คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ϟ C H A P T E R 8 ϟ
ϟ 08 ϟ
-
Friday
02.00 PM
แช๊ะ!
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นเป็นสิบยี่สิบรอบ ตากล้องหนุ่มที่ขมวดคิ้วให้กับหนุ่มนายแบบที่ยังคงเก๊กให้กล้อง ความจริงมันควรเสร็จไปตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วซะด้วยซ้ำ
แต่นายแบบอย่างซองยอลกลับไม่พอใจรูปที่แอลถ่ายเลยสักรูป แถมยังไม่พอใจกับการรีทัชรูปของโฮวอนอีกต่างหาก
ดูก็รู้ว่าแกล้งกัน..
“พอแล้วครับ” เสียงของตากล้องเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิด ใบหน้าที่นิ่งมองไปทางนายแบบแต่รัศมีความรำคาญก็พุ่งไปหาซองยอลด้วยเช่นกัน
แอลถอยออกจากกล้องตัวโปรดก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆโฮวอน เช่นกันคนที่ทำหน้าที่นี้อย่างโฮวอนก็กลับไม่พอใจหนุ่มนายแบบสุดๆ
เอาแต่ใจซะน่ารำคาญ..
“ฉันว่ามันยังไม่ดี” เสียงของซองยอลเอ่ยขึ้นหลังจากที่เขากอดอกเดินมาดูรูปของเขาบนหน้าจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ หนุ่มปูซานที่เริ่มเดือดพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงก่อนจะหันไปมองหน้าหนุ่มนายแบบ
อยากจะด่าออกมาดังๆ แต่สายตาของหนุ่มนายแบบซองยอลกลับข่มคนที่มีหน้าที่อ่อนกว่า ถึงอย่างนั้นจะฐานะหน้าที่อะไรก็แล้วแต่คนอย่างแอลไม่ยอมง่ายๆหรอก
“งั้นไปซื้อกล้องสักตัว แล้วก็มาตั้งกล้องถ่ายเองสิครับถ้าไม่พอใจนัก” พูดด้วยน้ำเสียงกวนๆแต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ ตั้งวันที่แอลทำอะไรแบบนั้นกับซองจงแถมยังเลี้ยงไก่ทอดด้วย เขาก็ไม่ได้คุยกับซองจงอีกเลย
หมายถึงจูบกันน่ะ..
นอกจากจะไม่ได้คุยกับคุณเลขาแล้วยังต้องมาเจอไอนายแบบน่ารำคาญแบบนี้ทุกวันอีก นายแบบนี่จะถ่ายแบบทุกวันเลยหรอ มาเพื่อถ่ายแบบหรือไม่หาคุณเลขากันแน่นะ
“นายมีปัญหาหรือไง” นายแบบถลึงตาใส่แอลก่อนหนุ่มตากล้องจะยักไหล่ใส่ แน่นอนนอกจากจะเจอกันทุกวันแล้วยังต้องมาตีกันทุกวันอีกต่างหาก
“เอาเถอะ คนไม่มีฝีมือนั่นแหละเนอะ” ซองยอลพูดดูถูกฝีมือแอลอีกแล้ว หุ่นนายแบบหันหลังก่อนคนที่เริ่มหมดความอดทนจะลุกขึ้นมือหนาเอื้อมไปจับคอเสื้อของซองยอลไว้อย่างไม่พอใจ นอกจากจะทำเอาหนุ่มนายแบบอย่างซองยอลตกใจแล้ว เหล่าพนักงานในสตูตกใจยิ่งกว่า
แค่ดูภายนอกพนักงานส่วนมากก็รู้อยู่แล้วว่าสองคนนี้ไม่ชอบหน้ากันขนาดไหน ยิ่งเจอกันก็ยิ่งมีแต่แรงเกลียด ไม่เคยเห็นสองคนนี้จะพูดดีใส่กันเลยสักครั้ง
ยกเว้นว่าตอนที่ซองจงลงมาคุมนั่นแหละ..
“เฮ้ย..” โฮวอนที่ไม่คิดว่าเพื่อนของตัวเองจะทำขนาดนี้ถึงกับต้องลุกขึ้นมาห้ามไว้ สายตาของแอลที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน เขาโกรธซะแทบอยากจะชกหน้าซองยอลให้เละๆไปซะ
ถึงแม้ว่าโฮวอนจะสนิทมาแค่ไหนแต่ก็เพิ่งจะสนิทตอนทำงานร่วมกันอยู่ดี เขาไม่รู้นิสัยที่แท้จริงของแอลด้วยซ้ำ แต่เท่าที่รู้ๆก็มีแต่ แอลไม่ชอบให้ใครมาดูถูกความสามารถของตัวเอง
เพราะแบบนี้นี่แหละแอลถึงไม่เคยมีแฟนสักที..
ไม่ใช่แค่แอลไม่ชอบให้ใครมาดูถูกความสามารถตัวเอง แต่เขาไม่ชอบทุกอย่างที่มาถูกความเป็นเขานั่นแหละ แถมช่วงไฮสคูลเขายังเคยมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนตอนเล่นบาสอีกต่างหาก
สรุปแล้วแอลเป็นคนที่ค่อยข้างหัวรุนแรง แต่การใช้กำลังของเขามันก็พอมีเหตุผลที่จะต้องทำ เขาควบคุมมือของเขาไม่ได้ตอนมีคนมาพูดหมาๆแบบนี้กับเขานั่นแหละ หรือพูดไม่ดีกับคนที่เขาแคร์เอามากๆ
โคตรเกลียด
“อย่ามาดูถูกความสามารถของคนอื่นถ้านายมันยังเป็นเหมือนลูกหมาหัดว่ายน้ำ..”
คำพูดที่ทำเอาซองยอลอึ้งไปพร้อมๆกับเหล่าพนักงานที่กำลังมองเหตุการณ์ แอลปล่อยคอเสื้อของหนุ่มนายแบบที่ต้องเก็บไว้ถ่ายต่อออก รอยคอเสื้อที่ยับจนรู้ว่าแรงจับของแอลมันแรงแค่ไหน
อยากจะชกหน้าไอตากล้องนี่แต่เหมือนจะไปต่อไม่ถูก เขาอึ้งกับคำพูดที่แรงที่สุดที่เคยได้ยินมาจากปากแอล แอลที่กำลังมีไฟอยู่ในหัวถอนหายใจก่อนเขาจะรีบเดินออกจากห้องนั้นทันที
ถ้าอยู่ต่อเขาคงต้องโดนไล่ออกจากงานแน่ๆ
“ไอบ้าเอ๊ย..” หนุ่มตากล้องเดินพึมพำกับตัวเองเบาๆ มือหนาที่กำแน่นขึ้นพยายามดับไฟในหัวเขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงก่อนเพื่อนสนิทของเขาจะรีบวิ่งออกมาตามเช่นกัน
“เกือบแล้วนายน่ะ!”
“ก็ฉันไม่ชอบนี่หว่า!” ใบหน้าหล่อที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจมือของโฮวอนยกขึ้นมาตบบ่าเขาเบาๆพอที่จะให้เขาระงับอารมณ์โมโหตอนนี้ได้
“ใจเย็นๆสิวะ..”
“…”
“ทำไม อารมณ์หงุดหงิดขนาดนี้ไม่ได้เจอคุณเลขาหรอ” พูดจบหนุ่มตากล้องรีบหันมามองหน้าหนุ่มปูซาน เขาทำตาลอกแลกก่อนจะยักไหล่เบาๆ
“เปล่า..” แอลตอบสั้นๆ
“เปล่าอีกแล้ว นายคิดอะไรอยู่ทำไมฉันจะไม่รู้” โฮวอนหัวเราะกับท่าทางของเพื่อนตัวเองที่เหมือนเด็กโกหกพ่อแม่ โกหกยังไงแต่มันก้ไม่ได้เนียนเอาซะเลย
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เจอซองจงมาสองสามวันแล้ว แต่ด้วยความที่เราชอบหรือรักใครสักคนได้เจอแค่เงาทุกวันก็ดีใจแล้ว ตาที่ดูระห้อยของแอลทำเอาโฮวอนแทบอยากจะล้มลงไปหัวเราะซะให้ขาดใจ
คนมีความรักนี่เหมือนเด็กจริงๆด้วย
“ทะเลาะกันอีกแล้วครับ วันนี้แรงกว่าวันอื่นด้วย” เสียงชายหนุ่มดังขึ้นในห้องทำงานของหนุ่มเลขาที่กำลังก้มหน้าก้มตาเขียนเอกสารบนโต๊ะ ใบหน้าสวยค่อยๆเงยขึ้นมามองหนุ่มพนักงานใหม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ก็ดงอูนั่นแหละ นอกจากจะเป็นเด็กใหม่แล้วยังต้องมาทำตัวเป็นสายลับแอบมองสถานการณ์ของสองคนนั้นแทบทุกวัน
“แรงกว่าวันอื่นนี่ยังไง” เสียงใสดังขึ้นใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยความจริงจังเขาจ้องไปที่ดงอูอย่างไม่ละสายตา ถูกต้องแล้วซองจงถึงแม้จะไม่ได้ออกไปดูการทำงานหรือไม่ได้ออกไปเจอทั้งแอลและซองยอลแต่เขาก็รู้แทบทุกเรื่องของสองคนนี้
ปล่อยไว้ไม่ได้เลย
“ก็เกือบจะ..” พูดจบดงอูก็ทำท่าทางชกมวยไปมา ซองจงจากที่ดูใจเย็นกลับหัวร้อนขึ้นมาอย่างนั้น เขาไม่คิดว่าสองคนนั้นจะแทบตบตีกัน แต่ความคิดเขามันไม่ได้เป็นจริงเลย
“ใครเริ่มก่อน”
“อันนี้ผมก็ไม่รู้ครับ ถ้าเป็นคำพูดอาจจะเป็นคุณซองยอล”
“..”
“แต่ถ้าการกระทำเป็นแอลก่อนครับ” หนุ่มเด็กใหม่พูดจบร่างบางที่ยังคงนั่งกับเก้าอี้ทำงานรีบลุกขึ้น เขาเดินออกไปอย่างรีบร้อนไม่คิดจะฟังดงอูพูดต่อให้จบ
ร่างบางเร่งฝีเท้าอย่างเร็วเพื่อเดินลงไปหาคนเจ้าปัญหา ไม่จำเป็นต้องใช้ลิฟต์เลยด้วยซ้ำ พนักงานคนไหนที่เดินผ่านขนาดเขาทักทายซองจงยังไม่คิดจะสนใจเลย
คุณเลขาซองจงเดินตรงมาที่หนุ่มตากล้องที่ยืนคุยกับเพื่อนของตัวเอง ท่าทางที่ไม่พอใจของซองจงทำเอาโฮวอนที่เห็นมาแต่ไกลๆรีบวิ่งเข้าห้องไปโดยไม่บอกไม่กล่าวหนุ่มตากล้องเลยสักคำ
“นี่!” เสียงที่ดังมาแต่ไกลทำเอาหนุ่มตากล้องรีบหันไปมองตามทันที ใบหน้าสวยที่ดูโกรธเอามากๆสวนทางกับหนุ่มตากล้องโดยสิ้นเชิง ใบหน้าหล่อจากที่นิ่งๆกลับกลายเป็นยิ้มอย่างดีใจซะอย่างนั้น
“นายไปทำอะไรเอาไว้!” น้ำเสียงที่ดูจะหงุดหงิดเอามากๆแต่แอลก็ไม่ได้สนใจอะไร เหมือนจะไม่ได้สนใจคำพูดของซองจงด้วยซ้ำ เขายิ้มให้และจ้องใบหน้าสวยอยู่อย่างนั้นเหมือนหุ่นขี้ผึ้งไปเลย
“มยองซู!” ซองจงพูดเสียงดังขึ้นกว่าเดิมจนแอลที่ยิ้มอยู่อย่างนั้นกลับมาได้สติอีกครั้ง ใบหน้าหล่อที่เพิ่งรู้สึกออกอาการเอ๋อนิดๆ
“อะไรนะครับ” แอลทวนคำถามอีกครั้งก่อนคนที่ยืนกอดอกอยู่จะกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ ความไม่พอใจที่แฝงความเป็นเด็กออกมาทำเอาหนุ่มตากล้องหลุดยิ้มอีกครั้ง
“วันนี้นายไปทำอะไรไว้!”
“ทำอะไรหรอครับ” ร่างสูงกอดอกล้อเลียนคนตรงหน้าเขายิ้มเหมือนไม่ได้ไปทำคดีอะไรไว้ก่อนนิ้วเรียวจะยกคิ้วมาจับไว้ที่ติ่งหูของหนุ่มตากล้องแล้วบิดแรงๆ
“โอ้ย!” จากที่กอดอกอยู่ก็รีบยกมือขึ้นมาจับมือเล็กเอาไว้ แรงบิดจากที่แรงอยู่แล้วกลับแรงขึ้นกว่าเดิม การกระทำของคนเป็นเลขาทำเอาพนักงานที่ผ่านไปผ่านมากลั้นขำแทบไม่อยู่
“นายมีเรื่องอะไรกับพี่ซองยอล!” เสียงแว๊ดๆของเลขาของซองจงทำเอาแอลชะงักเขารีบดึงมือบางออกจากติ่งหูของตัวเอง ใบหน้าหล่อที่ค่อยๆขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
“รู้ด้วยหรอครับ”
“หืม” หืมของหนุ่มตากล้องที่มาพร้อมหน้าตาสะกิดเท้าของคุณเลขา เหมือนว่าคนที่ชื่อซองจงจะทำให้แอลมีความสุขขึ้นจริงๆด้วย
“รู้แล้วกัน..” ซองจงตอบก่อนจะกอดอกอีกครั้ง เขามองใบหน้าหล่อด้วยสีหน้าที่จริงจัง คิ้วขมวดเป็นปมอย่างไม่พอใจ
“งั้นถ้าพี่รู้แล้วผมก็ไม่ต้องบอกใช่ไหมครับ” หนุ่มตากล้องเอียงคอนิดๆก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอีกครั้ง เขาดูไม่แคร์กับการกระทำของเขาเลยสักนิด
“นายทำทำไม”
“พี่ชอบคนที่พูดดูถูกพี่ไหมล่ะครับ”
“…” จบประโยคของแอลซองจงถึงกับชะงักทันที สีหน้าของหนุ่มตากล้องจากที่ดูยิ้มแย้มก็กลายเป็นสีหน้าที่จริงจังอีกครั้ง ดวงตาเรียวสวยที่จ้องไปที่นัยน์ตาของหนุ่มตากล้อง เขาก็จ้องกลับมาเช่นกัน
เพิ่งรู้ว่าเป็นคนที่จริงจังกับชีวิตขนาดนี้..
“ถ้าพี่ไม่ชอบพี่จะทำยังไงครับ ยิ่งคนคนนั้นพูดแบบนี้กับเราทุกวัน..”
“พี่จะอยู่เฉยๆ.. หรือหาของแข็งไปกระแทกปากเขาละครับ..” เสี้ยงทุ้มของแอลเอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนซองจงจะพยักหน้าเข้าใจ
คนอย่างคิมมยองซูที่ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจกับชีวิตประจำวัน เหมือนคนง่ายๆ ซองจงคิดแบบนี้ แต่พอเห็นคำพูดของแอลวันนี้เหมือนซองจงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่อีกครั้ง
“ฉันคงชกปากคนคนนั้น เหมือนชกปากนายไง!” ซองจงรีบพูดก่อนจะยกกำปั้นตรงไปที่หน้าของหนุ่มตากล้อง มือหนาที่จับข้อมือเล็กไว้อย่างเร็ว เร็วจนซองจงตกใจ
“ดีเลย.. งั้นก็ไปชกปากคุณซองยอลให้ผมสิครับ” พูดจบริมฝีปากหยักก็ค่อยๆฉีกยิ้มกว้างออกมา ยิ้มที่ดูมีเสน่ห์จนซองจงถึงกับหน้าแดงถึงหู แอลปล่อยมือบางก่อนยืนพิงกำแพงมองหนุ่มเลขาอย่างสบายใจ
พอเห็นว่าซองจงไม่ด่าก็ดูจะมีความสุขมากจริงๆ
“พูดอะไรบ้าๆ” ซองจงพูดสั้นๆ
“บ้ารักพี่นั่นแหละครับ..” คำพูดที่แผ่วเบาแต่ซองจงกลับรู้สึกได้ว่าคนข้างๆเขากำลังพึมพำอะไรบางอย่าง เขาเหลือบมองหนุ่มตากล้องก่อนจะจิ๊ปากใส่เบาๆ
“ผมไม่ได้ด่าพี่นะครับ.. อย่าทำเสียงแบบนั้นสิ” หนุ่มตากล้องที่เหมือนกำลังง้อคนข้างๆของเขาอยู่ คำพูดที่ดูน่ารักทำเอาซองจงต้องทำตาลอกแลกทันที
“อือ”
“พี่เป็นหุ่นยนต์หรอครับ. เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
“ทำไม”
“พี่ชอบตอบคำถามผมสั้นๆ อือบ้างล่ะ แถมยังมาถามกลับเหมือนเมื่อตะกี้อีก”
“…”
“ดูผมสิ ตอบพี่ยาวจนน้ำลายแห้งหมดแล้ว แถมตอนนี้พี่ยังปล่อยให้ผมพูดคนเดียวอีกต่างหาก”
“…ขี้บ่น นายนี่เป็นเด็กยังไงมาบ่นคนที่โตกว่าแบบนี้เนี่ย” จบประโยคของซองจงเสียงจิ๊ปากก็ดังขึ้นทันที ร่างบางขมวดคิ้วใส่อย่างไม่พอใจก่อนแอลจะหลุดยิ้มออกมาอีกครั้ง
“ทีหลังตอบผมยาวๆแบบนี้บ้างนะครับพี่ซองจง” พูดจบแอลค่อยๆขยับตัวไปใกล้ๆกับหนุ่มเลขาที่เพิ่งกอดอกพิงกำแพงตามเขา แอลยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนประตูของห้องสตูดิโอจะเปิด
“ซองจง!” เสียงของนายแบบเจ้าปัญหาดังขึ้นก่อนเขาจะรีบเดินมาแทรกกลางระหว่างแอลกับซองจง เสียงพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงจนซองจงต้องหันไปมอง เขายักไหล่ใส่หนุ่มตากล้องพร้อมกับหันไปหาหนุ่มเลขาที่กอดอกมองซองยอลอย่างไม่พอใจ
ขัดจังหวะ..
“มีอะไรจะคุยกับพี่หรือเปล่าครับ มารอหน้าห้องแบบนี้” ซองยอลถามซองจงทันทีพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างตามมา ประโยคที่ซองจงพูดออกมาทำเอาแอลต้องเบะปากใส่อย่างไม่พอใจ
หลงตัวเองเหอะ..
เขามาหาฉันต่างหาก..
“ครับ มี”
“ไปทำงานเถอะแอล” ซองจงตอบคำถามของซองยอลก่อนจะรีบบอกหนุ่มตากล้องที่ยืนเพ่งมองหนุ่มนายแบบอย่างไม่พอใจ เขาจำเป็นต้องเรียกหนุ่มตากล้องอย่างมยองซูว่าแอล เพื่อความเรียบร้อยของตำแหน่งเลขา
คำสั่งที่หนุ่มตากล้องยอมทำตามอย่างโดยดี เขาส่งยิ้มให้คุณเลขาก่อนจะรีบถอยหลังเดินเข้าไปในห้องทำงานเหมือนเดิม ใบหน้าสวยที่มองไปทางหนุ่มตากล้องรีบกลับมามองหนุ่มนายแบบอย่างซองยอลทันที
“มีอะไรหรอซองจง หน้าดูเครียดๆ”
“ไอตากล้องนั่นทำอะไรนายอีก”
“เดี๋ยวพี่ไป..”
“พี่นั่นแหละครับไปทำอะไรแอล” พูดไม่ทันจบประโยคซองจงก็รีบพูดตัดหน้าทันที ใบหน้าที่เริ่มเครียดกว่าเดิมบวกกับความไม่พอใจ
“นายนั่นต่างหากจะทำพี่” ซองยอลรีบค้านก่อนมือหนาจะรีบกุมมือบางเอาไว้ เหมือนซองจงจะไม่ได้ค้านแค่สายตาของเขาก็ข่มจนมือหนาต้องยอมปล่อย
“งั้นก็อธิบายมา” ร่างบางรีบเข้าเรื่องต่อ ซองยอลที่กำลังอ้ำๆอึ้งๆยิ่งทำให้ซองจงมั่นใจยิ่งกว่าเดิมว่าซองยอลเป็นคนไปหาเรื่องเขาก่อน
“เหมือนจะอธิบายไม่ได้” พูดจบซองจงรีบหันหลังก่อนจะก้าวขาออกไปแต่ก็ต้องชะงักกับคำตอบของซองยอลขึ้นมาทันที
“ก็นายนั่นฝีมือไม่ได้เรื่องเลย พี่ก็แค่ติไปนิดเดียว”
“ก็มันแย่จริงๆนะ”
...
เหมือนจะต้องพิจารณาคนที่ชื่อซองยอลใหม่แล้วล่ะมั้ง
ซองจงค่อยๆหันกลับมามองหนุ่มนายแบบช้าๆ สีหน้าที่เริ่มไม่พอใจมากกว่าเดิมคิ้วที่ขมวดติดกันเป็นปม
“เหมือนแอลจะเริ่มก่อนจริงๆนะครับ” ซองจงตอบก่อนหนุ่มนายแบบจะค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา แต่เหมือนซองจงจะไม่ยิ้มด้วยเลยด้วยซ้ำ
“ถ้าผมเป็นแอล”
“…”
“ผมก็จะชกปากพี่เหมือนกัน” พูดจบซองจงรีบหันหลังใส่หนุ่มนายแบบก่อนจะเร่งฝีเท้าออกไปจากตรงนั้นทันที
เหมือนกับที่แอลบอกไม่มีใครชอบให้คนอื่นมาดูถูกตัวเองหรอก ถ้าซองจงโดนก็คงจะรู้สึกแบบแอลด้วยซ้ำ ตั้งแต่เป็นเลขาเขาไม่เคยคิดว่าจะได้เจอเหตุการณ์แบบนี้เลย ไม่คิดว่าซองยอลจะเป็นคนแบบนี้อีกด้วย
แล้วก็ไม่เคยเข้าข้างใครเลยด้วย..
..มั้ง
♡
Monday
12.00 PM
“คิดยังไงถึงเอารามยอนมากินบนห้องนี้ล่ะครับพี่” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่กำลังนั่งจิ้มเส้นรามยอนอยู่ข้างๆเขา
แหงล่ะตั้งแต่มีเรื่องแบบนั้นซองจงถึงต้องยอมทิ้งร้านอาหารดีๆมานั่งกินรามยอนไม่กี่บาทเพื่อเฝ้าไอคนเจ้าปัญหาทั้งสองคน
“ฉันอยากไล่นายออกจากบริษัทพ่อฉันมากเลยรู้ปะ”
“วุ่นวาย” ซองจงทำขวางใส่คนที่กำลังยื่นส้อมมาไว้ที่ถ้วยรามยอนของเขา มือบางรีบยกขึ้นฟาดมือหนาอย่างแรง
“เจ็บแล้วคร้าบ” พูดจบแอลรีบขยับมือออกจากถ้วยรามยอนของคุณเลขาตรงหน้า ริมฝีปากหยักค่อยๆอ้าปากงับส้อมของตัวเองไว้
“ของตัวเองก็มี..”
“อยากชิมเฉยๆครับ”
“ไม่ให้”
“เรื่องอาหารพี่ขี้งกแบบนี้ตลอดเลยนะครับเนี่ย” หนุ่มตากล้องพูดแซวคุณเลขาส้อมที่อยู่ในมือของคุณเลขาง้างขึ้นก่อนมือหน้าจะรีบจับไว้
“แต่พี่ไล่ผมออกไม่ได้หรอกครับ” แอลพูดต่อ
“ทำไม” คิ้วค่อยๆขมวดอย่างไม่เข้าใจซองจงเอียงคอด้วยความสงสัย ริมฝีปากหยักค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะวางส้อมไว้บนถ้วยรามยอนของตัวเอง
“เพราะว่าพ่อพี่ชอบผม”
“…”
“ถ้าพ่อพี่ชอบผม..”
“พี่ก็ต้องชอบผมด้วยนะครับ” พูดจบใบหน้าสวยค่อยๆแดงขึ้นเขาอ้าปากค้างกับประโยคหวานๆของแอล ไม่นานเหมือนซองจงจะได้สติกลับมาเขารีบทำท่าทางฟึดฟัดใส่แอลอย่างไม่พอใจ
“ไม่มีวัน!” พูดจบซองจงรีบก้มหน้าก้มตาจัดการกับรามยอนตรงหน้า ใบหน้าหล่อที่ยังคงจ้องมาที่คุณเลขา จ้องแบบไม่ละสายตา
ซองจงยอมรับว่าแอลเป็นคนที่หล่อจริงๆ หล่อกว่านายแบบหลายๆคนด้วยซ้ำ ถ้าโดนจ้องแบบนี้มันก็ต้องเขินเป็นธรรมดา
ยิ่งซองจงไม่เคยโดนอะไรแบบนี้..
ทุกอย่างต้องเป็นแอลคนแรกตลอดเลยหรือไง..
L’s Part
เหล่าพนักงานค่อยๆทยอยเข้ามากันแล้ว แน่นอนครับทุกคนที่เพิ่งเข้ามาสำหรับผมคือผู้ขัดจังหวะหมด เว้นซะแต่โฮวอนที่นั่งอยู่ในห้องมาตั้งนานนม ถึงจะเงียบแค่ไหนแต่สายตาของเพื่อนตัวดีไม่เคยละไปจากผมกับพี่ซองจงเลย
“ผมจะทำงานแล้วนะครับพี่” ผมบอกกับพี่ซองจงก่อนเขาจะค่อยๆหันมามอง ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า แต่สีหน้าพี่เขาก็ดูเหมือนจะไม่อยากให้ผมไปเลยสักนิด
เวลาเราชอบใครเราก็อยากให้ความคิดของเรามันเป็นจริงใช่ไหมล่ะครับ งั้นผมจะคิดซะว่าพี่ซองจงไม่อยากให้ผมไปทำหน้าที่ของตัวเองนั่นแหละ
“ตั้งใจทำงานด้วย” คุณเลขาคนสวยตอบผมแต่ผมรู้สึกว่าคำพูดนี้มันดูน่ารักมากจริงๆ พี่เขาแทบไม่เคยพูดแบบนี้กับผม เหมือนผมจะทุบกำแพงให้พังไปได้อีกชั้นนึงแล้ว
“ขอบคุณที่ให้กำลังใจครับคุณเลขา” ผมเอ่ยก่อนจะค่อยๆโค้งตัวให้คนที่นั่งอยู่ เขาเหลือบตามองผมพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ ผมเดินมาเช็คกล้องตัวโปรดของผมที่ตั้งไว้กับขาตั้งกล้อง แต่ผมพอจะรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังมองผมอยู่
ผมไม่เห็นหรอก แต่ผมก็รู้สึก..
ประตูของห้องดังขึ้นอีกครั้ง แน่นอนว่ามีคนมาครับและคนที่มาก็เป็นใครไม่ได้นอกจากคนที่ชอบดูถูกคนอื่นอย่างนายแบบซองยอลหน้าตาเห่ยๆนั่นแหละ
แต่วันนี้เหมือนจะมาแปลก นายนั่นถือดอกไม้ช่อโตเข้ามาให้สตูดิโอนี่แหละทำผมใจไม่ดีเอาซะเลยเพราะซองยอลเดินตรงไปหาคุณเลขาที่กำลังนั่งมองผมอยู่นั่นแหละ
“พี่ซื้อมาให้เราครับ” เสียงของพ่อหนุ่มนายแบบขวัญใจสาวๆดังขึ้น ใช่แล้วครับเขาเอามาให้พี่ซองจง ผมขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจทันที คงไม่มีใครเข้าใจผมแล้วนอกจากโฮวอนที่มองสถานการณ์และมองผมสลับไปมา
มยองซูต้องใจเย็นๆนะครับ..
ผมกลับหัวร้อนมากกว่าเดิมคือพี่ซองจงเขารับไอดอกไม้ช่อโตๆนั้น อยากจะเดินไปแย่งแล้วก็โยนทิ้งมันไปซะ แต่ผมคงทำไม่ได้หรอกถ้าเผลอทำแบบนั้นจริงๆมือหนักๆของพี่ซองจงกระแทกเข้าหน้าผมแน่ๆ
แต่ผมไม่ชอบจริงๆนะ..
End of L Part
“เอามาให้ผมทำไมครับ” ซองจงเอ่ยถามทันทีเมื่อยื่นมือไปรับดอกไม้ช่อโต ซองยอลคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างๆคุณเลขาที่หันไปวางช่อดอกไม้ไว้บนโต๊ะ
“ซื้อมาขอโทษไง..”
“คนที่พี่ควรไปขอโทษคือแอลไม่ใช่ผม” จบประโยคของซองยอลซองจงรีบพูดต่อทันที ใบหน้าสวยที่นิ่งไม่ยิ้มมองซองยอลด้วยความเอือมระอา
“ผมรับมันไว้เพราะเสียดายเงินที่พี่ใช้อย่างสิ้นเปลืองนะครับ” พูดจบซองจงลุกขึ้นเดินออกมาจากรัศมีซองยอล ร่างบางเดินไปเช็คงานต่างๆในสตูดิโอ เช่นกันกับแอลที่กำลังยืนรอหนุ่มนายแบบอย่างหงุดหงิด
“ชักช้าจริงๆ” แอลพึมพำเบาๆ ก่อนจะมองคนที่เดินมายืนในฉาก การถ่ายรูปที่ไม่มีความสุขเลยสำหรับแอล การถ่ายรูปที่ทำหน้าเบื่อหน่าย
เขาไม่ชอบจริงๆนะ..
แช๊ะ! แช๊ะ! แช๊ะ!
Tuesday
09.00 AM
ร่างบางเดินออกมาจากรถเก๋งสีดำก่อนจะรีบก้าวขาเดินเข้าบริษัท พนักงานที่กล่าวทักทายคุณเลขาที่มาเข้างานแต่เช้า ใบหน้าสดที่ยิ้มให้พนักงานอย่างสดใส
“พี่ครับ” เสียงที่คุ้นหู ซองจงค่อยๆหันไปก่อนจะเบิกตากว้างขึ้น วันนี้แอลมาทำงานปกติเช่นเดิมแต่ที่แต่กต่างจากเดิมคือเขาถือกุหลาบสีแดงดอกนึงไว้ เขาเดินเข้ามาใกล้ร่างบางก่อนมือที่ถือดอกกุหลาบไว้จะค่อยๆยื่นให้คนตรงหน้า
ตึกตัก..
ใบหน้าสวยที่ค่อยๆแดงขึ้นอีกครั้ง มือเรียวสวยค่อยๆยื่นมือไปรับก่อนจะมองดอกกุหลาบสีแดงสดที่หนุ่มตากล้องยื่นมาให้
“ดอกเดียว?”
“ผมจะให้พี่วันละดอกเท่านั้นครับ”
“บ้าจี้แบบพี่ซองยอลหรือไง”
“ไม่ครับ ผมไม่ได้ใช้เงินสิ้นเปลืองสักหน่อย ดอกเดียวราคาไม่กี่บาทเอง”
“ห้ามทิ้งครับ” พูดจบแอลรีบเดินไปอีกฝั่งปล่อยให้คุณเลขาที่ยืนถือดอกกุหลาบสีแดงสด ใบหน้าที่แดงก่ำเขาหันไปมองร่างสูงที่รีบเร่งฝีเท้าเดินไปอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว
ไอบ้านี่..
ทำไมถึงชอบทำให้คนอื่นเขาใจสั่นอยู่เรื่อย..
ϟ
แชป8มาแล้วนะครับเฮ้ๆ เว้นไปวันนึงเพราะว่าไม่ทันจริงๆครับ ตอนแรกไม่เห็นคอมเมนท์อ่ะครับเลยน้อยใจนิดๆ 555 แต่ก็ยอมปล่อบแชป8ออกมานะครับ เข้าใจคนรอดี
*ฝากคอมเมนท์ให้กำลังใจกันด้วยนะครับ แล้วก็ฝากสกรีมแท็ก #สตูดิโอแอลจง ด้วยนะค้าบ
ps. ถ้าพิมพ์ผิดตรงไหนขออภัยด้วยครับ
ความคิดเห็น