ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BTS | Mischief Managed [KOOKV ft. YOONMIN, NAMJIN] #บทฮวอย

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 06: ฮอกส์มี้ด

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 59


    Mischief Managed 6

                   


    บ่ายอ่อนๆของวันศุกร์วันนี้ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ สาเหตุก็คงจะหนีไม่พ้นทริปเที่ยวฮอกส์มี้ดของนักเรียนปีสามขึ้นไปนั่นแหละ

    ซอกจินจำได้ว่าพวกเด็กๆในบ้านฮัฟเฟิลพัฟตื่นเต้นกันมาก การจะได้ออกไปข้างนอกรั้วโรงเรียนมันก็มีแค่สองอาทิตย์ครั้งนี่นา ถ้าอยู่ข้างในนานมากๆใต้สายตาของเพื่อนๆ อาจารย์ รวมไปถึงพวกทูติผีที่ปะปรายอยู่เต็มไปทั้งปราสาทมันก็ต้องรู้สึกอึดอัดเป็นธรรมดา

    ซอกจินต้องรู้ดีอยู่แล้ว เพราะขนาดเขาอยู่ในที่ที่ควรจะเป็นของตัวเอง อยู่ในความดูแลของคนที่เขาเชื่อว่ารักและหวังดีต่อกันมากที่สุดมันยังอึดอัดได้ขนาดนี้เลยนี่นา

    พรีเฟคปีหกฝ่ายชายของบ้านฮัฟเฟิลพัฟเอียงศีรษะพิงลงบนไหล่ของคนข้างๆ

    “ไม่อยากไปจริงๆเหรอ? เปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังทันนะจิน”

    ชื่อเล่นที่มาพร้อมกับเสียงทุ้มต่ำๆของเจ้าของหัวไหล่ทำให้ซอกจินส่ายหัว เขายิ้มและโบกมือให้กลุ่มรุ่นน้องคนสนิทที่กำลังก้าวขึ้นไปบนรถม้าคันสุดท้าย ซอกจินมองจนรถคันนั้นขับเคลื่อนออกไปพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆและมือที่ยังโบกลาเหนือศีรษะ

    “อยู่ตรงนี้กับนัมจุนก็ดีอยู่แล้ว ไม่อยากจะไปไหนทั้งนั้นแหละ”

      ปลายนิ้วก้อยของนัมจุนเกี่ยวลงที่ปลายนิ้วของซอกจิน เป็นสัมผัสที่บางเบา นุ่มนวลและสงบนิ่ง ไม่รู้สึกเลยด้วยซ้ำว่านัมจุนขยับแขนที่กำลังยกขึ้นกอดอกเมื่อกี้มาเกี่ยวก้อยกันไว้ตั้งแต่เมื่อไร

    มันแผ่วเบา แต่ก็ยังเป็นสัมผัสที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจมากเหลือเกิน

                  “เอายังไงดีล่ะ คราวนี้นอกจากพวกเด็กๆปีหนึ่งปีสองก็มีแต่พวกเราแล้วนะจิน” นัมจุนว่า ซอกจินขยับยิ้ม เขาขยับมือจากที่เกี่ยวก้อยกันไว้ให้เป็นการกุมประสานกัน ขยับแกว่งแรงๆให้นัมจุนหัวเราะตามเหมือนเด็กๆ

                  “นั่นสิ อยากไปที่ห้องครัวไหมล่ะ?”

                  ห้องครัวเป็นสถานที่ลับของฮอกวอตส์ ถึงจะเป็นที่สงสัยกันว่าพวกเอล์ฟประจำบ้านของฮอกวอตส์อยู่ที่ไหน ทำงานทั้งซักรีดเสื้อผ้าและยังทำอาหารให้กับนักเรียนจำนวนมากขนาดนี้ได้อย่างไรแต่ก็ไม่ค่อยจะมีใครรู้ถึงห้องครัวขนาดใหญ่ที่เป็นห้องลับ เบื้องหลังการทำงานทั้งหมดของพวกเอล์ฟประจำบ้าน

                  ซอกจินบังเอิญเจอมันในตอนที่ออกมาตรวจเวรตอนกลางคืน งานอย่างหนึ่งของพรีเฟคแต่ละบ้านก็คือต้องช่วยกันเดินเวรให้แน่ใจว่าไม่มีนักเรียนคนไหนออกมาเพ่นพ่าน

    (ซอกจินพบว่าส่วนใหญ่ไอ้ที่เจอๆก็เป็นพวกกริฟฟินดอร์ทั้งนั้น เขาเข้าใจว่าเด็กๆฮัฟเฟิลพัฟของเขากับพวกเรเวนคลอของนัมจุนเป็นพวกไม่ชอบหาเรื่องใส่ตัวกันอยู่แล้ว พวกสลิธีรินถึงคนจะชอบพูดกันว่าเป็นพวกแรงๆ ดูแบดๆหน่อยแต่ซอกจินก็คิดว่ามันเป็นการเหมารวมจากตอนที่มีสงครามพ่อมดครั้งใหญ่ที่ยุโรปเมื่อหลายสิบปีก่อนนั่นแหละ คือฝ่ายที่ไม่ดีดันมีพวกสลิธีรินอยู่เยอะไง มันก็เลยโดนหางเลขกันไปหมด แต่จริงๆแล้วซอกจินพบว่าคนพวกนี้ไม่ชอบหาเรื่องใส่ตัวเหมือนกันนั่นแหละ ยิ่งเวลานอนนี่ยิ่งไม่มีใครอยากจะสละไปแอดเวนเจอร์บ้าบอในปราสาทหรอก สุดท้ายมันก็มีแต่ไอ้พวกเฮๆเฬวๆแบบกริฟฟินดอร์ที่เอะอะก็ชอบท้ากันออกมาเดินเพ่นพ่าน ซอกจินเคยจับแบมแบมได้สามครั้ง แจ็กสันเก้า จองกุกหก โฮซอกห้า แม้แต่สาวนาอึนที่ซอกจินเห็นว่าดูน่ารักๆแล้วคบอยู่กับเยรินที่เรียบร้อยมากๆนั่นก็ยังจับได้สองครั้ง

    ส่วนไอ้คู่ชานแบคนั่นน่ะเหรอ? ถ้านับแค่ปีนี่ก็สิบหกครั้ง ถ้านับตั้งแต่ที่ซอกจินขึ้นมาเป็นพรีเฟคแล้วต้องเดินเวรอาทิตย์ละสามวัน วันละสามชั่วโมงก็สี่สิบกว่าครั้งแล้วมั้ง)

    อย่างไรก็แล้วแต่ ซอกจินแค่จะเดินเวรเฉยๆจริงๆ พอเดินเสร็จก็ทั้งง่วงทั้งเหนื่อยเลยเดินกลับไปที่หอฮัฟเฟิลพัฟที่อยู่ในชั้นใต้ดินของปราสาท เยื้องๆกับโรงครัวไปนั่นแหละ เป็นมุมบอดนิดหนึ่ง ตรงทางเข้าจะมีถังหลายๆใบวางซ้อนกัน วิธีเข้าไปในบ้านก็จะต้องเคาะถังที่ถูกต้องเป็นจังหวะ ดูเหมือนง่ายๆไม่มีอะไรแต่ซอกจินก็ได้ยินมาว่าไม่มีคนนอกสามารถเข้ามาในบ้านฮัฟเฟิลพัฟได้เป็นร้อยปีแล้ว

    ซอกจินกำลังจะเดินเข้าไปเคาะถังที่สองจากข้างล่างเมื่อเขาเดินสะดุดอะไรบางอย่าง พอก้มดูก็เห็นว่าเป็นเอล์ฟประจำบ้านที่กำลังเอาเสื้อผ้าของคนในบ้านไปซักรีดให้ เหมือนว่าเอล์ฟตัวนี้จะเพิ่งมาใหม่ถึงได้หายตัวมาผิดที่ ดันมาโผล่ที่หน้าบ้านฮัฟเฟิลพัฟแทนเสียอย่างนั้น

    แล้วหลังจากนั้นมันก็นั่นแหละ... ในเมื่อเจอกันขนาดนี้แล้วซอกจินก็เลยขอติดมาดูห้องครัวด้วยเสียเลย(แน่นอนว่าทางเข้าก็ซับซ้อนอีก ต้องไปเอานิ้วลูบหนวดของรูปปั้นตาแก่คนหนึ่งแล้วประตูโรงครัวก็จะปรากฏออกมา)

    พวกเอล์ฟบอกว่าซอกจินเป็นคนแรกในรอบหลายปีที่เจอโรงครัวนี่ ซอกจินชวนนัมจุนให้มาด้วยกันในคืนถัดมา แล้วหลังจากนั้นมันก็เหมือนจะเป็นที่ลับของเขาแค่สองคน

    “...เหม่ออะไร?” เสียงทุ้มของนัมจุนดังเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง ซอกจินส่ายหัว

    “เปล่า ก็คิดเรื่อยเปื่อย เออนี่ ฉันไปได้สูตรทำขนมจากคุณแม่ของจีมินนี่มาแหละ เดี๋ยวจะทำให้กิน ไม่ได้โชวพาวในห้องครัวมานานแล้ว”

    พวกเขาจูงมือกันเดินลงใต้ดิน ลูบหนวดรูปปั้นตาแก่ (“เขาไม่ใช่ตาแก่นะซอกจิน นี่มันคิม วอนอิล เป็นเชฟของจักรพรรดิ...” “ฉันไม่ได้อยากรู้อะนัมจุน”) แล้วก็เข้าไปในโรงครัวอย่างง่ายดาย

    “ให้ฉันช่วยไหม?” นัมจุนถามขึ้น เขาปล่อยมือซอกจินแล้วพับแขนเสื้อของอีกฝ่ายขึ้นให้ด้วยความเคยชิน พวกเอล์ฟที่มักจะเห็นพรีเฟคของฮัฟเฟิลพัฟกับเรเวนคลอเข้ามาใช้ครัวด้วยกันบ่อยๆเพียงแค่เคลียร์พื้นที่ให้อย่างรู้งาน

    “นัมจุนอา” ซอกจินถอนหายใจเบาๆ “ฉันรักนายนะ แต่อย่าดีกว่า”

    นัมจุนหัวเราะ

    “ก็พูดไปงั้นแหละ เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีน้ำใจ” ร่างสูงที่พับแขนเสื้อเชิร์ททั้งสองข้างให้ซอกจินเรียบร้อยแล้วลูบกลุ่มผมสีทองนุ่มมือนั่นเบาๆ

    “รักจินเหมือนกันนะ”

    ซอกจินยิ้มรับอย่างมีความสุข

    แค่เท่านี้ แล้วมันก็เหมือนว่าจะลืมเรื่องที่อึดอัดใจไปจนหมด           

     

                  …………

     

                  โอโห.. คุณพระ...

                  “มึงนี่เลเวลความเป็นโรคจิตไม่ธรรมดาจริงๆว่ะจองกุก”

                  “กูว่ามึงไม่ต้องมาตามรอยพ่อมึงไปจับพ่อมดสายมืดหรือไปเป็นซีกเกอร์มืออาชีพหรอก เห็นแบบนี้แล้วกูว่ามึงไปฝึกปรือการเป็นสต๊อกเกอร์หรือนักสืบนี่น่าจะรุ่ง”

                  สารพัดคอมเม้นจากเพื่อนๆที่ทำให้จอน จองกุกหันไปชูนิ้วกลางใส่พวกมันทั้งกลุ่ม ไอ้พวกที่เหลือหัวเราะด้วยความชอบใจก่อนที่นาอึนจะเป็นฝ่ายกลอกตาเซ็งๆ

                  “ทำไมต้องมาลำบากทำอะไรแบบนี้ด้วยวะ? ถ้าจะขนาดนี้แล้วแกเข้าไปขัดเขาเลยเหอะ”

                  “ก็ไม่ได้หน้าด้านขนาดนั้นหรือเปล่า?” จองกุกถามกลับ มือถือขวดบัตเตอร์เบียร์ใส่หลอดดูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด สองตาก็มองออกนอกหน้าต่างร้านสามไม้กวาดที่เป็นร้านยอดนิยมของเหล่านักเรียนฮอกวอตส์

                  ถ้ายังไม่เข้าใจว่าจอนจองกุกกำลังทำอะไร... เฉลยเลยก็แล้วกันเนอะ

                  มันก็มาแอบตามดูเดทของคิม แทฮยองบ้านฮัฟเฟิลพัฟกับคิม มินแจจากเรเวนคลอนั่นแหละ

                  ถ้าจะทักว่าเฮ้ย เดี๋ยวดิ คือทีมควิดดิชของกริฟฟินดอร์จะแข่งกับสลิธีรินพรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอ? แล้วจอง โฮซอกหัวหน้าทีมก็ลั่นวาจาไว้ว่าห้ามใครในทีมไปฮอกส์มี้ด ต้องอยู่ซ้อมไม่ใช่เหรอ?

                  คือเรื่องมันเป็นแบบนี้...

                  หมับ!

                  “ผมขอร้องนะฮยอง ถ้าฮยองยอมให้ผมไปขัดขาไอ้มินแจพรุ่งนี้ผมจะรักฮยองไปสิบชาติเลย จะเอาชัยชนะในวันเสาร์กลับมาให้ได้ จะเอาลูกสนิชมาขัดฟันให้ฮยอง โฮบิฮยองงงงงง”

                  คือแบบ มีกระต่ายตัวเท่าอุกกาบาตที่พุ่งมาชนโลกจนไดโนเสาร์สูญพันธ์มาเกาะขาอะคุณ มีเสียงมันมาพูดแจ้วๆอยู่นี่อะคุณ

                  คือก็ไม่ได้อะไรมาก แต่แม่งโคตรหนักเลย!

                  มึงทำอะไรทำไมไม่ดูไซซ์ตัวเลยวะจอน จองกุก??

                  “เชี่ยจองกุก นี่มึงลุกมาคุยดีๆก่อน” โฮซอกตับหัวเด็กมันไปพอหอมปากหอมคอ ดาวควิดดิชฉายามักเน่ทองคำของทีมลูบหัวตัวเองเบาๆแล้วขยับออกมาจากขาโฮซอก

                  “ฮยอง...”

                  มาและ สเต็ปอ้อน

                  ถามว่าไอ้จองกุกหล่อไหม? คือหล่อ คือโคตรๆหล่อ สามารถถามใจแฟนคลับมันที่คงจะไปโปกแบนเนอร์กระต่ายกระโดดหย่องๆข้างสนามตอนแข่งได้ (เป็นอะไรที่ถึงโฮซอกจะเอ็นดูและเข้าใจ แต่เวลาคนดูนั่งอยู่ชั้นสูงๆแล้วโปกป้ายแรงจนกระต่ายวิเศษที่ถูกร่ายมนตร์ให้กระโดดไปมาในแบนเนอร์นั่นหลุดพรวดออกมากลางสนามมันก็ตกใจเหมือนกันนะคุณ)

                  แต่บทจะน่ารักลูกตาที่เคยคมมันก็กลมๆใสๆเป็นลูกแก้วอะ โฮซอกมองเห็นการอ้อนวอนในดวงตาแวววาวที่เหมือนกระต่ายจูดี้คู่นั้น มองเห็นฟันหน้าสองซี่ที่ขบลงกับริมฝีปากยุ่นๆอย่างประหม่า

                  เชี่ย กูเห็นภาพอีกระต่ายโทนี่ สตาร์กของมันมาซ้อนทับ

                  “จองกุก นี่มึงกำลังจะขอกูโดดซ้อมการแข่งนัดสำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ของเรา เพื่อที่จะไปแอบตามและขัดแข้งขัดขาการเดทในสถานที่ที่สามารถไปได้แค่สองอาทิตย์ครั้ง ไปขัดความรักที่อาจจะเกิดขึ้นของคนสองคน ไปขัดขาคนที่มึงตามจีบมาเป็นปีแต่เขาไม่รู้ตัว กับไอ้ผู้ชายที่ไม่เคยไปทำอะไรมึงเลยซ้ำแล้วยังเป็นรุ่นน้องที่นัมจุนเพื่อนกูเอ็นดูด้วยน่ะเหรอ?”

                  “....ครับ...”

                  “เชี่ย น่าสนุกดี กูขอตามไปดูด้วยคนนะ <3

                  ทำไม? จะหาว่าจอง โฮซอกขี้เสือกเหรอ?

                  เออ พูดอีกก็ถูกอีกอะ คริ

     

                  แต่ก็นั่นแหละ สรุปแล้วพวกเขาก็เลยแห่กันตามจองกุกมาตั้งฐานทัพในร้านสามไม้กวาด นั่งกินอะไรกันเพลินๆระหว่างที่จองกุกมันจองที่นั่งริมหน้าต่างแล้วกำลังชะเง้อมองทุกครั้งที่มีรถม้าของโรงเรียนจอดลงว่าแทฮยองกับมินแจจะมาถึงฮอกส์มี้ดเมื่อไร

                  สองคนนั้นนั่งมาด้วยกันในรถม้าคันสุดท้าย จองกุกขบฟันกัดหลอดจนมันแบน คิม มินแจบ้านเรเวนคลอเป็นฝ่ายลงจากรถม้ามาก่อน คือมึงจำเป็นต้องยื่นมือจับประคองแทฮยองลงมาเหรอ? ถึงจะหน้าสวยแต่ก็ผู้ชายเหมือนกันหรือเปล่าวะ?

                  คือเสร่ออออ

                  “โอโห ความอิจฉาทิ่มหน้ากูมาก มึงเพลาๆลงหน่อยก็ได้มั้งครับจองกุก” แจ็กสันว่า แบมแบมที่นั่งอยู่ข้างๆมันชะเง้อยื่นหน้ามาจะมองออกนอกหน้าต่างด้วย

                  “เฮ้ย แต่เขาไม่ได้มากันแค่สองคนนะมึง ไอ้ยูคยอม ยองแจ จีมิน ซองแจก็มากันหมด อาจจะไม่ใช่เดทหรือเปล่าวะ?” แบมแบมท้วงขึ้น อย่างที่มันบอก พอมินแจกับแทฮยองลงจากรถมาแล้วเพื่อนๆในกลุ่มอีกสี่คนของแทฮยองก็พากันลงมาบ้าง

                  “ตอนกูไปถามยูคยอมมันก็บอกว่าแทฮยองไม่ได้ชวนมินแจไปเดทนะ แค่ชวนไปแฮงเอาท์ด้วยกันกับเพื่อนๆเฉยๆ”

                  “แต่ยัยอารึมบอกฉันอีกแบบนี่นา” นาอึนเถียง “ยัยนั่นบอกว่าแทฮยองไม่ได้ชวนไปสองต่อสอง แต่นางก็ได้ยินมาว่าปาร์ค จีมินกับเพื่อนๆของแทฮยองแพลนว่าจะจับคู่ให้ นี่ไง... พวกแกดูค่ะ”

                  ดูตามที่สั่งแล้วก็เห็นว่าเพื่อนๆของแทฮยองค่อยๆทำการสลายตัวไปทีละคนสองคน เริ่มจากการที่ปาร์ค จีมินสะกิดซองแจยิกๆแล้วหมอนั่นก็ลากยูคยอมออกไป หลังจากนั้นคนที่เหลืออีกสี่คนก็คุยกันสักพักก่อนที่จีมินจะดึงแขนยองแจออกไปอีกทางบ้าง เป็นการจับคู่ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในประวัติศาสตร์ คือแม่งมากันหกคนแต่สามารถทำให้เหลือสองได้ภายในสามนาที

                  สลัดมาก ปาร์ค จีมินนี่นอกจากจะเตี้ยแล้วยังเสร่ออีก เดี๋ยวปั๊ดจองกุกจะโบกให้

                  “เขาเหลือกันสองคนแล้วมึงจะเอาไงอะจองกุก” ไอ้คนขี้เผือกที่ขอติดมาปูเสื่อรอดูทุกอย่างอย่างโฮซอกถามขึ้น จอกกุกลุกขึ้นจากที่นั่งพร้อมกับขวดบัตเตอร์เบียร์

                  “ถามไม่คิด ก็ต้องตามไปสิวะฮยอง!

     

                  ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่งจะรีบอะไรกันขนาดนั้น

                  แทฮยองกระพริบตาปริบๆเมื่อลงจากรถม้ามาได้ไม่ถึงห้านาทีพวกเพื่อนๆที่นั่งมาด้วยกันก็พากันแยกย้ายไปคนละทาง ยูคยอมกับซองแจบอกว่าจะไปที่ร้านขายอุปกรณ์ควิดดิช ส่วนจีมินกับยองแจก็บอกว่าซอกจินฮยองที่ไม่ได้มาด้วยกันฝากซื้อของ จะรีบไปซื้อให้ฮยองก่อนนะ แล้วก็หายไปเลย

                  คือแทฮยองก็งงเหมือนกันนะ พวกมันโดยเฉพาะจีมินเนี่ยเป็นคนบอกให้แทฮยองไปชวนมินแจมาเที่ยวฮอกส์มี้ดด้วยกันไม่ใช่หรือไง? ไปชวนมาให้แล้วแท้ๆแต่ดันทิ้งกันไปหมดให้แทฮยองรับหน้าคนเดียวเนี่ยนะ?

                  แล้วจะให้ชวนมาเพื่อ?

                  “อ่าว ไปกันหมดเลย” แทฮยองบ่นพึมพำ เขาหันไปทางมินแจ “ขอโทษนะ ชวนมาด้วยกันแท้ๆแต่พวกมันทิ้งหมดเลยอะ”

                  น่าประหลาดใจที่คิม มินแจกลับหัวเราะ หนุ่มเรเวนคลอดูพอใจประหลาด

                  “ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย เราก็ไปกันสองคนก็ได้นี่นา นายอยากไปไหนล่ะแทฮยอง?”

                  “อ่า... ฉันเหรอ?” แทฮยองยิ้มเผล่ “ไปฮันนี่ดุกส์กันได้ไหม? เสบียงขนมฉันร่อแร่แล้วเนี่ย ต้องซื้อตุนเพิ่มสักหน่อย”

                  มินแจพยักหน้าตามใจ ทั้งสองคนเดินกันไปถึงร้านขนมของฮันนี่ดุกส์ แทฮยองกลืนน้ำลายเอื้อกให้กับของหวานมากมายที่เรียงรายกันเต็มร้านไปหมด ทั้งสารพัดช็อกโกแลตรูปร่างน่าทาน คาราเมลพัชจ์ที่น่าจะละลายในปาก ปากกาขนนกที่ทำจากน้ำตาล ไหมขัดฟันไร้น้ำตาล....

                  อ่า.... สวรรค์ของสายกินมันหน้าตาแบบนี้เองสินะ

                  “แทฮยองชอบอะไร?” มินแจถามขึ้น แทฮยองหยิบถุงกระดาษสำหรับใส่ขนมที่ต้องการมาแล้วก็สอดสายตามองหาที่คีบขนม

                  “ชอบหมดอะ เรื่องกินนี่ไม่เกี่ยง แต่ช่วงนี้อยากกินช็อกโกเลตไส้คาราเมลฟัชจ์มาหลายวันแล้ว”

                  อ๊ะ เจอที่คีบแล้ว มีคนเอามาวางทิ้งไว้ในกล่องเยลลี่ตรงนี้นี้เอ-

                  พรึบ!

                  “เดี๋ยวคีบให้ จะเอาอันไหน?”

                  แทฮยองสะดุ้งเมื่อมือที่กำลังยื่นออกไปหยิบที่คีบสีเงินนั่นคว้าได้แต่อากาศ ร่างสูงใหญ่ของจอน จองกุกที่ขโมยที่คีบขนมที่แทฮยองหมายตาอยู่ปรากฏกายขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มยียวน

                  โอโห มีแฟรชแบคนึกย้อนไปถึงตอนแข่งควิดดิชที่มันแม่งคว้าลูกสนิชที่แทฮยองเกือบจะจับได้ไปต่อหน้าต่อตา ฮึ่ยยย

                  แทฮยองเบ้ปาก แม่งหมั่นไส้อะ ทำให้นึกถึงตอนที่แพ้มันคราวก่อนขึ้นมาเสียได้

                  แต่ช่างมันเหอะ แทฮยองโตแล้ว ไม่ชอบมีเรื่องกับใคร มาเที่ยวจะมาหาขนมอร่อยๆกินทั้งทีแทฮยองจะไม่ยอมให้จอน จองกุกมาระรานให้เสียอารมณ์หรอกนะ

                  “ไม่เป็นไร นายเอาไปใช้เหอะ เดี๋ยวฉันหาอันอื่นแถวนี้ใช้ก็ได้” แทฮยองมองซ้ายมองขวาจะหาที่คีบขนมอีกอันจนไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มที่เจื่อนลงของอีกฝ่าย

                  คือมันก็เหมือนพระเจ้าเล่นตลกหรือพล๊อตของนิยายถูกๆเรื่องหนึ่งอะแหละ ในจังหวะดี๊ดีแบบนั้นคิม มินแจก็แม่งเอี้ยวตัวไปหยิบคีมที่คีบขนมสีเงินจากด้านหลัง มันยื่นให้แทฮยองที่ยิ้มหวานรับ

                  “ขอบใจนะมินแจ”

                  นกไหมล่ะกู?

                  จองกุกถอนหายใจ มันแย่จริงๆที่ตามมาถึงขนาดนี้ เสนอตัวอยากจะสนิทกับแทฮยองใจจะขาดแต่อีกฝ่ายก็แม่งซื่อบื้อเหลือเกิน แล้วนี่ห่าอะไรเนี่ย? พอออกมาตากลมได้ไม่ทันไรร่างกายที่เพิ่งจะหายหวัดด้วยความเร็วแสงของจองกุกก็เกิดทรยศ รู้สึกเริ่มจะมีน้ำมูกขึ้นมาอีกแล้ว

                  ร่างสูงของซีกเกอร์จากกริฟฟินดอร์เดินหนีไปอีกทาง เขาคีบขนมแถวนั่นใส่ถุงตัวเองส่งๆทำเป็นบังเอิ๊ญบังเอิญมาซื้อช็อกโกแลตร้านเดียวกันบ้าง ตาก็คอยเหลือบมองคิม แทฮยองที่กำลังเลือกขนมพร้อมกับฮัมเพลงหงุงหงิง เสียงทุ้มหวานที่เป็นของแทฮยองเท่านั้นทำให้รู้สึกอุ่นในอกแปลกๆ

                  โคตรขี้โกง ขนาดทั้งใจร้ายทั้งซื่อบื้อขนาดนี้ยังทำให้จองกุกแม่งโคตรชอบมากๆอยู่เลย

     

                  “โอ๊ะ ขอโทษครับ!

                  ปาร์ค จีมินรีบก้มหัวโค้งขอโทษเมื่อเขาคุยกับยองแจจนเพลินแล้วเผลอเดินชนคนที่กำลังเดินสวนออกมาจากร้านหนังสือเต็มแรง กระเป๋าหนังที่อีกฝ่ายถือมาตกลงพื้นพร้อมกับหนังสือข้างในที่กระจัดกระจายออกมา จีมินกับยองแจรีบก้มลงช่วยอีกฝ่ายเก็บ

                  เฮ้ย จะว่าไปไอ้กระเป๋าหนังแพงๆนี่ก็ดูคุ้นๆ...

                  จีมินเงยหน้ามองใบหน้าหวานที่ติดจะหล่อเหลาของมิน ยุนกิ อีกฝ่ายไม่ได้มีทีท่าว่าจะโกรธอะไรที่โดนชน เขายังดูง่วงๆ มือที่เอื้อมเก็บกระเป๋าตัวเองยังทำด้วยความรู้สึกเรื่อยๆเฉื่อยๆที่ดูไปดูมามันก็มีเสน่ห์แปลกๆ

                  “ขะ.. ขอโทษนะครับยุนกิฮยอง”

                  ตั้งแต่ที่ทำงานโปรเจ็คพิเศษของยุนกิด้วยกันมาจีมินก็คิดว่ายุนกิใจดีกว่าที่ใครต่อใครคิด ผู้ชายตัวขาวพยักหน้าเนิบๆพลางแบมือรับหนังสือที่ยองแจกับจีมินช่วยกันเก็บมาใส่กระเป๋าเหมือนเดิม

                  “เจอกันครั้งแรกนายก็เดินชนฉัน นี่ซุ่มซ่ามขนาดนี้ตลอดหรือเปล่า?” เสียงทุ้มต่ำนั่นทักถามเหมือนจะเย้าแหย่ จีมินมองมุมปากของมิน ยุนกิที่ยกขึ้นน้อยๆนั่นด้วยหัวใจที่เต้นรัว

                  คุณพระ พี่แกหน้าบูดๆนิ่งๆตามปกตินั่นก็ว่าหล่อแล้วนะ แต่พอยิ้มนี่แบบ

                  โลกของจีมินนี่สว่างไสวคร้าบบบบ *เอามือปิดตา*

                  “ผมคุยกับยองแจเพลินไปหน่อย ขอโทษจริงๆนะครับ...” แล้วอะไรบางอย่างที่ยุนกิพูดมันก็สะดุดหูจีมินแปลกๆ “...ยุนกิฮยองจำครั้งแรกที่เจอกับผมได้ด้วยเหรอครับ?”

                  “ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ?”

                  ฮืออออ พี่เขาจำกูได้ว่ะมึง พี่เขาจำกูด้ายยย

                  “...ไอ้เด็กที่มาวิ่งชนฉันแล้วก็ตะโกนขอโทษโดยที่ไม่มองหน้าแล้วหลบหน้าหายไปเป็นเดือนแบบนาย จำไม่ได้ก็โง่แล้ว”

                  รู้สึกเหมือนโดนลูบหลังแล้วตบหัวประหลาด จีมินยิ้มแหย ก็นะ... เผลอตื่นเต้นไปหน่อย มันก็จริงแบบที่ยุนกิฮยองบอกนั่นแหละ ดันเผลอไปทำตัวแบบนั้นใส่เขาจะจำไม่ได้ก็คงเกินไปหน่อย

                  นิ้วป้อมๆของจีมินกำลังจะยื่นหนังสือสองเล่มสุดท้ายไปให้ ยุนกิหยิบกลับไปเล่มหนึ่งแล้วดันมือเขาออก

                  “เล่มนั้นไว้ที่นายนั่นแหละ ฉันตั้งใจจะซื้อมาให้อยู่แล้ว เห็นบอกว่าไม่ค่อยเข้าใจวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดไม่ใช่เหรอ?”

                  แล้วมิน ยุนกิก็เดินออกไป จีมินก้มลงมองหนังสือเคล็ดลับวิชาที่ตัวเองเคยบ่นๆไว้ครั้งสองครั้งว่าไม่ถนัดนั่นดู

                  หัวใจที่เพิ่งจะสงบลงกลับมาเต้นรัวอย่างประหลาด

                  มึงครับ กูรู้สึกเหมือนเพิ่งโดนพี่เขาลูบหลัง ตบหัว แล้วก็กลับมาลูบหลังกูอีกครั้ง...

                  แล้วกูก็ฟินมากด้วยครับ ฮืออออออ

     

     Talk: มาทุกคู่ มีความดีกับใจ ฮรึกกกก

    เธออออ มีคนติดตาม Mischief Managed เกือบร้อยห้าสิบคนแล้วอะะะ ฮืออออออ

    ดีใจมากๆเลยค่ะ ไม่นึกเลยว่าจะมีคนอ่านเยอะขนาดนี้ ยิ่งพอคิดไปแล้วว่าเป็นเรื่องที่อิงโลกของแฮรี่ ต้องเป็นคนที่ชอบทางนี้และมีศัพท์เจาะจงที่ต้องทำความเข้าใจเยอะก็คิดไว้ว่าคงมีคนอ่านไม่มากหรอกมั้ง แต่เห็นแบบนี้แล้วดีใจจัง ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ 

    รู้หรอกนะว่าทุกคนกำลังรอให้จองกุกรุก คือหนูก็นกมาหลายบทแล้วนะลูก 55555 ทำยังไงดีล่ะ เราก็อยากให้รุกนะ แต่เรื่องนี้แต่งๆไปแล้วมันมีความ slow progression มากอะ 5555 คือด้วยความที่ว่าแทแทก็ซื่อบื้อเหลือเกิ้นนน ส่วนตัวพระเอกก็โดนตัดโอกาสตลอด นกตลอด 5555 นางไม่มีแบคอัพจากคนในบ้านฮัฟเฟิลพัฟเหมือนที่มินแจมีด้วยไง 

    แต่ใกล้แล้วค่ะ บอกได้แค่นี้ ใกล้แล้วจริงๆนะ 555555

    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นด้วยนะคะทุกคน กำลังใจดีมากก ทั้งที่ให้ตัวคนเขียนและผลักไสจองกุกให้รุก 5555 ชอบบบบ ขอบคุณมากนะคะ <3

    แล้วเจอกันใหม่นะคะ <3


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×