ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หอสมุดต้องห้ามแห่งดาร์คแลนด์

    ลำดับตอนที่ #122 : ตำนานรือปีศาจ ฟลายอิงดัตช์แมน

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 59


    ตำนานรือปีศาจ ฟลายอิงดัตช์แมน


     
     

                     ท่ามกลางท้องทะเลอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ไพศาล มีเรื่องน่าสะพรึงกลัว และอันตรายต่างๆ มากมาย เช่น ภัยพิบัติจากพายุ หรือ คลื่นลมบ้าคลั่ง ซึ่งพร้อมจะโหมซัดให้เรือของพวกเขาอัปปางลง แต่สำหรับนักเดินเรือบางคน ภัยธรรมชาติเหล่านี้ ยังไม่น่าหวั่นเกรงเท่าการเผชิญหน้ากับสิ่งลึกลับ อย่างเช่น เรือปีศาจ...

                    ตำนานเรือปีศาจซึ่งถูกกล่าวขานมากที่สุดเรื่องหนึ่ง คือ ตำนานของฟลายอิงดัตช์แมน (Flying Dutchman) กัปตันเรือผู้ถูกสาปให้ต้องเร่ร่อนอยู่ในท้องทะเลจนกว่าจะถึงวันแห่งการพิพากษา

                    ...เล่ากันว่า เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นในศตวรรษที่ 17 เมื่อปีค.ศ. 1641 กัปตันเฮนดริก แวน เดอ เด็คเคน (Hendrick Van der Decken) กัปตันเรือสินค้าลำหนึ่งของฮอลันดา คิดจะนำเรือเดินทางอ้อมแหลมกูดโฮป ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของแอฟริกา ขณะใกล้ถึงจุดหมาย บังเอิญมีลมพายุที่รุนแรงขวางเส้นทางเดินเรือของเขาไว้ แทนที่เขาจะเลิกล้มความตั้งใจ หรือ หันเหเรือไปยังเส้นทางอื่น กัปตันเรือผู้ดื้อรั้นกลับนำเรือของเขาแล่นฝ่าพายุต่อไป ทำให้ลูกเรือซึ่งตระหนักถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น ร่วมมือกันเข้ายึดอำนาจการควบคุมเรือจากกัปตัน ด้วยความโมโหผสมกับความมึนเมาจากฤทธิ์ของสุรา ทำให้กัปตันเรือคลุ้มคลั่ง จนใช้ปืนยิงหัวหน้ากลุ่มขบถ แล้วโยนร่างของเขาทิ้งลงทะเลไป ทันใดนั้นเอง มีเมฆลึกลับสีดำปรากฏขึ้น พร้อมกับมีเสียงตำหนิกัปตันเรือในความดื้อรั้นของเขา กัปตันเรือจึงโต้เถียงออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แล้วยกปืนขึ้นเล็งไปยังเมฆประหลาดนั้น แต่เมื่อเขาลั่นกระสุนออกไป ลูกปืนกลับระเบิดใส่มือของเขาเอง จากนั้น เสียงลึกลับจากเมฆสีดำก็สาปให้เขา

                    “ ต้องแล่นอยู่ในท้องทะเลไปชั่วกัลปาวสาน โดยต้องดื่มน้ำดีรสขมแทนน้ำ และกินเหล็กที่ร้อนแดงเป็นอาหาร แล้วยังสาปให้เรือปีศาจลำนี้นำความตายมาสู่ใครก็ตามที่พบเห็นมัน!”

     


                    หลังจากนั้น กัปตันและเรือปีศาจของเขาก็มักออกมาหลอกหลอนนักเดินเรืออยู่เสมอตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา ในรายที่โชคดีหน่อยก็อาจจะเพียงแค่ถูกหลอกให้กลัวเท่านั้น เช่น เห็นเรือปีศาจที่น่ากลัวปรากฏขึ้น แล้วหายวับไป แต่ในรายที่โชคร้ายก็อาจถูกเรือปีศาจล่อหลอกให้แล่นเรือหลงทางไปชนกับหิน โสโครกใต้น้ำ จนต้องอัปปางล'

                    ใน ปีค.ศ. 1835 ลูกเรือของอังกฤษลำหนึ่ง มีโอกาสเผชิญหน้ากับเรือปีศาจ พวกเขาบันทึกไว้ว่า เรือปีศาจปรากฏขึ้นท่ามกลางลมพายุอันน่ากลัว แล้วแล่นตรงเข้ามาหาเรือของพวกเขา จนน่ากลัวว่าเรือทั้งสองลำจะพุ่งเข้าชนกัน แต่ในวินาทีนั้นเอง มันก็หายวับไป

                    การเผชิญหน้ากับเรือปีศาจครั้งสำคัญครั้งหนึ่ง ถูกบันทึกไว้โดยมกุฎราชกุมารของอังกฤษ ซึ่งต่อมาทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้ายอร์ชที่ 5 พระองค์ทรงบันทึกไว้ว่า เมื่อในวันที่ 11กรกฎาคม ค.ศ. 1881 ขณะที่เรือซึ่งพระองค์ทรงประจำการอยู่แล่นผ่านแหลมกูดโฮป ลูกเรือคนหนึ่งมองเห็นเรือปีศาจปรากฏขึ้นท่ามกลางหมอกโดยมีแสงสีแดงประหลาด สว่างเรืองออกมาจากทั่วลำเรือและอยู่ห่างไปในระยะ 200 หลา ต่อมาไม่นาน ลูกเรือคนนั้นก็ต้องคำสาปของเรือปีศาจประสบอุบัติเหตุจากเสากระโดงเรือจนเสียชีวิต

     


                    ในเดือนมีนาคม ปีค.ศ. 1939 มีผู้คนนับสิบที่ชายฝั่งแอฟริกาใต้มองเห็นเรือปีศาจลำนี้ เป็นเรื่องน่าแปลกที่พวกเขาต่างอธิบายรายละเอียดของเรือได้ถูกต้องตรงกัน ทั้งที่ไม่มีใครเคยเห็นเรือสินค้าในสมัยศตวรรษที่ 17 มาก่อน

                    สำหรับการปรากฏขึ้นครั้งล่าสุด มีการบันทึกไว้ในปีค.ศ. 1942 โดยมีผู้อ้างว่าเห็นเรือปีศาจลำนี้หายไปต่อหน้าต่อตาคนถึง 4 คน แม้กระทั่งทุกวันนี้ เมื่อใดที่มีพายุก่อตัวขึ้นที่แหลมกูดโฮป ก็ยังมีผู้กล่าวว่า หากเพ่งมองเข้าไปที่ใจกลางพายุ ก็อาจจะเห็นเรือปีศาจลำนี้

                    อย่างไรก็ตาม มีบางคนอธิบายว่า เรือปีศาจที่เห็นนี้ อาจเป็นเพียงภาพลวงตาที่เกิดจากแสงสะท้อนเท่านั้น

     

     


     

                     คราวนี้มารู้จักกันโดยคร่าวๆ เรือลำนี้เรียกกันว่าฟลายอิงดัตช์แมน เป็นเรื่องเล่าขานในหมู่ชาวประมงในยุคกลาง ว่าเป็นเรือผีสิงที่ต้องคำสาปให้เดินทางในมหาสมุทรชั่วกัลปาวสาน ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ มักถูกพบเห็นในคืนที่มีหมอกหนาทึบ บางครั้งพบเห็นเป็นแสงประหลาดในเวลากลางคืน ว่ากันว่าเป็นแสงที่ลูกเรือลำนั้นส่งสัญญาณกับผู้พบเห็น เพื่อฝากข้อความถึงแผ่นดินใหญ่หรือคนรู้จัก

                    ฟลายอิงดัตช์แมนได้รับการบันทึกเป็นเอกสารมาตั้งแต่คริสต์สตวรรษที่ 17 และมีรายงานการพบเห็นเป็นครั้งคราวมาจนถึงคริสต์สตวรรษที่ 20 ครั้งหนึ่งที่ได้รับการบันทึก เป็นการพบเห็นโดยสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร เมื่อ ค.ศ. 1880 ขณะทรงดำรงพระยศเป็นเจ้าชายจอร์จแห่งเวลส์ ขณะนั้นทรงประจำการอยู่บนเรือรบ Bacchante นอกชายฝั่งออสเตรเลีย ระหว่างซิดนีย์ กับเมลเบิร์น

     

                    นักวิทยาศาสตร์ในอดีตให้คำอธิบายปรากฏการณ์ฟลายอิงดัตช์แมน ว่าเป็นปรากฏการณ์ทางแสงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็นมิราจหรือฟาตา มอร์กานา ที่เกิดจากการหักเห (refraction) และการสะท้อน (reflection) ที่พบเห็นในทะเล

                    เรื่องฟลายอิงดัตช์แมนถูกนำไปดัดแปลงเป็นบทละคร และนวนิยายหลายเรื่องในคริสต์ศตวรรษที่ 19 และถูกนำไปสร้างเป็นอุปรากร โดยริชาร์ด วากเนอร์ในปี ค.ศ. 1843 และปรากฏในวัฒนธรรมสมัยนิยมเป็นจำนวนมาก รวมทั้งเป็นชื่อเรือโจรสลัดลำหนึ่งในภาพยนตร์ชุด ไพเรทส์ ออฟ เดอะ แคริบเบียน ของดิสนีย์



     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×