คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ϟ C H A P T E R 1 6 ϟ ILY♡
ϟ 16 ϟ
-
“พ่อครับ..” เสียงใสดังขึ้นในห้องทำงานขนาดใหญ่ สมาร์ทโฟนเครื่องใหญ่แนบกับหูของร่างบาง เสียงปลายสายที่ยังไม่มีผู้ใดตอบกลับแต่กลับได้ยินเสียงดังออกมาจากทางฝั่งนั้น
“ว่าไงเจ้าตัวเล็ก” เสียงของประธานซองจินดังขึ้นถึงแม้เสียงจากทางนั้นจะดังจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงของผู้เป็นพ่อของตัวเองแต่ซองจงก็พอจะฟังออก ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันเขาไม่รู้ว่าควรบอกเรื่องแบบนี้กับพ่อตัวเองหรือเปล่า แต่อย่างน้อยมันก็พอจะทำให้ซองจงรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
ไอรักครั้งแรกนี่มันน่าอายขนาดนั้นเลยหรือไง
“ผมมีอะไรจะบอกพ่อครับ” จากที่เงียบไปสักพักซองจงก็พูดขึ้นมาต่อ เสียงปลายสายที่เหมือนกำลังพูดบางอย่างแต่ซองจงก็ฟังไม่รู้เรื่องอยู่ดี ดวงตาสวยค่อยๆปิดลงร่างบางหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะปล่อยออกมา ซองจงกำลังทำใจในสิ่งที่กำลังจะบอกกับพ่อของตัวเอง ตอนนี้ใจของหนุ่มเลขากำลังเต้นแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
“ผม...”
“ผมกำลังมีความรักครับ” ซองจงตัดสินใจพูดออกไป สิ่งที่เขาเคยคิดว่าจะไม่สนใจเรื่องความรักในช่วงเวลาที่ทำงาน ซองจงที่มุ่นมั่นกับคำว่าจะใช้ชีวิตให้กับงานเท่านั้น ตอนนี้มันหายไปแล้ว
ซองจงกำลังสนใจเรื่องความรัก
ซองจงกำลังมีความรัก
รักครั้งแรกที่เกิดกับเพศเดียวกัน
รักครั้งแรกที่มีคนที่ชื่อคิม มยองซูเป็นคนสร้างให้ซองจง..
“เสียงที่นี่มันดังมากเลย พ่อไม่ได้ยิน”
“พูดอีกทีได้ไหม”
อ่า... อะไรกันเนี่ย
ประธานซองจินตอบประโยคที่ทำเอาซองจงไปไม่ถูก ทั้งๆที่ตัดสินใจพูดออกไปแล้วแต่พ่อของตัวเองกลับไม่ได้ยินซะอย่างนั้น ซองจงถอนหายใจอย่างแผ่วเบาก่อนมือบางจะขยี้ผมตัวเองเบาๆ
ในเมื่อพ่อของเขาไม่ได้ยินแล้ว ซองจงขอเลือกที่จะไม่พูดอีกครั้งแล้วกัน..
“ไม่มีอะไรแล้วครับพ่อ ตั้งใจทำงานล่ะ” ซองจงเฉไฉไปอีกเรื่อง เขารีบตัดบทสนทนาทันทีก่อนเสียงปลายสายจะดังขึ้นมาอีกครั้ง
“นี่ซองจง”
“พ่อให้เราดูแลบริษัทแทนก็ทำดีๆล่ะ”
“เดี๋ยวพ่อก็กลับไปแล้ว สู้ๆนะเจ้าตัวเล็ก”
เสียงของหนุ่มวัยทองพูดกับซองจง ใบหน้าสวยที่นิ่งๆกลับคลี่ยิ้มออกมา เขาดีใจที่อย่างน้อยพ่อของเขาก็ยังสนใจเขาอยู่ กำลังใจของคนเป็นพ่อน่ะสำคัญกับซองจงที่สุดแล้ว
“ครับ พ่อก็เช่นกันนะครับ”
“…ครับ รักพ่อนะครับ” เสียงใสของซองจงพูดตอบไปมากับพ่อของเขาก่อนบทสนทนาจะจบลง นิ้วเรียวสัมผัสที่หน้าจอก่อนจะมองไปที่หน้าจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่
หายไปไหน
ใบหน้าสวยที่จดจ้องไปที่แอพลิเคชั่นที่ไว้ใช้คุยกับหนุ่มตากล้องตลอด ซองจงรู้สึกเหงาและเศร้าทุกครั้งที่ไม่เห็นแอล หรือซองจงจะทำให้แอลหายไปแบบนี้
“จะไม่โผล่มาให้รำคาญแล้วหรือไง”
“หรือนายต้องการจะหลบหน้าฉัน”
“ไอ้งี่เง่า”
เสียงใสที่พูดใส่หน้าจอสี่เหลี่ยมตรงหน้า การใส่อารมณ์ของซองจงมันดูตลกถ้ามีคนมาเห็นแต่ซองจงกลับไม่ตลกซะเลย ใบหน้าสวยที่เริ่มแย่ลงคิ้วที่เริ่มขมวดเป็นปม น้ำใสๆที่เริ่มคลอที่เบ้าตาสวย ซองจงกำลังเสียใจ
ซองจงกำลังจะงอแง..
“ไอเด็กบ้า..” เสียงใสพูดอย่างแผ่วเบา นิสัยของเด็กผู้ชายที่ชื่อซองจงมากลับมาอีกครั้ง ตั้งแต่โตมาซองจงไม่เคยร้องไห้อีกเลยจนเจอแอลนั่นแหละ แอลทำให้ซองจงทำทุกอย่างเหมือนตอนเด็กๆที่เขาทำ
และแอลทำซองจงร้องไห้..
01:00 PM
ร่างบางที่เดินดูงานแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เขาดูตั้งใจมากกว่าเดิมและเคร่งขรึมกว่าเดิม ซองจงไม่พูดอะไรตั้งแต่เดินออกมาจากห้องทำงานของตัวเอง ใบหน้าสวยที่นิ่งเรียบทำให้พนักงานรู้สึกกลัวเขาแปลกๆ
“คุณเลขาครับ” เสียงทุ้มของโฮวอนดังขึ้นก่อนร่างบางจะหันไปมองตามเสียงที่เรียกเขา ใบหน้ายิ้มแย้มของโฮวอนทำให้ซองจงต้องคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ว่าไง”
“อืม อันนี้เป็นโปรเจคใหม่ของเราครับ”
แผ่นกระดาษเอสี่สองถึงสี่แผ่นถูกมือบางคว้าเอาไว้ ใบหน้าสวยที่จ้องตัวหนังสือในกระดาษซองจงเพียงแต่พยักหน้าก่อนจะยื่นแผ่นกระดาษกลับไปให้หนุ่มแว่นตรงหน้า
“ทำไมต้องเชจูล่ะ ที่สวยๆที่อื่นก็มี”
“ก็ทางฝั่งนั้นเขาบอกมาแบบนี้ครับ พูดตรงๆนะครับมันสถานที่ซ้ำๆอ่ะ”
“ถ้าเขาเลือกมาแล้ว เราก็ขัดไม่ได้จริงไหม”
ซองจงคิดเหมือนกับที่โฮวอนคิด สถานที่ที่ให้มาก็ที่ซ้ำๆ เกาหลีไม่ได้มีแค่เกาะเชจูที่สวยที่อื่นก็มีตั้งเยอะแยะ ใบหน้าสวยมองโฮวอนก่อนหนุ่มแว่นจะคลี่ยิ้มออกมา
“คุณเลขาครับ”
“ว่า”
“ไม่มีอะไรครับ ผมไม่อยากถามกลัวจะเสียมารยาท”
“ผมขอตัวทำงานต่อนะครับ”
โฮวอนเลือกที่จะไม่ถามต่อร่างหนารีบหมุนตัวก่อนจะวิ่งออกไป ใบหน้าสวยที่มองหนุ่มพนักงานจากปูซานวิ่งออกไปเหมือนเด็ก ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มออกมานิดๆ เขารู้ว่าโฮวอนจะถามอะไรมันก็คงมีอยู่เรื่องเดียวที่โฮวอนอยากจะรู้นั่นแหละ
เรื่องของแอล..
ไม่ใช่แค่โฮวอนที่อยากรู้ซองจงก็อยากรู้เช่นกัน ร่างบางที่ยืนนิ่งเหมือนคิดอะไรบางอย่าง เขาหมุนตัวกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเองก่อนใบหน้าสวยจะคลี่ยิ้มมุมปากออกมา
ถ้านายไม่มาฉันจะไปลากคอนายออกมาเองมยองซู
ซองจงคิดในใจก่อนมือบางจะเปิดประตูห้องทำงานของตัวเอง ร่างบางที่รีบเดินไปเก็บของตัวเองใส่กระเป๋า เขาตัดสินใจว่าจะอู้เวลางานไปจัดการกับไอตากล้องตัวดีที่คอนโดซะเลย ในเมื่อพ่อของเขาไม่อยู่ซองจงก็ขอเลือกทำตัวไม่ดีสักครึ่งวันก็พอ
นายเลือกเองไองี่เง่า..
♡
ร่างบางที่ลงออกมาจากรถเก๋งสีดำรีบเร่งฝีเท้าตรงดิ่งมาที่ห้องของไอหนุ่มตากล้องเจ้าปัญหาของเขา ริมฝีปากสวยที่เม้มเข้าหากันซองจงตัดสินใจถูกแน่นอนที่จะไปหาแอลแทน
ขืนรอให้หนุ่มตากล้องนั่นมาหาซองจงเองก็คงไม่ได้อยู่ดี แค่ไม่เจอกันสองสามวันก็คิดถึงจะตายอยู่แล้ว
คิดถึงหรอ..
ร่างบางที่ใจเต้นแรงขึ้นหลังจากที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูของห้องหนุ่มตากล้อง ขาเรียวที่อยู่ไม่เป็นสุขเขากระดิกขาเพื่อรวบรวมสติของตัวเอง ลมหายใจที่เข้าไปเต็มปอดก่อนจะปล่อยออกมา ซองจงพร้อมที่จะเจอสภาพของคนตรงหน้าแล้ว
...กรี๊ง
เสียงกริ่งของห้องไม่ได้ปลุกให้คนที่นอนโทรมลุกขึ้นรู้สึกตัวเลย ร่างสูงที่นอนห่มผ้าตั้งแต่ปลายเท้ายันหัวของตัวเอง ร่างที่สั่นเล็กน้อยกำลังแสดงให้เห็นว่าแอลกำลังหนาว
...กริ๊ง กริ๊ง
เสียงกริ่งที่ดังขึ้นครั้งที่สอง สาม สี่ ห้า ดังจนคนที่นอนอยู่ต้องรู้สึกตัวขึ้นมา แอลค่อยๆยันตัวขึ้นมานั่งบนเตียงนุ่ม เสียงจิ๊ปากที่ดังออกมาจากหนุ่มตากล้อง กำลังมีคนมารบกวนการพักผ่อนเอาพลังงานของเขากลับคืนมาอยู่
“ใครมันมากดเล่นเนี่ย...” เสียงบ่นพึมพำพลางลุกขึ้นออกจากเตียงใหญ่ อาการเวียนหัวของแอลเกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เขาลุกขึ้นออกจากเตียง ร่างสูงก้าวขายาวไปที่หน้าประตูก่อนมือหนาจะจับลูกบิดประตูไว้
โอเค แอลเลือกที่จะต้องเปิดอยู่แล้วคนที่กำลังมารบกวนการพักผ่อนของเขาอาจจะมีเรื่องด่วน อาจจะเป็นโฮวอน อาจจะเป็นครอบครัวของเขาที่กลับมาจากต่างประเทศ หรืออาจจะเป็น
คุณเลขาซองจง..
มือหนาตัดสินใจเปิดประตูก่อนจะชะงักทันทีที่เห็นคนตรงหน้าของเขาเป็นคนที่นึกถึงตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมา เช่นกันกับซองจงที่ตกใจสภาพของหนุ่มตากล้องที่ดูโทรมต่างจากสองสามวันก่อน เจลลดไข้ที่แปะไว้บนหน้าปากของแอลทำให้ซองจงพอจะรู้ว่า คนตรงหน้าของเขากำลังป่วย
“…”
“ทำไมนายไม่ไปทำงาน” ซองจงเลี่ยงที่จะไม่แสดงอาการเป็นห่วงหนุ่มตากล้องออกไป จากสีหน้าของแอลที่ดูโอเคขึ้นกลับแย่ลงหลังจากที่ได้ยินคำถามของคนตรงหน้า
“ผมไม่สบายครับ ขอโทษที่ไม่ได้บอก” แอลเลือกที่จะไม่หยอดมุกอะไรกลับเหมือนแต่ก่อน เขายังคงจำคำที่ซองจงพูดได้ เขาไม่อยากที่จะแสดงอาการที่ดูน่าเบื่อหรือน่ารำคาญออกไป
“...นาย”
“ครับ”
“ทำไมถึงไม่บอกฉัน”
“ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกครับ”
“ตอบคำถามฉัน”
“ผมตอบไปแล้ว”
น้ำเสียงที่นิ่งของแอลทำให้ซองจงรู้สึกแปลกๆ เขาไม่ชินกับแอลในอารมณ์แบบนี้ คนที่เคยหยอดมุกเสี่ยวๆใส่เขา คนที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา คนที่กวนตีนและขี้เล่นตอนนี้มันไม่ได้อยู่ในตัวแอลเลย
แอลดูโทรมและไม่มีความสุขเอามากๆ ซองจงรู้สึกได้แบบนั้น
“นั่นไม่ใช่คำตอบของนายจริงๆ ฉันไม่ชอบคนโกหกนะมยองซู”
จบประโยคของซองจง แอลจากที่คอตกกลับเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าสวยอีกครั้ง ใช่ ซองจงไม่ชอบโกหกและตอนนี้แอลกำลังโกหกซองจงอยู่
“ครับ ผมโกหก”
“ผมแค่ไม่อยากทำให้พี่รำคาญ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน” คำพูดของแอลทำให้ซองจงจี๊ดที่หัวใจเล็กน้อย ถูกต้อง ซองจงเคยพูดแบบนั้นกับแอล เขายังจำคำพูดของเขาได้ดี แอลก็เช่นกัน
“…”
“พี่เข้ามาในห้องก่อนก็ได้นะครับ” ซองจงเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนร่างสูงโปร่งจะเอ่ยปากออกมาต่อ ทั้งๆที่ซองจงยังไม่ได้ที่จะตอบรับ มือหนากลับเอื้อมมือไปดึงร่างบางเข้ามาในห้องของตัวเองทันที
ซองจงรับรู้ถึงความร้อนจากมือหนา พอจะรู้แล้วล่ะว่าแอลดูจะป่วยมากๆ ป่วยจนหน้าซีดแถมยังตัวสั่นๆอีกต่างหาก
เป็นห่วง ซองจงเป็นห่วงแอลมากตอนนี้ ร่างสูงมองใบหน้าสวยนิ่งๆก่อนแอลจะหมุนตัวเดินหลังโก่งไปที่ห้องนอนของตัวเองช้าๆ เหมือนแอลไม่มีแรงที่จะทำอะไรเลยสักนิด
“ทำไมต้องเข้าไปในห้องนอนด้วย” เสียงใสดังขึ้น เห็นเจ้าตากล้องนั่นพาซองจงเดินไปในห้องแบบนั้นสองต่อสองไปเรื่องเมื่อตอนนั้นมันก็ผุดขึ้นมาในหัว กลัวไอคนป่วยตรงหน้าจะคิดอกุศลกับเขานั่นแหละ
“ผมแค่จะนอนนี่ครับ มีอะไรก็คุยตอนผมนอนนี่แหละ”
“คนป่วยน่ะต้องการพักผ่อนนะครับ นั่นเห็นยาที่หมอให้ผมมาไหม”
“เม็ดใหญ่มาก”
คนป่วยทำตัวเหมือนเด็กอวดของเล่นแต่เปลี่ยนจากพวกของเล่นเป็นยาในถุงพร้อมกับไอเม็ดยาใหญ่ๆในนั้นนั่นแหละ ท่าทางการชี้นิ้วไปทางถุงยาบนโต๊ะทำเอาซองจงหลุดยิ้มออกมา
เหมือนตากล้องฟอร์มจัดพอๆกับซองจงจะหลุดฟอร์มนิ่งๆของตัวเองออกมา เหมือนแอลคนเดิมกำลังจะกลับมาภายในพริบตา
“ช่วงนี้มีงานอะไรไหมครับ” ร่างสูงโปร่งเอนนอนพิงหลังกับพนักเตียง ผ้าห่มหนาถูกมือหนายกขึ้นมาคลุมช่วงขาของตัวเองก่อนจะมองใบหน้าสวยอีกครั้ง
“เยอะ” ซองจงตอบเพียงประโยคสั้นๆ ใบหน้าสวยกลับมานิ่งอีกครั้งหลังจากที่เขานั่งลงกับเก้าอี้ที่ถูกลากมาไว้ในห้องนอนข้างๆกับเตียงของเจ้าของห้อง
“แย่จัง ขอโทษที่อาจจะทำให้ดูวุ่นวายไปหน่อยนะครับ” ร่างสูงตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ สายตาที่มองซองจงด้วยความเศร้ากลับมาอีกครั้ง เวลาคิดถึงตอนที่ซองจงพูดทิ่มแทงใจเขาวันนั้นมันทำให้แอลรู้สึกแย่ตลอดเลย
“อืม”
“ครับ” ต่างคนต่างพูดจบประโยคแบบไปต่อไม่ถูก ร่างบางที่ไม่แม้แต่จะมองคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียงต่างกับแอลที่เอาแต่มองคนที่กำลังเมินเขาอยู่ในตอนนี้
“…” เงียบไปสักพักเสียงไอของคนที่นอนอยู่ก็ดังขึ้น อาการไอที่รุนแรงกลับทำให้ซองจงหันมามองแอลทันที ร่างสูงที่ไอไม่หยุด เขาไอจนหูแดงหน้าแดงไปหมด
อาการป่วยของไอหนุ่มตากล้องนี่มันหนักมากจริงๆ
“ขอโทษที่เสียงดังครับ” แอลพูดกับคนที่หันมามองหน้าเขาเหมือนไม่พอใจ พูดจบก็ยังคงไอต่อ เสียงที่ค่อยข้างแหบจนแอลต้องกระแอมเสียงบ่อยๆยิ่งทำให้ซองจงอยู่รู้เป็นห่วงมากกว่าเดิม
“…” หนุ่มเลขาไม่ตอบอะไรเพียงแต่เขากลับฟุบหน้าลงกับเตียงนุ่ม เสียงที่เงียบสงัดในห้องนอนของแอล ไม่มีเสียงคุย ไม่มีเสียงโต้เถียงกัน ไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่มีเสียงอะไรในห้องนอกจากเสียงลมหายใจของคนที่กำลังป่วย ทั้งๆที่มันไม่น่าจะมีอะไรแต่ทั้งคู่กับรู้สึกเศร้าเหมือนกัน
ซองจงควรจะทำยังไงดี..
เขาควรพูดกับแอลไปตรงๆไหม
หรือเขาควรจะเลิกคิดเรื่องแบบนั้น
“พี่ซองจงครับ..” เสียงของหนุ่มตากล้องดังขึ้นทันที่ที่ได้ยินเสียงแปลกๆของคนที่กำลังฟุบหน้าอยู่ข้างๆกับเขา ร่างบางที่ดูสั่นๆยิ่งทำให้แอลรู้สึกแปลกใจมากขึ้น
“พี่ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกซองจงก่อนเสียงสะอื้นน้อยๆของร่างบางจะดังออกมา ดวงตาคมเบิกกว้างขึ้นเมื่อได้ยินเสียงแบบนั้น มือหนาเอื้อมไปแตะที่ไหล่ของคนที่ฟุบอยู่ แอลไม่รู้ว่าซองจงร้องไห้ทำไม หรือมันเป็นเพราะเขาหรือเพราะคนอื่น
“พี่..”
“ไอ้งี่เง่า นายทำให้ฉันแทบบ้านะรู้ไหม!” ยังไม่ทันที่แอลจะพูดซองจงก็เงยหน้ามาพูดใส่คนที่นอนอยู่บนเตียงพร้อมกับน้ำตา น้ำตาที่เอ่อออกมาจนแอลตกใจกับคนตรงหน้าที่ขึ้นชื่อว่าคุณเลขาจอมโหดนั่นแหละ
เลขาซองจงอายุ 25 กำลังร้องไห้
เลขาซองจงกำลังงอแงเหมือนเด็ก
เลขาซองจงเป็นแบบนี้เพราะแอล
“ฮ..ฮึก..”
“อ..ไองี่เง่า” ซองจงที่เอาแต่ว่าคนตรงหน้าว่าไองี่เง่า แอลไม่เข้าใจกับสิ่งที่ซองจงกำลังเป็นในตอนนี้ถึงแม้ว่าตอนนี้เลขาตรงหน้าของเขาจะน่ารักเหมือนเด็กน้อยก็ตาม
หรือพี่ซองจงกำลังจะสื่ออะไรบางอย่าง
“พี่ร้องไห้เพราะผมหรอ” ใบหน้าหล่อที่แฝงไปด้วยความสงสัยยกนิ้วชี้มาที่ตัวเองพร้อมกับเอียงคอเล็กน้อย แอลไม่เข้าใจอารมณ์ซองจงตอนนี้จริงๆนะ พี่เขาสื่ออะไรออกมา จะสารภาพรักหรือไง
“อย่าร้องสิครับ” ทันทีที่ถามคำถามไปซองจงกลับสะอื้นหนักขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยน้ำตายิ่งทำให้แอลรู้สึกผิดถ้ามันเป็นเรื่องของตัวเอง มือหนาเลื่อนไปลูบแก้มสวยแอลค่อยๆเช็ดน้ำตาของคนขี้แงออกช้าๆ และการกระทำแบบนั้นมันโคตรที่จะอบอุ่น
“ผมรู้สึกผิดนะครับถ้าเป็นต้นเหตุทำให้พี่ร้องไห้น่ะ”
“อื้อ.. รู้ตัวก็ดี..ฮึก”
“งั้นพี่เป็นอะไรครับ บอกคนนิสัยไม่ดีแบบผมสิ”
มือหนาทั้งสองข้างยังคงประคองใบหน้าสวยไว้ถึงแม้เขาจะเป็นคนป่วยคนนึงแต่ตอนนี้เหมือนแอลจะลืมว่าตัวเองเป็นอะไร เขายังคงเพียงจ้องใบหน้าสวยที่กำลังยกนิ้วเรียวขึ้นมาขยี้ตาของตัวเอง
“ฉัน..”
“ฉันกำลังทำผิดกับสิ่งที่ตัวเองเคยคิดเอาไว้”
คำตอบของซองจงที่ทำให้คนอย่างแอลไม่เข้าใจอยู่ดี ใบหน้าหล่อที่ทำหน้าไม่เข้าใจกับสิ่งที่ซองจงพูด ห้องนอนที่เงียบสงัดแต่ก็เริ่มมีเสียงพูดคุยของทั้งสองคนขึ้นมา แอลยังคงต้องการคำตอบที่ชัดเจนกว่านี้
“ฉันตอบไปแล้ว”
“เอ๊ะ.. กวนผมหรอครับ”
“...ฉันกำลังมีความรัก”
จบประโยคที่แอลพูดซองจงก็รีบพูดขึ้นออกมาทันที แอลได้ยินชัดเจนเลยกับสิ่งที่ซองจงพูด หนุ่มเลขาที่บอกว่าตัวเองกำลังมีความรัก คำตอบที่ทำให้กระจ่างกับประโยครอบแรกของซองจง
แอลจำได้แล้วล่ะ ซองจงเคยบอกว่าจะไม่สนใจเรื่องความรัก จะสนใจแต่งาน ไม่ว่าใครจะมาจีบเขาซองจงเลือกที่จะปฏิเสธแน่นอน แต่ตอนนี้แอลได้ยินคำพูดแบบนั้นจากปากซองจง
ใช่เขาหรือเปล่า..
หรือซองยอล..
“ความรัก?” แอลทวนคำพูดอีกครั้งก่อนคนตรงหน้าของเขาที่หยุดร้องไห้จะพยักหน้าแทนคำตอบ ริมฝีปากหยักที่ค่อยๆเริ่มคลี่ยิ้มออกมา เขาไม่รู้ว่าซองจงคิดอะไรกับใครหรือเปล่า อีกใจก็คิดว่าตัวเองแต่อีกใจก็คิดเป็นคนอื่น..
“คุณซองยอลหรอครับ ใช่วันที่ไปดูหนังด้วยกันหรือเปล่า” คำพูดที่แฝงการประชดไปด้วยจากปากแอลกระตุกฝ่ามือบางยกขึ้นมาตบที่ใบหน้าหล่ออย่างแรง คำพูดที่ขัดใจซองจงจนหัวเสียและเขาไม่ชอบคำพูดแบบนี้เอามากๆเลยล่ะ
เพี้ยะ!
“…พี่ตบผมทำไมครับ”
“…”
“ไอเด็กโง่! ฉันร้องไห้ก็เพราะนาย ฉันเป็นห่วงนาย ฉันคิดถึงนาย คิดสนใจแต่นายทุกวันตั้งแต่นายหายไป จะให้ฉันมีความรักกับใคร!”
“กับหมาข้างบริษัทหรือไง..” ร่างบางถึงกับฟิวส์ขาดซองจงพูดทุกอย่างที่อยู่ในใจออกมาทั้งหมด คำพูดที่ทำให้แอลเบิกตากว้างขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม ยิ้มที่แก้มแทบจะแตก ยิ้มแบบที่โคตรจะมีความสุข
ซองจงยอมเขาแล้ว
ซองจงยอมความรักที่แอลมีให้ซองจงแล้ว..
“อ..อะไรนะครับ”
“พี่มีความรักเพราะผมหรอ”
“ผมไม่ได้ฝันใช่ปะ”
แอลจากคนป่วยที่นอนโทรมเหมือนตายกลับดูเหมือนคนที่ไม่เป็นอะไรเลยสักนิด จากที่นอนอยู่ร่างสูงก็รีบยกตัวขึ้นมานั่งน้ำเสียงที่ดีใจของแอลมันดูเป็นเสียงที่ดีใจมากจริงๆ
เขาจีบคนที่ใจแข็งที่สุดติดแล้ว เขาชนะใจคนที่ชื่ออี ซองจงได้ เขาทำทุกอย่างให้คนที่ชื่ออี ซองจงประทับใจได้แล้ว เขาทำให้คนอย่างซองจงยอมยกใจให้เขาดูแลแล้วล่ะ
“...ที่ฉันร้องไห้เพราะฉันทำตามที่ตัวเองเคยพูดไม่ได้ต่างหาก”
“ฉันชนะใจตัวเองไม่ได้หลังจากที่เจอคนแบบนาย”
“ไอบ้าเอ๊ย...”
ซองจงก้มหน้างุดพลางพูดออกมารัวๆ ความน่ารักของซองจงตอนนี้ทำให้แอลลืมไปว่าซองจงอายุครึ่งห้าสิบปี ตอนนี้ซองจงเหมือนเด็กอายุสิบห้าซะด้วยซ้ำ เสียงหัวเราะของคนป่วยดังขึ้นเขาหัวเราะกับความน่ารักของซองจง ความน่ารักและสดใสที่ไม่มีใครเทียบกับซองจงได้
“หัวเราะอะไร”
“ขำมากหรือไง”
“ผมขำเพราะพี่น่ารัก”
“มีความรักแต่ก็ทำงานได้นี่ครับ.. มันไม่ได้ทำลายการงานของพี่ซะหน่อย”
“ฉันไม่มั่นใจ”
“มั่นใจเถอะครับ เพราะผมจะช่วยพี่ในทุกๆเรื่องเลย”
พูดจบมือหนาประคองใบหน้าสวยไว้ไม่ทันที่ซองจงจะพูดอะไรริมฝีปากสวยก็ถูกหนุ่มตากล้องครอบครองไปแล้ว ร่างสูงประทับจูบอ่อนโยนไปที่ริมฝีปากสวย ความร้อนของริมฝีปากหยักทำให้ซองจงรู้สึกได้ อยากจะต่อต้านรสจูบแบบนี้แต่มันก็รู้สึกชอบอย่างบอกไม่ถูก
ความรู้สึกของตอนนี้เหมือนตอนนั้น เหมือนจูบครั้งแรกของทั้งสอง ร่างบางที่เริ่มรู้สึกชอบกับรสจูบที่อีกฝ่ายมีให้ริมฝีปากสวยก็เริ่มที่จะโต้ตอบกลับ ริมฝีปากสวยที่บดเบียดกับริมฝีปากหยักกลับบ้าง แอลแปลกใจกับการกระทำของซองจง แต่นั่นยิ่งทำให้แอลต้องการมากกว่านั้น
มือบางจากที่อยู่นิ่งๆตอนนี้ก็ยกขึ้นไปคล้องคอของหนุ่มตากล้องทันทีซองจงเปลี่ยนจากบทจูบที่แสนหวานเป็นบทจูบที่รุนแรงขึ้น บทจูบที่แอลเริ่มต้นก่อนกลับกลายเป็นซองจงที่คุมทุกอย่างในตอนนี้
“อื้อ..” เสียงครางในลำคอของหนุ่มเลขาดังขึ้นเหมือนซองจงจะขาดอากาศหายใจมือบางที่เลื่อนมาทุบแผงอกให้หยุด บทจูบที่เนิ่นนานควรจะจบลงได้แล้ว แต่คนที่ส่งสัญญาณให้หยุดกลับคิดที่จะเริ่มอีกครั้ง
เพียงแต่คราวนี้แอลกลับปฏิเสธบทจูบนี้แทน
“สติหลุดแล้วหรอครับคุณเลขาซองจง” ใบหน้าหล่อยังคงจดจ้องใบหน้าสวย ดวงตาของซองจงที่หวานเยิ้มยิ่งทำให้แอลรู้สึกแปลกๆขึ้นมาทันที ถ้าเขาไม่หยุดตอนนี้เขาต้องทำกับซองจงมากกว่าจูบแน่นอน
ให้ตายเถอะทำไมถึงกลายเป็นแอลที่ต้องหยุดทุกอย่างแบบนี้ล่ะ..
มันเป็นหน้าที่ของซองจงไม่ใช่หรือไง
“ป..เปล่า” ร่างบางที่ได้สติรีบก้มหน้างุดพลางตอบคำถามของแอลออกมาอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากสวยที่เม้มเข้าหากัน มือหนายกขึ้นลูบไปที่ผมนุ่มของหนุ่มเลขาที่อายุมากกว่า
น่าเอ็นดูจนไม่อยากเรียกว่าพี่..
“ผมอยากจะทำอะไรที่มันถูกต้องทุกอย่างเพราะฉะนั้นพี่ต้องตอบรับคำถามผมนะครับ”
“พี่จะเป็นแฟนกับผมไหม?”
ไม่ต้องคิดคำตอบใดๆทั้งสิ้นใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นริมฝีปากสวยที่คลี่ยิ้มออกมา เขาเลือกที่จะฝากทุกอย่างไว้กับแอลแล้ว ซองจงคิดถูกแล้วล่ะ ริมฝีปากสวยที่กดจูบลงกับริมฝีปากหยักเข้ารูปบทจูบที่ไม่ได้เนิ่นนานมันก็เหมือนแค่จุ้บกันธรรมดาแต่ทำเอาแอลรู้สึกชอบอย่างบอกไม่ถูก
ริมฝีปากสวยถอนจูบออกอย่างช้าๆพร้อมกับรอยยิ้มที่น่าหลงใหล แอลชอบและซองจงก็ชอบเช่นกัน ใบหน้าของทั้งสองที่แดงอยู่แล้วกลับแดงยิ่งขึ้น จากที่เงียบไปสักพักซองจงก็เอ่ยปากออกมา
“อื้ม..”
“ฉันตกลงที่จะเป็นแฟนกับนาย แล้วก็..”
“ฉันยอมให้นายดูแลฉันตั้งแต่วันนี้แหละ”
ฝากเมนท์ให้กำลังใจด้วยนะครับตอนนี้ต้องการกำลังใจมากๆ ถ้าไม่มีก็คงพักไม้พักมือไปยาวๆครับ
ยังไงฝากสกรีมแท็ก #สตูดิโอแอลจง ในทวิตเตอร์ด้วยนะคร้าบ
ps. พิมพ์ผิดตรงไหนขออภัยด้วครับ มีเวลาว่างจะมาแก้ไขให้น้า
ความคิดเห็น