ตอนที่ 14 :
My friend รักใสใสภายใน365วัน
My friend – 13
“สวรรค์โฮม”
ผ่านไปสองเดือนกับยี่สิบสองวัน
Patcha part
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา...ฉันก็ไม่เห็นแม่ของเวกัสอีกเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ ฉันไม่เข้าไปยุ่งกับลูกชายของเขาไงล่ะ อย่างมากก็คุยกันปกติตามประสาเพื่อน อ้อ! ตอนนี้เรากลายเป็นเพื่อนกันไปแล้วนะ เขาคอยช่วยเหลือฉันทุกอย่าจนฉันรู้สึกอยากจะขอบคุณเขา และพาไปเลี้ยงข้าวสักมื้อ...แต่ก็ทำได้แต่ยิ้มให้เป็นการขอบคุณ แบบนี้แหละดีแล้ว ฉันไม่อยากให้แม่เขาต้องมาเครียดความดันขึ้นเพราะฉันอีก
ตอนนี้ฉันอยู่ที่บ้านกับแม่ ส่วนพ่อก็หายไปตั้งแต่วันเสาร์ตอนเช้าแล้ว จนตอนนี้ยังไม่กลับ พอถามแม่ ท่านก็บอกว่าพ่อไปทำงานที่ต่างจังหวัดกลับอาทิตย์หน้า บ้านหลังนี้จึงมีแค่ฉันกับแม่อยู่ด้วยกันสองคน แทบจะไม่มีอะไรทำนอกจากนอนตีพุงเล่นไปวันๆ อ่า...การบ้านฉันก็ยังไม่ได้ทำเลยอ่ะ ลืมได้ยังไงเนี่ย มัวคิดว่าวันหยุดมันน่าเบื่อทั้งๆที่การบ้านเต็มอย่างนี้เนี่ยนะ เฮ้อ...อยากหายไปจากโลกจริงๆเล้ย
ฉันเขกหัวตัวเองเป็นการลงโทษที่ไม่หัดจำเรื่องสำคัญอย่างการบ้าน จึงรีบลุกจากเตียงแล้วตรงไปยังโต๊ะทำงานที่มีกระเป๋านักเรียนวางไว้ ระหว่างที่ฉันกำลังจะเปิดกระเป๋าเพื่อเอาสมุดการบ้านหลายวิชามากองรวมกันหวังจะเคียร์ให้มันเสร็จๆก็ดันมีเสียงข้อความดังขึ้น
ฉันมองหามือถือของตัวเองที่เผลอไปวางทิ้งไว้ที่ไหนสักแห่งในห้อง พักนี้สมองฉันต้องเสื่อมไปแล้วแน่ๆมักหลงๆลืมๆอะไรหลายๆอย่างเลยแฮะ ต้องไปเช็คมันซะบ้างละ เผื่อไปเที่ยวแล้วเอาเงินวางทิ้งอยู่ในห้องน้ำ รึขับรถไปเที่ยวแล้วดันเดินกลับมาละเรื่องใหญ่ ฮ่ะๆ
อ่าเจอแล้ว~ แอบอยู่ใต้หมอนนี่เอง ว่าแต่ฉันเอามันไปซุกไว้ใต้หมอนเมื่อไหร่นะ ช่างมันเถอะเจอก็ดีแล้ว^^
‘ตัวเอง ตอบไลน์เราด่วน!’
เป็นข้อความจากเวกัสเองแหละ พอดีฉันปิดทั้งเสียงแชทในเฟซบุ๊คและไลน์เพราะรบกวนเวลาหลับเวลานอนมากกก เลยไม่ค่อยรู้ว่าใครส่งอะไรมาบ้าง...ฉันปลดล็อคหน้าจอมือถือแล้วกดเข้าไปในแอปไลน์ เห็นข้อความของเวกัสขึ้นเยอะแยะเลย เอ่อโทษทีนะ ฉันลืมเช็คมันอีกแล้วแหละ -/\-
ข้อความล่าสุด
‘พัดชา มาบ้านเราหน่อย เธอลืมรายงานชีวะไปแล้วหรือไงหืมมม?(สติ๊กเกอร์กระต่ายร้องไห้)’
ฉันจะบอกว่าฉันลืมว่ะ=_=
‘ยังจ้าๆ ฉันไม่ค่อยว่างน่ะ ว่าแต่ทำไมต้องไปทำบ้านนายด้วย นัดกันมาทำที่ร้านกาแฟหน้าโรงเรียนไม่ดีกว่าเหรอ’ จะบอกว่าลืมเดี๋ยวเขาจะว่าไม่เห็นความสำคัญของงานกลุ่ม(หรา?)
สักพักเวกัสก็ตอบกลับมา
‘นี่ๆ งานมันให้วัดความชื้นของดินและหาประชากรสัตว์เธอจะไปวัดความชื้นปูนซีเมนต์รึไง รึจะเอาพลั่วไปขุดดินหน้าร้านเขา(สติ๊กเกอร์รูปหมีอัดกระต่าย)’ นี่เขาเป็นหมีแล้วฉันเป็นกระต่ายใช่มั้ย- -?
‘ฉันไม่กล้าไปบ้านนายอ่ะ’ ประเด็นคือแม่เขาดุจะตาย วันก่อนที่คุยกับท่าน ขนหน้าแข่งฉันแทบจะร่วง คนอะไรอย่างกับนางมารในละครจีนTT
‘ถ้าอย่างนั้นให้ฉันไปบ้านเธอเอาป่ะ’
ฉันชะโงกหน้ามองออกไปข้างนอกห้อง คงไม่ดีอ่ะ แม่ฉันกำลังหงุดหงิดเรื่องนกมาอึใส่รองเท้าปราด้าสุดหวงราคาแพงหูฉี่คู่โปรดของท่านอยู่ ขืนเวกัสมาป่วนที่บ้านมีหวังครก สาก หม้อ ไห ตะหลิว ทัพพี กระจุยกระจายแน่ อีกอย่างแม่ก็ไม่ชอบให้ฉันคบเพื่อนผู้ชายด้วย ฮือ เอาไงละทีนี้T[]T
‘แม่ฉันไม่อนุญาตอ่า(สติ๊กเกอร์กระต่ายร้องไห้)’
‘นั่นไง บอกให้มาทำที่บ้านฉัน ตอนนี้แม่ไม่อยู่บ้าน เธอทำตัวตามสบายได้เลย’ จริงดิ! ถ้าแม่เขาไม่อยู่ฉันก็โอเค><
‘ได้ๆ ว่าแต่ บ้านนายอยู่ไหนอ่ะ=..=?’ จำได้ว่าฉันเคยขอเขาติดรถเพื่อมาส่งที่บ้านแล้วผ่านบ้านของเวกัสพอดี แต่ใครจะไปจำได้เล่า ถนนหนทางมีเยอะแยะไป ต้องลืมกันบ้าง
‘เดี๋ยวส่งแผนที่ไปให้ ถ้าไปไม่ถูกก็โทรหานะ^^’
ไม่นานเวกัสก็ส่งแผนที่มาให้อย่างละเอียดยิบ เห็นหมดในซอกในซอย อย่างนี้ค่อยไปถูกหน่อย ว่าแต่จะทำไงไปน่ะเหรอ ปั่นจักรยานอย่างเดียวอ่ะ พ่อแม่ไม่อนุญาตให้ขี่มอเตอร์ไซค์ อ้างว่ายังเด็กและอันตราย แต่มันจำเป็นมากๆเลยนะ พ่อกับแม่ไม่เข้าใจT_T จึงเป็นเหตุที่ฉันไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวเตร่ข้างนอกเลย วันๆเอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้าน ฮือ...
“แม่คะ หนูขอไปทำงานชีวะบ้านเพื่อนนะคะ เย็นๆคงจะกลับ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงหนูน้า^^” ฉันเดินย่องๆไปสวมกอดผู้เป็นแม่จากด้านหลัง แม่กระตุกตัวด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนจะวางปราด้าสุดหวงไว้บนชั้นรองเท้าแล้วหันมาหาฉันที่ทำตาปริบๆรอฟังคำอนุญาตจากท่าน
“ไปสิจ๊ะ แต่อย่ากลับค่ำนักล่ะ ให้แม่ไปส่งไหม” เย้! ครั้งนี้แม่อนุญาตง่ายกว่าไปเที่ยวบ้านยัยปุยฝ้ายอีกนะเนี่ย
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูปั่นจักรยานไปเองได้ ไปก่อนนะคะ” ฉันจุ๊บแก้มข้างซ้ายของผู้เป็นแม่หนึ่งครั้งแล้วหมุนตัววิ่งลงบันไดไปอย่างว่องไว
“เอ๋...เดี๋ยวลูก! ไปทำบ้านใครจ๊ะ ผู้ชายหรือผู้หญิง” ฉันไม่ได้ตอบคำถามแม่เพราะเห็นว่าวิ่งออกมาหน้าบ้านแล้ว แต่ก็ได้ยินเสียงแม่อยู่ชัดแจ๋ว ใครจะกล้าตอบล่ะ จะให้โกหกก็บาป
ฉันคว้าจักรยานโดเรม่อนสีฟ้าของขวัญของพ่อที่ซื้อให้ตอนมอหนึ่งเพราะสอบได้ที่หนึ่งของสายชั้น หุหุ ตอนนั้นฉันอยากได้มันมาก เลยขยันทำเกรดดีๆ ประจบครูทุกวัน(ไม่ใช่ละ) ส่งงานตรงเวลาทุกวัน และเป็นที่รู้จักของครูในโรงเรียนหลายๆคน เลยคว้าเอาเกรดสีจุดศูนย์ศูนย์มาอย่างง่ายดาย
สองขาออกแรงปั่นจักรยานอย่างสุดกำลัง และไม่ลืมที่จะเปิดูแผนที่ไปด้วย อันตรายจังเลยแฮะ ตอนนี้ฉันออกมาจากบ้านแล้ว อยู่ถนนใหญ่ซอยเข้าบ้าน ในแผนที่บอกให้เลี้ยวซ้ายพอเจอร้านขายผ้าไหม ‘เขียวเสวย’ แล้วให้เหลี้ยวขวาเข้าไปในซอย สวรรค์โฮม(ชื่อเพราะเนอะ- -) อ๋อ! เวกัสซื้อบ้านจัดสรรน์สวรรค์โฮมเหรอเนี่ย บ้านที่ใครๆเขาใฝ่ฝันอยากอยู่กันเพราะหรูหราและสวยอย่างกับได้ขึ้นสวรรค์
เตรียมพร้อมติดขีปนาวุธไว้ที่ล้อรถแล้วซิ่งไปเลย!!!
สวรรค์โฮม
ตายละ...บ้านเวกัสหลังไหน=_=?
ลายหูลายตาหมดเลย แล้วก็มีถนนแยกไปหลายทิศทางทำเอาสับซนไปหมด ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ยไม่น่าเลี้ยวเข้าไปตามใจตัวเองเล้ย มัวชมนกชมไม้ เฮ้อ! อยู่ตรงไหนของสวรรค์โฮมนะ
“เฮ้! พัดชาน้อย” เสียงนี้ คุ้นๆเหมือนเคยได้ยิน
“แทต! หน็อย นาย แซบนักนะ ฉันเกลียดนายไปไหนก็ไปเลยไป๊” ฉันปัดมือไล่คนตัวสูงที่ถือลูกบาสกำลังเดินเข้ามาหน้าระรื่น คราวที่แล้วก็บอกให้ฉันไปเอากระดาษที่ติดอยู่ต้นไม้ในป่าช้า แล้วเป็นไง ตกหลุมศพเลย บ้าจริง!
“อย่าเพิ่งไล่สิจ๊ะ ฉันผิดไปแล้วT T” แทตยังคงเดินมาและทำหน้ารู้สึกผิดไปด้วย เอ...? แล้วนายมาเดินป้วนเปี้ยนทำไมแถวนี้นะ หรือว่าบ้านนายก็อยู่สวรรค์โฮมเหมือนกัน=[]=
“บ้านนายอยู่แถวนี้เหรอ” ฉันถาม
“อืม บ้านเธอก็อยู่แถวนี้เหรอ เอ๊า ไม่รู้นะเนี่ย” นายมาตอบแทนฉันได้ไงวะ- -
“เปล่าๆ ฉันมาทำรายงานบ้านเวกัสน่ะ บ้านเขาหลังไหนเหรอ”
“ปั่นจักรยานมาเนี่ยนะ-[]-” ก็เห็นๆอยู่ว่าควบจักรยาน รึนายเห็นจักรยานของฉันเป็นเป็นม้าสีหมอก?
“อือ บ้านเวกัสหลังไหน ตอบมาเร็วๆ ไม่อย่างนั้นฉันจะถอดรองเท้าฟาดหน้านายจริงๆด้วย” ฉันเตรียมจะถอดรองเท้าแตะที่สวมใส่อยู่ แทตรีบโบกมือพลางส่ายหน้าอย่างอขยะแขยง แหม ทำเป็นรังเกียจ รองเท้าคู่นี้ตั้งเก้าสิบเก้าบาทเชียวนะ แพงจะตาย-3-
“ไปทางนี้แล้วตรงไปเรื่อยๆ หน้าบ้านจะไม่เหมือนใครเพราะสวนหน้าบ้านหมอนั่นจะเต็มไปด้วยพืชพรรณนานาชาติ พอดีบ้านหมอนั่นมันรักธรรมชาติน่ะ เข้าไประวังงูด้วยนะ อิอิ” หมอนั่นพูดไปพลางทำท่างูเลื้อยไปด้วย ขอโทษทีฉันไม่กลัวงูค่ะ พอดีบ้านกินงู เอ๊ย
“นายไม่ไปส่งหน่อยเหรอ”
“อยากไปส่งนะสาวน้อย แต่ฉันต้องไปซ้อมบาสที่กลางหมู่บ้านน่ะ เย็นๆไอ้เวกัสก็คงจะไป สนใจไปเที่ยวไหม หนุ่มๆกล้ามล่ำๆเยอะเลยนะ อ๊ายยย” แทตบอกพร้อมกับบิดตูดไปบิดตูดมาอย่างน่าหมั่นไส้ ฉันนี่ชักอยากจะกระโดดถีบก้นของหมอนั่นจริงๆ
“อือ ไปละ นายรีบไปซ้อมเหอะ” หมอนั่นโบกมือบ๊ายบายฉันก่อนจะเดินหมุนลูกบาส เล่นไปอีกทางคาดว่าน่าจะเป็นสนามกีฬาใจกลางหมู่บ้าน เสียเวลากับหมอนี่ไปมากแล้ว ป่านนี้เวกัสคงขุดกินไส้เดือนแก้เซ็งได้หลายตัวแล้วมั้ง ฮ่ะๆ
ฉันออกแรงปั่นจักรยานไปตามทางที่แทตบอกพลางเหลียวมองหน้าบ้านของทุกบ้านไปด้วย บ้านไหนหน้าบ้านรก ก็คงเป็นบ้านของเวกัส
เอ๊ะๆๆๆ นั่นเวกัสนี่หว่า ออกมารออยู่หน้าบ้านเลย ไม่ต้องพิจารณาแล้วว่าหลังไหนเป็นบ้านของเขา><
=[]=!
ผิดคาด! นี่มันสวรรค์ชัดๆ ไหนว่าหน้าบ้านรกไง ไอ้แทตบ้า คนโกหก เกือบเลี้ยวเข้าบ้านใครไม่รู้แล้วนะ เพราะหน้าบ้านรกอย่างกับป่าอะเมซอน
“ตะลึงอะไรเนี่ย เข้ามาข้างในก่อนสิ” นี่ฉันจ้องหน้าบ้านเขานานเกินไปเหรอเนี่ย ก็มันสวยอ่ะ อย่างกับอยู่ในสวรรค์ ดูสิๆ บรรยากาศมันใช้ได้เลย แค่ยืนอยู่สวนหน้าบ้านแล้วมโนว่าตัวเองเป็นนางเอกเอวี เอ๊ย นางเอกเอมวีนี่ได้เลยนะ ดอกก็ไม้ห๊อมหอม ถึงว่ากลิ่นตัวของเวกัสหอมอย่างกับดอกไม้ วันๆอยู่แต่หน้าบ้านละสิ อิอิ
“สวยใช่ไหมล้า พ่อของฉันชอบมากๆเลยนะ ดอกไม้พวกนี้ เป็นดอกไม้หายาก รู้ไหมว่าพ่อต้องขึ้นเครื่องไปหลายๆประเทศเพื่อนำมันกลับมาปลูก และดูแลมันอย่างดี”
“โห พ่อนายนี่รักธรรมชาติเนอะ เอ๊ะ ทำไมดอกกุหลาบตรงนี้มันเริ่มเหี่ยวอ่ะ” ไม่รู้ว่าพ่อของเวกัสข้ามไปได้ยังไง ต้นอื่นขึ้นอย่างสง่างามยกเว้นดอกกุหลาบ?
“อ๋อ นี่แม่ของฉันปลูกเอง ซื้อจากประเทศไทยนี่แหละ พ่อของฉันไม่ชอบดอกกุหลาบเพราะท่านแพ้กลิ่นของมัน แต่แม่ฉันชอบมาก ท่านเลยเอามาปลูกและไม่ค่อยได้ดูแล มันเลยเหี่ยวๆแบบนี้” เวกัสใช้นิ้วเขี่ยดอกกุหลาบเบาๆ
“แล้วนายไม่ดูแลแทนแม่ล่ะ” ฉันถามอย่างสงสัย
“อยากดูแลแหละ แต่แม่แทบไม่ให้เข้าใกล้เลย ท่านหวงมาก ไม่รู้ทำไม ฉันว่ารีบเข้าไปข้างในเถอะ เดี๋ยวจะทำงานไม่เสร็จเอานะ” หวง แต่ไม่ค่อยได้ดูแล...
ทำไมล่ะ? ของหวงต้องรักษามันอย่างดีสิ แล้วฉันดันชอบดอกกุหลาบมากเสียด้วย คลั่งเลยล่ะ โดยเฉพาะกุหลาบสีแดงสด มองแล้วมันเพลินตาดีนะ หลังบ้านของฉันก็ปลูกเต็มเลย
“ถ้าเธอสงสัยละก็ไว้ถามแม่ฉันก็ได้นะ”
“เอ่อ ไม่เอาดีกว่าแฮ่ๆ” นายไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าแม่นายน่ะดุอย่างกับนางมารTT
“ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปข้างในกันเถอะ^^” เวกัสคว้าข้อมือของฉันให้เดินตามเข้าไป อาจเป็นเพราฉันยืนมองเจ้าดอกกุหลาบนี่นานไปหน่อย
ข้างในก็ตกแต่งสไตล์อเมริกัน โทนมืดๆหน่อย พอเข้าไปข้างในบ้านแล้วรู้สึกว่าข้างนอกมันมืดไปหมดเลย อากาศในห้องเย๊นเย็น ฉันคงมีความสุขมากถ้าบ้านฉันเป็นแบบนี้ น่าอยู่จังเล้ยยย (ให้นางฟินไปก่อน)
“อ้าว มาแล้วเหรอจ๊ะแม่หนู^^” ฉันรีบตื่นจากภวังค์ทันทีเมื่อได้ยินเสียงทุ้มๆจากใครบางคน คนที่ทักฉันเมื่อกี้ดูอายุเยอะแล้ว แต่ยังคงความเข้มไว้ เขานั่งอยู่บนเก้าอี้โยกแล้วส่งยิ้มป็นมิตรทักทาย
“นี่พ่อฉันเอง” เวกัสผายมือแนะนำ ฉันรีบยกมือไหว้ก่อนจะกล่าวคำสวัสดีที่ออกมาจากใจ ทำไมเวกัสไม่บอกว่าพ่อของเขาอยู่บ้านนะ หวังว่าท่านคงจะใจดีกว่าแม่ของเขานะ
“ไหว้พระเถอะลูก” รู้สึกเหมือนมีออร่าสีขาวแห่งความ(ใจ)ดีเปล่งประกายออกมาจากตัวท่านเลย ผิดกับภรรยาของเขาที่มองตรงไหนก็เห็นแต่รังสีอำมหิต
“เดี๋ยวพวกเราขอใช้ห้องทำงานนะครับ”
“เห็นทีจะไม่ได้นะเวกัส เดี๋ยวพ่อกำลังจะไปทำงานต่อ ลูกขึ้นไปทำข้างบนห้องได้ไหม” เวกัสยืนนิ่งไปสักพักก่อนที่จะตอบตกลง แล้วเดินนำฉันขึ้นไปชั้นบน พวกเราเดินผ่านไปสองห้องแล้วค่อยหยุด จากนั้นเวกัสก็บิดกลอนประตูเพื่อที่จะเปิดให้ฉันเข้าไป
“อะ อ้าว เราจะทำงานในห้องนอนเหรอ?” นี่มันห้องนอนของเวกัสชัดๆ! เขาคิดอะไรอยู่เนี่ยถึงพาฉันมาห้องนี้!!!
“ก็โต๊ะทำงานฉันอยู่ข้างใน อย่าคิดมากเลย ฉันไม่ได้พาเธอมาทำมิดีมิร้ายสักหน่อย” เขาดีดหน้าผากฉันก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในห้อง งื้อเจ็บ! ก็ฉันไม่รู้นี่นาว่าห้องทำงานอยู่ในห้องนอนนายอีกที ก็ทีแรกเห็นแต่เตียงนอนอ้าT[]T
“มาดูนี่ให้หน่อย ฉันเขียนถูกมั้ย?” เวกัสยื่นเอกสารบางอย่างให้ฉันตรวจทาน เขาเป็นคนทำงานละเอียดมาก คำผิดสักคำก็ไม่เจอ จัดหน้าบรรทัดได้อย่างสวย และเนื้อหาครบถ้วน
“โอเคเลย”
“อืม...เราเขียนรูปเล่มก่อนไหมแล้วค่อยออกไปทดลอง” ขณะที่ฉันนั่งอยู่บนเตียง เวกัสก็นั่งอยู่ข้างๆ สิ่งที่ทำให้ฉันใจเต้นคือเขาเข้าใกล้ฉันโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างให้ฉันตรวจทานรายงานเมื่อกี้ เขาดันโน้มใบหน้ามาใกล้ๆใบหูของฉัน จึงเป็นทำให้หัวใจของฉันมันเต้นผิดจังหวะไป
จากปกติ กลายเป็นเร็วขึ้น แรงขึ้น จน...
ตึก ตึก ตึก ตึกๆๆๆ
“เสียงอะไรอ่ะ? เธอได้ยินไหม” ตายแล้ว...มันดังจนคนข้างๆได้ยินเชียวหรือT^T
“ฮ้าๆๆๆ ไม่รู้สิ หูนายคงเพี้ยนไปมั้ง” ฉันหัวเราะดังๆเพื่อกลบเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ เขาเกาหัวอย่างงงๆ เมื่อจู่ๆฉันก็กลายเป็นยัยบ้าซะแบบนั้น- -
“ถ้างั้นเธอช่วยเขียนส่วนนี้ให้หน่อยสิ เดี๋ยวฉันจะไปนั่งหาข้อมูนตรงโน้น” ฉันพยักหน้าตอบรับคำขอของเขา พร้อมกับเปิดหนังสือหาข้อมูลไปด้วย แต่ก็แอบลอบเหล่หางตามองร่างสูงอยู่ดี ให้ตายเถอะ...ฉันบังคับสายตาตัวเองไม่ได้แล้วตอนนี้
เวกัสอยู่ในชุดลำลองสบายๆ เสื้อยืดสีขาวกางเกงขาสั้นประมาณเข่า ผมยุ่งๆเหมือนคนตื่นนอน ตานี่บวมฉึ่งเลยล่ะ สงสัยอดหลับอดนอนแน่ๆ ฮื้อออ ทำไมเขาถึงใส่ใจกับงานมากกว่าเราอีกนะ *_*
“พัดชา...รีบลงมือทำสิ เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านดึกหรอก” ฉันรีบตวัดหางตามามองหนังสือทันที แต่ดันโดนเวกัสจับได้เสียก่อน แฮะๆ ฉันมัวแต่คิดอะไรเล่นเพลินๆน่ะ แต่ถ้าให้ทำก็แป๊บเดียวเอง ฉันทำงานช้าสักที่ไหน(ใช้ทรีนเขี่ยไปส่งละสิ-3-)
“คะแนนดิบตั้งสามสิบเลยนะ อีกยี่สิบคะแนนก็ได้เกรดหนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นตั้งใจทำเข้าล่ะ” ทำไมเวกัสถึงเดาได้ถูกว่าฉันจะใช้ทรีนเขี่ยไปส่งอาจารย์นะ- -
“จ้า ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ” ฉันหันไปตอบร่างสูงก่อนจะก้มหน้าก้มตาเขียนรายงานอย่างพิถีพิถัน “เออเวกัส แม่นายไปไหนเหรอ”
“ไม่รู้ดิ ตื่นมาก็ไม่เจอ ฉันไม่เห็นแม่ตั้งแต่วันเสาร์แล้วล่ะ”
“ไม่ถามพ่ออ่ะ เผื่อพ่อของนายจะรู้”
“ช่างเถอะ แม่คงไปเที่ยวตามประสาคนเครียดๆ” ฉันเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของเวกัสที่ตอนนี้ดูเหมือนใบหน้าของเขาจะนิ่งจนน่าขนลุก นัยน์ตาของเขาขุ่นมัวเหมือนกำลังคิดอะไรไม่ดี
เขาเกลียดแม่ตัวเองรึเปล่า คือใบหน้านายมันฟ้องอ่ะเวกัส น่าขนลุกจัง
“เออ...ฮ่ะๆ เวกัส ฉันอยากเข้าห้องน้ำน่ะ อยู่ทางไหนเหรอ” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของเขาเริ่มที่จะเหมือนปีศาจเข้าไปทุกทีแล้ว ตาที่ขุ่นมัวเริ่มใสขึ้น เขาเหมือนสะดุ้งตื่นจากฝันแล้วหันหน้ามายิ้มให้ฉันแปลกๆ ผีเข้าผีออกรึเปล่านะ เดาอารมณ์หมอนี่ไม่ถูกจริงๆ
“อยู่ด้านหลังฉันนี่แหละ เลื่อนกระจกออกเป็นประตู” เขาบอกก่อนจะสาธิตเปิดประตูห้องน้ำให้ เก๋ไก๋ซะไม่มี
ฉันค่อยๆเดินไปอ้อมตรงหลังของเวกัสเพื่อที่จะเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ แต่ทว่า...ฉันมัวแต่มองไปข้างหน้าจนลืมก้มดูว่าพื้นห้องของเวกัสรกไหม เป็นเหตุให้เท้าของฉันไปชนใส่กล่องใส่ของเข้าอย่างแรง จนฉันต้องรีบกระโดดโลดเต้นด้วยความเจ็บปวดที่ปลายเท้า พอฉันเด้งตัวดึ๋งๆไปมาก็ไม่ได้เหลียวมองข้างหลังจึงทำให้ก้นน้อยๆของฉันมันไปชนใส่ขอบโต๊ะของเวกัสเข้าอีก อ๊างงงงงT[]T!
คราวนี้ร่างฉันล้มลงไปนอนกองกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว เวกัสรีบเอาหูฟังออกวางไว้บนโต๊ะ แล้วนั่งลงกับพื้นเพื่อประคองร่างของฉันให้ลุกขึ้น
งื้อ...ซุ่มซ่ามจริงๆเลยพัดชา T///T
“ซุ่มซ่ามจริงๆเลย ค่อยๆลุกนะ” เวกัสโอบไหล่ฉันไว้อย่างเบามือ
“หน้าฉันมืดไปหมดเลย+_+” ฉันค่อยๆลุกนั่งแล้วลูบแก้มตัวเองเบาๆ
“แหงล่ะ ก็เล่นล้มลงไปหัวกระแทกพื้นแบบนั้น สมองไม่เสื่อมก็ดีแล้ว” รู้สึกว่าเขาจะกัดฉันนิดๆแฮะ=_=
“ก็นายดันวางของไว้ไม่เป็นที่เป็นทางอะ” ฉันบุ้ยปากใส่เวกัสอย่างงอนๆ เขาแลบลิ้นก่อนจะตอบ
“ฉันวางไว้แบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว เธอประมาทเอง”
“หลีกไปเลย จะไปเข้าห้องน้ำฉี่จะราดแล้ว” ฉันดันคนตัวสูงให้ไปพ้นๆ ก่อนที่จะค่อยๆยันตัวลุก แต่...แต่...แต่!
ไม่รู้ว่าทำไมฉันต้องเข้ามาอยู่ในฉากนางเอกละครด้วยนะ ร่างของฉันค่อยๆสโลว์โมชั้นล้มลงไปก้นกระแทกพื้นอย่างแรง! สงสัยยืนผิดท่าเท้ามันเลยพลิกแบบนั้น รู้สึกปวดที่เท้าตุบๆเลยจ้าY^Y
“บอกแล้วว่าให้ระวัง ต้องให้ฉันอุ้มเข้าไปในห้องน้ำไหมเธอถึงจะไม่ล้ม” ฉันถูกเวกัสดุอีกแล้วง่า
“แฮ่ๆ” ฉันได้แต่หัวเราะแห้งๆ เขาลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือมาให้ฉันจับอย่างกับพระเอกในหนัง ซึ้งดีจัง ><
“^w^”
“...”
อะไรกัน! อยู่ดีๆก็เข้าสู่โหมดการเงียบทันที รู้ไหมว่าบรรยากาศแบบนี้มันน่าอึดอัดสักแค่ไหน เขายื่นมือมาใกล้ฉันเพื่อที่จะให้จับ แต่พอมือเล็กๆของฉันไปวางบนมือของเขาเท่านั้นแหละ คนตัวสูงก็เปลี่ยนมาเป็นจับข้อมือฉันแทน แถมเขายังหล่นตุ๊บมาคร่อมร่างฉันอีก อะ...อะไรกันวะเนี่ย ใจของฉันมันเต้นเร็วอีกแล้ว ได้โปรด เอาตัวของนายออกไป ไม่อย่างนั้นฉันต้องเป็นบ้าตายแน่ๆ
พวกเราสองคนมองหน้ากันพร้อมกับทำตาปริบๆ ไม่พูดไม่จา สื่อสารกันทางใจ ฉันได้แต่นอนนิ่ง จะนั่งก็ไม่ได้เขาทับร่างฉันอยู่ ปล่อยไปตามเวรตามกรรมสินะ T^T
มะ มือ...มือของเขา! มือของเขาสัมผัสที่แก้มของฉันเบาๆ แล้วลูบไล้มาจนถึงริมฝีปาก เขาใช้นิ้วชี้แตะริมฝีปากเล่นก่อนจะเอาใบหน้าหล่อๆเข้าใกล้ฉันจนจมูกเกือบจะชนกัน ฉัน...ฉันได้ยินเสียงอัตตราการเต้นของหัวใจเขาด้วย แรงไม่แพ้กัน! หัวใจของเราสองคนตอนนี้มันดันประสานเสียงกันอย่างกับคณะโอเปร่า
ไม่มีคำพูดอะไรออกจากปากพวกเราสองคน ฉันเอาแต่นอนนิ่งไม่ไหวติงอย่างกับหุ่นขี้ผิ้ง ส่วนเขาก็ค่อยๆโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ชนิดที่รู้สึกถึงลมหายใจแผ่วๆของเขา โฮะ! ไม่ไหวแล้ว พัดชาจะเป็นลม จะเป็นลมแล้วเจ้าค่าT[]T
แอด...
“เซอร์ไพรส์!”
ขณะที่พวกเรากำลังนอนทับร่างกันอยู่นานสองนาน ก็ดันมีเสียงประตูเปิดออกและเสียงมีหวานๆตามขึ้นมาอย่างน่าปะหลาด! ฉันรีบดันร่างคนตัวสูงให้ออกไปแล้วกระเสือกกระสนลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว
“ซะ...เซร่า!
อันยองจ้า>< แฮ่ๆ รีบมาอัพให้ ไรท์ขี้เกียจรอฮ่าๆ ใกล้จะถึงวันจันทร์แล้วเศร้าใจจังเลยT[]T
บทนี้ยัยพัดชาผู้ไม่เคยนอกกรอบเกือบมีอะไรกับพระเอกของเราแล้วถ้าไม่มีบุคคลที่สาม(?) เปิดประตูเข้ามาเสียก่อน อั๊ยยย ขัดจังหวะจริ๊งๆ ได้พี่ทิพฟานี่SNSDมาเป็นอิมมจของหมอเซร่า หูยยย ให้ใจไปทั้งดวงอ่ะ ไม่กล้าแต่งให้เซร่าร้าย เพราะหน้านางไม่ให้5555 ฟานี่ยิ้มสวยมากกกก><
สงสัยตั้งแต่บทนี้ไปคงเป็นดราม่าซะแล้ว T..T เจ็บปวดแทนนางเอกเราเหลือเกิน ไรท์นี่แต่งไปถอนหายใจไป ฮ่าๆ บทหน้าเจอดราม่าชุดใหญ่กันจ้า จุ๊บๆ><
ป.ล ตอนหน้าปมของเรื่องนี้ค่อยๆคลายออกมาแล้วเจ้าค่ะ! ฮรื้อออ
ป.ล 2 ไรท์แต่งรูปสวยมั้ย555555(อย่าเพิ่งเอาเกิบฟาดไรท์น้าT[]T)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เอ้อ! แล้วก็ รู้สึกแปลกๆตรงที่ว่า ใช้นิ้วชี้เขี่ยริมฝีปากเล่น ควรเปลี่ยนเป็นสัมผัสหรือไม่ก็แตะดีกว่าเนอะ เพราะมันดูทำลายบรรยากาศโรแมนติกหมดเลยอ่าาา 5555