ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ทำไมฉันต้องไปเรียนที่สถาบันทีฟด้วย(100%)
ซีกโลกทางตะวันออก ประเทศสาธารณะเอบริท เมืองหลวงนาลาส มีเด็กชายวัยประมาณ 15ปี อาศัยอยู่เด็กคนนั้นมีชื่อว่า เวส คราว ซึ่งอาศัยอยู่กับแม่เพียงสองคนแม่ของผมชื่อว่า เวส รีเวต แม่ของเขาอายุประมาณ37 ปี แม่ของเขาเป็นสาวที่สวยจนถ้าคุณไม่อายุจริงๆของเธอคุณจะต้องคิดว่าเธอเป็นสาวสวยวัย24เป็นแน่แท้ คงเป็นเพราะใบหน้าอันเรียวงาม ผมสีน้ำตาลอมแดง นัยตาสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งก็ไม่แปลกที่ คราว ลูกของเขาจะหล่อขนาดทำให้ผู้หญิงบางคนที่เป็นโรคหัวใจเกิดอาการหัวใจวายขึ้นมาได้ทันที่ คราวมีผมสีดำเข็มตรงปลายผมสีออกจะเป็นสีน้ำเข็มผมของเขายาวจนประบ่า นัยตาสีเทาบริสุทธิ์และสีผิวที่ขาวทำให้เขาดูหล่อมาก เขาเป็นคนที่ร่าเริง กวนประสาท และที่สำคัญเขาทำอาหารเก่งมากจนน่าเหลือเชื่อ
"คราว ตื่นได้แล้วจะนอนไปถึงเมื่อไหล ถ้ายังไม่ตื่นแม่จะให้ลูกทำความสะอาดบ้านทุกอย่างแทนแม่"หลังจากที่คุณ รีเวต พูดเสร็จ
พรวด!!!
"คราบ..... ตื่นแล้วครับแม่ ผมรู้แล้วว่าหลังจากตื่นให้ไปอาบน้ำ ลงมากินข้าว แล้วรอแขกที่จะมา"หลังจากคราวพูดเสร็จ แม่ที่กำลังฟังอยู่ด้านล่างก็อดยิ้มไม่ได้เพราะความรู้งานของลูกชาย
ตึง ตึง ตึง
"คราว แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าวิ่งลงบันไดถ้าเกิดล้มขึ้นมาแม่จะไม่ช่วยเราจริงๆน่ะ!"คุณแม่ที่ตอนนี้ดุเพราะกำลังเป็นห่วงลูกชายสุดที่รักขณะที่ตนเงนั้งอยู่บนโต๊ะอาหาร
"ขอโทษคราบ..."เจ้าตัวพูดด้วยความรู้สึกที่แบบว่าผมไม่ผิดน่ะบันไดต่างหากที่วิงแค่นี้แล้วเสียงดัง
"มากินข้าวได้แล้ว วันนี้แม่ทำสปาเก็ตตี้ที่ลูกชอบด้วยน่ะ"คนเป็นแม่พูดด้วยในขณะที่ชำเลืองไปเห็นรอยยิ้มของเจ้าลูกชายตัวแสบ
ก๊อกๆ ก๊อกๆ ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังมาจากประตูหน้าทางเข้าบ้าน
หลังจากได้ยินเสียงผู้เป็นแม่ก็ลุกจากโต๊ะอาหารและเดินตรงไปที่ประตูด้วยสีหน้าสงสัยว่าจะเป็นแขกที่บอกจะมาวันนี้รึเปล่า
"คือว่านั่นใครค่ะ?"เสียงของคุณรีเวตดีงขึ้น
"คือดิฉันที่เป็นคนของสถาบันทีฟที่แจ้งมาเมื่ออาทิตย์ก่อนนะค่ะ"อีกเสียงหนึ่งที่อยู่นอกบ้านดังผ่านตูเข้ามาด้วยน้ำเสียงของสาวสวยวัย20ต้นๆดังขึ้นมา
หลังจากผู้เป็นแม่ได้ยินว่าสถาบัน'ทีฟ'ก็เปิดประตูออกให้พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงสดใส
"ฉันเป็นแม่ของคราวชื่อว่า เวส รีเวต ตอนนี้พวกเรากำลังทานอาหารกันอยู่ถ้าไม่รังเกียจละก็ มาทานกับพวกเราก่อนแล้วค่อยคุยธุระกันดีกว่า"ซึ่งคำพูดนั้นผู้หญิงวัยยี่สิบต้นๆก็ดูเหมื่อนว่าจะไม่ประติเสธ
"งั้น ขอรบกวนด้วยค่ะ"หลังจากคำพูดนั้นผู้หญิงที่คุยกันหน้าประตูก็ค่อยๆเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร พร้อมกับสีหน้าของคราวที่เหมื่อนจะถามออกไปว่า'แม่ครับ ผู้หญิงคนนี้ใคร?'แต่พูดออกมาไม่ได้จนต้องเก็บเอาไว้ในใจ
"ดิฉันเป็นอาจารย์ของสถาบันทีฟ ชื่ออารีน่า มาเรีย มาที่นี่เพื่อจะทาบทามเวส คราวเข้าไปเป็นนักเรียนของเราค่ะ"ซึ่งคำพูดของอาจารย์อารีน่านั่นทำให้คราวไม่รู้ว่าจะดึีใจหรือเสียใจดี
"ทำไมถึงอยากให้คราวไปเป็นนักเรียนของสถาบันค่ะ?"ผู้เป็นแม่ของคราวถามอาจารย์ของทางสถาบันด้วยท่าทีที่สงสัยอย่างที่สุด
"เออ... คือ"อาจารย์อารีน่าลังเลว่าจะตอบพวกเขาไปโดยตรงดีรึเปล่า แต่ในท่สุดเขาก็ต้องยอมตอบเพราะได้เห็นสีหน้าจริงจังจากสองแม่ลูกคู่นี้
"ก็ได้ค่ะ บ่ิอน้ำศักดิ์สิทธิ์เวฟิลได้ปรากฏภาพของเวส คราว ซึ่งทางสถาบันต้องการหาคำตอบว่าทำไมเวฟิลถึงได้แสดงรูปของเวส คราวออกมา"สิ้นประโยคนั้นทำให้คราวึงกับชงักไปครู่หนึ่ง
ื้"แต่ถ้าผมบอกว่าจะไม่ไปที่สถาบันละครับ"คำพูดนั้นเองก็ทำให้อาจารย์เองชงักไปเหมื่อนกัน
"คิดให้ดีก่อนน่ะค่ะ ถึงที่สถาบันทาบทามคุณไปเพื่อที่จะหาคำตอบ และเขาก็จะให้คุณได้เรียนจนจบที่สถาบันและรับประกันได้ว่าอนาคตของคนที่จบจากสถาบันทุกคนมีอนาคตที่ดีกันทุกคนน่ะค่ะ พร้อมเรายังออกค้าใช้จ่ายทุกอย่างให้กับคุณ ส่วนเรื่องที่พักคุณสามารถเลือกได้เองว่าจะพักทีใหนทางสถาบันจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้คุณเอง"ซึ่งประโยคนั้นเองทำให้ผู้เป็นแม่พอใจไม่ใช่น้อย
"แต่ว่า ถ้าผมไปแม่ก็ต้องอยู่คนเดียว"พอคราวพูดจบประโยคก็ทำให้เวส รีเวต อดยิ้มออกมาไม่ได้
"คุณอารีน่า มาเรียค่ะ เรื่องนี้ขอให้พวกเราสองคนได้ปรึกษากันก่อนน่ะค่ะ"สิ้นประโยคอารีน่า มาเรีย ก็พยักหน้าและลุกออกจากเก้าอี้
"ฉันจะมารับคำตอบจากพวกคุณในวันพรุ่งนี้ แต่ต้องตัดสินใจให้ได้ก่อนบ่ายสองของวันพรุ่งนี้เพราะเรือที่จะออกจากเอบริทไปเวเนเซียจะออกตอนบ่ายสามน่ะค่ะ"สิ้นประโยคอาจารย์อารีน่าก็เดินผ่านประตูที่ออกไป
"คราวแม่อยากให้คราวไปเรียนต่อที่นั่นน่ะ"รีเวตผู้ที่เลี้ยงดูคราวมาตั้งแต่เด็กพูดออกไปด้วยความคิดที่จะได้เห็นลูกของตนมีอนาคตที่สดใส แต่ในขณะเดียวกันคราวซึ่งกำลังเป็นห่วงที่ต้องให้แม่ของตนอยู่ตามลำพัง
"แม่ไม่เป็นอะไรหรอก ลูกก็รู้จักแม่ดีนี่จร๊ะ"แม่พูดเสียงใสพร้อมรอยยิ้มที่คราวเห็นแล้วต้องยอม
"ผมจะไปก็ได้ครับที่สถาบันทีฟอะไรนั่นน่ะ"ถึงคราวจะพูดออกไปอย่างงั้นแต่ในใจกับคิดเป็นห่วงผู้เป็นมารดาอย่างที่สุด แต่ก็ต้องยอมเพราะรอยยิ้มที่มาจากความหวังดีในจิตใจของผู้ป็นมารดาจึงทำให้เขาต้องยอมทำตามความหวังดีของมารดาอย่างเลี่ยงไม่ได้
"งั้นลูกไปเตรียมของที่ของที่ต้องเอาไปได้แล้ว และอีกอย่างอย่าให้ใครรู้เรื่องที่ลูกเป็นมนุษย์น่ะจร๊ะ"คำพูดนั้นทำเอาคราวที่ที่กำลังเดินขึ้นบันไดเกือบตกลงมาหัวทิ้มซะแล้ว
จะให้อฐิบายก็คือ คราวเป็นมนุษย์ที่เหลืออยู่ไม่กี่คนบนโลกในตอนนี้ อีกอย่างคือคราวได้รับพลังจากอักขระที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เกิดคือดาวห้าแฉกทีี่อยู่บนฝ่ามือขวาของเขาซึ่งเป็นพลังที่มนุษย์บางคนจะได้รับ และแม่ของเขาได้มอบกางเขนแห่งความมืดให้กับเขาไปตั้งแต่เด็กจนตอนนี้เขาสามรถใช้พลังทุกอย่างได้ชำนาญ นอกเหนือจากนั้นเขาถนัดการใช้ดาบ การต่อสู้ระยะประชิด ปืน ส่วนแม่ของเขาเคยอยู่กองกำลังเอบริทมาก่อนด้วย
ในวันถัดมาเวลาบ่ายสองตรง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าบ้านทำให้คุณรีเวตที่กำลังนั่งดูข่าวพยากรอากาศอยู่ลุกขึ้นแล้วเดินไปทางประตู
"ไม่ทราบว่านั่นใครค่ะ"เสียงของเธอดังขึ้นเพื่อต้องการคำตอบจากคนที่อยู่นอกประตู
"ฉันอารีน่า มาเรีย ฉันมาฟังคำตอบค่ะ"สิ้นเสียงของอาจารย์สาว ประตูก็ค่อยๆเปิดขึ้นพร้อมด้วยเสียงของคราวที่อยู่ๆก็มาอยู่ตรงประตูตอนไหนก็ไม่รู้เหมื่อนกัน
"ผมตกลงครับ ผมจะไปสถาบันทีฟ"คราวในตอนนี้ใส่เสื้อยืดสีขาว ทับด้วยแจ็คเก็ตสีดำ กางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำ ส่วมถุงมือสีดำสนิท สะพายกระเป๋าที่คาดว่าข้างในน่าจะมี ดาบคาตานะแบบคมด้านเดียว ปืน และเสื้อผ้า คำตอบตกลงนั้นทำให้อาจารย์สาวที่ยื่นอยู่เก็บรอยยิ้มไว้ไม่อยู่ซึ่งรอยยิ้มของอารีน่า มาเรียนั้นทำเอาให้คราวอยากพูดขึ้นมาว่า'น่ารักจัง'แต่ก็พูดออกมาไม่ได้อีกนั่นแหละ
"คราว ตื่นได้แล้วจะนอนไปถึงเมื่อไหล ถ้ายังไม่ตื่นแม่จะให้ลูกทำความสะอาดบ้านทุกอย่างแทนแม่"หลังจากที่คุณ รีเวต พูดเสร็จ
พรวด!!!
"คราบ..... ตื่นแล้วครับแม่ ผมรู้แล้วว่าหลังจากตื่นให้ไปอาบน้ำ ลงมากินข้าว แล้วรอแขกที่จะมา"หลังจากคราวพูดเสร็จ แม่ที่กำลังฟังอยู่ด้านล่างก็อดยิ้มไม่ได้เพราะความรู้งานของลูกชาย
ตึง ตึง ตึง
"คราว แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าวิ่งลงบันไดถ้าเกิดล้มขึ้นมาแม่จะไม่ช่วยเราจริงๆน่ะ!"คุณแม่ที่ตอนนี้ดุเพราะกำลังเป็นห่วงลูกชายสุดที่รักขณะที่ตนเงนั้งอยู่บนโต๊ะอาหาร
"ขอโทษคราบ..."เจ้าตัวพูดด้วยความรู้สึกที่แบบว่าผมไม่ผิดน่ะบันไดต่างหากที่วิงแค่นี้แล้วเสียงดัง
"มากินข้าวได้แล้ว วันนี้แม่ทำสปาเก็ตตี้ที่ลูกชอบด้วยน่ะ"คนเป็นแม่พูดด้วยในขณะที่ชำเลืองไปเห็นรอยยิ้มของเจ้าลูกชายตัวแสบ
ก๊อกๆ ก๊อกๆ ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังมาจากประตูหน้าทางเข้าบ้าน
หลังจากได้ยินเสียงผู้เป็นแม่ก็ลุกจากโต๊ะอาหารและเดินตรงไปที่ประตูด้วยสีหน้าสงสัยว่าจะเป็นแขกที่บอกจะมาวันนี้รึเปล่า
"คือว่านั่นใครค่ะ?"เสียงของคุณรีเวตดีงขึ้น
"คือดิฉันที่เป็นคนของสถาบันทีฟที่แจ้งมาเมื่ออาทิตย์ก่อนนะค่ะ"อีกเสียงหนึ่งที่อยู่นอกบ้านดังผ่านตูเข้ามาด้วยน้ำเสียงของสาวสวยวัย20ต้นๆดังขึ้นมา
หลังจากผู้เป็นแม่ได้ยินว่าสถาบัน'ทีฟ'ก็เปิดประตูออกให้พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงสดใส
"ฉันเป็นแม่ของคราวชื่อว่า เวส รีเวต ตอนนี้พวกเรากำลังทานอาหารกันอยู่ถ้าไม่รังเกียจละก็ มาทานกับพวกเราก่อนแล้วค่อยคุยธุระกันดีกว่า"ซึ่งคำพูดนั้นผู้หญิงวัยยี่สิบต้นๆก็ดูเหมื่อนว่าจะไม่ประติเสธ
"งั้น ขอรบกวนด้วยค่ะ"หลังจากคำพูดนั้นผู้หญิงที่คุยกันหน้าประตูก็ค่อยๆเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร พร้อมกับสีหน้าของคราวที่เหมื่อนจะถามออกไปว่า'แม่ครับ ผู้หญิงคนนี้ใคร?'แต่พูดออกมาไม่ได้จนต้องเก็บเอาไว้ในใจ
"ดิฉันเป็นอาจารย์ของสถาบันทีฟ ชื่ออารีน่า มาเรีย มาที่นี่เพื่อจะทาบทามเวส คราวเข้าไปเป็นนักเรียนของเราค่ะ"ซึ่งคำพูดของอาจารย์อารีน่านั่นทำให้คราวไม่รู้ว่าจะดึีใจหรือเสียใจดี
"ทำไมถึงอยากให้คราวไปเป็นนักเรียนของสถาบันค่ะ?"ผู้เป็นแม่ของคราวถามอาจารย์ของทางสถาบันด้วยท่าทีที่สงสัยอย่างที่สุด
"เออ... คือ"อาจารย์อารีน่าลังเลว่าจะตอบพวกเขาไปโดยตรงดีรึเปล่า แต่ในท่สุดเขาก็ต้องยอมตอบเพราะได้เห็นสีหน้าจริงจังจากสองแม่ลูกคู่นี้
"ก็ได้ค่ะ บ่ิอน้ำศักดิ์สิทธิ์เวฟิลได้ปรากฏภาพของเวส คราว ซึ่งทางสถาบันต้องการหาคำตอบว่าทำไมเวฟิลถึงได้แสดงรูปของเวส คราวออกมา"สิ้นประโยคนั้นทำให้คราวึงกับชงักไปครู่หนึ่ง
ื้"แต่ถ้าผมบอกว่าจะไม่ไปที่สถาบันละครับ"คำพูดนั้นเองก็ทำให้อาจารย์เองชงักไปเหมื่อนกัน
"คิดให้ดีก่อนน่ะค่ะ ถึงที่สถาบันทาบทามคุณไปเพื่อที่จะหาคำตอบ และเขาก็จะให้คุณได้เรียนจนจบที่สถาบันและรับประกันได้ว่าอนาคตของคนที่จบจากสถาบันทุกคนมีอนาคตที่ดีกันทุกคนน่ะค่ะ พร้อมเรายังออกค้าใช้จ่ายทุกอย่างให้กับคุณ ส่วนเรื่องที่พักคุณสามารถเลือกได้เองว่าจะพักทีใหนทางสถาบันจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้คุณเอง"ซึ่งประโยคนั้นเองทำให้ผู้เป็นแม่พอใจไม่ใช่น้อย
"แต่ว่า ถ้าผมไปแม่ก็ต้องอยู่คนเดียว"พอคราวพูดจบประโยคก็ทำให้เวส รีเวต อดยิ้มออกมาไม่ได้
"คุณอารีน่า มาเรียค่ะ เรื่องนี้ขอให้พวกเราสองคนได้ปรึกษากันก่อนน่ะค่ะ"สิ้นประโยคอารีน่า มาเรีย ก็พยักหน้าและลุกออกจากเก้าอี้
"ฉันจะมารับคำตอบจากพวกคุณในวันพรุ่งนี้ แต่ต้องตัดสินใจให้ได้ก่อนบ่ายสองของวันพรุ่งนี้เพราะเรือที่จะออกจากเอบริทไปเวเนเซียจะออกตอนบ่ายสามน่ะค่ะ"สิ้นประโยคอาจารย์อารีน่าก็เดินผ่านประตูที่ออกไป
"คราวแม่อยากให้คราวไปเรียนต่อที่นั่นน่ะ"รีเวตผู้ที่เลี้ยงดูคราวมาตั้งแต่เด็กพูดออกไปด้วยความคิดที่จะได้เห็นลูกของตนมีอนาคตที่สดใส แต่ในขณะเดียวกันคราวซึ่งกำลังเป็นห่วงที่ต้องให้แม่ของตนอยู่ตามลำพัง
"แม่ไม่เป็นอะไรหรอก ลูกก็รู้จักแม่ดีนี่จร๊ะ"แม่พูดเสียงใสพร้อมรอยยิ้มที่คราวเห็นแล้วต้องยอม
"ผมจะไปก็ได้ครับที่สถาบันทีฟอะไรนั่นน่ะ"ถึงคราวจะพูดออกไปอย่างงั้นแต่ในใจกับคิดเป็นห่วงผู้เป็นมารดาอย่างที่สุด แต่ก็ต้องยอมเพราะรอยยิ้มที่มาจากความหวังดีในจิตใจของผู้ป็นมารดาจึงทำให้เขาต้องยอมทำตามความหวังดีของมารดาอย่างเลี่ยงไม่ได้
"งั้นลูกไปเตรียมของที่ของที่ต้องเอาไปได้แล้ว และอีกอย่างอย่าให้ใครรู้เรื่องที่ลูกเป็นมนุษย์น่ะจร๊ะ"คำพูดนั้นทำเอาคราวที่ที่กำลังเดินขึ้นบันไดเกือบตกลงมาหัวทิ้มซะแล้ว
จะให้อฐิบายก็คือ คราวเป็นมนุษย์ที่เหลืออยู่ไม่กี่คนบนโลกในตอนนี้ อีกอย่างคือคราวได้รับพลังจากอักขระที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เกิดคือดาวห้าแฉกทีี่อยู่บนฝ่ามือขวาของเขาซึ่งเป็นพลังที่มนุษย์บางคนจะได้รับ และแม่ของเขาได้มอบกางเขนแห่งความมืดให้กับเขาไปตั้งแต่เด็กจนตอนนี้เขาสามรถใช้พลังทุกอย่างได้ชำนาญ นอกเหนือจากนั้นเขาถนัดการใช้ดาบ การต่อสู้ระยะประชิด ปืน ส่วนแม่ของเขาเคยอยู่กองกำลังเอบริทมาก่อนด้วย
ในวันถัดมาเวลาบ่ายสองตรง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าบ้านทำให้คุณรีเวตที่กำลังนั่งดูข่าวพยากรอากาศอยู่ลุกขึ้นแล้วเดินไปทางประตู
"ไม่ทราบว่านั่นใครค่ะ"เสียงของเธอดังขึ้นเพื่อต้องการคำตอบจากคนที่อยู่นอกประตู
"ฉันอารีน่า มาเรีย ฉันมาฟังคำตอบค่ะ"สิ้นเสียงของอาจารย์สาว ประตูก็ค่อยๆเปิดขึ้นพร้อมด้วยเสียงของคราวที่อยู่ๆก็มาอยู่ตรงประตูตอนไหนก็ไม่รู้เหมื่อนกัน
"ผมตกลงครับ ผมจะไปสถาบันทีฟ"คราวในตอนนี้ใส่เสื้อยืดสีขาว ทับด้วยแจ็คเก็ตสีดำ กางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำ ส่วมถุงมือสีดำสนิท สะพายกระเป๋าที่คาดว่าข้างในน่าจะมี ดาบคาตานะแบบคมด้านเดียว ปืน และเสื้อผ้า คำตอบตกลงนั้นทำให้อาจารย์สาวที่ยื่นอยู่เก็บรอยยิ้มไว้ไม่อยู่ซึ่งรอยยิ้มของอารีน่า มาเรียนั้นทำเอาให้คราวอยากพูดขึ้นมาว่า'น่ารักจัง'แต่ก็พูดออกมาไม่ได้อีกนั่นแหละ
จบตอนที่1
ตอนต่อไป ถึงเวเนเซีย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น