NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF :: HAEEUN :: BY LEE'DREAM

    ลำดับตอนที่ #17 : SF { HAEEUN } THIS IS LOVE

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.43K
      15
      11 ต.ค. 60



    ทุกคนต้องเคยมีรักแรก

    แน่ล่ะ เพราะถ้าไม่มีรักแรกจะมีรักของปัจจุบัน รักในอนาคตได้ยังไง

    หรือบางคนก็มีรักแรกเป็นรักเดียว

     

    สำหรับทงเฮ ความรักเป็นเรื่องไร้สาระ

    ในเมื่อปัจจัยหลักในชีวิตคือ การซ้อมบอลแบบเอาเป็นเอาตาย เพื่อไม่ให้หลุดทุนเรียนต่อ แถมพ่วงด้วยรักษาเกรดไม่ให้ตกต่ำกว่า 2.5 ทั้งๆที่หัวทางวิชาการของเขาน่ะบัดซบยิ่งกว่าปลาทองชนขอบตู้

     

    จริงๆบ้านทงเฮไม่ได้จน แต่พวกนั้นเป็นข้อตกลงที่ตนจะไม่ต้องย้ายถิ่นฐานกลับมกโพตามครอบครัว การใช้ชีวิตคนเดียวในต่างเมืองนอกจากเงินทอง ผู้ใหญ่ก็ต้องการหลักยึดอะไรซักอย่างที่จะรับประกันว่าเด็กจะไม่เถลไถล


    และหลักยึดของทงเฮก็คือ ภาระรับผิดชอบตัวเองอย่างเรื่องเรียนและการใช้ทุนนักกีฬา

     

    กัปตันทีมฟุตบอลที่ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ม.3 จนปัจจุบัน พาทีมคว้าแชมป์เขต รองแชมป์จังหวัด แถมยังมีแมวมองจากลีกในเกาหลีมาทาบทามให้ไปคัดตัวอยู่เรื่อยๆ

     

    ชีวิตม.ปลายปีสุดท้ายของทงเฮเป็นอะไรที่หลายคนอิจฉา เด่นดัง สาวในโรงเรียนกรี๊ดตรึม นอกโรงเรียนมีมาปลื้มก็มาก

     

    แต่ทงเฮกลับ โสด !

     

    โสดมาทั้งชีวิต! ทั้งที่ หล่อ รวย เก่ง ขนาดนี้ เวลาเพื่อนๆถามทงเฮชอบบอกคนอื่นว่า 'สำหรับเขาความรักมันไร้สาระ' เป็นคำตอบที่ปิดการสนทนาประเด็นนั้นในคราวเดียว แต่จริงๆแล้วทงเฮรู้ดีว่ามันเคยเกิดขึ้นกับเขา

     

     

    ม. 1 เขาเข้ามาด้วยทุนนักกีฬา แต่เกรดประถมแบบงงๆส่งเขามาเรียนในห้องระดับกลางค่อนไปทางหัวกะทิ ที่นั่นมีเด็กทุกประเภทที่ส่งมาคละรวมกัน เขาไม่มีเพื่อนแถมไม่ได้มั่นใจพอที่จะมั่นใจชวนใครคุย


    ความซวยยิ่งกว่านั้นคือเขาดันได้นั่งข้างไอ้อ้วนแว่นที่เหมือนลืมเอาปากมาโรงเรียน วันๆเอาแต่เรียน อ่านหนังสือ กินขนมจุกจิกจนเลอะแก้มย้วยๆนั่น ที่สำคัญเป็นหวัดจามให้เขาได้ยินบ่อยๆ แต่นั่นก็เป็นมลภาวะทางเสียงเดียวที่เขาได้รับ เพราะทั้งเทอมจำได้ว่าได้ยินเสียงได้อ้วนนั่นแค่วันแรกที่นั่งข้างกัน

     

    "...เราชื่อฮยอกแจ"

     

     

     

     

     

    ม.2 อยู่ห้องเดิม พวกบ้าๆแบบเดิม แต่ไม่ได้นั่งกับคนเดิมแล้ว ในห้องเริ่มสนิทกันจึงเริ่มจัดแบ่งกลุ่ม ไอ้อ้วนนั่นเหมือนจะไม่มีใครคบ หรืออาจจะมีคนคบเขาก็ไม่สนหรอก เขาได้ลงเป็นตัวจริงของทีมโรงเรียน แต่นั่นทำให้พี่ม.ปลายบางคนไม่พอใจ เขาโดนซัดจนเลือดกลบปาก โดนหามเข้าห้องพยาบาล อาจารย์บังคับให้เข้านอนรอเพื่อจะส่งตัวไปโรงพยาบาลใหญ่

    แต่ที่น่าตกใจคือเตียงข้างๆเป็นไอ้อ้วนห้องเดียวกัน ตาโปนๆนั่นเบิกกว้างดูตกใจที่เห็นสภาพเขา ริมฝีปากนั่นกันจนสั่นดูเครียดกับอาการเขายิ่งกว่าอาการไข้หวัดของตัวเองอีก... ตอนแรกเขาก็คิดว่าไอ้อ้วนนั่นเป็นห่วงกัน แต่ผลสรุปคือไอ้แว่นนั่นเป็นพวกกลัวเลือดขั้นรุนแรง น่าขำ

     

    เทอมที่สองเขาเจอมันอีกโดยบังเอิญที่โรงพยาบาล สงสัยเหมือนกันว่าเขาทำไมต้องเจอไอ้อ้วนนี่ในสถานที่แบบนี้ทุกที

    เขาเกือบลืมชื่อมันไปแล้วซ้ำเพราะไม่เคยเรียกซักที วันนั้นเขาไปเอาใบรับรองแพทย์เพื่อจะเอาไปส่งโค้ชทีม ส่วนมันเขาไม่รู้ แต่กว่าหมอจะเรียกก็นานพอที่เขาจะเดินตามมันไปเงียบๆ


    อ้วน มองยังไงก็อ้วน หน้าอ้วน ตัวอ้วน ขาอ้วน อ้วนไปทั้งตัว ก้าวขาทีทงเฮจินตนาการว่าพื้นโรงพยาบาลอาจจะยุบลงไป

     

    "ตามเรามาทำไม?" ประโยคแรกในรอบปีที่ได้ยิน แต่นั่นไม่น่าตกใจเท่าอีกฝ่ายรู้ตัวว่าโดนตาม

     

    "ใครตาม มั่วละ" ทงเฮทำไม่รู้ไม่ชี้เหลือบตาจะชมนกชมไม้ซะหน่อยก็เจอแต่เพดานกับหลอนไฟ

     

    "งั้นหรอ" อีกฝ่ายดูยอมรับง่ายๆทั้งๆที่อาการทงเฮไม่เนียนซักนิด คนตัวอ้วนทำท่าจะไปต่อแต่ความปากไวของทงเฮโผล่งถามออกไปก่อน

     

     

    "มาทำอะไรที่นี่อะ?"

     

     

    "อา..เราหรอ" ฮยอกแจถามทวน

     

     

    "มีกันอยู่สองคนคงถามบุรุษพยาบาลมั้ง"

     

     

    "มาเฝ้าพ่อเราน่ะ"

     

     

    "พ่อ? เป็นอะไร" ทงเฮอยากตบปากตัวเองที่ถามแบบนั้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนร่วมห้องสีหน้าหมองลง

     

    "...เรา.. ไปเยี่ยมด้วยกันไหมล่ะ" ฮยอกแจไม่รู้จะตอบเพื่อนยังไงเลยเอ่ยปากชวน ทงเฮไม่ได้ตอบรับหรือปฎิเสธ เพียงแต่เดินตามไอ้อ้วนของเขาไปเงียบๆ

     

    จากวันนั้นมีบางอย่างเปลี่ยนไประหว่างพวกเขา หลังจากรู้ว่าพ่อไอ้อ้วนเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายและกำลังรอเวลา ฮยอกแจอยู่กับพ่อกับย่า ทุกคนทำใจเรื่องนี้และไม่เอ่ยถึงมัน พยายามทำทุกวันๆให้ดี ทงเฮกลายเป็นอีกคนที่ไปประจำที่ห้องพักคนไข้นั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

    เขามักจะคุยเรื่องบอล เรื่องรถ หรือแม้แต่เรื่องทริคจีบสาวๆกับพ่อของฮยอกแจ อย่างน้อยก็ได้เห็นความสดชื่นในแววตาท่าน และบางทีทงเฮอาจจะสงสารไอ้อ้วนนั่นก็ได้ การที่ทงเฮกลับบ้านไปอยู่คนเดียว ทำตัวมีประโยชน์กับคนอื่นดูจะดีมากกว่า

    บางครั้งเขาก็ไปพร้อมฮยอกแจ ทางยาวไกลที่เงียบสนิทเริ่มมีบทสนทนาสัพเพเหระ เริ่มมีการเล่นหัวแกล้งกัน ซื้อขนมเล็กๆน้อยมาเผื่อ หรือบางทีทงเฮก็ขอลอกการบ้านฮยอกแจที่นั่น

     

    พวกเขาก้าวมาสู่ความเป็นเพื่อนแบบที่คนรอบข้างไม่เข้าใจ ที่โรงเรียนพวกเขาแทบไม่ได้คุยกัน ใช้ชีวิตคนละแบบ จนเมื่อเขาบังคับให้ฮยอกแจมารอที่สนามเพื่อไปโรงพยาบาลด้วยกัน เริ่มมีคนจับสังเกต พวกผู้หญิงซุบซิบเรื่องของเขากับไอ้อ้วนแต่ยังไม่มีใครกล้าถาม

     

    พ่อฮยอกแจเสีย ถึงจะบอกว่าไอ้อ้วนของเขาทำใจไว้แล้ว แต่สุดท้ายเจ้างั่งนั่นก็จมอยู่ในความเศร้า มันทำให้ทงเฮหงุดหงิด ถึงจะให้เวลาอีกฝ่ายเสียใจมาเกือบเดือนแต่ดูไม่ลดน้อยลงเลย เขากำลังเห็นแก่ตัว ข้ออ้างในการคุยกันหายไปเมื่อไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว เขาหมดทางจะปลอบใจอีกฝ่ายไปตั้งแต่อาทิตย์แรก จนสุดท้ายพวกเขาห่างกันไปอีกครั้ง

     

     

     

     

    คาบพละ อาจารย์ให้เล่นอะไรก็ได้ เขากับเพื่อนนั่งมองคนอื่นเล่นตามประสา พวกเขาแหกปากแซวเพื่อนในห้อง มีกลุ่มผู้หญิงอยู่ข้างๆ ไอ้อ้วนนั่นโดนสาวๆลากไปเล่นวอลเลย์ แต่ไม่รู้เล่นยังไง เสียงตบอัดดังสนั่นโรงยิม หน้าทั้งซีกของไอ้อ้วนแดงเถือกสั่นไปหมดเหมือนกำลังจะร้องไห้

    เขาเกือบจะลงจากแสตนแต่เห็นคนไปมุงโอ๋กันเยอะขนาดนั้นเขาคงไม่ต้อง

    พวกผู้หญิงกลุ่มข้างๆโวยเพื่อนในห้องที่ตบบอลโดนหน้าไอ้อ้วน ส่วนกลุ่มเขากำลังแหย่ไอ้อ้วนว่าเป็นผู้ชายเขาไม่ร้องไห้บ้างละ ขี้แยบ้างละ พวกเพื่อนพามันมานั่งแสตนไม่ไกลจากพวกเขา

     

    "มองขนาดนั้นไม่ลงไปโอ๋เองเลยละทงเฮ" เสียงใครซักคนดังขึ้นตอนที่ชาวบ้านเงียบ กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ทุกสายตาหันมามองเขา

     

    "แหมๆรอบก่อนฉันเห็นไปเฝ้ากันซ้อมบอลนะ ปิดไม่มิดหรอกจ้ะ" มีคนผสมโรง ไอ้อ้วนนั่นก้มหน้าลงไม่รู้ว่าเจ็บหรือไม่อยากฟัง

     

     

    "ทงเฮกับฮยอกแจเนี่ยนะ?" มีคนประหลาดใจ

     

     

    "บางทีอาจจะเป็นแบบแอบชอบกันปะแก" ยังมีคนชงในขณะที่เจ้าตัวอยากจะลุกไปเตะบอลอัดปากเล่น

     

    "ใครชอบใครล่ะ ทงเฮชอบฮยอกแจ หรือฮยอกแจชอบทงเฮ?"

    ว่าไปอีก คำถามบ้านั่นทำเอาแอร์เดททั้งโรงยิม หันไปทางกลุ่มคนป่วยส่งสายตามาจิกเพื่อปรามชะนีนักชง เพราะฮยอกแจเจ็บอยู่และดูท่าจะไม่อยู่ในอารมณ์ให้ใครมาแซว น้ำตาไหลเป็นทางและตาเริ่มแดง

    ในเมื่อพวกมันเล่นทางนั้นไม่ได้เป้าหมายจึงเปลี่ยนมาที่เด็กทุนกีฬา

     

    "ว่าไงวะไอ้ทงเฮ มึงชอบฮยอกแจหรอ" เพื่อนซักคนในกลุ่มหันมาถาม อยู่ในระยะที่ตีนเอื้อมถึง แน่นอนว่ามันไปไวกว่าปาก เพื่อนคนนั้นเกือบกลิ้งลงแสตน

     

     

    "พูดเหี้ยไรกัน! กูไม่ชอบคนอ้วนๆหรอก"

    ตอบไปไม่ทันยั้งคิด เสียงหัวเราะของเพื่อนที่ฮาสภาพคนโดนยันกับท่าทีเอาจริงของเขา แต่ไม่รู้ทำไมทงเฮไม่กล้าหันไปมองอีกกลุ่มเลย

     

    ม.3 ย้ายห้องคัดเกรด แน่นอนว่าเด็กโง่ระดับใช้รถขุดหน้าดินยังลากไม่ขึ้นอย่างทงเฮถูกเด้งไปห้องบ้วย ในขณะที่ไอ้อ้วนนั่นย้ายไปห้องคิง

     

    พวกเขาไม่ได้คุยกันอีกเลย แทบไม่ได้เจอ ชีวิตทงเฮวุ่นวายกับเพื่อนเกเรที่คัดกันมาได้เหมาะเจาะ พวกเขาใช้ชีวิตวัยรุ่นคุ้มค่าแต่ก็แลกมาจากความเหนื่อยกับการซ้อม

     

    อีกครั้งที่เขาเจอฮยอกแจตอนปลายเทอมหนึ่ง

    ใช่ ฮยอกแจ เพราะมันไม่ใช่ไอ้อ้วนอีกต่อไปแล้ว แก้มกลมนั่นตอบลง เอวคอดจนแทบจะบางกว่าผู้หญิง ขาเรียว ปากแดงๆ ตัวขาวๆ เขาสงสัยว่าการเรียนห้องคิงมันทำให้คนเครียดจนน้ำหนักลดฮวบหรือยังไง แต่ทงเฮกลับหงุดหงิดที่ได้เจอฮยอกแจในสภาพอย่างนั้น

    ที่สำคัญกว่าคือเขาแทบไม่มีตัวตนในสายตาอีกฝ่าย

    แน่ล่ะ แน่ล่ะว่าก่อนหน้านี้ก็ไม่มีตัวตน ไม่ได้คุยกันอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมพอมาเจอฮยอกแจสภาพนี้การไม่มีตัวตนเขากลับยิ่งทำให้หงุดหงิดใจ

    เขาหงุดหงิดและมีอคติในใจ

    เด็กห้องคิง เรียนเก่ง หน้าตาน่ารัก กลายเป็นที่กล่าวขวัญเอ็นดูกันไปทั่ว แต่ไม่ใช่เขา ทงเฮหมั่นใส้จะตายกับไอ้รอยยิ้มกว้างๆที่แจกใครง่ายๆนั่น

    อยู่ห้องเดียวกันมาตั้งกี่ปีเคยได้เห็นไหมล่ะ

     

     

     

     

    งานกีฬาสี

    เขาลงแข่งมันทุกกีฬาและดูท่าว่าผู้ชายห้องคิงจะน้อยเหลือเกินจนผู้ชายบ้าเรียนอย่างฮยอกแจต้องมาลงแข่งบอล

    ก็อีก ทงเฮน่ะหมั่นไส้เลยเผลอทำฟาวส์แบบเนียนๆจนฮยอกแจต้องออกจากสนาม ตอนแรกก็รู้สึกผิดหรอกแต่พอเห็นทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่พากันมารุมโอ๋ มือที่ยื่นไปจะช่วยพยุงเลยสะบัดทิ้งเอง

     

    ใกล้จะปิดเทอม วาเลนไทน์

    ทงเฮจำไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะเพิ่งรอดจากค่ายเก็บตัวเตะชิงแชมป์จังหวัด

    ผู้หญิงรุ่นพี่รุ่นน้องเอาของ ขนม กับดอกไม้มาให้เขาเยอะมาก เขารับมาส่วนใหญ่พวกเพื่อนในกลุ่มเป็นคนกิน

     

    ใกล้เลิก

    อาจารย์สั่งงาน ทงเฮรู้ตัวว่าเขาต้องซ้อมอีกยาว ไม่มีเวลาทำแน่ๆจึงเลือกจะไปหอสมุด เป็นครั้งแรกๆในรอบปีที่เดินขึ้นตึกพวกหัวกระทิเพราะหอสมุดกินพื้นที่ชั้นสองทั้งชั้น แต่ระหว่างทางเผอิญเจอรุ่นน้องตระเวนขายดอกกุหลาบการกุศล เขาซื้อมันมา เขาบอกตัวเองว่าเขาไม่รู้จะให้มันกับใคร แต่สองขาเขาไม่ได้หยุดเดิน

     

    หอสมุดอยู่ชั้นสองแต่เขากลับมาถึงชั้นสี่

    เขาหยุดเพื่อหาเหตุผลว่าทำไมตัวเองมาอยู่ที่นี่ รักชอบใครหรือก็ไม่มีซักหน่อย แต่เขาก็มีชื่อของคนที่ควรให้

    คงเป็นความรู้สึกผิด เขาบอกตัวเองแบบนั้น หาเหตุผลที่สบายใจเวลาจะยื่นดอกไม้ให้ถ้าเจอหน้า เขาแค่มาขอโทษ อาจจะดูแปลกๆที่มาขอโทษคนที่หมั่นใส้ ที่เป็นผู้ชายในวันวาเลนไทน์ ด้วยดอกกุหลาบสีแดง แต่... นั่นแหละ เขาบอกตัวเองให้เชื่อแบบนั้น

     

     

     

    "พี่ชอบฮยอกแจ" แผ่นหลังของผู้ชายรุ่นพี่ตัวสูงที่บังอีกคนมิดทำให้ทงเฮชะงัก ดอกกุหลาบถูกเอาหลบไว้ด้านหลังขณะยืนมองเหตุการณ์ตรงนี้

     

    "ขอบคุณมากครับ" เสียงใสกังวาลเอ่ยขอบคุณ

     

    "พี่จริงจังนะ" รุ่นพี่พูดย้ำ ปากแดงนั่นยิ้มรับจนแก้มป่อง ทงเฮเห็นพวกผู้หญิงแอบมองฮยอกแจอยู่ท่าทางช่วยลุ้นให้รับรักกันเต็มที่

     

    เขาไม่ได้อยากเห็นแต่เขาก้าวขาไม่ออก ดูจากสภาพสติกเกอร์เต็มเสื้อกับดอกไม้ในมือแล้วคงได้มาเยอะ

     

    "พี่รักฮยอกแจจริงๆนะ คือคบกับพี่ได้ไหม" รุ่นพี่ย้ำ ฮยอกแจยังคงยิ้มโค้งให้อีกฝ่ายเล็กน้อย

     

     

     

     

    "ผมขอโทษจริงๆครับ"

     

     

     

     

    รุ่นพี่ไปแล้ว พวกสาวๆโห่กันใหญ่กรูกันเข้าไปท้วงฮยอกแจด้วยท่าทีเสียดาย

    ทงเฮไม่มีคำตอบให้ตัวเองว่าทำไมยังยืนอยู่จนตอนนี้


    ดอกกุหลาบในมือถูกถืออย่างมั่นคงอีกครั้ง

     

    เหมือนเขามีความหวัง แต่เขาไม่รู้ว่าตัวเองหวังอะไร

     

     

     

     

    "ทำไมไม่รับรักใครเลยเนี่ยฮยอกแจ" ใครซักคนที่รุมล้อมมันอยู่เอ่ยถาม

     

     

     

    "หือ... ไม่รู้สิ" อดยอมรับไม่ได้ว่าเวลาครุ่นคิดแบบนั้นไอ้อ้วนนั่นมันดูน่ารัก ทงเฮเริ่มเดินเข้าไปใกล้ขึ้นอย่างมั่นคง


    ออกจากมุมมืดที่ไม่มีใครมองเห็นซักที

    เขาก็แค่มาขอโทษ

    เขาไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย

     

     

     

     

     

     

     

    "..เราว่า สำหรับเราความรักมันเป็นเรื่องไร้สาระน่ะ" เสียงนั้นชัดเจนเพราะคนอื่นกำลังเงียบฟัง มันดังขึ้นพอๆกับฝีเท้าของเขาที่ดังกระทบพื้นแล้วหยุดลง

    ทุกสายตาหันมามอง

    ฮยอกแจหันมามอง ทงเฮกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ เขาไม่ได้ซ่อนดอกกุหลาบเหมือนก่อนหน้านี้

     

     

    "อ่า..." ฮยอกแจดูอึ้งๆที่เห็นเขา ทงเฮไม่ได้แจงจุดประสงค์ที่โผล่หัวมาตึกคิง ไม่ได้ยื่นดอกไม้ออกไปด้วยเหตุผลว่าขอโทษอย่างตอนที่กล่อมตัวเอง เขาเพียงแต่ฝืนยิ้มแห้งให้ทุกคนตรงนั้น ยิ้มที่ทงเฮคิดว่ามันเป็นเรื่องยากที่สุดในโลกที่เคยทำแล้วเดินจากมา

     

     

    สิ่งที่ไล่หลังทงเฮมาก็คือความหวังของตัวเอง ที่เขารู้สึกว่ามันมอดลงทั้งๆที่เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาหวังอะไรกับเรื่องไร้สาระ







    ---------------------------------- 65 per.
    สกรีมที่ #พี่ทงคนซึน
    อย่าลืมเม้นน้า

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×