NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF :: HAEEUN :: BY LEE'DREAM

    ลำดับตอนที่ #26 : BEST THING - [ 1/2 ]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.41K
      8
      30 ธ.ค. 60




    คำเตือน
    1.อาจจะมีคำผิดนะคะ
    2. ฮยอกแจเป็นผู้หญิง
    3.มันมาจากโดจินญี่ปุ่น เพราะงั้นมันจะมีกลิ่นไอญี่ปุ่น แต่เพื่อความสมูทเลยเปลี่ยนชื่อสถานที่เป็นเกาหลีแทน ดังนั้น ไม่ต้องงงว่ามันจะเกาหลีหรือญี่ปุ่นนะคะ  












                เขาเป็นลูกชายคนเล็กของบ้าน

     

                อ่อนแอ ขี้โรค และโมโหร้าย พ่อแม่ไม่ได้คาดหวังอะไรในตัวเขานัก เพราะว่ามีพี่ชายที่เป็นความหวังของตระกูลไปแล้ว แต่พออายุเริ่มย่างเข้า 35 แต่ยังดูไม่มั่นคงในชีวิตอยู่พวกผู้ใหญ่เลยช่วยเข้ามาจัดการชีวิต

     

                เด็กสาวที่ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย หล่อนสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ม.ต้น เที่ยวทำงานรับจ้างเล็กน้อยอยู่ในหมู่บ้าน ทุกคนเอ็นดูหล่อน รวมถึงพ่อแม่ของเขา ทันทีที่หล่อนสอบไล่ม.ปลายปีสุดท้ายเสร็จแม่สื่อก็เข้ามาทาบทาม หล่อนไม่มีที่ไป ไม่มีเงิน และกำลังสับสนว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับชีวิต แม้จะไม่ใช่ความรักที่หวานล้ำแต่หล่อนก็คิดในแง่ดีว่าแต่งงานกันไปก็คงรักเขาได้ไม่ยากเย็น

     

                สิบปีที่หล่อนใช้ชีวิตคู่กับเขา จากเด็กสาวไร้เดียงสาผลิบานกลายเป็นดอกไม้งามที่บานสะพรั่ง ความงามของหล่อนส่งกลิ่นหอมหวนไปทั่วหมู่บ้าน ผู้คนล่ำลือชื่อหล่อนในฐานะคุณนายังสาวที่แต่งงานกับชายมีอายุ

     

                ชีวิตคู่เรียบง่าย แม้ไม่ได้สุขทุกขณะจิตแต่ก็ไม่ขมขื่น เขาให้เกียรติหล่อนในฐานะสามี หล่อนให้เกียรติเขาในฐานะภรรยา ทั้งคู่ต่างไม่เคยบกพร่องต่อกันอย่างปุถุชนทั่วไปที่ตั้งการแต่งงานเป็นสรณะของชีวิต ทว่าความเรียบง่ายนั้นไม่ได้อยู่ให้หล่อนชื่นชมนานนัก

     

                ย่างเข้าครบรอบปีที่ 11 ของการแต่งงานโรคร้ายก็พรากลมหายใจเขาไป

     

     

     

    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::

     

     

                เสียงรบกวนจากช่างซ่อมประตูทำให้บรรยากาศในออฟฟิสเช้านี้ไม่สงบอย่างที่เคย ทงเฮถอดแว่นตาวางไว้บนโต๊ะทำงานอย่างรำคาญใจ เขาไม่มีสมาธิเอาซะเลยในเช้าวันนี้ ยิ่งต้องมาทนฟังเสียงค้อนเคาะอยู่ไม่ห่างจากโต๊ะทำงานยิ่งคิดอะไรไม่ออก

     

                “ทงเฮ โทรศัพท์ถึงนาย” เพื่อนร่วมงานตะโกนตัดอากาศมาเรียกเขา ร่างสูงละสายตาจากวิวเมืองโซล เดินไปรับโทรศัพท์ที่โต๊ะรวมตรงหัวแผนก แอบนึกแปลกใจที่คนโทรหาเขาในเวลาแบบนี้ ลองนึกทบทวนว่ามีลูกค้าคนไหนให้ติดต่อก็คิดไม่ออกจนเมื่อยกโทรศัพท์แนบหู เสียงจากปลายสายก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร

     

                “ครับ... ทราบแล้วครับ ผมจะรีบไป” ชายหนุ่มตกใจกับข่าวที่ได้รับ แต่ไม่ได้รู้สึกเสียใจอย่างที่ควร เขาเข้าไปแจ้งหัวหน้าแผนกขออนุญาตลาด่วน ก่อนจะกลับไปเก็บของ จองตั๋วรถไปเที่ยวที่ไวที่สุดเพื่อกลับไปยังที่ๆเขาไม่ได้ไปเหยียบมาสองปีแล้ว

     

     

              ที่ๆเขาจากมา...

     

     

             

     

                เขาจำได้ว่าวันนั้นอากาศค่อนข้างชื้น กรมอุตุเตือนว่าอาจจะมีฝนตก แต่ตลอดสามชั่วโมงในรถไฟเขาไม่เห็นฝนสักเม็ด กระจกข้างที่นั่งเขาขึ้นฝ้า อากาศเริ่มเย็นมากขึ้นเรื่อยๆยิ่งรถไฟออกห่างจากโซลมากเท่าไหร่

     

     

                แหล่งชุมชนสองข้างทางรถไฟแปลเปลี่ยนเป็นทุ่งนาสีเขียว บ้านเรือนตั้งห่างกันมากขึ้น จนรถแล่นผ่านป่าทึบอยู่หลายช่วง

     

     

                ยิ่งใกล้ถึงที่หมายทงเฮก็ยิ่งรู้สึกหนาว ความทรงจำเมื่อสองปีก่อนแล่นผ่านเข้ามาในหัวราวกับภาพฝัน

     

     

                เหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เขาเลือกจะจากไป

     

     

                ......

     

     

     

              แกทำอะไร...!’ เด็กหนุ่มตื่นตะลึงกับเสียงทัก เขาก้าวถอยแต่ถูกผู้ชายคนนั้นกระชากแขนไว้

     

     

              ‘นี่แก..’ เขามองเลยร่างทงเฮไป คงเห็นแล้วว่าทงเฮกำลังทำอะไรอยู่ เด็กหนุ่มมือสั่น รู้สึกกลัวจับใจ

     

     

              ‘ผม..ผม โอ้ย!’ หมัดหนักๆซัดลงจนหน้าเด็กหนุ่มสะบัด ทงเฮล้มลงเขาตามมาซ้ำ

     

     

              ‘ไอ้ชาติชั่ว โรคจิต ฉันจะบอกพ่อแก’ เขาขยำคอเสื้อทงเฮไว้จนหายใจไม่ออก นาทีนั้นทงเฮกลัวมาก เขายกมือพนมไหว้

     

     

              อย่าบอกพ่อ ได้โปรด ผมจะไม่ทำอีก’ ทงเฮอ้อนวอน ผมจะไม่มาให้เห็นหน้าอีก’ เขาร้องไห้ตอนเอ่ยคำนั้น

     

     

              ไสหัวไปให้พ้น ไม่งั้นฉันจะเล่นงานแกให้ตาย’  เขาประกาศ ทงเฮกุลีกุจอลุกขึ้นวิ่งออกมา เขาสั่นไปทั้งตัวอย่างตื่นตระหนก เขาหวาดหวั่นและเจ็บปวด

     

              ร่างสูงหยุดนั่งอยู่ที่ข้างพุ่มไม้ข้างรั้วบ้านเขาคนนั้น

     

     

              “มีอะไรกันหรอคะ?” เสียงหวานๆนั่นเอ่ยถามสามี ทงเฮมองร่างเพรียวนั่นที่ใส่แค่ผ้าเช็ดตัวเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรแต่ดูเหมือนนั่นจะทำให้หล่อนยอมกลับเข้าไปอาบน้ำต่อ

     

     

              สร้อยคอเส้นหนึ่งถูกล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกง

     

     

              อีกสามวันเขาจะจบมหาวิทยาลัยแล้ว

     

     

              เขาแค่ต้องการจะมอบของขวัญเท่านั้น... เท่านั้นเอง

     

     

     

     

     

    ::::::::::::::::::::::::::::

     

     

     

     

                พิธีศพถูกจัดได้อย่างสมบูรณ์แบบ สมฐานะ แขกเหรื่อส่วนใหญ่เป็นคนในหมู่บ้านและญาติๆ พอเริ่มล่วงเข้าบ่ายแก่ๆผู้มาเยือนก็เริ่มทยอยกลับออกไปจากบ้านที่ประดับไปด้วยสิ่งของไว้ทุกข์

     

     

     

                ฮยอกแจ ยืนส่งแขกอยู่ที่หน้าบ้าน แขกส่วนใหญ่เข้าไปจับมือหล่อน เอ่ยถ้อยคำปลอบประโลมและอวยพรถึงอนาคตที่คิดว่าหล่อนคงจะมีโอกาสใหม่ๆในชีวิตเพราะยังสาวและยังสวยมาก

     

     

                ฮยอกแจไม่ได้อยากได้ยินคำพูดทำนองนั้น สามีของหล่อนเพิ่งจะกลายเป็นเถ้าธุลีได้ยังไม่ทันข้ามวันคนพวกนี้ก็จะพูดเรื่องจะแนะนำผู้ชายคนอื่นให้หล่อนรู้จัก ช่างโหดร้ายกันเสียจริง แต่ถึงจะคิดแบบนั้นฮยอกแจก็ได้แต่คลี่ยิ้มบางๆเอ่ยปากขอบคุณคนพวกนี้ที่มาร่วมงานศพ

     

     

                หญิงสาวยิ้ม ทั้งที่ดวงตาไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย หล่อนกำลังรู้สึกว่าตัวเองกลับมาตัวคนเดียวอีกครั้ง ไม่เหลือใครให้ยึดเหนี่ยว หัวใจของหล่อนหนาวเหน็บและสับสน หล่อนร้องไห้ตลอดหลายคืนที่ผ่านมาถึงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าเขาจะทิ้งหล่อนไปในสักวันเพราะอาการของเขาย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ทว่าเมื่อเวลานั้นมาถึงฮยอกแจกลับเศร้าโศกเกินกว่าจะอดกลั้น

     

     

     

     

                แขกกลุ่มสุดท้ายกำลังจะกลับ บ้านที่แน่นขนัดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนบัดนี้เงียบเหงา

     

     

                หล่อนยืนอยู่ตรงนั้น เฝ้ารอส่งพวกเขาด้วยหัวใจที่ล้ากำลังเต็มแก่

     

     

                กระทั่งสายตาปะทะเข้ากับร่างของใครอีกคนที่หล่อนไม่ได้เห็นมานาน

     

     

     

     

                “ทงเฮ!” หญิงสาวร้องเรียก หล่อนวิ่งเหยาะๆเข้าไปหาชายหนุ่มร่างสูง สุดสูททำงานในโซลนั่นทำให้หลานชายในอดีตของฮยอกแจดูแปลกตาไปมาก หล่อนหยุดก่อนที่จะถึงตัวเขา ยืนพิศใบหน้าอ่อนวัยของหลานอย่างปิติที่ได้พบ

     

     

     

                “ดูดีขึ้นเยอะเลย” หล่อนเอ่ยถึงชายหนุ่มแต่กลับเริ่มร้องไห้

     

     

                น้ำตาแห่งความอ่อนแอที่พยายามกลั้นมาตลอดทั้งวันหลั่งริน ทงเฮวางกระเป๋าที่ถืออยู่ ดึงอาสาวเข้าไปกอดเอาไว้ปลอบประโลม หล่อนสะอื้นฮักอย่างน่าสงสาร น้ำตาของร่างบางไหลลงราวกับว่ามันจะไม่สิ้นสุด

     

     

     

     

              "อาเหลือแค่ตัวคนเดียวอีกแล้วทงเฮ" เสียงเศร้าเอ่ยขึ้นเมื่อแขกที่มาร่วมงานกลับไปจนหมดแล้ว เหลือแค่หลานชายกับอาสะใภ้ที่เพิ่งเป็นหม้ายมาดๆ

     

     

    ควันธูปยังคงลอยฟุ้งอยู่ในห้องโถงเช่นเดียวกับรูปคนตายที่ตั้งอยู่บนแท่นบูชา

     

     

              "เดี๋ยวทุกอย่างก็คงดีขึ้นครับ... อาคงได้เจอคนดีๆ" การเป็นหม้ายด้วยวัยเพียงเท่านี้มันทำให้ฮยอกแจต้องลำบากแน่ๆ ยิ่งไร้ญาติขาดมิตรแล้วต้องมาเสียหลักไร้ที่พึ่งเพราะสามีผู้เป็นญาติสนิทคนสุดท้ายมาด่วนจากไป

     

     

              "ใครมันจะอยากมาอยู่บ้านนอกกับคนเป็นหม้ายล่ะ" ฮยอกแจหัวเราะแห้งๆจัดชายชุดยาวเฟื้อยนั่นให้เข้าที่ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ปล่อยโฮใส่หลานอีกรอบ

     

     

                ถึงจะเรียกว่าหลานแต่ทงเฮอ่อนกว่าฮยอกแจแค่หกปีเท่านั้น ทั้งคู่เหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า ยิ่งสมัยที่ทงเฮยังเรียนอยู่พ่อของเขาที่เป็นพี่ชายคนโตของตระกูลยังพอจะมีเมตตาให้น้องชายคนเล็กอยู่บ้าง ทงเฮมักถูกใช้ให้เอาข้าวของมาให้บ้านนี้ประจำ ทำให้เขาได้มีเวลาพูดคุยกับฮยอกอจบ่อยๆ

     

     

     

                   ทงเฮพิศมองใบหน้าของอาสะใภ้อย่างถี่ถ้วน นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้พบกัน นานจนเขาเพิ่งจะค้นพบร่องรอยความเหนื่อยล้าบนใบหน้าสวยนั่น ทั้งที่แต่ก่อนฮยอกแจมีเพียงความสดใสให้ได้เห็นเท่านั้น

     

     

                หญิงสาวที่มองโลกในแง่ดี และมีรอยยิ้มที่สว่างไสว

     

     

     

              "อาจะย้ายออกจากที่นี่หรอ?" ชายหนุ่มใจหาย

     

     

              "อาไม่มีที่ไปหรอก แต่การจะทนอยู่ตัวคนเดียวที่นี่มันไม่ง่ายเลย ...มีแต่ความทรงจำกับเขาเต็มไปหมด" ฮยอกแจยิ้มจางให้หลานชาย กวาดสายตามองไปทั่วบ้านอย่างโรยแรง

     

     

              "ถ้าอย่างนั้น..." ทงเฮเลื่อนมือใหญ่ไปวางทับมือของอาสะใภ้อย่างแผ่วเบา ชายหนุ่มจ้องรอจนใบหน้าหวานล้ำหันกลับมาสบตาอย่างสงสัย

     

     

              "...ทงเฮ"

     

     

     

              "ผมจะสร้างความทรงจำใหม่ให้อาเอง" หัวใจของเขาสั่น ดวงตากลมใสนั่นมีแวววูบไหวอย่างสับสน ฮยอกแจชักมือกลับไปจับที่ชายผ้านุ้งเบาๆและหลบสายตาเขา

     

     

                “อา...” ร่างบางแต่งงานมาสิบปีแล้ว พอจะรู้ดีว่าสายตาแบบนี้ของชายหนุ่มหมายถึงสิ่งใด ในอกของหญิงสาวหวิวไหวอย่างบอกไม่ถูก หล่อนทิ้งสายตาลงอย่างไม่อาจจะสู้สบ

     

     

                “ได้โปรดยู่ที่นี่ต่อไปเถอะนะครับ” ชายหนุ่มเข้าไปใกล้ ตอนนี้บ้านทั้งหลังเหลือแค่เขากับอาสะใภ้ สามีหล่อนเพิ่งตายแต่ถึงจะยังไม่นานก็คือตายจากไปแล้ว ตัวของหล่อนไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของใครอีก

     

     

                “ทงเฮมันไม่ถูกต้อง” ฮยอกแจแตะที่อกเขาเพื่อจะห้าม แต่เด็กหนุ่มรั้งเอวคอดเข้าไปหาอย่างกระทันหัน ริมฝีปากเล็กถูกทาบทับอย่างทันท่วงที

     

                ชายหนุ่มไม่ปล่อยจังหวะให้อาสาวได้ตั้งตัว เขาเบียดจูบหล่อนอย่างช่ำชอง ชักนำความรู้สึกบางอย่างที่มีในกายสาวให้ลุกโพลนด้วยเรียวลิ้น ฮยอกอจพยายามดันร่างกำยำนั่นให้ออกห่าง แต่เมื่อยิ่งห้ามก็ยิ่งทำให้ทงเฮได้ใจ

     

     

                หลานชายผลักหล่อนให้นอนลงบนเสื่อ ทาบกายเข้ามาทับเอาไว้ไม่ให้หล่อนผละหนี ฮยอกร้องขอ อยากให้ทงเฮปล่อยหล่อน

     

     

                “แบบนี้...มันไม่...ถูก..นะ ทงเฮได้โปรด” น้ำตาของฮยอกแจร่วงเผาะ หล่อนไม่รู้ว่ามันไหลออหมาเพราะเหตุผลข้อไหน แต่นั่นทำให้หลานชายของหล่อนชะงัก

     

     

                มือใหญ่ทาบลงบนแก้มตอบ ผิวเนื้อเนียนๆที่ถูกแต่งแต้มประทินโฉมสำหรับร่วมงานพิธีศพ ทงเฮมองสบสายตาอ่อนไหวของคนใต้ร่าง เขาจูบซับที่หน้าผากชื้นอย่างอ่อนอิ่ง พรมจูบต่ำลงมาที่ปลายจมูก และสองปรางแก้มสีชมพูระเรื่อ

     

     

     

                “ผมรักอา” เสียงเข้มเอ่ยปากสารภาพ “รักมาตลอด”

     

     

     

     

                “ทงเฮ...”

     

     

                “ได้โปรด...” ชายหนุ่มแนบจูบลงบนริมฝีปากแดงฉ่ำ สอดมือลงแหวกด้านหน้าของชุดที่ฮนยอกแจสวมใส่ มือหยาบของชายหนุ่มแตะต้องที่ฐานปทุมถันทำเอาร่างบางสะท้านเฮือก หล่อนไม่ต้องมือชายมาเป็นปีแล้วตั้งแต่สามีทรุดป่วย การถูกคนอื่นรุกรานแบบนี้มันทำให้ฮยอกหมดแรงอย่างไม่อาจห้ามได้

     

     

                “ทงเฮ..” ดวงตาของฮยอกอจปรือปรอย หยาดน้ำใสๆเกาะบนแพขนตาจนดูน่าสงสาร ชายหนุ่มปลดสายมัดที่เอวคอด แบะเสื้อหนาๆออกเผยร่างกายสะอ้านที่กำลังสั่นเทิ้ม ทงเฮฉกชิมสองเนินนั่นอย่างคนกระหาย เขาตักตวงหยาบคายจนฮยอกต้องกัดฟันไม่ได้ตนกรีดร้องออกมา ความรุ่มร้อนแผ่ซ่านอยู่ใต้ผิวเนื้อ ยิ่งยามที่ถูกประโลมเล้าด้วยกายหนุ่มอย่างที่หญิงสาวไม่เคยได้สัมผัสมาชั่วชีวิต

     

     

                จิตสำนึกบอกให้ฮยอกแจหยุดยั้ง ทว่าร่างกายกลับตอบสนองทงเฮอย่างน่าอับอาย สะโพกมนส่ายสั่นเพราะความกระสันต์ มือหยาบสอดต่ำเข้าไปในผ้าลูกไม้ผืนบางตัวสุดท้าย ฮยอกโกยอากาศหายใจถี่ ยิ่งยามที่สิ่งแปลกปลอมสะกิดทักทายตามร่องรอยแยกที่สุดแสนน่าอาย

     

     

                ลิ้นทงเฮยังคงทำหน้าที่ มันเวียนวนลิ้มรสจากกายสาวไม่หยุด ในขณะที่นิ้วของชายหนุ่มเริ่มแสดงอำนาจของมันที่ทำให้อาสาวหลุดเสียงกรีดร้องออกมา หัวใจแม่หม้ายสาวเต้นราวกับกลองรบ ยิ่งยากจะกลั้นหายใจเมื่อแพนตี้ของหล่อนถูกหลานชายของสามีถอดทิ้งไป ทงเฮเลื่อนกายลงต่ำ แยกสองขาเรียวของฮยอกแจออกจากกัน ก่อนที่จะทำในสิ่งที่ฮยอกแจไม่เคยถูกใครกระทำเช่นนั้น

     

     

                “..ทงฮ...โอ้.. พระเจ้า...” มือเรียวขยำชายผ้านุ้งขอตนจนยับ ความรัญจวนใจจากลิ้นของหลานชายช่างน่าอับอาย แต่ยามนี้ฮยอดกลับรู้สึกหฤหรรษ์อย่างที่ไม่เคยรู้จักมากก่อน มือน้อยๆที่พยายามผลักใส กลับเผลอไผลจับกลุ่มผมของทงเฮกดใบหน้าหล่อเหลานั่นให้ปรนเปรอมากกว่าที่ทำอยู่

     

     

     

                “...ไม่...อา” ฮยอกแจถึงฟากฝั่งเพียงเพราะนิ้วกับลิ้นของหลานชาย หล่อนกลั้นเสียงกรี๊ดเอาไว้ทันตอนที่ร่างทั้งร่างกระตุกอย่างรุนแรง หล่อนรู้สึกราวกับจะขาดใจในขณะที่ทงเฮยิ้มร่าเมื่อเขาทำให้อาสาวสุขสมด้วยฝีมือตน

     

     

     

                “ร้องออกมาดังๆเลยครับ” เขาจูบที่แก้มนวลที่บัดนี้แดงกล่ำ ร่างบางหอบกระเส่าลืมตามองหลานชาย เข้าใจว่าทุกอย่างคงจบลงแล้วแต่ในวินาทีต่อมาหล่อนก็รู้ว่ามันแค่เริ่มต้น ทงเฮมอบแรงรักของตนให้ฮยอกแจในคราวเดียวจนร่างบางผวาสั่น มือเรียวจิกกอดเขาเกร็งไปทั้งร่างในขณะที่อารมณ์คุกรุ่นของทงเฮฝังตัวอยู่ในกายสาวที่เขาเฝ้ามองมาตลอดหลายปี

     

     

                เขาเฝ้าฝันเสมอมาว่าจะได้หยอกเย้า และรังแกฮยอกแจอย่างที่ทำอยู่ เขาจินตนาการเรื่องที่เกิดนี้นับครั้งไม่ถ้วนตลอดหลายปีที่เขาตกหลุมรักอาสาวของตนเอง เขาอยากจะชื่นชมทุกสัดส่วนของกายหล่อนให้สมกับที่ทำให้เขาหมกมุ่นอยู่กับหล่อนตลอดเวลา เขาอยากจะกระแทก อยากจะย้ำให้ฮยอกแจร่ำร้องจนไม่มีเสียงจะไปคุยกับใครหน้าไหนอีก

     

     

                อี ทงเฮขยับสร้างจังหวะรัก เริ่มต้นอย่างอ่อนโยนพร้อมจุมพิตล่อลวงที่ทำให้หญิงสาวยอมผ่อนคลายร่างกายที่เกร็ง ด้านในของฮยอกแจร้อนจนเขาไม่อยากจะชักช้าทว่าเขาไม่อยากจะให้มันเป็นครั้งสุดท้ายของค่ำคืนนี้ ความกระชับแน่นและการตอดรัดสิ่งแปลกปลอมถี่ยิบของร่างกายฮยอกแจทำให้รู้ว่าหล่อนอาจจะไม่ได้ถูกใช้งานในเรื่องนี้มากนัก แม้จะแต่งงานมาเป็นสิบปีแล้วก็ตาม

     

     

                ทงเฮเปลี่ยนจังหวะให้ไวขึ้น ฮยอกขยำจับข้อมือเขาที่ยันอยู่บนพื้นเสื่อ ความคับแน่นเสียดสีด้านในทำให้คนตัวเล็กซ่านอารมณ์ไปทั่วทั้งตัว แม้ไม่ได้โลดโผนด้านเกมส์กามแต่หล่อนเคยมีสามีมาก่อนและพอจะรู้ว่าจะต้องตอบรับเรื่องแบบนี้อย่างไร อารมณ์ของหญิงสาวไปไกลเกินกว่าจะยับยั้ง หล่อนตอบรับเรือนร่างของหลานชายอย่างตั้งใจ

     

     

                สองแรงยิ่งทำให้ความสุขสมทวีคูณ ร่างสูงขยับรั้งเอวบางให้เข้ามาชิด จับฮยอกแจลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่งเพื่อที่ทั้งคู่จะแลกจุมพิตกันได้ถนัด ฮยอกแจมัวเมาไปกับความกำยำและจังหวะรักของหลานชายเสียแล้ว หล่อนปล่อยตัวปล่อยอารมณ์ให้ทงเฮตักตวงอย่างเอาแต่ใจ

     

     

                แม่หม้ายสาวลืมสิ้นว่ากำลังโศกศัลย์ อาลัยสามีผู้ลาจาก ฮยอกแจลืมว่าโลกภายนอกกำลังหมุนไปในทิศทางใดยามเมื่อถูกหลานชายตอกสลักความปรารถนาเข้ามาไม่วายเว้น อาสาวลูบไปบนสันกรามชายหนุ่ม พรมจูบอย่าลุ่มหลงไปทั่วใบหน้าของหลานชายที่บัดนี้กำลังทำหน้าที่แทนสามีของหล่อน

     

     

                ร่างเพรียวถูกจับให้พลิกร่าง ทงเฮตามมาทาบทับจากด้านหลังก่อนที่จะดึงฮยอกไปนั่งตักในท่าที่ซ้อนกันอยู่ นั่นเองทำให้หญิงสาวตาโตตื่นตะลึง แท่นบูชาและโถใส่กระดูกของสามียังวางอยู่ตรงกลางบ้าน แต่ตอนนี้หล่อนกำลังถูกชายอื่นทำรักต่อหน้าแท่นบูชาทั้งๆที่ธูปยังเผาไม่หมดดอกด้วยซ้ำ

     

     

                “ไม่ทงเฮ...” หล่อนพยายามดิ้นหนี อับอายและรู้สึกผิด แต่ชายหนุ่มกลับยิ่งทรมานหล่อน เขาสอดแขนได้สองขาของหญิงสาว จับสองขาเพรียวให้ยิ่งเปิดโชว์ไปทางแท่นบูชา รูปของสามีหล่อนมองตรงมายังพวกเขา

     

     

                “คุณมีอารมณ์กว่าเดิมใช่ไหมละ” ชายหนุ่มกระซิบข้างหูหล่อน “ยิ่งเห็นว่าโดนผมเอาต่อหน้าเขาคุณยิ่งตอดผมแรงกว่าเดิมอีก” อี ทงเฮเอ่ยอย่างลามกและหยาบคาย ฮยอกแจพยายามหลับตาหนี หล่อนหนีไม่พ้น สู้แรงชายฉกรรจ์ไม่ไหวและไม่อยากยอมรับว่าที่ทงเฮพูดมามันจริงหรือไม่ แต่ยิ่งทงเฮส่งรักถี่รัวมากเท่าไหร่ฮยอกแจยิ่งต้องกลั้นหายใจ จิกเกร็งไปถึงปลายมือปลายเท้า พยายามที่จะหลับตาเพื่อไม่ให้มองเห็นภาพของสามีแต่ชายหนุ่มไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น เขาทรมานหล่อนด้วยความสุขสมที่หล่อนไม่เคยได้รับ

     

     

                ฮยอกแจย้ำคำขอโทษสามีเบาๆอยู่ในลำคอขณะที่ทงเฮขยับส่งจังหวะสุดท้ายเพื่อพาหล่อนไปยังฝั่งฝัน

     

     

                “...คุณค่ะ..ฉันขอ... พระเจ้า.ทงฮะ.อ๊า..”

     

     

     

                หล่อนเสร็จสมต่อหน้าแท่นบูชางานศพของสามี ไร้ยางอายและน่ารังเกียจ แต่ที่น่าอายกว่านั้นคือฮยอกแจยอมรับว่าหล่อนไม่เคยร่วมรักแล้วเสร็จสมได้รุนแรงขนาดนี้มาก่อน ทงเฮปล่อยให้อาสาวพักหายใจก่อนจะดึงหล่อนเข้ามาจูบซ้ำ

     

     

     

                “เธอ...รังแกฉัน” อาสาวไม่มองหน้าเขา ทงเฮบังคับจูบหล่อนจนพอใจ

     

     

     

                “ผมรักอา ผมอยากทำแบบนี้กับอามาตลอด อยากทำแบบนี้ยิ่งทำต่อหน้าเขายิ่งดี”

     

     

     

                “ทงเฮ!

     

     

     

                “อาเองก็เกลียดเขา ยอมรับเถอะฮยอกแจ” ชายหนุ่มไม่ยอมลดลา อาสะใภ้พยายามเบือนหน้าหนีแต่หลานชายไม่ยอมปล่อย

     

     

     

                “ปล่อยแล้วไปซะเถอะ” เสียงพร่าเอ่ยขอเขา ฮยอกอยากจะร้องไห้ออกมา

     

     

     

                “ผมจะไป” ทงเฮแค่นเสียง “แต่หลังจากที่ผมทำหน้าที่ผัวใหม่ของอาให้คุ้มก่อน แล้วหลังจากนี้ที่นี่จะมีแค่ความทรงจำของอากับผม” เขาว่าอย่างนั้น ฮยอกแจตกตะลึงแต่สายเกินกว่าจะแก้ไข

     

     

    ทงเฮอุ้มร่างบางขึ้นพาดบ่ามุ่งตรงไปยังเตียงนอนของหล่อนกับสามี และเริ่มต้นที่จะทำหน้าที่ของตนอีกครั้ง

     

     

     

     

     

                 



    #haeeunBT
    (1/2)
    เม้นกันสิกันสิ ไปหวีดในทวิตก็ได้เอ้า
    ถ้ามีคนรอจิมาอัพต่อ

    บอกก่อนว่าได้แรงบรรดาลใจมาจากโดจินเรื่องหนึ่ง 
    ผสมกับ AV (สายกามที่แท้จริง) 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×