จอมใจเจ้าสมุทร
แม้แตกต่างกันเพียงใด ระยะทางห่างไกลคนละฟากฟ้า ต่อให้แผ่นดินทลายลงตรงหน้า เพียงมีเจ้าอยู่ข้างกายา...ไม่หวั่นเกรง
ผู้เข้าชมรวม
1,271
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
เมฆก้อนมหึมาเคลื่อนตัวเต็มท้องฟ้าตามด้วยเสียงร้องคำรามกึกก้อง ร่างของสาวน้อยพยายามวิ่งหนีอะไรสักอย่าง แต่ก็ต้องสิ้นหวังเมื่อเธอต้องมาจนมุมที่ริมหน้าผา หล่อนขืนตัวไว้สุดกำลังด้วยเกรงว่าจะตกลงไปด้านล่างที่มีหมู่มวลคลื่นสาดซัดเข้าฝั่งอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่หันรีหันขวางอยู่นั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงที่เป็นดั่งมัจจุราชผู้คอยติดตามมาเพื่อกระชากวิญญาณของหญิงสาวออกจากร่าง
“อย่าคิดหนีอีกต่อไปเลย ยังไงซะเธอก็ไม่มีวันหนีฉันพ้นหรอก”
“อย่าเข้ามานะ” หญิงสาวตะโกนออกไปแข่งกับเสียงฟ้าที่เหมือนกำลังจะถล่มลงมาเบื้องล่าง สายตาก็พยายามมองหาหนทางหลบหนี ชายผู้นั้นรู้เท่าทันความคิดหล่อน
“เธออย่าพยายามอีกเลย ยังไงซะเธอก็ไม่มีวันหนีฉันพ้น เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าพ่อเธอยกเธอให้ฉันแล้ว ชีวิตเธอเป็นของฉันนับตั้งแต่ที่พ่อเธอรับเงินของฉันไปนั่นละ” ชายคนนั้นกล่าวเสียงกร้าวพร้อมรอยยิ้มหยามเหยียด จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าเหมือนหมาป่าที่จ้องมองดูแกะตัวน้อย
“ไม่มีวัน พ่อฉันไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก พวกแกมันขี้โกง ถ้าจะให้ฉันเป็นเมียคนอย่างแกนะ ฉันยอมตายเสียดีกว่า” กล่าวจบหญิงสาวก็กระโดดจากหน้าผาลงสู่เบื้องล่าง ร่างบอบบางจมหายไปในกระแสคลื่นอันปั่นป่วน พร้อมกันนั้นสายฝนก็เทลงมาดั่งฟ้ารั่ว ชายผู้นั้นยืนมองเหตุการณ์ด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด เพราะเขาสูญเงินไปไม่ใช่น้อยแต่กลับไม่ได้เชยชมหญิงสาวแม้แต่นิดเดียว
“ทำยังไงดีครับท่าน” ลูกน้องที่ยืนประกบอยู่ด้านหลังถามขึ้นอย่างเป็นกังวล
“มันอยากตายนักก็ปล่อยมันไป” ชายผู้นั้นบอกด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ จากนั้นก็เดินกลับลงมาจากหน้าผา
แรงกระแทกเมื่อร่างกายกระทบกับผิวน้ำทำให้จุกจนไม่สามารถเปล่งเสียงร้องออกมาได้ น้ำจำนวนมากไหลทะลักเข้าปากและจมูก ร่างบอบบางพยายามดิ้นรนขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อหาอากาศหายใจ แต่ด้วยกระแสน้ำที่ปั่นป่วนบวกกับคลื่นลมอันรุนแรงได้บั่นทอนกำลังของเธอจนแทบไม่หลงเหลือ อาการดิ้นรนต่อสู้ค่อย ๆ สงบลง ดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท ไม่นานก็ปรากฏภาพต่าง ๆ ในแต่ละช่วงของชีวิตฉายย้อนในความรู้สึก ใบหน้าอ่อนเยาว์ยิ้มละมุนเมื่อมองเห็นภาพวันเกิดครบรอบสิบเก้าปีของตนที่บิดาให้ของขวัญชิ้นสำคัญซึ่งก็คือสร้อยทองเส้นเล็กน่ารัก ตัวจี้เป็นเพชรรูปหยดน้ำสีฟ้าครามเหมือนสีน้ำทะเล
‘นี่เรากำลังจะตายสินะ คุณพ่อขามิ้นคงไม่อาจกลับไปดูแลคุณพ่อได้อีกแล้ว มิ้นกราบลาคุณพ่อตรงนี้เลยนะคะ’ หญิงสาวพนมมือขึ้นหว่างอกก่อนจะปลดปล่อยร่างกายให้เป็นอิสระ ความรู้สึกอึดอัดเข้าครอบงำจนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และสุดท้ายสติสัมปชัญญะของเธอก็หลุดลอย
เมื่อมองเห็นผู้เป็นนายกลับมา ลูกน้องคนที่รออยู่ที่รถรีบกุลีกุจอลงมาเปิดประตูให้ทันที แต่ก่อนที่นายนิพนธ์จะก้าวขึ้นรถก็มีชายชราคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางร้อนรน
“ลูกผมละครับท่าน ลูกผมอยู่ไหน” ชายชราถามพลางก็สอดส่ายสายตาหาบุตรสาวของตน แต่นายนิพนธ์กลับเดินผ่านหน้าไปไม่แยแส ชายชราจึงอ้อมไปขวางหน้าก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นรถ
“ผมไม่ต้องการเงินของท่านแล้ว อยากได้บริษัทผมก็เอาไป แต่ขออย่างเดียว ขอลูกสาวผมคืน ลูกผมอยู่ไหน มินตราอยู่ไหนครับ”
ชายชราดึงแขนเขาไว้รู้สึกใจคอไม่ดี ภาพที่ปรากฏตรงหน้าหากใครมาเห็นก็ต้องรู้สึกสงสารชายชราผู้นี้ แต่สำหรับนายนิพนธ์นักธุรกิจผู้โด่งดังไม่เคยมีคำนี้อยู่ในสมอง สิ่งที่จะทำให้เขาสนใจได้นั้นก็คือเงินกับผลประโยชน์เท่านั้นเอง ลูกน้องของนายนิพนธ์เข้ามาดึงร่างผอมของชายชราออกไปแล้วผลักล้มลงไปกองที่พื้น
“ถ้าอยากเจอลูกสาวแกนักก็โน่น ในทะเลโน่น อย่ามายุ่งกับท่านอีก” ได้ฟังดังนั้นหัวใจของผู้เป็นพ่อแทบหยุดเต้น ชายชราลุกขึ้นวิ่งล้มลุกคลุกคลานไปบนหน้าผา ปากก็ร้องเรียกหาลูกเป็นระยะ ๆ
“มิ้น มิ้น อยู่ที่ไหนลูก” ชายชราวิ่งพล่านไปทั่ว จนกระทั่งถึงก้อนหินใหญ่ริมหน้าผา สายตาอันฝ้าฟางก็พบกับของสิ่งหนึ่งตกอยู่ ผ้าผูกผมสีฟ้าที่ลูกสาวชอบผูกเป็นประจำ แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นแม้เงาของผู้เป็นลูก ชายชราเริ่มส่งเสียงเรียกอีกครั้ง
“มิ้น ๆ ๆ หนูอยู่ไหนลูก ออกมาเถอะ พ่อมารับหนูแล้ว มิ้น” เสียงตะโกนก้องเรียกหาบุตรสาวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงเสียงคลื่นลม และเสียงฟ้าที่คำรามกึกก้อง หาได้มีเสียงตอบรับจากบุคคลที่กำลังตามหาไม่ ชายชราทรุดลงกับก้อนหินใหญ่ร่ำไห้ดั่งดวงใจแตกสลาย ร่างผอมสั่นสะท้านด้วยแรงสะอื้น ความหนาวเหน็บจากหยาดฝนไม่อาจเทียบได้กับความเหน็บหนาวในดวงใจของเขาได้เลย มืออันเหี่ยวย่นตามกาลเวลากุมผ้าผูกผมไว้แนบอก พร้อมคำกล่าวโทษตนเองซ้ำไปซ้ำมา
“ไม่น่าเลยจริง ๆ ไม่ควรเลยจริง ๆ มิ้น...พ่อขอโทษ”
ผลงานอื่นๆ ของ silver guise ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ silver guise
ความคิดเห็น