ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [SF] Self Willed เอาแต่ใจ [YooSu] Intro แนะนำตัวละคร
Title : [SF] Self Willed
เอาแต่ใจ[YooSu]
Writer : GroupBee @ TVXQTIME
Couple: YooSu [YunJae,MinRic]
Genre : Romantic Comedy
Intro
แนะนำตัวละคร คุณหนูจุนจัง VS คุณชายมาดขรึมปาร์คยูชอน
‘หวัดดีฮะ’ ชื่อผมน่ะหรอ??? จุนซูฮะ นักศึกษาปี4มหาวิทยาลัยมินวอน
คิม จุนซู คุณหนูผู้มั่งคั่งไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องฐานะทางการเงินหรือว่าหน้าตา รูปร่างน่ะหรอฮะไม่ต้องพูดถึงก็เพราะว่ามันเยี่ยมจริงๆน่ะสิฮะ...วะฮิยะฮ่าฮา! ขาว (อันนี้โอนะจุน) อวบ (ก็ยังไหวอยู่) ก้นงอน (เอ่อ...อันนี้เก็บไว้ให้ชายปาร์คก็แล้วกัน- -+) ความฮ๊อตน่ะหรอฮะไม่รู้สิไม่เคยเช็คเรตติ้ง...เอิ๊กกกกก เพื่อนสนิทที่ผมคบอยู่หันไปทางขวาสิครับคนที่ผมทองๆน่าตาน่ารักๆเขาชื่อคิม แจจุง เราสองคนเป็นเพื่อนคู่ซี้ที่สนิทกันมากๆเลยล่ะฮะฉายาของเราสองคนคือ 2คิม พวกเรามักจะถูกเรียกแบบนี้อยู่บ่อยๆพวกผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เปลี่ยนเรื่องพูดเถอะฮะมันจำเจ!‘อะไรนะฮะแฟนหรอ!นี่คุณกล้ามาถามผมแบบนี้ได้ยังไงกัน...ยังไม่มีหรอกฮะ...เอ่อไม่ใช่ว่าไม่มีใครมาจีบผมน่ะแต่คุณหนูอย่างผมน่ะช่างเลือกต่างหาก’
.
.
.
“จุนซู...นี่คิมจุนซู!ได้ยินที่ช้านเรียกแกม่ายห๊า!”คิมแจจุงเพื่อนสาว??คนสนิทแผดเสียงหวานไปลั่นโรงอาหารของมหาวิทยาลัยก็จุนซูน่ะสินั่งยิ้มเล็กยิ้มน้อยอยู่คนเดียวตั้งนานสองนานเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินไม่รู้ว่ากำลังเพ้อนึกอะไรอยู่คงไม่พ้นนั่งชมตัวเองเป็นแน่...นายนี่หลงตัวเองจริงๆเล้ยจุนซู
“อ๋อหรอ...ก็ชั้นไม่ได้ฟังนี่นาแกว่าอะไรนะแจ”เมื่อสติกลับมาดังเดิมจุนซูจึงย้อมถามในสิ่งที่เพื่อนรักยังคงถามค้างคาออกไว้
“ก็ยุนโฮน่ะสิโกรธชั้นอีกแล้ว”เรียวปากอวบอิ่มสีชมพูสดยู่เข้าหากันด้วยความขัดใจ
“เมื่อไหร่เจ้าหมีนั่นจะเลิกหึงแกเรื่องชั้นสักที เราสองคนอาจจะทำอะไรเกินความเป็นเพื่อนไปบ้างแต่รับรองชั้นน่ะอุเคะนะโว้ย!แล้วก็ร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วย”จุนซูพูดด้วยความมั่นใจก็ไอ้เรื่องที่ยุนโฮไม่มั่นใจในความเป็นเพื่อนของทั้งสองก็เพราะว่าคู่หูทูคิมชอบทำอะไรชนิดที่ว่าถึงเนื้อถึงตัวจนน่าตกใจหอมกันบ้างกอดกันบ้างบางทีก็ถึงกับจูบปลอบกันไม่เกรงใจหมีอย่างเขาเลยแล้วแบบนี้จะไม่ให้ยุนโฮหึงได้ยังไงเป็นใครใครก็ต้องคิดว่ามันดูมากกว่าเพื่อนอยู่ดี...ง่ะ
“อืมนั่นดิ...พวกเราน่ะเลือดเคะร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ว่ายังไงยุนโฮก็ยังไม่เชื่อชั้นอยู่ดี ทำไงดีอ่ะจุนช่วยชั้นคิดทีขืนปล่อยไว้นานๆนะได้โดนยัยพวกชะนีคลั่งได้คาบเอาไปกินกันพอดี”คนตัวเล็กร้องโอดครวญ
“ขอเวลาชั้นคิดก่อนนะ...แต่เอาไว้ก่อนแล้วกันเรื่องนั้นน่ะเพราะชั้นมีเรื่องที่สำคัญกว่า”
“เรื่องสำคัญกว่า...เรื่องไรอ่ะจุน”
“หึ...ก็เรามีนัดกันไงแจจุง”
“อ่า...ชั้นนึกว่าแกลืมไปแล้วซะอีก”
“ชั้นน่ะหรอเรื่องแบบนั้นน่ะ...ไม่มีทางลืมแน่นอน”เรื่องที่ว่าน่ะหรอฮะอย่างพึ่งคิดไปไกลก็คิมแจจุงเพื่อนรักของผมน่ะสิมั่นใจนักมั่นใจหนาว่าเรื่องนี้ผมต้องแพ้ชัวร์ถึงได้เอ่ยปากออกไปแบบนั้น แจจุงบอกว่าผมน่ะต้องยอมตกลงคบกับพี่ซีวอนที่ตามจีบผมตั้งแต่ผมยังอยู่ปี2แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้เป็นแฟนกับผมสักนิด เราพนันกันข้ามปีเลยล่ะฮะและสุดท้ายบทสรุปก็มาถึงคนที่แพ้ พนันน่ะหรอ?...ก็คิม แจจุงไง‘
‘นายแน่ใจนะแจจุงว่าถ้านายแพ้ชั้น จะพาชั้นไปช๊อปแหลกตามที่ว่าน่ะแล้วนายจะต้องเป็นคนเดินถือของตาม
ชั้นด้วยเข้าใจ๊!’คิดจะเล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับคิมจุนซู...วะฮิยะฮ่าฮา’
~ห้างสรรพสินค้า~
โมเดลเทรสสุดหรูที่เต็มไปด้วยสินค้ามากมายให้เลือกสันราคาน่ะหรอไม่ต้องพูดถึงมากกว่าเงินเดือนของใครบางคนด้วยซ้ำไป
“นี่!...จุนแกไม่เมื่อยบ้างหรือไงห๊า”
“นี่!...จุนแกไม่เมื่อยบ้างหรือไงห๊า”
“ไม่อ่ะ...ชั้นสบายม๊าก”เสียงแหลมดั่งโลมาเปล่งออกมาอย่างร่าเริงไม่ได้ใส่ใจเพื่อนร่างบางที่เดินถือของมากมายไม่ต่ำกว่าสิบถุงตามอยู่ข้างหลังเลยแม้แต่น้อย
“แกสบายแต่ชั้น...ไม่!”ดูเหมือนคำสัญญาที่ให้ไว้กับจุนซูจะลบออกไปจากใจของแจจุงจนหมดสิ้น ร่างบางเดินอยู่อย่างนี่มาร่วมสามชั่วโมงได้แล้วล่ะมั้ง และตอนนี้จุนซูก็ยังไม่หยุดเดินเข้าร้านนู่นออกร้านนี้ไม่รู้จะซื้ออะไรกันนักหนาไอ้เรื่องเงินทองน่ะไม่ใช่ปัญหาสำหรับแจจุงเลยแม้แต่น้อยแต่ต้องมาเดินถือของหนักๆนี่สิยองอุง???รับไม่ได้ คนตัวเล็กก้มลงมองนิ้วมือที่แดงก่ำแถมยังปวดระบมไปหมด...ปวดจนแทบจะไม่รู้สึกอะไรแล้ว
“จุนเขาไม่ไหวแล้วอ่า...จะเป็นลมแล้วด้วย”
“แต่ว่า...แจทำไมหน้าแกซีดอย่างนั้นอ่ะ? ขอโทษน้าชั้นมัวแต่เดินเลือกของจนไม่ได้สนใจแกเลยก็แจอ่ะอยากมาพนันกับชั้นทำไมล่ะ อ่า...มานั่งพักก่อนไม่ต้องถือมันแล้วของอ่ะเดี๋ยวชั้นให้คุณลุงคนขับมาเอาไปไว้ที่รถส่วนแกไปกินข้าวกับชั้น...ไป”จุนซูจัดการโทรศัพท์ให้คุณลุงพลขับมาเอาของไปเก็บส่วนตนนั้นก็เดินจูงมือแจจุงมายังร้านอาหารที่ทั้งคู้ชอบมานั่งทานทุกครั้งที่มาที่นี่
“แจจุงชั้นขอโทษน้า...ฮ์อ”จุนซูรู้สึกผิดที่ทำให้แจจุงเป็นแบบนี้
“ไม่เป็นไรหรอกจุนชั้นแค่หน้ามืดเฉยๆเอง...อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ”เมื่อจุนซูทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นก็คงไม่พ้นแจจุงที่ต้องเป็นฝ่ายปลอบใจแทน ทั้งคู้นั่งทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยหลังจากที่ใช้พลังงานกันมามากพลันดวงตากลมโตของแจจุงก็เหลือบไปเห็นร่างสูงโปร่งที่ดูคุ้นเอามากๆเลย
“ฮึ้ยจุน...นั่นมันไอ้หมีหนิ”
“อืม...ใช่เดินมากับใครน่ะ”
“อ๊าก...ไอ้หมีบ้าแกกล้าทำกับคนสวยๆอย่างชั้นแบบนี่หรอ!!”เสียงหวานพูดออกมาด้วยความคับแค้นใจเรี่ยวแรงที่เหมือนจะหมดไปมะกี้กลับมามีพลังอย่างที่ไม่มีใครได้ทันสังเกตเห็น
“จุนซูวันนี้ชั้นต้องไปสะสางกับยุนโฮก่อน...แกกลับเองได้ใช่มั้ย?”
“อะ...อื้ม”พยักน้าหงึกๆขืนบอกว่าไม่ได้เดี๋ยวได้กลายเป็นโลมาตายอืดกันพดีดูจากสีหน้าไอ้แจมันแล้วอ่ะนะ เมื่อล่ำลากันเสร็จแจจุงก็ไม่รอช้ารีบใส่เกียร์วิ่งตามสามีในอนาคตที่ตนนี้ทำตัวได้หน้าขัดใจซะเหลือเกิน
“อ่า...คนเป็นแฟนกันเขาเป็นแบบนี้กันทุกคู่รึป่าวนะ?”เมื่อทานอาหารเสร็จก็ถึงเวลาที่จุนซูจะต้องกลับบ้านสักทีร่างเล็กเดินออกมาจากร้านอาหารและเป็นเวลาเดียวกับที่ร่างของใครอีกคนวิ่งเข้ามาพอดิบพอดีด้วยความที่ทั้งสองไม่ทันได้ระวัง
“อ๊ะ!”
“อ๊ะ!”
~โครม!~
ร่างของทั้งสองคนที่ชนกันอย่างแรงนั้นจึงทำให้ทั้งคู่ล้มไม่เป็นท่าจุนซูรู้สึกเจ็บที่สะโพกดวงตาที่หลับปี๋เพราะความเจ็บเมื่อครู่ลืมโพร่งขึ้นมาทันที...ดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ ร่างเล็กพยุงตัวเองขึ้นมาพร้อมกับไม่รอช้าที่จะเข้าไปต่อว่าคู่กรณีที่ตอนนี้ยังนั่งอยู่กับพื้น...จุกจนลุกไม่ขึ้น
“นี่!...เดินภาษาอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือถ้าชั้นแขนขาหักขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ...นายมีปัญญาหรอ?”น้ำเสียงของจุนซูเต็มไปด้วยความโกรธที่พุ่งสูงและอารมณ์ที่บูดสุดๆ ร่างเล็กที่นั่งอยู่กับพื้นตอนนี้ค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้นมาได้แล้วยูวานเองก็ตกใจไม่น้อย
“เอ่อ...คือ”ท่าทางที่น่าสงสารของยูฮวานไม่ได้ทำให้จุนซูรู้สึกสงสารได้เลยแม้แต่น้อย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดูท่าว่าจะไม่จบลงง่ายๆร่างโปร่งที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ไกลๆเลยเดินเข้ามาเพื่อหวังจะช่วยคลีคลายสถานการณ์
“ริคกี้...เอ่อมีเรื่องอะไรกันรึป่าวครับ?”เสียงทุ่มๆมีเสน่ห์ของยูชอนเอ่ยถามร่างเล็กทั้งสอง
“มีสิก็แฟนนายเดินมาชนชั้นอ่ะ”
“แต่ผมไม่ได้ตั้งใจนี่ฮะ”
“จะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจชั้นไม่สน...ขอโทษชั้นเดี๋ยวเลย”น้ำเสียงที่เอาแต่ใจของจุนซูสร้างความไม่พอให้ใจกับคนที่ฟังอย่างยูชอนเป็นอย่างมากจริงๆแล้วกะอีกแค่เอ่ยคำขอโทษมันไม่ได้ลำบากเลยสำหรับตัวเขาและก็น้องชายแต่สิ่งที่จุนซูแสดงออกมามันเป็นกริยาที่เอาแต่ใจจนเกินไปและเท่าที่เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งสองคนก็ไม่มีใครเดินระวังเลยสักคนถ้าจะผิดก็คงจะผิดด้วยกันทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ...แล้วจะให้ยูฮวานมาขอโทษยัยคุณหนูนิสัยนี่อยู่ฝ่ายเดียวน่ะหรอคนเป็นพี่ที่รักน้องอย่างเขาไม่มีทางยอมแน่นอน
“อ่าว...นี่คุณพูดแบบนี้มันก็ไม่ถูกเท่าที่ผมเห็นคุณก็เดินไม่ดูทางเหมือนกันนั่นแหละเดินเอ้อระเหยเป็นคุณนายอยู่ได้”เมื่อพูดดีไม่รู้เรื่องชายปาร์คคนนี้ก็เริ่มจะอารมณ์บูดขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน
“นี่นายจะหาเรื่องชั้นหรอไง...กล้าดียังไงมาด่าชั้นในที่สาธารณะแบบนี้”
“เหอะ!...ไปริคเราอย่าเสียเวลาไปเถี่ยงกับคนแบบนี้เลย”ไม่สาวความให้เสียเวลาว่าจบก็ดึงมือน้องชายให้เดินตามตนออกไปทันที ทิ้งให้จุนซูยืนหน้าแตกอยู่กลางห้างแต่มีเรอะที่คิม จุนซูคนนี้จะยอมร่างบางรีบวิ่งไปดักหน้าสองพี่น้องตระกูลปาร์คที่ตนเองเข้าใจผิดคนว่าเป็นแฟน (โถ่...จุนแค่หน้าตานี่ก็กินขาดแล้วนะดูไม่ออกเลยหรอว่าเค้าเป็นพี่น้องกันน่ะ...- -+)
“หยุดนะ นายยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นขอโทษชั้นมาเดี๋ยวนี้...มาหลอกด่าชั้นแล้วจะมาเดินหนีไปแบบนี้ได้ยังไงกัน”
“เอ่อ...ผมขะ”
“หยุดริค...ไม่ต้องไปขอโทษอะไรทั้งนั้นแหล่ะผิดก็ผิดเหมือนกันแต่จะให้คนอื่นมาขอโทษขอโพยตัวเองฝ่ายเดียว แล้วคุณล่ะไม่คิดที่จะขอโทษคนอื่นเขาบ้างเลยหรือไงครับ”ใบหน้าอันหล่อเหลาของยูชอนยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานๆของจุนซู จนคนตัวเล็กต้องออกแรงผลักร่างโปร่งที่เอี้ยวตัวเข้ามาใกล้เกินความจำเป็น
“ชริ! ทำมาเป็นสุภาพบุรุษปกป้องแฟนคงจะแมนตายเลย...นี่เอาตัวสกปรกของนายออกไปห่างๆชั้นเลยนะ”จุนซูพูดพรางปัดเนื้อตัวทำเอายูชอนเริ่มที่จะทนนิสัยแย่ๆของคนตรงหน้านี้ไม่ได้
“ดูท่าว่าคุณจะเป็นลูกคุณหนูสินะ”
“ตาถึงนี่...ทำไมมีปัญหาหรือไง”เชิดหน้าขึ้นแบบเชิดๆพร้อมกับยิ้มอย่างภูมิใจ
“ถึงว่า...ก็ไม่ทำไมหรอกครับแล้วก็ไม่มีปัญหาด้วยแต่ดูคุณคงจะถูกเลี้ยงมาแบบผิดๆประมาณว่าถูกตามใจซะจนกลายเป็นคนนิสัยเสีย พูดจาก็ไม่น่าฟังแถมไอ้เรื่องดูถูกคนอื่นเขาเนี่ยมันคงจะกลายเป็น...นิสันหรอ...เฮอะ!ไม่นะจะใช่...”ทิ้งท้ายประโยคเอาไว้ให้จุนซูได้คิดเล่นแต่ทว่ากว่าคนตัวเล็กจะคิดออกก็กินเวลาไปหลายนาที ไอ้ที่ว่าไม่ใช่นิสัยแล้วมันจะอะไรล่ะถ้าไม่ใช่...‘สันดาน’ ใบหน้าขาวใสบัดนี้กลับแดงระเรื่อไปตามความโกรธจะตามไปต่อว่าก็คงจะไม่ทันซะแล้ว คิดแล้วมันก็น่าเจ็บใจชะมัด ถ้าจะแหบปากตะโกนร้องกรี๊ดตรงนี้มันก็ไม่ใช่ที่ ‘โอ้ย...จุนซูอึดอัด’ เกิดมาไม่เคยเจอใครที่หลอกด่าคนได้แนบเนียนแบบนายนั่นเลยจริงๆ(เอ่อ...นั่นเค้าเรียกว่าหลอกด่าหรอจุน แถวบ้านเค้าเรียกว่าด่ากันซึ่งๆเลยนะนั่น) ฝากเอาไว้ก่อนก็ได้ไว้เจอคราวหน้าล่ะก็น่าดู...รู้จักคิมจุนซูคนนี้น้อยไปซะแล้ว...ฮือคนสวยเจ็บใจวุ้ย!
“พี่มิคเราว่าเขาแรงไปป่าวอ่า”เสียงหวานของยูฮวานพูดขึ้นเขารู้จักนิสัยของพี่ชายตัวเองดี ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะมีพี่ชาย‘ปาร์ค ยูชอน’คนนี้คอยอยู่เคียงข้าง แม้ว่าตัวเขาจะทำผิดพี่ชายคนนี้ก็มักจะหาทางออกที่ดีให้เสมอแล้วถ้าเรื่องไหนที่เขาไม่ผิดแล้วล่ะก็พี่ชายของเขาไม่มีทางยอมก้มหัวให้ใครเป็นอันขาดฉะนั้นเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านมาสดๆร้อนๆมะกี้นี้ก็เป็นเหตุการณ์ตัวอย่างที่บอกได้เป็นอย่างดีว่านี่คือการปกป้องจากพี่ชายสุดที่รักวิธีหนึ่งเช่นกัน
“พี่ว่ามันยังน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับยัยคุณหนูปากมากแถมยังเรื่องมากแบบนั้นอ่ะ”ยิ่งคิดมันก็ยิ่งน่าโมโหคนอะไรเอาแต่ใจตัวเอาชะมัดมันน่าจับมาดัดนิสัยกับปาร์คยูชอนนัก
“เฮ้ย...พี่มิคพี่จะขับรถเร็วไปไหนคร้าบ...ริคกลัวนะ”
“อ่า...พี่ขอโทษนะริคมันลืมตัวอ่า”
“คร้าบ...ผมรู้เวลาที่พี่โกรธทีไรจะต้องเหยียบเกินสองร้อยทุ๊กทีนี่รถสปอร์ตจริงๆนะเฮียไม่ใช่เกมที่เฮียชอบเล่นอ่ะ”
“นี่ตกลงนายจะเป็นน้องหรือจะเป็นแม่ชั้นเนี่ยยูฮวาน”
“ง่ะ...ผมขอโทษฮะพี่ยูชอน”คำพูดที่ติดจะขี้เล่นช่างขัดกับใบหน้ายิ่งนัก ปาร์ค ยูชอนพี่ชายที่เงียบขรึมและเย็นชาที่สุด รอยยิ้มน่ะหรอไม่เคยมีใครได้เห็นมันหรอกครับเพราะพี่เขาไม่เคยคิดที่จะยิ้มน่ะสิ เหตุผลน่ะหรอฮะก็ยังไม่มีใครรู้เหมือนกันแม้แต่น้อยชายสุดที่รักอย่างผมก็ยังไม่เคย
“แต่พี่มิค...ริคว่าน่าตาเขาดูคุ้นๆยังไงไม่รู้อ่ะเหมือนริคเคยเห็นที่ไหนเลย”
“อืม...พี่ก็ว่างั้นอ่ะ อ่า...ถึงบ้านเราแล้ว”
“ฮะ...จริงด้วยงั้นเดี๋ยวริคไปหาป๊ากับม๊าก่อนดีกว่าคิดถึงจังเลยไม่ได้เจอตั้งสองวันแหน่ะ”น้ำเสียงดีใจปนตื่นเต้นของ
ปาร์คคนน้องทำให้ปาร์คคนพี่อดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้
“ฮ่า...นายนี่เวอร์จริงๆเลยริคกี้”
“ชริ...ริคไม่ได้เวอร์นะเฮียริคพูดจริงๆ...ไปดีกว่าเบื่อคนขี้อิจฉา”ว่าเสร็จก็สะบัดก้นเดินเข้าไปยังคฤหาสน์ทันทีปล่อยให้ยูชอนยืนมองการกระทำที่น่ารักของน้องชายไว้เบื้องหลัง รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นเพียงเล็กน้อยที่มุมปาก...แต่ใครจะสังเกตเห็นมันกันแม้แต่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตนเองนั้นได้เผลอยิ้มออกแล้ว
.
.
.
ผมน่ะหรอฮะเงียบขรึมเย็นชา..ใครบอก แต่ก็นะคงจะเป็นอย่างว่าที่เค้าว่ากันจริงๆนั่นแหล่ะแต่ที่บอกว่ารอยยิ้มที่ไม่มีใครเคยเห็นมันดูถ้าว่าจะไม่จริงนะครับ ผมก็ยิ้มของผมปกติแต่ไม่มีใครสังเกตรอยยิ้มชวนมองนั้นเองต่างหาก ถ้าคุณลองเปิดใจและมองมาที่ผมดีๆคุณก็อาจจะเห็นรอยยิ้มเพียงเล็กน้อยที่มุมบางของผมก็เป็นได้???...นี่ผมพูดอะไรออกไป...ยิ้มหรอ...???
อ่า...และแล้วก็ได้ฤกษ์สำหรับการลงSFเรื่องนี้สักทีหลังจากที่เจอมรสุมชีวิต...อิอิ คู่หลักของบีคือยูซู...ชอบมากเลยคู่นี้ยังไงก็ลองอ่านดูนะคะ มีอะไรก็ติชมกันได้เลยค่ะ...จะนำไปปรับปรุง ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น