คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : ϟ C H A P T E R 2 1 ϟ
ϟ 21 ϟ
-
เพราะเมาเมื่อสร่างเมาก็มักจะเกิดอาการแฮงค์ แล้วยิ่งผู้ชายคนนึงที่ไม่เคยแตะเครื่องดื่มมึนเมาแบบนั้น และมยองซูก็ต้องแหกขี้ตาตื่นพร้อมกับอาการมึนหัวและฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังคงค้างอยู่ด้วย
เคยได้ยินคำว่า...
เมาเหมือนหมาตาเหมือนบอดไหมครับ
ดวงตาคมที่ค่อย ๆ ปรือขึ้น เขาหันไปมองเพื่อนที่นอนหันไปอีกฝั่งก่อนกลิ่นเหล้าที่ยังคงอยู่จะตีขึ้นจมูกของมยองซูทันที เขาลุกออกจากเตียงก่อนจะเปิดไฟให้สว่างขึ้น เบนสายตาหน้าปัดนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
เพิ่งจะเก้าโมงครึ่ง แต่เขาต้องเตรียมตัวทุกอย่างเตรียมที่จะกลับโซลให้ถึงแค่สิบโมงครึ่งเท่านั้น มยองซูยกมือขึ้นตบท้ายทอยตัวเองอย่างแรงเพื่อเรียกสติกลับขึ้นมา แต่กลับทำให้เขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาแทนซะอย่างนั้น
การดื่มเหล้าครั้งแรกสอนให้เขารู้ว่า..
เหล้าไม่ได้ช่วยให้เขาลืมเรื่องเมื่อคืนได้เลย
“โฮวอนตื่นได้แล้ว”
มยองซูปลุกเพื่อนที่หลับปุ๋ยอยู่บนเตียงพร้อมกับเสียงแหบพร่า เขากระแอมเสียงของตัวเองก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเดินเข้าห้องน้ำช้า ๆ เหมือนกับคนไม่มีแรง
มยองซูใช้เวลาอาบน้ำเกือบยี่สิบนาทีจากแต่ก่อนปกติก็อาบแค่สิบนาทีเท่านั้น ทุก ๆ อย่างทำให้ตอนนี้เขาไม่อยากจะทำอะไรเลยแม้แต่น้อย ไม่อยากเดิน ไม่อยากลุก ไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น อยากนอนโง่ ๆ แล้วก็ให้ฤทธิ์แอลกอฮอล์หลุดออกไปจากหัวเสียที
คิดว่าขึ้นเครื่องคงหลับเป็นตายแน่ ๆ
มองเพื่อนที่ลุกออกจากเตียงพร้อมกับผ้าเช็ดตัวที่คล้องคออยู่ โฮวอนเดินเข้าห้องน้ำต่อจากมยองซูโดยที่ไม่พูด หรือทักมยองซูแม้แต่น้อย คงเป็นเพราะความง่วงจากการนอนไม่พอด้วยล่ะมั้ง
อยากจะอ้าปากหาวแต่มันกลับรู้สึกเจ็บปวดบริเวณมุมปากอย่างบอกไม่ถูก มยองซูเดินไปหน้ากระจกก่อนจะจ้องมองใบหน้าตัวเองที่เต็มไปด้วยรอยช้ำจากเรื่องเมื่อคืน ยกผ้าเช็ดผมที่เปียกอย่างไร้อารมณ์พร้อมกับยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองเบา ๆ
โทรมขั้นสุดจริง ๆ
เสียงของพนักงานที่ดังอยู่ด้านนอก ทั้งหมดคงเริ่มออกมาพักผ่อนหาอะไรกินก่อนจะเตรียมไปสนามบิน แต่มยองซูก็ยังเชื่อว่ายังมีคนไม่ตื่นอยู่ดี อยากจะทิ้งตัวลงนอนกับเตียงแล้วหลับ ๆ ไปอีกสักรอบ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้มยองซูสะดุ้งเล็กน้อยและหันไปมองทันที ร่างสูงที่ยังไม่ได้แม้แต่สวมเสื้อ ร่างกายที่มีเพียงกางเกงยีนส์ลากร่างพัง ๆ ของตัวเองไปเปิดประตูแง้มมองคนที่มาเคาะ ก่อนจะพบว่านั่นคืออูฮยอน
“ครับ?”
“ฉันมาดูเฉย ๆ ว่าตื่นหรือยัง เขาให้มาปลุกได้แล้วน่ะ.. เพื่อนนายตื่นแล้วใช่ไหม”
“ครับ”
“อ่า.. ฉันไม่กวนแล้ว”
ไม่มีการตอบกลับจากมยองซู เขาเพียงแสดงสีหน้าเรียบเฉยออกมาก่อนจะปิดประตูใส่หน้าไปทันที อย่างที่บอกว่ามยองซูไม่มีแรงจะทำอะไร และไม่มีอารมณ์ที่มานั่งคุยกับใครด้วย
เขาหยิบเสื้อแขนยาวสีดำมาสวมก่อนจะทับด้วยเสื้อแจ็คเก๊ตอีกตัว มยองซูยกกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาก่อนจะเริ่มเก็บเสื้อผ้าเก่า และสิ่งของส่วนตัวใส่กระเป๋า
“โฮวอนมึงเตรียมเสื้อผ้าไว้แล้วใช่ไหม” ตะโกนถามเพื่อนที่อยู่ในห้องน้ำก่อนจะส่งเสียงอือออกมาจากห้องน้ำทันที
“งั้นให้กูเก็บของให้มึงเลยไหม” ตะโกนถามไปอีกครั้ง และโฮวอนก็ส่งเสียงอือกลับมาอีกครั้ง
แค่นั้นมยองซูก็ทำหน้าที่ตามที่ได้ถามเพื่อนของเขาไปเมื่อกี้ ทุกอย่างเสร็จสรรพ เขามองไปรอบ ๆ ห้องสังเกตว่าได้ลืมสิ่งของอะไรไว้ในห้องหรือไม่ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ
ความเงียบเข้าครอบงำอีกครั้ง มีเพียงเสียงน้ำที่ดังอยู่ภายในห้องน้ำ ทุกอย่างทำให้มยองซูรู้สึกเศร้าอีกครั้ง พยายามที่จะไม่คิดแต่เรื่องนั้นมันแทรกเข้ามาในหัวตลอดเวลา ทั้งเหตุการณ์ตอนนั้นมันก็ยังวนเวียนในหัวของมยองซู ภาพทุกอย่างมันติดตาเขาจริง ๆ
อยากคุยกับพี่ซองจง
แต่คงไม่ใช่ตอนนี้แน่ ๆ มยองซูไม่อยากเอาความรู้สึกพัง ๆ ของตัวเองตอนนี้ไปโดนเหยียบอีก
และซองจงคงจะไม่คุยกับเขาดีแน่ ๆ คิดไปก็ปวดหัวไปมากกว่าเดิม มือหนายกขึ้นนวดขมับเบา ๆ ก่อนจะเลื่อนมือลูบใบหน้าของตัวเองอย่างเบื่อหน่าย “เชี้ยเอ๊ย..”
“มึง ๆ แอล”
เสียงเรียกของเพื่อนอีกคนทำให้มยองซูหันขวับ โฮวอนที่โผล่หน้าออกมาพร้อมกับแปรงสีฟันที่ยังคงคาอยู่ในปาก มยองซูเลิกคิ้วมองอย่างสงสัยก่อนโฮวอนจะพูดขึ้นมาต่อ
“หิวว่ะ ไปซื้อของกินมาทีดิ”
“มึงบ้าปะ จะกลับแล้วเนี่ย”
“โห่... อีกกี่ชั่วโมงไปซื้อไป แล้วยิ่งมึงดื่มเหล้าคอแห้งตายพอดี เรี่ยวแรงก็ไม่มีเดี๋ยวก็ตายคาเครื่องหรอก ไปซื้อ!”
“เออ ๆ”
มยองซูตอบปัด ๆ ก่อนจะหยิบกระเป๋าตังค์เดินออกจากบ้านไป ร่างสูงสูดรับบรรยากาศข้างนอก แต่เหมือนมันจะทำให้เขามึนหัวอีกแล้ว คงเป็นเพราะยังไม่สร่างเมานั่นแหละมั้งเขาถึงเป็นแบบนี้
ร่างสูงก้มหน้าเดินเงียบ ๆ โดยที่ไม่สนใจผู้คนที่เดินสวนไปมาทั้งนักท่องเที่ยว และพนักงานด้วย มยองซูเดินตรงเข้าร้านมินิมาร์ทก่อนจะเดินไปตรงโซนอาหาร กวาดสายตามองอาหารแช่เย็นที่อยู่ในตู้แช่แข็งก่อนจะถอนหายใจและเดินกลับไปหยิบเพียงแค่รามยอนสองถ้วยแค่นั้น
เหมือนกลิ่นเหล้ายังคงติดตัวของเขาอยู่ ร่างสูงที่ยืนต่อแถวรอชำระเงินหันซ้ายขวาพร้อมกับจมูกฟุดฟิด ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นคนที่ต่อแถวของเคาท์เตอร์อีกฝั่งเป็นคนรักของเขาที่กำลังมีปัญหากัน มยองซูนิ่งไปสักพักเมื่อเห็นเลขาอีซองจงมองเขาอยู่ ยืนข้าง ๆ กับนายแบบซองยอลคนนั้นไง
มยองซูรีบหันหน้ากลับมาที่เดิมก่อนจะวางรามยอนเพื่อชำระเงิน มือหยิบเงินออกมาก่อนจะหิ้วถุงรอและรับเงินทอน เขาเลือกที่จะก้มหน้าเดินต่อไป แน่นอนว่าเขาต้องเดินผ่านคนรักของเขาและยังต้องได้ยินเสียงบาดใจอีกด้วย
“กลับโซล นายไปทานข้าวกับพี่ไหม ฉลองน่ะ..”
“ครับ.. ถือว่าฉลองแล้วกัน”
อยากจะวิ่งออกไปจากตรงนี้จริง ๆ ซองจงก็ทำขนาดนี้เลยเหรอ เขาลืมไปแล้วหรือไงว่าคนรักของเขาชื่อ คิม มยองซู น่ะ ร่างสูงที่เดินกำหมัดแน่นก้าวขาออกมาอย่างเร็ว
มยองซูใช้เวลาแทบไม่ถึงสิบนาทีในการซื้อรามมยอน เขาวางถุงไว้ที่โต๊ะก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับใบหน้าที่แสนจะไร้ความหวัง ไม่มีรอยยิ้ม ใบหน้าเรียบเฉยแต่เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง ไม่ใช่แค่โฮวอนที่สังเกตได้ ให้หมามานั่งมองยังรู้เลยว่ามยองซูตอนนี้มีความเป็นศพ
“กิน ๆ นั่งเป็นศพอยู่ได้” โฮวอนเลือกที่จะกลบบรรยากาศหมอง ๆ แบบนี้ด้วยการทำเสียงดัง ๆ พร้อมกับหยิบถ้วยรามยอนทั้งสองไปใส่น้ำร้อน ไม่ใช่แค่มยองซูที่รู้สึกแบบนั้นแต่โฮวอนเพื่อนของเขาก็รู้สึกเศร้าตามเช่นกัน เขาไม่เคยเห็นเพื่อนของตัวเองในสภาพแบบนี้เลยจริง ๆ นะ
รามยอนร้อน ๆ ที่ถูกวางไว้ตรงหน้าของมยองซู มือหนาจับตะเกียบก่อนจะเขี่ย ๆ เส้นรามมยอนพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ เหมือนคนเบื่ออาหารไปแล้วในตอนนี้ มยองซูแทบไม่อยากทำอะไรเลยอยากจะกลับโซลแล้วก็ทิ้งร่างตัวเองไว้ในคอนโดเงียบ ๆ แค่นั้น
“กูรู้ว่ามึงกำลังแย่ แต่กินเข้าไปก่อนได้ไหม”
“...อือ”
“ไม่กินก็ตายนะเว้ย กินเข้าไปหน่อยเหอะ”
โฮวอนเป็นห่วงเพื่อนของเขามากจริง ๆ มยองซูคีบเส้นก่อนจะเป่าไล่ความร้อนนิด ๆ มยองซูนั่งกินรามยอนโดยที่ไม่พูดกับโฮวอนแม้แต่น้อย ทำไมคนคนนึงถึงทำให้มยองซูคนพูดมากกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแต่เมื่อทุกอย่างถึงเวลา ทั้งหมดก็ต้องออกจากบ้านพักและคืกุญแจให้กับเจ้าหน้าที่ ทั้งหมดรวมตัวกันที่เดิมเหมือนตั้งแต่ที่มา แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ..
“งั้น... ถ้าเราจะไปด้วยกันนายต้องไปเก็บของที่คอนโดไหม พี่จะได้ไปด้วย”
ร่างสูงโปร่งที่ยืนตัวติดกับซองจง ซองยอลทำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ซองจงทำแผลให้แล้ว และซองจงก็ไม่ได้ขัดกับการกระทำแบบนี้แม้แต่น้อย ทำไมคนเราเมื่อมีความรักถึงต้องทำอะไรประชดอีกฝ่ายด้วย
"ก็ได้ครับ แต่รอแค่ด้านล่างก็พอ"
ซองจงตอบพร้อมกับระบายยิ้มออกมานิด ๆ เขากวาดสายตามองรอบ ๆ เพื่อมองว่าพนักงานทุกคนมาครบแล้ว แต่สายตาของซองจงกลับสะดุดกับหนุ่มตากล้องที่ยืนนิ่งแข็งเหมือนหุ่นขี้ผึ้ง ชุดที่ดำทั้งตัวและหมวกสีดำที่สวมปิดบังใบหน้าเศร้าหมองและรอยช้ำบนใบหน้า
มยองซูยืนก้มหน้าและนิ่งแบบนี้มาตั้งแต่เที่ยงแล้ว นั่นแปลว่ามยองซูและโฮวอนมาตรงเวลาและยืนแบบนั้นมาเกือบครึ่งชั่วโมง ซองจงไม่สามารถเห็นคนรักของเขาว่ากำลังรู้สึกอย่างไรได้เลย ไม่รู้ว่าตอนนี้เขายิ้ม หัวเราะ หรือกำลังโศกเศร้าเพราะแค่หมวกใบเดียวที่ถูกกดลงต่ำปิดบังใบหน้าแค่นั้น
คงต่างจากโฮวอนที่ยืนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่อย่างนั้น ก่อนรถตู้หกเจ็ดคันจะจอดเรียงกัน พนักงานทั้งหมดทยอยกันเดินขึ้นรถแต่ซองยอลกลับถูกผลักไปนั่งรถอีกคันที่โคดี้เตรียมไว้พร้อมกับจียอน
แค่สิ่งที่น่าอึดอัดที่สุด ซองจงกับมยองซูต้องมานั่งรถตู้คันเดียวกัน ร่างบางที่เดินเข้าไปนั่งรถตู้ตามด้วยอูฮยอน ก่อนจะตามด้วยโฮวอนตาที่สามของมยองซูเขากวาดสายมองในตัวรถ ก่อนจะลังเลหันไปมองเพื่อนอีกคนที่ยืนต้อจากหลังเขา
"เราต้องนั่งข้างหลังพี่ซองจงว่ะ.." โฮวอนพูดเสียงเบา ก่อนมยองซูจะส่งเสียงอือในลำคอออกมาเท่านั้น
โฮวอนถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งเบาะหลังสุดต่อจากซองจงและอูฮยอน ร่างสูงค่อย ๆ ก้าวขาขึ้นรถตู้เข้าไปมยองซูค่อย ๆ เขยิบร่างเข้าไปนั่งข้าง ๆ เพื่อนของเขา แต่ทำไมหางตาเขาถึงเห็นคุณเลขาจ้องมองเขาอยู่ล่ะ
เขาควรดีใจใช่ไหมล่ะอย่างน้อยคนรักยังคงสนใจเขาอยู่
แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกเสียใจแบบนี้นะ
"ไหวไหมเนี่ย"
"อือ"
"ไรหนวดมึงเขียวมากเลยเนี่ย โทรมจนเห็นหนวดแล้วนะ"
โฮวอนตั้งใจที่จะพูดเรียกร้องความสนใจคุณเลขาที่นั่งอยู่ข้างหน้าโดยการพูดเป็นห่วงเป็นใยและสุขภาพร่างกายของมยองซู "ปากซีดเชียว.."
"อือ" มือหนายกขึ้นกดหมวกให้ต่ำลงมากกว่าเดิมเพื่อปิดบังใบหน้าของตัวเอง มยองซูเลือกที่จะไม่ตอบโต้หรือพูดอะไรออกมา ตอนนี้เขาต้องการพักผ่อนมากที่สุดแล้วจริง ๆ
"มึง ๆ เนี่ย-"
"โฮวอนช่วยเงียบหน่อยสิ ฉันจะพักผ่อน"
เสียงใสแทรกขึ้นพร้อมกับหันใบหน้ามามองนิ่ง ๆ ซองจงตั้งใจจะหันไปมองเด็กที่ดื้อที่สุดว่าเป็นยังไง แต่ไอหมวกใบนั้นมันกลับขัดใจซองจงไปซะหมด ร่างบางถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันหน้ากลับมาที่เดิม
ที่ซองจงรำคาญไม่ใช่ความรำคาญอย่างจริงจัง แต่ซองจงไม่อยากได้ยินเรื่องของมยองซู เพราะทุกครั้งที่ได้ยินเสียงของเขา เรื่องราวของเขา ร่างกายของเขา ซองจงเกือบจะใจอ่อนทุกครั้ง ซองจงแทบอยากจะโผเข้ากอดทุกครั้งที่เห็น
แต่ซองจงต้องทำให้เด็กนี่รู้ซะบ้างว่าซองจงไม่ได้ใจดีแบบที่คิด
แต่ทำไมเขารู้สึกว่าตัวเองงี่เง่าล่ะ..
รถเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปสนามบินทันที เสียงเงียบสงัดในรถตู้ไม่มีเสียงคนพูด หรือเสียงใด ๆ นอกจากเสียงถอนหายใจที่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้ว่านานแค่ไหนกว่าจะถึงที่หมาย แต่ทำไมมยองซูถึงรู้สึกว่ามันผ่านไปแค่ห้านาที แค่หลับไปตื่นขึ้นก็ถึงแล้ว
"แอล"
รถที่เริ่มจอดกันเรียงกัน ทุกคนในรถเริ่มเตรียมตัวที่จะลงจากรถยกเว้นแต่มยองซูที่ยังคงนั่งกอดอกนิ่ง ไม่ขยับร่างกายหรือส่งเสียงใด ๆ ออกมาเลย
"แอล แอล"
โฮวอนเริ่มส่งเสียงดังมากขึ้นแต่มยองซูกลับไม่แสดงกิริยาโต้ตอบออกมาเลย โฮวอนเรียกชื่อของเขาเกือบสิบรอบ เรียกจนทำให้อูฮยอนต้องหันมามองอย่างแปลกใจ
"มีอะไรหรือเปล่าโฮวอน"
"เปล่าครับ.. แอล!"
โฮวอนยกมือขึ้นดึงหมวกสีดำออกทันทีก่อนคนที่หลับอยู่จะคอตกลงเหมือนคนที่ไม่รู้สึกตัวไปแล้ว อูฮยอนเบิกตากว้างเล็กน้อยพร้อมกับค่อย ๆ หันไปมองเพื่อนที่อีกคน แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่า สีหน้าซองจงที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน คิ้วสวยขมวดเข้าหันกันเป็นปม
ใบหน้าหล่อที่เคยสดใสตอนนี้กลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ริมฝีปากหยักที่ซีดอย่างชัดเจน รอยช้ำบนใบหน้า ไรหนวดที่มองเห็นได้ชัด มันทำให้ซองจงตกใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
"แอล!!!"
โฮวอนตะโกนลั่นก่อนคนที่ยังหลับอยู่จะสะดุ้งตื่นทันที ใบหน้าคมที่มองสลับซ้ายขวาไปมา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นอะไร
"ถึงแล้วเหรอ.. ทำไมฉันรู้สึกว่าตัวเองหลับไปแปปเดียว.."
เสียงแหบพร่าดังขึ้น ยกมือขึ้นลูบขมับเบา ๆ ก่อนจะกวาดสายตามองคนที่จดจ้องมาทางเขารวมถึงคุณเลขาอีซองจงด้วย มยองซูรีบแย่งหมวกออกจากมือของโฮวอนพร้อมกับสวมลงศีรษะเช่นเดิม
"ขอโทษนะครับ" มยองซูเอ่ยปากก่อนจะพยายามยันตัวเองออกจากรถตู้ที่แสนแคบ คนขับรถที่เดินลากกระเป๋าของคนบนรถตู้ออกมาวางเรียงกัน ดวงตาคมไล่มองก่อนจะลากกระเป๋าสีขาวออกมาพร้อมกับเสียงตะโกนเรียกจากเพื่อนของเขาอีกครั้ง
"แอล!"
"นายเอากระเป๋าใครไป!"
ได้ยินเพื่อนทักมยองซูก็ก้มมองกระเป๋าที่อยู่ข้าง ๆ ตัวทันที มยองซูต้องเบลอไปแล้วแน่ ๆ เขาลากระเป๋าของคนอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเองและที่สำคัญกระเป๋าที่เขาลากมามันคือกระเป๋าของซองจงนั่นแหละ
"ขอโทษครับ" มยองซูโค้งตัวอีกครั้งเมื่อเห็นสายตาของคนรักของเขาจ้องมองแบบนั้น ท่าทางแปลกไปของมยองซูมันยิ่งทำให้ซองจงเป็นห่วงเขายิ่งขึ้น ก่อนมือหนาจะลากกระเป๋าที่เป็นของตัวเองเดินนำไปอย่างเร็ว
ใช้เวลาไม่นานนักทุกคนก็ขึ้นมาอยู่ในตัวเครื่องบิน เสียงพูดคุยที่ดังขึ้นมีเพียงมยองซูที่ต่างออกไปจากตอนแรกที่มา ร่างสูงที่ยังคงพิงเบาะและหลุดเข้าไปอยู่ในภวังค์ ส่วนโฮวอนที่นั่งข้าง ๆ ก็เริ่มรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนของเขาอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน
"ซองจง ฉันว่าแอลหนักขึ้นแล้วนะ แน่ใจเหรอว่าจะไปฉลองกับคุณซองยอล"
อูฮยอนกระซิบข้างหูซองจงก่อนร่างบางจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ ซองจงพยักหน้าตอบกลับโดยที่ไม่ต้องคิดคำตอบหรือลังเลแม้แต่น้อย นิสัยใจร้ายของซองจงเมื่อมันกำเริบขึ้นมันดูกลายเป็นคนไม่สนใจใยดีใครเลยจริง ๆ
"ใจร้ายจริง ๆ เลย"
"เงียบไปเลย"
ซองจงเลือกที่จะไม่ฟังเพื่อนของเขา และพิงเบาะหลับตาใส่ทันที ไม่ใช่แค่มยองซูที่มักจะทำตัวเป็นเด็กหรอก แต่ซองจงก็ทำตัวเป็นเด็กไม่แพ้กัน แถมยังเด็กกว่าคนรักของเขาเสียด้วยซ้ำ
ใช้เวลาถึงกี่ชั่วโมงพวกเขาก็ถึงโซลอย่างปลอดภัย แต่มยองซูกลับตื่นขึ้นทาทันทีโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาปลุก ใช้เวลาสักพักที่ออกจากเครื่องบินและออกจากสนามบิน มยองซูรู้ว่าซองจงคงจะต้องไปกับซองยอลตามที่เขาทั้งสองคนได้ตกลงกันไว้ แล้วยังไงล่ะ
เป็นแค่แฟนมีสิทธิ์อะไร..
"กลับยังไง"
"ยังไม่กลับหรอก.."
"มึงจะไปไหน"
♡
05:45 PM
ภัตตาคารหรูที่ซองยอลเลือกที่จะมาฉลองพร้อมกับซองจง และสิ่งที่เปลี่ยนไปคือซองจงเอาเพื่อนสนิทอย่างอูฮยอนมาร่วมด้วย แต่ยังไงล่ะซองยอลจะขัดใจซองจงได้ยังไง
"ซองจงอยากทานอะไร สั่งเลย"
เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ซองจงพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนจะยื่นเมนูไปให้เพื่อนอีกคนที่นั่งเด๋อด๋าอยู่ "ผมไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ครับ..
ซองจงรู้สึกหิวมาตั้งแต่ขึ้นเครื่องแล้ว แต่พอมานั่งอยู่ร้านอาหารทุกอย่างกลับตรงกันข้าม เรื่องของมยองซูเด้งขึ้นหัวซองจงอีกครั้ง รู้สึกวูบวาบและเป็นห่วงแปลก ๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้มยองซูจะเป็นยังไงบ้าง
'กลับโซลไปเราไปหาอะไรทานไหมครับ หรือไม่ก็สั่งไก่ไปนั่งทานด้วยกันในห้องพี่ หรือห้องผมดี..'
'ดูหนังด้วยไหมครับ แต่ไม่เอาหนังผีนะ เสียบรรยากาศหมด'
'กลับโซลพี่ห้ามห่างจากตัวผมนะครับ.. เรามีเวลาพักผ่อนหนึ่งอาทิตย์อยู่ด้วยกันให้คุ้มเลยนะ!'
ทุกคำพูดของมยองซูแล่นอยู่ในหัวของซองจงตลอดเวลา และมันกระตุ้นให้ซองจงรู้สึกอยากจะกลับคอนโดซะเดี๋ยวนี้ อูฮยอนวางเมนูไว้บนโต๊ะก่อนจะระบายยิ้มแห้ง ๆ ออกมา
"ผมก็.. ไม่หิวครับ"
การฉลองครั้งนี้ของซองยอลคงจะล้มเหลวอีกแล้ว ร่างสูงหัวเราะแห้ง ๆ ออกมาพร้อมกับพยักหน้ารับเบา ๆ ซองยอลพอจะเข้าใจแล้วว่าคงจะได้กลับไปนั่งทานข้าวคนเดียวที่บ้านเหมือนเดิมอยู่ดี
"งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ"
"...ขอโทษนะครับ"
เสียงใสเอ่ยออกมาพร้อมกับคลี่ยิ้มหวาน ร่างบางลุกออกจากเก้าอี้พร้อมกับอูฮยอนก่อนจะโค้งตัวลงเล็กน้อยและเดินออกจากภัตตาคาร
เสียงถอนหายใจดังขึ้นทันทีที่ออกมาจากภัตรคารหรู อูฮยอนเงยมองเพื่อนที่สูงกว่าก่อนจะใช้ศอกกระแทกลงต้นแขนของคนที่กำลังเหม่อลอย
"เป็นอะไร"
"อะ.. เปล่า ๆ นายว่างไหม"
"...อือฮึ"
"ไปอยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อย แค่นั่งซื้อไก่ทอดไปนั่งกินด้วยกัน แล้วก็ดูหนังด้วยกัน พรุ่งนี้นายค่อยกลับได้ไหม"
พูดด้วยเสียงเอื่อย ๆ พร้อมกับดวงตาที่เหม่อลอย เมื่อเวลาล่วงเลยไปมันกลับทำให้ความเศร้าเข้ามาแทนที่ทุกความรู้สึกที่ซองจงมีอยู่ "นายนี่จริง ๆ เลยอีซองจง"
ทั้งซองจงและอูฮยอนใช้เวลากลับคอนโดเกือบ ๆ หนึ่งชั่วโมงพร้อมกับอาหารที่เต็มไม้เต็มมือและสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ โซจู ร่างบางเปิดประตูห้องพร้อมกับเปิดไฟ กวาดสายตามองรอบ ๆ ห้อง
ห้องที่ไม่ได้อยู่มาสามวันแต่ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ร่างบางวางของทุกอย่างลงบนโต๊ะก่อนเพื่อนอีกคนจะเดินตามเข้ามา ยิ่งนานเท่าไหร่ซองจงยิ่งรู้สึกแปลก ๆ ไป
"ไหนว่าไม่หิวไง" อูฮยอนพูดพร้อมกับยกจานออกมาวางไว้บนโต๊ะ
"ก็.. ตอนอยู่ในนั้นฉันไม่หิวพอออกมาก็หิวเลย.."
"เหมือนกันแฮะ.. เอาไก่ออกมาสิ"
ซองจงทำตามอย่างที่เพื่อนบอก ท่าทางที่เอื่อยเฉื่อยเชื่องช้ายิ่งทำให้อูฮยอนรู้สึกแปลก ๆ ซองจงเริ่มดูต่างจากเมื่อตอนเช้ามากกว่าเดิน และมันดันแย่ขึ้นเรื่อย ๆ เสียด้วย
อูฮยอนฟันธงเลยคนที่ไม่เคยมีแฟนแบบซองจง เมื่อเวลานี้เขามีความรักและมันกำลังทำให้เขาเสียใจ มันต้องแย่มากแน่ ๆ
แย่จริง ๆ
"นัมมม.. อู.. ฮยอน.."
"อู.."
ร่างบางที่นั่งก้มลงเอาใบหน้าแนบกับโต๊ะพร้อมกับโซจูที่เกลื่อนทั่วโต๊ะ ไม่ใช่แค่มยองซูที่เอาทุกอย่างไปลงที่เหล้าเบียร์ แต่ซองจงก็ทำแบบนั้นเช่นกัน กลิ่นของแอลกอฮอล์ที่ฟุ้งทั่วห้องแทบจะทำให้อูฮยอนปวดหัวเลยล่ะ
"ซองจงพอได้แล้ว!" พูดพร้อมยกมือขึ้นฟาดแขนเล็กเบา ๆ พร้อมกับเก็บขวดโซจูใส่ถุงไว้ ยังคงเหลือขวดที่ยังไม่ได้เปิดและอูฮยอนก็ตัดสินใจที่จะเก็บมันใส่ตู้เย็น
"ฉันคิดถึงคิมมยองซู.."
"มยองซู.. ฉัน.. คิด.. ถึง.. นาย"
อูฮยอนเชื่อว่าคนเราเวลาเมามักจะพูดความจริงออกมาเสมอ เช่นเดียวกับซองจงที่ปากแข็งมาตั้งแต่ตอนเช้า ตอนนี้น้ำเมาได้เปิดโปงความรู้สึกที่แท้จริงของเขาแล้ว
"ฉันไม่ชอบยัยจิ้งจอกนั่นนน!"
"ทำไมชอบมายุ่งกับแฟนฉัน.. อูฮยอนนายดูววว!!"
คนเมาที่นั่งอยู่กระทืบเท้าพร้อมกับชี้ไปทางใดทางหนึ่งที่มันไม่มีอะไรเลย คิดว่าตอนนี้ฤทธิ์แอลกอฮอล์คงสร้างภาพหลอนให้ซองจงไปแล้วแน่ ๆ อูฮยอนรีบพยุงเพื่อนของตัวเองพลางส่ายหน้าเบา ๆ
ร่างบางถูกลากไปนอนอยู่บนโซฟาตัวนุ่มพร้อมกับผ้าห่มที่เพื่อนตัวเล็กหอบออกมาจากห้องนอนของเจ้าของห้อง ผ้าห่มหนาถูกคลุมไว้ระหว่างอก อูฮยอนหันไปมองหน้าปัดนาฬิกาที่ถูกแขวนไว้ก่อนจะถอนหายใจออกมา
"แปปเดียวสามทุ่มแล้วเหรอ.."
ส่ายหน้าอีกครั้งพร้อมกับเดินไปปิดไฟในห้องทั้งหมด เขาล้มตัวลงนอนโซฟาอีกฝั่งอูฮยอนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมทั้งตัว ใช้เวลาไม่นานเขาก็วูบหลับไปภายในไม่กี่นาที และหลับลึกขนาดที่ปล่อยให้เลขาหรือลูกชายของประธาน Bravo Magazine หายไป
[พ่อครับ..] 10:30 PM
[ผมกับมยอง..]
[ซู] 10:32 PM
[เราสองคนคบกันครับ..]
[ผมรัก.. มยองซู] 10:35 PM
Read..
ยังยืนยันว่า..
คนเมาจะทำทุกอย่างที่ตัวเองอยากทำ..
♡
"อื้อ.."
ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงนุ่มขนาดใหญ่ เขาถูกปลุกด้วยเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นซ้ำ ๆ และมันสร้างความรำคาญให้กับอีซองจง ซองจงลืมตาขึ้นก่อนจะค่อย ๆ หรี่ตารับแสดงสว่างพร้อมกับยกมือขึ้นจับวัตถุสี่เหลี่ยมขึ้นมาดู
และมันทำให้ซองจงตาสว่างเลยล่ะ..
[รับสายพ่อหน่อย..] 09:01 AM
เชี้ย!!!
สบถออกมาดังลั่นทั่วห้องเมื่อเห็นสิ่งที่ตัวเองได้ส่งไปให้พ่อของเขาเมื่อคืน และซองจงส่งไปโดยไม่ได้สติ มือไม้สั่นเหมือนเจ้าเข้า เบอร์ของผู้เป็นพ่อที่เด้งขึ้นมาจนซองจงตกใจ
"ใจเย็น.. อีซองจง.."
สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนนิ้วเรียวสั่น ๆ จะกดรับสายและยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบกับหู เสียงทางฝั่งนั้นเงียบ ไม่มีใครพูดออกมารวมถึงซองจงที่พูดไม่ออกเช่นกัน..
"พ่อครับคือ.."
[ที่เรามาปรึกษาพ่อบ่อย ๆ เพราะคนนี้เหรอหืม]
เป็นคำถามที่ซองจงตกใจอยู่ไม่น้อย มันไม่ใช่คำดุ หรือคำด่า แต่คำถามที่ถามมาก็น่ากลัวแปลก ๆ เช่นกัน ซองจงทำเสียงอื้ออึงในลำคอก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ
"..ครับ พ่อครับผม-"
[พ่อดีใจนะ]
"อะไรนะครับ.."
[พ่อขอทำงานก่อนนะ ไว้คุยกัน]
สายถูกตัดไปแต่คำพูดของพ่อนั้นทำให้ซองจงแปลกใจแบบสุด ๆ ร่างบางถอนหายใจออกมาก่อนจะกวาดสายตามองความผิดปกติของห้องนอนห้องนี้ ทำไมเขารู้สึกแปลก ๆ ถึงห้องนี้ และคุ้นตากับห้องนี้เหลือเกิน..
ชิบหาย!!!
ให้ตายเถอะ อีซองจงต้องเมาขนาดไหนถึงจะลากตัวเองมานอนห้องของคนอื่นแบบนี้ ซองจงเด้งตัวออกจากเตียงก่อนจะรีบจัดเตียงให้อยู่สภาพเดิม มือสวยยกขึ้นลูบหน้าตัวเองก่อนจะก้าวขาออกจากห้องนอนนั้น
แต่เหมือนถูกไฟช็อตเมื่อซองจงออกมาจากห้อง เหตุการณ์ทุกอย่างกลับเด้งเข้าหัวซองจงทันที เหมือนมองเห็นตัวเองตั้งแต่หน้าห้อง และเรื่อย ๆ จนมาจบที่เตียง ร่างบางนิ่งไปสักพักก่อนจะจ้องมองหน้าประตู เหตุการณ์เมื่อคืนกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง..
…
"คิม! มยอง! ซู!"
ร่างบางยกมือขึ้นทุบประตูอย่างแรง เพื่อเรียกให้คนที่อยู่ในห้องเปิดประตูให้กับเขา แต่เคาะเท่าไหร่ก็ไม่มีใครเปิดให้คนขี้เมาอย่างอีซองจง ทุกอย่างตอนนี้สร้างความขัดใจให้ซองจงไปหมดจนคนที่ยืนเซไปมาจะนิ่งหน้าและขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
"งื้อ.. ถ้านายไม่เปิด! พี่จะเข้าไปแล้วนะ!"
พูดจบก็ยกมือขึ้นกดรหัสผ่าน กดซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ มันก็แจ้งว่ารหัสผิด ซองจงกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจก่อนจะปรือตามองและกดรหัสผ่านอีกครั้ง ใช้เวลาเกือบสิบนาทีตอนนี้รหัสผ่านก็ถูกต้องเรียบร้อย
เปิดประตูพร้อมกับพุ่งตัวเข้าห้องทันที ไฟถูกเปิดขึ้นจนสว่าง ไม่มีการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต ในห้องที่เงียบสงัดแต่ซองจงกลับเดินเซไปมามองหาเจ้าของห้องที่หายไป
"คิมมยองซูววว!!"
"เด็กบ้านายอยู่หนายยยย!!"
ร่างบางเดินทั่วบ้าน หาทุกซอกทุกทุมเหมือนมยองซูเป็นสิ่งของไปแล้ว ซองจงเดินไปเปิดประตูห้องน้ำแล้วก็ตะโกนเรียกชื่อของคนรัก ให้ตายเถอะทำไมคนเมาถึงเละเทะขนาดนี้
"มยองซู.. คิมมยองซู.."
ภาพทุกอย่างยังคงแล่นในหัวซองจง ก่อนร่างบางจะยกมือขึ้นกุมขมับด้วยอาการปวดหัวและช็อคกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป แต่ยังไงก็แล้วแต่ซองจงกลับกวาดสายตามองรอบ ๆ ห้องด้วยความแปลกใจ
"นี่ยังไม่กลับมาเหรอ.."
นึกห่วงคนรักของตัวเอง ซองจงส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า ซองจงรีบก้าวขาออกจากห้องที่ไร้ตัวตนของเข้าของห้อง เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะหันไปมองห้องของมยองซู
"เหอะ.. ไปอยู่กับจียอนหรือไง ไม่กลับบ้านน่ะ"
พูดประชดแม้เจ้าตัวจะไม่ได้อยู่ฟัง ซองจงเดินกระทืบเท้ากลับเข้าห้องตัวองโดยลืมไปแล้วว่ายังคงมีเพื่อนนอนอยู่ในห้องของเขา คนเมานี่มันทำทุกอย่างจริง ๆ แต่ตอนนี้ซองจงปวดหัวอีกแล้วล่ะ
นายหายไปไหนของนายเนี่ย..
ϟ
talk : แชป 21 มาแล้วเย่ๆ อะนี่ แชปนี้ไม่แฮปปี้หรอกแบร่ๆ แล้วทำไมคุณซองจงถึงมานอนห้องคนอื่นอ่ะ โคตรขี้เมาเลย 5555555555555 ขอบคุณที่ติดตามนะครับแชป 22 จะปล่อยมาเร็วๆนี้ แฮร่
สกรีม : #สตูดิโอแอลจง
ความคิดเห็น