ตอนที่ 11 :
My friend รักใสใสภายใน365วัน
My friend – 10
“นายคนแรก”
“ฉันเลิกกับว่านแล้ว...” ร่างสูงฝืนยิ้มออกมาทั้งๆที่ใจมันเริ่มที่จะมีแรงมากดดันจวนจะระเบิดออกมา ใบหน้าหล่อคมจ้องมองดวงตากลมโตของผู้หญิงตรงหน้าอย่างมีหวังเมื่อเธอยิ้มขึ้น
“นายนี่มัน...กินทิ้งกินขว้างจริงๆ” ริมฝีปากชมพูสดเอ่ยปากพูด “แล้วยังไง นายทำแบบนี้ต้องการอะไรไม่ทราบ?” เธอหรี่ตาจ้องจะจับผิดคนตัวสูงอย่างเวกัส
“ฉันไม่ได้เรียกร้องความสนใจจากเธอ แต่ฉันว่ามันคงถึงวันนั้นแล้วล่ะ” พัดชาเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงสงสัย
“วันอะไร”
“ฉันคิดว่าฉันชอบเธอ จะเป็นไรไหมถ้าเรา...” ยังไม่ทันพูดจบเสียงแหลมเล็กก็แทรกขึ้น
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกนะเวกัส! ฉันไม่มีวันรู้สึกดีกับนายอีกต่อไป เพราะความรู้สึกดีๆของฉันมันถูกนายทำลายทิ้งไปนานแล้ว” พัดชากัดริมฝีปากแน่นเพื่อข่มอารมณ์ไว้แล้วทนพูดต่อเพื่อให้เรื่องครั้งนี้จบลง
“ขอโทษอีกครั้งนะ...ฉันจะเป็นคนเห็นแก่ตัวไม่ได้อีกแล้ว หวังว่าเราคงทำเหมือนเป็นปกติต่อกัน” พัดชาพ่นลมหายใจออกมาก่อนที่จะพูดจบ แล้วเดินแทรกคนตัวสูงออกไปจากร้านขายของฝาก ร่างเล็กเดินตรงไปที่ม้านั่ง หล่อนจึงไปนั่งรอปังปอนตรงนั้น
“เธอพูดดีที่สุดแล้วพัด...” เด็กสาวพูดกับตัวเองพลางชันเข่าขึ้นแล้วเอาคางเกยดูท่าแล้วเหมือนคนผิดหวังอะไรบางอย่าง ระหว่างที่รอเธอก็นั่งคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องไปเรื่อยเปื่อยจนปังปอนวิ่งหน้าตั้งออกมาจากร้าน ในมือถือถุงหิ้วพะลุงพะลังมาทางพัดชา
“มาแล้วๆๆๆ รอนานไหม” ปังปอนวางถุงไว้ด้านข้างพัดชาแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าสีชมพูขึ้นมาซับเหงื่อ พัดชาส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ไม่พูดไม่จาแล้วเดินกลับไปที่จุดนัดพบ “จะไปแล้วเหรอ รอเราด้วย”
ร่างเล็กเดินไปเนิบๆพลางคิดทบทวนไปในใจ เธอนำเรื่องหลายๆเรื่องมารวมกันและค่อยๆแยกออกเป็นส่วนๆ
“จูบ?” พัดชาเอ่ยเสียงเบา
เธอคิดย้อนไปเมื่อตอนที่พบกับเวกัสใหม่ๆ ตอนที่เจอตาลุงโรคจิตคนนั้นภาพมันยังติดตาไม่หาย...
‘เขาพรากจูบแรกของฉันไปแล้ว’
ใช่...เขาเป็นคนพรากจูบแรกของเธอไป แล้วเธอ...จะทวงจูบนั้นกลับมารึเปล่าล่ะ?
“มะ...ไม่มีทางหรอก” พัดชายกมือขึ้นกุมขมับแล้วเร่งฝีเท้าให้เดินเร็วกว่านี้จนกลายเป็นวิ่ง เด็กสาววิ่งไปด้วย ในหัวความคิดก็ตีกันจนสมองจะระเบิดออกมา เธอตอบกับตัวเองในใจว่า ไม่มีทาง หลายพันล้านรอบแล้ว
หวังว่าครั้งนี้เธอคงทำได้ตามที่ใจต้องการนะพัดชา...
18.00 นาฬิกา
หลังจากที่เอากระเป๋าสัมภาระเก็บไว้บนห้อง นักเรียนทุกคนก็วิ่งลงมาอยู่ข้างล่างพร้อมเพียงกันเพื่อฟังคุณครูชี้แจงกิจกรรมตอนกลางคืน
“และแล้วเวลานี้ก็มาถึงจนได้สินะ ฮ่ะๆๆๆ” เสียงหัวเราะดั่งปีศาจของครูประจำชั้นดังทั่วบริเวณนั้น ทำให้เด็กหลายๆคนเป็นวิตกกังวลขึ้นมาทันที เพราะอีกชั่วอึดใจกิจกรรมปลุกความกล้าหาญของทุกคนก็จะมาถึง
“ครูได้จับคู่ให้พวกเธอแล้วนะเด็กน้อย...ชึบ! นี่คือรายชื่อของแต่ละคู่ที่จะเข้าไปพิชิตความกล้าในสุสานที่ขึ้นชื่อว่าผีดุที่สุด และนี่คือแผนที่ไปสุสานพร้อมกับจุดขนหัวลุกต่างๆ ครูจะไปรอพวกเธอข้างหน้านะจ๊ะ เอ่อ...เข้าไปแล้วอย่าทำอะไรที่ไม่ควรล่ะ อย่าลองของด้วยจำไว้!” ครูประจำชั้นหันมาสั่งอย่างเด็ดขาดก่อนที่จะส่งเอกสานให้พัดชาหัวหน้าห้องให้ไปจัดการตามนี้
“โห...น่าลองตายแหละ สุสานนะไม่ใช่สวนสนุก” ลดาที่ยืนตัวสั่นเทาเพราะความกลัวกระตุกแขนปุยฝ้ายแล้วพูดขึ้น
“ฉันพกพระมาด้วยแหละ ไม่ต้องกลัวๆ” ปุยฝ้ายบอกพร้อมกับชูพระให้ลดาดู ปังปอนเห็นว่าตัวเองลืมใส่พระมาเลยรีบคว้าพระจากมือของปุยฝ้ายไปแล้วยิ้มอย่างสบายใจ
“เราว่าปุยฝ้ายเอาพระมาให้เราดีกว่า เพราะแค่เห็นหน้าปุยฝ้ายผีก็ไม่กล้าออกมาแล้ว”
“ปังปอน...=_=”
“เฮ้ย!!!” จู่ๆพัดชาก็สบถออกมาอย่างหัวเสีย หน้าซีดอย่างกับไก่ต้มจึงทำให้ลดาปุยฝ้ายและปังปอนต่างรีบวิ่งหน้าตั้งเข้าไปหาอย่างเป็นห่วง
“เป็นอะไร มีอะไรเหรอพัดชา!”
“มะ...ไม่มีอะไรหรอก พวกเธอก็แบ่งๆกันดูนะว่าได้คู่กับใคร เราจะได้ออกเดินทางเร็วๆ” พูดจบร่างเล็กก็ส่งใบรายชื่อให้เพื่อนๆ เธอรีบปลีกตัวออกมาจากตรงนั้นและหันมาเจอกับเวกัสอย่างบังเอิญ
“เธอคู่กับใครเหรอพัด” คนตัวสูงเอ่ยถาม
“ก็...” คนตัวเล็กก้มหน้าเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนตัวสูงอย่างใจกล้า “คู่กับนายอ่ะ”
“คู่กับฉัน...ฉันเหรอ?” เวกัสชี้ไปที่ตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ
“อือ คู่กับนาย”
“...ฮะฮะ...ฮ่าๆๆๆ” อยู่ดีๆเวกัสก็หัวเราะร้ายออกมา ทำเอาคนตัวเล็กไม่พอใจสุดๆ เขายักคิ้วหลิ่วตาให้พัดชาอย่างกวนๆก่อนที่จะโดนมือเล็กฟาดเข้าที่หน้าอย่างจัง
เวกัสลูบแก้มแดงๆของตัวเองป้อย...ป้อย พัดชาที่ยืนนิ่งก็ส่งแผนที่ให้คนตรงหน้า
“ให้ฉันนำทางสินะ ไว้ใจเหรอ?” เวกัสถือแผนที่ที่รับจากพัดชาไว้กับตัวเองแล้วคลี่ยิ้มออกมาอย่างน่าหมั่นเขี้ยว
“ถ้างั้นฉันนำทางเองก็ได้ เอามา!” แต่แผนที่ก็โดนคนตัวเล็กแย่งไปจนได้
“ทำเป็นเข้ม ถ้าอยู่ดีๆมีผีโผล่มาไม่รู้ด้วยนะ”
เท่านั้น...พัดชาก็ก้าวขาไม่ออกเลย เธอกำแผนที่แน่นจนมันเริ่มจะยับยู่ยี่ เวกัสเห็นว่าคนตัวเล็กกลัวก็ชักจะสนุกเลยพูดชวนให้ขนหัวลุก กุเรื่องขึ้นเองเป็นเรื่องเป็นราว
“ฉันไปหาประวัติสุสานที่เราจะไปมาแล้วนะ มันทั้งน่าขนลุกและน่าสยดสยอง เคยมีสัปเหร่อที่ทำงานในนั้นถูกผีเข้าฝังตัวเองทั้งเป็น”
บรู้ววว~
คนตัวเล็กค่อยๆถอยหลังทีละก้าว ทีละก้าว อย่างกลัวๆ
“ยังไม่จบนะ เคยมีผีเปรต ผีตายโหงอยู่ในนั้นด้วย นั่น! พัดชา ฉันเห็นอะไรไม่รู้อยู่ตรงหน้าเธอ!!”
เท่านั้น คนตัวเล็กก็รีบหมุนตัวหลับหูหลับตาวิ่งมาชนเวกัสจนร่างสูงเซถไลไปข้างหลังเล็กน้อย และเธอพยายามจะวิ่งหนีต่อ สติและขวัญทั้งสามสิบสองของเธอหนีเตลิดเปิดเปิงเพราะความกลัว
“กรี๊ดดด ฉันชนกับอะไรก็ไม่รู้อ่ะ! ทำไมฉันไปไหนไม่ได้ ออกไปนะ ฉันกลัว! เวกัส นายอยู่ไหนช่วยฉันด้วย!!!” ชายหนุ่มที่ยืนนิ่งก้มมองเด็กสาวที่ขวัญหายกระเจิดกระเจิง อย่างไม่น่าเชื่อ...
“เวกัส นายอย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวสิ!!! ฉันกลัวฮือ...ฉันกลัวนะ มันมืดไปหมดเลย...” เด็กสาวยังคงหัวเสียหยดน้ำใสๆไหลออกมาเพราะความกลัว
‘ถึงแม้เธอจะไม่อยากเห็นหน้าฉัน แต่ฉันก็ถูกเธอเรียกคนแรกเมื่อเกิดเรื่องร้ายขึ้น’
“ขอบคุณนะ...” เวกัสลูบหัวพัดชาเบาๆพลางฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ คืนนี้คงเป็นคืนที่สนุกที่สุดสำหรับเขาและเธอ
เพราะเราสองคนจะจับมือกันไปจนสุดหนทาง...
หูยยยย จบไปอีกบทแล้วค่า โล่งมาก! หลังจากที่หายไปหลายอาทิตย์ ก็แต่งจบสักที วันี้สอบมา ชิวมากอ่ะ5555 อารมณ์ดีเลยมาอัพนิยายให้
รู้สึกว่าเรื่องมันจะดำเนินไปไม่ค่อยดีเท่าไหร่(มั้ง) ไรท์ไม่ถนัดรื่องราวแบบนี้เล้ยยย ไม่น่าเขียนแบบนี้แต่แรก5555 เอาไว้เค้าจะพัฒนาน้า รู้สึกช่วงนี้คลังคำจะหายไปจากหัวเลยแฮะ คิดอะไรไม่ออก ต้องคอยเปิดGoogle ดูตลอดเลยTT แต่งไปหนักใจไป ต้องไปหาแรงบันดาลใจก่อนอิอิ จะว่าไงดีนะ ไอ้เรามันก็ไม่เคยมีคนพิเศษกับเขาไงฮิ้ววว~~ เวลาเขียนนิยายอะไรต้องพึ่งหนัง ซีรีย์ นิยาย และไอดอลเสมอ (อันหลังนี้เกิดจากการมโนไปเองละ55555)
มุมมองของเวกัสเป็นความลับอ่า...อิอิ เอาไว้ถึงเวลาจะรู้เลย คือเรื่องนี้ สลับซับซ้อนมาก หลังจากที่ได้วางพล็อตเรื่อง ทำเอาไรท์เขียนไม่ออกเลยจริงๆ55555 ป.ล. ขอบคุณความเห็นของพี่ปุกนะคะที่บอกคำผิด แหม ไรท์ตาลายรึว่ายังไง อ่านทวนอีกรอบก่อนจะลงแล้วยังมีผิดอีก แฮ่ๆ ขอบคุณจริงๆนะคะ ไม่อย่างนั้นขายหน้าแน่ พิมพ์ผิด พิมพ์ตกหล่น ขำตัวเอง555555555555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แหม่ๆ บรรยากาศเป็นใจมากเลย (ประชด) ในป่าช้า สุสสานอย่างงี้ยังจะสวีทออก 5555