คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : SPECIAL ϟ SUNGJONG CHAPTER ϟ
ϟ SPECIAL ϟ
#HappySUNGJONGDay
-
2 Years ago
3 September 20XX
“ไม่อยากไปเลย”
“ยังไงนายก็ต้องไปนี่”
“พี่จะส่งผมแค่นี้หรอครับ”
“อื้อ จะให้ฉันเข้าไปหรอ ไม่เอาหรอก”
“พี่กลัวร้องไห้ตามผมอ่ะดิ”
“…”
ใช่ อีซองจงอยากจะร้องไห้ อยากงอแงแล้วก็กอดไอเด็กตรงหน้าของเขาว่าไม่ไปได้ไหม แต่เขาไม่สามารถทำมันได้เพราะสิ่งที่คิมมยองซูต้องทำ มันสำคัญมากจนไม่สามารถเลี่ยงได้
ผู้ชายทุกคนก็เช่นกัน
“ดูดิจะงอแงแล้วเห็นไหม แค่สองปีเอง..”
“…”
นิ้วเรียวลูบใบหน้าสวยเบา ๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา ให้ตายเถอะ ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหนคิมมยองซูก็ยังคงแพ้น้ำตาของคนพี่เสมอ ไม่สิ
เขาแพ้ทุกอย่างที่เป็นอีซองจง
“มันไม่ใช่แค่สักหน่อย ตั้งสองปีต่างหาก”
“ผมรู้แล้ว”
เสียงทุ้มดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะรั้งเอวบางเข้ามากอด กอดครั้งสุดท้ายของปีนี้ และอีกสองปีข้างหน้า คิมมยองซูคงเหงาน่าดูถ้าเขาต้องอยู่ที่นี่คนเดียวโดยไม่มีอีซองจงอยู่ข้าง ๆ
“อยู่ที่นี่ต้องทำตัวดี ๆ นะรู้ไหม..”
“จะงอแงแล้วใช่ไหมล่ะ ไม่เอาสิครับพี่อย่าร้องนะ”
“…”
“พี่ทำให้ผมไม่อยากไปเลย..”
ใบหน้าสวยซุกกับอกแกร่งก่อนจะเผลอสะอื้นออกมาเล็กน้อย ไม่ใช่แค่ซองจงที่เสียใจแต่คิมมยองซูก็เสียใจไม่แพ้กัน มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเขาถูกเรียกตัวในวันอื่นที่ไม่ใช่วันนี้
วันไหนก็ได้ที่ไม่ใช่วันเกิดของอีซองจง
ไม่ใช่วันเกิดของคนที่เขารักที่สุด
“คงเป็นของขวัญที่แย่มาก ๆ เลยใช่ไหมครับ..”
“พี่ครับ ผมไม่อยู่อย่านอกใจผมนะ”
“ไอบ้า! นายนี่มัน..”
เสียงคนพี่ดังขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังคงซุกอยู่ที่เดิม เพียงแต่กำปั้นหนัก ๆ ที่ทุบลงบนไหล่ข้างขวาของเขา จะว่าเจ็บก็เจ็บ แต่เอาเข้าจริงเขาคงคิดถึงคนที่ชอบทุบชอบตีเขาแน่ ๆ
ต่อไปนี้คงจะโดนแต่ทหารในนั้นทุบแทนแล้วล่ะมั้ง..
“ผมต้องไปแล้วนะครับ..”
“อื้อ”
“พี่ครับ อยู่คนเดียวอย่าเป็นอะไรนะ ดูแลตัวเองด้วย ถ้าเหงาเกินไปอย่าอยู่แต่ที่คอนโดนะครับ กลับบ้านไปหาคุณพ่อกับคุณแม่พี่ก็ได้ หรือไม่ก็เรียกพี่อูฮยอนมาอยู่ด้วย”
“…”
“พี่ครับ อย่าดื่มเยอะนะครับ ผมจำกัดให้พี่แค่หนึ่งขวด หนึ่งขวดเท่านั้น ผมบอกกับพี่อูฮยอนแล้วถ้าพี่ดื่มมากกว่านั้นผมจะกลับมาลงโทษพี่”
“พี่ครับ ถ้าคุณซองยอลมาชวนไปไหน ห้ามไปนะครับถ้าจะไปก็ต้องพาพี่อูฮยอนไปด้วย ผมไว้ใจพี่แต่ไม่ไว้ใจเขา ถึงเขาจะเดทแล้วก็เถอะ”
“พี่ครับ.. ถ้าผมว่างจับโทรศัพท์ได้ตอนไหนผมจะรีบโทรไปหาพี่นะครับ หรือถ้าไม่ได้ ผมจะเขียนจดหมายไปหาพี่บ่อย ๆ นะครับ อ้อ ถ้าผมเขียนจดหมายไปให้พี่ พี่ต้องอ่านให้จบนะครับ มันมีความหมายมากนะครับ”
“พี่ครับ กินข้าวเยอะ ๆ อย่าหักโหมนะครับ ผมรู้ว่างานมันสำคัญมาก ๆ แต่ชีวิตและร่างกายของพี่สำคัญกว่านะครับ ผมรักพี่มาก ๆ นะ”
“ถ้าคิดถึงผม ก็หยิบกล้องขึ้นมาดูรูปผมได้น้า รูปผมกับพี่นั่นแหละ อย่าทำพังล่ะ เดือนที่แล้วก็เปิดไม่ติดตั้งสองครั้ง”
น้ำใส ๆ ที่หยดลงบนเสื้อของคิมมยองซู เขารู้สึก รู้สึกว่ายิ่งพูด น้ำตาของคนรักของเขายิ่งมากขึ้น และเพราะแบบนี้มันจึงทำให้เขาไม่อยากไป เขาอยากอยู่ที่กับอีซองจง
ไม่อยากแม้แต่จะก้าวขาออกไปเลย
แค่คิดว่าไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนตรงหน้าตั้งสองปีก็อยากงอแงแล้ว
ดวงตากลมโตจ้องมองป้ายชื่อที่ติดอยู่บนเสื้อของคนตัวสูง นิ้วเรียวสวยค่อย ๆ ลูบมันช้า ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนรักครั้งสุดท้าย ครั้งสุดท้ายที่จะไม่ได้มองอีก
“อยู่ที่นี่ต้องเป็นเด็กดีนะ ฉันจะทำตามที่นายบอกทุกอย่างเลย”
“เรียกแอลก่อนไปได้ไหมครับ”
“ไม่เอา”
เสียงแข็งดังขึ้นพร้อมกับเสียงสูดน้ำมูกเหมือนเด็ก และมันทำให้มยองซูหลุดขำออกมา นิ้วเรียวเช็ดน้ำตาบนใบหน้าสวยก่อนจะโอบกอดคนรักอีกครั้ง
“เรียกหน่อยสิครับที่รัก”
“แอล”
“บอกรักด้วยสิครับ”
“อื้อ รักนะครับ”
แค่คำบอกรักของอีซองจงคำเดียวก็แทบทำให้มยองซูไม่อยากไปไหนแล้ว ดวงตาคมจ้องใบหน้าสวยอีกครั้งก่อนจะประคองใบหน้าสวยไว้และจุมพิตริมฝีปากสวยอีกครั้ง
“ไปแล้วนะครับ”
“อื้อ ฉันจะรอนายนะ”
“มันแค่แปปเดียวนั่นแหละ ยังไงนายก็ต้องกลับมาหาฉัน”
“ฉันรักนายนะคิมมยองซู”
บางครั้งผมก็รำคาญเจ้าบ้านั่น เพราะชอบทำตัวเป็นเด็กตลอดเวลา
แถมยังชอบจู้จี้จุกจิกอีกต่างหากทั้ง ๆ ที่คนที่ควรเป็นแบบนั้นคือผม
แต่เอาเข้าจริง พอเจ้านั่นไม่อยู่มันยิ่งทำให้ผมเหงามากขึ้นไปอีก
เหงาแบบที่ไม่รู้ว่าแต่ละวันจะทำยังไงให้ไม่นึกถึงคิมมยองซู
Last year
25 August 20XX
25/08/XX
สวัสดีครับที่รักของผม คิมมยองซูเองนะครับ
จดหมายฉบับที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย เกินหนึ่งร้อยแล้วใช่ไหมครับ สองร้อยหรือยังนะ แหะ ๆ .. พี่ครับคิดถึงจัง ปีหน้าผมก็จะได้ออกไปหาพี่แล้วนะครับ คิดถึงผมแล้วใช่ไหมล่ะ ตื่นเต้นล่วงหน้าได้ไหมเนี่ย.. พี่อูฮยอนส่งข้อความมาบอกว่าพี่ทำตามที่ผมบอกทุกอย่างเลย ไม่เมาด้วย เก่งมาก ๆ เลยครับ ขอบคุณที่เชื่อฟังเด็กคนนี้นะมิมิจ้ง พี่ครับหนวดผมขึ้นอีกแล้วอ่ะ.. ผมโกนหลายรอบแล้ว เขียนถึงตอนนี้รู้สึกจั๊กจี้คอบ้างไหมครับ อ่า.. ขอโทษครับ พี่กินข้าวครบทุกมื้อเลยใช่ไหมครับ อย่าเอาแต่คุยกับตุ๊กตานะครับ.. ผมรักพี่นะครับ ตอนนี้ที่ค่ายก็เริ่มปล่อยแล้ว แต่ทำไมผมยังออกไปไหนไม่ได้นะ.. พี่ครับช่วยลืมรูปหัวเกรียน ๆ ของผมออกไปด้วยนะครับ ไม่หล่อเลยอ่ะ T _ T อืม.. คงจะจบแค่นี้แล้วครับ ผมรักพี่นะครับ รักมาก ๆ เลย ไว้เจอกันนะครับที่รักของคิมมยองซู
แต่สิ่งที่ทำให้ผมยิ้มได้ทุกครั้งคือจดหมายที่มยองซูมักจะเขียนส่งมาให้ผมทุกครั้ง และแบบนี้ยิ่งทำให้ผมคิดถึงเขามากขึ้นไปอีก และยิ่งเขาเป็นพวกรักษาสัญญา เอาจริง ๆ ผมไม่คิดว่าเขาจะเขียนจดหมายหาผมบ่อยขนาดนี้
บ่อยจนผมเปิดประตูออกมาดูกล่องรับจดหมายจนติดเป็นนิสัย
ต้องขอบคุณงานในบริษัทที่เข้ามาบ่อยจนให้ผมได้มีอะไรทำบ้าง นอกจากอยู่แต่ในห้องแล้วก็เอาแต่คิดถึงไอเจ้าบ้านั่นจนเกือบร้องไห้อยู่หลายครั้ง
นอกจากผมต้องรอรับจดหมายแต่ละฉบับของเจ้านั่น ผมยังต้องนั่งมองหน้าจอโทรศัพท์เพื่อรอข้อความหรือสายเรียกเข้าของเจ้านั่นด้วย
ไม่บ่อยมากหรอกที่เขาจะส่งข้อความหรือโทรมาหาผม เพราะที่นั่นคงไม่มีเวลาให้เขามากเท่าไหร่นักหรอก
มีแต่ผมเองนั่นเองนั่นแหละที่ชอบส่งข้อความไปหาเขา
และก็มั่นใจว่าเขาเห็นมัน
พอวันเกิดของผมมันเริ่มใกล้เข้ามา ยิ่งทำให้เหงามากขึ้นไปอีกเลยล่ะ เพราะในทุก ๆ ปีก็มักจะมีเขามาคอยยืนถือเค้กแล้วก็ทำหน้าหงอย ๆ ใส่
คิดถึงมากจริง ๆ
3 September 20XX
“นี่ของขวัญครับ”
“ขอบคุณนะครับ”
ช่อดอกไม้และกล่องของขวัญทรงสี่เหลี่ยมกล่องเล็กถูกวางไว้บนโต๊ะทำงานของคนประธานบริษัท อีซองจงมองมันก่อนจะกลับมาสนใจเอกสารตรงหน้าเช่นเดิม
“ลองเปิดดูสิว่ามันคืออะไร”
“ผมทำงานอยู่นะครับ”
“เปิดแปปเดียวเองซองจงอา”
อีซองยอลก็ยังคงเป็นอีซองยอลเหมือนเดิม อีซองยอลคนน่ารำคาญนั่นแหละ
เสียงถอนหายใจดังขึ้นพร้อมกับฝ่ามือสวยที่ถือกล่องของขวัญไว้บนมือและแกะออกแบบไม่ถนอมสิ่งของในนั้นแม้แต่น้อย รุนแรงซะจนอีซองยอลต้องกลืนน้ำลายลงคอเลยล่ะ
“นาฬิกา”
“แพงมากเลยนะ พี่ซื้อมาให้เราโดยเฉพาะเลย”
“อืม.. สวยดีนะครับ”
“แต่ผมมีอยู่แล้ว”
ร่างบางยกข้อมือขึ้นโชว์นาฬิกาที่ตัวเองใส่อยู่ ก่อนจะวางกล่องนั้นไว้ที่เดิม เช่นกัน อีซองจงก็ยังเป็นอีซองจงคนเดิม เป็นคนที่ไม่สนใจสิ่งไหนนอกจากงาน
และคิมมยองซู
“ก็.. ก็เปลี่ยนมาใส่ของพี่สิ”
“...”
“ซองจง”
“พี่รู้ไหมครับว่านาฬิกาบนข้อมือผมใครซื้อให้”
ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองคนที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา ใบหน้าสวยที่ไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่ เขาวางปากกาลงก่อนจะก้มลงเปิดลิ้นชักและหยิบกล่องนาฬิกาในนั้นออกมา
“ดูปากผมนะครับ”
“คิมมยองซูซื้อให้ผม ของแฟนผม ผมต้องถอดของแฟนออกแล้วใส่ของใครก็ไม่รู้แทนหรอครับ บ้าจริง ๆ “
“แต่-”
“พี่ควรสนใจแฟนพี่บ้างนะครับ ถ้าเขารู้ว่าพี่มาทำแบบนี้ ตายแน่ ๆ “
“เชิญ ออก จาก ห้อง ผม ได้ แล้ว”
อีซองจงใจร้าย..
เสื้อโค้ทสีชมพูถูกพาดไว้บนไหล่ พร้อมกับนิ้วเรียวที่ปลดกระดุมเสื้อออกไปสองเม็ด วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยที่สุดและต้องการกำลังใจมากที่สุดเลยล่ะ
น่าแปลกที่ไม่มีอะไรแจ้งเตือนเลยแม้แต้น้อย
ลืมวันเกิดกันไปแล้วหรอ..
วันนี้ยังคงมีจดหมายอยู่ในกล่องเช่นเดิม มือสวยหยิบมันออกมาไว้ในมือก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไปอย่างเหนื่อยล้า
ของทุกอย่างถูกวางไว้บนโต๊ะยกเว้นเจ้าตัวที่เดินตรงไปนั่งบนโซฟาก่อนกับจดหมายในมือ นิ้วเรียวค่อย ๆ แกมันออกก่อนจะหยิบกระดาษในนั้นออกมา
ลายมือสวย ๆ ในตอนเริ่มต้นแต่เริ่มชุ่ยในช่วงบรรทัดสุดท้าย ซองจงยังจำได้ดี และจดหมายฉบับนี้ยังคงเป็นของคิมมยองซูเหมือนเดิม
ใบหน้าสวยที่แสดงสีหน้าเรียบเฉยตั้งแต่ที่บริษัทจนถึงคอนโดตอนนี้เขาหลุดยิ้มให้จดหมายของคิมมยองซูอีกแล้ว
03/09/XX
สุขสันต์วันเกิดครับมิมิจ้ง
ปีนี้ไม่ได้อยู่ด้วยอีกแล้ว ผมไม่มีของขวัญให้พี่เลย ขอโทษนะครับ ผมออกไปไหนไม่ได้เลยอ่ะถ้าอยากได้ของขวัญสนเบอร์เกอร์เนื้อในค่ายไหมครับ มันไม่อร่อยอ่ะ ที่พี่ทำอร่อยกว่าอีก.. พี่ครับปีนี้พี่แก่ขึ้นอีกปีแล้วนะ เหมือนกับผมที่แก่ขึ้นอีกปีแล้วไง แล้วแก่ตามพี่เลยนะแต่ทำไมถึงตามไม่ทันสักทีเนี่ย..พี่ครับผมอ่านข้อความของพี่ทั้งหมดเลยนะครับ ถึงจะไม่ค่อยได้ตอบก็เถอะ มันไม่มีเวลาอ่ะ บางทีอ่านไปแล้วก็หลับไปเลย เกลียดตัวเองจริง ๆ ปีหน้าผมจะได้ออกไปเจอพี่แล้ว วันเกิดของพี่จะมีผมอยู่ด้วยแล้วนะครับ แล้วก็จะอยู่ด้วยตลอดไปเลย รักนะครับ ผมต้องไปแล้ว เหมือนคุณนายพลจะหงุดหงิดซะแล้วสิ คึคึ รักนะครับมิมิจ้ง คิดถึงผมด้วยนะที่รัก!
ยิ่งอ่านอีซองจงก็ยิ่งยิ้มจนตาแทบปิด แต่ในขณะเดียวกัน เขายิ่งกลับคิดถึงคิมมยองซูมากขึ้นเรื่อย ๆ จนอยู่ ๆ น้ำตาจากไหนไม่รู้ไหลออกมานั่นแหละ
อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวเขาก็กลับมาแล้ว..
ยิ่งเวลาผ่านไปนานแค่ไหน อะไรหลาย ๆ อย่างก็เปลี่ยน ยกเว้นแต่ความรู้สึกของอีซองจงและคิมมยองซูที่ยังคงเหมือนเดิม
น่าตื่นเต้นมากจริง ๆ ที่อีกไม่นานเจ้าตากล้องหัวรั้นกำลังจะออกมาจากกรมทหาร ถึงเวลาจะเริ่มใกล้เข้ามามากเท่าไหร่ แต่เด็กคนนั้นก็ยังคงเขียนจดหมายมาเล่าเรื่องราวเหมือนเดิม เหมือนกับว่าจะไม่กลับมาแล้วนั่นแหละ
Rrrr
คนที่นอนอยู่บนเตียงสะดุ้งตัวทันทีที่ได้ยินเสียงดังออกมาจากโทรศัพท์ที่วางไว้ข้างตัว มือสวยรีบจับโทรศัพท์มาไว้ในมือก่อนนิ้วเรียวจะสัมผัสหน้าจอ
อีซองจงไม่กล้าพูดอะไรออกไปเลย คนที่โทรมาหาเขาก็เช่นกัน
แต่เหมือนคนทางนั้นจะแพ้ต่อความเงียบนั่นแหละมั้ง..
[เงียบแบบนี้ ยังไม่ตื่นหรอครับ..]
[พูดหน่อยสิ คิดถึงเสียงจัง]
“อื้อ”
[อย่าทำเสียงแบบนี้สิ ฮ่า ๆ เพิ่งตื่นใช่ไหมล่ะ]
“คิดถึง”
[ตอบไม่ตรงคำถามเลย ผมก็คิดถึงพี่ครับ]
อีซองจงร้องไห้อีกแล้ว..
ใบหน้าร้อนผ่าว จมูกโด่งที่เริ่มแดง ดวงตากลมโตที่เริ่มมีน้ำใส ๆ เอ่อคลอออกมา อีซองจงไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย เวลาคิดถึงใครจนต้องร้องไห้ออกมา
“ฮึก.. คิดถึงจะตายอยู่แล้ว”
[ผมรู้แล้ว แต่ว่า]
[พี่ครับเหมือนผมจะยังออกไม่ได้.. ต้องเลื่อนไปอีกเดือน..]
ถามว่าตอนที่ได้ยินแบบนั้นรู้สึกยังไงน่ะหรอ
เหมือนจะตายเลยล่ะ..
“…อื้อ ฉันรอได้”
รอไม่ได้หรอก ทำไมต้องเลื่อนด้วยล่ะ ไม่ยุติธรรมเลย
[แต่ผมรอไม่ได้อ่ะ]
[ผมอยากออกไปหาพี่]
“แปปเดียวเอง..”
[พี่ร้องไห้ใช่ไหมครับ]
“อื้อ”
[ผมรักพี่นะครับ ถ้าผมได้ออกไปเมื่อไหร่ ผมจะไม่ทำให้พี่ร้องไห้อีกแล้ว]
เสียงทุ้มที่ดังขึ้นเหมือนคนที่อยากจะร้องไห้เหมือนกัน ซองจงรู้สึกแบบนั้น แต่ที่ทำให้รู้สึกยิ่งกว่าคือ คิมมยองซูโตขึ้นมากจริง ๆ ถึงแม้จะทำตัวเป็นเด็กบ่อย แต่ตอนนี้เขาโตขึ้นมากแล้ว
“ถ้าถึงวันนั้นนายบอกว่าเลื่อนอีก ฉันจะไปหาคนใหม่แล้ว”
“ไอบ้า”
3 September 20XX
ความจริงวันนี้เป็นวันที่คิมมยองซูต้องออกมาจากกรมทหารได้แล้ว แต่มันไม่ใช่เลย
อีซองจงต้องรออีกตั้งหนึ่งเดือน
วันนี้ไม่มีทั้งข้อความที่เด้งขึ้นมา ไม่มีแม้กระทั่งจดหมายที่มักจะส่งมาเป็นประจำ อีซองจงควรรู้สึกยังไงดีล่ะ เขาลืม หรือคิดว่าไม่จำเป็นแล้ว
เสียงถอนหายใจดังขึ้นเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน ข้อความที่เด้งขึ้นมาก็ล้วนแต่เป็นของเพื่อน หรือคนในครอบครัว ไม่มีคำว่าคิมมยองซูขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย
ไม่มีเลย
“เจอเมื่อไหร่ฉันจะตีให้เลือดหัวนายออกแน่..”
ตอนนี้คงมีแต่ตุ๊กตาข้างตัวที่สามารถระบายความในใจทุกอย่างได้หมดแล้วล่ะมั้ง เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง
08:30 PM
น่าแปลกที่กว่าจะผ่านไปได้แต่ละวันสำหรับอีซองจงมันยาวนานมากจริง ๆ เขาพยายามหลับตานอนเผื่อลืมตาขึ้นมาก็จะกลายเป็นเช้าวันใหม่ แต่ไม่เลย เขาหลับได้แค่ห้าถึงสิบนาทีเท่านั้น แล้วก็สะดุ้งตื่นเพราะข้อความของคนรอบตัว
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีแม้แต่ข้อความของคิมมยองซูเลย
ไม่มีแม้แต่ส่งสติ๊กเกอร์มา
“ให้ตายเหอะ คิมมยองซูนายตายแน่”
“ฉันจะหนีนายจริง ๆ ด้วย”
“ไอหน้าแมว”
ถ้าเป็นไปได้ ถ้ามยองซูยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาอยากจะมอบหมัดหนัก ๆ ให้สักสองสามทีตอบแทนสิ่งที่มอบให้อีซองจงนั่นแหละ
...
ใบหน้าสวยหันไปมองประตูทันทีที่ได้ยินเสียงกริ่งเตือน ร่างบางลุกออกจากโซฟาก่อนจะเดินไปที่หน้าประตู เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ หวังว่าจะได้รับอะไรบางอย่าง ไม่จดหมาย ก็ของขวัญจากเจ้านั่น
“ว่าไง”
เปล่าหรอก สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือเพื่อนของเขาต่างหาก
นัม อูฮยอน
นานเท่าไหร่แล้วที่ซองจงไม่ได้มานั่งอยู่ริมแม่น้ำ ไม่กับเพื่อน ก็คิมมยองซู
ก็คงตั้งแต่ที่ไอมนุษย์กล้องไปเข้ากรมนั่นแหละ เขาไม่ได้ออกไปไหนอีกเลย เอาแต่เก็บตัวเองไว้ในห้องแล้วก็หมกมุ่นอยู่กับงานของตัวเอง
“สุขสันต์วันเกิดจ้าเพื่อนรัก”
“อือ”
ร่างบางรับกระป๋องเบียร์มาไว้ในมือก่อนเพื่อนอีกคนจะย่อตัวลงมานั่งข้าง ๆ กับเขา เสียงถอนหายใจดังขึ้นพร้อมกับเสียงเปิดกระป๋องเบียร์
อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะหมดวันเกิดของเขาแล้ว
หวังว่าคิมมยองซูคงจะแอบเล่นอะไรพิเรนท์ให้เขางอแงอีกนะ
ได้โปรดอย่าลืมวันเกิดของเขาเลย..
“นี่”
“หือ”
“มยองซูเป็นยังไงบ้าง”
“ถามฉันทำไม เจ้านั่นชอบติดต่อนายไม่ใช่หรอ ลืมไปแล้วมั้งว่าฉันเป็นแฟนน่ะ”
“หูย น้อยใจ”
ฝ่ามือเล็กยีผมดำสนิทเหมือนกับเพื่อนของเขาเป็นเด็ก อูฮยอนมั่นใจเลยว่าอีซองจงกำลังน้อยใจคนรักของเขาอยู่ น่าตลกดีที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน อีซองจงก็ยังเป็นอีซองจง
“คงลืมวันเกิดฉันด้วย เขาไม่ส่งอะไรมาเลย”
“..งั้นหรอ”
“อื้อ”
“อยากระบายอะไรไหม”
“ฉันคิดถึงเจ้านั่นอ่ะ”
เสียงหวานดังขึ้นทันทีที่จบประโยคของเพื่อน เสียงถอนหายใจดังขึ้นรอบที่ร้อยของวันก่อนร่างบางจะกระดกเบียร์เข้าปาก
“ความจริงมยองซูต้องออกมาวันนี้ รู้ไหมว่าฉันเตรียมตัวจะไปรับตั้งแต่ต้นปีเลยอ่ะ”
“พอใกล้ถึงเวลาที่เจ้านั่นจะออก เขาก็โทรมาบอกว่าต้องเลื่อนออกไป ฉันแทบอยากจะกรี๊ดอัดหูให้หูมันหนวกไปเลย แต่ฉันทำได้แค่รอ”
“นายรักมยองซูไหมอีซองจง”
“รักสิวะ นั่นแฟนฉันนะ”
“อ่อ..”
“เดี๋ยวฉันมา”
อูฮยอนลุกขึ้นก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา เขาเดินหายออกไปจากตรงนั้นสักพักปล่อยให้ซองจงนั่งมองแม่น้ำเพียงคนเดียว ดูเหมือนอีซองจงจะไม่อยากทำอะไรเลย อยากจะนั่งอยู่ตรงนี้ยันเช้า
“หายไปนานแล้วนะไอบ้านี่..”
10:10 PM
รู้สึกเหมือนว่าตัวเองจะต้องโดนทิ้งให้อยู่คนเดียวแน่ ๆ เขานั่งอยู่ตรงนี้เป็นชั่วโมงเพียงคนเดียว ส่วนไอเพื่อนตัวดีก็หายไปกับกลีบเมฆ
เดี๋ยวฉันมาของมันนี่นานเท่าไหร่ล่ะ
ยันเช้าเลยไหม
Rrrr
วัตถุสี่เหลี่ยมที่สั่นพร้อมกับเสียงดังขึ้นมา อีซองจงรีบหยิบขึ้นมาดูก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาทันทีที่เห็นชื่อของใครบางคนปรากฏอยู่บนหน้าจอสี่เหลี่ยม
คิม มยองซู
และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เขารีบรับทันทีโดยไม่ต้องรออะไรแม้แต่น้อย วัตถุสี่เหลียมแนบไว้ที่หูของเขาก่อนจะได้ยินเพียงเสียงลมที่ดังออกมา
“..มยองซู”
“พูดอะไรหน่อยสิ”
[…พี่ครับ]
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นแค่นั้นก็ทำให้อีซองจงบ่อน้ำตาแตกแล้วล่ะ ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันก่อนเสียงจากทางนั้นจะดังขึ้นอีกครั้ง
[อยู่ตรงนั้นเหงาไหมครับ]
“อะไรของนาย…”
คำถามที่ทำให้อีซองจงขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปม ร่างบางหันซ้ายขวาก่อนเสียงหัวเราะจะดังขึ้น และมันยิ่งทำให้ซองจงหงุดหงิดที่คิมมยองซูกำลังทำอะไรแบบนี้
“นายอยู่ไหน”
[ค่ายทหารมั้งครับ]
[ผมร้อนอ่ะ]
“..คิมมยองซู”
[พี่ครับหันหลังมาหน่อยสิ]
[อยากเจอหน้าพี่จัง]
...
ร่างบางค่อย ๆ ยืนขึ้นก่อนจะหันหลังตามที่คนในสายบอก และนั่นทำให้อีซองจงแทบหยุดหายใจ
ไอบ้าเอ๊ย..
เหมือนเวลาหยุดไปเลย..
ดวงตากลมโตจ้องมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาพร้อมกับเค้กในมือ ส่วนนัมอูฮยอนน่ะหรอ ก็ถือโทรศัพท์แนบหูคนรักของเขาอยู่นั่นไง
“คิมมยองซู ไอเด็กบ้า”
ร่างบางตัดสายทันทีที่เห็นแบบนั้นก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาหาคนรักของเขา ส่วนคิมมยองซูก็รีบยื่นเค้กให้ผู้ช่วยอย่างอูฮยอน เขาอ้าแขนรอร่างบางที่กำลังวิ่งเข้าหาเขาพร้อมหน้าตาที่พร้อมจะงอแง
“คิดถึงจ-”
เพี้ยะ!!!
มยองซูไม่คิดเลยว่านี่คือสิ่งที่จะได้รับหลังจากที่ห่างจากคนรักตั้งสองปี
อีซองจงยังแรงเยอะเหมือนเดิม
“ง่า พี่ตบผมอ่ะ”
“นายควรโดนมากว่านี้อีกไอบ้า ไอเด็กเวร”
หมัดหนักทุบตามตัวคิมมยองซู จนคนตัวสูงยึกยักไปมา ฝ่ามือหนารีบดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดก่อนจะลูบศีรษะเบา ๆ และมันได้ผลเพราะซองจงหยุดทำร้ายเขาแล้ว
“พี่คิดถึงผมใช่ไหมล่ะ ผมได้ยินหมดนะที่พี่พูด”
“กับใคร..”
“กับพี่อูฮยอนไง”
นี่คิมมยองซูคิดแผนมาตั้งนานแล้วสินะ ส่วนไอเรื่องเลื่อนวันออกจากกรมก็คือเรื่องโกหก ให้ตายเหอะ เขาติดกับเด็กบ้านี่อีกแล้ว
“แหะ ฉันเปิดเสียงไว้ตอนคุยกับแกอ่ะ”
“นัม อู ฮยอน”
“โทษทีน้า แฟนนายสั่งนี่”
ดวงตากลมโตจ้องใบหน้าคมที่แสดงสีหน้าก่อกวนเช่นเดิม ถึงบ้านเมื่อไหร่เจ้านี่ต้องตายแน่ ๆ ตายคามืออีซองจงนี่แหละ
“คิดถึงจังเลย ตัวหอมเหมือนเดิมหรือเปล่าน้า”
ร่างสูงซุกใบหน้าลงกับต้นคอขาวก่อนจะได้รับสัมผัสหนัก ๆ จากอีซองจง ฝ่ามือสวยฟาดลงที่ศีรษะของคนรักอย่างแรง แรงจนอูฮยอนหลุดขำออกมาเลยล่ะ
“พี่!”
“ไอลามก คิดแต่เรื่องแบบนี้หรอ”
“อือ ยอมรับครับ”
“เกลียดจริง ๆ เลย”
“ชอบจริง ๆ เลย”
ให้ตายเหอะ..
เขาควรทำยังไงกับไอบ้ามยองซูนี่ดีล่ะ พอกลับมาก็น่ารำคาญเหมือนเดิมเลย..
11:54 PM
ของทุกอย่างถูกวางไว้บนโต๊ะ พอจะเข้าใจที่อูฮยอนลากเขาออกมาแล้วแหละ คงเป็นเพราะช่วงที่อีซองจงออกไปคิมมยองซูก็รีบกลับเข้ามา ชุดทหารที่ถูกพาดไว้บนโซฟาแบบนั้น คงรีบมากจริง ๆ สินะ
“ผมหล่อเหมือนเดิมไหมครับ”
“แก่ขึ้นอ่ะ”
“โหย พูดงี้”
ร่างสูงกอดเอวบางเหมือนที่เคยทำก่อนจะเอาคางเกยไหล่ไว้ มยองซูยังจำกลิ่นหอม ๆ ของซองจงได้เช่นเดิมและไม่ว่าจะนานแค่ไหนทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม
“นายโกหกฉัน ที่บอกว่าจะเลื่อน..”
“ผมอยากเซอร์ไพร์สต่างหากล่ะ มันดีมากเลยใช่ปะ”
“เลวมากเลยล่ะ”
“ใจร้ายอ่ะ”
พูดพลางฝังจมูกโด่งลงกับใบหน้าสวย สูดดมความหวานก่อนคนตัวเล็กจะหันเข้าหาเขา ฝ่ามือหนาลูบศีรษะของคนพี่อีกครั้งพร้อมกับคลี่ยิ้มออกมา
“สุขสันต์วันเกิดนะครับ อีกหนึ่งนาทีจะวันที่สี่แล้ว”
“ผมเป็นคนสุดท้ายที่ได้บอกกับพี่นะครับ ดีใจไหม”
“แต่พี่ซองยอลเป็นคนแรกเลยนะ”
“แต่ผมคนสุดท้าย ผมชนะ”
พูดจบริมฝีปากหยักก็กดจูบลงบนกลีบปากสวยทันที จุมพิตที่หายไปเป็นเวลาสองปีตอนนี้มันได้กลับมาอีกครั้ง และจะเป็นแบบนี้ตลอดไป
ฝ่ามือสวยโอบรั้งรอบคอคนตัวสูงกว่าพร้อมกับกดจูบย้ำ ๆ กับริมฝีปากหยักเข้ารูป บทจูบที่เนิ่นนานสมกับสิ่งที่อีซองจงได้รอ ร่างบางค่อย ๆ ละริมฝีปากออกก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาอย่างเขินอาย
“คิดถึงจัง”
“รู้แล้ว”
“พี่รู้ไหม ของขวัญวันเกิดของพี่คืออะไร”
“อะไร”
“ตัวผม”
ฝ่ามือสวยฟาดลงบนใบหน้าคมทันทีที่ได้ยินแบบนั้น คิมมยองซูก็ยังคงเป็นไอลามกคิดแต่เรื่องแบบนั้นเช่นเดิม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ซองจงเขินมากเช่นกัน
“ลามก”
“ชอบแน่ ๆ”
“นายคงไม่เก่งเหมือนแต่ก่อนแล้วแหละ”
“ดูถูกจัง ผมเก็บแรงไว้แล้วนะ”
“จริง ๆ เลย”
คิมมยองซูลามกมากจริง ๆ
แต่ยังไงก็ตาม
“ฉันจะคอยดู”
อีซองจงก็ยังชอบที่คิมมยองซูเป็นแบบนี้เช่นกัน
#Happy25thSungjongDay
______________________
สกรีม : #สตูดิโอแอลจง
ความคิดเห็น