ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หอสมุดต้องห้ามแห่งดาร์คแลนด์

    ลำดับตอนที่ #131 : อักษรไฮโรกลิฟ

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 59


    อักษรไฮโรกลิฟ




     

           ไฮโรกลิฟ (อังกฤษ: Hieroglyph) หรือไฮโรกลิฟฟิก เป็นอักษรภาพอย่างหนึ่งของอียิปต์โบราณ เพิ่งมีการอ่านและแปลความหมายได้อย่างชัดเจนเป็นระบบเมื่อมีการค้นพบหินโรเซตตาในปีพ.ศ.2342 ที่จารึกโดยตัวอักษร 3 แบบ คือ กรีกโบราณดีโมติก และไฮโรกลิฟ การเปรียบเทียบชื่อราชวงศ์ต่าง ๆ โดยใช้ตัวอักษร 3 แบบ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญภาษาโบราณสามารถอ่านอักษรไฮโรกลิฟ ได้ใน 25 ปีต่อมา

              ชาวอียิปต์เชื่อว่าอักษรนี้ประดิษฐ์โดยเทพเจ้าธอธ และเรียกชื่ออักษรว่า mdwt ntr (คำพูดของพระเจ้า) คำว่าไฮโรกลิฟฟิก มาจากภาษากรีก hieros (ศักดิ์สิทธิ์) + glypho (จารึก) คำนี้ใช้เป็นครั้งแรก โดยคลีเมนต์แห่งอเล็กซานเดรีย การเขียนในอียิปต์ที่เก่าที่สุด เริ่มเมื่อราว 2,867 ปีก่อนพุทธศักราช ส่วนอักษร ไฮโรกลิฟฟิกที่ใหม่ที่สุด เป็นประกาศที่กำแพงวิหารในฟิแล (philae) อายุราว พ.ศ. 939 อักษรนี้ใช้กับจารึกอย่างเป็นทางการ ตามกำแพงวิหารและหลุมฝังศพ บางแห่งมีการระบายสีด้วย การเขียนทั่วไป ในชีวิตประจำวันใช้อักษรเฮียราติกหลังจากจักรพรรดิทีออสซิอุสที่1สั่งปิดวิหารของพวกเพเกิน ทั่วจักรวรรดิโรมันในช่วงพ.ศ. 1000 ความรู้เกี่ยวกับอักษรนี้ได้สูญหายไป จนกระทั่งชอง-ฟรองซัว ชองโปเลียงชาวฝรั่งเศสถอดความอักษรนี้ได้
     

     

              อักษรไฮโรกลิฟฟิกอาจจะเก่ากว่าอักษรรูปลิ่มของชาวซูเมอร์ทิศทางการเขียนเป็นได้หลายแบบ ทั้งแนวนอน ซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้าย แนวตั้งจากบนลงล่าง ซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้าย การบอกทิศทาง สังเกตจากการหันหน้าของรูปคนหรือสัตว์ ซึ่งจะหันหน้าเข้าหาจุดเริ่มต้นของเส้น อียิปต์ยุคต้นและยุคกลาง (ราว 1,457-1,057 ปีก่อนพุทธศักราช) ใช้สัญลักษณ์ 700 ตัว ในยุคกรีก-โรมัน ใช้สัญญลักษณ์มากกว่า 5,600 ตัว สัญลักษณ์แต่ละตัวบอกทั้งการออกเสียงและความหมาย เช่นสัญลักษณ์ของจระเข้ เป็นรูปจระเข้รวมกับสัญลักษณ์แทนเสียง “msh” เช่นเดียวกับคำว่าแมว “miw” จะใช้รูปแมว รวมกับสัญลักษณ์แทนอักษร m i และ w

              อักษรที่มีลักษณะเช่นเดียวกับอักษรไฮโรกลิฟฟิกของอียิปต์จะเรียกอักษรไฮโรกลิฟฟิกด้วย เช่น อักษรไฮโรกลิฟฟิกของชาวลูเวียและชาวฮิตไตน์

              ชาวอียิปต์มีความชำนาญทางศิลปะหัตถรรม งานช่าง และการทำหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมต่างๆ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับชีวิตหลังความตายและอักษรภาพหรือภาษาตามความเชื่อที่มีอำนาจและอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตและพิธีกรรม

              ดังนั้นตัวอักษรในยุคแรกๆ จึงมักจะพบถูกจารึกคู่กับการแกะสลักหรือวาดภาพเทพเจ้าไม่ว่าจะบนกำแพงวิหาร, หลุมฝังศพหรือโลงที่ทำจากหินเพื่อคุ้มครองผู้ตาย นอกจากนี้ยังจารึกที่เป็นคำสาปแช่งผู้ที่ล่วงละเมิดสุสาน

              ไฮโรกลิฟฟิคเพิ่งมีการอ่านและแปลความหมายได้อย่างชัดเจนเป็นระบบเมื่อมีการค้นพบหินโรเซตตาในปี ค.ศ.1799 ตัวอักษรที่จารึกบนแผ่นหินมีตัวอักษร 3 แบบ คือ กรีกโบราณ ดีโมติก และไฮโรกลิฟ จึงทำให้การเปรียบเทียบชื่อราชวงศ์ต่าง ๆ โดยใช้ตัวอักษร 3 แบบนี้ และทำให้ผู้เชี่ยวชาญภาษาโบราณ Jean-Francosis Champollion ชาวฝรั่งเศสถอดความอักษรนี้ใน 25 ปีต่อมา
     


              อักษรไฮโรกลิฟฟิคมีทิศทางการเขียนเป็นได้หลายแบบ ทั้งแนวนอนซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้าย ,แนว ตั้งจากบนลงล่างทั้งซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้าย เราจะรู้ทิศทางการอ่านให้สังเกตจากการหันหน้าของรูปคนหรือสัตว์ ถ้ารูปหันหน้าไปทางขวาให้อ่านจากขวาไปซ้าย ถ้ารูปหันหน้าไปทางซ้ายให้อ่านจากซ้ายไปขวา หรือสรุปว่ารูปจะหันหน้าเข้าสู่จุดเริ่มต้นในการอ่านเสมอ

              คนอียิปต์ในปัจจุบันไม่ได้พูดและใช้ภาษาอียิปต์โบราณอีกแล้วแต่พูดภาษาอาหรับ ภาษาลูกของชาวอียิปต์โบราณที่เหลือคือ ภาษาคอปติกซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ในโบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกายคอปติกที่เรียก คอปติกเชิร์ช


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×