คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 11: เดท?
Mischief Managed
11
“กูจะไม่มีวันล้างมือข้างนี้อีกต่อไป”
เป็นคำประกาศที่ทำให้ผู้คนรอบข้างหันมามองวูปหนึ่งก่อนที่จะพากันเบือนหน้าหนี
“เออ เรื่องของมึง”
“สัส นี่พวกมึงไม่คิดจะถามอะไรกูหน่อยเหรอวะ?”
จองกุกหันไปถามหวัง แจ็กสันที่กำลังทำหน้าเหม็นเบื่อเพื่อนแรง
แจ็กสันส่งเสียงเหอะแล้วหยิบลูกเต๋าขึ้นทอย
“ถามเชี่ยไร?
มึงเล่นตะโกนบอกไอ้เรื่องที่คิมแทฮยองดูดเลือดมึงมาเป็นร้อยครั้งแล้วเนี่ย
ขนาดนูน่าในรูปภาพยังเบื่อหน้ามึงเลย” ลูกเต๋าเมื่อกี้ทอยออกมาเป็นเล็กห้า
แจ็กสันหยุดร้องเยสออกมาเบาๆแล้วขยับหมากเดิน
แบมแบมที่ลุ้นให้แจ็กสันเดินเข้าที่ดินของตัวเองถึงกับร้องโอตครวญ
ใช่.. พวกแม่งเล่นเกมเศรษฐีกัน
ดูแล้วมีความจริงจังกับชีวิตมากยิ่งกว่าการเรียน ถุ้ย
“เขาจูบนิ้วกู!”
จอน จองกุกยืนยัน นั่งยัน และนอนยัน มาหาว่าคิมแทแทว่าที่เมียจองกุกดูดเลือดเป็นผีสางแวมไพร์เลือดเย็นได้อย่างไร?
เขาแสดงความรักกับกูหรอก พวกมึงไม่มีโมเม้นเลยหมั่นไส้กูก็บอก!
“จูบพ่อง
ไอ้ที่อธิบายมานั่นเขาแค่ซับเลือดให้ปะวะ? เพ้อเจ้อออออออ”
ไอ้แจ็กสันถึงกับลากเสียงยาว “เดี๋ยวๆ ฮยองอย่ามาเนียน เมื่อกี้เดินตกที่ผม
จ่ายมาเลย เอามาสามพันวอน”
จอง
โฮซอกที่ดันเดินตกช่องที่แจ็กสันเป็นเจ้าของเมื่อกี้เบ้ปาก สามพันวอนที่เก็บออมมาถูกปาใส่อีกฝ่ายแรงๆ
“เฮ้ยๆๆ เกมกู
เงินเกมเศรษฐีกูห้ามยับ ห้ามขาด ห้ามเป็นรอย! พวกมึงเล่นด้วยความระมัดระวังด้วย!”
“โอ้ยยย ขนาดนั้นมึงเอาเงินเกมเศษรฐีมึงไปรีดเก็บใส่สมุดสะสมเลยไป๊ไอ้เชี่ยแบค”
แบคฮยอนกับชานยอลเริ่มโวยวายกันเองสองคน
เป็นคู่รักบ้าบอที่เพิ่งคบกันหมาดๆแต่จองกุกก็ยังไม่เห็นว่าสองคนนี้มันจะต่างจากตอนที่เป็นเพื่อนกันก่อนหน้านี้ตรงไหน..
ก็ยังด่ากัน ทะเลาะกัน ไปเฮถึงไหนถึงกันด้วยกันเหมือนเดิม
“แต่ว่าไปนะ
คิดแล้วยังตลกไม่หายเลยว่ะ”
นาอึนที่กำลังนับเงินร่วมแสนวอนจากเกมเศรษฐีของนางพูดขึ้นกลั้วหัวเราะ “คิดดูดิ
จีบเขามาตั้งนานแม่งโดนตั้งแง่ตลอด นกตลอด
แล้วไอ้ที่โดนเขาเขม่นขนาดนี้ก็เพราะเจ้าตัวไม่ยอมอยู่ฟังไอ้จองกุกพูดให้จบเนี่ยนะ?
แถมยังเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้วอีก โถ่วว แกนี่นกไม่ธรรมดาเลยค่ะจกุกเพื่อนรัก”
พูดจบนางก็หัวเราะไปเอาเงินเกมเศษรฐีจำนวนมหาศาลของนางแบพัดตัวเองไปด้วยเหมือนคุณหญิงแก่ๆตามละคร
เยรินที่นั่งข้างๆกันนั่นยิ้มน้อยๆ
“น่าเสียดายเหมือนกันนะ
ถ้าได้ปรับความเข้าใจกันก่อนหน้านี้ก็คงสนิทกันเร็วกว่านี้”
“แต่อย่างน้อยก็มีเรื่องดีๆที่เกิดขึ้นเพราะการเข้าใจผิดนี่แหละน้า”
แบมแบมยิ้มกว้าง
“เพราะโดนเขาเข้าใจผิดมาสองปีเขาเลยจะไปเดทกับแกเป็นการไถ่โทษไม่ใช่เหรอวะจองกุก?
นี่พัฒนาการก้าวกระโดดมากเลยนะเนี่ย ขนาดคิมมินแจมีปาร์คจีมินเป็นแบคอัพยังพูดเต็มปากไม่ได้เลยว่าได้ไปเดทกับแทฮยอง”
“ไปเดท?”
แบคฮยอนที่กำลังจิกผมชานยอลอยู่ถึงกับหันมาหัวเราะ
เป็นการระงับการรบราฆ่าฟันของสองคู่หูบีตเตอร์ประจำทีมควิดดิชไปกลายๆ
“นี่มึงเที่ยวไปบอกใครต่อใครเขาว่าเป็นเดทเหรอวะจองกุก?
โธ่ ไอ้ขี้มโนวว”
“อ่าว ไม่ใช่เดทเหรอ?
สายข่าวกูผิดเหรอ?” แบมแบมเกาหัวแกรก แจ็กสันโคลงศีรษะ
“ทำไมกูก็ได้ยินจากยูคยอมว่าเดท?”
“ยังไงกันแน่วะเนี่ย?
ไอ้จองกุกตอนแกไปพูดกับเขาแกไปพูดว่าอะไรกันแน่เนี่ย? เอาแบบคำต่อคำดิ” โฮซอกสั่ง
จองกุกไหวไหล่ทั้งๆที่สองมือยังไล่สับไพ่การ์ดเสี่ยงโชคไปมาอย่างประหม่า
“ก็... ผมไม่ได้ใช้คำว่าเดทนะ
คือก็กลัวลูกแมวตื่นปะวะฮยอง?”
“ลูกแมวบ้านมึง นั่นเด็กกู”
แบคฮยอนพึมพำแทรกขึ้นมา ชานยอลเอามือปิดปากนางให้สงบไปแล้วจองกุกก็พูดต่อ
“...ก็บอกไปว่า...
“แทฮยองเข้าใจฉันผิดแบบนี้จะเอายังไง?”
“จะ.. จะเอายังไงอย่างนั้นเหรอ?
ก็ไม่อยากเอายังไงอะ...”
“จำไม่รับผิดชอบหน่อยหรือไง?
ฉันเสียความรู้สึกนะ”
“...ก็มันทำไปแล้วจะให้ทำยังไงล่ะ?
จะย้อนเวลากลับไปก็ไม่ได้สักหน่อย...”
“ย้อนเวลาไม่ได้ถ้าอย่างนั้นฉันขอเวลาของแทฮยองต่อจากนี้ให้เป็นของฉันได้ไหมล่ะ?”
“...หา?”
“มะ ไม่ใช่อะไรแปลกๆหรอกนะ! แค่อยากจะขอเวลานายแปปหนึ่ง
แบบ มาช่วยฉันได้ไหม? คะ คือ.. เอ่อ.. มักเกิ้ล วิชามักเกิ้ลศึกษาไง! ฉันลงวิชานี้อยู่แต่เรียนไม่ค่อยรู้เรื่อง ข..
ขอเวลาแทฮยองมาช่วยติวให้หน่อย... ได้ไหม...?”
“โธ่เอ้ย แค่นี้เอง ก็เอาสิ”
...แบบนี้อะ...”
เป็นอีกครั้งที่ห้องนั่งเล่นรวมของกริฟฟินดอร์เงียบสงัดไป
เวฟของการถอนหายใจเกิดขึ้นโดยที่ไม่ได้นัดหมายเมื่อชานแบคมองหน้ากันเองก่อนจะถอนหายใจออมาพร้อมๆกัน
จากนั้นนาอึนที่นั่งข้างๆแบคฮยอนก็ถอนหายใจต่อ ตามด้วยเยริน แบมแบม แจ็กสัน
และโฮซอก
“มึง... มีความปอดแหกเลเวลที่ไม่ธรรมดาจริงๆ...”
“นี่มึงต้องลนลานเบอร์นี้เลยเหรอ?”
“โอกาสมาขนาดนี้ยังมีความโง่งม”
“อยู่กริฟฟินดอร์แท้ๆทำไมไม่กล้าๆหน่อยว้า...”
สารพัดคำด่าที่ทำให้จองกุกไล่ชูนิ้วกลางใส่รัวๆจนทั่ววง
โฮซอกถอนหายใจอีกเฮือก
“นี่กูเชียร์มึงจนเหนื่อยแล้วอะ แม่งนกได้นกดีจังเลย
นกแบบไม่มีวันตาย หน้าอย่างมึงนี่ต้องนกฟีนิกซ์เท่านั้น”
“ก่อนจะมาว่าผมฮยองหาเมียให้ได้ก่อนเหอะ”
จองกุกว่ากลับ โฮซอกโยนลูกเต๋าใส่
“กูเป็นหนุ่มดอกไม้
ฟลาเวอร์บอยอะมึงรู้จักไหม?
หน้าอย่างกูขนาดเอาหมวกดอกไม้หกกลีบสีแดงมาคลุมหัวก็ยังหล่อ ใครๆก็ว้อนครับมึง...
แต่พูดไปนะ ยังรู้สึกติดใจอยู่ว่ะ”
พูดอวยตัวเองเสร็จโฮซอกก็หันไปทางแจ็กสันกับแบมแบมบ้าง
“นี่พวกมึงได้ยินจากยูคยอมจริงๆเหรอว่าไอ้ที่ไปติวของจองกุกกับแทฮยองเป็นเดท?”
“ก็จริงสิฮยอง
ผมจะหลอกฮยองให้ได้อะไรขึ้นมา?” แจ็กสันถามกลับ
“แค่นี้ไอ้จองกุกก็นกจะตายห่า
ผมไม่ได้ใจร้ายขนาดจะให้ความหวังเพื่อนลมๆแล้งๆนะฮยอง นี่คือได้ยินกับหู”
แบมแบมว่าบ้าง จองกุกรู้สึกว่าตัวเองกำลังคิ้วกระตุกเบา คำก็นก สองคำก็นก
พวกมึงจะตอกย้ำความนกของกูทำไมนักหนา?
คิดว่ากูไม่รู้ตัวเหรอ? ฮรึกซ์...
“มันไม่น่าสงสัยเหรอวะ? ไอ้จองกุกมันเพ้อแต่มันก็ไม่เคยพูดสักคำว่านี่เป็นเดท
มันใช้คำว่าให้แทฮยองไปช่วยติวให้มันด้วยซ้ำ” โฮฮอกชี้ต่อ
“ในเมื่อฝ่ายเราไม่ได้พูด
แล้วไอ้ยูคยอมมันไปเอาที่ไหนมาพูดวะว่านี่เป็นเดท?”
“มันไม่ใช่เดท”
หลากหลายชีวิตในห้องนั่งเล่นรวมของฮัฟเฟิลพัฟมองหน้ากันเองก่อนที่จะพร้อมใจกันหันไปมองตัวต้นเสียงที่กำลังแปรงขนให้แมววิคกี้ขี้อ่อยของตัวเองอยู่
จีมินกระพริบตาปริบ คนตัวเล็กเอียงเอนไปทางซองแจ
“...นี่มันคุยกับแมวหรือคุยกับเราวะ?”
“จะไปรู้มันเหรอ?” ซองแจว่ากลับ
“นี่ไอ้แทมันยังไม่เลิกเรื่องนี้อีกเหรอ? กูนึกว่ามันคิดได้แต่แรกแล้วเสียอีก”
“ไม่รู้มัน
ก็เห็นพูดงงๆกลับไปกลับมาอยู่เนี่ย อะไรจะขนาดนั้นวะ?”
“กูว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ”
ยูคยอมที่นั่งอยู่ข้างๆซองแจพูดขึ้นมาบ้าง
ยองแจที่นั่งพิงขามันอยู่หน้าโซพาพยักหน้า
“ฉันก็ว่างั้น
ไอ้แทดูแปลกประหลาดกว่าเดิมเกินไปและ”
“เออ นี่มันไม่ใช่เลเวลเอเลี่ยนแล้วล่ะ
นี่มันเหนือกว่านั้นอีก มีความล้ำยิ่งว่าอีที”
แทฮยองพองลมที่แก้ม แอบได้ยินเสียงจีมินดังแว่วๆมาทำนองว่า
“โห แมนมากเลยแทแท” เหอะ แกเองก็แมนจังเลยนะจีมินนี่
ตัวเป็นก้อนแบบนั้นแทฮยองยังไม่เคยเอามาล้อเลยปะวะ
“นี่รู้กันใช่ไหมว่าฉันยังนั่งอยู่ตรงนี้?
ที่พูดๆมานั่นได้ยินหมดนะเว้ย”
“ก็พูดให้ได้ยินนั่นแหละ”
ยองแจว่ากลับ “นี่อะไรของแกวะเนี่ย?
เมื่อวันก่อนอยู่ๆก็อุ้มไอ้วิคกี้กลับมาแล้วก็มานั่งหน้าเครียดเรื่องเนี้ย
นี่แกยังติดใจอะไรตรงไหนวะเนี่ย?”
ใช่...
เมื่อตอนที่แมววิคกี้ของไอ้แทมันหายตัวไป –อย่างไร้ร่องรอยและเป็นอุบัติเหตุล้วนๆเลยนะ
ซองแจขอย้ำหน่อยเถอะ ไม่ใช่ความผิดใครจริงๆ – คราวนั้น
แทฮยองที่ออกไปตามหาแมวก็กลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นรวมของฮัฟเฟิลพัฟพร้อมกับไอ้ตัวก้อนๆขนปุยสีขาวตัวเดิมท่ามกลางความโล่งใจของซองแจ
(“นี่มึงจะโล่งอกโล่งใจอะไรเบอร์นั้นวะ?
เครียดอย่างกับเป็นแมวมึง” ยูคยอมถามงงๆในตอนนั้น)
และแทฮยองในตอนนั้นก็กระพริบตาปริบๆ
มันเลียริมฝีปากในแบบที่ทุกคนคุ้นดีว่ากำลังประหม่าหรืออยากจะถามอะไรแต่ไม่กล้าถาม
แล้วก็เป็นหน้าที่ของจีมินที่เข้าไปกระแซะร่างก้อนๆของมันกับเพื่อนตัวบางกว่า สองคนนั้นซุบซิบอะไรกันแล้วจีมินก็ผงะออก
ตาเรียวเล็กเบิกโตขึ้นตกใจ
“เดท???”
เสียงที่สูงจนหลงของจีมินดังขึ้นปุ้ปคนที่เหลือในห้องก็หันขวับมามองพร้อมเพรียงกัน
ฮัฟเฟิลพัฟอาจจะไม่ได้ฉลาดเหมือนเรเวนคลอ กล้าหาญเหมือนกริฟฟินดอร์
หรือมุ่งมั่นเหมือนสลีริน
แต่เรื่องความขี้เสือกแล้วก็ไม่เป็นรองใครเหมือนกันนะ
คริ
“บอกว่าไม่ใช่เดทไงเล่า!”
แทฮยองแหวกลับ
ทั้งหูทั้งแก้มดูระเรื่อแปลกๆจนร่างของทุกคนในห้องนั่งเล่นรวมนั่นค่อยๆทำการขยับขยายมาใกล้ขึ้นเพื่อความสอดรู้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างพร้อมเพรียง
“แล้วอะไรเหรอที่มันไม่ใช่เดทเนี่ย?”
รุ่นพี่อี้ชิงฮยองที่ซองแจสาบานว่าเพิ่งจะเห็นนอนงีบอยู่บนโซพาเมื่อกี้ถามขึ้นช้าๆ
ออมม่าคนที่สองของไอ้แทอย่างรุ่นพี่คิมซอกจินที่นั่งอยู่ด้วยกันนั่นก็เคลื่อนตัวเองเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มหวาน
“มีใครชวนแทแทของฮยองไปไหนอย่างนั้นเหรอ?”
เสียงหวาน รอยยิ้มหวาน หน้าสวย
ทุกอย่างดูแล้วช่างเหมาะเจาะราวกับเทวดาบนสวรรค์
แต่ทำไมตาพี่ดูแข็งๆแล้วไหล่กว้างๆนั่นมันดูตึงแปลกๆพิกล.... ซองแจตัดสินใจเดินออกห่างจากคิมซอกจินแล้วดันให้ไอ้ยูคยอมมายืนกั้นระหว่างเขากับซอกจินฮยองปีหกแทน
ไม่ได้กลัวนะ แต่ซองแจแค่อยากจะป้องกันตัวเอง
“ไม่ใช่เดทนะ” แทฮยองย้ำอีกครั้ง
ถึงจุดนี้แล้วซองแจก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่ามันจะย้ำทำไมของมันนักหนา
มีใครไปขัดมันก็ไม่มีนะ ไม่เชื่อเลื่อนย้อนไปอ่านข้างบนได้เลย
“แทแทเล่าให้ฟังว่าจอนจองกุกจากกริฟฟินดอร์ขอให้มันช่วยสอนวิชามักเกิ้ลศึกษาอะ”
จีมินเสนอขึ้นมาเมื่อเห็นว่าปล่อยให้แทฮยองพูดแล้วคงไม่ค่อยเป็นประโยชณ์เท่าไร
ทุกคนกระพริบตาปริบ ยูคยอมเกาหัว
“แล้วยังไงต่อวะ?”
“แล้วแทแทก็ตกลง”
“อาฮะ แล้วยังไงอีก?”
“ก็ไม่ยังไงอะ ก็แค่นั้นแหละ”
“เอ้า” จงแดฮยองปีหกอุทานออกมา
“นี่ฉันพลาดอะไรไปหรือเปล่าวะ?
เทรนสมัยนี้คำว่าขอให้ช่วยสอนวิชามักเกิ้ลศึกษานี่เป็นความนัยรหัสลับอะไรหรือเปล่า?
เพราะฮยองไม่เก็ตว่ะ ทำไมเราต้องตกใจกันด้วยนะ?”
ไม่ใช่แค่จงแดฮยองที่งง
คนที่เหลือก็มองหน้ากันแบบจับต้นชนปลายไม่ถูกไม่ต่างกัน ซองแจเองก็กำลังงงแรงมาก
ขนาดเรียนวิชาปรุงยาทำหม้อไหม้มาสองคาบติดแล้วยังรู้สึกว่ามีความรู้เข้าหัวมากกว่าการมาประมวลสถานการณ์ตอนนี้เลย
คือจอนจองกุกขอให้ไอ้แทช่วยติว?
แค่นั้นเหรอ?
แล้วไอ้เดทไม่เดทนี่อะไรยังไง?
มันเกี่ยวกันยังไง? ใครก็ได้บอกกูหน่อย?
“เขาขอให้มึงช่วยติวให้แล้วไอ้ที่มึงทำหน้าเหมือนกดบัตรบิ้กแบงไม่ทันนี่คืออะไรวะ?
คือเกลียดขี้หน้าจอนจองกุกมากจนไม่อยากติวให้เลยเหรอ?” ซองแจถามขึ้นมา
ยองแจส่งเสียงอืมในลำคอออกมาเบาๆ
“ฉันว่าคำถามที่ควรจะถามตอนนี้มันน่าจะเป็นว่าแทฮยองไปสนิทกับจอนจองกุกมากจนเขาขอให้ช่วยสอนวิชาที่ไม่ถนัดให้ตอนไหนมากกว่ามั้ง?
ปกติไม่คุยกันนี่ เจอหน้าเขาก็ชอบไปเหน็บเขาตลอด ทำไมถึงได้ยอมช่วยเขาล่ะ?”
ทุกสายตาหันไปคาดคั้นเอาคำตอบจากซีกเกอร์ตัวเล็กประจำทีมควิดดิชของฮัฟเฟิลพัฟอีกครั้ง
แทฮยองกอดวิคกี้แน่นขึ้น
“ก..
ก็เพิ่งได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเมื่อกี้อะ หมอนั่นก็... ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น..”
ประโยคสุดท้ายดูจะเบาหวิวแปลกๆ
ซองแจนึกสงสัยในใจว่าแทฮยองที่ชอบด่าเขาป่าวๆโดยที่ไม่สนใจว่าใครจะได้ยินตอนไหนอย่างไรมีมุมขัดเขินแบบนี้ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร
“สรุปคือนี่ดีกันแล้วเหรอ?”
จีมินดูแปลกใจ แทฮยองไหวไหล่
“มั้ง
จริงๆก็ไม่ได้ทะเลาะกันตั้งแต่แรกนี่นา”
“เออ ไม่ได้ทะเลาะกัน
มีแต่มึงอะไปโวยวายใส่เขาข้างเดียว” ซองแจอดไม่ได้ที่จะเหน็บ
แทฮยองหันมาแยกเขี้ยวใส่แต่ไอ้ปากเหลี่ยมๆมันก็ทำให้ออกมาดูน่ารักมากกว่าจะน่ากลัว
“นิดหนึ่งนะ
กูขอแชร์ลำดับความคิดในสมองด้วยคนได้ไหม?” ยูคยอมยกมือขึ้นช้าๆ “คือ..
กูก็ไม่ได้ลงวิชามักเกิ้ลศึกษาเรียนกับไอ้จองกุกมันหรอกนะ แต่ว่าระดับไอ้จองกุกแล้วมีวิชาที่แม่งไม่ถนัดด้วยเหรอวะ?
จำเป็นถึงกระทั่งต้องให้ไอ้แทช่วยสอนเลยเหรอ?”
“ความจริงแล้วถ้าจะขอให้คนที่มีความรู้เรื่องนี้เยอะๆอย่างคนที่เป็นมักเกิ้ลบอร์นอย่างแทแทสอนมันก็ไม่แปลกนะ
แต่ไอ้จองกุกมันก็มีเพื่อนที่เป็นมักเกิ้ลบอร์นอยู่ตั้งสองคนแล้วไม่ใช่เหรอ?
แจ็กสันกับแบมแบมไง” จีมินชี้ขึ้น
“เออใช่
ก็มีเพื่อนที่ช่วยสอนได้อยู่แล้วนี่นา ทำไมต้องมาให้ไอ้แทสอนด้วยอะ?”
ยองแจมุ่นคิ้ว ทุกคนหันมามองหน้ากันอย่างใช้ความคิด
แต่ในเมื่อไม่มีใครคิดออกว่าเหตุผลที่ว่านั่นคืออะไรแล้วทุกคนก็ได้แต่เงียบ
อี้ชิงกับจงแดมองหน้ากันเองยิ้มๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไขข้อสงสัยของน้องๆ
ท่ามกลางความเงียบสงัดนี่เสียงนุ่มของพรีเฟคประจำบ้านอย่างคิมซอกจินดังขึ้นมา
“แล้วเรื่องเดทไม่เดทนี่ยังไงกันแน่ล่ะ?
ที่ไปติวกันนี่คือถือว่าเป็นเดทไปด้วยอย่างนั้นเหรอ?”
คิมซอกจินยังคงคอนเส็ปต์เดิม เสียงยังนุ่ม
รอยยิ้มที่มุมปากยังอ่อนโยนน่ามอง
คราวนี้เสริมออปชั่นเป็นการลูบหัวฟูๆของไอ้แทเบาๆไปมา
ซึ่งไอ้แทคนโง่ของซองแจก็รีบซุกหัวเข้าใส่มือแม่มันตามนิสัยคนชอบล้มอ้อยติดสกินชิฟทันที
ไอ้แทโง่เอ้ย...
ไม่ได้ดูเลยว่าไหล่พี่แกตึงจนมือร่อมร่อจะกระตุกอยู่แล้วนั่น
“เปล่านะซอกจินฮยอง
จองกุกแค่ขอให้ช่วยสอนส่วนที่ไม่เข้าใจเฉยๆเอง” แทฮยองอธิบาย
“แทแทก็ตกลงไปก็ไม่ได้คิดอะไรนะ
แต่ตอนที่เดินกลับหอมาอยู่ๆมันก็คิดขึ้นได้ว่าถ้าไปช่วยสินจอนจองกุกมันก็มีแค่แทแทกับจองกุกแค่สองคนใช่ไหมล่ะ?
มัน.. ไม่เหมือนไปเดทกันเหรอฮยอง?”
“แปลว่าที่คุยกับจีมินนี่เมื่อกี้ก็..”
“แทแทถามผมว่าไปติวให้จอนจองกุกถือว่านับเป็นเดทไหมน่ะฮยอง”
จีมินตอบแทน ซอกจินยิ้มหวานให้แทฮยองกับจีมิน
เชี่ย
ทำไมอยู่ๆก็แม่งรู้สึกเหมือนลมเย็นพัดผ่านมาวูบหนึ่ง
“มึงสั่นทำไมยูคยอม?”
ซองแจกระซิบถามเพื่อนเบาๆ ยูคยอมส่ายหัว
“อยู่ดีๆกูก็ขนลุกซู่ขึ้นมาว่ะ”
การกระซิบกันไม่ได้เป็นที่สนใจเท่าไรเมื่อซอกจินยังยิ้มหวานน่ามองที่ซองแจอดที่จะเปรียบเทียบกับรอยยิ้มของโจ้กเกอร์หรือชักกี้ไม่ได้
ร่างสูงโปร่งของพรีเฟคคนดีประจำบ้านฮัฟเฟิลพัฟขยับเข้าใกล้แทฮยองก่อนที่จะโอบไหล่ที่เล็กกว่าของอีกฝ่ายไว้หลวมๆพลางดันเข้าให้ใกล้เตาผิง
“ไม่นับหรอกนะแทแทอา
ที่ติวกับจองกุกมันก็แค่การติวเท่านั้นแหละ ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้นเลย จำไว้นะ
ไม่มี”
คือซอกจินฮยองจำเป็นจะต้องย้ำเสียงนุ่มแบบนั้นซ้ำไปหลายรอบขนาดนั้นเลยเหรอวะมึง?
“ก็เหมือนที่แทแทให้มินแจติวให้ไง อันนั้นแทแทก็ไม่ได้คิดว่ามันมีอะไรพิเศษใช่ไหม?”
แทฮยองส่ายหัว
ซอกจินยิ้มด้วยความพอใจ
แม่งมีฟีลลิ่งความรู้สึกขนลุกซู่อย่างน่าประหลาด
ซองแจกับยูคยอมขยับเข้าใกล้กันมากขึ้น
“เนอะ อันนี้ก็เหมือนกันแหละ
แค่เพื่อนที่ช่วยเหลือเพื่อนเฉยๆเอง เข้าใจแล้วนะแทแทอา?”
“ครับซอกจินฮยอง” แทฮยองยิ้มกว้าง
รอยยิ้มสี่เหลี่ยมน่ารักๆนั่นทำให้ซอกจินยิ้มตามได้ไม่ยาก “ขอบคุณนะฮยอง
แทแทรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องคิดอะไรมากสินะครับ”
“อืม ไม่ต้องคิดมาก
กับจองกุกก็แค่เพื่อนคนหนึ่ง จำไว้นะแทแทอา”
แทฮยองพยักหน้ารับแล้วซอกจินก็ลูบหัวทุยๆนั่นอีกรอบ “ดีมาก
เอาวิคกี้ขึ้นไปไว้บนห้องไป อุ้มอยู่นั่นไม่หนักหรือไง?”
แทฮยองรับคำแล้ววิ่งขึ้นบันไดไปทางห้องนอนฝั่งนักเรียนชายของฮัฟเฟิลพัฟอย่างว่าง่าย
คนที่เหลือหันมามองคิมซอกจินที่กำลังยืดขาสบายๆอยู่บนโซพาอย่างพร้อมเพรียงกัน
ซอกจินเลิกคิ้ว
“ทำไม? แทแทเรียกฉันว่าออมม่าทั้งทีฉันก็ต้องเล่นตามบทบ้างหรือเปล่าล่ะ?
แทแทยังเด็ก
แถมเด็กนั่นก็อยู่ตั้งกริฟฟินดอร์แต่ไม่เห็นว่าจะลงทุนจีบแทแทของฉันเท่าไรเลยนี่นา
ทำอะไรก็ไม่ชัดเจน กำกวมนักก็ปล่อยมันไปแบบนั้นแหละ” ซอกจินโบกมือปัด
ดวงตาคู่สวยเบือนไปทางปาร์คจีมินที่สะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันที “จีมินนี่ก็เหมือนกัน
อย่าเพิ่งรีบโตล่ะ เป็นเด็กดีแบบนี้แหละเนอะ”
จีมินเผลอพยักหน้ารับคำของออมม่..
เอ้ย ซอกจินฮยองทันที
ก่อนที่ทุกประโยคของฮยองคนโปรดของจีมินจะถูกกลั่นกรองในสมองและจีมินก็เบิกตากว้าง
“ด.. เดี๋ยวนะ นี่ซอกจินฮยองจะบอกว่าจอนจองกุกจีบแทแทอยู่เหรอ?”
“ได้ข่าวว่าสักสองปีแล้วนะ” (อี้ชิง)
“นกตลอด น่าสงสารจัง” (จงแด)
“ก็ให้นกไปแบบนี้แหละดีแล้ว
แทแทยังเรียนไม่จบเลย” (ซอกจิน)
“...แทฮยองสิบแปดแล้วนะ
แล้วนายกับนัมจุนก็ยังเรียนไม่จบเหมือนกันนั่นแหละซอกจิน” (เคน)
“น... นี่แปลว่าพวกฮยองทั้งสี่คนรู้มาตลอดเลยเหรอ???”
คิมซอกจินพบว่าหลังจากที่เขาเล่นบทออมม่าแล้วหลอกล่อให้แทฮยองเขี่ยจอนจองกุกเข้า
Friend
Zone ได้ปุ้ป (ซึ่งเอาตรงๆมันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นเลยนะ
เด็กคนนั้นมันซื่อบื้อเอาขนาดนั้นนี่นา...) เจ้าพวกซองแจ
ยูคยอม และยองแจก็ดูจะมีความเกรงใจในตัวซอกจินขึ้นมาเกือบเท่าตัว
กับจีมินนั่นไม่เท่าไร เหมือนว่าจีมินจะชอบใจเสียอีกที่ซอกจินทำแบบนั้นเพราะ
“ผมเป็นมินแทชิปเปอร์นะซอกจินฮยอง
ที่มินแจตีลูกบลัดเจอร์ให้พ้นทางแทแทคราวก่อนนั้นมันเป็นความรัก...”
ก็นั่นแหละ
แต่เอาจริงๆแล้วซอกจินก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนั้นเท่าไร
เขาห่วงเด็กๆในความดูแลของเขา แต่ใครจะคบกับใครซอกจินก็ไม่เคยคิดจะไปห้ามปรามอะไร (ไม่อย่างนั้นปาร์คจีมินคงโดนซอกจินบ่นจนหูชาเรื่องมินยุนกิไปแล้ว
ทำไม?
คิดเหรอว่าซอกจินจะไม่รู้สึกตงิดใจที่จีมินนี่ชอบแอบหันไปมองโต๊ะทานอาหารของสลิธีรินในห้องโถงใหญ่บ่อยๆเหรอ?
แล้วไหนจะตัวมินยุนกิเองที่ชอบมาเนียนๆถามเรื่องจีมินนี่กับเขาอีกล่ะ?
ถึงซอกจินจะไม่ได้พูดออกมาแต่เขาก็อยากจะคิดว่าตัวเองรู้เยอะกว่าที่ใครคิดนะคุณ) แต่กับจอนจอนกุกที่แบคฮยอนกับชานยอลเคยแซวๆให้ได้ยินอยู่ว่าชอบแทแทของเขานักหนานี่...
“น่าสงสารออกนะ
ซีกเกอร์ของกริฟฟินดอร์นั่น”
คอมเม้นท์ของนัมจุนทำให้ซอกจินหัวเราะหึ
“ไม่ได้น่าสงสารสักหน่อย
ก็มันไม่ใช่เดทจริงๆนี่ แทแทก็เล่าให้ฟังแล้วว่าเขามาขอให้ช่วยติดแค่นั้นจริงๆ”
“ก็นะ...
แต่แล้วจินก็ย้ำแล้วย้ำอีกกับแทฮยองให้คิดถึงจองกุกว่าเป็นแค่เพื่อนไม่ใช่หรือไง?”
นัมจุนกับซอกจินไม่มีความลับอะไรต่อกัน
มันไม่ใช่ว่าซอกจินบอกนัมจุนทุกเรื่องหรือว่านัมจุนเองจะเข้ามาถามเรื่องวันหนึ่งวันของซอกจินตลอด
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรเหมือนกันที่ต่างฝ่ายต่างก็จะรู้เรื่องราวของกันและกันง่ายๆโดยที่ซอกจินเองก็จำไม่ได้ว่าเล่าไปเมื่อไรหรือว่านัมจุนไปได้ยินมาจากไหนแบบนี้
“ก็คิดแค่นั้นไปก่อนก็ถือว่าพัฒนาแล้วนะ
แต่ก่อนนั่นแทฮยองเกลียดขี้หน้าจองกุกด้วยซ้ำ”
“ใช่เกลียดแน่เหรอ?
บอกว่าเกลียดเขาแต่มันจะพูดถึงบ่อยไปหรือเปล่า.. แล้วที่ไปติวกันนี่
ตอนไปกับมินแจก็ไม่เคยคิดกังวลแบบนี้ แต่พอไปกับจองกุกแทฮยองกลับเก็บมาคิดเสียยกใหญ่ว่ามันอาจจะเป็นเดทหรือเปล่า...
มันก็น่าคิดไหมนะ?” นัมจุนถามกลับมาด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆอีกครั้ง ซอกจินไหวไหล่
“จะคิดยังไงแต่ถ้าเจ้าตัวยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองดีพวกเราที่ดูอยู่รอบๆก็ไม่มีสิทธ์จะไปคิดอะไรเหมือนกันนั่นแหละ”
“แล้วก็ไม่น่าจะมีสิทธิ์ไปพูดกล่อมให้เขาปักใจคิดแบบใดแบบหนึ่งด้วยจริงไหม?”
ซอกจินกลอกตา
เขาตบแขนนัมจุนที่อยู่ข้างๆเบาๆ
“เบื่อชะมัด พวกพูดจาดักคอ”
นัมจุนยิ้ม
“ก็แค่ไม่อยากให้จินทำอะไรที่อาจจะต้องมาเสียใจทีหลัง”
“ฉันไม่เสียใจหรอก แทแทเองก็จะไม่เสียใจเหมือนกันถ้าฉันทำแบบนี้
ดีกว่าปล่อยให้สับสนไปเอง
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าดีไม่ดีเผลอใจอ่อนกับจอนจองกุกทั้งๆที่มีเรื่องแบบนั้น...”
“เรื่องแบบนั้น?” นัมจุนทวนอีกครั้ง
เขาโคลงศีรษะ “หมายถึงข่าวลือนั่นน่ะเหรอ? ก็แค่ข่าวลือนะจิน
จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้”
“ข่าวลือที่ไหนมันก็ต้องมีมูลทั้งนั้นแหละ
ไม่อย่างนั้นคนเขาจะเอาที่ไหนมาลือกัน?” ซอกจินถามกลับ
นัมจุนแบมือขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบางๆเหมือนจะยอมแพ้
“มันก็ใช่
แต่บางทีคนก็เอาเรื่องเล็กๆมาใส่สีให้มันเป็นเรื่องใหญ่ได้ไม่ใช่เหรอ?
ยิ่งจอนจองกุกก็มีแบคฮยอนคอยดูไว้อยู่แล้ว
ถ้ามันเป็นเรื่องจริงจินไม่คิดว่าแบคฮยอนจะพูดอะไรแล้วหรือไง?
ยิ่งเมื่อแบคฮยอนรู้ว่าจองกุกจีบแทแทอยู่แบบนี้”
“แบคฮยอนอาจจะยังไม่รู้ก็ได้
พวกเราเองก็เพิ่งจะได้ยินเมื่อเร็วๆนี้เองไม่ใช่หรือไง?
ข่าววงในของพวกเลือดบริสุทธิ์อย่างเรา ถ้าจองกุกไม่พูด แบคฮยอนที่เกิดจากมักเกิ้ลก็ไม่รู้หรอก”
ซอกจินเบือนหน้าหนี “ไม่รู้แหละ ฉันแค่ดูแลแทแทในแบบของฉันก็เท่านั้น
ถึงนายจะไม่เห็นด้วยก็ช่วยไม่ได้หรอกนะนัมจุน”
นัมจุนถอนหายใจ
ในเมื่อเรื่องมันแล้วไปแล้วแถมซอกจินเองก็ไม่คิดจะเปลี่ยนใจง่ายๆแบบนี้เขาเองก็คงจะไม่ขุดมาพูดต่อเหมือนกัน
แล้วมันก็อย่างที่ซอกจินว่า
ถึงจะเป็นข่าวลือ แต่ร้อยทั้งร้อยมันก็น่าจะต้องมีมูลมาก่อนบ้าง...
แล้วข่าวลือที่ว่าจอนจองกุกมีคู่หมั้นอยู่แล้วนี่
มันจะมีมูลมากน้อยแค่ไหน นัมจุนเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
Talk: ไว้อาลัยให้อุปสรรคในชีวิตของจอน จองกุกสิบวินาที 555555
สงสารอะ เข้าใจกันแล้วแต่ออมม่าเขาก็กีดกัน 555 โธ่เอ้ยยยย จกุกเอ้ยยย
Tracklist ของWINGSก็ออกมาแล้วเนอะะ ตื่นเต้นไปหมด อยากฟังทุกเพลงเลย ตื่นเต้นกับเพลงโซโล่(?)ของทุกคนมาก เดาเอาว่าที่ได้ฟังในหนังสั้นก็คือตัวอย่างเพลงนั้นๆเนอะ คือเท่าที่ฟังมันเพราะทุกเพลงเลยอะ ฟังในช็อตฟิล์มวนไปวนมาบ่อยมาก อยากฟังเวอร์ชั่นเต็มๆมากกกก ที่ว้อนอยากจะฟังและเฝ้ารอมากอีกเพลงก็ไซเฟอร์พาร์ทสี่! ฮือออออ ไซเฟอร์นี่ถึงใจตลอด อยากฟังแล้วว่าแรปไลน์แต่ละคนจะ spit fire แรงเบอร์ไหน 5555 ตื่นเต้นนนน
ตอนนี้เริ่มเรียนหนักขึ้น คงจะอัพบ่อยทุกสองวันสามวันเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้ ขอโทษด้วยนะคะ จะพยายามมาเรื่อยๆไม่ให้ห่างจนเกินไปแล้วกันเนอะ ขอบคุณที่รอกันนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาคอมเม้นให้กำลังใจกันด้วยน้า <3
รักนะทุกคนน แล้วเจอกันใหม่นะคะะ~
ความคิดเห็น