ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BTS | Mischief Managed [KOOKV ft. YOONMIN, NAMJIN] #บทฮวอย

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 05: พ่อสื่อจีมินนี่ (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 59


    Mischief Managed 5

     

                  “กร๊ากกกกกกกกกก กูกับเด็กน้อยแทแทเนี่ยนะ?”

                  พอรู้เรื่องปุ๊ปไอ้รุ่นพี่บยอน แบคฮยอนก็ถึงกับหัวเราะลั่นเลยทีเดียว บีตเตอร์ตัวเล็กของกริฟฟินดอร์หัวเราะจนน้ำตาไหล มือปาดน้ำตาไปปากก็ทั้งขำทั้งด่าจอน จองกุกสลับกันไป

                  “โอ้ยย กูก็กะแล้วว่าไอ้ที่ไปยืนลับๆล่อๆหลังเสานี่มันต้องมึง คิดว่าตัวเองตัวเล็กมากสินะมึงอะ?” แบคฮยอนถาม แขนตวัดขึ้นกอดคอจองกุกที่ได้แต่ปรายตามองอย่างไม่พอใจ

                  “รู้ว่าเป็นผมแล้วจำเป็นต้องพูดจาน่าคิดแบบนั้นไหมล่ะ?”

                  “เอ้า ก็จองกุกกี้อยากมาแอบฟังพี่น้องเขาคุยกันทำไมล่ะจ้ะ? หมั่นไส้อะ มีความสต็อกเกอร์สูงมาก เลยแกล้งเล่นสักหน่อย” แบคฮยอนหัวเราะคิกคัก “ไม่นึกว่าจะเก็บที่กูพูดมาคิดจนเรียนไม่รู้เรื่องขนาดนี้”

                  “แล้วที่บอกว่าฮยองกับแทฮยองไม่ได้เป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันนั่นล่ะ?”

                  “เอ้า ก็กูก็พูดถูกแล้วหรือเปล่าวะ? ไม่ได้เป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องในโรงเรียนกันจริงๆนะ กูกับน้องเขาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขกันเว้ยยยยย”

                  สลัด แม่งเกลียดไอ้หน้าตาอวดดีกับคิ้วที่ยักขึ้นๆลงๆของรุ่นพี่แบคฮยอนแม่งมาก

                  “แล้วทำไมฮยองไม่บอกผมแต่แรกล่ะวะว่าเป็นญาติกันน่ะ!

                  “อ่าว ก็กูไม่นึกว่าต้องบอกหรือเปล่าวะ?” รุ่นพี่หน้าสวยเกาหัวแกรก “ความจริงก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้สนิทกันมากนะ บ้านอยู่คนละเมือง เจอกันสองปีครั้งได้มั้ง เด็กน้อยมันเป็นพ่อมดนี่กูก็เพิ่งรู้ตอนเห็นมันโดนคัดเลือกในห้องอาหารตอนมันเข้าปีหนึ่งนั่นแหละ เล่นเอาตกใจเหมือนกัน”

                  ก็น่าตกใจอยู่ เพราะทั้งแบคฮยอนและแทฮยองก็มาจากครอบครัวที่มีแต่มักเกิ้ลทั้งคู่ การที่ญาติหรือพี่น้องจากครอบครัวที่ไม่มีเวทมนตร์ในสายเลือดเลยจะสามารถมาที่ฮอกวอตส์ได้ถึงสองคนถึงจะไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เห็นกันบ่อยๆ

                  “มึงก็เห็นมันตอนปีหนึ่งนี่จองกุก ตอนแทแทมันมาใหม่ๆมันไม่รู้เรื่องเวทมนตร์อะไรนี่เลย กูเห็นแล้วก็สงสาร ยังไงมันก็น้องกูเลยช่วยเท่าที่ช่วยได้ไป ไปๆมาๆก็สนิทกัน”

                  “แล้วทำไมต้องทำตัวลับๆล่อๆด้วยล่ะ? ไอ้จดหมายนั่นก็ด้วย”

                  “ก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำตัวน่าสงสัยนะ ตอนแรกๆก็ตัวติดกันดี มึงอะไม่ได้สนใจเองนี่นาตอนปีหนึ่งน่ะ” เจอแบบนี้แล้วจองกุกก็ได้แต่จิ๊ปากรับ ตอนปีหนึ่งเขาไม่ได้สนใจคนรอบข้างมากเท่าไรจริงๆนั่นแหละ มัวแต่ตื่นเต้นกับการได้มาเรียนแล้วก็ซ้อมเยอะๆเพื่อที่จะคัดเลือกเข้าทีมควิดดิชให้ได้ ใครจะอะไรยังไงนอกจากคนในบ้านกริฟฟินดอร์แล้วจองกุกก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักหรอก

                  “แต่ไปเรื่อยๆน้องมันก็เริ่มมีเพื่อน เริ่มสนิทกับจีมินยองแจอะไรพวกนั้น พอมันพออยู่เองได้กูก็ปล่อยไง ยิ่งมีซอกจินคอยดูให้กูก็ไม่ค่อยห่วง ส่วนไอ้จดหมายนั่นมันของแทแทนั่นแหละ เป็นจดหมายที่พ่อแม่เขาส่งมาให้”

                  “ส่งมาให้แทฮยองแต่ทำไมถึงใช้นกฮูกของแบคฮยอนโอปป้าล่ะ?” เคลียร์ไปหนึ่งเรื่องแล้วนาอึนก็ช่วยจองกุกถามเรื่องที่ยังคาใจเรื่องที่สอง แบคฮยอนโคลงหัวยิ้มๆ

                  “คุณอา.. พ่อแทแทน่ะนะ คุณอาเขากลัวนกฮูก”

                  “กลัวนกฮูก?”

                  “เออ คุณอากลัวนกฮูก เพราะอย่างนี้แทแทเลยเลี้ยงแมวไง ตอนแรกก็อยากได้นกฮูกนะเห็นเด็กน้อยคนนั้นว่า แต่เพราะพ่อไม่ยอมก็เลยต้องเป็นแมวแทน พอคุณอากลัวนกฮูกเด็กน้อยมันก็เลยใช้นกฮูกของโรงเรียนส่งจดหมายกลับบ้านไม่ได้ เวลาจะติดต่อกันเลยต้องผ่านกู แทแทเอาจดหมายมาให้กูส่งกลับไปให้ที่บ้าน แม่กูเอาจดหมายไปให้พ่อแม่ไอ้แท แล้วพวกคุณอาก็จะเอาจดหมายตอบรับส่งผ่านกูมาให้แทแทอีกที มันก็แบบนั้นแหละ”

                  “แต่ว่านะจองกุก มึงไม่เคยสงสัยเลยเหรอวะ?” แบมแบมเงยหน้าจากจุดที่กำลังพิงไหล่จองกุกอยู่ขึ้นมาถามเขาบ้าง “ทั้งแทฮยองทั้งแบคฮยอนฮยองก็หน้าเหมือนกันจะตาย ที่กูรู้ว่าเขาเป็นญาติกันก็เพราะกูเห็นว่าเหมือนมากเลยลองไปถามยูคยอมดูเล่นๆ ดันพลิกล็อกใช่ขึ้นมาซะงั้น”

                  “เหมือนเหรอ?” จองกุกมองหน้าแบคฮยอนที่ยักคิ้วกลับมาให้จากที่นั่งข้างๆชานยอล ซีกเกอร์ที่เป็นมักเน่ทองคำของทีมควิดดิชกริฟฟินดอร์ทำเสียงขึ้นจมูก

                  “ไม่เห็นเหมือนเลย แทฮยองกูอย่างกับนางฟ้า ฮยองคนนี้เหมือนนางฟ้าตกสวรรค์ลงไปกลิ้งในนรกสามตลบแล้วตกลงคลองแสนแสบ”

                  “ย่าห์ จอนจองกุก!!

     

                  ถ้าพูดถึงกริฟฟินดอร์ คนก็มักจะนึกถึงความกล้าหาญ นึกถึงทีมควิดดิชที่แข็งแกร่ง นึกถึงกับตันทีมจอง โฮซอกที่เฮฮาและเฟรนลี่จัดอยู่เสมอ นึกถึงสองบีตเตอร์ที่เก่งที่สุดในโรงเรียนจนใครๆก็เรียกพวกเขาเป็นแพ็คคู่ว่าคู่ชานแบค นึกถึงหวัง แจ็กสันที่เสียงดังอยู่เสมอ นึกถึงสาวงามที่มีอยู่น้อยนิดในบ้านแก่งอัศวินอย่างเยรินและนาอึน นึกถึงมักเน่ทองคำอย่างจอน จองกุกที่ดูเหมือนจะเพอร์เฟคไปหมดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ถานะ ความสามารถ หรือแม้แต่สายเลือด

                  ถ้าพูดถึงฮัฟเฟิลพัฟล่ะก็... คงจะเป็นความจงรักภักดี ความอ่อนโยน ความเสมอภาค ทีมควิดดิชของฮัฟเฟิลพัฟอาจจะไม่แข็งแกร่งเท่าของกริฟฟินดอร์หรือสลิธีริน คนในบ้านอาจจะไม่ได้หัวดีเท่าคนของเรเวนคลอ แต่ถ้าพูดถึงของดีของฮัพเฟิลพัฟแล้วล่ะก็...

                  ซองแจจะขอนำเสนอของสวยๆงามๆอย่างสามนางฟ้าประจำบ้านก็แล้วกัน คริ

                  ถึงจะเรียกกันว่านางฟ้าแต่มันก็คงไม่ถูกต้องเสียเต็มที่เท่าไรในเมื่อสามคนนั้นเป็นผู้ชาย... อย่างคนแรก คิม ซอกจิน ปีหก พรีเฟคที่หน้าสวยกว่าผู้หญิงหลายๆคนของฮอกวอตส์ ถึงจะตัวสูง ไหล่กว้างแต่ในเมื่อทั้งหน้าสวย ทั้งใจดี ทั้งทำอาหารเก่ง ทั้งชอบสีชมพูแบบนี้แล้วมันก็ไม่เป็นอุปสรรคในการฟิน! ซองแจคอนเฟิร์ม!!

                  คนที่สองก็ยกให้ปาร์ค จีมิน ถ้าคิม ซอกจินมาแนวเจ้าหญิงเจ้าชายดูสง่างามแล้วปาร์ค จีมินก็มาแนว... เอ่อ... แนวก้อนๆน่ะ... จะเรียกว่ายังไงดี...

                  เอาเป็นว่าน่ารักแล้วกัน! จีมินนี่แห่งฮัฟเฟิลพัฟเนี่ยเขามั่นใจว่าไม่มีใครจะควีโยมีเท่า ยิ้มทีตาก็ยิบหยีลงงุบงิบ ตัวก็เล็กๆกำลังพอดีไหล่ ดูร่าเริงและสดใส ยิ่งเวลาลงแข่งควิดดิชแล้วจีมินหรี่ตาลงเล็กน้อยดูมุ่งมั่นพร้อมกับเสยผมขึ้นแบบนั้น...

                  โคตรอปป้า!! คือแบบ ยิ้มก็น่ารัก พอโหมตจริงจังก็หล่อ! แฟนคลับทั้งชายทั้งหญิงบันไซ!!

                  ส่วนนางฟ้าคนที่สามน่ะเหรอ.. คงจะเดากันได้แล้วใช่ไหม?

                  ก็คิม แทฮยองไงจะใครล่ะ? คริ

                  ถ้าคิม ซอกจินสวย ปาร์ค จีมินน่ารัก คิม แทฮยองก็ “ยั่ว”

                  คือบอกได้คำเดียวจริงๆ

                  ที่แย่ไปกว่านั้นคือมันเป็นการยั่วปั่นหัวคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย กูอยากจิครายย

                  เพราะว่าคิม แทฮยองหน้าสวยมากไง พอทำหน้านิ่งๆเวลาเหม่อหรือใช้ความคิดเข้าหน่อยคนมองก็ใจเต้น พอหลุดเก็กแล้วทำตัวบ้าๆบอๆก็น่ารักมากจนใจเต้นอีก พอทำหน้ามุ่ยก็แม่งชอบเบ้ปากชอบทำปากยื่น คืออิเห้

                  มึงจะทำอะไรใจกูก็เต้น!! สนุกมากไหมฮะมรึงงง??

                  ซองแจไม่ได้คิดไปเองนะ ซองแจไม่ได้บ้า ไอ้การยั่วโดยไม่ได้ตั้งใจของคิม แทฮยองเนี่ย เขาเห็นมาทุกวัน ไม่อยากจะโม้ ถ้าเพื่อนๆกันในกลุ่มเนี่ยบอกเลยว่าเห็นจนแม่งชินและตายด้านไปเองหมดแล้ว แต่พอเห็นผลของการยั่วเบาๆของไอ้แทที่มีต่อผู้คนรอบข้างแล้วมันก็เพลียใจเหมือนกันนะบอกตรงๆ

                  อย่างตอนที่นี่แทฮยอง จีมิน ยองแจ ยูคยอมและซองแจมานั่งทำการบ้านกันที่ห้องสมุดแบบครบสูตรอยู่นี่ไอ้แทฮยองมันเกิดเมื่อย คือนั่งก้มหน้านานๆก็ปวดไหล่ไง กูเข้าใจ...

                  “อะ.. อื้อออ...”

                  แต่กูไม่เข้าใจว่าแค่มึงจะบิดขี้เกียจทำไมมึงต้องยกแขนสองข้างขึ้นไขว้ บิดเอว แล้วเอียงคอพิงแขนตัวเองทำตาปรือๆแล้วส่งเสียงอกุศลแบบนั้นมาด้วย?!!

                  สัสแท! แล้วกูนั่งตรงกันข้ามกับมึงนี่วิวกูยิ่งดีๆอยู่ กูเสียสมาธิ!!

                  ตุบ... ซองแจหันไปเห็นเด็กแว่นที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินไพลินของเรเวนคลอทำหนังสือหล่นดังตุบ มันกลืนน้ำลายเอื้อกก่อนจะรีบก้มเก็บหนังสือแล้วทำลนลานออกไปโดยที่ไม่ลืมจะหันมามองแทฮยองที่กำลังบิดขี้เกียจไปอีกข้างเพื่อความเสมอภาคอีกที...

                  “ซองแจ ขอลอกการบ้านอักษรรูนหน่อยสิ” มึงคงไม่รู้ตัวเลยสินะว่าก่อเรื่องอะไรไว้บ้าง... กะลาของมึงนี่แข็งแรงทนทานเสียจริงสินะ...

                  “มึงแน่ใจเหรอว่าอยากลอกกูจริงๆ?” ถามเสียงเรียบไปแล้วแทฮยองก็ชะงักคิดก่อนจะรีบส่ายหัว โอเคกูรู้ตัวว่ากูโง่อักษรรูนมาก แต่มึงนี่ก็รีบบอกปัดเร็วไปหรือเปล่าวะแทแทอา...

                  “เดี๋ยวไปขอให้มินแจช่วยแล้วกัน” แทฮยองว่า จีมินที่กำลังคำนวณการโคจรของดาวอะไรสักดวงของมันหันมายิ้มกริ่ม

                  “คิม มินแจนี่ใจดี๊ใจดีนะ ช่วยการบ้านไอ้แทตลอด เรียงความวิชาปรุงยาคราวก่อนก็ช่วย แกไม่ทำอะไรตอบแทนเขาหน่อยวะแทแทอา?”

                  “ทำอะไรตอบแทน?” แทฮยองเอียงคอ น่ารักอีกแล้ว กูล่ะเบื่อ “จะทำอะไรได้อะ? หัวมันก็ดีกว่าฉัน คงช่วยงานไม่ได้มั้ง ทำกับข้าวแบบซอกจินฮยองก็ทำไม่เป็น เล่นควิดดิชเป็นอย่างเดียวว่ะ ถ้าจะให้ยอมแพ้ให้ทีมเรเวนคลอของมินแจนี่...”

                  “ตลก พูดมาได้ นี่ที่นั่งทั้งโต๊ะที่ทีมควิดดิชของฮัฟเฟิลพัฟทั้งนั้นนะครับมึง พูดอะไรให้เกียรติกับตันทีมที่นั่งหัวโด่อยู่นี่ด้วย” ซองแจพูดขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน แทฮยองยู่ปาก

                  “ก็กำลังบอกว่าจะไม่ทำไหมล่ะมึง?”

                  “วันศุกร์นี้จะมีทริปไปฮอกส์มี้ดนะ” จีมินพูดต่อ ชื่อของหมู่บ้านเวทมนตร์เล็กๆที่อยู่ในระแวกฮอกวอตส์และเป็นที่ๆอนุญาตให้นักเรียนปีสามขึ้นไปออกไปเที่ยวเล่นได้ทุกๆสองอาทิตย์ทำให้แทฮยองตาลุกวาว

                  “อื้อ รู้แล้ว ฉันจะไปร้านขนมหวานของฮันนี่ดุกส์ อยากกินช็อกโกแลตใส้คาราเมลฟัชจ์มากๆเลยล่ะ แล้วก็จะเอาปากกาขนนกที่ทำจากน้ำตาลด้วย แล้วก็...”

                  “แทแทอา นายไม่ลองชวนมินแจไปฮอกส์มี้ดด้วยกันดูล่ะ?” จีมินพูดขัดขึ้นมา คำพูดที่ดูเหมือนจะเสนอให้เพื่อนชวนผู้ชายออกเดททำให้ยองแจ ยูคยอม และซองแจหันขวับมาดูท่าทางของแทฮยอง เจ้าตัวพยักหน้ารับง่ายๆ

                  “ก็เอาสิ ไปกันเยอะๆก็สนุกดี เพิ่มมินแจมาคนหนึ่งคงไม่ต่างจากเดิมเท่าไรมั้ง”

                  เอ่อ...

                  จีมินนี่... กูว่ามันไม่เก็ต...

                  ซองแจควงปากกาขนนกในมือ นึกขำอยู่ในใจแต่ก็อยากจะรู้ว่าจีมินจะสามารถเสี้ยมให้แทฮยองไปเดทกับไอ้บีตเตอร์ของเรเวนคลอคนนั้นได้หรือไม่

                  ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าจีมินพยายามจะเชียร์คิม มินแจให้จีบเพื่อนสนิทตัวเองให้ติดมากแค่ไหน... อย่างไรเสียก็เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันนี่นา พวกเขาเห็นตั้งแต่ที่มินแจคอยตามแทฮยองต้อยๆแล้วล่ะ มีงานอะไรหมอนั่นก็พร้อมจะช่วยเสมอ ดูใจดีกับแทฮยองมากจนแม้แต่ซอกจินฮยองที่ค่อนข้างจะหวงรุ่นน้องเอ๋อๆแบบคิม แทฮยองก็ยังยอมไฟเขียวให้ผ่านได้ เพื่อนๆในกลุ่มอย่างพวกเขาเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร จะมีก็แต่จีมินที่ติดเพื่อนสนิทมากจนชอบไปขัดขาคิม มินแจมันบ่อยๆ

                  แต่พอเกิดเรื่องตอนที่แข่งควิดดิชเมื่อปีที่แล้วแล้วมินแจยอมตีลูกบลัดเจอร์ให้พ้นจากทางของแทฮยอง ทำให้ซีกเกอร์ของฮัฟเฟิลพัฟจับลูกสนิชในไม่ถึงหนึ่งนาทีต่อมาพร้อมกับความพ่ายแพ้ของเรเวนตลอแล้วจีมินก็ดูจะปลื้มมินแจขึ้นมาทันตา ถ้าจับใส่พานถวายให้บีตเตอร์คนนั้นได้จีมินคงทำไปแล้ว

                  มันติดก็แต่ว่าแทฮยองคนโง่ก็ยังเป็นคนโง่อยู่วันยันค่ำนั่นแหละน้า...

                  ส่วนซองแจน่ะเหรอ? เขาเองก็ไม่ได้อะไรมากนักหรอก ยังไงเสียไอ้คนที่จะต้องคบเป็นแฟนมันก็คือแทฮยองนี่นา ไม่ใช่เขา แทฮยองอยากเลือกใครเดี๋ยวมันก็เลือกเองแหละ ถ้าไม่ทำตัวทุเรศมากซองแจก็ไม่คิดจะค้านอะไรอยู่แล้ว

                  แต่ว่า... อย่าไปบอกจีมินนี่นะ แต่เขาคิดว่าคิม มินแจน่ะ มันไม่น่าจะมีหวังเท่าไรนักหรอก

                  เพราะจากที่ซองแจมองๆมา ในจำนวนคนทุกคนในฮอกวอตส์เนี่ย เขายังไม่เคยเห็นแทฮยองจะสนใจใครมากเป็นพิเศษเลยนะ...

                  เออ อาจจะยกเว้นหมอนั่นที่เจ้าตัวชอบบ่นถึงว่าอวดดีนักหนานั่นแหละ


     ........50%.........


                  “ฮัดชิ่ว!

                  “เชี่ยจองกุก มึงจะมาป่วยไม่ได้นะเว้ย เฮ้ย เอาผ้าห่มมาดิ! นี่.. จองกุกมึงกินยาก่อน เอาแผ่นเจลลดไข้ไหม? เดี๋ยวกูไปขอยาจากห้องพยาบาล...”

                  “โฮซอกฮยอง ผมแค่จาม ไม่ได้จะตาย”

                  “จามก็ไม่ได้! เรามีนัดควิดดิชกับสลิธีรินเสาร์นี้นะเว้ย!” จอง โฮซอกร้องออกมา กับตันทีมควิดดิชของกริฟฟินดอร์ดึงแขนจองกุกให้ลงไปนอนบนโซพาปุๆ โฮซอกหันไปมองคู่ชานแบค แจ็กสัน และแบมแบมที่นั่งกันอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยกัน

                  “พวกมึงห้ามเข้าใกล้ไอ้จองกุกเกินสองเมตร!! ถ้าใครในทีมติดหวัดมันกูจะฆ่าพวกมึง!!

                  เสียงตวาดของกับตันทำให้ลูกทีมอีกสี่คนมองหน้ากันเองก่อนจะโบกมือหยอยๆให้จองกุกที่ยังถูกล็อกลงกับโซพาแล้วพากันสลายตัวเข้ากลีบเมฆ

                  คือพวกมึงรักกูมากสินะ สลัด

                  แล้วก็โฮบิฮยอง... คือกูไม่ได้เป็นหวัดนะ กูแค่คันจมูก!!

                  “ฮยองแม่งเวอร์ ผมสบายดีนะ เมื่อกี้แค่เหมือนมีผงเข้ามาในจมูก...” จองกุกเริ่มพูด พยายามจะยันตัวขึ้นจากเบาะโซกะแต่โฮซอกกลับรีบกดไหล่เขาลง

                  “สบายดีกับผี ตัวมึงรุมๆอยู่เนี่ย ก่อนหน้านี้มึงก็จามมาทั้งเช้า ถึงจะไม่ได้สะอาดมากแต่ห้องนั่งเล่นเราก็ไม่ได้ฝุ่นเขรอะขนาดนั้นปะวะ”

                  “..ถ้าผมจะป่วยจริงแล้วฮยองมานั่งให้ผมจามใส่หน้าอยู่นี่ฮยองจะไม่ป่วยตามเหรอ?”

                  “เออ เชี่ย กูลืม” โฮซอกฮยองของจองกุกรีบถอยกรูออกจากโซพาแทบไม่ทัน นี่ล่ะเหนอความรัก “กูเป็นกับตันทีมด้วย กูป่วยไม่ได้นะ”

                  “งั้นเดี๋ยวให้หนูดูไอ้กุกให้ไหมล่ะคะโอปป้า?” เสียงของนาอึนที่นั่งคุยกับเยรินอยู่ที่เบาะริมหน้าต่างพูดแทรกขึ้นมา “ยังไงวันนี้ก็มีเรียนด้วยกันทั้งวัน เดี๋ยวหนูกับเยรินคอยดูมันให้ก็ได้”

                  “ได้เหรอ? รบกวนหน่อยนะ” มีคนเสนอตัวมาแล้วโฮซอกก็รีบพยักหน้ารับหงึกๆ “มันเพิ่งเริ่มเป็นถ้าดูแลดีๆอาจจะหายทันเสาร์นี้ก็ได้ ถ้าแม่งดื้อไม่ยอมกินยาโอปป้าอนุญาตให้ตบได้แต่อย่าให้สะเทือนต่อสายตาและรีเฟลกซ์นะครับนะ”

                  นาอึนกับเยรินหัวเราะ คุยกันต่อสักพักแล้วสองสาวก็บอกลาโฮซอกที่จะออกไปที่ห้องสมุด เห็นว่านัดคิม นัมจุนบ้านเรเวนคลอไว้ทำงานกลุ่มด้วยกัน พอโฮซอกออกจากห้องไปแล้วจองกุกก็หรี่ตามองเพื่อนสาวสองคนอย่างไม่ไว้ใจ

                  “อยู่ด้วยกันมาห้าปีขนาดไอ้แจ็กสันโดนเวทมนตร์ย้อนกลับลื่นตกบันไดหัวแตกเธอยังแค่โยนมัฟฟิ่นที่อยู่บนโต๊ะอาหารมาให้มันแล้วบอกให้หายไวๆเอง นี่ฉันแค่เป็นหวัดมาเสนอตัวจะช่วยแบบนี้...” จองกุกยันตัวขึ้นนั่งแล้วเอามือกอดอก “แม่งโคตรไม่น่าไว้ใจ”

                  เยรินหัวเราะ นาอึนกลอกตามองบนแบบเหม็นเบื่อเพื่อนมาก

                  “พวกฉันมาดีน่า จริงๆดูจากอาการนายแล้วก็ไม่ได้เป็นมาก น่าจะแค่หวัด” นาอึนขยับเขามาเอามืออังหน้าผากวัดไข้ให้อย่างถือวิสาสะก่อนที่จะหันกลับไปหาเพื่อนสนิท “พาราเม็ดสองเม็ดเดี๋ยวก็ดีขึ้นมั้ง ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก”

                  “พารา?” จองกุกทวนงงๆ เยรินไม่ได้สนใจในความสับสนของคนป่วยแล้วก็พยักหน้าวิ่งขึ้นบันไดทางขึ้นห้องนอนของพวกผู้หญิงไปหน้าตาเฉย จองกุกหันกลับไปทางนาอึนบ้าง

                  “นี่ยัยบ้า ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพวกมักเกิ้ลเขาใช้อะไรลดไข้กัน แต่ฉันค่อนข้างจะมั่นใจว่ายางพารานี่กินไม่ได้ว่ะ”

                  นาอึนกลอกตาอีกครั้ง

                  “ยาพาราย่ะ ไม่ใช่ยาง” พูดแล้วหญิงสาวก็ชัดจะเบื่อหน้าไอ้คุณชายเลือดบริสุทธิ์ผุดผ่องนี่ขึ้นมาตงิดๆ ไม่รู้ว่าจอน จองกุกมันลงเรียนวิชามักเกิ้ลศึกษามาแล้วได้ความรู้อะไรประดับสมองบ้าง “เป็นยาแกไข้ของมักเกิ้ล สัญญาเลยว่าไม่ตายแน่ๆ กินแล้วมีแรงไปขัดขาคิม มินแจได้สบายมาก”

                  ชื่อของบีตเตอร์จากเรเวนคลอที่มักจะมีคดีด้วยกันอยู่ทำให้จองกุกหัวเราะ

                  “แม่งยุแยงว่ะนาอึน”

                  “จะยิ่งกว่ายุแยงอีก ฉันจะทำให้นายหายไข้ก่อนวันศุกร์นี้ให้ได้” นาอึนพูดอย่างมุ่งมั่น ความหนักแน่นประหลาดจากเพื่อนสาวที่เคยหัวเราะเยาะตอนจองกุกโดนลูกบลัดเจอร์พุ่งใส่หน้าจนเลือดอาบทำให้เขามุ่นคิ้ว ถึงนาอึนกับเยรินก็เชียร์ทีมควิดดิชของกริฟฟินดอร์อยู่แล้วแต่จองกุกก็ไม่เคยรู้สึกว่าเพื่อนผู้หญิงสองคนนี้จะอินจัดกับการแข่งขันจนอยากให้เขาหายไข้ขนาดนี้

                  “นี่อยากชนะสลิธีรินมากขนาดนี้เลยเหรอวะ?”

                  “โธ่เอ้ย ไอ้เกมควิดดิชด๋อยๆ-” จองกุกเอามือทาบอก นี่หล่อนกล้าพูดอย่างเต็มปากเลยเหรอว่าควิดดิชมันด๋อย? “-ฉันไม่ได้ใส่ใจหรอกย่ะ คริสโอปป้าของสลิธีรินก็หล๊อหล่อ ถ้าฉันอยู่ในทีมนะจะโยนชัยชนะใส่หน้าโอปป้าทันที บอกเลย แต่ประเด็นมันคือทริปฮอกส์มี้ดวันศุกร์นี้ต่างหากล่ะ”

                  “ทริปฮอกส์มี้ด?” จองกุกทวน “คิดว่าไปไม่ได้ว่ะ โฮบิฮยองสั่งให้ทีมอยู่ซ้อมที่โรงเรียน”

                  นาอึนบ่นพึมพำอะไรกับตัวเองใต้ลมหายใจ จองกุกค่อนข้างมั่นใจว่ามันเป็นคำสบถ

                  “งั้นก็ฉิบหายไป ตอนแรกนึกว่าจะเอาแกไปขัดเดทของแทฮยองได้ แต่ถ้า...”

                  “เดท?” จองกุกพูดขัดคนที่กำลังจะเริ่มพล่าม ซีกเกอร์ของกริฟฟินดอร์ที่รู้สึกสะดุดหูกับคำพูดของเพื่อนชักจะคิ้วกระตุก

                  “เมื่อกี้ว่าอะไรนะ? เดท? ของแทฮยองเหรอ? แทฮยองกูเหรอ?”

                  ถึงกับขึ้นกูมึงทันที ชื่อนี้มีความ effective ขนาดไหนถามใจเธอดู

                  “ค่ะ ยัยอารึมบอกมาอย่างนั้นนะ” นาอึนพาดพิงถึงเพื่อนสาวจากบ้านฮัฟเฟิลพัฟที่เป็นคนคาบข่าวมาบอก คือก็กำลังจะอ้าปากเล่าเรื่องเดทหวานชื่นของคนน่ารักดีกรีซีกเกอร์ฮัพเฟิลพัฟตามที่ได้ยินเขาเม้าๆกันแล้วล่ะ ถ้าไม่ติดว่าเผลอดันไปเห็นหน้าไอ้จอน จองกุก

                  และใบหน้าของไอ้จอน จองกุกก็แม่งมีความน่าสะพรึงสูงมาก

                  สลัดค่ะ แล้วกูยืนอยู่ตัวคนเดียวในห้องนั่งเล่นกับมันเนี่ยนะ? กูบอบบาง อ่อนหวาน หน้าสวยเป็นสโนว์ไวท์นะคะ โดนไอ้กระต่ายยักษ์ไททั่นฟาดลงมานี่กูไม่กระเด็นทะลุหน้าต่างตกไปในทะเลสาบเลยเหรอคะ?

                  คือเยริน นี่หล่อนไปเอายาจากห้องแลปเลยเหรอคะ? ขนาดตอนยาหมดบ้านแม่กูเดินไปซื้อพาราสองแผงหน้าปากซอยยังกลับมาเร็วว่าเธอเลยนะคะนะ

                  ถ้าโดนไอ้กระต่ายผีมันฆาตกรรมนาอึนคนสวยจะเป็นผีเฝ้าฮอกวอตส์นี่แหละค่ะ จะสิงสถิตอยู่ในห้องน้ำพรีเฟค เล็งเห็นแล้วว่าเหล่าพรีเฟคนี่งานดีมาก คิม ซอกจินเอย คิม นัมจุนเอย มิน ยุนกิเอย ดี๊ดี ถึงว่าผีเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญของฮอกวอตส์ฝั่งอังกฤษถึงไม่ไปผุดไปเกิดสักที

    อุอินะคะ

    ก็ว่าไปนั่น ถ้านาอึนก็ยังไม่อยากรีบตายหรือเปล่า? เสาร์นี้นาอึนรอดูคริสโอปป้าโหวดลูกบลัดเจอร์โชว์พลังแขนอยู่ปะแก?

    “เอ่อ.. จองกุก คือมันก็เรื่องที่พวกผู้หญิงเขาเม้าๆกันแหละน่า อารึมก็ขี้โม้ พูดจาอะไรเชื่อถือไม่ค่อยได้ แกอย่าเก็บมาคิดเลย โอ๋เอ๋ค่ะ”

    “โอ๋เอ๋พ่อง”

                  “...”

    กูผิดเองค่ะที่พยายามจะปลอบมึง

    “เธอมาพูดขนาดนี้ถึงกับจะบิ้วต์จะให้หายป่วยเร็วๆแบบนี้คงไม่แค่เม้าๆกันขำๆมั้ง แทฮยองฉันจะไปไหนกับใคร? ได้ยินอะไรมาจริงๆใช่ไหมล่ะ?” จองกุกยังคาดคั้น ดวงตากลมใสๆที่นับวันยิ่งจะคมเข้มขึ้นเรื่อยๆทำให้นาอึนนึกย้อนไปถึงตอนปีหนึ่งที่เธอเจอจอน จองกุกที่อายุสิบสี่ปี เด็กผู้ชายผิวขาวๆ ตากลมๆ ฟันสองซี่ข้างหน้าที่ดูจะเด่นกว่าชาวบ้าน ปากชมพู้ชมพูจนในวงขาเม้าของสาวๆมีการตั้งพนันกันขึ้นมาว่านั่นใช่สีปากจริงๆของจอน จองกุกหรือว่าหมอนั่นแอ๊บทาปากมาโดยตลอดกันแน่... ผู้ชายน่ารักๆในวันนั้น คนที่นาอึนตะปบเข้าหาเอามาร่วมวงเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันด้วยทันทีเพราะเห็นว่าจองกุกมันหน้าตาน่ารักแล้วดูใสๆซื่อๆม๊ากมาก... คือกริฟฟินดอร์ปีห้ามันมีผู้หญิงแค่สองคนคือนาอึนกับเยริไง พอเห็นคนน่ารักๆแบบแบมแบมงี้นาอึนเลยฉุดมาเข้ากลุ่มแบบไม่สนใจใคร พอเห็นว่าจอน จองกุกน่ารักเหมือนกันก็เลยฉุดมาด้วย

    เออเนอะ แม่งรู้สึกเหมือนโดนหลอกว่ะ

    ความน่ารักในวันนั้นแม่งกลายเป็นไททั่นบ้าพลังขึ้นมาได้ยังไง? นาอึนงงแรงมาก

    “ก็... จะว่าได้ยินมันก็ได้ยินว่ะ...” นาอึนตอบเสียงอ้อมแอ้ม คือถามจริงๆ อิเยรินนี่หายไปไม่คิดจะกลับมาอีกเลยเหรอ?

    “ได้ยินอะไร?”

    “...ได้ยินแทฮยองชวนมินแจไปฮอกส์มี้ดด้วยกัน...”

    “...”

    “...”

    “...”

    “..จองกุก แกอย่าเงียบได้ปะวะ? คือกลัว TOT”

    จอน จองกุกตวัดตามามอง

    “ก็ส่องกระจกอยู่ทุกวัน ยังจะกลัวอะไรอีก?”

    โอโห้... ดูถูกใบหน้าอันงดงามของสาวน้อย สลัดค่ะ วันหลังกูจะไม่ช่วยมึงแล้ว

    “ขอให้คิมมินแจรักกับคิมแทฮยองนานๆ ไปฮอกส์มี้ดคราวนี้ขอให้คิมแทฮยองสะดุดก้อนหินล้มเข้าสู่อ้อมกอดอันแข็งแกร่งของคิมมินแจ ขอให้บรรยากาศเป็นใจใบซากุระพัดมากับสายลม ขอให้คิมมินแจโน้มหน้าลงช้าๆและ... โอ้ย!! สลัดค่ะจองกุก! หัวสาวสวยนะคะไม่ใช่นุ่น! โบกมาได้!

    จองกุกกอดอก ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึง

    “พูดไม่เข้าหู” ว่าแล้วมันก็ก้มหน้านั่งจิกโซพาแคะตะเข็บกางเกงอะไรของมันไปเรื่อยเปื่อย จมูกโด่งๆเริ่มจะส่งเสียงฟืดฟาดเพราะไม่สบาย เมื่อกี้เอามือไปทาบหนังหนาฮีแล้วก็ดูจะตัวรุมๆ

    โธ่ พอมันหงอยแล้วน่าสงสารอะ เหมือนกระต่ายตัวโตๆที่มีคนแย่งแครอทไปต่อหน้าต่อตาด้วยหัวใจที่เลวทรามอะไรแบบนี้

    “เอาน่า จองกุก แกก็แค่รักษาตัวเองให้หายไวๆไง กินยาแล้วก็นอน”

    “หายไวๆก็เท่านั้น แทฮยองก็ยังจะไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นอยู่ดี...”

    โถ่วววว ไอ้กาตุ่ยเอ้ยยยยยย

    ใบหน้าที่ไม่รู้จะเรียกว่าหล่อหรือน่ารักนั่นยู่ลง ดวงตาสีเข้มที่ทอประกายใสๆเหมือนลูกแก้วผลุบลงต่ำ

    มึงนี่บทจะมุ้งมิ้งก็ไม่เกรงใจความเป็นนางเอกรักเด็กและสัตว์เล็กของกูเลยค่ะ

    “เออน่า คิดดูดีๆนะ ถึงฉันจะชวนไปขัดจังหวะเขาก็เหอะ แต่นายจะกล้าไปขัดเขาจริงๆเหรอจองกุก? แทนที่จะไปดูอะไรให้หงุดหงิดอยู่เล่นควิดดิชก็ดีนะเว้ย หรือถ้าไม่สบายใจจริงๆฉันกับเยรินไปเป็นสายลับให้ก็ได้เอ้า ถ้าเกินเลยแม้แต่ปลายเล็บจะร่ายเวทย์พื้นลื่นเอาให้มินแจล้มหน้าแหกไปเลย”

    จองกุกสูดน้ำมูก ผู้ชายตัวสูงเงยหน้าขึ้นมองนาอึนที่กำลังยืนเท้าเอวใส่ไฟแบบไม่ค่อยไว้ใจ

    “พูดไป หน้าแบบเธอจะไปทำอะไรเขาได้ฮะ? แค่เห็นหน้าไอ้มินแจก็ไปไม่ถูกแล้ว”

    “อ่าวไอ้นี่ ฉันผิดเหรอยะที่แพ้ผู้ชายหล่อๆน่ะห๊า???”

    นาอึนชักจะรำแล้วนะเว้ย ไอ้นู่นก็ไม่ดีไอ้นี่ก็ไม่ดี จะช่วยแท้ๆแต่แม่งไม่เอาสักอย่าง จะปลอบใจก็มาขัดขากันอีก!

    คราวนี้จองกุกชักสีหน้าครุ่นคิด

    “แต่ฉันก็หล่อนะ”

    “โอโห... ความบากหน้านี่อยากจะปรบมือให้เลยค่ะ” นาอึนปรบมือแปะๆ “คือยังไงดี ผู้หญิงกรี้ดแกเยอะนะเว้ยไอ้กุก แต่แบบ สเป็คฉันไม่ใช่ผู้ชายที่โตเป็นหมีแต่นั่งเล่นตุ๊กตาไอรอนแมนพร้อมกับใส่ถุงเท้าไอรอนแมนแล้วยังมาตั้งชื่อกระต่ายว่า...”

    “ฉันตั้งชื่อกระต่ายตามพ่อฉันเหอะ!

    “โอ้ยยย ต้องให้กูบอกกี่ครั้งคะว่าพ่อมึงชื่อจอน ยอนฮวาน! ไม่ได้ชื่อโทนี่ สตาร์ก! อีผี!

                 

     

    Talk2: รักนาอึนมากอะ บอกเลย 55555555

    อินเนอร์นางมาเต็มมาก จริงๆจะเขียนท่อนที่คุยกับจองกุกสั้นๆนะคะ แค่บอกข่าวน้องว่าแทแทมีเดทนะเอออ แต่เขียนแล้วติดลมอะ นาอึนเขียนง่ายจริงๆ คืออินเนอร์ไง 5555555555


    Talk: แหนะ เห็นชื่อตอนแล้วนึกว่าเป็นพ่อสื่อให้แทแทกับจองกุกใช่ไหมล่ะ? ผิดคาดไหมคะ? จีมินนี่เขาเชียร์มินแจค่าาา สาย#MinV อะใครจะทำไม? ในเมื่อจีมไม่ได้คู่กับแท ก็เอาอีกมินมาคู่ด้วยแล้วกัน 555555555555

    เสียใจเบาอะ นอกจากคนอ่านจะเพิ่งโดนบฮ.สับขาหลอกใน #WingS4 ตอน First Love แล้วยังโดนชื่อตอนฟิคเรื่องนี้สับขาหลอกอีก 555555555 

    (แต่นิดหนึ่งเหอะ เอาโวคอลไลน์มาเรียงๆกัน มีวงกลมสี่ลูก แหมมมมมมมมม คือตั้งหน้าตั้งแต่ดูพี่จินมากไงเธอออ เชื่อมั่นมากว่าพี่แกคือกุญแจดอกสุดท้าย หนังสั้นอีกที่สี่เนี่ยแหละเรื่องสุดท้าย อยู่ๆเจอพี่ก้าเฉ้ยยยย คือแบบ งงอะ แวปแรกที่เห็นก็คิดอยู่นะว่า เฮ้ย ทำไมคนในหนังสั้นเหมือนพี่ก้าวะ? เหมือนมากเลยนะ แต่นี่มันเรื่องของพี่จินไม่ใช่เหรอ? ทำไมมีพี่ก้า? หรือว่านี่คือพี่จินแต่แสงสีเสียงมันสลัวๆจนเรามองเป็นพี่ก้า? ทำไมเราถึงมองพี่จินเป็นพี่ก้า? นี่เรามันอาร์มี่แบบไหนกันวะ??? ฮรึกกกกกกส์!

    มีความเสียเซลฟ์หนักมากกว่าจะรู้ตัวว่าแกเอ้ย นั่นมันพี่ก้าจริงๆค่ะ เธอโดนสับขาหลอกค่ะ จบนะคะ

    บฮ.มีความร้ายกาจอะ รู้สึกเหมือนกำลังโดนล้อเล่นกับความรู้สึกที่บริสุทธิ์ 555555555555)

    เดี๋ยวจะมาต่ออีกครึ่งหนึ่งนะคะ รอแปปหนึ่งน้าา

    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นเสมอนะคะ ดีใจมากกกก กอดดดด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×