ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BTS | Mischief Managed [KOOKV ft. YOONMIN, NAMJIN] #บทฮวอย

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 01: วิชาแปลงร่างกับจอน จองกุก

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 59


    Mischief Managed 01


                  

                  คิม แทฮยองโคตรจะเกลียดจอน จองกุกเลย

                  ร่างสูงที่ติดจะเพรียวบางของคิม แทฮยองกอดอกมองจอน จองกุกที่เพิ่งจะสามารถใช้คาถาเปลี่ยนร่างจากหนูให้หลายเป็นถ้วยชาได้เป็นคนแรกของห้อง อาจารย์ชเวปรบมือและเอ่ยปากชื่นชมจองกุกยกใหญ่

                  “สมแล้วที่เป็นเธอนะจองกุก คนจากครอบครัวจอนนี่ไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ เก่งเหมือนพ่อไม่มีผิด” พูดไปแล้วอาจารย์ร่างท้วมก็ติดลมเล่าย้อนไปถึงสมัยที่เรียนอยู่กับพ่อของจองกุกเมื่อหลายปีก่อน เรื่องบ้าอะไรไม่รู้ที่แทฮยองเองก็ได้ฟังมาจะเป็นร้อยรอบอยู่แล้ว ไม่รู้อาจารย์แกจะติดใจอะไรพ่อไอ้จองกุกนักหนา

                  ก็แค่ตอนนี้เป็นมือปราบพ่อมดสายมืดอันดับต้นๆก็เท่านั้น... พ่อแทฮยองก็เป็นพนักงานเงินเดือนนะเว้ย! เวลาไปกินข้าวกับบริษัทก็ได้หิ้วขนมกลับมาฝากแทฮยองด้วย!!

                  พ่อไอ้จองกุกเคยหิ้วอะไรกลับบ้านมาหลังจากที่ส่งตัวพ่อมดเข้าคุกอัสคาบันบ้างไหมล่ะห๊ะ??

                  คิดแล้วก็แค้น จองกุกที่ยืนให้อาจารย์ชมปรายตามามองเขาแล้วแทฮยองก็เบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน

                  ดูมัน!! ยังจะมีหน้ามามองยั่วโมโหอีก จะมาย้ำว่าตัวเองดีกว่าเขาใช่ไหมล่ะ?

                  “...โอ้โห จองกุกแม่งเก่งว่ะ ถ้วยชาแม่งเนียนมาก ดูไม่รู้ว่าเป็นหนูเลย” เสียงชื่นชมจากซองแจที่นั่งอยู่ข้างหลังทำให้แทฮยองหันกลับไปถลึงตาใส่

                  “แก้วมันดีมากแกก็ขอเอาไปกินเลยสิวะ!

                  “อ่าว ไอ้แท” ซองแจยิ้มแหย “โกรธอะไรมาจ้ะ หนูกูน่ารักนะ เอาไปเล่นคลายเครียดไหม?”

                  ว่าแล้วมันก็อุ้มหนูที่ตอนนี้มีแต่ส่วนหัว ช่วงลำตัวกลายเป็นถ้วยชาหมดได้แต่ส่ายหัวดุกดิกๆมาให้

                  “พ่อง เอาไปให้เมียแกเล่นเถอะ”

                  “โอโห กริ้วไม่ธรรมดา” ยูคยอมที่นั่งอยู่ข้างๆซองแจทักบ้าง “อะไรแกเนี่ย เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย เมนส์มาหรือไง?”

                  “เมนส์พ่องงง”

                  แทฮยองทำท่าจะเข้าไปตบหัวเพื่อนร่วมบ้านอีกทีถ้าไม่ติดว่าจีมินที่อยู่ข้างๆกันรั้งตัวเอาไว้ พวกเขาดูท่าจะเสียงดังกันพอสมควรนักเรียนรอบๆถึงได้หันมามอง แทฮยองเห็นจอน จองกุกมองมาพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆดูอวดดีที่มุมปากเช่นเคย

                  โคตรยั่วโมโห! มันแม่งแลดูมีความสุขที่แทฮยองโมโหมากอะ!!

                  แทฮยองสูดหายใจเข้า ตัดสินใจช่างแม่งและ จะไม่สนใจทั้งไอ้พวกบ้าข้างหลังและจอนจองกุกอีกต่อไป แค่ร่ายคาถาให้ถูกแล้วเปลี่ยนให้หนูกลายเป็นถ้วยชาได้อย่างสมบูรณ์ก็พอ

                  ไหนลองดูสิ... ตวัดซ้าย ตวัดขึ้น... ตวัดลง

                  พรึบ!

                  อ่าวอีเห้... ถ้วยชาแม่งมีหาง...

                  “อ่า... เกือบแล้วนะแทฮยอง ลองดูใหม่นะ” อาจารย์ชเวพูดให้กำลังใจแต่แทฮยองอยากจะเบ้ปาก

                  ทำไมมันยากอย่างนี้นะ? ทั้งๆที่เป็นวิชาที่แทฮยองถนัดแท้ๆ...

                  แทฮยองลองทำดูใหม่อีกครั้ง ข้างๆอีกสองข้างจีมินกับยองแจเองก็กำลังจัดการหนูของตนเองเช่นกัน เหมือนว่านอกจากจอนจองกุกแล้วจะยังไม่มีใครทำสำเร็จเลยสักคน

                  “...ให้ช่วยไหม?”

                  เสียงทุ้มต่ำที่จำฝังใจว่าเป็นของไอ้จอน จองกุกทำให้แทฮยองเกรงตัวแข็ง ถ้วยชามีหางตรงหน้าส่งเสียงร้อยจี๊ดๆ ดวงตาคู่สวยค่อยๆหันไปมอง

                  เหี้ย... พูดกับกูจริงๆด้วย...

                  จอน จองกุกที่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้องมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ยังยืนตัวโตตัวขาวตาคมหน้าหล่อเหมือนเดิมพร้อมกับรอยยิ้มที่แทฮยองมองว่าโคตรยียวน

                  “ถ้าทำไม่ได้ลองให้ฉันช่วยไหม?”

                   'ทำไม่ได้ลองให้ฉันช่วยไหม?'

                   'ทำไม่ได้ให้ช่วยไหม?'

                   'มึงทำไม่ได้กูจะช่วยทำบุญให้เอาไหม?'

                   เอ๊ะ นี่กูคิดทวนไปๆมาๆทำไมรู้สึกเหมือนมันข้ามขั้นจากสี่ไปร้อยแปดสิบวะ?

                  แต่เดี๋ยว.... เดี๋ยวนะ... คือช่วยพ่องงงงง ไอ้ขี้อวดดด! มึงมาพูดแบบนี้คือตั้งใจจะบอกว่ากูทำด้วยตัวเองไม่ได้ใช่ไหมวะห๊ะ??

                  หยามมากกกกก!!!

                  ...คือสิ่งที่แทฮยองได้แต่คิด เพราะก่อนที่จะอ้าปากก็มีเล็บแหลมๆของยองแจจากทางซ้ายจิกเข้าที่ท้องแขนพร้อมกับจีมินทางด้านขวาที่เสนอหน้าเข้ามาตอบแทนเหมือนรู้ทัน

                  “เฮ้ย ดีเลยๆ จองกุกช่วยสอนพวกเราหน่อยนะ ของฉันมันไม่เหมือนถ้วยเลยอะ” จีมินยิ้มหวาน มือข้างหนึ่งโอบเอวแทฮยองที่เริ่มจะพยศจนกล้ามขึ้น ส่วนอีกข้างก็ชี้ๆไปที่ถ้วยชาของตัวเองที่นอกจากจะมีขนแล้วยังวิ่งเล่นไปมาบนโต๊ะได้ด้วย...

                  “...ได้สิ...” จองกุกรับคำอย่างว่าง่าย ดวงตากลมใสที่แทฮยองเคยคิดไว้ว่ามันช่างสดใสน่ารักอินโนเซ็นท์คิคุเป็นที่สุดก่อนที่จะเห็นธาตุแท้ของพญามารอย่างจอน จองกุกเหมือนจะเหลือบมามองที่เอวแทฮยองแวบหนึ่ง มุมปากมันกระตุก

                  “มึง ใครลดแอร์วะ? กูว่ามันเย็นๆ”

                  “แอร์พ่องเหรอยูคยอม ฮอกวอตส์ไม่มีแอร์เว้ย!

                  ยูคยอม.. ซองแจ... พวกมึงนี่คุยกันได้จังหวะดีจังนะ...

                  “...ตรงที่ตวัดไม้ลงครั้งสุดท้ายน่ะคือจุดที่ยากที่สุด ต้องเกรงมือเพราะตวัดน้อยมากๆ แบบนี้” พูดไปจองกุกก็ชี้ไม้กายสิทธิ์ของตัวเองไปที่ถ้วยชาวิ่งได้ของจีมิน มือตวัดขึ้นลงนุ่มนวลแต่กระชับหนักแน่น

                  แทฮยองอดที่จะคิดไม่ได้ว่ามือของจองกุกตอนจับไม้กายสิทธิ์ร่ายเวทมนตร์นั่นดูสวยดี

                  แน่นอนว่าระดับจอน จองกุกแล้วไอ้ถ้วยชาวิ่งได้ของจีมินก็กลายเป็นถ้วยชาเคลือบเงาอย่างดี สมบูรณ์แบบจนอาจารย์ชเวถึงกับปรบมือแปะๆให้อีกรอบ

                  ...ตวัดซ้าย... ขึ้น.. เกรงมือเล็กน้อยแล้วก็ลง...

                  พรึบ!

                  “นั่นไงๆ เก่งมากเลยแทฮยอง ครูบอกแล้วว่าลองทำซ้ำอีกนิดหน่อยแล้วเธอก็ทำได้”

                  คำชมของอาจารย์ชเวที่ได้มาจากทริกน้อยๆที่จองกุกสอนมาให้แบบนี้ แทฮยองไม่เห็นจะอยากได้เลยสักนิดเดียว


    ---- 50% ----


                  “ผมล่ะโคตรเกลียดจอน จองกุกเลย”

                  คำบ่นก่นด่าที่คิม ซอกจินได้ยินมาหลายต่อหลายครั้งทำให้เขาอมยิ้มขำมากกว่าจะดุ ถ้าเป็นปกติซอกจินคงไม่ชอบเท่าไรนักที่แทฮยองจะไปเดินประกาศป่าวๆว่าเกลียดคนนู้นคนนี้ ยิ่งถ้าไปพูดว่าเกลียดคนตระกูลจอนให้ชาวบ้านเขาได้ยินมันสามารถเป็นเรื่องใหญ่ในโลกเวทมนตร์ได้เหมือนกันด้วย

                  แต่กลับจอน จองกุกที่แทฮยองย้ำนักหนาว่าเกลียดแล้วมายืนขู่ฟ่อๆเหมือนเจ้าแมวเหมี๊ยวขนปุยที่เดินตามเท้าเจ้าของต้วมเตี้ยมแล้วมันก็น่าเอ็นดูเสียมากกว่า

                  “จองกุกไปทำอะไรให้แทแทอีกล่ะ?” ซอกจินถาม มือก็ลูบหลังคางคกที่แผละอยู่บนโต๊ะข้างหน้าตนเองไปด้วยความเอ็นดู

                  “หงุดหงิดแบบนี้มาลูบเจ้าแรพม่อนมา ตัวกำลังดึ๋งดั๋งน่ารักเลย”

                  น่ารักพ่อง...

                  เชื่อว่าอันนี้คือความคิดของทุกคนที่มานั่งเล่นอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้านฮัฟเฟิลพัฟในตอนนี้ แทฮยองมองเจ้าแรพม่อน คางคกตัวโตที่เป็นสัตว์เลี้ยงของซอกจิน เจ้าตัวเคยบอกว่าตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงของตัวเองว่าแรพม่อนเพราะมันดูหน้าตาคล้ายคิม นัมจุน  เพื่อนสมัยเด็กของซอกจินที่ตอนนี้เป็นนักเรียนปีหกอยู่บ้านเรเวนคลอ ซอกจินละเอ็นดูแรพม่อนนักหนา บอกว่าแรพม่อนน่ะหน้าเหมือนนัมจุนแต่ไม่พูดมาก ไม่กวนประสาท ไม่แย่งข้าวซอกจินกิน

    คือดี๊ดี

    ตรงนี้แทฮยองก็เคยงงๆเหมือนกันว่าทำไมคางคกตัวเองหน้าเหมือนนัมจุนฮยองแล้วมันเป็นข้อดี? คือถ้าเจ้าเหมี๊ยวของแทฮยองหน้าเหมือนนัมจุนฮยองที่แทฮยองจะเกลียดมากไง คือรักพี่แกนะ แต่ถ้าต้องมาลูบหัวมาป้อนข้าวสัตว์เลี้ยงที่ละม้ายคล้ายนัมจุนฮยองมันอี๋ๆปะวะ?

    เหมือนซอกจินฮยองจะไม่คิดแบบนั้น สองมือยังลูบหลังแรพม่อนไปมา ไอ้คางคกยักษ์ก็กำลังหลับตาพริ้มสบายตัวเหลือเกิน

                  คือมึงเป็นคางคกหรือแมว? ตอบบบ

                  “เอาจริงๆฮยองไม่เคยคิดว่ามันน่าหมั่นไส้เหรอ? จะเก่งก็เก่งไปสิ แต่ทำไมต้องมาเยาะเย้ยกันด้วยล่ะ?” แทฮยองบ่น ถึงตรงนี้แล้วจีมินที่กำลังกินขนมงุบงับอยู่หน้าเตาผิงก็เงยหน้ามา

                  “เขาไปเยาะเย้ยแกตอนไหนวะ?”

                  “จริงด้วย ฉันยังไม่เห็นเขาจะไปทำอะไรแกเลยนะ” ยองแจก็อีกคน แทฮยองหยุดเดินไปมาแล้วนั่งลงบนโซพานุ่มๆข้างๆยองแจ ที่พรมข้างเท้ามีจีมินกับยูคยอมที่กำลังกินเยลลี่เม็ดทุกรสของเบอร์ตี้บอตต์ วิคกี้ แมวขนปุยของแทฮยองรีบกระโดดขึ้นตักเจ้าของแล้วซุกหัวกลมๆกับหน้าท้องทันที

                  “ทำไมพวกแกซื่อกันขนาดนี้วะจีมิน ยองแจ?” แทฮยองถอนหายใจ มือก็ลูบหัววิคกี้ด้วยความเคยชิน “มันทั้งเย้ยทั้งหยามฉันตั้งหลายครั้ง ตอนโม้เรื่องไปดูเวิร์ดคัพก็มามองฉัน ฟีลๆแบบ เหอะ ไอ้ลูกมักเกิ้ล คงจะไม่มีปัญญาไปสินะ แล้วนี่ในวิชาแปลงร่างก็เห็นๆอยู่ว่าแม่งเยาะเย้ย มันมาพูดถึงโต๊ะเลยนะว่าฉันทำไมได้!

                  “แทแท ก็เห็นๆอยู่ว่าแกทำไม่ได้ไม่ใช่เหรอวะ?” (จีมิน)

                  “อีกอย่างนะ เขามาเสนอตัวช่วยแกหรือเปล่าวะไม่ได้มาเยาะเย้ย?” (ยองแจ)

                  “แล้วคือนี่ฉันก็คิดเองเออเองนะ แต่แกรู้ว่าเขามองนี่คือแกก็ชอบไปมองเขาเหมือนกันใช่ไหมวะ?” (ยูคยอม)

                  “อ... ไอ้พวกเพื่อนไร้ประโยชน์!!

                  แทฮยองลุกขึ้นพรวดพร้อมกับวิคกี้ที่ขู่ฟ่อเหมือนจะรู้อารมณ์ของเจ้านายที่กำลังอุ้มตัวเองไว้

                  “ไม่คุยด้วยแล้ว ไอ้พวกบ้า!

                  พูดจบแทฮยองก็ตบเท้าเดินปึงปังขึ้นบันไดหอพักชายไป ยูคยอมโคลงศีรษะ

                  “แทฮยอง อีกไม่ถึงห้านาทีจะถึงเวลาที่ซองแจมันนัดประชุมเรื่องการแข่งควิดดิชแล้วนะ”

                  “พวกแกก็ขึ้นมาง้อก่อนที่จะถึงเวลาสิไอ้พวกบ้า!

                  “เมี๊ยว!

     

                  ถามว่าอายไหม?

                  อาย อายมากเลยด้วย

                  สรุปคือไอ้พวกเพื่อนไร้ประโยชน์ของแทฮยองมันก็ไร้ประโยชน์สมกับที่ปรามาสไว้ ไม่มีใครตามขึ้นมาง้อสักตัว

                  เกลียดพวกแม่งมาก

                  นอกจากนั้นแล้วทุกคนยังทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทีมควิดดิชของฮัฟเฟิลพัฟทุกคนนั่งล้อมรอบอยู่หน้าเตาผิงโดยที่มีซอกจินกับเคนที่ไม่ได้อยู่ในทีมนั่งทำการบ้านกันอยู่ที่โต๊ะกลมตัวเดิม ซองแจที่เพิ่งจะไปเอาตารางการแข่งขันมาบอกเรื่องวันที่และคู่แข่งของแต่ละแมทช์คร่าวๆ ดวงตาคมเหลือบมองเพื่อนตัวเล็กที่นั่งหน้ามุ่ยแข่งกับแมวมาตั้งแต่เริ่มประชุมแล้วก็ถอนหายใจในที่สุด

                  “โอเค กูยอมและ ห่านี่เป็นอะไรเนี่ย?” ซองแจพยักหน้าไปทางแทฮยองเป็นเชิงถาม อี้ชิง รุ่นพี่ปีหกตำแหน่งคีปเปอร์ของทีมเอียงคอมองบ้าง

                  “มีเรื่องอะไรหรือเปล่าแทฮยอง?”

                  “ก็ไอ้พวกนี้อะอี้ชิงฮยอง” พอได้รุ่นพี่คนสวยมาถามไถ่หน่อยแทฮยองก็กระเถิบเข้าไปอ้อนทันที ซองแจมองแมววิคกี้ขี้อ่อยของมั่นที่กระโดดลงจากตักเจ้าของมาเอาหัวถูอี้ชิงฮยองบ้างแล้วก็รู้สึกหมั่นไส้เบา “ทั้งๆที่แทโดนจอน จองกุกมันทั้งแขวะทั้งเยาะเย้ยมาตลอด แต่พวกมันก็ไม่เข้าข้างเพื่อนเลย”

                  “จอน จองกุก?” อี้ชิงทวนอย่างแปลกใจ จงแด ตำแหน่งบีตเตอร์ปีหกเองก็ยังกระพริบตาปริบงงๆ

                  “จอน จองกุก ซีกเกอร์ของกริฟฟินดอร์น่ะเหรอ?”

                  “อื้อ”

                  อี้ชิงกับจงแดสบตากันก่อนจะหัวเราะ

                  “แน่ใจเหรอว่าเขาเยาะเย้ยน่ะแทฮยอง? ที่พวกฮยองได้ยินมาจากแบคฮยอนกับชานยอลมันไม่ใช่แบบนั้นนะ”

                  ชื่อของรุ่นพี่ปีหกตำแหน่งสองบีตเตอร์ของทีมควิดดิชของกริฟฟินดอร์ทำให้แทฮยองย่นจมูก เพื่อนๆอีกสี่คนมองมาด้วยท่าทีสนอกสนใจ ส่วนซอกจินกับเคนที่มือทำการบ้านแต่หูก็ยังฟังบทสนทนาทุกอย่างก็หัวเราะกันเองเบาๆ

                  “แบคฮยองกับชานยอลลี่ฮยองพูดว่าอะไรล่ะ?”

                  “ไม่ใช่อะไรไม่ดีก็แล้วกัน” จงแดเอ่ยล้อๆ อี้ชิงยิ้มหวาน

                  “เราคิดมากไปเองหรือเปล่า? พี่ว่าจอน จองกุกก็ดูเป็นเด็กดีนี่นา”

                  “เขาไปเยาะเย้ยแกตอนไหนวะ? วันนี้ยังมาสอนคาถาแปลงร่างให้ถึงที่ ขนาดไอ้แจ็กสันอยู่ข้างๆมันโดนถ้วยชากระโดดกัดหัวจองกุกมันยังไม่ช่วยเลย” ซองแจถามขึ้นมาบ้าง แทฮยองกลอกตา

                  “ก็นั่นแหละ! มันอะทำมาสวมบทเป็นคนดี ทำมาจะสอน แต่ในใจมันคิดเย้ยฉันอยู่ไงว่าแค่นี้ก็ทำไมได้”

                  “แค่นี้ห่าอะไร? คนทำไม่ได้ก็ทำไม่ได้ทั้งห้อง มีไอ้จองกุกคนเดียวอะที่ทำได้”

                  “ฮึ่ยย แกดูคำพูดที่มันใช้ดิ มันบอกว่าฉันทำไม่ได้อะ!

                  “แล้วมันก็ถามต่อด้วยว่าให้มันช่วยไหม โอ้ยไอ้แท” ซองแจเริ่มกุมขมับ “กูว่ามึงนี่เพ้อเจ้อ”

                  “กูว่าฟังๆไปแล้วมันชักจะยังไงๆ...” ยูคยอมยกมือขึ้นเสนอหน้าบ้าง “กูสงสัยตั้งแต่ที่แม่งมาเสนอตัวช่วยสอนโต๊ะไอ้แทและ คือคนที่ทำไม่ได้ก็มีอยู่เต็มห้อง โต๊ะที่ไอ้จองกุกนั่งอยู่กับพวกไอ้แจ็กสันก็อยู่ตั้งไกล มันถ่อมาช่วยโต๊ะแกทำไมวะ?”

                  “ก็บอกแล้วไงว่ามันจ้องจะมาเยาะเย้ยฉัน มันแค่อยากจะย้ำให้เห็นว่ามันทำได้แล้วฉันทำไม่ได้ก็เท่านั้นแหละ!” แทฮยองขู่ฟ่อ อี้ชิงยกมือขวาขึ้นลูบหัวรุ่นน้องส่วนมือซ้ายก็ลูบขนวิคกี้ที่ยันตัวขึ้นพองขนขู่บ้างเป็นการปลอบประโลม

                  “เอาน่าๆ ช่างเถอะนะ แทฮยองอา ถ้าโกรธจอน จองกุกมากก็เอาไปลงที่สนามสิ เราเป็นซีกเกอร์ด้วยกันทั้งคู่นี่ มันชอบหยามว่าแทแทไม่เก่งนักเราก็โชว์ให้เขาเห็นเลยว่าแทแทของฮัฟเฟิลพัฟน่ะจับลูกสนิชได้ไวแค่ไหน” ซอกจินพูดมาจากโต๊ะที่ทำการบ้าน พอได้ยินอย่างนั้นแล้วแทฮยองก็นึกคึก พยักหน้าหงึกรับคำท้า(ข้างเดียว) ก่อนจะชี้นิ้วไปที่กับตันทีมควิดดิชอย่างซองแจ

                  “ไอ้ซองแจ! อย่ามายึกยัก มาวางแผนกันเร็ว! คู่แรกของเราคือใครห๊ะ?”

                  “อะ.. เอ่อ... ก่อนหน้าเราก็มีกริฟฟินดอร์แข่งกับสลิธีรินเป็นคู่แรก เราก็ไปดูการแข่งขันอาทิตย์นั้นกัน ดูเพลย์การเล่นและทักษะของอีกฝ่าย เอามาปรับใช้กับของเราให้ดี” พอเข้าเรื่องควิดดิชแล้วซองแจก็ดูจริงจังจนทุกคนเงียบกริบไปด้วย

                  “คู่ที่สองคือฮัฟเฟิลพัฟกับเรเวนคลอ บอกตามตรงเรเวนคลอปีนี้ไม่ได้ดูน่ากลัวมาก แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ประมาทไม่ได้เด็ดขาด จุนมยอนฮยองตำแหน่งคีปเปอร์เป็นกับตันทีมปีนี้ เขาฉลาดในการเล่นเกมมาก ถึงดูรวมๆแล้วทักษะพวกเราจะแข็งกว่าแต่เราก็ไม่รู้ว่าจุนมยอนฮยองจะคิดลูกเล่นแบบไหนมา ปีนี้ฉันได้ข่าวว่าเขารับเชสเซอร์เพิ่มขึ้นมาอีกคนแทนนานะนูน่าที่เพิ่งจบไป เห็นว่าชื่อไอยู”

                  ไอยู... แทฮยองพยักหน้าตาม เขาจำเธอได้ เป็นเด็กปีสี่หน้าตาน่ารัก ผิวขาวจัดตัดกับผมยาวสีดำขลับ สวยมากจนแม้แต่พวกสลิธีรินที่ถือว่ามีแต่ลูกคุณหนูดูผู้ดีๆก็ยังฮือฮา

                  “เก่งขนาดไหนกันนะ? แค่ปีสี่แต่มาเป็นตัวจริงแทนรุ่นพี่แทควานที่เป็นตัวสำรองรอเสียบต่อได้ยังไง?” ยองแจที่เป็นเชสเซอร์เช่นกันรำพึง จีมินกับยูคยอมที่อยู่ตำแหน่งเดียวกันก็ดูเครียดไม่เบา

                  “ก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันเองก็ยังไม่เคยเห็นเขาบนไม้กวาด” ซองแจเสยผม “แต่นั่นแหละ หวังว่าเราจะเห็นพวกนั้นซ้อมกันก่อนแข่งบ้างจะได้พอประเมินได้ นอกจากไอยูที่ฉันไม่รู้ว่าเก่งแค่ไหนแล้วที่น่ากลัวอีกคนก็คงจะเป็นซีกเกอร์ของเรเวนคลอ”

                  “มาร์ค ต้วน” แทฮยองพึมพำ มาร์คอยู่ปีหก บ้านเรเวนคลอ เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของนัมจุนฮยอง ดูเงียบๆแล้วก็ใจดี แทฮยองนับถือมาร์คและชอบเข้าไปคุยเล่นกับอีกฝ่าย แต่พอถึงเรื่องควิดดิชแล้วมาร์คก็ไม่เคยออมมือให้เลย

                  “ใช่ เก่งและเร็วมาก คงต้องหนักหน่อยล่ะนะแท” ซองแจว่า “คนอื่นๆในทีมนั้นพวกเราก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว มีเชสเซอร์เดิมอีกสองคนคือลู่ห่านกับฮานิ บีตเตอร์อีกสองคือมินซอกแล้วก็มินแจ ในเมื่อเอสของทีมนั้นคือมาร์ค ทางที่ฉลาดที่สุดของเรเวนคลอก็จะเป็นการให้มาร์คจับลูกสนิชได้เร็วๆ ถ้าจับลูกสนิชได้เรเวนคลอก็จะได้150แต้มและยุติการแข่งขัน ถึงไอยูจะเก่งจริงแต่ในเมื่อเชสเซอร์สามคนนั้นไม่เคยฝึกซ้อมด้วยกันมาก่อนมันก็คงไม่ราบรื่นนักหรอก โอกาสที่พวกเขาจะให้เชสเซอร์ทำแต้มให้มีน้อยมาก เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือให้มาร์คจับลูกสนิช”

                  “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องหาลูกสนิชให้เจอก่อน ถ้าไม่รีบจับไว้เองก็ต้องถ่วงเวลาไม่ให้มาร์คฮยองจับได้แล้วเพิ่มเวลาให้เชสเซอร์ของเราทำคะแนน” แทฮยองคิดตาม ซองแจพยักหน้า

                  “ใช่ กับนัดเรเวนคลอนี่ซีกเกอร์สำคัญมากนะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเราที่เหลือจะยืดยาดกันได้ เชสเซอร์ต้องทำคะแนนให้ได้เยอะๆในเวลาสั้นๆเพราะทั้งเรเวนคลอและเราต่างก็อยากจะรีบปิดเกม คีปเปอร์ต้องรักษาโกลให้ดี ส่วนบีตเตอร์ก็ต้องคอยปกป้องไม่ให้ลูกทีมของเราโดนลูกบลัดเจอร์ทำร้าย”

                   อยู่ๆจีมินก็หัวเราะ

                  “ลูกบลัดเจอร์นี่พวกเราคงไม่ต้องกลัวมั้ง ถ้าซีกเกอร์ของเราตกอยู่ในอันตรายมินแจก็พร้อมจะช่วยอยู่แล้วนี่นา~

                  “เกลียด ข่วนหน้ามันเลยวิคกี้”

                  “เมี๊ยว!

                  “โอ้ย!!

     



    Talk: ครบ100%แล้ววว อีกครั้ง อยากจะบอกว่ารักในความเวิ่นเว่อและขี้มโนของแทแท เป็นคนที่คิดเองเออเองแล้วขี้โวยวายอย่างน่าเอ็นดูอะ รักยัยแมววิคกี้ขี้อ่อยด้วย 55555 

    อยากเม้าเรื่อง ISAC2016!! เสียดายที่แทแทไม่ได้มาร่วมงานด้วย แต่จีมินนี่ก็ยังน่ารักมากที่คาทกและส่งวีดีโอไปหานาง ความมินวีมีสูง 95ไลน์บันไซ!! ชอบในการเอาใจใส่ของจีมมากอะ รู้สึกว่านางดูแลแทแทดีมาก เป็นห่วงเป็นใยตลอด ยัยนางฟ้าของบังทันเอ้ยยย มีฟีลลิ่งเอ็นดู มีฟีลลิ่งหมั่นเขี้ยวอยากจะกอดยัยก้อน ฮือออออ ตัดไปทางฮยองคนโตสุด คือพี่จินโดนศอกตอนเล่นฟุตซอลแล้วเลือดกำเดาไหลจนต้องเอาไปโรงพยาบาล คือรักพี่มากๆนะ รักเสมอ ความหล่อของพี่ไม่เข้าใครออกใคร พี่เสียงดีคนดีเป็นคุณแม่ออมม่าของบังทัน ตั้งแต่ดูอีทจินมาน้ำหนักเราก็ขึ้นพรวดๆแบบไม่มีใครยอมใคร คือรักคิม ซอกจินจริงๆนะเธอออ แต่พอเห็นข่าวพี่แกโดนศอกหน้าแหกแล้วรู้สึกขำอะ 55555555 เกลียดตัวเอง ทำไมเป็นคนแบบนี้ 55555 แต่ก็เห็นว่าตอนนี้นางโดนส่งกลับหอไปพักแล้ว พี่นัมจุนเองก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมากด้วย อาร์มี่ก็สบายใจแล้วเนอะะ พี่เขาไม่ได้เป็นอะไรแล้ว

    แล้วก็นิดหนึ่ง พูดถึงนัมจุนแล้ว...
    เรือนัมจินวันนี้แข็งแกร่งมากค่ะ!! กรี๊ดดดดดดดด คือชอบที่นัมจุนปลอบมี่โดยการบอกทำนองว่า ซอกจินไม่ได้เป็นอะไรนะ ถ้าเขาเป็นหนักผมจะตามไปดูแลเอง แต่นี่ผมไม่ได้ไปก็แปลว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมากไง แบบ อุ้ยยยยย ขุ่นพระะะ *เอามือทาบอก* คืออัปป้าดูแลออมม่าดีอะ แล้วไม่ใช่แค่เขาดูแลกันนะคะคุณ คือเราประทับใจในการปลอบอาร์มี่ของนัมจุน คำพูดของฮีที่ปลอบนอกจากจะฟินแล้วเฮ้ย เออ มันมีเหตุและผลนะเธอออ มีความหล่อสมาร์ทและอ่อนโยนค่ะ คิม นัมจุนเอาไปสิบคะแนน!!

    ตบท้ายนิดหนึ่งด้วยความแข็งแกร่งของจอน จองกุก แบบแกรรรรร นางยิงธนูได้ 9 9 10 จ้าาาา คือเหมือนคิดไว้เล็กๆแล้วแหละว่าระดับนางแล้วคงทำได้ดีปะ แต่มาเจอคะแนนตรงๆนี่ความเทพของจอน จองกุกก็ยังทำให้รู้สึกตื่นตะลึงงึนงันได้เช่นเคย มีความภูมิใจเบาค่า

    ทอร์กที่ไหนเขายาวเป็นพารากราฟแบบนี้คะเธอ? 55555555 หมั่นไส้ความขี้เม้าของตัวเอง พอค่ะพอ ควรจะพอได้แล้ว 5555

    ขอบคุณมากๆที่ติดตามเรื่องนี้นะคะ <3 แล้วเจอกันค่าาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×