คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ϟ C H A P T E R 2 0 ϟ
ϟ
20 ϟ
-
“เฮ้ยตื่น”
เสียงทุ้มตะโกนเรียกเพื่อนร่างหนาที่นอนคว่ำราบกับผืนเตียง ผ้าขนหนูสีน้ำตาลเข้มฟาดลงที่หน้าท้องของคนที่นอนอยู่อย่างแรงจนสะดุ้งตื่น มยองซูมองโฮวอนด้วยสีหน้าเอือม ๆ พร้อมกับจับแปรงสีฟันเข้าปากทันที
“นอนกินบ้านกินเมือง”
พูดพลางแปรงฟันเบา ๆ การที่มีเพื่อนแบบโฮวอนทำให้มยองซูอยากจะทำอะไรก็ได้ เช่นกับการที่เขาแปรงฟันให้เพื่อนดูแถมยังมายืนไม่ใส่เสื้อโชว์หน้าท้องให้เพื่อนตัวเองดูอีก
“ตื่นนานแล้วหรอวะ..”
“…สักพัก”
“อ่อ.. เมื่อคืนตื่นมาฉันไม่เจอใครเลย”
!!!
“...ฝันหรือเปล่า ฉันนอนกับนายทั้งคืนอ่ะ”
“พูดจาอีโรติกชิบหาย..”
“แหม.. คนมันเคย ๆ นะโฮวอน” พูดพร้อมส่งสายตาแกล้งเพื่อนของตัวเอง ถ้าใครมาเป็นโฮวอนตอนนี้ต้องขนลุกขนพองให้กับการกระทำของเพื่อนตัวเองแน่ ๆ ผู้ชายทั้งแท่ต้องมาเจอแบบนี้น่ะหรอ
ทั้งแท่ง??????????????
ซองกยู???????????
“โห.. ไอทุเรศ!”
ถึงกับต้องโยนหมอนใส่เพื่อนที่ยืนพ่นฟองที่อยู่ข้างหน้าของตัวเอง โฮวอนรีบลุกขึ้นและวิ่งไปหน้าห้องน้ำทันที เสียงหัวเราะปนกับเสียงของโฮวอนที่ตะโกนด่าออกมาไม่ได้ทำให้มยองซูรู้สึกเจ็บหรือหยุดการกระทำทุเรศ ๆ เหมือนเด็กแบบนั้นเลย
“อย่าเพิ่งเข้า! ขอล้างปากก่อน”
“อมฟองไปแบบนั้นแหละไอเวร!” พูดจบโฮวอนที่พุ่งตัวเข้าห้องน้ำทันที และเสียงโครมครามก็ดังขึ้นเมื่อมยองซูถลาตัวเข้าไปตาม เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นในห้องพักเล็ก ๆ ความจริงแล้ววัยของพวกเขามันไม่ควรที่จะมาทำอะไรแบบนี้เลยนะ
จริงๆ...
09:30 PM
ถ้าไม่ติดว่านี่มันเริ่มหน้าหนาวที่เกาะเชจูนี่โคตรจะสวยและสบายเลยล่ะ เพียงแต่ว่า..
ไอลมที่มันโต้เข้าหน้ามันหนาวไงฟะ!
“ยอดรักของนายมาแล้วนั่นไง”
นิ้วสั้น ๆ ชี้ไปที่ชายหนุ่มร่างบางที่กำลังเดินตรงมายังสถานที่ทำงาน เขามาพร้อมกับชายหนุ่มอีกคนที่ตัวเล็กกว่าเขานิดนึง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นหลักก็คือเช้านี้คุณเลขาซองจงใส่เสื้อคอเต่าสีขาวมาล่ะ นั่นน่ะเสื้อที่มยองซูซื้อให้เลยนะ
“อ่า... ใส่ไว้ปิดรอยเมื่อคืนสินะ”
“นายว่าอะไรนะ!”
“…ห๊ะ! เปล่า! หมายถึงว่าเสื้อสวย”
พูดติด ๆ ขัด ๆ พร้อมกับยกนิ้วโป้งขึ้นมาทำท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ตาคมจดจ้องไปที่ร่างบางที่หยุดยืนมองรอบ ๆ พร้อมกับพูดคุยกับเพื่อนของเขา ฝ่ามือบางที่ถือเอกสารบางอย่างยกขึ้นบังแสงแดดที่สาดส่องลงมาพร้อมกับดวงตาคู่สวยที่เหลือบมองหนุ่มตากล้องเช่นกัน
“พี่ซองจงเขาเรียกแล้วลุกสิ”
ทันทีที่เห็นฝ่ามือบางยกขึ้นเรียกให้มยองซูกับโฮวอนเดินไปหา มยองซูก็รีบลุกขึ้นทันทีและบอกเพื่อนโดยที่ไม่มองหน้ากันเลยสักนิด ขายาวรีบก้าวไปหาคุณเลขาหน้าสวยที่ยืนอมยิ้มพร้อมกับคุยกับเพื่อนของเขา
แต่เหมือนจะเจอศัตรูหัวใจอีกแล้วล่ะมั้ง..
เจอแบบคูณสองเลยล่ะ..
“แม่งเอ๊ย..”
ถอนหายใจก่อนจะหันไปมองหนุ่มนายแบบและยัยนางแบบจิ้งจอกที่ส่งสายตามาให้มยองซู ไม่ได้นึกพิศวาสอะไรหรอกน่า ไม่เห็นต้องมองแบบนั้นเลย
“นี่คุณจียอน แล้วก็คุณซองยอล” เสียงใสเอ่ยขึ้นพร้อมกับผายมือไปที่ชายหนุ่มและหญิงสาวที่ยืนยิ้มให้ ชายหนุ่มตัวเล็กยกมือขึ้นจับกับมือของซองยอลและจียอนเป็นการทักทายก่อนเสียงหัวจะดังขึ้น
“ส่วนนี่... แอลคิม แล้วก็โฮวอน”
ทันทีที่จบประโยคพนักงานทั้งสองก็รีบโค้งตัวอย่างเป็นมารยาท ฝ่ามือของคนตัวเล็กยื่นออกมาก่อนมือของมยองซูจะยื่นเข้าไปจับตามด้วยโฮวอน
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
“เช่นกันครับ” มยองซูคลี่ยิ้มออกมาดวงตาคมเหลือบมองคุณเลขาที่ยืนกอดอกมองเขาอยู่ ท่าทางที่เหมือนจะไม่มีอะไร แต่สายตาของมยองซูกลับทำให้ซองจงอยากจะทุบตีเด็กผู้ชายคนนี้แรง ๆ
เกลียดสายตาแบบนั้นจริง ๆ
“คุณซองจงบอกว่า คุณถ่ายรูปได้สวยมาก ผมดูจากผลงานของคุณแล้วดีมาก ๆ ครับ” เสียงนุ่มกล่าวคำชมให้ร่างสูงก่อนมยองซูจะระบายยิ้มเขินออกมาพร้อมกับโค้งตัวลงอีกครั้ง แต่เหมือนมันจะไปขัดใจคุณนายแบบอีกเสียแล้ว
“คิดแบบนั้นเหรอครับ ผมคิดว่าฝีมือของเขาธรรมดามาก ๆ เลย”
คำพูดที่มยองซูแสนจะเกลียด ผู้ชายคนเดิมได้พูดออกมาอีกแล้ว ดวงตาคมปรายตามองคนที่ยืนอยู่พร้อมกับท่าทางที่ไม่พอใจนัก
แต่สายตาของคุณเลขาซองจงก็ข่มนายแบบซองยอลได้อีกครั้ง
“ฮ่า ๆ ฉันล้อเล่นน่า เขาถ่ายรูปเก่งสุด ๆ เลยครับ ใช่ไหม”
แขนของซองยอลยกขึ้นกอดไหล่ของคนที่ตัวเตี้ยกว่าอย่างมยองซูก่อนเสียงหัวเราะของอูฮยอนจะดังขึ้น เสียงหยอกล้อของอูฮยอนที่ทำให้มยองซูรู้สึกแหยง ๆ
อูฮยอนคงไม่รู้ว่าเขาสองคนเหม็นกันมากแทบตายเลยล่ะ
“คุณก็เป็นนายแบบที่ห่วยสุด ๆ เลยครับ” พูดพร้อมกับหัวเราะออกมา มยองซูปัดแขนของอีกฝ่ายออกและแสดงสีหน้าเอือม ๆ ออกมา ฝ่ามือหนาล้วงเข้ากระเป๋ากางเกง และท่าทางการกระทำของมยองซูทำใส่ซองยอลมันเหมือนกับตบหน้ากันอย่างแรงเลยล่ะ
มีเพียงเสียงหัวเราะแห้ง ๆ ของอูฮยอนที่กลบบรรยากาศทุกอย่าง เขาพลางเหลือบตามองซองจงที่ยืนอยู่น่าทางเดิมและจ้องมองพฤติกรรมแย่ ๆ ของผู้ชายไม่รู้จักโตทั้งสองคนก่อนจะสบตากับเพื่อนของตัวเอง ทั้งคู่ส่ายหัวพร้อมกันก่อนทุกอย่างจะเงียบลง
อูฮยอนพอจะรู้แล้วว่าสองคนนี้ไม่ชอบกัน
“คุณเลขาครับ พอดีโน้ตบุ๊คแบตมันหมด ผมขอตัว...”
“รีบไปเถอะครับ เราจะเริ่มงานอีกสามสิบนาที”
เสียงใสเอ่ยขึ้นบอกกับโฮวอน ข้ออ้างที่จะรีบหนีออกจากบรรยากาศแบบนี้ทำไมมยองซูจะไม่รู้ ร่างทุ้มรีบวิ่งกลับไปที่เดิมพร้อมกับทำหน้าที่ของตัวเองตามปกติก่อนเสียงของหญิงสาวจะดังขึ้น
“แอลถ่ายรูปสวยมากค่ะ ตอนมัธยมเราเป็นเพื่อนสนิทกันมาก ๆ ด้วย นายถ่ายรูปฉันด้วยจำได้ไหม”
จียอนพูดพลางขยับร่างของตัวเองเข้ามาใกล้มยองซูยิ่งขึ้น ใบหน้าคมที่แสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ด้วยเขาเพียงพยักหน้าตามน้ำและขยับตัวออกจากนางแบบสาวเท่านั้น สายตาที่น่ากลัวของซองจงเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินทั้งคำพูดและการกระทำของจียอน ดวงตาเรียวสวยจดจ้องคนรักของเขา แววตาที่แสนจะเฉยชาสำหรับหลาย ๆ คน แต่ทำไมมยองซูถึงรู้สึกวูบวาบแบบนี้
ให้ตายเถอะ
“คุณสองคนคงสนิทกันมากเลยสินะครับ”
คำพูดของนายแบบที่สมทบยิ่งทำให้มยองซูอยากจะระเบิดตัวเองไปตั้งแต่ตอนนี้ ยิ่งมีการกระทำของจียอนมากขึ้นเท่าไหร่ ความน่ากลัวของซองจงยิ่งมากขึ้นเท่านั้น มยองซูจะต้องตายแน่ ๆ ถ้าอูฮยอนไม่ช่วยเขาเสียก่อน
“เอ่อ... คุณสองคนครับ รีบไปแต่งตัวได้แล้วครับเหลือเวลานิดเดียวแล้ว”
น้ำเสียงแสนร่าเริงทำให้ทุกอย่างเริ่มเรียบขึ้นแต่ทางกลับกัน อารมณ์ของซองจงมันไม่ได้ดีขึ้นเลยกลับแย่ลงขึ้นเรื่อย ๆ เสียด้วยซ้ำถ้าจียอนหรือใครมากระตุ้นต่อมระเบิดของซองจงอีกครั้ง
และมันก็เกิดขึ้นจริง ๆ
“แอล เย็นนี้มีปาร์ตี้ไว้ค่อยคุยกันนะ”
เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับสัมผัสอุ่น ๆ จากมือบางเล็กที่จับลำแขนแกร่งของมยองซู ไฟในตาของซองจงมันเริ่มหนักขึ้นทันทีที่เห็นการกรำแบบนั้นของจียอนและมยองซูที่มักจะทำตัวขัดใจเสมอ
“คุณแอล เย็นนี้ช่วยมันหาผมหน่อยนะครับ”
ไม่มีเหตุผลอะไรสำหรับเจ้านายและลูกน้อง แต่ซองจงกลับเลือกที่จะเอ่ยคำพูดแบบนั้นไป ตอนนี้จียอนกำลังจะเป็นศัตรูหัวใจหมายเลขหนึ่งของซองจงไปแล้ว และมันถึงเวลาที่ซองจงจะต้องแสดงความเป็นเจ้าของออกมาได้สักนิดนึงแล้ว
“ครับคุณเลขา” มยองซูตอบเพียงแค่นั้น ฝ่ามือหนาปัดมือของนางแบบสาวออกอย่างไม่ใยดีก่อนจะหมุนตัวและวิ่งกลับไปที่เดิมโดยไม่สนใจหรือหันมามองในบริเวณนั้น แต่มยองซูรู้ว่าซองจงกำลังคิดอะไรอยู่และการนัดเจอกันในช่วงปาร์ตี้ต้องไม่ดีอย่างแน่นอน
ทำไมถึงน่าหงุดหงิดขนาดนี้
“คุณสองคนไปเตรียมตัวเถอะครับ”
ดวงตาสวยมองนายแบบและนางแบบสลับกันไปมา แววตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจไม่ใช่แค่อูฮยอนที่รู้ แต่ซองยอลก็รู้เช่นกัน มีเพียงจียอนเท่านั้นที่ทำท่าทางไม่พอใจและการขัดใจของซองจง ทั้งท่าทาง การใช้สายตา ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่ซองจงไม่ชอบแน่ ๆ
“ซองจงพี่อยากคุยกับเราหน่อย”
เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนคนที่จับข้อมือของเพื่อนสนิทจะชะงักเล็กน้อย ใบหน้าสวยหันมองร่างสูงโปร่งพร้อมกับสีหน้าเรียบเฉย
“ไว้ค่อยคุยนะครับ”
อย่างน้อยก็ไม่ใช่คำตอบเลวร้ายสำหรับซองยอล เขาคลี่ยิ้มหวานให้คนตรงหน้าแต่ซองจงกับเพิกเฉยและลากตัวเพื่อนของเขาออกไปจากบริเวณนั้น เหลือเพียงซองยอลและจียอนเท่านั้นที่ยืนอยู่
“เชื่อฉันหรือยังล่ะ”
“เลิกไร้สาระเหอะน่า”
ท่าทางหงุดหงิดของซองยอลยิ่งทำให้จียอนรู้สึกรำคาญ ร่างสูงโปร่งหมุนตัวและเดินเข้าไปที่ห้องแต่งตัวโดยไม่สนใจนางแบบที่ต้องร่วมงานกับเขา ร่างเล็กได้เพียงแต่ถอนหายใจและแสดงกิริยาไม่พอใจในแบบของผู้หญิงเท่านั้น
“นายหวงแอลออกนอกหน้าแล้วนะซองจง เดี๋ยวความก็แตกหรอก”
เสียงของเพื่อนที่เดินตามร่างบางดังขึ้นพร้อมกับเสียงถอนหายใจที่ดังขึ้นตามเช่นกัน ซองจงทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อนของเขาที่ยืนมองพร้อมกีบสีหน้าที่เบื่อหน่าย
“ฉันควรทำยังไงอูฮยอน มันเกินไปแล้วนะ”
“แต่นาย.. นายควรใจเย็นสิซองจง”
อูฮยอนเป็นแค่อีกคนที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของมยองซูและซองจง เพราะความเป็นเพื่อนสนิทเท่านั้นที่ทำให้ซองจงเชื่อใจและมั่นใจว่าเพื่อนของเขาอย่าง นัม อูฮยอน จะไม่ไปบอกเรื่องนี้กับใครอีก
“ฉันอยากจะตะโกนดัง ๆ ว่า นี่แฟนของฉัน.. แต่ฉันทำไม่ได้เลย”
ซองจงถอนหายใจอีกครั้งก่อนมือของเพื่อนอีกคนจะบีบลงที่ไหล่ของเขาเบา ๆ “ซองจงฟังฉันนะ ฉันมั่นใจว่าแอลรักนายคนเดียวอยู่แล้ว นายไม่เห็นต้องแคร์ผู้หญิงคนนั้นเลย”
“แล้วถ้าฉันบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงที่แอลเคยชอบล่ะ..”
เมื่อจบประโยคของซองจง ทุกอย่างกลับเงียบลงทันที อูฮยอนที่กำลังจะอ้าปากพูดต่อก็ชะงักไปเช่นกัน สีหน้าและท่าทางที่เป็นกังวลของซองจงยิ่งทำให้อูฮยอนเป็นห่วง คนที่ไม่เคยมีความรักอย่างซองจงต้องมาเป็นทุกข์กับรักแรกของเขา
“แล้วถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นรักแรกและมันฝังใจสำหรับแอลล่ะ เขาเคยบอกฉันว่าเขาเคยชอบผู้หญิงคนนี้มาก ๆ ..”
“ฉันจะทำยังไงดี..”
ถ้ามยองซูกลับไปหวั่นไหวกับรักฝังใจอีก
เขาจะทำยังไงดี..
“นายคบกับพี่ซองจงตอนไหน”
โฮวอนพูดเสียงแข็งพร้อมกับยืนกอดอกจ้องเพื่อนของเขาที่นั่งก้มหน้าไม่ยอมบอกความลับแบบนั้นกับเขา เหลือเวลาเพียงอีกแค่ 15 นาที งานทุกอย่างจะเริ่มขึ้นและมยองซูเลือกที่จะบอกความลับนี้กับโฮวอนเพราะความอึดอัดภายในใจ
“คบมาสักพักแล้ว..”
“แล้วทำไมไม่บอกวะ นี่เพื่อนนะเพื่อน”
เสียงดังภายในบ้านพักของเขาทั้งสอง ครั้งนี้โฮวอนโกรธมากจริง ๆ ทำไมเขาถึงรู้สึกเป็นเพื่อนที่ยังสนิทไม่พอที่มยองซูจะบอกเรื่องนี้ “พี่ซองจงยังไม่อยากให้ใครรู้..”
“นายคิดว่าฉันจะเอาไปบอกคนอื่นเหรอ!”
“ขอโทษได้ป่ะวะ ฉันก็บอกแล้วนี่ไง”
“บ่นเป็นพ่อกูอยู่ได้...”
ทันทีที่จบประโยคฝ่ามือของโฮวอนก็ตบลงที่ศีรษะของมยองซูทันที แรงฟาดที่ทำให้อีกคนยกมือขึ้นกุมหัวก่อนจะทำเสียงงุ้งงิ้งออกมา
“เออขอโทษ..”
“ไม่รู้ล่ะ กลับโซลนายต้องเลี้ยงข้าวฉันหนึ่งอาทิตย์!”
“เออ!”
“แต่ก็.. ฉันพอรู้แล้วล่ะเมื่อคืนที่นายหายไปน่ะ คงไปหาพี่ซองจงสินะ”
“เอ้า... มึงก็รู้นี่!”
มยองซูตะโกนลั่นก่อนเสียงหัวเราะของโฮวอนจะดังขึ้น ดังจนมยองซูที่นั่งอยู่บนเตียงต้องยกเท้าขึ้นถีบร่างของโฮวอนอย่างหมั่นไส้ “ไม่รู้แหละ! รอบนี้กูโกรธจริง! ไปทำงาน!”
เสียงของโฮวอนที่ดังขึ้นพร้อมเสียงกระทืบเท้า เสียงดังขึ้นในห้องยิ่งทำให้ดูเหมือนจะวุ่นวายมาก ๆ มยองซูและโฮวอนเดินออกมาจากห้องพร้อมกับคำด่าที่จิกกัดใส่กันตั้งแต่หน้าห้องจนถึงสถานที่ทำงาน รุ่นพี่ที่อยู่บริเวณนั้นได้แต่ยืนขำด้วยความเอ็นดู
“มึงนั่นแหละเตี้ย”
“แต่มึงน่ะ”
‘เ-ี้ย!’
มยองซูพูดออกมาแบบไม่มีเสียง แต่เรียกเสียงหัวเราะจากคนบริเวณนั้นออกมาอย่างดัง ตอนนี้เหมือนมยองซูและโฮวอนจะกลายเป็นคู่หูที่สร้างความบันเทิงในกลุ่มพนักงานมากที่สุด
ดงอูวิ่งหน้าตั้งเข้ามาก่อนจะตะโกนบอกทุกคนให้เริ่มทำงานได้พร้อมกับนายแบบและนางแบบที่มุ่งหน้าเข้ามาในสถานที่พร้อมกับโคดี้นูนาที่เดินตามต้อย ๆ
“ดงอู เย็นนี้มานั่งด้วยกันนะ!” โฮวอนเอ่ยปากบอกคนตัวเล็กที่ยืนมองพวกเขาพร้อมกับสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ดงอูพยักหน้ารับทันทีก่อนจะวิ่งหายไปเตรียมงามอีกครั้ง
ช่วงเวลาที่น่าเบื่อของมยองซูได้เกิดขึ้นแล้ว
แชะ แชะ แชะ
“เปลี่ยนท่าครับ”
เสียงทุ้มตะโกนดังลั่นก่อนนายแบบและนางแบบจะทำตามพร้อมกับเสียงกดชัตเตอร์ที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ คุณเลขาและอูฮยอนที่นั่งข้าง ๆ โต๊ะตั้งสำหรับการทำงานของโฮวอน อูฮยอนที่นั่งก้มหน้าเขียนบางอย่างลงในเอกสารพร้อมกับพูดคุยกับซองจง ทุกอย่างที่เขาทั้งคู่คุยกันโฮวอนได้ยินมันทั้งหมด
“โฮวอนนายแต่งรูปได้ดีสุด ๆ แล้วใช่ไหม”
เสียงใสเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอียงตัวมองรูปต่าง ๆ ที่ถูกลิงค์เข้ามาในโน้ตบุ๊คโดยอัตโนมัติ “แบบนี้เป็นแบบที่ผมทำบ่อย ๆ ครับ”
“ผมว่ามันสว่างไป ช่วยลดแสงลงอีกหน่อยนะครับ แล้วก็ลองปรับองค์ประกอบอย่างอย่างด้วย”
อูฮยอนแทรกขึ้นทันทีแล้วโฮวอนก็พยักหน้ารับทันทีและปรับเปลี่ยนทุกอย่างตามคำบอกเช่นกัน ทุกอย่างใช้เวลาอย่างเนิ่นนานก่อนจะเริ่มถ่ายรูปของแต่ละคนในเซตเดี่ยว นายแบบและนางแบบที่ใช้เวลาเปลี่ยนชุดภายในไม่ถึงสิบนาที และคนแรกที่ต้องเริ่มถ่ายคือ จียอน
เสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นเรื่อย ๆ แต่อีกสองคนที่นั่งมองกลับส่ายหน้าพร้อมกันอย่างไม่พอใจ เสียงถอนหายใจของซองจงที่ดังขึ้นก่อนร่างบางจะเดินตรงเข้าไปทันที
“ขอโทษนะครับคุณจียอน ผมอยากให้คุณเปลี่ยนท่าในการถ่ายรูปหน่อยนะครับ และการแสดงสีหน้าด้วย ผมว่าคุณจิกกล้องเกินไปมันผิดคอนเซปต์น่ะครับ”
พูดพลางเหลือบมองหนุ่มตากล้องที่ยืนจ้องมองเขาอยู่ ก่อนเสียงถอนหายใจของนางแบบสาวจะดังขึ้นและการชักสีหน้าของเธอก็ทำให้ซองจงหงุดหงิดเช่นกัน
“ขอโทษนะคะ แต่ใบหน้าของฉันเป็นแบบนี้-”
“แต่ในเมื่อคุณเป็นนางแบบ การแสดงท่าทางอารมณ์คุณน่าจะทำได้นะครับ ผมเคยเห็นคุณในนิตยสารของที่อื่น แบบสดใสคุณก็ทำได้นะครับ”
“แต่ฉัน!-”
“ผมไม่ชอบว่าทำไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ทำ ขอโทษด้วยครับ”
เสียงดังจนทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นเริ่มรู้สึกว่ามันเริ่มจะไม่ดี ไม่เคยมีใครเจอซองจงในอารมณ์แบบนี้และนี่เป็นครั้งแรก และก็เป็นครั้งแรกที่มีคนทำให้ซองจงเป็นแบบนี้ด้วย
มยองซูยืนมองเหตุการณ์ทุกอย่างก่อนคิ้วจะขมวดเข้าหากันช้า ๆ เขารู้สึกแปลก ๆ ที่ซองจงเป็นแบบนั้นเช่นกัน
“ถ้าทำไม่ได้ก็ถ่ายต่อไปเรื่อย ๆ”
ซองจงทิ้งท้ายไว้ก่อนจะหมุนตัวและเดินกลับไปนั่งประจำที่เดิม จียอนที่ถูกขัดใจก็แทบจะกรี๊ดลั่นออกไปก่อนโคดี้ทั้งหลายจะวิ่งเข้าไปดูแลนางแบบทันที เสียงตะหวาดของจียอนก็ดังขึ้นติโคดี้เช่นกัน นางแบบคนนี้เป็นนางแบบที่แย่จริง ๆ นะ
มยองซูหันมองร่างบางที่เดินกลับไปนั่งประจำที่เดิมและซองจงก็ไม่ได้มองเขากลับหรือส่งสายตาให้มยองซูแม้แต่น้อย ทำไมมยองซูถึงรู้สึกว่าครั้งนี้ซองจงใช้อารมณ์ไปแล้ว ทุกอย่างมันแสดงให้เห็นว่าซองจงกำลังอารมณ์ไม่ดี
“ถ่ายต่อเลยนะครับ” เมื่อทุกอย่างเงียบลงและกลับมาเป็นปกติเช่นเดิม มยองซูก็ตะโกนให้สัญญาณทันที ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีเพียงแต่การคอมเมนท์อย่างหนักหน่วงของซองจงและอูฮยอนมันดังตลอดเวลาและคนที่ได้ยินก็คงเป็นโฮวอน
“ฉันบลีฟเขาไปแล้วแต่เขาไม่ฟังมันเลยสินะ”
“ห่วย”
อูฮยอนพูดเสียงแข็งก่อนจะหันมองหน้าจอที่แสดงรูปออกมาทั้งหมด ทันทีที่เห็นอูฮยอนก็ตะโกนให้เปลี่ยนเป็นนายแบบเข้าไปถ่ายต่อทันที เป็นครั้งแรกที่ผู้นำแฟชั่นอย่างอูฮยอนจะหัวเสียขนาดนี้
และเป็นครั้งแรกที่ซองจงอารมณ์เสียสุด ๆ เช่นกัน
♡
หมดเวลางานที่แสนจะเหนื่อย และตอนนี้ก็ถึงเวลาปาร์ตี้วันสุดท้ายของงาน เหล่าพนักงานที่แต่งตัวให้เข้ากับบรรยากาศเสียงเพลงที่เริ่มดังขึ้น ฝั่งชายหาดที่เต็มไปด้วยพนักงานและการตั้งโต๊ะ และกลิ่นอาหารทะเลที่ฟุ้งไปทั่ว
ร่างบางที่ยังคงสวมเสื้อคอเต่าเดินออกมาจากบ้านพักพร้อมกับอูฮยอนที่เดินตามออกมาเช่นกัน ใบหน้าสวยที่เรียบเฉยไม่มีรอยยิ้มตั้งแต่ตอนบ่ายจนพระอาทิตย์ใกล้ตกก็ยังมีสีหน้าเช่นเดิม ซองจงเดินตรงมาในงานก่อนจะชะงักทันทีที่เห็นคนรักของเขานั่งอยู่ข้าง ๆ กับจียอน นางแบบน่ารำคาญคนนั้น
“ซองจง...”
ไม่ทันที่อูฮยอนจะพูดอะไรต่อ ร่างบางก็เดินตรงไปที่โต๊ะนั้นทันที ดวงตาสวยที่ยังคงจ้องมองมยองซู ไฟในตาของซองจงแทบจะพุ่งออกมาเมื่อเห็นการกระทำของจียอน โฮวอนที่เห็นคนที่เดินตรงมารีบใช้ศอกกระแทกเข้ากับต้นแขนมยองซูอย่างแรงก่อนคนที่นั่งทำหน้าเบื่อโลกจะสะดุ้งและหันไปมองร่างบางที่ยืนทำหน้านิ่ง ๆ
“พี่..” มยองซูคลี่ยิ้มออกมาทันทีที่เห็นคนรักของเขาแต่ซองจงกลับไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย
“คุณแอลผมขอคุยด้วยหน่อย”
“เดี๋ยวค่อยคุยได้ไหมครับคุณเลขา ผมต้อง-”
ไม่ทันที่จะพูดจบซองจงกลับพูดแทรกขึ้นมากอีกครั้ง “งั้นไม่ต้องก็ได้ครับ” พูดจบซองจงก็เหลือบมองผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ หนุ่มตากล้องพร้อมแสดงสีหน้าร้าย ๆ ออกมา ซองจงหมุนตัวและเดินห่างออกจากโต๊ะนั้นทันที
“ค..คุณ..” มยองซูหันมองตามคนที่เดินห่างออกไป ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างแรง จียอนที่เริ่มแสดงการกระทำที่แรงขึ้น ทั้งการซบและพูดคุยมากขึ้น ยิ่งทำให้มยองซูอึดอัดและอยากจะเดินออกจากตรงนี้ไปเลยถ้าไม่เกรงใจพวกพนักงานที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ ทุกคนแสดงความเอ็นดูออกมาเพียงเพราะแค่เหตุผลที่จียอนแพร่ไปบอกคนอื่นว่า เป็นเพื่อนสนิท
อยากตะโกนออกมาจริง ๆ
เมื่อพระอาทิตย์ตกทุกอย่างก็เริ่มสนุกมากยิ่งขึ้น แต่ทำไมมยองซูกลับรู้สึกว่ามันไม่สนุกอย่างที่เคย ตาคมเหลือบมองนางแบบสาวที่นั่งข้าง ๆ เขาก่อนโฮวอนจะสะกิดไหล่ของเขาอีกครั้งหนึ่ง
“ไปนั่งตรงอื่นไหม”
“ไปตอนนี้เลย”
ทั้งคู่รีบลุกออกจากที่นั่งทันที มยองซูไม่สนใจนางแบบสาวที่ทำหน้าเหวอใส่ ทั้งคู่รีบเดินออกจากโต๊ะนั้นแต่การกระทำทั้งหมดก่อนหน้านั้นซองจงเห็นมันหมดและทำให้เขาโกรธ โมโห และมองคนรักของเขาไปอีกแบบทันที แล้วยิ่งคนเจ้าคิดเจ้าแค้นแบบอีซองจง...
“ทำไมถึงนั่งกันแค่สองคนล่ะ”
นายแบบที่เดินตรงเข้ามาที่โต๊ะของซองจงและอูฮยอนมันทำให้มยองซูและโฮวอนที่ตกลงกันว่าจะเดินไปนั่งต้องชะงักทันที และเหมือนมยองซูจะดูออกว่าซองจงก็ยอมให้ซองยอลนั่นโต๊ะนั้นด้วย
“นั่งเลยครับ”
ซองจงระบายยิ้มหวานออกมาก่อนจะเรียกรอยยิ้มของซองยอลออกมาเช่นกัน ร่างบางที่เห็นผู้ชายสองคนยืนมองมาที่โต๊ะของเขา และซองจงก็เลือกที่จะไม่สนใจเช่นกัน แต่ทางกลับกันอูฮยอนกลับรู้สึกแปลก ๆ ที่เห็นหนุ่มตากล้องยืนจ้องมองด้วยสีหน้าแบบนั้น
“พี่ซองยอลดื่มอะไรไหมครับ เดี๋ยวผมไปเอามาให้”
พูดจบร่างบางก็รีบลุกออกจากเก้าอี้ทันทีแต่เหมือนทุกอย่างจะผิดจังหวะไปหมด มันทำให้ข้อเท้าของซองจงพลิกและเซเข้าหาซองยอลทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วไปหมดเร็วจนสิ่งที่มยองซูเห็นตอนนี้มันสร้างความตกใจให้เขาไปพอสมควร
ใบหน้าสวยที่จ้องมองใบหน้าของหนุ่มนายแบบ ระยะใบหน้าที่ใกล้กันจนร่างบางรู้สึกแปลก ๆ ดวงตาสวยที่สบตากับอีกฝ่ายก็ยิ่งทำให้แปลกมากกว่าเดิมเช่นกัน ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาที ฝ่ามือหนาที่กระชากร่างของซองจงออกจากซองยอลอย่างแรง และมันทำให้ซองจงตกใจมาก ๆ เช่นกัน
“ขอคุยด้วยหน่อยครับ” แรงดึงของมยองซูมันแรงจนทำให้ซองจงรู้สึกเจ็บและเหมือนมยองซูก็ลืมไปแล้วเช่นกันว่าซองจงกำลังเจ็บเท้า ไม่ใช่ซองจงกำลังโมโหแต่มยองซูก็ไม่ต่างกันและดูเหมือนจะขาดสติไปแล้วด้วย
“ฉันเจ็บ มยองซู!”
ซองจงสะบัดแขนออกอย่างแรงพร้อมกับร่างของตัวเองที่เซไปกระแทกกับกำแพงบริเวณบ้านพักของมยองซู ทุกอย่างเงียบ ไม่มีใครเห็น ไม่มีเสียงพูดใด ๆ ของทั้งคู่เช่นกัน มีเพียงสายตาที่จ้องมองกันอย่างไม่พอใจแค่นั้น
“พี่ทำแบบนี้ทำไม”
“ฉันทำอะไร”
“เมื้อกี้พี่กับคุณซองยอล ไม่สิ พี่ยอมให้เขาไปนั่งด้วยทำไม”
เสียงแข็งของทั้งคู่ดังขึ้นตอบกันอย่างละประโยคต่อประโยค และอารมณ์ของทั้งคู่ก็แทบจะเผาที่นี่ได้เลย ซองจงถอนหายใจออกมาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นระงับอารมณ์ของตัวเองให้มากที่สุด
“ฉันมีสิทธิ์ให้เขานั่ง แล้วนายมีสิทธิ์อะไรที่จะไม่ให้-”
“ผมเป็นแฟนพี่”
มยองซูพูดแทรกขึ้นมาทันที แต่ทุกอย่างกลับแย่ไปกว่าเดิมเมื่อซองจงส่ายหน้าอย่างเอือมระอาและหันหลังเตรียมจะก้าวขาเดินออกไป แต่ฝ่ามือหนากลับดึงข้อมือเล็กไว้อีกครั้งก่อนจะรีบดึงร่างบางมาโอบรั้งไว้ ดวงตาคมที่จ้องมองใบหน้าสวยอย่างไม่พอใจแต่กลับไม่มีคำพูดใด ๆ ของอีกฝ่ายออกมา
“หรือพี่ต้องให้ผมไปบอกกับทุกคนว่าเรากำลังคบกันอยู่”
จบประโยคสุดท้ายของมยองซู ริมฝีปากหนาก็กดจูบกับริมฝีปากสวยทันที ดวงตาสวยเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ แรงของอีกฝ่ายที่ตัวใหญ่กว่าทำให้ซองจงแทบจะหมดเรี่ยวแรง ร่างบางยกหมัดขึ้นทุบแผงอกหนาอย่างแรงแต่ยิ่งทำมากเท่าไหร่ ริมฝีปากหนาก็บดขยี้กลีบปากสวยเช่นกัน ไม่รู้ว่าบทจูบนี้เนิ่นนานเท่าไหร่ แต่ในที่สุดก็เหมือนจะมีใครสักคนเข้ามากระชากตัวทั้งคู่ออก
ปั่ก!
หมัดหนัก ๆ ที่กระแทกเข้ามุมปากของมยองซูอย่างแรงจนคนที่โดนต้องเซล้มลงกับพื้น หนุ่มนายแบบซองยอลที่วิ่งเข้ามารีบพุ่งเข้าไปคร่อมร่างของมยองซูไว้ก่อนจะยกหมัดขึ้นกระแทกเข้าใบหน้ามยองซูอีกหลายครั้ง จนซองจงต้องรีบเข้าไปดึงร่างของซองยอลออก
“แอล! แกนี่มัน!”
“อะไรกันครับ!” เสียงของโฮวอนดังขึ้นตามมาพร้อมกับอูฮยอนที่วิ่งตามมาเช่นกัน โฮวอนรีบวิ่งเข้าไปพยุงตัวของหนุ่มตากล้องที่หมดเรี่ยวแรงก่อนจะหันมองหนุ่มนายแบบที่พร้อมจะพุ่งเข้าใส่ตลอดเวลา
“คุณทำแบบนี้ได้ไงวะ!”
“เพื่อนแกมันจูบซองจง!”
พูดจบคนที่ถูกพยุงไว้ก็พุ่งเข้าสวนซองยอลทันที ทุกอย่างตอนนี้มันรุนแรงไปหมด มีเพียงซองจง อูฮยอน และโฮวอนเท่านั้นที่เห็นความรุนแรงแบบนี้ มยองซูคร่อมร่างซองยอลก่อนจะยกหมัดพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของซองยอลกลับเช่นกัน ทั้งคู่ที่ต่างไม่ยอมกันมันยิ่งหนักเข้าไปใหญ่จนโฮวอนต้องพุ่งเข้าไปกระชากตัวของเพื่อนเขาออก
เช่นเดียวกับซองจงและอูฮยอนที่ลากตัวของซองยอลออกมาเช่นกัน ใบหน้าของทั้งคู่ที่เต็มไปด้วยรอยช้ำและเลือดที่ไหลออกมา ดวงตาของทั้งคู่ที่จ้องกันเหมือนไฟเจอกับไฟ
“หยุดได้แล้วน่า!” โฮวอนรีบเตือนสติเพื่อนของตัวเองอีกครั้ง “แอล!”
เสียงของโฮวอนที่เรียกสติเพื่อนของตัวเองกลับคืนมา และทุกอย่างก็กลับเงียบลงทันที ร่างบางที่ยืนจ้องมองมยองซูค่อย ๆ ก้าวเข้ามาก่อนฝ่ามือสวยจะฟาดลงที่ใบหน้าคมอย่างแรง ดวงตาสวยที่จ้องมองคนรักของเขาอย่างผิดหวัง น้ำใส ๆ ที่ค่อย ๆ เอ่อคลอออกมา ทำไมเขาถึงผิดหวังกับมยองซูแบบนี้ ไม่มีเสียงตอบโต้จากอีกฝ่าย และซองจงก็หันหลังก่อนจะค่อย ๆ พยุงร่างของนายแบบออกจากบริเวณโดยที่ไม่สนใจคนที่ยืนจ้องมองเขาแม้แต่น้อย
“ซองจง!” ฮูฮยอนตะโกนเรียกเพื่อนของเขาอีกครั้ง คนตัวเล็กหันมองร่างสูงที่ยังคงยืนนิ่ง ๆ ก่อนจะวิ่งตามเพื่อนของตัวเองทันที
ทำไมมยองซูถึงเจ็บขนาดนี้นะ..
♡
ซองจงตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตีห้าครึ่ง ร่างบางที่สะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ที่แจ้งเตือนเวลา ใบหน้าสวยหันมองเพื่อนที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะพยายามยันตัวขึ้นมานั่งบนเตียง
ซองจงยังคงได้ยินเสียงเพลงที่ดังอยู่ด้านนอก และเหมือนปาร์ตี้เมื่อคืนจะยังไม่จบแน่ ๆ เขารู้สึกรำคาญและอยากจะให้พนักงานเตรียมกลับโซลในวันนี้ ร่างบางเปิดผ้าม่านออกทำให้เขาเห็นบรรยากาศภายนอก ยังคงมีแสงไฟในงานปาร์ตี้ ยังมีกลุ่มพนักงานชายบางกลุ่มที่ยังคงสังสรรค์กันแต่สิ่งที่ทำให้ซองจงตกใจยิ่งกว่า
คนที่คุ้นตาซองจงอยู่ในนั้นด้วย หนุ่มตากล้องที่นั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะและกลุ่มพนักงานที่หัวเราะครื้นเครง ยังคงมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แม้ตอนนี้กำลังจะเช้าแล้ว และซองจงก็เห็นหญิงสาวที่น่ารำคาญเดินเข้ามาในกลุ่มนั้นด้วย
น่ารำคาญ
“แอล นายเมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะกลับห้องเหอะ วันนี้ต้องกลับแล้วนะเว้ย”
เสียงของโฮวอนดังขึ้น คืนนี้โฮวอนไม่ได้แตะแอลกอฮอล์แม้แต่น้อยเพราะเพื่อนตัวดีของเขาทำหน้าที่แทนเขาไปหมดแล้ว เสียงถอนหายใจของโฮวอนกับดงอูดังขึ้นก่อนจะเห็นนางแบบสาวที่เดินตรงเข้ามาพร้อมกับสีหน้าที่แปลกใจ
“ทำไมแอล..”
“ไม่มีอะไรครับ” โฮวอนรีบพูดขึ้นมาทันทีก่อนคนที่นั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น เขาปรือตามองนางแบบสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าก่อนเสียงถอนหายใจจะดังขึ้นอย่างชัดเจน
“จียอนเหรอ... มาทำไมล่ะ! ไปไหนก็ไปน่ารำคาญ!!!”
พูดพร้อมกับโยนแก้วพลาสติกลงพื้นอย่างแรง มยองซูผู้ที่ไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์ คนที่บอกว่าแอนตี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ตอนนี้เขากลับต้องการสิ่งพวกนี้มาเยียวยาจิตใจของเขา มยองซูกำลังเมา เมามากจริง ๆ
“แอล!” โฮวอนยกมือขึ้นฟาดแผ่นหลังของมยองซูอย่างแรง “ขอโทษนะครับ ผมจะพาเพื่อนผมไปนอนแล้ว”
พูดจบทั้งโฮวอนและดงอูก็รีบพยุงตัวของคนที่เมาไม่ได้สติออกจากปาร์ตี้โต้รุ่งทันที ร่างสูงที่หมดแรงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ โฮวอนและดงอูที่ต้องพยายามลากหนุ่มตากล้องกลับเข้าห้องแต่เหมือนมยองซูจะไม่ยอมเสียแล้ว
“ไปหนาย.. ไม่ปายยย!”
“มึงเมามากแล้วนะ!”
“ไม่เมา ๆ กูววว ไม่เมา.. มึงดูกู.. อึก! กูเดินให้ดูวว!”
มยองซูพยายามดันร่างตัวเองออกจากเพื่อนทั้งสองคนก่อนจะปรือตามองทางที่แสนจะยาวไกล ใบหน้าแดงก่ำที่เต็มไปด้วยความเมา ขายาวค่อย ๆ ก้าวเดินช้า ๆ เพียงแค่เดินไปไม่กี่ก้าวร่างสูงก็เซและล้มลงไปนอนกับพื้นเสียแล้ว
“ทำไมวะ.. ทำไมพี่เขาถึงทำกับกูแบบนี้วะ!”
เสียงร้องไห้โฮของมยองซูดังขึ้น ก่อนเพื่อนทั้งสองจะถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ทั้งคู่พยายามลากตัวเพื่อนขี้เมากลับห้องพร้อมกับเสียงร้องไห้ที่ดังตลอดเวลา
ตั้งแต่ที่จบเรื่องของซองจง มยองซูก็เดินหน้าตั้งเข้าไปซัดโซจูเป็นสิบ ๆ ขวด ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่เคยแตะแอลกอฮอล์แม้แต่น้อย และก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนเที่ยงคืนแล้ว นั่งหัวเราะ ร้องไห้ อยู่คนเดียวจนเพื่อนตามอารมณ์ไม่ทัน
ทำไมคนที่เสียใจถึงชอบเอาตัวเองมาลงกับแอลกอฮอล์นะ..
ϟ
talk : แชป 20 มาเสิร์ฟแล้วพะยะค่ะ! ทำไม ทำไมซองจงทำแบบนี้ฟร่ะ อยากตี! บอกแล้วว่าแชป 20 มาช้าแต่มาแน่ แชปที่แล้วหวานหยดย้อย แชปนี้เปิดดราม่าไปเลย ไม่รู้ว่าเขาจะดีกันเมื่อไหร่แหละเนอะ อถรรรส! ยังไงก็ติดตามด้วยนะคร้าบมีแนวโน้มว่าอาจจะมีเอ็นซีอีก (มีแน่ๆแหละจริงๆแล้ว) ให้กำลังใจเค้าด้วยนะตัวเอง!
ปล. เป็นงานร้อนมากถ้ามีคำผิดจะมาแก้ให้เด้อนางเด้อ
สกรีม : #สตูดิโอแอลจง
ความคิดเห็น