ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หอสมุดต้องห้ามแห่งดาร์คแลนด์

    ลำดับตอนที่ #126 : 5 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 59



    5 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความฝัน
     

                      แม้เราทุกคนจะหลับและฝันกันมาทุกๆคืนนับแต่จำความได้ เราก็ยังรู้เรื่องเกี่ยวกับความฝันน้อยมาก ความฝันนั้นมาจากไหน? มันหมายความว่าอะไร? เราสามารถควบคุมหรือตีความความฝันได้หรือไม่? จากการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านความฝัน เราได้ข้อเท็จจริง (ที่คัดมาโดยผู้แปล) ทั้งหมด 5 ประการจาก 9 ประการเพื่อให้พวกคุณได้ศึกษากันอย่างคร่าวๆ อ่านดีๆก่อนหลับแล้วกันล่ะ

     

                       1.ความฝันช่วยให้คุณได้เรียนรู้

                      หากคุณกำลังอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบหรือทำความเข้าใจบทเรียนใหม่ๆ คุณน่าจะลองนอนพัก หรือไม่ก็เข้านอนเร็วกว่าปกติแทนการโหมอ่านต่อไปอีกเป็นชั่วโมง เพราะเมื่อสมองได้สั่งการให้คุณฝันแล้ว มันจะช่วยให้คุณเรียนรู้และแก้ปัญหาไปด้วย นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ฮาวาร์ด ที่กำลังศึกษาเกี่ยวกับประเด็นทางชีววิทยาในปัจจุบัน รายงานว่า การฝันคือวิธีที่จะทำให้สมองได้ประมวลผล บูรณาการ และทำความเข้าใจกับเนื้อหาข้อมูลใหม่ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการเรียนรู้ของสมอง คุณจึงต้องหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนต่างๆภายในห้อง เช่นเสียงจากทีวี ซึ่งอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อระยะเวลาและคุณภาพของความฝัน

                      2.คุณสามารถมีความฝันมากมายได้ภายในค่ำคืนเดียว

                      มันไม่ใช่เพียงฝันเรื่องเดียวต่อหนึ่งคืนอย่างที่คุณเคยเข้าใจกัน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าคุณเพียงแต่จำฝันที่เหลือทั้งหมดไม่ได้เท่านั้นเอง “เราฝันกันทุกๆ 90 นาทีตลอดทั้งคืน และในแต่ละวัฏจักรของความฝันมันก็จะมีระยะเวลายาวนานขึ้นกว่าฝันก่อนๆ” ลอริ  ควินน์ โลเวนเบิร์ก ผู้เชี่ยวชาญด้านความฝัน และนักประพันธ์ อธิบาย “ฝันแรกของคืนจะกินเวลาประมาณ 5 นาที ส่วนฝันสุดท้ายก่อนที่คุณจะตื่นจะกินเวลาประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง” จากการประมาณ คนส่วนใหญ่นั้นมีความฝันมากกว่า 100,00 ความฝันในชั่วชีวิตหนึ่งเลยทีเดียว

                      3.คุณสามารถเอ้อระเหยอยู่ในความฝันได้หลังจากตื่นขึ้นมาแล้ว

                      คุณเคยตื่นขึ้นมาจากฝันที่สวยงามและสมบูรณ์แบบจนหวังว่าจะได้ดื่มด่ำกับมันต่อไปให้เต็มที่ก่อนมั้ย? รู้รึเปล่าว่าคุณทำได้! เพียงแค่นอนนิ่งอยู่ในท่าเดิมและไม่ขยับกล้ามเนื้อสักมัด  คุณก็จะคงความรู้สึกกึ่งฝันกึ่งจริงไว้ได้อีกสัก 2-3 นาที “วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณจำความฝันได้ทั้งหมดคือการนอนแน่นิ่งอยู่กับที่หลังจากตื่นแล้ว” โลเวนเบิร์กกล่าว “คงอยู่ในตำแหน่งที่คุณตื่น เพราะมันคือตำแหน่งเดียวกับที่คุณฝัน และเมื่อคุณขยับตัวเมื่อไหร่ คุณก็จะขาดการเชื่อมต่อกับตัวคุณเองจากฝันที่คุณเพิ่งเข้าไปอยู่เมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา

                      4.แม้ความฝันจะแปลกประหลาดขนาดไหนก็ยังคงตีความได้

                      แม้ว่าความฝันบางเรื่องจะเหลือเชื่อเกินกว่าที่คุณจะรับได้เช่น การฝันถึงแม่ของคุณเอง ละครสัตว์และพายุหิมะ แต่ในทุกๆความฝันล้วนมีสัญลักษณ์ และความหมายที่อาจเป็นไปได้ให้ขุดค้น คุณเพียงแต่ต้องมองหามันเท่านั้นเอง นักจิตอายุรเวทจากฮาวาร์ด เจฟฟรีย์ ซัมเบอร์ กล่าวว่า “ความหมายเกี่ยวกับความฝันของเรามักเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราต้องการจะเข้าใจเกี่ยวกับตัวเราเอง และโลกรอบตัวเรา” แทนที่จะยักไหล่ไม่แยแสเกี่ยวกับฝันแปลกๆ ลองคิดดูว่ามันทำให้คุณรู้สึกอย่างไร “เรามีแนวโน้มที่จะขับไล่ความฝันที่มีองค์ประกอบอันแปลกประหลาดออกไป ความรู้สึกของเรามีต่อฝันเหล่านี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด” ซัมเบอร์อธิบาย “บางครั้ง ละครสัตว์และพายุหิมะอาจจะเป็นเพียงสิ่งเติมเต็มที่ปล่อยให้เราได้ทำการเปลี่ยนแปลงขอบข่ายของความรู้สึกที่เรามีต่อแม่

                      5. คุณควบคุมความฝันของคุณได้

                      หลักฐานคือ หนังเรื่อง Inception ที่ว่าผู้คนสามารถกุมบังเหียนควบคุมความฝันของตนและสั่งการให้มันออกมาในรูปแบบใดๆก็ตามที่พวกเขาต้องการได้ แต่ความจริงอาจไม่อลังการเท่า สืบเนื่องมาจากผลสำรวจของคน 3,000 คน พบว่า 64.9% ของผู้มีส่วนร่วมนั้นรู้ตัวว่าตนมีความฝันแบบซ้อนฝัน และอีกประมาณ 34% กล่าวว่าพวกเขาสามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นในความฝันได้เป็นบางครั้ง การควบคุมเนื้อหาในความฝันได้ไม่ใช่ทักษะที่มีอยู่ทั่วไป แต่ก็สามารถพัฒนาได้ ตามคำกล่าวของ เคลลี บูลเคลลี ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, นักวิจัยเกี่ยวกับความฝัน และนักวิชาการแลกเปลี่ยนที่บัณฑิตวิทยาลัยศาสนศาสตร์ในเบิร์กลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย

                      เทคนิคนี้เป็นประโยชน์โดยเฉพาะกับผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานจากการฝันร้ายซ้ำๆเรื่องเดิม ดร.บูลเคลลี แนะนำให้ผู้ที่มีอาการเช่นนี้พูดกับตัวเองอย่างฮึกเหิมก่อนเข้านอนว่า “หากฉันฝันแบบนั้นอีกครั้ง ฉันจะพยายามจำไว้ว่ามันก็แค่ความฝันเท่านั้น และฉันก็จะรู้ตัวเสมอ” เมื่อคุณเรียนรู้ที่จะตระหนักได้ว่าคุณกำลังฝัน ภายในความฝัน คุณไม่เพียงที่จะเปลี่ยนให้ฝันร้ายกลายเป็นดี แต่คุณยังสามารถฝึกฝนจิตใจของคุณเองให้หลีกเลี่ยงฝันร้ายอื่นๆได้ตั้งแต่แรกอีกด้วย

     









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×