คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 12: คำชวนของจีมินนี่
Mischief
Managed 12
วันเวลาพัดผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
เผลอแปปๆฮอกวอตส์ก็กำลังเข้าสู่ฤดูหนาว
แทฮยองติววิชามักเกิ้ลศึกษาให้จองกุกตามที่เคยคุยกันไว้
ในขณะเดียวกันวิชาปรุงยาที่หมอนั่นถนัดแทฮยองก็ได้จองกุกมาช่วยอีกแรง
ถือว่าเป็นสถานการณ์วิน-วินทั้งคู่ที่แทฮยองเคยเอาไปเล่าให้ซอกจินฮยองฟังแล้วได้เพียงแค่รอยยิ้มจางๆกลับมา
“ก็ดีแล้ว
เพื่อนกันช่วยกันทำงานไปก็ดี”
พอจะเข้าฤดูหนาวแล้วพระอาทิตย์ก็ตกเร็วขึ้นกว่าเดิม
แทฮยองมุ่นคิ้วให้กับแสงอาทิตย์ที่เริ่มจะริบหรี่ในบ่ายแก่ๆของวันจันทร์ที่เขานัดจองกุกมาทำรายงานวิชาปรุงยาของอาจารย์ปาร์คด้วยกัน
แทฮยองชอบแสงอาทิตย์
พอพระอาทิตย์ทำท่าจะหายลับไปแบบนี้แล้วมันก็ทำให้รู้สึกหดหู่ได้เหมือนกันนะเนี่ย
“แทฮยอง
รอนานหรือเปล่า?” เสียงของจอน จองกุกลอยทักมาก่อนที่แทฮยองจะเห็นตัวเสียอีก ร่างสูงโปร่งของซีกเกอร์ประจำบ้านกริฟฟินดอร์วิ่งหอบเข้ามาให้แทฮยองส่ายหัววืดแทนคำตอบ
จองกุกวางกระเป๋าเป้ลงบนพื้นแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกัน
เปิดกระเป๋าหยิบนู่หยิบนี่ขึ้นวางบนโต๊ะจนเกิดเสียงคึกโครมให้อาจารย์ซองที่เป็นบรรณารักษ์หันมามองตาเขียว
“ฉันเพิ่งมาเมื่อกี้เอง
ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้มั้ง”
“ก็ไม่อยากให้ต้องนั่งรอนานๆหรือเปล่าล่ะ?”
เหมือนอีกฝ่ายจะขมุบขมิบปากพูดออกมาแบบนี้ แทฮยองกระพริบตา
“ทำไมนะ?”
“เปล่าๆ
นี่วิชามักเกิ้ลศึกษาฉันต้องอ่านเรื่องระบบการศึกษาของมักเกิ้ลล่ะ แทแทสรุปให้ฟังหน่อยสิ”
จอน จองกุกร้องขอออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนจะออดอ้อนกัน
ฟังแล้วแทฮยองก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มรับถ้าไม่ติดว่าคำที่อีกคนใช้เรียกกันมันออกจะสะดุดหูไปหน่อย
“แทแท?”
“ชื่อเล่นจากแทฮยองไง
ไม่ชอบเหรอ?” จองกุกเม้มปากแล้วใช้ลูกตาใสๆนั่นมองตรงมาดูน่าสงสาร
เชี่ย กูเห็นภาพช้อนของไอ้กระต่ายโทนี่
สตาร์ก...
“มันก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ..
แต่จองกุกไม่เคยเรียกนี่ มันไม่ชิน” แทฮยองส่ายหัวเบาๆ “แต่เรียกได้นะ
คนอื่นๆก็ชอบเรียกแบบนี้เหมือนกัน”
“เหรอ... แต่ถ้าเลือกได้
ฉันก็ไม่อยากเรียกเหมือนคนอื่นหรอกนะ”
เอ่อ...
ก็สตั้นไหมล่ะ?
ไม่อยากเรียกเหมือนคนอื่นด้วย
กูต้องสลับสับเปลี่ยนตัวอักษรในชื่อมาเรียงกันใหม่ให้มันใช้เรียกคนเดียวเหมือนวอเดอร์มอร์เลยไหมมึง?
“...นายจะเรียกอะไรก็เรียกไปเหอะ
ฉันไม่ได้อะไรมาก”
“งั้นเรียก ‘ที่รัก’?”
เมื่อกี้ว่าสตั้นแล้ว
เจอมุขนี้เข้าไปกูไปไม่ถูกเลยครับสังคม...
ก่อนหน้านี้เจอกันแม่งอ้ำอึ้งตลอด
พูดอะไรก็ไม่ค่อยจะทันกันแทฮยองถึงได้เดินหนีได้ขนาดนั้น
นี่เผลอตัวไปติวให้ไม่กี่ครั้งมันกล้าพูดได้ขนาดนี้
กล้าทำตาวิบวับใส่ได้เบอร์นี้...
จอน จองกุก
พัฒนาการมึงก้าวกระโดดมาก กูยอมใจมึงจริงๆ
...แล้วหน้ากูเนี่ย
ร้อนทำไมวะ? ฮือออออ
นอกจากจะติวให้จอน
จองกุกแล้วกิจกรรมนอกเวลาเรียนอีกอย่างที่แทฮยองทำก็คงจะหนีไม่พ้นควิดดิช ในการแข่งขันควิดดิชรอบฮัฟเฟิลพัฟกับเรเวนคลอ
ฮัฟเฟิลพัฟชนะทีมของเรเวนคลอได้ในคะแนน 345 ต่อ 200... มาร์คฮยอง ตำแหน่งซีกเกอร์ของทีมนั้นยังน่ากลัวเหมือนที่แทฮยองคิดไว้
พอลงสนามแล้วขยับขึ้นไม่กวาดปุ้ปพี่แกก็ดูจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
ความใจดีอ่อนโยนที่เคยเห็นจนชินตาจากเจ้าชายประจำบ้านเรเวนคลอถูกลบหายไปเหมือนไม่เคยมีอยู่มาก่อนแต่แรก
แทฮยองที่เป็นซีกเกอร์เหมือนกันพอต้องแข่งกันตัวต่อตัวแบบนี้แล้วก็รู้สึกหนาวๆร้อนๆขึ้นมาทีเดียว
ยิ่งพอต้องเร่งเครื่องจับลูกสนิชข้างๆกันแล้วเห็นสายตาที่ไม่เป็นมิตรเลยสักนิดของมาร์คฮยองเพื่อนสนิทอัปป้า...
เอ้ย นัมจุนฮยองของแทฮยองแล้วเขาก็อยากจะร้องไห้ชอบกล
มาร์คฮยองเป็นซีกเกอร์ฝีมือดีมาก
ทั้งเร็วและมีเทคนิคโลดโผนบนไม้กวาดที่ทำให้เขาคล่องแคล่วกว่าคนอื่นๆ
มาร์คเคยบอกว่าเจ้าตัวเรียนศิลปะการต่อสู้มาบ้างเลยทำให้เอามาประยุกต์ใช้ตรงนี้ได้
แทฮยองคิดว่ามันเป็นอะไรที่เท่มากๆ
แต่พอเจอกันตัวต่อตัวแล้วพี่แกทำท่าเหมือนจะสะบัดต่อยแทฮยองตกไม้กวาดแบบนี้แล้วมันก็ไม่เท่เท่าไรนะ...
เอาจริงๆแทฮยองเองก็ยังเบลอๆอยู่ว่าตัวเองพุ่งไปจับลูกสนิชตัดหน้าพี่แกแล้วชนะมาได้อย่างไร...
เขาคิดว่าถ้าเป็นเรื่องความเร็วตัวแทฮยองน่าจะเร็วว่ามาร์คอยู่นิดหน่อยเพราะเขาตัวเล็กกว่า
เอาจริงๆแล้วระหว่างที่แข่งแทฮยองก็จำอะไรไม่ค่อยได้นอกจากความคิดว่า ฉิบหาย
มาร์คฮยองโคตรน่ากลัว รีบจับสนิชแล้วจบเกมดีกว่า..
คือแม่งคิดอยู่แค่เนี่ย
แล้วก็ดันจับได้ ดันชนะจริงๆ
ฟีลลิ่งเหมือนเด็กอนุบาลโดนหมาตัวโตวิ่งไล่แล้วเกิดมีพละกำลังมากขึ้นเป็นเท่าตัว
วิ่งหนีหมาเร็วกว่าเดิมสามเท่าอะไรงี้อะ คือแทฮยองควรจะปลื้มไหม?
อย่างไรก็เถอะ
พอเกมจบลงแล้ว มาร์ค ต้วนกระโดดลงจากไม้กวาดมาแล้วเขาก็ยิ้มให้แทฮยอง
ความอบอุ่นอ่อนโยนที่เป็นของมาร์คฮยองแห่งเรเวนคลอกลับมาอีกครั้งให้แทฮยองใจชื้นหลังจากที่โดนเขามองด้วยหางตาด้วยความรู้สึกเหมือนอยากจะพุ่งเข้าไปต่อยมาตลอดเกือบสามชั่วโมงเต็ม
“เล่นได้ดีมากนะแทฮยอง
เก่งขึ้นเยอะเลย”
มาร์คกล่าวชมหลังจากที่เขาออกมาเจอแทฮยองหน้าห้องล็อกเกอร์อาบน้ำของนักกีฬา
ฝ่ามือใหญ่ของรุ่นพี่ปีหกจากเรเวนคลอเอื้อมขึ้นลูบหัวแทฮยองเบาๆ
กลิ่นโคโลนจ์ของมาร์คฮยอง...
เหมือนจะเป็นแบล็คเบอร์รี่... กับใบไม้? เหมือนเครื่องเทศแบบใบไทม์หรือโรสแมรี่อะไรแบบนั้น..
ไม่ได้โรคจิตนะ
แต่กลิ่นน้ำหอมของมาร์คฮยองหอมจัง..
เป็นกลิ่นที่ทั้งเท่ๆเป็นแบบของผู้ชายแต่ก็อบอุ่นเหมือนนิสัยเจ้าตัว
อืม...
แทฮยองลองใช้น้ำหอมบ้างดีไหมนะ?
“ข..
ขอบคุณครับฮยอง” แทฮยองตอบกลับไป มาร์คยิ้มให้อีกครั้งก่อนที่เขาจะผละออกแล้วขอตัวกลับขึ้นหอคอยของเรเวนคลอไป
แทฮยองที่กำลังรอจีมินอาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จขยับตัวไปนั่งรอเงียบๆอีกมุม
จีมินออกมาเจอแทฮยองหลังจากนั้นไม่นาน
ระหว่างที่กำลังรอเขาใช้ห้องน้ำมินแจ บีตเตอร์คนเก่งของเรเวนคลอที่แต่งตัวเสร็จก่อนคงจะออกมานั่งเป็นเพื่อนแทฮยอง
จีมินมองดูทั้งสองคนคุยกันอย่างสนิทสนม
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ก็คงจะชิปแบบไม่ลืมหูลืมตา
แต่พอจีมินรู้ว่าจอนจองกุกจากกริฟฟินดอร์เองก็ชอบแทฮยองอยู่เหมือนกันแล้ว...
ก็รู้สึกว่าแม่งต้องรีบชิปคู่ของตัวเองให้แรงขึ้นกว่าเดิม!!
จีมินไม่รู้หรอกนะว่าจองกุกจะมาไม้ไหน
แต่เหมือนว่าหลังๆมานี่มันจะมาคุยกันแทฮยองบ่อยขึ้น
ชอบเอาเพื่อนของจีมินไปติวหนังสือด้วยกันบ่อยขึ้น... ก่อนที่แทแทของจีมินจะโดนหมอนั่นล่อลวงจีมินคิดว่าเขาเองก็ต้อง(ทำให้มินแจ)รุกหนักขึ้นกว่าเดิมเหมือนกัน!!
ศักดิ์ศรีของความมินแทมันเป็นเดิมพันอยู่นะเว้ยเฮ้ย
ถึงจะคนละคนกันแต่ด้วยความมินที่มีอยู่ในชื่อเหมือนๆกัน
ด้วยความดีเลิศเลอและความห่วงใยของมินแจที่จีมินนี่สัมผัสได้...
จีมินจะไม่ปล่อยให้ไอ้จองกุกมันเร่งสปีตทำคะแนนไปคนเดียวแน่ๆ
เพราอย่างนั้นเมื่ออยู่ด้วยกันสามคนแบบนี้ปาร์ค
จีมินเลยรีบฉีกยิ้มกว้างแล้วถลาตัวเข้าไปกอดคอแทฮยอง
“รอนานไหมแทแท?
ไงมินแจ? วันนี้เล่นได้ดีเลยนี่นา”
ทักไปแล้วคิม
มินแจที่กำลังยิ้มบางใส่แทฮยองอยู่ก็หันมาเผื่อแผ่รอยยิ้มให้จีมินบ้าง
“นายก็เหมือนกัน
ยินดีด้วยนะ”
“โอ้ยย
ฟลุ๊กมากกว่าฉันว่า จะว่าไปตอนที่ซ้อมก็ไม่เห็นไอ้แทมันจะบินได้เร็วเท่านี้นะ
วันนี้แม่งเหมือนผีเข้า นี่แกไปซุ่มซ้อมมาหรือเปล่าวะแทแท?”
คิดสงสัยแล้วจีมินก็หันไปถามแทฮยองที่ยิ้มเจื่อนๆกลับมา
“เอ่อ...
พอแข่งจริงๆแล้วมันคงคึกแปลกๆมั้ง? แบบอะดรีนาลีนหลั่งอะ..”
“เออเนอะ”
จีมินเออออไปกับเพื่อน เขาหันไปทางมินแจอีกครั้ง
“จะว่าไปเดี๋ยวมีแข่งเรเวนคลอกับกริฟฟินดอร์อีกรอบแล้วก็จะปิดคริสมาสแล้วนี่นะ
นายมีแพลนจะไปเที่ยวที่ไหนหรือยังมินแจ?”
“ก็ไม่เชิงหรอกนะ
หยุดไปก็คงจะกลับบ้านนั่นแหละ”
“ก็ดีนี่นา”
จีมินยิ้มกริ่ม “แต่ว่านะ ถ้านายเหงาๆอยากหาเพื่อนเล่นด้วยไรงี้พวกฉันกะว่าจะไปเที่ยวชุนชงบุกโด แม่ฉันมีโรงแรมเรียวกังเล็กๆที่นั่นน่ะ
น่าจะไปเที่ยวกันที่นั่นสักอาทิตย์หนึ่ง ถ้านายว่างก็มาด้วยกันสิ”
“ฉัน?” ดูคิม
มินแจจะแปลกใจไม่น้อยที่อีกฝ่ายชวนไปเที่ยวไปพักโรงแรมของที่บ้านด้วยกันกับกลุ่มเพื่อนสนิทแบบนี้
“จะไม่รบกวนเหรอ?”
“โอ้ยยย
รบกวนอะไรกัน คนเยอะๆก็สนุกดีออก ตอนนี้ที่ไปแน่ๆก็มีฉัน แทฮยอง ยองแจ ซองแจ
ยูคยอม นัมจุนฮยอง แล้วก็ซอกจินฮยอง
นายลองถามที่บ้านดูแล้วกันนะมินแจว่าน่าจะมาได้หรือเปล่า
ลองเอาไปคิดเป็นออปชั่นเสริมเล่นๆก็ได้เผื่ออยู่บ้านแล้วเบื่อๆไง”
เจอไม้นี้เข้าไปแล้วมินแจก็พยักหน้ารับแม้ว่าจะยังดูงงๆอยู่
จีมินกับแทฮยองอยู่คุยกับเพื่อนต่างบ้านชาวเรเวนคลออีกสักพักแล้วก็ขอตัวกลับหอพัก
ก่อนที่จะไปจีมินรอให้แทฮยองเดินออกจากห้องเก็บตัวนักกีฬาแล้วกระซิบเบาๆต่อหน้ามินแจ
“...ไม่ได้บังคับให้มาหรืออะไรหรอกนะ
แต่ชุนชงบุกโดน่ะมีชื่อเสียงเรื่องน้ำแร่ บ่อน้ำร้อน
แล้วเรียวกังของฉันมันก็มีบ่อน้ำร้อนทั้งในร่มและกลางแจ้งอย่างดีเลยล่ะ...”
“...?”
มินแจขมวดคิ้ว เหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรนักว่าจีมินต้องการจะสื่อถึงอะไร
เชสเซอร์ตัวเล็กจากกริฟฟินดอร์หัวเราะกับตัวเองก่อนจะพูดต่อ
“...แทฮยองไปเรียวกังของฉัน
แล้วเรียวกังของฉันก็มีบ่อน้ำร้อน ก็นั่นแหละ
ไม่ได้จะชี้โพรงให้กระรอกหรืออะไรหรอกนะ
แต่นายลองเอาสองอย่างนั่นไปคิดปะติดปะต่อดูดีๆก็แล้วกันแล้วค่อยตัดสินใจก็ได้ว่าจะอยากไปเที่ยวด้วยกันหรือเปล่านะมินแจ”
สาบานว่าไม่ได้ชี้โพรงให้กระรอก
แต่คิม
มินแจวิ่งหน้าตั้งตามจีมินกับแทฮยองที่กำลังจะเดินลงชั้นใต้ดินกลับหอพร้อมกับคำยืนยันรัวๆว่าไป
มินแจไปเที่ยวด้วยกันแน่ๆ บอกวันเวลานัดเจอกันมาได้เลย อย่าลืมล่ะ
แทฮยองกระพริบตาปริบ
มองมินแจที่พูดอะไรของเขาไม่รู้รัวๆใส่หน้าจีมินเสร็จแล้วก็หันมาทางแทฮยองก่อนจะผงะ
หน้าขึ้นสีแปร้ด แล้วก็รีบหันหลังเดินเร็วๆกลับไปแบบไม่คิดจะบอกกล่าวอะไรกันเลย
“อะไรของเขาวะ?
เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย” แทฮยองเกาหัว จีมินยิ้มขำแล้วก็ไหวไหล่
“ไม่รู้สิน้าแทแท”
“แต่ว่านี่แปลว่ามินแจจะมาเที่ยวกับเขาเหรอ?
ชวนเขามาโดยที่ไม่ปรึกษาคนอื่นก่อนนี่ไม่เป็นไรเหรอจีมินนี่?”
คนอื่นที่แทฮยองพูดถึงอยู่หลักๆคือตัวตั้งตัวตีที่อยากจะไปเที่ยวอย่างซอกจิน
ซอกจินฮยองเป็นคนเอ่ยชวนให้พวกเขาไปเที่ยวด้วยกันช่วงปิดคริสมาส
ตอนแรกแทฮยองเองก็เข้าใจว่าฮยองอยากจะไปเที่ยว อยากจะผ่อนคลายกับคนอื่นๆ
แต่พอมาคิดๆดูแล้วแทฮยองคิดว่านั่นก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง
แต่หลักๆแล้วสาเหตุที่ชวนน่าจะเป็นเพราะว่าซอกจินฮยองไม่อยากกลับบ้านไปเจอหน้าพ่อหรือเปล่านะ?
คนอื่นๆกับจีมินเองก็คงจะคิดถึงข้อสรุปนั่นได้ไม่ต่างกันหลังจากที่ซอกจินเล่าเรื่องที่ตัวเองกำลังจะถูกคลุมถุงชนให้พวกเขาฟัง
จีมินเคยพูดเปรยๆลอยๆไว้ว่าเรานัดกำหนดวันไปเที่ยวกันแค่อาทิตย์หนึ่ง
แต่แม่เขาบอกว่าถ้าเพื่อนคนไหนอยากจะอยู่ต่อด้วยกันแม่ก็จะดีใจมากๆเลยนะ
เพราะว่าแม่ชอบคริสมาสที่คึกคัก
ถ้ามีใครอยากจะอยู่ต่อฉลองกับแม่แล้วก็จีมินก็คงจะดี
ซอกจินฮยองกับนัมจุนฮยองที่นั่งอยู่ด้วยกันในตอนนั้นอมยิ้ม
นัมจุนฮยองลูบหัวจีมินเบาๆในขณะที่ซอกจินฮยองคีบเนื้อในจานของตัวเองให้รุ่นน้องร่วมบ้านตรงหน้า
“ฝากขอบคุณคุณแม่ที่ชวนด้วยนะจีมินนี่”
จะบอกว่าปาร์ค
จีมินหน้าบานไปทั้งวันก็คงจะไม่ผิด
“ไม่มีใครว่าอะไรหรอกน่า
พวกซองแจมันก็ชอบมินแจออก จะว่าไปแล้วนะ
ฉันเองก็มีคนที่อยากจะชวนไปด้วยกันอีกคนอยู่เหมือนกัน
ถ้านายอยากจะชวนแบคฮยอนฮยองไปด้วยกันก็ได้นะแทแท”
จีมินเสนอให้เมื่อนึกขึ้นได้ว่าแทฮยองอาจจะอยากไปเที่ยวกับญาติผู้พี่คนสนิท
แทฮยองรีบส่ายหัววืด
“ถ้าเอาแบคฮยองไปด้วยก็ต้องเอาชานยอลลี่ฮยองไปด้วยนะสิ
เรื่องชานยอลลี่ฮยองน่ะไม่เท่าไรหรอกนะ แต่ต้องไปพักโรงแรมเดียวกับแบคฮยอง
ต้องนอนด้วยกันแล้วไปบ่อน้ำร้อนด้วยกันนี่...” แทฮยองเบ้ปาก
“...รู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงไม่รู้ว่ะจีมินนี่ อย่าชวนไปเลยดีกว่า”
ก็ตามนั้น
แล้วแบคฮยอนที่โดนน้องเมินก็ยังโดนน้องเมินอยู่เรื่อยไป อาเมน
บางทีแทฮยองอาจจะลืมไปว่าความลับไม่มีในโลก
แล้วไอ้แพลนไปเที่ยวชุนชงบุกโดของชาวฮัฟเฟิลพัฟ(บวกนัมจุนกับมินแจ)ที่ไม่ใช่ความลับด้วยซ้ำนี่ก็ต้องถึงหูใครต่อใครเขาอยู่แล้ว
ซึ่งไอ้ใครต่อใครนี่มันก็คือบยอน
แบคฮยอนนั่นเอง
“มึง
เด็กน้อยของกูจะไปเที่ยวค้างแรมหกวันเจ็ดคืน!”
แบคฮยอนแหกปากตะโกนออกมาด้วยความช้ำใจ “หกวันเจ็ดคืน! เด็กน้อยของกูต้องห่างบ้านไปนานขนาดนั้น
ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง?”
“...แบคฮยอน
น้องมึงเรียนฮอกวอตส์นะ น้องมึงห่างบ้านทีเป็นเดือนๆ...”
“ฮอกวอตส์ก็ยังมีกูไหมมึง?
นี่เด็กกูจะไปเที่ยวกับเพื่อน ไปค้างแรม ไปโรงแรมมมม!!” บยอน แบคฮยอนกรีดร้อง จอง
โฮซอกที่มั่นใจในสกิลการกรีดร้องและออกเทฟเสียงที่สูงส่งของตัวเองยังนิ่วหน้า
“ไปโรงแรมก็ดีแล้ว
มึงอยากให้น้องมึงไปกางถุงนอนในถ้ำเอาเหรอสัส?” จงอินถาม แบคฮยอนกลอกตา
“ทำไมมึงโง่
ทำไมมึงไม่เข้าใจ ไปโรงแรมเชียวนะมึง เด็กผู้ชายน่ารักๆตัวนิ่มๆเอวเป็นเอวหน้าตาเหมือนวีวงบันทันอย่างน้องกูไปนอนโรงแรมกับเพื่อนผู้ชายฮอร์โมนผลุกพล่านตั้งหลายคนเนี่ยนะ?
มึงไม่เห็นเหรอว่าแม่งอันตรายขนาดไหน? กูว่ากูต้องไปปกป้องเด็กน้อย”
“...กูว่าถ้ามึงไปปกป้องน้องมึงมันน่าจะอันตรายกับน้องมึงมากกว่านะ...”
ชานยอลพึมพำ แบคฮยอนที่ไม่รู้ว่าเมินแฟนหน้าดื้อๆหรือไม่ได้ยินจริงๆยังพูดต่อ
“กูต้องไปช่วยเด็กน้อย
กูจะไปแน่ๆ ไอ้พวกนั้นมันแม่งไว้ใจไม่ได้ ถ้าเด็กกูเป็นอะไรไป...”
“ไอ้พวกนั้นของมึงก็มีพ่อมีแม่เขาอยู่นะมึง
มีทั้งซอกจินทั้งนัมจุน คู่ออมม่าอัปป้าน้องไปประกบขนาดนี้ยังจะกลัวอะไรอีก?”
ชานยอลถอนหายใจ คราวนี้แบคฮยอนได้ยินแล้วหันมาถลึงตามอง
“ออมม่าอัปป้า?
นี่มึงกล้าดียังไงหาว่านัมจินเป็นพ่อแม่แทแทของกูห๊ะไอ้ชาน?
กูนี่ต่างหากที่เป็นออมม่าของน้อง กูเป็นได้ตั้งแต่แม่รวมถึงพ่อไปถึงพี่และญาติห่างๆ
พูดจาเหมือนยกเด็กกูให้คนอื่นนี่เดี๋ยวปั๊ด”
“กูว่ายกให้ใครก็ดูปลอดภัยกว่ายกให้มึงทั้งนั้นแหละแบคฮยอน...”
“กูจะไป!!” แบคฮยอนตะโกน
ในจังหวะเดียวกันนั้นประตูห้องนั่งเล่นถูกเปิดออกมาพร้อมกับร่างของเด็กๆปีห้าชาวกริฟฟินดอร์ที่เพิ่งจะเรียนประวัติศาสตร์เวทมนตร์เสร็จ
แบมแบมถึงกับผงะเมื่อเห็นท่าทีคลุ้มคลั่งของรุ่นพี่บยอน แบคฮยอน
“ฮยองไหวไหมเนี่ย?”
จองกุกถาม ร่างสูงของซีกเกอร์ประจำบ้านกริฟฟินดอร์นั่งลงบนพื้นหน้าเตาผิง แบมแบม
แจ็กสัน และนาอึนลงไปนั่งกองกับมัน ส่วนเยรินก็เดินไปนั่งข้างจงอินที่ขยับเผื่อที่ให้น้องบนเก้าอี้นวมตัวโต
“ไม่ไหว! แล้วกูก็ไม่เข้าใจว่ามึงไหวได้ยังไงในเมื่อเด็กน้อยของกูกำลังจะไปค้างโรงแรมเรียวกังกับผู้ชายเป็นโหล!
นี่มึงชอบน้องกูจริงหรือเปล่าเนี่ย?”
“ชอบ”
เป็นรีแอคชั่นคำตอบที่หลุดออกมาโดยที่ไม่ต้องคิดจนแบมแบมถึงกับเบ้ปากในความเยอะของมัน
จ้า มันรักของมันจ้า “นี่พูดถึงทริปเที่ยวชุนชงบุกโดที่แทฮยองจะไปกับเพื่อนใช่ปะ?
เห็นแทฮยองเองก็เล่าให้ผมฟังตอนที่ไปติวมักเกิ้ลศึกษาด้วยกันอยู่”
“นี่มึงรู้อยู่แล้วเหรอ?”
โฮซอกก้มไปถาม จองกุกพยักหน้ารับ
“เออสิฮยอง ก็คุยกันเขาก็เล่าให้ฟัง
ไปก็ไปเรียวกังของจีมิน แม่เขาก็อยู่
ซ้ำแล้วยังมีพรีเฟคบ้านเรเวนคลอกับฮัฟเฟิลพัฟไปอีกคู่
ผมว่าไม่เห็นจะน่าห่วงอะไรขนาดนั้นเลยนะฮยอง”
“...แต่ว่า
กูได้ยินมาว่าปาร์ค จีมินเขาชวนคิม มินแจบ้านเรเวนคลอไปด้วยนะมึง”
แจ็กสันพูดโพล่งขึ้นมาเหมือนคนเพิ่งคิดออก แบมแบมพยักหน้าหงึก
“เออ
ยูคยอมบอกกูมาเหมือนกัน”
“คิม มินแจ?
ม่ายยยย เด็กน้อยกูไม่ปลอดภัยแน่ๆ~~~” แบคฮยอนกรีดร้องอีกครั้ง
ชานยอลใช้หมอนอิงอุดหน้าแฟนตัวเองไว้แล้วคว้าหมับจับเก็บเข้าเอวอย่างเชี่ยวชาญราวกับได้ฝึกซ้อมการเอาหมอนอุดหน้าแฟนมาทั้งชีวิต
“เออ
ตอนกูถามว่าใครไปบ้างแทฮยองเองก็บอกกูแบบนั้นแหละ” จองกุกพยักหน้าเออออไปด้วย ความรู้ใหม่ที่ว่าจองกุกรู้ว่าศัตรูหมายเลขหนึ่งอย่างคิมมินแจกำลังจะไปค่างแรมเข้าบ่อน้ำพุร้อนกับคนสวยบ้านฮัฟเฟิลพัฟของมันทำให้นาอึนหรี่ตา
“...แกดูสงบจิตสงบใจมากเลยนะคะจองกุก
ดูทำใจได้ดีมาก มีความโยคะ มีความธรรมะ” นาอึนพูดช้าๆ “ดีเกินไปว่ะ....”
“เออ เชี่ย..”
แบมแบมจ้องเพื่อนตาเขม็งบ้าง “น่าสงสัยว่ะ
แค่เขาไปฮอกส์มี้ดด้วยกันยังแม่งทำเหมือนจะเป็นจะตาย นี่เขาไปเที่ยวด้วยกัน
นอนโรงแรมเดียวกัน ดีไม่ดีแชร์ห้องเดียวกัน..”
“อุ้ย โดนแน่มึง
กูว่าคิมมินแจกับแทฮยองมึงนี่ต้องได้นอนห้องเดียวกันแน่ๆ ไอ้จีมินยิ่งอยากให้เพื่อนมันได้กับมินแจอยู่
ไปเรียวกังบ้านมันด้วย” แจ็กสันถึงกับตบเข่าฉาด
จองกุกไหวไหล่แล้วแกะกล่องช็อกโกแล็ตกบ นิ้วเรียวหยิบการ์ดพ่อมดในตำนานที่เป็นของสะสมที่แถมมากับกล่องขนมออกดู
“มึง
กูได้การ์ดเนวิลล์ ลองบัตท่อมอีกแล้ว กูอยากได้การ์ดสเนป มึงมีแลกกับกูปะ?”
ยังมีหน้ามาถามหน้าตาเฉย
นี่กูพูดมายาวขนาดนี้มึงได้ฟังที่อยู่พล่ามบ้างไหม? ถามใจตัวเองดูด้วย
“สัส กูไม่ให้
กูมีการ์ดเนวิลล์มาสิบสองใบแล้วห่า” แล้วกูจะไปตอบมันทำไม? คือบางทีหวังก็งงตัวเอง
“เฮ้ย อย่ามาทำเปลี่ยนเรื่อง จองกุก นี่มึงไม่วอรี่หน่อยเหรอวะ?”
“แม่งน่าสงสัย”
โฮซอกฮยอง กับตันทีมควิดดิชของกริฟฟินดอร์หรี่ตามองเด็กในปกครองบ้าง
“นิ่งได้ขนาดนี้ดูสบายใจไป ทำเหมือนว่าถึงจะได้ไปด้วยกันแต่ยังไงไอ้มินแจก็นก”
“ไปกับปาร์คจีมินจะนกเหรอ
ไอ้มินแจน่ะ?” ชานยอลโคลงหัว “พวกที่ไปด้วยกันคงไม่อะไร
แต่จีมินก็คงไปจับคู่ให้เขาอีกนั่นแหละ
มันจะมีทางไหนจะไปกันท่าเขาได้วะนอกจากว่า...”
“...”
“...นอกจากว่า...”
ชานยอลลากเสียงเบาๆอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อความคิดของตัวเอง
“จะได้ไปกับเขาด้วย...”
“...”
ทุกสายตาหันไปมองซีกเกอร์ของบ้านที่ยังนั่งฮัมเพลงหงุงหงิงแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว
แจ็กสันเอามือทาบอก
“เชี่ย...”
จองกุกเพียงแค่เงยเหน้าขึ้นมายิ้ม
“...เฮ้ย! แบคฮยอนเป็นลม!!”
Talk:
รีบลงก่อนเข้าคลาสอีกและ ทำไมเป็นคนแบบนี้ 555555
สุขสันต์วันเกิดนะคะจีมินนี่ <3 รักจีมเสมอ ขอบคุณที่พยายามเพื่ออาร์มี่ ขอบคุณที่เอาใจใส่กันนะ ขอบคุณที่รักมี่ รักบังทัน คัมแบครอบนี้จีมเซ็กซี่มากอยากจะบ้า มีความโอปป้าสูง สะบัดแขนที่เสื้อนอกหลุด ฮืออออ
ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามฟิคเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณทุกๆคอมเม้นเลยนะ <3 ดีใจที่ได้เห็นทุกคนพร้อมใจกันเพลียความนกของจกุกค่ะ 555555 เดี๋ยวน้องจะเริ่มรุกหนักขึ้นแล้ว เอาใจช่วยเจ้ากาตุ่ยด้วยนะคะ
แล้วเจอกันใหม่ค่า
ความคิดเห็น