่องบัดซบให้เธอไว้มาก
ไม่ว่าจะแผนการบ้าบอคอแตกที่คิดเพื่อจะแก้แค้นที่พ่อของเธอมาตอแยแม่ของผมโดยการแอบไปตีสนิท ทำให้เธอหลงรักผม แล้วผมจะเป็นคนทำร้ายหัวใจเธอจนย่อยยับ
ประเด็นคือผมไม่รู้ว่าพ่อของพัดชากับแม่เลี้ยงของผมเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย แถมยังมีลูกด้วยกันอยู่แล้วคือพัดชา ผมจึงเล็งที่จะทำร้ายหัวใจพัดชาให้แตกสลายจนสาสมแก่ใจที่พ่อของเธอบังอาจคุยโทรศัพท์กับแม่ผมข้ามประเทศ แถมยังแอบนัดแม่ผมออกไปโน้นนี่สองต่อสองบ่อยๆโดยที่พ่อผมนั่งทำงานงกๆด้วย เจ็บใจไหมล่ะ!
สุดท้ายผมเองที่เป็นฝ่ายแพ้แผนการตัวเอง เพราะผมดันแอบหลงรักผู้หญิงอย่างพัดชาเหยื่อที่แสนอ่อนโยนใสซื่อบริสุทธิ์คนนั้นเข้าซะแล้ว ช่างน่าขันยิ่งนักและเรื่องมันดันถึงหูพัดชาก่อนที่ผมจะเป็นคนบอกด้วยตัวเอง ผมเคืองยัยว่านชะมัด!
พัดชาจะเป็นคนที่แปลกปะหลาดสำหรับผมมาก วันแรกเธอแทบไม่กล้าสบตาผม แถมยังมีท่าทีเคอะเขิน และผมก็รู้มาว่าตั้งแต่เกิดมาจนถึงปัจจุบันเธอไม่มีแฟนมาก่อน ผมกำลังจะกลายเป็นคนแรกของเธอซะแล้ว ถ้าไม่เกิดเรื่องซะก่อน
จูบแรกที่ผมให้เธอ ผมรู้สึกผิดมากที่ทำแบบนั้น เธอไม่ได้เต็มใจรับบริจาคจูบฟรีของผมเลย แต่ผมรู้ว่าเธอก็หลงจูบของผมไม่เบา
และเรื่องต่างๆที่ผมทำให้เธอคิดมาก ผมอยากจะให้เธอลืมมันไปเร็วๆ และเปิดใจรับผมใหม่อีกครั้ง มันจะมีวันนั้นไหมนะ?
เพราะฉะนั้นผมจะไปเรียนที่ต่างประเทศ จนกว่าเธอจะหายเกลียด แถมเธอยังจะได้สงบสติอารมณ์อีกด้วย ถ้าเข้าที่เข้าทางผมค่อยกลับมาประเทศไทย
“พ่อจะส่งแกไปพม่ารึเขมรดีนะ?”
“พ่ออ่า... ให้ผมไปเรียนที่ญี่ปุ่นใหม่อีกครั้งนะครับ ผมจะได้เรียนรู้จากยัยป้าเซร่าด้วยว่าการเป็นคุณหมอนั้นมันลำบากซักแค่ไหน^-^” ผมเปลี่ยนเป็นอ้อนพ่อทันทีเมื่อพ่อทำท่าทีเฉยเมยแถมยังจะส่งตัวผมไปพม่ารึไม่ก็กัมพูชา งื้อออ ผมไม่ไปนะ ผมไม่รู้จักคนที่นั่นสักคนเลยT-T
“บร๊ะ เจ้านี่... อ้อนเหมือนเด็กไปได้ โอเคๆ พ่อจะจัดการให้แกไปอาทิตย์หน้าเลยเป็นไง!” พ่อตบบ่าของผมสองสามทีเพื่อให้เกิดแรงฮึกเหิมเพื่อที่จะก้าวต่อไป ผมพยักหน้ารัวๆแล้วสวมกอดพ่อทันทีเมื่อพ่อตอบตกลง
ถึงแม้พ่อกับแม่.. จะไม่ใช่พ่อแม่ของผมจริงๆ
แต่พวกท่านก็เลี้ยงดูผมมาจนเติบใหญ่ และได้รับทั้งความสุขกายสบายใจ ก็เว้นแต่แม่ผมนั่นแหละที่เป็นทุกข์ตั้งแต่ผมเล็ก...
ท่านคงคิดถึงลูกที่พลัดพรากมาตั้งหลายปีอย่างพัดชามากสินะ... ผมรู้สึกเสียใจนิดๆแฮะที่ต้องคืนแม่ตัวเองให้กับลูกที่แท้จริงอย่าง พัดชา...
อภัยให้ฉันด้วยนะ...
แล้วอย่าทำให้แม่ฉันเป็นทุกข์อีกล่ะ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ให้อภัยเธอจริงๆด้วย
จบไปแล้วหนึ่งบท ที่จริงแต่งไว้นานแล้ว เพิ่งจะเข้าไปตรวจดูคำผิดค่ะ
คาดว่าใกล้จะจบ(บทไหนวะ5555)
คิดว่าใกล้แล้วนะคะ แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นบทไหน เพราะตอนนี้ก็ไม่ได้แต่งต่อ ฮ่าTT
ถ้าจบบทนี้จะโดนโบกไหมเนี้ยยย 5555
ขอไปพิจจารณาก่อนนะคะ น่าจะมีต่ออยู่ เพราะยังไม่ได้คลี่คลาย ครอบครัวยังไม่ใหญ่อย่างที่แม่ชีทักเลย
ชักจะเป็นห่วงคู่นี้ซะแล้วสิ=...=
-------------------------------
แก้ไขครั้งที่ร้อยแปดแล้วมั้ง55555 ตึบมากจริงๆค่ะ โง้ยยยฮ่าๆๆT[]T ได้แค่นี้เบยยย คิดไม่ออกจริงๆค่ะ พยายามสุดความสามารถแย้ววว
รู้สึกการพูดการจาของไรท์เปลี่ยนไปอาจเพราะไรท์แก่ขึ้น(รึเปล่า?)
คุยเล่นติ๊งต๊องเป็นเด็กเหมือนนิยายของลูกอมไม่ไหวซะแล้ว55555-w-
ไม่แน่คงเป็นตามนิสัยนางเอกนิยาย(?)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อ๋อตอนนั้นเวกัสมันมาแอบฟังด้วยน่ะค่ะ5555555+
คือเวกัสเป็นคนรู้คนสุดท้ายว่าแม่ของเขาออกจากโรงพยาบาลแล้วเลยตามหาที่โบถส์(ลืมบอกไปว่าแม่ของเวกัสชอบมาที่โบถส์พลาดแล้วไรท์TT) แล้วเวกัสกับพัดชาพูดออกไปพร้อมกัน(ช่างโป๊ะเชะเหลือเกิน)
ตอนนั้นไรท์ไม่รู้จะบรรยายยังไงอ่ะค่ะ สมองมันตึบไปหมด5555 อาจเพราะไม่ได้แต่งวันเดียวกันอารมณ์มันเลยไปคนละทาง พอมาอ่านก็เข้าใจอยู่คนเดียว ต้องขอโทษด้วยนะคะ เดี๋ยวจะลองไปแก้ไขใหม่ค่ะT^T
#คหด่วนจากไรท์สุดสวยอิอิ(อ้วก!)
ไม่ๆๆๆ เรื่องราวจะจบแค่นี้มันเป็นไปไม่ได้หรอกน้าาา แล้วต่อจากนี้พัดชาจะเป็นยังไงล่ะ ครอบครัว พ่อแม่ ชีวิตเวกัส โอ๊ยๆๆๆ ยังมีอีกหลายเงื่อนที่ยังแก้ไม่ออกนะไรท์ อย่าเพิ่งจบเลย
ปล. ช่วงที่พัดชาได้ยินเขาคุยกันน่ะค่ะ บทบรรยายไม่มีเลยไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร เหมือนกับว่า คุยกันอยู่ดีๆก็มีเวกัสเข้ามากราบเท้า แอบงงนิดๆนะคะ
ในที่สุดเรื่องก็คลายลงแล้วนี่ไกล้ถึงตอนจบแล้วซินะ
ปล.ยังไม่อยากให้จบเพราะกำลังสนุกอยู่เลยอ่า