คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : Chapter 17: พลุ (50%)
Mischief
Managed 17
ซอนมีก็ว่าอยู่แล้วว่ามันแปลกๆ
เท่าที่เธอจำได้
ปาร์คโบอา สาวสวยบ้านสลิธีรินกับ ชเวซันยอง (ที่ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้นามสกุลจอนแล้ว)
ที่โดดเด่นของกริฟฟินดอร์ก็ไม่เคยจะถูกชะตากัน
เรียนด้วยกันมาเจ็ดปีก็ไม่เคยเห็นจะเคยกันดีๆสักครั้ง
พออยู่ๆจับมือกันมาเที่ยวถึงโรงแรมที่ชุนชงบุกโดของเธอแล้วซอนมีก็งงนิดๆแต่ไม่เข้าใจมากๆ
แต่ในเมื่อลูกๆหลานๆก็อยู่กันเยอะแยะซอนมีก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่ามันคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
ยัยสองคนนั้นคงไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกหลานหรอกเนอะ
ซึ่งมันก็ถูกนะ
ถูกครึ่งหนึ่ง
เพราะหลังจากที่ซันยองกับเจ้าลูกชายหน้าตาหล่อเหลาอย่างจองกุกหายไปดูขนมหน้าร้านกันแล้วเจ้าหล่อนก็กลับมายิ้มหวานแล้วบอกให้ทุกคนรีบกลับโรงแรมกันดีกว่า
พอเจ้าจองกุกวิ่งพรวดหายไปทางบ่อน้ำร้อนและหนูไอยูได้แต่เดินตามงงๆตาปริบๆไปแล้วยัยซันยองก็หันขวับมาชี้ไม้กายสิทธิ์ที่ปลายคางโบอา
ดวงตากลมโตขุ่นมัวและคิ้วได้รูปสวยนั่นก็ขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจ
ซอนมีรีบรั้งมือเพื่อน
“ซันยอง!”
“ซอนมี
เธอดูมันสิ นังนี่มันงูอสรพิษแท้ๆ!”
ซันยองว่าเสียงแข็ง โบอาคลี่ยิ้มน้อยๆแล้วใช้ปลายนิ้วพยายามจะเบี่ยงปลายไม้กายสิทธิ์ของอีกฝ่ายให้ห่างจากตัว
แต่ซันยองก็เกรงมือค้างท่าไว้ที่เติม
“อะไรกันจ้ะซันยอง
ฉันไปทำอะไรเธอตั้งแต่เมื่อไร? คุยกันดีๆดีกว่าน่า”
“คุยกับผีสิยัยบ้า! เธอหลอกฉันว่าหนูไอยูเป็นคนที่จองกุกกี้ชอบ! ฉันเห็นนะว่าเธอคอยแต่ประเคนลูกชายให้แทฮยองงี่ของฉันโถ่งๆ
คิดจะเบนให้ฉันโยนหนูไอยูให้จองกุกแล้วเคลมแทฮยองงี่เงียบๆใช่ไหมยะ!!”
โบอาหัวเราะขำ
“โธ่... กว่าจะฉลาดนะซันยอง ถึงว่า
เธอถึงไม่ได้อยู่บ้านเรเวนคลอ”
“โอ้ยยยย ยัยงูพิษ!!”
มือเรียวทำท่าจะตวัดร่างมนต์ โบอาขยับตัวเบี่ยงหนีลำแสงสีแดงเล็กๆนั่นแล้วหยิบไม้กายสิทธิ์ของตัวเองออกมาบ้าง
“เธอมันก็ทึ่มๆเซ่อๆแบบนี้มาตลอด
ฉันรู้ตั้งแต่ที่มินกยูกับเซฮุนใบ้แล้วย่ะว่าลูกชายเธอชอบน้องแทฮยอง และฉันก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าลูกชายตัวเองชอบน้องเขาเหมือนกัน
ใครเขาจะเหมือนเธอยะ
หวังจะเซอร์ไพรซ์ลูกชายบ้าบออะไรไม่รู้เลยไม่ถามกันให้รู้เรื่อง
โดนฉันจูงไปหน่อยก็เชื่อสนิท”
ลำแสงสีแดงลั่นออกจากปลายไม้กายสิทธิ์ของซันยองอีกครั้ง
โบอาหรี่ตาแล้วตวัดปัดมันออกก่อนจะยกข้อมือขึ้นเล็กน้อย
“อิมเป...”
“เอกซ์เปลล์ลิอาร์มัส!”
คาถาปลดอาวุธทำงานของมันอย่างดีเมื่อไม้กายสิทธิ์ของซันยองและโบอากระเด็นหลุดออกจากมือของทั้งสองคนแล้วลอยเข้าสู่ฝ่ามือของซอนมีทันที
คุณแม่ของจีมินเอามือกอดอก
“นี่คิดว่าเป็นบ้านของพวกเธอหรือไงกันยะ! โรงแรมฉันมีแขก
เป็นสถานที่พักผ่อนนะ เกรงใจเขาบ้าง!”
ยังดีที่ซันยองกัดปากดูสำนึกผิดขึ้นมาหน่อย
ซอนมีถอนหายใจเฮือก
“พวกเธอนี่มันจริงๆเลย ให้ตายสิ”
พูดไปแล้วก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา “จะไปขัดขากันให้มันได้อะไรขึ้นมา?
เรื่องของเด็กๆเขาทั้งนั้น!”
“ก็เธอดูนังงูพิษนี่สิ
ถ้าฉันไม่โดนหลอกป่านี้แทฮยองงี่เรียกฉันว่าแม่ไปแล้ว!”
“คิก... ช่วยไม่ได้นี่น้า
ในห้องนี้น่ะคนที่น้องรับเป็นแม่ก็มีแต่ฉันเท่านั้นแหละ
ระหว่างที่เธอพาลูกชายไปกินบิงซูกับไอยูป่านี้โบกอมคงไปแช่น้ำอยู่กับลูกชายคนใหม่ของฉันละมั้ง~”
“ยัยงูผี!!”
ถ้าซองแจรู้ว่าคุณป้าทั้งสองทะเลาะกัน
เขาก็อยากจะปลอบใจคุณซันยองว่ามันไม่น่าห่วงขนาดนั้นหรอกป้า...
จริงอยู่ที่ไอ้จีมินไปชวนมินแจมาที่บ่อน้ำร้อนด้วยกัน
จริงอยู่ที่รุ่นพี่ปาร์คโบกอมพาตัวเองเสนอมาที่บ่อถึงที่โดยที่ไม่ต้องถูกใครชวนมา...
แต่จริงๆนะ
มันไม่ได้มีอะไรน่าห่วงมากขนาดนั้นหรอก
ย้อนกลับไปเมื่อชั่วโมงกว่าๆ
พอจองกุก ไอยู และพวกคุณป้าพากันตบเท้าไปร้านบิงซูไป
มินแจกับโบกอมก็รีบรุดไปทางบ่อน้ำร้อนบ้าง
พอเช็คจนเจอบ่อที่พวกจีมินจองไว้เฮดบอยคนเก่งและบีตเตอร์ของเรเวนคลอก็เปิดประตูพรวด
สมาชิกบ้านฮัฟเฟิลพัฟหันมามองพวกเขาเป็นตาเดียว
แทฮยองที่นั่งเปลือยอกแช่น้ำอยู่เอียงคอนิดๆ
หยดน้ำใสๆที่ไม่แน่ใจว่าเป็นเหงื่อที่มาจากอุณภูมิที่ขึ้นสูงของน้ำหรือว่าเป็นน้ำที่แช่อยู่เกาะพราวตามตัวและใบหน้าหวาน
ผิวสีน้ำผึ้งสวยเป็นประกายออกโทนพีชขึ้นมาเพราะความร้อน ริมฝีปากขึ้นสีแดงจัด
“มากันแล้วเหรอ?”
เสียงทุ้มหวานถามออกไปแค่นั้นจริงๆ
“เฮ้ย!! มินแจ!”
แล้วคิมมินแจแม่งก็กลอกตาขึ้นฟ้าแล้วเลือดกำดาวไหลหงายหลังเป็นลมล้มตึงไปกับพื้นเฉยเลย
คิดแล้วก็เพลียใจ
ซองแจถอนหายใจยาวๆอีกเฮือกขณะมองเดน่า
เอลฟ์ประจำบ้านที่เป็นพนักงานโรงแรมคนหนึ่งของคุณซอนมีกำลังใช้เวทมนตร์พัดลมอ่อนๆใส่บีตเตอร์คนเก่งของเรเวนคลออยู่
พอไอ้มินแจเป็นลมฟุบไปปุ๊ปการแช่น้ำก็เลยเป็นอันเสร็จสิ้น
ทุกคนลุกพรวดออกจากน้ำมาช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนที่จีมินจะดีดนิ้วเรียกเดน่ามาดูอาการของมินแจให้
เดน่าบอกว่าไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วง แค่เป็นลมเฉยๆ
“เขาแช่น้ำนานไปเหรอคุณหนูปาร์คตัวน้อย?”
เจ้าเอลฟ์ประจำบ้านถามด้วยตาโตๆใสๆ
ซองแจล่ะตอบไม่ถูกจริงๆ
อยากจะบอกว่าปลายหัวแม่เท้าไอ้มินแจยังไม่ทันจะแตะโดนขอบบ่อเลยด้วยซ้ำ
แค่เปิดประตูมาเจอไอ้แทนุ่งผ้าเช็ดตัวตัวเดียวใต้น้ำก็เลือดกำเดาไหลแล้วเป็นลมไปเองเฉยเลย
แต่ก็นั่นแหละ..
เอาเป็นว่าคุณซันยองไม่ควรจะห่วงเลยจริงๆ จะคิมมินแจหรือจะปาร์คโบกอมก็ยังไม่ทันจะได้แทะโลมไอ้แทมันหรอก
ไอ้บีตเตอร์บ้านั่นดันหงายหลังตึงไปก่อนเสียแล้วนี่นา ถ้าซองแจจะสามารถคอมเม้นอะไรได้เขาอยากจะพูดถึงมินยุนกิบ้านสลิธีรินมากกว่า
คิมมินแจกับปาร์คโบกอมน่ะไม่ทันได้แทะโลมไอ้แท
แต่ไอ้ที่ทำให้ซองแจประหลาดใจได้มากกว่าคือการที่มินยุนกิมาถึงบ่อน้ำร้อนแล้วเรียกตัวจีมินไปคุยก่อนที่มินแจกับโบกอมฮยองจะมาถึงเกือบสิบนาที
พี่แม่งเร็วมาก กูยอมใจ
แต่นั่นแหละ กว่ามินแจจะได้สติอีกทีจอนจองกุกที่หายไปกินบิงซูกับสาวก็เดินมาเคาะประตูห้องของแทฮยองกับมินแจพอดี
“พี่มินอาบอกว่ามีอุบัติเหตุนิดหน่อยแล้วก็ทุกคนอยู่ที่ห้องนี้...”
จองกุกที่เดินมาเคาะประตูโดยที่ไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์เท่าไรพูดเป็นการเกริ่น
ซองแจมองผ่านไหล่หมอนั่นไปเห็นเชสเซอร์รุ่นน้องจากเรเวนคลออย่างไอยูยืนเยื้องๆอยู่ข้างหลังหมอนั่นแล้วก็แอบเหลือบกลับไปมองเพื่อนขี้อ่อยของตัวเองที่นั่งอยู่ถัดจากเตียงที่มินแจนอนอยู่ไปหน่อย
ข้างๆไอ้แทนั่นก็มีพี่โบกอมอีกคน
โอโห บันเทิงล่ะกู
ยิ่งกว่าตำนานรักข้ามโลกยูฮูเคมฟรอมเดอะสตาร์ก็งานนี้
“อ่า.. มินแจเป็นลมนิดหน่อยน่ะ”
ยูคยอมเป็นฝ่ายอาสาตอบไปให้
ซองแจขยับออกมาจากหน้าประตูให้จองกุกกับไอยูเข้ามาในห้องพักสำหรับสองคนที่ตอนนี้มีคนอยู่เกือบสิบ
“เป็นลม? โอปป้าเป็นอะไรมากไหมคะ?”
ไอยูที่เป็นรุ่นน้องร่วมบ้านมินแจทวนถามด้วยความเป็นห่วง
แทฮยองมองน้องเขาหน่อยแล้วก็ส่ายหัวเบาๆ
“ไม่นะ ตอนที่เป็นลมโชคดีว่าโบกอมฮยองอยู่ตรงนั้นพอดีเลยรับตัวมินแจไว้ทัน
ไม่งั้นถ้าหัวฟาดไปคงแย่น่าดู”
ตาแป๊วๆของไอ้ลูกหมาซื่อบื้อช้อนไปทางรุ่นพี่บ้านสลิธีรินคนดังกล่าว
“ถ้าไม่ได้ฮยองล่ะต้องแย่แน่ๆเลย
ขอบคุณนะครับฮยอง”
ปาร์คโบกอมยิ้ม
มีความหล่อละมุนยิ่งกว่าสิ่งใดๆบนโลกใบนี้
จีมินที่อยู่ในรัศมีใกล้เคียงถึงกับตาพร่า ต้องตั้งจิตอธิฐานถึงมินยุนกิ
“ไม่หรอก
เพื่อนแทแทไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะ”
“เชี่ยเอ้ย ฮยองแม่งพระเอกฉิบหาย
ใจกูสั่นแรงมาก ไอ้แทแม่งทนได้ไงวะ” ยองแจถึงกลับกระซิบกระซาบ ซองแจล่ะเพลียใจ
ห้องมันก็เล็กแค่นี้ไหม นี่ก็ไม่ได้ดูเลยว่าไอ้จองกุกยืนอยู่ข้างหลังมึงอยู่
แค่นี้มันก็หนังตากระตุกมากพอและ เดี๋ยวก็ลั่นเอาฟันเฉาะหน้ามึงหรอกยองแจ
“แล้วอยู่ๆเป็นลมไปได้ยังไงเหรอครับแทแท?”
ปาร์คโบกอมแทแทมาจอนจองกุกก็แทแทกลับไม่โกงกัน
แทฮยองหันไปทางต้นเสียงก่อนจะโคลงหัวเบาๆ คิ้วมุ่นชนกัน
“จะว่าไปก็ไม่รู้เหมือนกันนะ
พอมินแจกับโบกอมฮยองเปิดประตูจะเข้ามาในบ่ออยู่ๆมินแจก็เลือดกำเดาไหลแล้วล้มไปเลย”
“เปิดมาเห็นไอ้แทแก้ผ้าครึ่งตัวแช่น้ำอยู่ในบ่อแล้วใจไม่แข็งแกร่งพอ
เป็นลมแม่งเฉยเลย” ยูคยอมขมุบขมิบปากอธิบายให้จองกุกฟังเบาๆ
ซีกเกอร์ของกริฟฟินดอร์พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ
#อ่อนแอก็แพ้ไป อุอิ
เย็นวันนั้นหลังจากพี่พวกเขาปล่อยให้มินแจพักผ่อนไปทุกคนก็ไปทานอาหารเย็นกัน
ความแปลกประหลาดที่มากมายอยู่แล้วเมื่อพูดถึงพวกเขาทวีคูณขึ้นมาอีกเมื่อคุณซันยองยิ้มแฉ่งแล้วพูดขึ้นมาว่า
“แทฮยองอา จองกุกกี้ มานั่งกับแม่สิจ้ะ”
แทฮยองหันไปมองไอยูวูปหนึ่งก่อนจะดันน้องมาข้างหน้า
“ให้ไอยูนั่งกับจองกุกแล้วกันครับ
เดี๋ยวผม..”
“มุมนั้นเต็มแล้ว
งั้นแทแทมานั่งฝั่งแม่กับเจ้าโบกอมสิคะลูก”
มัน..
มันแม่งมีพลังอำนาจอะไรบางอย่างที่สปาร์คระหว่างคุณป้าทั้งสองคน เด็กๆทุกคนชะงัก
ไม่มีใครรู้ว่าควรจะขยับตัวไปนั่งฝั่งขวาหรือซ้ายของโต๊ะอะไรยังไงตรงไหนดี
คุณซันยองหันไปถลึงตาใส่ปาร์คโบอาก่อนจะหันมาคลี่ยิ้ม
“แม่รู้สึกว่ายังไม่ได้คุยกับแทแทเป็นเรื่องเป็นราวเลย
มานั่งกับแม่นะคะ”
“กูก็ยังไม่ได้คุยกับเขาเป็นเรื่องเป็นราว
ทำไมเขาไม่คุยกับกูบ้างวะ” ยูคยอมพึมพำสงสัย ซองแจศอกใส่มันไปที
มาพูดงุ้งงิ้งกวนกูอยู่ข้างหูอยู่ได้ เดี๋ยวกูก็พลาดการเผือกเรื่องชาวบ้านเขาหรอก
“จะต้องให้คุยเรื่องอะไรล่ะจ้ะซันยอง?
เธอนั่งคุยกับหนูไอยูดีกว่า
ได้ข่าวมาแว่วๆว่าจะต้องสนิทกันมากกว่านี้ไม่ใช่เหรอจ้ะ? อย่าว่าฉันชงอย่างนั้นอย่างนี้เลยน้า
แต่ฉันได้ยินว่าเธอจะจัดงานแต่...”
“อ๊า! เดี๋ยวอาหารเย็นหมดนะจ้ะ
เด็กๆรีบนั่งกันก่อนดีกว่า!”
แทฮยองมองคุณป้าสองคนด้วยความชั่งใจ
ก่อนที่สุดท้ายแล้วเขาจะบอกว่า
“ผม..
ผมว่าผมนั่งกับแบคฮยองดีกว่าครับ ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่ชายเยอะแยะเลย”
“ฮึกกกกกก แทแทของฮยองงงง”
ร่างของบยอนแบคฮยอนโถมเข้ากระโจนใส่ญาติคนน้องที่ร้องวันพันปีมีแต่จะวิ่งหนีความรักอันใหญ่หลวงของพี่ชาย
แทฮยองทำหน้าปลงตก
เป็นการหนีเสือปะทะจระเข้อย่างแท้ทรู
ถึงจะไม่ได้มีความรักต่ออาหารและการกินอย่างลึกซึ้งเท่าซอกจินฮยอง
แต่แทฮยองก็จัดว่าเป็นคนที่อยู่เพื่อกินคนหนึ่งนะ เขาชอบเบอร์เกอร์ ชอบไก่ทอด
ชอบรามยอน ชอบเนื้อ ชอบเครื่องดื่มที่มีก๊าซอัดอยู่เยอะๆ ชอบไปหมดแหละจริงๆ
เพราะอย่างนั้นขอบอกเลยว่านี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่แทฮยองรู้สึกดีใจมากๆที่จะได้เลิกกินเสียที
“อิ่มแล้วครับ เดี๋ยวผมขอตั...”
“พี่ก็อิ่มแล้ว
แทแทไปเดินย่อยกับฮยองไหมครับ?”
ปาร์คโบกอมรีบวางตะเกียบลงบ้าง แทฮยองอาจจะคิดไปเองแต่เขาค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองเห็นคุณแม่โบอาแสยะยิ้มใส่คุณแม่ของจองกุก
“อั้นอัยอ้วย”
นั่นคือจอนจองกุกที่รีบพูดออกมาทั้งๆที่ยังมีปลาหมึกผัดเนยอยู่เต็มปาก
เศษปลาหมึกชิ้นหนึ่งกระเด็นมาแถวแก้วน้ำของแบมแบม นาอึนมองมันด้วยสายตารังเกียจ
“จองกุกว่าอะไรนะ?” แทฮยองหันไปถาม
จองกุกรีบกลืนอาหารลงคอ
“ฉันไปด้วย...
ถ้าแทฮยองจะเดินเล่นเดี๋ยวฉันไปด้วย”
“จองกุกอิ่มแล้วเหรอ?
ปกติกินเยอะกว่านี้นี่”
“มึงไปเคยเห็นเขากินกี่ครั้งวะถึงได้รู้ว่าปกติไอ้จองกุกมันกินเท่าไร”
ซองแจถามขึ้นมาลอยๆ
เห็นเพื่อนซื่อบื้อแล้วก็อยากจะช่วยขับเคลื่อนเรือให้มันแล่นไปเสียที
ซองแจรู้สึกว่าเรื่องมันจะซับซ้อนเกินเหตุไปและ คุณป้งคุณป้า
รุ่นพี่รุ่นน้องรุ่นเพื่อนอะไรมาสามัคคีชุมนุมกันในชีวิตไอ้แทเพื่อนเขายั้วเยี้ยเหลือเกิน
“ก็ที่ฮอกวอตส์...”
“ก็นั่งกันคนละโต๊ะ” ซองแจรีบขัด
“จะบอกว่ามึงชอบมองเขาโต๊ะนั้นงั้นสิ?”
ความเงียบเข้าปกคลุมโต๊ะอาหารทันที
แม้แต่แจ็กสันที่กำลังเคียวหมูกรอบอยู่ยังชะงักกรามอมหมูไว้แทน
ทุกๆคนค่อยๆหันไปมองแทฮยองที่มองหน้าซองแจต่ออีกที
“ชอบมองเหรอ?” แทฮยองทวนช้าๆ
เจ้าตัวกระพริบตาปริบก่อนจะใช้สองมือยันตัวเองขึ้นจากโต๊ะ “ผ.. ผมขอตัวก่อนนะครับ!”
ก็นั่นแหละ ทวนช้าๆเสร็จอยู่ๆก็ลุกพรวดแล้วหันมาบอกผู้ใหญ่วิ่งหายไปเลยแบบนี้ ซอกจินเลิกคิ้วขณะมองแผ่นหลังบางๆของรุ่นน้องร่วมบ้านวิ่งหายพรวดไปอีกทางจนเกือบจะชนกับพี่รีเซ็บชั่น
“เจ้าเด็กนั่นรู้ตัวหรือเปล่านะว่าซองแจพูดผิด?”
ซอกจินเปรยถามเบาๆ จีมินที่นั่งอยู่ข้างกันหันมางงๆ
“พูดผิด? พูดอะผิดเหรอฮยอง?”
“ก็ที่ซองแจพูดไง บอกว่า ‘จะบอกว่ามึงชอบมองเขาโต๊ะนั้น’
ทั้งๆที่ซองแจควรจะถามว่า ‘จะบอกว่ามึงชอบมองโต๊ะนั้นเขา’
แบบนี้ไม่ถูกกว่าเหรอ?” ซอกจินเอื้อมมือไปหยิบจับแช
“คุยเรื่องโต๊ะอาหาร
ไม่ได้คุยเรื่องใครบางคนเสียหน่อย ปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่มเลยนะเจ้าแทแทน่ะ”
จีมินอ้าปากค้าง
“ตัวเบ้อเริ่มอะไรเล่าฮยอง
ผมยังเพิ่งรู้เพราะว่าฮยองบอกเนี่ยแหละ!”
นั่นสิ นอกจากจีมินกับยองแจ (และคงจะนัมจุนด้วย)ที่นั่งใกล้ซอกจินพอแล้วคนอื่นๆก็ยังไม่เห็นจะมีใครคิดได้เหมือนคิมซอกจิน
ทุกคนยังมองตามหลังแทฮยองไปงงๆ
โบกอมกับจองกุกหันมามองหน้ากันเองเหมือนไม่รู้ว่าควรจะตามแทฮยองไปเหมือนที่บอกไว้ดีหรือเปล่า
ซอกจินหัวเราะเบาๆ
“ถ้าไม่ประมวลอะไรให้รอบคอบแล้วจะคุยกับนัมจุนรู้เรื่องได้ยังไงกันล่ะจีมินอา?”
TALK: ซองแจกำลังถีบเรือค่ะทุกคน 5555555555
ความคิดเห็น