ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    INFINITY S ; รัก เหลือ ร้าย! นาย(บอดี้การ์ด)เทวดา

    ลำดับตอนที่ #3 : ∞ 8's ∞ ขบวนการกาโอเรนเจอร์ =[]=!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 390
      0
      30 ต.ค. 54

     

      


     
    2

    ขบวนการกาโอเรนเจอร์ =[]=!

     

                    โรงแรม P&P ชั้น 26 (VIP)

                    ที่นี่เป็นโรงแรมที่พ่อฉันเป็นเจ้าของอยู่ ชั้นหนึ่งจะเป็นชั้นอำนวยการ มีห้องอาหาร ประชาสัมพันธ์ อะไรต่างๆ เทือกนั้นแหละ ชั้นสองเป็นฟิตเน็ต ตั้งแต่ชั้นสามถึงชั้นที่ยี่สิบห้าก็จะเป็นห้องพัก ส่วนชั้นที่ยี่สิบหกที่ฉันยืนอยู่ตอนนี้ เป็นห้อง VIP ซึ่งกินพื้นที่ของชั้น 26 ทั้งชั้น

                    พ่อให้มีที่นี่ไว้ก็เพื่อรับรองแขกคนสำคัญ หรือบางทีก็เอาไว้เปลี่ยนบรรยากาศเวลาที่เบื่อบ้าน ครอบครัวของเราก็จะมาอยู่ที่นี่

                    ความจริงแล้วอยู่นี่ก็ไม่ต่างจากอยู่บ้านเท่าไหร่นัก เพราะมันมีลักษณะเป็นห้องชุด มีห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำรวม ห้องนอน 4 ห้องในแต่ละห้องก็จะมีห้องน้ำในตัว ระเบียงก็กว้างมากๆ มากพอที่จะมีสระว่ายน้ำเล็กๆ ได้สระนึงเลยล่ะ

                    เห็นมั๊ยล่ะว่าอยู่ที่นี่น่ะสบายจะตายไป ถึงจะเล็กกว่าที่บ้าน แต่ฉันว่าดีกว่าอยู่บ้านล่ะนะ

                    ฉันยืนชี้นิ้วสั่งคนรถกับคนงานอีกสองคน ที่ขนข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ของฉันขึ้นมาให้ ว่าให้วางอะไรไว้ตรงไหน พอเรียบร้อยก็กล่าวขอบใจพวกเขา ก่อนจะเดินไปชื่นชมกับที่อยู่ใหม่ที่แสนสุขของตัวเอง ลัลล๊า~

                    “เอ่อ คุณหนูครับ

                    หืม?

                    คุณท่านบอกว่าประมาณพรุ่งนี้เช้าบอดี้การ์ดจะมาถึง

                    พรุ่งนี้เลยหรอ น่าจะอีกสักสามวัน

                    “=_=;;”

                    เอาเถอะๆ ยังไงก็ขอบใจมากๆ แล้วกัน

                    ครับ

                    พอบรรดาคนงานกลับไป ฉันก็เดินออกไปสูดอากาศรับไอเย็นของช่วงเวลาหัวค่ำ วันนี้ค่อนข้างเหนื่อย เพราะต้องรื้อของในห้องออกมาเก็บใส่กระเป๋าเยอะแยะ ฉันตั้งใจอยู่ที่นี่ค่อนข้างนาน เผลอๆ อาจจะอยู่จนเรียนจบไปเลยก็ได้

                    อยู่คนเดียวคงเงียบๆ เหงาๆ ถึงพรุ่งนี้จะมีบอดี้การ์ด แต่พวกนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี ชิ! บอดี้การ์ดน่ะพูดเป็นซะที่ไหนเล่า =_=;; แต่ว่าไป... ฉันชวนยัยออมสินมาอยู่เป็นรูมเมทก็ได้นี่นา เราสนิทกันออกจะตาย พ่อแม่ยัยนั่นไม่ว่าอะไรหรอก

                    ฉันโทรหาออมสินแล้วชวนมาอยู่ด้วยกัน แต่ออมบอกว่าตอนนี้ยังไม่ว่างคุย ไว้พรุ่งนี้เรียนเสร็จแล้วจะมาหา เพื่อนฉันเรียนนิเทศปีหนึ่งแล้วนะ แต่ฉันยังเป็นเด็ก(จบ)มอหกง้องแง้งๆ อยู่เลย ก็แหม! ฉันยังไม่รู้จะเรียนอะไรดีนี่นา –O-!

                    ฉันกินสลัดผักที่โทรสั่งจากข้างล่างให้เอาขึ้นมาให้ ก่อนจะอาบน้ำและเข้านอน

     

                    เช้าวันต่อมา

                    นายจะทำอะไรกับมันน่ะสต็อป เสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากห้องนั่งเล่น ปลุกให้ฉันตื่นจากอาการงัวเงีย นั่นมันเสียงผู้ชายนี่! ใครกันที่กล้าเข้ามาในนี้

                    เฉยๆ เหอะน่าสเต๊ป คอยดูซิว่าฉันจะเปิดมันได้มั๊ย เสียงหนึ่งตอบกลับก่อนจะพยายามทำอะไรสักอย่างกับสิ่งของบางอย่าง พอไม่สำเร็จก็มีเสียงหัวเราะและโห่ดังขึ้น

                    ให้ตาย! มีแต่เสียงผู้ชาย ฉันคิดว่ามันต้องไม่ต่ำกว่า 5 คนแหงมๆ ไอ้พวกนี้จะมาทำอะไรฉันมั๊ยเนี่ย =[]=^ (เริ่มวิตกจริต)

                    นายต้องกดที่สวิตช์ตัวนี้ต่างหากเล่า นี่ไง ใครอีกคนพูดขึ้นก่อนจะเปิดทีวี คนอื่นๆ ร้อง วาว

                    เฮ้! โง่ขนาดเปิดทีวีไม่เป็นกันเลยหรอเนี่ย =_=;; เอาละ ถ้ามันโง่ขนาดเปิดทีวีไม่เป็น ก็น่ากลัวน้อยลงหน่อย ทีนี้ฉันก็แสดงความเป็นเจ้าของที่นี่ได้ใช่มั๊ย ฉันลุกขึ้นจากเตียงแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะผลักประตูออกไปอย่างสง่าผ่าเผย

                    พวกนายมาทะ... OoO” ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรจบ เสียงของฉันก็ถูกกลืนหายไปกับอากาศพร้อมกับลูกกะตาที่โตขึ้นจากเดิม 3 เท่า

                    “Hello!”

    พวกเขาทั้ง... เอ่อ 1 2 3 4 5 6 7 8 พวกเขาทั้งแปดคนทักขึ้นพร้อมกัน

                    พระเจ้าช่วยหมวยตกท่อ! บอกฉันสิว่าที่อยู่ตรงหน้านี่คือมนุษย์ธรรมดา ไม่ใช่ขบวนการกาโอเรนเจอร์ =[]=! ดูแต่ละคนสิ เสื้อคลุมหนังยาวถึงเข่า ที่หน้าอกนั้นติดเข็มกลัดรูปปีกอะไรสักอย่าง เสื้อคลุมบ้านี่มีทั้งสีดำ ชมพู น้ำเงิน เขียว ฟ้า ทอง บลอนด์เงิน แล้วก็สีส้ม ถึงแม้ข้างในจะใส่เสื้อกล้ามและกางเกงสีขาวเหมือนกันก็เหอะ แต่มันก็ดูหลากสีอยู่ดีนั่นล่ะน่า ก็ตั้ง 8 คนนี่ (แถมแต่ละคน หน้าตาดีขั้นเทพ -.-)

                    แฟชั่นใหม่หรือเปล่าเนี่ย?? =O=;;

                    O_O??? ฉันยังยืนมองเควกชั่นมาร์กที่ลอยไปลอยมาตรงหน้า ในขณะที่ขบวนการกาโอเรนเจอร์แย่งกันนั่งโซฟาแล้วดูทีวีจอยักษ์อย่างสบายอารมณ์

                    ได้ไง นี่บ้านฉันนะยะ - -^

                    ฉันเดินไปปิดทีวีแล้วยืนเท้าสะเอวอยู่ตรงนั้น

                    นี่กาโอเรนเจอร์!! พวกนายเป็นใครกันห๊า!”

                    ก็กาโอเรนเจอร์ไง เมื่อกี๊เธอเรียกงั้นน่ะ อีตาชมพูว่า

                    ไม่ใช่อย่างนั้น! ฉันหมายความว่าพวกนายเป็นใคร มาจากไหน แล้วมาทำอะไรที่นี่

                    เอาความจริงมั๊ยล่ะ อีตาส้มพูดขึ้น เขากำลังพยายามแยกหมอนอิงรูปดาวสองดวงออกจากกัน เฮ้! มันเย็บติดกันอยู่นะ -_-;

                    “ไม่เอาน่าสตรอง เอางี้ ฉันจะแนะนำตัวกับเธอทีละคนแล้วกันนะ นายน้ำเงิมปรามเขาก่อนจะหันมาพูดกับฉันอย่างเป็นมิตร

                    ฉันสเต๊ป อินฟินิตี้เอสหมายเลขสาม นายน้ำเงินเริ่มพูดก่อน พอแนะนำเสร็จก็ลุกขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน นายชื่อสเต๊ปงั้นเรอะ โอเค ว่าแต่ว่า ไอ้อินฟินิตี้เอสหมายเลขสามนี่มันคืออะไรอ่ะ ??

                    “I am Stop. Infinity s number 2” สีชมพูเดินมาอยู่ด้านขวาของสเต๊ปแล้วแนะนำตัว (ภาษาอังกฤษด้วย กระแดะเนอะ - -*)

                    สตาร์ท หมายเลขหนึ่ง สีดำ หน้าตาไม่เป็นมิตร เดินออกมาต่อที่ด้านขวาของสต๊อปอีกที

                    ฉันสเตด เรียกว่าเซสก็ได้ หมายเลขสี่สีทอง อีตานี่ยิ่งโคตรไม่เป็นมิตรเลย ดูหยิ่งๆ ยังไงชอบกล เขาเดินอย่างสง่า ออกมายืนที่ด้านซ้ายของสเต๊ปแล้วคนต่อๆ ไปก็ยืนต่อด้านซ้ายไปเรื่อยๆ

                    สตรีม หมายเลขห้า ตามด้วยสีบลอนด์ เขานิ่ง แต่ดูเป็นคนมีความคิด เก่ง ฉลาด

                    สตรอม หมายเลขหก สีฟ้า ดูโหดๆ แฮะ -.- แหงะ! ทำไมต้องจ้องฉันอย่างงั้นด้วยง่ะ T^T

                    สตรอง หมายเลขเจ็ด สีส้ม ท่าทางอีตานี่ดูเหมือนพวกนักมวยปล้ำมากมาย ฉันไม่ได้หมายถึงรูปร่างหรือหน้าตานะ - - *

                    และกระผมสตอรี่ครับ หมายเลขแปด สีเขียวอ่อน นายนี่น่ารักมากมายเลยง่ะ อาจเป็นเพราะเขาเป็นคนแรก( และสุดท้าย T.T )ที่พูดเพราะด้วยล่ะมั้ง

                    “สรุปว่าพวกเราคือ Infinity s เป็นเท... เอ่อ เป็นอะไรนะสตรีม หมายเลขหนึ่งพูดขึ้น ก่อนจะหันไปถามหมายเลขห้า

                    บอดี้การ์ด

                    เออใช่ นั่นแหละ! พวกเราคือบอดี้การ์ดของเธอ

                    อินฟินิตี้เอส อืม ฉันคิดว่าคงเป็นชื่อกลุ่มของเขาล่ะมั้ง แต่เมื่อกี๊บอกว่าจะมาเป็นบอดี้การ์ดงั้นเรอะ พ่อฉันคิดอะไรอยู่เนี่ย = =^ สตาร์ท สต๊อป สเต๊ป สเตด(เซส) สตรีม สตรอม สตรอง สตอรี่ T[]T ม่ายยยยยย!!! นอกจากจะแต่งตัวประหลาดแล้วชื่อยังประหลาดเหมือนกันอีกงั้นหรอ พวกเขาคงไม่ใช่พี่น้องกันหรอก หน้าตาไม่เหมือนกันสักนิด แถมแต่ละคนก็ดูรุ่นราวคราวเดียวกันอีกต่างหาก ถ้าพวกเขามีแม่คนเดียวกัน อย่างเร็วสุดก็คงห่างกัน 1 ปี แล้วสตาร์ทกันสตอรี่ดูไม่น่าจะอายุห่างกันถึงแปดปีเลยนะ

                    พะ พวกนายแน่ใจนะว่าพ่อฉันจ้างมาเป็นบอดี้การ์ดให้ฉันน่ะ

                    “ก็ใช่น่ะสิยัยบื้อ เธอจะเลิกเอ๋อได้หรือยัง ก๊าซซซ!!! นายสตาร์ท นอกจากจะหน้าไม่เป็นมิตรแล้ว นายยังปากคอเราะร้ายอีกเรอะ ไม่ได้การละ! รู้จักพีพพินน้อยไปซะแล้ว

                    เป็นบอดี้การ์ด บอดี้การ์ดก็คือลูกจ้าง ฉันเป็นนายจ้าง ฉันมีสิทธิ์สั่งนายใช่มะ

                    ไม่ใช่

                    อีตาบ้าสตาร์ท ฉันไม่ได้ให้นายตอบ

                    ก็เธอถาม คำถามมีไว้เพื่อตอบ -_-”

                    “คำตอบที่ถูกต้องก็คือใช่! ฉันมีสิทธิ์สั่งพวกนาย!”

                    ว่ามาสิ

                    ก่อนอื่นฉันขอสั่งให้พวกนาย... เอ่อ อะไรดีฟะ ไม่ได้คิดไว้ก่อนซะด้วย -.-

                    “....

                    ให้พวกนายไป เอ่อ ไป เออใช่ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ ฉันไม่ต้องการมีบอดี้การ์ดเป็นขบวนการกาโอเรนเจอร์!”

                    ....

                    ทำไมพวกเขายังไม่ไปอีกล่ะ หูหนวกเรอะ - -*

                    ทำไมยังยืนเฉยล่ะยะ

                    ก็ไม่รู้จะไปเปลี่ยนที่ไหน ไม่มีเสื้อผ้าด้วย -_-“

                    เวรของกรรม T^T มันเป็นบอดี้การ์ดภาษาอะไรวะเนี่ย ไม่สิ ความจริงต้องถามว่ามันเป็นคนปกติหรือเปล่าต่างหาก ดูชุดที่ใส่ ชื่อ ลักษณะท่าทาง แล้วนี่ยังไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนอีกงั้นเรอะ

                    โอเค โอเค๊ T-T”

                    “o_O”

    ทำไมทุกคนต้องมองอย่างงั้นด้วยล่ะ ฉันแค่กำลังพยายามทึ้งหัวตัวเองเท่านั้นนะ T^T

                    “ไม่มีเสื้อผ้า หรือไม่ได้เอามาจากบ้าน

                    ถึงเอามา มันก็มีแต่ชุดอย่างนี้แหละน่า อะไรของเธอนักหนาเนี่ยห๊ะ - -^”

                    ให้ตายเหอะ! อยู่ที่บ้านพวกเขาก็ใส่ชุดแบบนี้งั้นเหรอเนี่ย Y-Y ปลงชะตากรรม ฉันต้องใช้ชีวิตอยู่กับกาโอเรนเจอร์จริงๆ สินะ

                    แต่ไม่ได้นะ! ฉันจะไม่ยอมออกไปไหนโดยที่พวกเขายังเป็นกาโอเรนเจอร์หลากสีแบบนี้หรอก

                    ถ้างั้น เงินเดือนเดือนแรก พวกนายก็เอามาเป็นค่าเสื้อผ้าก็แล้วกัน โอเค๊

                    “T^T ง่ะ

                    เดี๋ยวไว้ฉันจะไปซื้อมาให้ แต่ตอนนี้ห้ามออกไปไหนนะ ความจริงฉันต้องบอกว่า อย่าออกไปไหนด้วยสภาพแบบนี้นะต่างหากล่ะ

                    รับทราบคร๊าบ คุณหนู

                    พอฉันเดินกลับเข้ามาในห้องเพื่อที่จะอาบน้ำ อินฟิน (เอ่อ ขอเรียกอย่างนี้แล้วกัน) ก็กลับไปดูทีวีต่อ เฮ้! อย่ามาดูหนังโป๊ในบ้านฉันนะยะ - -^

     

                    20 นาทีผ่านไป...

                    เมื่ออาบน้ำและแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ฉันก็คว้ากระเป๋าสะพายที่เก็บของสำคัญๆ เอาไว้แล้วออกมานอกห้องทันที เชื่อฉันมั๊ย? อินฟินยังอยู่ที่เดิม ไม่มีใครขยับไปไหนหรือแม้แต่เปลี่ยนที่ =O=;; มันจะคลั่งไคล้อะไรกับทีวีนักหนาเนี่ย

                    แต่นั่นแหละดี พวกเขาจะได้ไม่ออกไปไหนยังไงล่ะ

                    “จะไปไหนน่ะ สตาร์ทว่าพลางส่งสายตาคมกริบมาที่ฉัน

                    ไปซื้อเสื้อผ้าให้พวกนายไง

                    ทำไมไม่เรียกเรา

                    เรียกงั้นเรอะ นายคิดว่าฉันจะพกกาโอเรนเจอร์ไปเดินห้างงั้นสินะ =_=

                    “ก็ เอ่อ... ฉันเห็นพวกนายดูทีวีกันเพลินๆ เลยคิดว่าไปคนเดียวดีกว่า

                    ปล่อยไปเหอะสตาร์ท มันยังไม่ถึงเวลา... สตรอมว่าพลางคว้าแขนของสตาร์ทเอาไว้ ยังไม่ถึงเวลาหมายความว่าไง...

                    เออๆ งั้นไปไหนก็ไปเหอะ รีบไปซี่ ไปไป๊!” อีตานี่! นึกอยากไล่ก็ไล่ บ้านฉันนะ บ้านช้านนนน!!!

                    ฉันเดินออกจากห้องไปแล้วลงลิฟต์มาที่ชั้นหนึ่ง ก่อนจะออกไปเรียกแท็กซี่หน้าโรงแรม ระหว่างทางฉันตรวจดูเงินในกระเป๋าแต่ปรากฏว่ามันเหลืออยู่แค่สามร้อยกว่าบาท ต้องซื้อเสื้อผ้าให้ผู้ชายตั้งแปดคนเชียวนะ เงินสามร้อย ซื้อกางเกงในยังไม่พอเล๊ย -..-

                    ฉันบอกน้าคนขับให้จอดแวะที่หน้าธนาคารแห่งหนึ่งก่อนจะลงไปที่ตู้เอทีเอ็ม กดเงินออกมาจำนวนหนึ่งแล้วหันหลังจะเดินกลับมาที่รถ

                    จู่ๆ... ลมก็พัดแรงจนฝุ่นเข้าตา ฉันพยายามขยี้ตาอย่างแรง แต่มันแสบมากจนน้ำตาไหล ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ทำไมทุกคนหยุดนิ่งเหมือนโดนสตั๊ฟฟ์ไว้อย่างงั้นล่ะ น้าคนขับรถอ้าปากค้าง ป้าขายกล้วยแขกหน้าธนาคารก็ค้างอยู่ในท่าคีบกล้วย...

                    ฟึบ~!

                    วัตถุแดงๆ บางอย่างลอยผ่านหน้าฉันไปทางขวา ฉันหันตามในทันที

                    มนุษย์(หรืออาจจะไม่ใช่)เพศชายผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าฉัน ผมสีเลือดยาวถูกรวบไว้ด้วยสร้อยสีเงิน เผยให้เห็นใบหน้าขาวซีด จมูกโด่งเป็นสันสวยราวทำศัลยกรรม =O=;; เอาใหม่ๆ จมูกโด่งเป็นสันสวยราวเอาไม้บรรทัดมาทาบไว้ ริมฝีปากเหยียดยิ้มเช่นปีศาจ ดวงตาที่หลุบต่ำลงนั้นเบิกขึ้น ถึงได้รู้ว่ามันเป็น... สีแดง!!!

                    ทันทีที่จ้องมา ฉันผงะถอยหลัง มันก้าวตาม ฉันก็ถอยอีก... ทว่า! ชิดกำแพงแล้ว!! ปีศาจตรงหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วสาวเท้าเข้าหาฉันช้าๆ ฉันหลับตาปี๋แล้วก้มหน้าลง เสียงนั้นค่อยๆ หายไปพร้อมกับลมที่พัดแรง แทนที่ด้วยเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจของผู้คน และอากาศที่ร้อนอบอ้าวของเมืองไทย

                    ฉันลืมตาขึ้นช้าๆ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ป้าขายกล้วยแขกก็ยังคีบกล้วยใส่ถุงกระดาษนั่นต่อไป น้าคนขับรถก็ยั่งนั่งแคะขี้มูกอยู่เหมือนเดิม นี่ฉันฝันไปงั้นหรอเนี่ย!!! ฝันบ้าฝันบออะไรกัน ทำไมแผ่นหลังยังชนอยู่กับกำแพง!! ทุกอย่างอยู่ที่เดิม แต่ทำไมฉันอยู่ตรงนี้!!

                    อยู่ดีๆ อารมณ์หลอนก็วกกลับเข้าสู่ระบบประสาทอีกครั้ง ฉันรีบวิ่งขึ้นรถแท็กซี่แล้วบอกให้คนขับรีบออกรถทันที ฉันไม่ได้ฝัน! ฉันเชื่ออย่างนั้น แล้วสิ่งที่ฉันเห็น สิ่งนั้นคืออะไร???

    ________________________
    SFK.an
    มาแว้วจ้าาา >O<
    มากันแล้ววว เหล่าอินฟิน
    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ยังไงแสดงตัวด้วยก็ดีนะ ><

    NoNgMiND'Z - มาอัพแล้วนะค้าา ขอบคุณค่ะ


    ขอบคุณสำหรับการแอดเฟป 1 แฟน ตอนนี้

    ทุกอย่างเป็นกำลังใจให้อย่างดีเลยค่ะ

    __________
    T B C >>>>>




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×