คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 01: วิชาแปลงร่างกับจอน จองกุก
Mischief Managed 01
คิม แทฮยองโคตรจะเกลียดจอน จองกุกเลย
ร่างสูงที่ติดจะเพรียวบางของคิม แทฮยองกอดอกมองจอน จองกุกที่เพิ่งจะสามารถใช้คาถาเปลี่ยนร่างจากหนูให้หลายเป็นถ้วยชาได้เป็นคนแรกของห้อง
อาจารย์ชเวปรบมือและเอ่ยปากชื่นชมจองกุกยกใหญ่
“สมแล้วที่เป็นเธอนะจองกุก
คนจากครอบครัวจอนนี่ไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ เก่งเหมือนพ่อไม่มีผิด”
พูดไปแล้วอาจารย์ร่างท้วมก็ติดลมเล่าย้อนไปถึงสมัยที่เรียนอยู่กับพ่อของจองกุกเมื่อหลายปีก่อน
เรื่องบ้าอะไรไม่รู้ที่แทฮยองเองก็ได้ฟังมาจะเป็นร้อยรอบอยู่แล้ว
ไม่รู้อาจารย์แกจะติดใจอะไรพ่อไอ้จองกุกนักหนา
ก็แค่ตอนนี้เป็นมือปราบพ่อมดสายมืดอันดับต้นๆก็เท่านั้น...
พ่อแทฮยองก็เป็นพนักงานเงินเดือนนะเว้ย! เวลาไปกินข้าวกับบริษัทก็ได้หิ้วขนมกลับมาฝากแทฮยองด้วย!!
พ่อไอ้จองกุกเคยหิ้วอะไรกลับบ้านมาหลังจากที่ส่งตัวพ่อมดเข้าคุกอัสคาบันบ้างไหมล่ะห๊ะ??
คิดแล้วก็แค้น จองกุกที่ยืนให้อาจารย์ชมปรายตามามองเขาแล้วแทฮยองก็เบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน
ดูมัน!! ยังจะมีหน้ามามองยั่วโมโหอีก จะมาย้ำว่าตัวเองดีกว่าเขาใช่ไหมล่ะ?
“...โอ้โห จองกุกแม่งเก่งว่ะ
ถ้วยชาแม่งเนียนมาก ดูไม่รู้ว่าเป็นหนูเลย”
เสียงชื่นชมจากซองแจที่นั่งอยู่ข้างหลังทำให้แทฮยองหันกลับไปถลึงตาใส่
“แก้วมันดีมากแกก็ขอเอาไปกินเลยสิวะ!”
“อ่าว ไอ้แท” ซองแจยิ้มแหย
“โกรธอะไรมาจ้ะ หนูกูน่ารักนะ เอาไปเล่นคลายเครียดไหม?”
ว่าแล้วมันก็อุ้มหนูที่ตอนนี้มีแต่ส่วนหัว
ช่วงลำตัวกลายเป็นถ้วยชาหมดได้แต่ส่ายหัวดุกดิกๆมาให้
“พ่อง เอาไปให้เมียแกเล่นเถอะ”
“โอโห กริ้วไม่ธรรมดา”
ยูคยอมที่นั่งอยู่ข้างๆซองแจทักบ้าง “อะไรแกเนี่ย เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย
เมนส์มาหรือไง?”
“เมนส์พ่องงง”
แทฮยองทำท่าจะเข้าไปตบหัวเพื่อนร่วมบ้านอีกทีถ้าไม่ติดว่าจีมินที่อยู่ข้างๆกันรั้งตัวเอาไว้
พวกเขาดูท่าจะเสียงดังกันพอสมควรนักเรียนรอบๆถึงได้หันมามอง
แทฮยองเห็นจอน จองกุกมองมาพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆดูอวดดีที่มุมปากเช่นเคย
โคตรยั่วโมโห! มันแม่งแลดูมีความสุขที่แทฮยองโมโหมากอะ!!
แทฮยองสูดหายใจเข้า
ตัดสินใจช่างแม่งและ จะไม่สนใจทั้งไอ้พวกบ้าข้างหลังและจอนจองกุกอีกต่อไป แค่ร่ายคาถาให้ถูกแล้วเปลี่ยนให้หนูกลายเป็นถ้วยชาได้อย่างสมบูรณ์ก็พอ
ไหนลองดูสิ... ตวัดซ้าย ตวัดขึ้น...
ตวัดลง
พรึบ!
อ่าวอีเห้...
ถ้วยชาแม่งมีหาง...
“อ่า... เกือบแล้วนะแทฮยอง
ลองดูใหม่นะ” อาจารย์ชเวพูดให้กำลังใจแต่แทฮยองอยากจะเบ้ปาก
ทำไมมันยากอย่างนี้นะ?
ทั้งๆที่เป็นวิชาที่แทฮยองถนัดแท้ๆ...
แทฮยองลองทำดูใหม่อีกครั้ง
ข้างๆอีกสองข้างจีมินกับยองแจเองก็กำลังจัดการหนูของตนเองเช่นกัน เหมือนว่านอกจากจอนจองกุกแล้วจะยังไม่มีใครทำสำเร็จเลยสักคน
“...ให้ช่วยไหม?”
เสียงทุ้มต่ำที่จำฝังใจว่าเป็นของไอ้จอน จองกุกทำให้แทฮยองเกรงตัวแข็ง
ถ้วยชามีหางตรงหน้าส่งเสียงร้อยจี๊ดๆ ดวงตาคู่สวยค่อยๆหันไปมอง
เหี้ย... พูดกับกูจริงๆด้วย...
จอน จองกุกที่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้องมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
ยังยืนตัวโตตัวขาวตาคมหน้าหล่อเหมือนเดิมพร้อมกับรอยยิ้มที่แทฮยองมองว่าโคตรยียวน
“ถ้าทำไม่ได้ลองให้ฉันช่วยไหม?”
'ทำไม่ได้ลองให้ฉันช่วยไหม?'
'ทำไม่ได้ให้ช่วยไหม?'
'มึงทำไม่ได้กูจะช่วยทำบุญให้เอาไหม?'
เอ๊ะ นี่กูคิดทวนไปๆมาๆทำไมรู้สึกเหมือนมันข้ามขั้นจากสี่ไปร้อยแปดสิบวะ?
แต่เดี๋ยว.... เดี๋ยวนะ... คือช่วยพ่องงงงง ไอ้ขี้อวดดด! มึงมาพูดแบบนี้คือตั้งใจจะบอกว่ากูทำด้วยตัวเองไม่ได้ใช่ไหมวะห๊ะ??
หยามมากกกกก!!!
...คือสิ่งที่แทฮยองได้แต่คิด
เพราะก่อนที่จะอ้าปากก็มีเล็บแหลมๆของยองแจจากทางซ้ายจิกเข้าที่ท้องแขนพร้อมกับจีมินทางด้านขวาที่เสนอหน้าเข้ามาตอบแทนเหมือนรู้ทัน
“เฮ้ย ดีเลยๆ จองกุกช่วยสอนพวกเราหน่อยนะ
ของฉันมันไม่เหมือนถ้วยเลยอะ” จีมินยิ้มหวาน
มือข้างหนึ่งโอบเอวแทฮยองที่เริ่มจะพยศจนกล้ามขึ้น
ส่วนอีกข้างก็ชี้ๆไปที่ถ้วยชาของตัวเองที่นอกจากจะมีขนแล้วยังวิ่งเล่นไปมาบนโต๊ะได้ด้วย...
“...ได้สิ...” จองกุกรับคำอย่างว่าง่าย
ดวงตากลมใสที่แทฮยองเคยคิดไว้ว่ามันช่างสดใสน่ารักอินโนเซ็นท์คิคุเป็นที่สุดก่อนที่จะเห็นธาตุแท้ของพญามารอย่างจอน จองกุกเหมือนจะเหลือบมามองที่เอวแทฮยองแวบหนึ่ง
มุมปากมันกระตุก
“มึง ใครลดแอร์วะ? กูว่ามันเย็นๆ”
“แอร์พ่องเหรอยูคยอม ฮอกวอตส์ไม่มีแอร์เว้ย!”
ยูคยอม.. ซองแจ...
พวกมึงนี่คุยกันได้จังหวะดีจังนะ...
“...ตรงที่ตวัดไม้ลงครั้งสุดท้ายน่ะคือจุดที่ยากที่สุด
ต้องเกรงมือเพราะตวัดน้อยมากๆ แบบนี้” พูดไปจองกุกก็ชี้ไม้กายสิทธิ์ของตัวเองไปที่ถ้วยชาวิ่งได้ของจีมิน
มือตวัดขึ้นลงนุ่มนวลแต่กระชับหนักแน่น
แทฮยองอดที่จะคิดไม่ได้ว่ามือของจองกุกตอนจับไม้กายสิทธิ์ร่ายเวทมนตร์นั่นดูสวยดี
แน่นอนว่าระดับจอน จองกุกแล้วไอ้ถ้วยชาวิ่งได้ของจีมินก็กลายเป็นถ้วยชาเคลือบเงาอย่างดี
สมบูรณ์แบบจนอาจารย์ชเวถึงกับปรบมือแปะๆให้อีกรอบ
...ตวัดซ้าย... ขึ้น..
เกรงมือเล็กน้อยแล้วก็ลง...
พรึบ!
“นั่นไงๆ เก่งมากเลยแทฮยอง
ครูบอกแล้วว่าลองทำซ้ำอีกนิดหน่อยแล้วเธอก็ทำได้”
คำชมของอาจารย์ชเวที่ได้มาจากทริกน้อยๆที่จองกุกสอนมาให้แบบนี้
แทฮยองไม่เห็นจะอยากได้เลยสักนิดเดียว
---- 50% ----
“ผมล่ะโคตรเกลียดจอน จองกุกเลย”
คำบ่นก่นด่าที่คิม ซอกจินได้ยินมาหลายต่อหลายครั้งทำให้เขาอมยิ้มขำมากกว่าจะดุ
ถ้าเป็นปกติซอกจินคงไม่ชอบเท่าไรนักที่แทฮยองจะไปเดินประกาศป่าวๆว่าเกลียดคนนู้นคนนี้
ยิ่งถ้าไปพูดว่าเกลียดคนตระกูลจอนให้ชาวบ้านเขาได้ยินมันสามารถเป็นเรื่องใหญ่ในโลกเวทมนตร์ได้เหมือนกันด้วย
แต่กลับจอน จองกุกที่แทฮยองย้ำนักหนาว่าเกลียดแล้วมายืนขู่ฟ่อๆเหมือนเจ้าแมวเหมี๊ยวขนปุยที่เดินตามเท้าเจ้าของต้วมเตี้ยมแล้วมันก็น่าเอ็นดูเสียมากกว่า
“จองกุกไปทำอะไรให้แทแทอีกล่ะ?” ซอกจินถาม
มือก็ลูบหลังคางคกที่แผละอยู่บนโต๊ะข้างหน้าตนเองไปด้วยความเอ็นดู
“หงุดหงิดแบบนี้มาลูบเจ้าแรพม่อนมา
ตัวกำลังดึ๋งดั๋งน่ารักเลย”
น่ารักพ่อง...
เชื่อว่าอันนี้คือความคิดของทุกคนที่มานั่งเล่นอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้านฮัฟเฟิลพัฟในตอนนี้
แทฮยองมองเจ้าแรพม่อน คางคกตัวโตที่เป็นสัตว์เลี้ยงของซอกจิน
เจ้าตัวเคยบอกว่าตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงของตัวเองว่าแรพม่อนเพราะมันดูหน้าตาคล้ายคิม นัมจุน เพื่อนสมัยเด็กของซอกจินที่ตอนนี้เป็นนักเรียนปีหกอยู่บ้านเรเวนคลอ
ซอกจินละเอ็นดูแรพม่อนนักหนา บอกว่าแรพม่อนน่ะหน้าเหมือนนัมจุนแต่ไม่พูดมาก
ไม่กวนประสาท ไม่แย่งข้าวซอกจินกิน
คือดี๊ดี
ตรงนี้แทฮยองก็เคยงงๆเหมือนกันว่าทำไมคางคกตัวเองหน้าเหมือนนัมจุนฮยองแล้วมันเป็นข้อดี?
คือถ้าเจ้าเหมี๊ยวของแทฮยองหน้าเหมือนนัมจุนฮยองที่แทฮยองจะเกลียดมากไง
คือรักพี่แกนะ แต่ถ้าต้องมาลูบหัวมาป้อนข้าวสัตว์เลี้ยงที่ละม้ายคล้ายนัมจุนฮยองมันอี๋ๆปะวะ?
เหมือนซอกจินฮยองจะไม่คิดแบบนั้น
สองมือยังลูบหลังแรพม่อนไปมา ไอ้คางคกยักษ์ก็กำลังหลับตาพริ้มสบายตัวเหลือเกิน
คือมึงเป็นคางคกหรือแมว? ตอบบบ
“เอาจริงๆฮยองไม่เคยคิดว่ามันน่าหมั่นไส้เหรอ?
จะเก่งก็เก่งไปสิ แต่ทำไมต้องมาเยาะเย้ยกันด้วยล่ะ?” แทฮยองบ่น
ถึงตรงนี้แล้วจีมินที่กำลังกินขนมงุบงับอยู่หน้าเตาผิงก็เงยหน้ามา
“เขาไปเยาะเย้ยแกตอนไหนวะ?”
“จริงด้วย
ฉันยังไม่เห็นเขาจะไปทำอะไรแกเลยนะ” ยองแจก็อีกคน
แทฮยองหยุดเดินไปมาแล้วนั่งลงบนโซพานุ่มๆข้างๆยองแจ ที่พรมข้างเท้ามีจีมินกับยูคยอมที่กำลังกินเยลลี่เม็ดทุกรสของเบอร์ตี้บอตต์
วิคกี้ แมวขนปุยของแทฮยองรีบกระโดดขึ้นตักเจ้าของแล้วซุกหัวกลมๆกับหน้าท้องทันที
“ทำไมพวกแกซื่อกันขนาดนี้วะจีมิน
ยองแจ?” แทฮยองถอนหายใจ มือก็ลูบหัววิคกี้ด้วยความเคยชิน
“มันทั้งเย้ยทั้งหยามฉันตั้งหลายครั้ง ตอนโม้เรื่องไปดูเวิร์ดคัพก็มามองฉัน
ฟีลๆแบบ เหอะ ไอ้ลูกมักเกิ้ล คงจะไม่มีปัญญาไปสินะ
แล้วนี่ในวิชาแปลงร่างก็เห็นๆอยู่ว่าแม่งเยาะเย้ย
มันมาพูดถึงโต๊ะเลยนะว่าฉันทำไมได้!”
“แทแท
ก็เห็นๆอยู่ว่าแกทำไม่ได้ไม่ใช่เหรอวะ?” (จีมิน)
“อีกอย่างนะ เขามาเสนอตัวช่วยแกหรือเปล่าวะไม่ได้มาเยาะเย้ย?” (ยองแจ)
“แล้วคือนี่ฉันก็คิดเองเออเองนะ
แต่แกรู้ว่าเขามองนี่คือแกก็ชอบไปมองเขาเหมือนกันใช่ไหมวะ?” (ยูคยอม)
“อ...
ไอ้พวกเพื่อนไร้ประโยชน์!!”
แทฮยองลุกขึ้นพรวดพร้อมกับวิคกี้ที่ขู่ฟ่อเหมือนจะรู้อารมณ์ของเจ้านายที่กำลังอุ้มตัวเองไว้
“ไม่คุยด้วยแล้ว ไอ้พวกบ้า!”
พูดจบแทฮยองก็ตบเท้าเดินปึงปังขึ้นบันไดหอพักชายไป
ยูคยอมโคลงศีรษะ
“แทฮยอง
อีกไม่ถึงห้านาทีจะถึงเวลาที่ซองแจมันนัดประชุมเรื่องการแข่งควิดดิชแล้วนะ”
“พวกแกก็ขึ้นมาง้อก่อนที่จะถึงเวลาสิไอ้พวกบ้า!”
“เมี๊ยว!”
ถามว่าอายไหม?
อาย อายมากเลยด้วย
สรุปคือไอ้พวกเพื่อนไร้ประโยชน์ของแทฮยองมันก็ไร้ประโยชน์สมกับที่ปรามาสไว้
ไม่มีใครตามขึ้นมาง้อสักตัว
เกลียดพวกแม่งมาก
นอกจากนั้นแล้วทุกคนยังทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทีมควิดดิชของฮัฟเฟิลพัฟทุกคนนั่งล้อมรอบอยู่หน้าเตาผิงโดยที่มีซอกจินกับเคนที่ไม่ได้อยู่ในทีมนั่งทำการบ้านกันอยู่ที่โต๊ะกลมตัวเดิม
ซองแจที่เพิ่งจะไปเอาตารางการแข่งขันมาบอกเรื่องวันที่และคู่แข่งของแต่ละแมทช์คร่าวๆ
ดวงตาคมเหลือบมองเพื่อนตัวเล็กที่นั่งหน้ามุ่ยแข่งกับแมวมาตั้งแต่เริ่มประชุมแล้วก็ถอนหายใจในที่สุด
“โอเค กูยอมและ
ห่านี่เป็นอะไรเนี่ย?” ซองแจพยักหน้าไปทางแทฮยองเป็นเชิงถาม อี้ชิง
รุ่นพี่ปีหกตำแหน่งคีปเปอร์ของทีมเอียงคอมองบ้าง
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าแทฮยอง?”
“ก็ไอ้พวกนี้อะอี้ชิงฮยอง”
พอได้รุ่นพี่คนสวยมาถามไถ่หน่อยแทฮยองก็กระเถิบเข้าไปอ้อนทันที
ซองแจมองแมววิคกี้ขี้อ่อยของมั่นที่กระโดดลงจากตักเจ้าของมาเอาหัวถูอี้ชิงฮยองบ้างแล้วก็รู้สึกหมั่นไส้เบา
“ทั้งๆที่แทโดนจอน จองกุกมันทั้งแขวะทั้งเยาะเย้ยมาตลอด
แต่พวกมันก็ไม่เข้าข้างเพื่อนเลย”
“จอน จองกุก?” อี้ชิงทวนอย่างแปลกใจ
จงแด ตำแหน่งบีตเตอร์ปีหกเองก็ยังกระพริบตาปริบงงๆ
“จอน จองกุก
ซีกเกอร์ของกริฟฟินดอร์น่ะเหรอ?”
“อื้อ”
อี้ชิงกับจงแดสบตากันก่อนจะหัวเราะ
“แน่ใจเหรอว่าเขาเยาะเย้ยน่ะแทฮยอง?
ที่พวกฮยองได้ยินมาจากแบคฮยอนกับชานยอลมันไม่ใช่แบบนั้นนะ”
ชื่อของรุ่นพี่ปีหกตำแหน่งสองบีตเตอร์ของทีมควิดดิชของกริฟฟินดอร์ทำให้แทฮยองย่นจมูก
เพื่อนๆอีกสี่คนมองมาด้วยท่าทีสนอกสนใจ
ส่วนซอกจินกับเคนที่มือทำการบ้านแต่หูก็ยังฟังบทสนทนาทุกอย่างก็หัวเราะกันเองเบาๆ
“แบคฮยองกับชานยอลลี่ฮยองพูดว่าอะไรล่ะ?”
“ไม่ใช่อะไรไม่ดีก็แล้วกัน”
จงแดเอ่ยล้อๆ อี้ชิงยิ้มหวาน
“เราคิดมากไปเองหรือเปล่า?
พี่ว่าจอน จองกุกก็ดูเป็นเด็กดีนี่นา”
“เขาไปเยาะเย้ยแกตอนไหนวะ?
วันนี้ยังมาสอนคาถาแปลงร่างให้ถึงที่
ขนาดไอ้แจ็กสันอยู่ข้างๆมันโดนถ้วยชากระโดดกัดหัวจองกุกมันยังไม่ช่วยเลย”
ซองแจถามขึ้นมาบ้าง แทฮยองกลอกตา
“ก็นั่นแหละ! มันอะทำมาสวมบทเป็นคนดี
ทำมาจะสอน แต่ในใจมันคิดเย้ยฉันอยู่ไงว่าแค่นี้ก็ทำไมได้”
“แค่นี้ห่าอะไร?
คนทำไม่ได้ก็ทำไม่ได้ทั้งห้อง มีไอ้จองกุกคนเดียวอะที่ทำได้”
“ฮึ่ยย แกดูคำพูดที่มันใช้ดิ
มันบอกว่าฉันทำไม่ได้อะ!”
“แล้วมันก็ถามต่อด้วยว่าให้มันช่วยไหม
โอ้ยไอ้แท” ซองแจเริ่มกุมขมับ “กูว่ามึงนี่เพ้อเจ้อ”
“กูว่าฟังๆไปแล้วมันชักจะยังไงๆ...”
ยูคยอมยกมือขึ้นเสนอหน้าบ้าง “กูสงสัยตั้งแต่ที่แม่งมาเสนอตัวช่วยสอนโต๊ะไอ้แทและ
คือคนที่ทำไม่ได้ก็มีอยู่เต็มห้อง
โต๊ะที่ไอ้จองกุกนั่งอยู่กับพวกไอ้แจ็กสันก็อยู่ตั้งไกล
มันถ่อมาช่วยโต๊ะแกทำไมวะ?”
“ก็บอกแล้วไงว่ามันจ้องจะมาเยาะเย้ยฉัน
มันแค่อยากจะย้ำให้เห็นว่ามันทำได้แล้วฉันทำไม่ได้ก็เท่านั้นแหละ!”
แทฮยองขู่ฟ่อ อี้ชิงยกมือขวาขึ้นลูบหัวรุ่นน้องส่วนมือซ้ายก็ลูบขนวิคกี้ที่ยันตัวขึ้นพองขนขู่บ้างเป็นการปลอบประโลม
“เอาน่าๆ ช่างเถอะนะ แทฮยองอา
ถ้าโกรธจอน จองกุกมากก็เอาไปลงที่สนามสิ เราเป็นซีกเกอร์ด้วยกันทั้งคู่นี่
มันชอบหยามว่าแทแทไม่เก่งนักเราก็โชว์ให้เขาเห็นเลยว่าแทแทของฮัฟเฟิลพัฟน่ะจับลูกสนิชได้ไวแค่ไหน”
ซอกจินพูดมาจากโต๊ะที่ทำการบ้าน พอได้ยินอย่างนั้นแล้วแทฮยองก็นึกคึก
พยักหน้าหงึกรับคำท้า(ข้างเดียว) ก่อนจะชี้นิ้วไปที่กับตันทีมควิดดิชอย่างซองแจ
“ไอ้ซองแจ! อย่ามายึกยัก
มาวางแผนกันเร็ว! คู่แรกของเราคือใครห๊ะ?”
“อะ.. เอ่อ...
ก่อนหน้าเราก็มีกริฟฟินดอร์แข่งกับสลิธีรินเป็นคู่แรก
เราก็ไปดูการแข่งขันอาทิตย์นั้นกัน ดูเพลย์การเล่นและทักษะของอีกฝ่าย
เอามาปรับใช้กับของเราให้ดี”
พอเข้าเรื่องควิดดิชแล้วซองแจก็ดูจริงจังจนทุกคนเงียบกริบไปด้วย
“คู่ที่สองคือฮัฟเฟิลพัฟกับเรเวนคลอ
บอกตามตรงเรเวนคลอปีนี้ไม่ได้ดูน่ากลัวมาก แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ประมาทไม่ได้เด็ดขาด
จุนมยอนฮยองตำแหน่งคีปเปอร์เป็นกับตันทีมปีนี้ เขาฉลาดในการเล่นเกมมาก
ถึงดูรวมๆแล้วทักษะพวกเราจะแข็งกว่าแต่เราก็ไม่รู้ว่าจุนมยอนฮยองจะคิดลูกเล่นแบบไหนมา
ปีนี้ฉันได้ข่าวว่าเขารับเชสเซอร์เพิ่มขึ้นมาอีกคนแทนนานะนูน่าที่เพิ่งจบไป
เห็นว่าชื่อไอยู”
ไอยู... แทฮยองพยักหน้าตาม
เขาจำเธอได้ เป็นเด็กปีสี่หน้าตาน่ารัก ผิวขาวจัดตัดกับผมยาวสีดำขลับ
สวยมากจนแม้แต่พวกสลิธีรินที่ถือว่ามีแต่ลูกคุณหนูดูผู้ดีๆก็ยังฮือฮา
“เก่งขนาดไหนกันนะ? แค่ปีสี่แต่มาเป็นตัวจริงแทนรุ่นพี่แทควานที่เป็นตัวสำรองรอเสียบต่อได้ยังไง?”
ยองแจที่เป็นเชสเซอร์เช่นกันรำพึง
จีมินกับยูคยอมที่อยู่ตำแหน่งเดียวกันก็ดูเครียดไม่เบา
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน
ฉันเองก็ยังไม่เคยเห็นเขาบนไม้กวาด” ซองแจเสยผม “แต่นั่นแหละ หวังว่าเราจะเห็นพวกนั้นซ้อมกันก่อนแข่งบ้างจะได้พอประเมินได้
นอกจากไอยูที่ฉันไม่รู้ว่าเก่งแค่ไหนแล้วที่น่ากลัวอีกคนก็คงจะเป็นซีกเกอร์ของเรเวนคลอ”
“มาร์ค ต้วน” แทฮยองพึมพำ มาร์คอยู่ปีหก
บ้านเรเวนคลอ เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของนัมจุนฮยอง ดูเงียบๆแล้วก็ใจดี
แทฮยองนับถือมาร์คและชอบเข้าไปคุยเล่นกับอีกฝ่าย
แต่พอถึงเรื่องควิดดิชแล้วมาร์คก็ไม่เคยออมมือให้เลย
“ใช่ เก่งและเร็วมาก
คงต้องหนักหน่อยล่ะนะแท” ซองแจว่า “คนอื่นๆในทีมนั้นพวกเราก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว
มีเชสเซอร์เดิมอีกสองคนคือลู่ห่านกับฮานิ บีตเตอร์อีกสองคือมินซอกแล้วก็มินแจ
ในเมื่อเอสของทีมนั้นคือมาร์ค
ทางที่ฉลาดที่สุดของเรเวนคลอก็จะเป็นการให้มาร์คจับลูกสนิชได้เร็วๆ
ถ้าจับลูกสนิชได้เรเวนคลอก็จะได้150แต้มและยุติการแข่งขัน
ถึงไอยูจะเก่งจริงแต่ในเมื่อเชสเซอร์สามคนนั้นไม่เคยฝึกซ้อมด้วยกันมาก่อนมันก็คงไม่ราบรื่นนักหรอก
โอกาสที่พวกเขาจะให้เชสเซอร์ทำแต้มให้มีน้อยมาก
เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือให้มาร์คจับลูกสนิช”
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องหาลูกสนิชให้เจอก่อน
ถ้าไม่รีบจับไว้เองก็ต้องถ่วงเวลาไม่ให้มาร์คฮยองจับได้แล้วเพิ่มเวลาให้เชสเซอร์ของเราทำคะแนน”
แทฮยองคิดตาม ซองแจพยักหน้า
“ใช่
กับนัดเรเวนคลอนี่ซีกเกอร์สำคัญมากนะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเราที่เหลือจะยืดยาดกันได้
เชสเซอร์ต้องทำคะแนนให้ได้เยอะๆในเวลาสั้นๆเพราะทั้งเรเวนคลอและเราต่างก็อยากจะรีบปิดเกม
คีปเปอร์ต้องรักษาโกลให้ดี
ส่วนบีตเตอร์ก็ต้องคอยปกป้องไม่ให้ลูกทีมของเราโดนลูกบลัดเจอร์ทำร้าย”
อยู่ๆจีมินก็หัวเราะ
“ลูกบลัดเจอร์นี่พวกเราคงไม่ต้องกลัวมั้ง
ถ้าซีกเกอร์ของเราตกอยู่ในอันตรายมินแจก็พร้อมจะช่วยอยู่แล้วนี่นา~”
“เกลียด ข่วนหน้ามันเลยวิคกี้”
“เมี๊ยว!”
“โอ้ย!!”
Talk: ครบ100%แล้ววว อีกครั้ง อยากจะบอกว่ารักในความเวิ่นเว่อและขี้มโนของแทแท เป็นคนที่คิดเองเออเองแล้วขี้โวยวายอย่างน่าเอ็นดูอะ รักยัยแมววิคกี้ขี้อ่อยด้วย 55555
อยากเม้าเรื่อง ISAC2016!! เสียดายที่แทแทไม่ได้มาร่วมงานด้วย แต่จีมินนี่ก็ยังน่ารักมากที่คาทกและส่งวีดีโอไปหานาง ความมินวีมีสูง 95ไลน์บันไซ!! ชอบในการเอาใจใส่ของจีมมากอะ รู้สึกว่านางดูแลแทแทดีมาก เป็นห่วงเป็นใยตลอด ยัยนางฟ้าของบังทันเอ้ยยย มีฟีลลิ่งเอ็นดู มีฟีลลิ่งหมั่นเขี้ยวอยากจะกอดยัยก้อน ฮือออออ ตัดไปทางฮยองคนโตสุด คือพี่จินโดนศอกตอนเล่นฟุตซอลแล้วเลือดกำเดาไหลจนต้องเอาไปโรงพยาบาล คือรักพี่มากๆนะ รักเสมอ ความหล่อของพี่ไม่เข้าใครออกใคร พี่เสียงดีคนดีเป็นคุณแม่ออมม่าของบังทัน ตั้งแต่ดูอีทจินมาน้ำหนักเราก็ขึ้นพรวดๆแบบไม่มีใครยอมใคร คือรักคิม ซอกจินจริงๆนะเธอออ แต่พอเห็นข่าวพี่แกโดนศอกหน้าแหกแล้วรู้สึกขำอะ 55555555 เกลียดตัวเอง ทำไมเป็นคนแบบนี้ 55555 แต่ก็เห็นว่าตอนนี้นางโดนส่งกลับหอไปพักแล้ว พี่นัมจุนเองก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมากด้วย อาร์มี่ก็สบายใจแล้วเนอะะ พี่เขาไม่ได้เป็นอะไรแล้ว
แล้วก็นิดหนึ่ง พูดถึงนัมจุนแล้ว...
เรือนัมจินวันนี้แข็งแกร่งมากค่ะ!! กรี๊ดดดดดดดด คือชอบที่นัมจุนปลอบมี่โดยการบอกทำนองว่า ซอกจินไม่ได้เป็นอะไรนะ ถ้าเขาเป็นหนักผมจะตามไปดูแลเอง แต่นี่ผมไม่ได้ไปก็แปลว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมากไง แบบ อุ้ยยยยย ขุ่นพระะะ *เอามือทาบอก* คืออัปป้าดูแลออมม่าดีอะ แล้วไม่ใช่แค่เขาดูแลกันนะคะคุณ คือเราประทับใจในการปลอบอาร์มี่ของนัมจุน คำพูดของฮีที่ปลอบนอกจากจะฟินแล้วเฮ้ย เออ มันมีเหตุและผลนะเธอออ มีความหล่อสมาร์ทและอ่อนโยนค่ะ คิม นัมจุนเอาไปสิบคะแนน!!
ตบท้ายนิดหนึ่งด้วยความแข็งแกร่งของจอน จองกุก แบบแกรรรรร นางยิงธนูได้ 9 9 10 จ้าาาา คือเหมือนคิดไว้เล็กๆแล้วแหละว่าระดับนางแล้วคงทำได้ดีปะ แต่มาเจอคะแนนตรงๆนี่ความเทพของจอน จองกุกก็ยังทำให้รู้สึกตื่นตะลึงงึนงันได้เช่นเคย มีความภูมิใจเบาค่า
ทอร์กที่ไหนเขายาวเป็นพารากราฟแบบนี้คะเธอ? 55555555 หมั่นไส้ความขี้เม้าของตัวเอง พอค่ะพอ ควรจะพอได้แล้ว 5555
ขอบคุณมากๆที่ติดตามเรื่องนี้นะคะ <3 แล้วเจอกันค่าาา
ความคิดเห็น